non_FD Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 ก่อนอื่นต้องขออนุญาติ พี่แมว (Maew-Rx) ด้วยนะครับ เพื่อตอบข้อสงสัยหลายท่านที่รักในความแรง ที่มักสงสัยว่า "จูนกล่อง" มันจะทำให้รถแรงอย่างไร แล้วทำไมค่าทำมันแพ้ง แพง ผมจะปูพื้นฐานความเข้าใจอย่างง่ายๆก่อนนะครับ ECU = Engine Control Unit อาจจะมีชื่อเรียกอื่นๆอีกเช่น ECM = Engine Control Module ecu มันก็มีหน้าที่เหมือนสมองของร่างกายคนเรา ร่างกายก็เหมือนรถ ecu มีหน้าที่สั่งการำงาน และควบคุมการทำงานของรถและเครื่องยนตร์ หลักการเผาไหม้ คือ เชื้อเพลิง + oxygen เมื่อเกิดการเผาไหม้ = แรงดันและกำลังไปขับเคลื่อนข้อเหวี่ยง และส่งกำลังไปสู่ระบบขับเคลื่อนในที่สุด Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 สำหรับระบบของเครื่องยนตร์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นระบบ EFI หมดแล้ว ( EFI = Electronic Fuel Injection ) ซึ่งจะมีการสั่งการทำงานโดย ECU เพราะมีความแม่นยำในการทำงานสูงมาก เนื่องด้วยว่า ทรัพยากรเชื้อเพลิงที่จำกัด และ มลพิษจากการเผาไหม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการศึกษาวิจัยว่า จะให้ injector จ่ายน้ำมันในการเผาไหม้เท่าไหร่ จะเกิดความคุ้มค่าสูงที่สุด คือจุดที่ oxygen และ เชื้อเพลิง balance กันที่สุด เพื่อให้เกิดการเผาไหม้สบบูรณ์ที่สุด เกิดมลพิษน้อยและได้กำลังสูงสุด ซึ่งจุดนั้นจะเรียกว่า stoichiometric combustion ในอากาศก็มีปริมาณ oxygen ที่แน่นอน แต่สิ่งที่ไม่แน่นอน ปริมาณการจ่ายน้ำมันเขาไปผสมอากาศ ว่า ECU จะจ่ายเท่าไหร่ดี จึงเกิดคำว่า AFR = Air Fuel Ratio แปลตรงตัวนะครับ ซึ่งจุดที่เป็น stoichiometric combustion ของเชื้อเพลิง gasoline AFR = 14.7 : 1 (น้ำมัน 14.7 ส่วนต่อ อากาศ 1 ส่วน) ซึ่งค่านี้ไดมาจากการคำนวนโดยใช้ molecular chemistry ระดับสูง ผมจึงขอผ่านนะครับ Darkball2000 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 แล้ว ECU จะทำงานควรคุมการจ่ายน้ำมันยังไง ในระบบ EFI ก็คล้ายร่างกายคน เป็นแบบ feed back control โดยอาศัยการอ่านค่าจาก sensor แล้ว ประมวลผลโดยสมอง จากนั้นจึงทำการตอบสนองออกมา ดังนั้น จึงมีอุปกรณ์ที่สำคัญของเครื่องยนตร์ที่ต้องเข้าใจ แต่เอาง่ายๆพอนะ 1. Mass Air Flow Sensor = มีหน้าที่วัดปริมาณอากาศที่ไหลเข้า combustion chamber 2. Oxygen Sensor = จะวัด oxygen ที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ โดยอ้างอิงค์จากที่ Mass Air Flow Sensor อ่านได้ และ เปลี่ยนกลับไปเป็นค่า AFR ให้ ECU สามารถเข้าใจได้ง่าย ดูนี่ละกันครับ น่าจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า AFR ที่ผู้ผลิดจะ set ไว้คือ 14.7:1 ถ้าเกิดว่า O2 sensor พบว่า น้ำมันที่จ่ายมากกว่า stoichiometric AFR จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสไฟที่ส่งไปที่ ECU ซึ่ง ECU จะพบการเปลี่ยนแปลง และ สั่งการลดการจ่ายน้ำมัน ขั้นตอนการสั่งลดหรือเพิ่มการจ่ายน้ำมันของ ECU จะเรียกว่า Fuel Trim เมื่อน้ำมันมาก ECU สั่ง trim ให้ injector จ่ายน้ำมันลดลง เกิดการเผาไหม้ แล้ว O2 sensor ก็จะ detect เช่นเดิมว่าส่วนผสมมาที่ stoichiometric AFR = 14.7:1 หรือยัง ทำอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา ในทางกลับกัน ถ้า O2 sensor detect ว่าน้ำมันน้อย ECU ก็จะสั่งFuel trim มากขึ้น จนกว่าจะได้ที่ stoichiometric AFR = 14.7:1 ซึ่งวงจรนี้เรียกว่า CLOSE LOOP CONTROL ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 แต่ว่าที่ส่วนผสม stoichiometric AFR = 14.7:1 ไม่ใช่จุดที่ให้กำลังสูงสุดนะครับ ดังนั้น การปรับส่วนผสมจึงส่งผลต่อกำลังที่ได้ออกมา อัตราส่วนผสมที่หนาขึ้น สามารถสร้างกำลังมากขึ้น AFR จะอยู่ราวๆ 12.0-13.5 : 1 รูปนี้ช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้นครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 มีน้ำมัน มีอากาศ แล้วก็ต้องมีไฟนะถึงจะจุดระเบิดได้ เพื่อให้เกิดการเผาไหม้ก็ต้องมีไฟนะครับ มาดูกันว่าไฟจุดระเบิดมาจากไหน อย่างไร แล้วทำไมถึงแรงได้ ในห้องเผาไหม้จะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า หัวเทียน ที่มีลักษณะเป็นเขี้ยว ซึ่งตรงนั้นเป็นแหล่งสร้างประกายไฟโดยอาศัยหลักการเดียวกับฟ้าผ่า คือ ใช้กระแสไฟที่มีความต่างศักญ์ที่สูงมากๆ ทำให้กระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านอากาศได้ โดยอุปกรณ์ที่สร้างความต่างศักย์นั้นคือ Ignition Coil อธิบายขั้นตอนการจุดระเบิดง่ายๆละกันครับ -ฉีดน้ำมัน จังหวะ intake -ยิงไฟก่อนศูนย์ตายบน(BTDC) -ลูกสูบคลื่อนขึ้นพร้อมอัดแรงดันที่อากาศและน้ำมัน Compression -จุดระเบิดหลังศูนย์ตายบน(ATDC) Power -เกิดแรงดันจากการระเบิดสร้างแรงขับเคลื่อน -คายไอเสียเพื่อเข้าสู่ intake แล้วก็วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ นี่คือหลักการของการจุดระเบิด ปัญหาคือ จะยิงไฟที่กี่องศาก่อนศูนย์ตายบนดีละ ?? เพราะถ้ายิงไฟก่อนมาก (Advance timing) เกิดการระเบิดที่ ก่อนหรือตรงศูนย์ตายบนพอดี เครื่องก็จะ knock =พังครับ ถ้ายิงไฟช้ามากๆ (Retard timing ) เกิดจุดระเบิด หลังศูนย์ตายบนมากๆ ก็ได้กำลังน้อย เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ เกิดมลพิษมาก ดังนั้นในระบบ Ignition ECU ก็จะเป็นตัวสั่งอีกเช่นกันว่า จะยิงไฟที่กี่องศาก่อนศูนย์ตายบน (BTDC) โดยจะเป็นระบบ feed back control อีกเช่นกัน ดูจากในรูป - เส้นสีม่วง คือตำแหน่งศูนย์ตายบน - เส้นสีแดง คือตำแหน่งที่เราเริ่มทำการสปาร์คหัวเทียน - เส้นสีน้ำเงิน คือแรงดันในกระบอกสูบแบบที่ไม่มีการจุดระเบิด - เส้นสีเขียว คือแรงดัน เวลาที่การจุดระเบิดทำให้ Peak Pressure Point ตรงกับ Optimum Point พอดี - เส้นสีส้ม คือแรงดันที่เกิดจากการจุดระเบิดล่วงหน้า จนจุด Peak Pressure Point อยู่ใกล้กับศูนย์ตายบนมากเกินไป เกิดเป็นแรงดันสูง (เพราะดันลูกสูบไม่ลง) หรือที่เรารู้จักกันว่าอาการ "เขก หรือ knock " นั่นเองครับ "Peak Pressure Point" ซึ่งถือเป็นจุดที่กระบวนการเผาไหม้ ให้กำเนิดพลังงาน+แรงดันออกมาได้มากที่สุด "Optimum Point "คือจุดที่อยู่ใกล้ศุนย์ตายบนมากที่สุด และเลื่อนลงได้ง่ายที่สุดครับ โดยที่จุดๆนี้ จะอยู่ประมาณ 7-15 ATDC(After top dead center ) ครับ ดังนั้น ECU จะพยายามปรับองศาไฟให้ได้ การจุดระเบิดที่ Optimum PointและPeak Pressure Point ที่สุด โดยที่ knocking level อยู่ในระดับที่รับได้ โดย knocking level จะจับโดย Knock sensor Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 ดังนั้น ถ้าจะให้รถจุดระเบิดแล้วได้กำลังมากขึ้น แรงขึ้น จ่ายน้ำมันที่ AFR 12.0-13.5 : 1 จากการยิงไฟจุดระเบิดที่ BTDC แล้วเกิดการจุดระเบิดต้องเกิดที่ Optimum PointและPeak Pressure Point แค่นี้เอง ... [/size] Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 ในเมื่อ ECU เดิมไม่ได้เกิดมาให้แรง แล้วเราจะแรงได้อย่างไร?? 1.modify ECU เดิม 2.ก็ต้องอาศัย กล่อง ECU เสริมที่ออกมาขายกันเยอะแยะครับ กล่อง ECU เสริมที่ออกมาขาย หรือ สามารถจำแนกได้ 2 ประเภทหลักๆ 2.1.Stand Alone ECU = เป็น ecu ที่เราสามารถใช้แทนกล่อง ecu เดิมได้ทุกอย่างครับ ควมคุมทุกอย่าง 2.2.Piggy back ECU = เป็น ecu ที่เอาไปพ่วงกัน ecu รถเพื่อปรับแค่ค่าหลักๆที่เราต้องการคือ ปรับน้ำมันและไฟจุดระเบิด มีทั้งของ japan , America และ Australia Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 1.การ modify ECU เดิม หรือที่เราๆได้ยินว่า ทำ ROM คือการใช้เครื่องมือพิเศษ ในการอ่านและเขียนข้อมูลของการจ่ายน้ำมันและองศาไฟจุดระเบิดใหม่ สามารถปลด lock Close Loop Control ได้ให้สามารถจ่ายน้ำมัน AFR มากกว่า 14.7 : 1 สามารถปลดล็อครอบเครื่องยนตร์ได้ ข้อจำกัดของการทำ Rom ไม่สามารถ Realtime Tuning ได้ ซึ่งตรงนี้สำคัญมากเพราะว่าบางครั้ง น้ำมันที่จ่าย หรือ องศาไฟบางจุดไม่ได้ทำให้เกิดกำลังสูงสุดเมื่อเอาไปวัดบน Dyno ก็ต้องแกะกล่องออกมาแก้อีก และถ้าไม่เก่งพอ ก็จะส่งผลให้ระบบพื้นฐานของรถไม่มีเสถียรภาพ เช่นระบบเดินเบา ทำให้เดินเบาไม่นุ่งบ้าง เป็นต้น Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 2.1.Stand Alone ECU = เป็น ecu ที่เราสามารถใช้แทนกล่อง ecu เดิมได้ทุกอย่างครับ ควมคุมทุกอย่าง สามารถปรับค่าต่างๆมากมาย ทั้งน้ำมันและองศาไฟจุดระเบิด และไม่มี Close loop ให้กังวล และยังมี function เสมอสมรรถนะอีกเช่น Flat Shift คือ สามารถเปลี่ยน gear โดยไม่ต้องยกคันเร่ง รอบไม่ตก กำลังเครื่องยังอยู่ Drag launch คือ ล็อครอบออกตัก ให้รถสามารถออกตัวโดยกดคันเร่งเต็มๆ น้ำมันจ่ายรอเต็มที่ NOS control และอื่นๆอีกมากมายใช้ไม่หมด ข้อจำกัดของ standalone ราคาสูงถึงสูงมาก ส่วนใหญ่จะมากกว่า 60,000 บ. การติดตั้งและปรับจูนยากและซับซ้อน ถ้า Tuner มือไม่ถึง function การใช้งานทั่วไปจะไม่เนี่ยนเช่น การ set รอบเดินเบา , การทำงานของ ระบบปรับอากาศ และ standalone บางรุ่นจะต้องใช้กับ sensor ของกล่องเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับ sensor เดิมของรถได้ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 2.2.Piggy back ECU = เป็น ecu ที่เอาไปพ่วงกัน ecu รถเพื่อปรับแค่ค่าหลักๆที่เราต้องการคือ ปรับน้ำมันและไฟจุดระเบิด หลักการก็คือ เอาไปพ่วงกับกล่อง ECU เดิมของรถ แล้วทำการหลอกสัญญาณ ให้ ECU เดิมปรับค่าน้ำมัน และองศาไฟได้ตามต้องการ ไม่รบกวนระบบพื้นฐานของรถ จึงสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี การติดตั้งไม่ยากมากนัก และราคาจับต้องได้ ราวๆ 15,000-40,000 บ. และยัง function บางอย่างที่คล้าย standalone มาให้ด้วยในกล่องบางยี่ห้อ ข้อจำกัด ไม่สามารถปลด Close Loop Control ได้ดังนั้นจึงอาจจะแทบไม่เกิดประโยชน์เลยถ้าปรับน้ำมันช่วง close loop เพราะ ecu เดิมก็จะพยายามดึง AFR ให้กลับมาที่ 14.7:1 แต่จะได้ประโยชน์ก็ต้องช่วง Open loop ขึ้นไป ถ้ายกตัวอย่าง รถ civic FD จะปลด close loop ก็ต่อเมื่อ กดคันเร่งมากกว่า 80% ขึ้นไป นั้นก็คือถ้าปรับน้ำมัน ช่วงคันเร่งน้อยกว่า 80% ECU เดิมก็จะสั่งให้จ่ายลดลงให้ AFR กลับมาที่ 14.7:1 แต่ถ้าเรากดคันเร่งมากกว่า 80% เราปรับให้จ่ายน้ำมันที่ AFR 12.5:1 กล่อง ECU เดิมก็จะไม่มี Feed back control เพื่อลดน้ำมัน รถจึงได้กำลังแบบเต็มๆในช่วง Open loop Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 สำหรับระบบของเครื่องยนตร์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นระบบ EFI หมดแล้ว ( EFI = Electronic Fuel Injection ) ซึ่งจะมีการสั่งการทำงานโดย ECU เพราะมีความแม่นยำในการทำงานสูงมาก เนื่องด้วยว่า ทรัพยากรเชื้อเพลิงที่จำกัด และ มลพิษจากการเผาไหม้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการศึกษาวิจัยว่า จะให้ injector จ่ายน้ำมันในการเผาไหม้เท่าไหร่ จะเกิดความคุ้มค่าสูงที่สุด คือจุดที่ oxygen และ เชื้อเพลิง balance กันที่สุด เพื่อให้เกิดการเผาไหม้สบบูรณ์ที่สุด เกิดมลพิษน้อยและได้กำลังสูงสุด ซึ่งจุดนั้นจะเรียกว่า stoichiometric combustion ในอากาศก็มีปริมาณ oxygen ที่แน่นอน แต่สิ่งที่ไม่แน่นอน ปริมาณการจ่ายน้ำมันเขาไปผสมอากาศ ว่า ECU จะจ่ายเท่าไหร่ดี จึงเกิดคำว่า AFR = Air Fuel Ratio แปลตรงตัวนะครับ ซึ่งจุดที่เป็น stoichiometric combustion ของเชื้อเพลิง gasoline AFR = 14.7 : 1 (น้ำมัน 14.7 ส่วนต่อ น้ำมัน 1 ส่วน) ซึ่งค่านี้ไดมาจากการคำนวนโดยใช้ molecular chemistry ระดับสูง ผมจึงขอผ่านนะครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 ต่อ ครับ New Age Tuning ข้อมูลข้างต้นที่ผมกล่าวมาเป็นพื้นฐาน โดยทั่วไปของ ECU Tune up แต่เดี๋ยวนี้เขาพัฒนาแล้ว Technology ใหม่ๆมากมายซึ่งทำให้ Piggy back ECU รุ่นใหม่ๆ ก้าวไปใกล้ความเป็น standalone มากขึ้น ผมจะยกตัวอย่าง ECU ที่ผมเลือกใช้ เป็นของ AEM จากเมกา รุ่น FIC ซึ่ง Function หลักๆก็ไม่ต่างจาก piggy back ecu อื่นๆอย่างพวก E manage หรือ Unichip แต่ที่เจ๋งสุดเลยคือ AFR target Close loop Shift ซึ่งมำให้สามารถปรับ AFR target เป็นค่าไหนก็ได้ เช่น เดิมรถเรา AFR ใน close loop ถูก lock ไว้ที่ 14.7:1 ใช่ไหครับ แต่ด้วย AEM FIC ผมสามารถ ปรับ AFR target ให้ไปที่ค่าอะไรก็ได้ เช่น ถ้าตั้งไว้ที่ 12.5:1 เพราะต้องการกำลังแบบสุดๆ AEM FIC ก็จะทำให้กล่องเดิมปรับน้ำมันไปที่ 12.5:1 โดย automatic และไม่ดึงน้ำมันกลับด้วย ไม่ต้องรอกดคันเร่งมากกว่า 