stax Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 ช่วงนี้กระแสแต่งเครื่องยนต์มาหลากหลายเหลือเกิน ไม่ว่าจะโมเครื่องเดิมหรือลงเครื่องใหม่ ในฐานะที่เคยซ่ามาบ้างตอนเด็ก ๆ ก็อยากจะเอาข้อมูลมาแบ่งให้ฟังกันบ้างครับ ก่อนอื่น เราต้อง เข้าใจความหมายของคำว่า “ความแรงเครื่องยนต์” กันก่อนว่ามันคืออะไร บ้างก็ว่า “แรงม้าสูงสุด” บ้างก็ว่า “แรงบิด” ก็หลายตำราครับ แต่ผมอยากจะบอกให้ฟังไว้คร่าวว่า ๆ ความแรงของรถที่สัมผัสได้ง่ายที่สุดคือ “แรงม้าต่อน้ำหนัก” เพราะนั่นคือ Power ของเครื่องยนต์โดยตรงเทียบกับภาระโดยตรง โดยแรงม้าต่อน้ำหนักจะบอกได้ชัดเจนว่า ม้าแต่ละตัวของเครื่องยนต์นั้น ๆ มีภาระมากขนาดไหน เช่น Civic 2.0 มี 155 แรงม้า น้ำหนักตีไป 1200 แรงม้าต่อน้ำหนัก 7.7KG/ 1 แรงม้า Civic 1.8 มี 140 แรงม้า น้ำหนักตีไปสัก 1150 แรงม้าต่อน้ำหนัก 8.2 KG/ 1 แรงม้า แคมรี่ 2.0 มี 147 แรงม้า น้ำหนักน่าจะสัก 1450 แรงม้าต่อน้ำหนัก 9.9 KG/ 1 แรงม้า จากตรงนี้จะเห็นได้ชัดว่าแม้ Civic 2.0 กับ แคมรี่ 2.0 จะมีขนาดเครื่องเท่ากัน แต่ก็มีภาระต่างกันเยอะ ม้า 1 ตัวของซีวิคแบกน้ำหนักรถที่น้อยกว่าถึง 2 กิโลกว่า ทำให้วิ่งได้ดีกว่า หรือแม้แต่ซีวิค 1.8 เองก็วิ่งดีกว่าแคมรี่ 2.0 ที่มีแรงม้ามากกว่าเช่นกัน เพราะภาระต่อแรงม้ามันน้อยกว่าเป็นโลเหมือนกัน และนี่คือสิ่งที่บอกว่าจำนวนแรงม้าสูงสุดไม่ได้ตัวบ่งบอกความแรงเสมอไป ซีวิค 2.0 ถึงสามารถไล่จิกรถยุโรปใหญ่ ๆ แต่เครื่องเล็กได้สบายเท่า ก็เพราะว่า ภาระดังกล่าวมันน้อยกว่านั่นเอง จะดูแรงม้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องดูแรงบิดด้วย เพราะมีผลกับอัตราเร่งโดยตรง แต่ทีนี้รถบางคันมันมีแต่แรงม้ามากมาย ไม่มีแรงบิดรอบต่ำเลย ขับยากครับ เช่น Mazda RX-8 แรงบิดน้อยมาก แต่ปั่นแรงม้ามาได้เรื่อย ๆ จากรอบเครื่องโรตารี่ แรงบิดก็พอตามมาด้วยแต่ก็มาที่รอบสูงมาก ขับในเมืองรอบต่ำหงุดหงิดครับ ต้องใช้รอบถึงจะมีแรง ยิ่งเกียร์ออโตยิ่งเหลือทน..... อันนี้ก็ต้องระวังเหมือนกัน ทีนี้ถ้าแรงม้าต่อน้ำหนักใกล้เคียงกันล่ะ?????? ตรงนี้ต้องมาดูกันละเอียดขึ้นครับ โดยอาจจะต้องดูจากกราฟของแรงม้าและแรงบิดว่าเป็นอย่างไร โดยสิ่งนึงที่จะถูกนำมาพิจารณาคือเรื่องของ Powerband หรือช่วงการทำงานของเครื่องยนต์นั้น ๆ ครับ ว่าเป็นอย่างไร อย่างถ้ารถสองคันน้ำหนักเท่ากัน แรงม้าเท่ากัน แต่คันนึงมีแรงม้าสูงสุดที่ 4500 รอบ ในขณะที่อีกคันมีแรงม้าสูงสุดที่ 7000 รอบ ก็หมายความว่า รถคันแรกมีแนวโน้มที่จะมีอัตราเร่งที่ดีกว่าในช่วงต้น ใช้งานง่ายกว่า เรียกกำลังง่ายกว่า เร่งแซงดีกว่า แต่ความเร็วสูงสุดอาจจะได้พอกันก็ได้ครับ ต้องมาดูที่เกียร์ด้วยว่าเป็นไง เพราะรถบางคันที่มีแรงม้าไม่เยอะมากนัก และมี***ส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่สูง มักจะทำอัตราทดเกียร์ให้สูง เพื่อเพิ่มอัตราเร่งในช่วงต้น (เช่น แคมรี่ 2.0) แต่ก็แปลว่าต้องใช้รอบสูงเกือบตลอด ไม่ค่อยประหยัดเท่าไรครับ แล้วความแรงของเครื่องยนต์จะได้มาจากไหน???? โดยปกติแล้ว ความแรงของเครื่องยนต์เป็น***ส่วนโดยตรงกับขนาดของเครื่องยนต์ครับ ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งแรง ว่างั้นเหอะ เพราะเครื่องที่ใหญ่กว่า สามารถนำ “ไอดี” หรือน้ำมันกับอากาศ เข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากกว่าเครื่องยนต์ที่เล็กกว่า เมื่อมี “ไอดี” ที่มากขึ้น การจุดระเบิดก็รุนแรงขึ้น ได้พลังงานออกมามากขึ้น แปลงเป็น Output ที่ได้มากขึ้น แต่เครื่องที่เล็กก็สามารถมี “ตัวช่วย” ที่ทำให้สามารถนำไอดีเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้ได้มากกว่าปกติ ก็เช่น การเปลี่ยนแคม เพื่อให้วาล์วเปิดนานขึ้น เปิดเร็วขึ้น ปิดช้าลง ไอดีที่ไหลไปในห้องเผาไหม้ขนาดเดิมก็จะมีมากขึ้น กำลังอัดก็จะสูงขึ้น ได้ Output ที่มากกว่าเครื่องขนาดเดียวกันที่กำลังอัดต่ำกว่า แต่การเปลี่ยนแคมองศาสูงมักจะมีข้อจำกัดในแง่ของกำลังในรอบต่ำ เดินเบาไม่ค่อยได้ ต้องรอรอบกว่าจะเริ่มมีแรงม้า ก็ทำให้เป็นที่มาของการออกแบบแคมชาฟท์แบบปรับองศาและระยะยกของวาล์วได้ หรือเทคโนโลยี “วีเทค” นั่นเอง ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาต่อมาเรื่อย เป็น “วีเทค” แบบประหยัด แบบ แรง อะไรกันมากมายไปหมด และก็มีหลายยี่ห้อที่เริ่มใช้กันมาเรื่อย ๆ เช่น VVT-I, S-VT, Vanos, แต่จุดประสงค์เดียวกัน คือ ใช้งานไอดีให้คุ้มที่สุด ถ้าอยู่ในรถแรงก็จะแรงที่สุด ถ้าอยู่ในรถบ้าน (แบบ FD) ก็จะเน้นประหยัดไว้ก่อน อีกตัวช่วยหนึ่งในการสร้างความแรงโดยไม่เพิ่มซีซีก็คือ การใช้ เทอร์โบ ครับ โดยอาศัยพลังานของท่อไอเสียมาปั่นกังหันที่สามารถอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากกว่าปกติ (ปกติปริมาณอากาศที่จะเข้าห้องเผาไหม้ขึ้นอยู่กับการดูดของลุกสูบ และความเร็วในการไหลของไอดีและไอเสีย ถ้าไอเสียออกเร็ว ไอดีก็เข้าได้เร็ว ท่อไอเสียดี ๆ ถึงช่วยเรื่องอัตราเร่งได้) แต่เครื่องเทอร์โบจะมีความหนาแน่นของไอดีในห้องเผาไหม้สูงมาก ๆ และต้องการการออกแบบที่ไม่เหมือนเครื่องยนต์ธรรมดา การเอาเครื่องยนต์ธรรมดาไปติดเทอร์โบจึงต้องมีการปรับแต่งให้รับกับแรงอัดและแรงม้าที่เพิ่มมากขึ้น เช่น เสริมประเก็น จูนกล่อง (เพื่อเพิ่มน้ำมันให้เหมาะสมกับอากาศที่มากขึ้น) บางทีอาจจะต้องทำคลัทช์ด้วย รถเซทเทอร์โบหลายคัน เกียร์ติดรถต้องลาจากไปก่อนเวลา เพราะรับแรงม้าที่มากขึ้นม่ไหวก็มีมากเอาการครับ รถซีวิคเดิม ๆ ทำอะไรให้แรงได้บ้าง??? มันก็ต้องมานั่งดูล่ะครับ ว่า “แรง” เนี่ยหมายถึงอะไร เอาอัตราเร่งที่ดีขึ้นหรือเอาความเร็วสูงสุดที่มากขึ้น เพราะความแรงมันวัดได้หลายแบบ อัตราเร่ง 0-100 อัตราเร่งแซง ความเร็วสูงสุด แต่ส่วนมากเห็นจะไปเน้นที่ความเร็วสูงสุดกันมากนัก ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร เพราะมันไม่ค่อยได้ใช้ และการเพิ่มความเร็วสูงสุดจากเดิม ๆ 200 หน่อย ไปได้ 210 บ้าง 215 บ้างแต่ต้องลากกันหลายกิโล ลุ้นกันแทบตาย ผมก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน ปล่อยให้มันเป็นผลพลอยได้จากความแรงด้านอื่น ๆ ทีได้ใช้ในชีวิตประจำวันน่าจะดีกว่า จะเล่นง่ายก็ลดน้ำหนักครับ เอาของที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด ใส่ล้อเบา ๆ หรือจะเจาะประตูให้พรุนก็ไม่ว่ากัน อันนี้แม้แรงม้าจะเท่าเดิม แต่น้ำหนักรถลดลง ก็จะได้อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ดีขึ้น ก็ได้อัตราเร่งที่ดีขึ้นได้ แต่ผมว่าลำบากไปหน่อย เอาเป็นว่ากรองอากาศดี ๆ สักชุด ก็ต้องเลือกเอาว่าจะแบบเปลือยหรือไม่เปลือย เพราะกรองเปลือยมันโล่งจริง ๆ จะทำให้ความเร็วในการไหลของไอดีในรอบต่ำลดลง รอบต้นอาจจะแผ่วลงได้ แต่ถ้าเป็นกรองแบบเอาใส่แทนของเดิมจะโล่งขึ้นและยังคงรักษาระบทางเดินไอดีทั้งหมดไว้ได้ ซึ่งตรงนี้จะช่วยมากในช่วงรอบต่ำถึงกลาง เพราะเครื่องยนต์จะไม่ดูดอากาศร้อน ๆ ในห้องเครื่องเข้าไป (อากาศร้อนจะความหนาแน่นน้อยกว่า ทำให้มีมวลของอากาศน้อยกว่าอากาศที่เย็นกว่า เวลาเราวิ่งตอนหน้าหนาว รถถึงแรงกว่าหน้าร้อน) แต่กรองเปลือยก็จะได้เปรียบเวลาวิ่งเร็ว ๆ รอบสูง ๆ เพราะอากาศจะไม่มีการอั้นเลย จากในรูป จะเห็นชุด Air Intake ระดับ เทพของ Gruppe M ที่ทั้งใหญ่และปิดสนิท รับอากาศเย็นจากหน้ารถโดยตรง ยี่ห้อนี้มีของ Civic 2.0 โดยตรง (น่าซื้อมากกกกกกกกก...........) แต่รูปนี้ของบีเอ็ม ของออดี้ก็อย่างเทพ.... หรือแม้แต่กรองเปลือย สำหรับรถที่ทำกันแป็นเรื่องเป็นราวจริง ๆ ก็มักจะมีที่กั้นไม่ให้รับลมร้อนจากห้องเครื่องครับ ท่อไอเสียก็เช่นกันครับ อย่าให้มันโล่งมากไปนัก โล่งมากไป ไอเสียจะความเร็วลดลง ทำให้วิ่งได้ช้า ไอดีก็จะวิ่งได้ช้าลง ตอบสนองแย่ลงครับ ส่วนพวกกราวนด์ไวร์ คาปาซิเตอร์ หัวเทียนต่าง ๆ ผมไม่ค่อยเชียร์เท่าไร คือผมว่าแม้มันไม่มีผลเสีย และก็ดี เพราะทำให้ของทุกอย่างทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รักษาความสมบูรณ์แบบไว้ได้ไม่มีตกหล่น แต่จะ “เพิ่ม” ได้ไหม นั่นอีกเรื่องครับ แต่ถ้ารถเก่าผมสนับสนุนให้ทำครับ เพราะมันจะได้ไปช่วยของติดรถที่เสื่อมสภาพไปบ้างนั่นเอง ....... เคดิด พี่ tarm www.civicfdthailand.com l-Ae-l, ake es, Streetking and 2 others 5 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
bigheads Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 เยี่ยม เยี่ยม จัดไป น้อง Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Jeep_Marlboro Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 อยากแรงบ้างอะ ต้องทำยังไงครับ stax 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
gryffindor Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 แจ่มครับ stax 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
