olkeyn

ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ...Credit by..Tommie....เพิ่มเติม By....jchoomal

ขอเกริ่นก่อนครับ เนื่องจากผมได้ห่างหายจากการรีวิวประกอบดนตรีไปนาน เพราะเหตุหลายๆอย่าง (หนักไปทางขี้เกียจ )
ดังนั้นงานนี้รายละเอียดอาจจะได้ไม่ครบนัก (เพราะยังขี้เกียจอยู่) แต่คิดว่าน่าจะชัดเจนเพียงพอจะทำกันได้แบบไม่มีปัญหาใดๆครับ

เหตุว่าห้วงเวลานี้ รถผมใช้งานมานานกว่า 3 ปีแล้วมีงานที่ต้อง Maintenance เองบ้างแล้ว (ประกันหมดนั่นแหละ )
เลยถ้าอันไหนถ้าได้ทำเองจะมา DIYให้ชมละกัน

งานล้างชุดลิ้นปีกผีเสื้อจัดเป็นงาน Corrective Maintenance ครับไม่มีในระบบงาน Maintenance ตามระยะที่เราเข้าๆกันครับ

ลิ้นปีกผีเสื้อจะเป็นตัวปิด-เปิด ให้อากาศปริมาณหนึ่งเข้าไปผสมกับเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ ในอัตรส่วนที่เหมาะสม
ตามจังหวะการเหยียบคันเร่งในระบบ Drive by wire
โดยปริมาณอากาศที่เข้าไป จะขึ้นกับเวลาและระยะยกตัว ในการเปิด-ปิดลิ้น
ดังนั้นชุดลิ้นที่สะอาด จะทำให้การไหลผ่านของอากาศได้ดี

คือ ได้อากาศในปริมาณที่เหมาะสมในเวลาสั้น เครื่องจะสั่นในระยะเวลาสั้นลง หรือ นิ่งนั่นแหละ

รถที่ใช้งานไปนานๆ จะมีการสะสมของเขม่าควันท่อไอเสีย ที่ถูกสูบดูดผ่านกรองอากาศเข้าไป เกิดเป็นคราบเกล็ดตะกรัน Carbon
ไปจับเกาะตัวตามผิวชิ้นส่วนต่างๆ ในชุดลิ้นปีกผีเสื้อ เมื่อตะกรันเกาะสะสมจนหนา ทำให้การผ่านของอากาศในรอบเดินเบา ไม่ flow ดีอย่างเดิมแล้ว
ทำให้เครื่องยนต์จะมีอาการสั่นบ้างในรอบเดินเบา และจะสั่นมากขึ้นยามที่มี Load มากระทำเช่น ขณะพัดลมความร้อนทำงาน หรือ แอร์ทำงาน



การล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ไม่ได้ต้องทำบ่อยครับ ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เพราะถ้ารักษาระบบการกรองอากาศดี คราบเขม่านี้จะมีปริมาณเล็กน้อย
ไม่ส่งผลต่อเครื่องมากนัก และ ระบบ ECU จะทำการคำนวณ และ ชดเชยการเปิดลิ้นรับอากาศในรอบเดินเบาให้อยู่แล้วในระดับหนึ่ง

รถผม ประมาณ 7 หมื่นโล ยังไม่มีอาการเครื่องสั่นเวลาใดๆจนรู้สึกผิดปกตินะครับ
ส่วนหนึ่งเพราะผมดูแลเรื่องกรองอากาศและพยายามหนีจากการตามตูดรถเมล์ หรือกระบะที่มีควันดำมาตลอด
ที่ทำครั้งนี้ เพราะ เห็นน้องหลายๆท่านทำไว้นานแล้ว (น้องถัง น้องเอ็ม ) ครานี้เลยอยากลองบ้าง
จะให้ศูนย์ทำก้อได้ครับ แต่ทำเองได้ก้อไม่นาน ผมทำจนเสร็จรวมล้าง ห้องเครื่อง ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
งานนี้ผมไม่แกะแผงจิ้งหรีดกับชุดใบปัดออกนะครับ เพราะตัว Bolt ของ Throttle Body สามาถถอดได้ด้วยประแจต๊อกแต๊กได้เลยครับ



เริ่มเลย

1. หลังจากจอดรถ ก้อ รอรถเครื่องเย็นสนิทนะครับ ไม่งั้นทำงานไม่สนุกครับ เสี่ยงด้วย
แล้ว หลังจากนั้น ก้อ ถอด แบตขั้วลบ ซะ เพราะเราจะถอดปลั๊กหลายตัว ทำหลายอย่าง กันงานเข้า