80% น้ำมันก็มาเต็มๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 ทำไมติดตั้งและจูนกล่องมันแพ้ง แพงจัง ค่ากล่องมันก็หลายตังแล้วนะครับ เพราะทั้งหมดต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนของค่าแรงเนี่ย เพื่อนๆก็ลองคิดว่า กว่าผมจะสรุปความรู้ ความเข้าใจต่างๆให้ออกมาเป็นภาษาที่ง่ายๆ ให้เข้าใจได้มากที่สุดเนี่ย มันก็ยากแล้ว การจูนกล่องเป็น " วิทยาศาสตร์ ศิลปะ " ต้องใช้ความรู้ขั้นสูงถึงสูงมาก ใช้ความเข้าใจและความละเอียดในการทำงานสูงมากครับ เพราะถ้าผิดพลาดก็จะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงกับรถได้ และนอกจากค่าวิชาแล้ว ในการจูนกล่องเนี่ยมันต้องใช้เครื่องมือพิเศษอีกด้วย คือ Wide Band Air Fuel Ratio Meter , Knocking Monitor และ OBD2 interface Scantool เป็นต้น Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 Wide Band Air Fuel Ratio Meter ใช้วัดค่า AFR =Air Fuel Ratio ซึ่งมีความเที่ยงตรงและแม่นยำสูงมากๆครับ วัดได้ละเอียดระดับ ทศนิยมสองตำแหน่งเลยที่เดียว แต่อุปกรณ์มันก็มีความเสื่อมตามอายุ เพราะมันต้องฝังที่ท่อไอเสีย ยิ่งใช้นานไปก็เสื่อมลงและความแม่นยำจะลดลง ซึ่งสำหรับ Tuner ที่มีวินัยและเคร่งครัดอย่างผม พอใช้ถึงระดับนึงจะเปลี่ยนตัวใหม่มันทีเพื่อความแม่นยำในการอ่านค่าส่วนผสมน้ำมัน Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 Knocking Monitor ตัวนี้เอาไว้ช่วยในการปรับองศาไฟจุดระเบิด เพื่อให้รู้ว่าจุดที่ยิงไฟจุดระเบิด มันทำให้เกิดการเผาไหม้ที่เกิดกำลังสูงสุดหรือยัง เพราะจุดนี้เองจะใกล้กับการเกิด knocking แล้ว จึงสามารถใช้เป็น reference ในการปรับองศาไฟจุดระเบิดได้ ตัวนี้ มันสามารถปรับความไวในการ detect knock level ได้กว้างมาก ซึ่งตรงนี้สำคัญต่อการจูนรถยนต์ที่เป็นเครื่อง Turbo เพราะ การเกิด knock เบาๆนั้น ก็ทำให้เครื่องยนต์พังได้เลยที่เดียว สามารถปรับให้เหมาะสมกับรถแต่ละแบบ จึงสามารถใช้ได้ดีทั้งเครื่อง Turbo และ NA มีไฟบอกสถานะ มาก ถึง น้อย และมีเสียงเตือนด้วย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 OBD2 interface Scantool Innovate motorsport ชื่อนี้แทบไม่ต้องบรรยายสรรพคุณถึงคุณภาพ เป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์การวัดค่าต่างๆของรถ ที่Tuner ต้องใช้กันเช่น ตัววัดส่วนผสม อากาศกับน้ำมัน Wide band Air Fuel Ratio meter ตัวนี้เป็นรุ่นใหม่นะครับ ชื่อรุ่น OPEN TUNE OT-1 คุณสมบัติหลักๆก็คือ อ่านค่าการทำงานของเครื่องจากกล่อง computerของรถผ่านทางปลั๊ก OBD2 อธิบายง่ายๆ OBD@ มันก็เป็น ปลั๊กที่เราเข้าศูนย์แล้วช่างจะเอามาเสียบเพื่ออ่านค่าของระบบเครืองและระบบไฟฟ้า คุณสมบัติพิเศษคือ เราสามารถขับรถแล้วให้มันบันทึกสภาพการทำงานของเครื่องยามขับขี่ และ นำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์ย้อนหลังได้ อุปกรณ์ใน box จะมี control unit , computer data link และ software Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 บทความพี่แมว(Maew-Rx) และคำพูดก่อนจบเล็กๆน้อยๆครับ เห็นมั้ยครับ เล่นกับ ECU ไม่ง่ายเลยนะครับ เพราะเป็นหัวใจหลักของรถและขับเคลื่อนระบบทั้งหมด ถ้าจะทำ ต้องคิดให้รอบคอบ ตัดสินใจให้ดีๆครับ หวังว่าความรู้นี้ จะช่วยเป็นแนวทางให้เพื่อนสามารถตั้ดสินใจในการแต่งรถได้ โดยไม่โดนหลอกหรือเชื่ออย่างงมงายในสิ่งต่างๆที่ร้านโฆษณา ขอบคุณพี่แมว( Maew-Rx ) supachai-bdc 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 เพิ่มเติมหน่อยครับ New Age Tuning2 HONDATA ชื่อนี้ชาว Honda เล่นแรงน่าจะรู้จักนะครับ Hondata จะเก่งเรื่อง Reflash กล่องเดิมครับ โดยการที่เราต้องส่งกล่อง ECU เดิมรถเราไปให้ทาง Hondata เค้าก็จะ reprogram ข้อมูลต่างๆให้เราครับ แรง เนียน เจ๋ง แพงด้วย และยังมีนวัตกรรมใหม่ คือ Hondata FlashPro ครับ ว่าด้วยเรื่องการสื่อสารของเรา กับ ECU ECU เปรียบเสมือนสมองของรถ ที่คอยสั่งการทำงาน และปรับสมดุลของระบบ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่ามันค่าอะไรบ้างละ ก็ต้องมีตัวกลางการสื่อสารครับ รถในปัจจุบันจะมี ช่องทางการสื่อสาร ที่เรียกกันว่า OBD port OBD = On-Board Diagnostic เป็นระบบที่ ECU จะตรวจสอบสถานภาพการทำงานของระบบในรถ ปรับสมดุลของรถ และถ้าเกิด error ก็จะแจ้งสถานะออกมา ใน Civic FD จะเป็น OBD2 port ( CAN BUS ) ครับ รู้แค่นี้ก็พอ อยู่ใต้พวงมาลัย ยืมรูปจากสมาชิกใน web เรานะ ลักษณะของการสื่อสารจะเป็นแบบนี้ครับ Car > ECU > OBD2 > Interface > Computer > ME อุปกรณ์ที่เป็น Interface ก็มีมากมายหลากหลายครับ หน้าที่ของ OBD Scantool อ่านค่าและตรวจสอบสถานะการทำงานของรถ อ่านค่าและข้อมูลของ error และสามารถลบ error code นั้น OBD Scantool ที่ผมใช้เป็นตัวนี้ครับ ส่วนที่ศูนย์บริการ Honda ใช้จะเป็นตัวนี้ครับ ชื่อ HIM ( Human Interface Module ) หลายๆที่ไป Reset ECU , Reset รอบเดินเบา น่าจะเคยเห็นครับ หลักการทำงานที่โดดเด่นและเป็นลักษณะเฉพาะของ HIM นอกจากอ่านค่าแล้วสามารถเขียนค่าพื้นฐานที่ถูกต้องของรถเข้าไปและตั้งค่าเริ่มต้นการทำงานได้ โดยผ่านการเข้ารหัสเฉพาะของทาง honda โดยตัว HIM จะมีขอมูลพื้นฐานของรถ honda ทุกรุ่นที่มี สามารถรองรับงานของศูนย์บริการ ผมเคยบ้าไปถามซื้อเค้าทีนึง เป็นผู้จัดการฝ่าย technic พี่เค้าก็บอกว่า 4 แสนน้อง แล้วต้องเปิดเป็นศูนย์ honda ด้วยนะ เพราะเค้าไม่ขายคนทั่วไป .. Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 New Age Tuning2 ภาคต่อ OK ... หลังจากพอจะทราบว่า OBD port มีไว้ทำอะไร เราก็จะมาว่าด้วยความแรงบ้าง ความพิเศษของ ECU civic FD type R และ civic FG Si และ civic type R Euro spec คือ ตัว ecu มันเป็น standalone ในตัวครับ สามารถ Reprogram ค่าต่างๆทั้งส่วนน้ำมันและองศาไฟจุดระเบิดได้โดยใช้อุปกรณ์พิเศษ = Hondata FlashPro ขออนุญาต copy มาเลยนะครับ หวังว่าคงไม่ยากจนเกินไป อันไหนที่เป็นศัพท์เทคนิคจ๋า ผมจะแปลให้ FlashPro features -Programmable ECU interface. -Connects via OBDII diagnostic port. -USB 2.0 connection -Works with Laptop or Desktop -No ECU modification necessary. -90 second ECU programming time. -20 hours on board datalogging memory. -FlashProManager