stax Posted May 18, 2012 Author Report Share Posted May 18, 2012 เยี่ยม เยี่ยม จัดไป น้อง Copy มาจาก FD thai อะพี่ กลัวมันหาย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
stax Posted May 18, 2012 Author Report Share Posted May 18, 2012 อยากแรงบ้างอะ ต้องทำยังไงครับ ทำ NA แล้ว เซ็ตโบ แล้วกลับมา NA แรงสาดดด อะ Jeep_Marlboro 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
JATE_FD Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 แบบเดิมก็ OK ครับ วันก่อนวิ่ง ปัตตานี - นราธิวาส 170 km/H นิด ๆ มากกว่านี้ไม่กล้า สุดยอดครับ นานๆ เหยียบที แค่นี้ก็หรูครับ นิ่งกว่า Altis (1.8) ที่ 140 km/H อีกนะผมว่า แต่พอเข้าด่าน ที่แถวๆ หนองจิก ตำรวจทางหลวงเรียกครับ ตอนแรกนึกว่าจับความเร็ว ที่ใหนได้ แม่งบอกว่า เห็นเป็นป้าย กทม.เลยจะขอตรวจ xxx ขำกันปาย ไม่ใช่รถในพื้นที่ ว่างั้น คนแถวนี้เขาไม่ซื้อรถจาก กทม.งั้นซิ ... ถึง ตำรวจทางหลวง ถนนสายเอเชีย ปัตตานี - นราธิวาส Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
dikiboyz Posted May 20, 2012 Report Share Posted May 20, 2012 FD ผมคงไม่จับต้องอะไรมากมายที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์ นอกจากภายในกับภายนอก เพราะใช้ขับไปทำงานทั่วไป แค่นี้ค่าน้ำมันก็ขนหน้าแข่งเกือบหมดละ อิอิ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 20, 2012 Report Share Posted May 20, 2012 ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ZXON Posted May 23, 2012 Report Share Posted May 23, 2012 ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Nathapol Posted May 23, 2012 Report Share Posted May 23, 2012 ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ninesine Posted May 24, 2012 Report Share Posted May 24, 2012 อ่าน แล้วเห็นภาพเลยครับ ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Zomead Posted May 24, 2012 Report Share Posted May 24, 2012 ฝากไว้หน่อยนะคะ.... สำหรับรถที่เปลี่ยนเครื่องเนี๊ยะ อาจจะจัดไฟแนนท์ยากสักหน่อยนะคะ ถ้าจัดได้อาจจะต้องเสียดอกเบี้ยสูงหน่อยนะคะ ยอดจัดก็ไม่ได้เหมือน รถปกตินะคะ เพราะไฟแนนท์เค้าจะมองว่ารถเป็นอะไรมาถึงเปลี่ยนเครื่อง แวะเอามาฝากเป็นข้อคิดก่อนตัดสินใจนะคะ แต่ถ้าใครอยากแร๊งส์ จัดได้ เลยคะ เพราะโดยส่วนตัีวก็ชอบความแรงอยู่แล้วด้วยคะ... Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
annop Posted May 24, 2012 Report Share Posted May 24, 2012 ขอบคุณ ครับข้อมูลดีๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