2. ถอด ชุด Air Cleaner Housing ครับ ชุดกล่องกรองอากาศดำๆ นั่นแหละ ตามลายแทงเลย ไม่ยากครับ


3. อันนี้ แยกขยายมาให้ชม ก่อนยก Housing ออก ให้ปลดท่อคู่นี้ออกก่อนครับ


4. ก่อนเริ่มถอด Throttle Body เอาท่อนนี้ออกซะก่อนดีกว่า ไม่ยากครับ แล้วปลด Connector ออกด้วยเลย


5. เริ่มถอด Throttle Body ครับ บล๊อคเบอร์ 12 ต่อขา 15 ซม สามารถเข้าถอด Bolt ได้ครบทั้ง 4 ตัวครับ ไม่ติดบน สบายมาก


6. เปิดมาจะเห็น ประเก็นยางครับ เอามาล้างๆหน่อย พอแล้ว



7. มาดูคราบ Carbon ที่บอกครับ อันนี้ ขนาดขับระวังๆ ดูแลอย่างดีนะครับ ซกมกเชียว
แต่ขนาดนี้ก้อยัง ไม่มีผลทำให้เครื่องสั่นแบบรู้สึกผิดปกติครับ


ด้านใน ซกมกกว่าอีกเยอะเลย



8. ล้างซะครับ เอา Sonex หรือ เบนซิน ล้าง ก้อตามใจกันเถิด อย่าใช้น้ำยาพิสดารงานอื่นมาลองล่ะ
ก้อทำไปเรื่อยๆ ล้างๆ เช็ดๆ เเอา Sonex ฉีด เอาพู่กันค่อยๆปาดๆ หน่อย สักพักก้อหมดละครับ

ปล. ระวังจุดตรงแกนหมุนครับ คู่มือเค้าบอกว่ามันเคลือบ Molybdenum หล่อลื่น กันสึกหรอไว้ อย่าไปยุ่งมาก











เพิ่มเติม...by jchoomal

เพิ่มเติมให้ครับ
การทำความสะอาด อย่าใช้แรงมากเกินไป องศาปิดในสภาวะปกติจะต้องอยู่ที่ 0-3 องศา หากใช้แรงมาก
และมีผลทำให้องศาในจุดเริ่มต้นนี้เปลี่ยน การทำงานของมันจะเพี้ยนไปหมด ผลคือเปลี่ยนตัวใหม่ลูกเดียว

การทำความสะอาดใช้น้ำยาที่ป๋าทอมแนะนำ ร่วมกับ Cotton Bud ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์โดยเฉพาะ (ปลายจะแหลมๆ พันกันแน่นมากๆ ใยไม่หลุดง่าย) หรือ กระดาษที่ใช้ทำความสะอาดโดยเฉพาะ (Clean wipe paper )
.
ข้อควรระวัง

1 ระวังคมอาจจะปาดนิ้วมือได้

2 อย่าทำความสะอาดบริเวณที่เป็นจุดหมุนของแบริ่งและเพลา เพราะเคลือบด้วยสารหล่อลื่น molybdenum coating, หากสารเคลือบนี้หลุดออกไปจะทำให้เพลาหมุนของปีกผีเสื้อหมุนไม่คล่อง ฝืด ปิด เปิดไม่คล่อง มีผลต่อการเร่งเครื่อง ความเร็วค้าง (เมื่อเบาคันเร่ง แต่ปีกผีเสื้อไม่คืน ) เครื่องสั่น เพราะปีกผีเสื้อไม่หมุนปิด เปิดวาล์วคล่องตัว

3 พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเสปร่ย์หรือใส่น้ำยาล้างโดยตรงบน the throttle body. (ให้เสปร่ย์บน cotton bud หรือ กระดาษที่ใช้ทำความสะอาดโดยเฉพาะ (Clean wipe paper ) แล้วนำไปทำความสะอาด เพราะน้ำยาทำความสะอาดอาจจะแรกตัวเข้าไปตามจุดหมุน ไปทำลายสารเคลือบ หรือ นำพาเอาสิ่งสกปรกเข้าไปได้

4 แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ล้าง และน้ำยาทำความสะอาดของฮอนด้า (อันนี้ ฮา....)

เมื่อล้างเสร็จ อาจทำตามที่ป๋าทอมบอกคือทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ด้วยเลย
แล้วประกอบกับ

และทุกครั้งที่ล้างวาล์วปีกผีเสื้อต้องทำ Idle Learn ทุกครั้ง

เรื่องการทำ Idle Learn มีเทคนิคด้วย เดี๋ยวไปคอมเม้นต์เพิ่มเติมให้ครับ



9. พ่น Sonex ล้างคราบนิ้วมือ สะบัดเบาๆ หรือเอาลมเป่าไล่น้ำยาสักหน่อย แล้วปล่อยแห้งซัก 15 นาที ใส่คืนได้ครับ
อ้อ ก่อนใส่คืน ล้างๆ ห้องเครื่องแถวนั้นซะหน่อยก้อดีครับ นานๆถอดมาที เอาซะให้คุ้ม



10.ใส่คืนแบบย้อน Step พร้อมเช็ดให้เรียบร้อยครับ
อ้อ ถ้าจะล้าง MAF Sensor ก้อจัดซะเลยครับ เอาผ่าน Contact cleaner ซะหน่อยก้อโอแล้ว



ที่นี้ มาว่านี่กันต่อ Idle Learn

หลังจาก ใส่ขั้วแบตกลับเรียบร้อย ทำตามนี้ครับ

1. แน่ใจว่าปิดอุปกรณ์ใช้ไฟทั้งหมดก่อนครับ แล้ว เสียบกุญแจ บิดไป IG II
2. รอ 2 วินาที หรือจะเอา Sure ก้อ รอจน Engine check light ดับก้อได้ แล้ว สตาร์ท
3. รอ เครื่องร้อนถึงอุณหภูมิใช้งาน หรือจะเหยียบคันเร่ง ไปที่ 3000 Rpm แช่ไว้จนพัดลมความร้อนเริ่มทำงานครั้งนึงก้อตามใจ
4. อันใดอันหนึ่งมาถึงก่อน ก้อจับเวลาได้ครับซัก 5 นาที ปล่อยเครื่องเดินเรียบๆไปนั่นแหละ จนครบเวลา ดับเครื่อง จบข่าวครับ

รอบเดินเบามันจะนิ่งครับ แต่พอออกมาวิ่งอาจจะมีเหวอๆ แรงๆ พุ่งๆ เกินๆบางจังหวะนะครับ
เพราะลิ้นมันยังเปิดเท่าเดิมแต่ได้อากาศมากขึ้น

ขับไปเรื่อยๆ พักนึง หรือ ช่วงวัน 2 วันน่ะ ECU มันจะปรับทริมกลับมาให้ค่าที่ดีที่สุด เรียบเนียนเองครับ คอยเบรคดีๆละกัน



เพิ่มเติม...by jchoomal
เพิ่มเติมให้ในการทำ ECM/PCM Idle Learn Procedure
ในการทำ ECM/PCM Idle Learn ช่างจะต้องทำทุกครั้งเมื่อ
1. เปลี่ยน ECM/PCM.
2. Reset ECM/PCM.
3. Update ECM/PCM.
4. Replace or clean the throttle body.


NOTE: ในการทำECM/PCM Idle Learn ไม่จำเป็นต้องลบข้อมูลก่อนด้วย HDS

ขั้นตอน Procedure

1. Make sure all electrical items (A/C, audio, lights, etc.) are off.
มั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็ทรอนิคส์ อื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ได้ปิดทั้งหมดแล้ว
2. Reset the ECM/PCM with the HDS.
ทำการ Reset the ECM/PCM with the HDS อันนี้ ป๋าทอมทำโดยการถอดแบตออกในระหว่างที่ล้างวาล์วปีกผีเสื้อ
ถือว่าโอเค
3. Turn the ignition switch ON (II), and wait 2 seconds.
บิดสวิตไปที่ ON (II), และให้รอ 2 วินาที
4. Start the engine. Hold the engine speed at 3,000 rpm (min-1) without load (in Park or neutral)
until the radiator fan comes on, or until the engine coolant temperature reaches 90 °C (194 °F).
สต๊าดเครื่องยนต์ เร่งรักษาความเร็วรอบให้คงที่ที่ 3,000 rpm โดยไม่มีโหลด อยู่ที่เกียร P หรือ N
รอจนพัดลมทำงาน หรือรอจนความร้อนเพิ่มขึ้นจนอยู่ที่ระดับปกติที่ประมาณ 90 °C (194 °F).
5. Let the engine idle for about 5 minutes with the throttle fully closed.
แล้วให้เครื่องยนต์รักษารอบเดินเบา ไปจนครบ 5 นาที ในตำแหน่งที่วาล์วปีกผีเสื้อปิดเต็มที่ (จะอยู่ที่ 0-3 องศา)