Windows software. -Check and clear diagnostic codes. -Custom laptop gauges. -Dual calibration storage - upload from one of two calibrations stored in the FlashPro 2006+ Civic Si / Civic Type R AFM/MAF based calibrations -Ignition, fuel, cam angle, idle speed table editing. (เอาไว้ปรับน้ำมัน,ไฟ,รอบเดินเบา) -VTEC window. -Rev and launch limiters. -AFM calibration table. -Map tracing & lambda overlay. -15 starting calibrations for common intakes and race header combinations. 2006+ Civic Si / Civic Type R MAP based calibrations Above features plus: -Expanded fuel, ignition & cam angle tables for forced induction. -4 bar MAP sensor support (40 psi). (เหมาะกับการ set turbo ครับ ) -50 degree cam angle movement for more midrange torque (up from 45 degrees maximum). (เอาไว้ปรับองศา cam เพื่อเรียกกำลัง) -Support for larger injectors. -Injector latency / dead time. -Individual cylinder fuel & ignition trim. -Race vehicle sensor disabling. -Speed limiter removed. -50+ starting calibrations for intake, headers, forced induction & injector combinations. หน้าตา program ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 นอกจาก FD2 type R แล้วมีรถอื่นๆอีกหรือเปล่าที่ ECU เป็น standalone ได้ในตัว นอกจากรถตระก*ล Honda แล้ว ผมขอกล่าวถึงแค่ที่ผมคลุกคลีอยู่และชื่นชอบเป็นพิเศษดีกว่านะครับ รอผู้รู้มาเพิ่มเติมให้ละกัน ยังมี SUBARU และ Mitsubishi Evolution อีกครับที่สามารถ Reprogram ECU โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เท่าที่เคยใช้เป็นของ ECUTEK ครับ รวม link ของแรงของ ECU ECUTEK http://www.ecutek.com/ HONDATA http://www.hondata.com/ MSD http://www.msdignition.com/ AEM http://www.aempower.com/home.aspx INNOVATE http://www.innovatemotorsports.com/ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
BSOAMI Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 โอ้ว มาเต็มคับ สุดยอดความรู้เกี่ยวกับ ECU ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 17, 2012 Author Report Share Posted May 17, 2012 โอ้ว มาเต็มคับ สุดยอดความรู้เกี่ยวกับ ECU ขอบคุณครับ ต้องขอบคุณพี่แมวเลยครับ สุดจิงๆๆ BSOAMI 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Natty_Not Allow Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 สุดยอดครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Jeep_Marlboro Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 สุดยอดครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Mheezzz Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 ได้ความรู้มากมาย ขอบพระคุณครับ ทั้งผู้ทำและผู้เผยแพร่ ^^ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Recommended Posts
Join the conversation
You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.