natto79 Posted May 29, 2012 Report Share Posted May 29, 2012 เพิ่มความรู้มากคับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Jeep_Marlboro Posted May 29, 2012 Report Share Posted May 29, 2012 ทำ NA แล้ว เซ็ตโบ แล้วกลับมา NA แรงสาดดด อะ 5555 ขอบจายยยยยย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
icelc99 Posted June 1, 2012 Report Share Posted June 1, 2012 ขอมูลดีและมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีความรู้พื้นฐานของเรื่องเครื่องงยนต์ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนอ่านแล้ว อย่าเอาข้างมูลข้างบนไปสั่งช่างชื่อดังเค้านะครับ เขาจะหลอกกินตังเอาได้ ยกตัวอย่างให้เข้าใจว่า นาย ก เข้าไปโมดิฟายรถที่ร้านชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วสั่งเจ้าของร้านว่า พี่คับ ผมอยากให้พี่ จัดกลองเปลือยให้ผมซักชุด พี่อย่าลืมทำที่กลั้นลมร้อนให้ผมด้วยนะ เพราะเครื่องยนต์ต้องการอากาศเย็น เปลียนแคมให้ผมด้วยนะคับ ผมต้องการการเปิดของไอดีที่ไวขึ้น อย่างงี้เป็นต้น สรุปที่ผมจะสื่อคือ แต่ละร้านเขาเริ่มต้นความแรงของเครื่องยนต์ ตามสูตรของเขาและประสบการณ์กสรลองผิดลองถูกของช่าง (มีแต่วิชาชังยนต์ ไม่มีวิชาโอดิฟายเครื่องยนต์ให้แรง ให้ซิ่ง สอน) stax 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
oat_fd Posted June 5, 2012 Report Share Posted June 5, 2012 ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
TongFD Posted June 9, 2012 Report Share Posted June 9, 2012 fd2.0 สุดๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Y_YoT Posted June 10, 2012 Report Share Posted June 10, 2012 ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
WORAWIT Posted June 11, 2012 Report Share Posted June 11, 2012 ขอบคุณมากครับ อ่านแล้วรู้สึกว่า เดิมๆ นั่นเหละ คือความพอดี ที่ทำให้เราไม่ต้องไปหามาจากไหน แต่อยู่ใกล้ตัวเราที่สุด Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
NonGToN_FD Posted June 20, 2012 Report Share Posted June 20, 2012 ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ http://www.civicclubthailand.com/board/index.php?showtopic=50 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
bawonnan Posted July 14, 2012 Report Share Posted July 14, 2012 ขอบคุณครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
yep C Posted August 12, 2012 Report Share Posted August 12, 2012 ความรู้เลยคับ ขอบคุณคับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
zirconiaza Posted August 16, 2012 Report Share Posted August 16, 2012 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดี ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Recommended Posts
Join the conversation
You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.