NOTE: If the radiator fan comes on, do not include its running time in the 5 minutes.
ถ้าพัดลมทำงาน, จะไม่นับเวลารวมใน 5 นาทีนะครับ อันนี้ป๋าทอมไม่ได้บอกไว้

6. Verify on the HDS data list that the idle learn procedure is complete.
ตรวจสอบข้อมูลบน HDS data list ว่าการทำ idle learn ถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า
อันนี้ไม่ต้อง เพราะเราไม่มี HDS แบบศูนย์เขา

แล้วดับเครื่อง จบ ครับ

เปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยตนเอง...Credit By..miracle
 
เงื่อนไขคือรถไม่ได้โหลด เพราะจะไม่ต้องยกรถขึ้น กลัวแม่แรงล้ม

เริ่มโดยอุ่นเครื่องซักหน่อยก่อน อย่างน้อยซัก 2-3 นาทีเพื่อให้ละอองเขม่าไม่นอนก้นอ่าง

ดับเครื่องดึงเบรคมือ แล้วใช้อะไรบ้าง


 
คราวนี้จำเลยอยู่ไหน มองจากหน้ารถนอนลงกับพื้นก็เห็น ถ้ารถไม่ได้โหลดมานะ

จะพอลอดตัวเข้าไปใต้ท้องรถได้


 
เริ่มคลายโบล์ท


 
น้ำมันเก่าไหลออกมาแล้ว ดำเชียว


 
ไหลไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดซักที จากการที่ปล่อยให้น้ำมันเก่าไหลออกมากที่สุด

จำทำให้น้ำมันใหม่มีคุณภาพเต็มที่ เพราะมีน้ำมันเก่ามาผสมน้อย ไล่เขม่าและ

ฝุ่นละอองเก่าออกมากับน้ำมันเก่าได้มากกว่า สังเกตุได้จากน้ำมันใหม่จะดำช้ากว่า

ที่เปลี่ยนกับศูนย์


 
ถอดโบล์ทแล้วปล่อยให้น้ำมันไหลออกซักชั่วโมงก่อนค่อยเริ่มถอดไส้กรอง


 

 
ขันเบา ๆ ก็ออกแล้วถ้าต้องออกแรงมาก ๆ แล้วไม่ออกมีปัญหาแล้ว

ทางที่ดีอาจจะลองขยับโบล์ท และขยับไส้กรองก่อนค่อยเริ่มขั้นตอนแรกก็ดี

เพื่อมั่นใจว่าไม่มีปัญหาระหว่างทำ


 
ขันพอหลวมก็เอามือหมุนออกมาเลย ขั้นตอนนี้จะเลอะมือมากหน่อย เพราะน้ำมันเก่า

จะทะลักพรวดออกมาอีกครั้ง ร่วม 2-3ร้อยซีซีเลย เอาออกมาแล้วรีบวางไส้กรองไว้แล้ว

รีบไปล้างมือก่อน น้ำมันเก่าเต็มไปด้วยเขม่าขี้เถ้าที่ไหม้เกรียม เป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง


 
เอาผ้าเช็ดทำความสะอาดใต้ท้องที่เลอะน้ำมันเก่าให้เรียบร้อย


 
อันนี้ลูกเล่นแถม เอาแม่เหล็กไปแปะไว้ข้างไส้กรอง ถ้ามีละออกเหล็กผ่านมา แม่เหล็กก็จะดูดไว้

ไม่ให้วนกลับไปในระบบ ถึงแม้เสื้อสูบจะทำด้วยอลูมิเนียมแล้ว บางชิ้นส่วนก็ยังเป็นเหล็กอยู่


 
เอาเทปกาวพันทับกันแม่เหล็หล่อนหายตอนรถวิ่ง


 
ใส่ไส้กรองใหม่กลับ เอามือขันให้แน่น หรือใช้ประแจช่วยเบา ๆ กลัวเกลียวหวานไม่คุ้ม


 
ใส่น๊อตโบล์ทกลับ


 
เอาประแจขันให้พอตึงมือ

เติมน้ำมันใหม่ลงไป


 
ค่อย ๆ เติมจนได้ระดับ ขาดเพิ่มง่าย แต่ถ้าเกินเอาออกยาก


 
การเปลี่ยนครั้งนี้มีน้ำมันเหลือในกระป๋องเล็กน้อย ใช้ไม่หมดทั้งแกลลอน

เหลือในแกลลอนประมาณ 1-2ร้อยซีซี

หลังจากวิ่งมา 220 Km. ดูสีของน้ำมันเครื่อง แทบไม่เปลี่ยนเลย

การเปลี่ยนที่หมดจดกว่า ก็ได้น้ำมันที่ใหม่มากกว่า น้ำมันเสียค้างในระบบน้อยกว่า


น้ำมันเก่าเก็บไว้สำหรับหล่อลื่นล้อประตูบ้าน บานพับประตูหน้าต่าง อย่างคราวก่อนก็เอามา

ทาเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทาด้านในนะเช่นใต้เตียง ใต้ตู้ ใต้ตู้ลำโพง โครงไม้ใต้หลังคา หรือบริเวณที่ไม่ต้องการให้

สัตว์ แมลงมาหลบซ่อน เพราะกลิ่นไหม้ และความเป็นพิษของมันร้ายกาจมาก ที่ผ่านมาเพื่อนเคยมาขอเอาไป

เทพื่นดินตอนถมที่ก่อนสร้างบ้าน รับรองป้องกันปลวก และแมลงที่จะมาจากใต้ดินได้ดี

ถอดเบาะหลังด้วยตัวเอง...By..Meaw-Rx
 
 
ดูที่ 1 ครับมีน๊อต 2 ตัว ใช้ประแจ block ที่ยาวหน่อยลงไปขันครับ
 
กิ๊บที่เลข 2 มี 2 ตัว ให้ดึงไปข้างหน้า (ตามแนวลูกศร) ครับ แล้วค่อยๆยกขึ้น
 

ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ...Credit by..Tommie....เพิ่มเติม By....jchoomal

ขอเกริ่นก่อนครับ เนื่องจากผมได้ห่างหายจากการรีวิวประกอบดนตรีไปนาน เพราะเหตุหลายๆอย่าง (หนักไปทางขี้เกียจ )
ดังนั้นงานนี้รายละเอียดอาจจะได้ไม่ครบนัก (เพราะยังขี้เกียจอยู่) แต่คิดว่าน่าจะชัดเจนเพียงพอจะทำกันได้แบบไม่มีปัญหาใดๆครับ

เหตุว่าห้วงเวลานี้ รถผมใช้งานมานานกว่า 3 ปีแล้วมีงานที่ต้อง Maintenance เองบ้างแล้ว (ประกันหมดนั่นแหละ )
เลยถ้าอันไหนถ้าได้ทำเองจะมา DIYให้ชมละกัน

งานล้างชุดลิ้นปีกผีเสื้อจัดเป็นงาน Corrective Maintenance ครับไม่มีในระบบงาน Maintenance ตามระยะที่เราเข้าๆกันครับ

ลิ้นปีกผีเสื้อจะเป็นตัวปิด-เปิด ให้อากาศปริมาณหนึ่งเข้าไปผสมกับเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้ ในอัตรส่วนที่เหมาะสม
ตามจังหวะการเหยียบคันเร่งในระบบ Drive by wire
โดยปริมาณอากาศที่เข้าไป จะขึ้นกับเวลาและระยะยกตัว ในการเปิด-ปิดลิ้น
ดังนั้นชุดลิ้นที่สะอาด จะทำให้การไหลผ่านของอากาศได้ดี

คือ ได้อากาศในปริมาณที่เหมาะสมในเวลาสั้น เครื่องจะสั่นในระยะเวลาสั้นลง หรือ นิ่งนั่นแหละ

รถที่ใช้งานไปนานๆ จะมีการสะสมของเขม่าควันท่อไอเสีย ที่ถูกสูบดูดผ่านกรองอากาศเข้าไป เกิดเป็นคราบเกล็ดตะกรัน Carbon
ไปจับเกาะตัวตามผิวชิ้นส่วนต่างๆ ในชุดลิ้นปีกผีเสื้อ เมื่อตะกรันเกาะสะสมจนหนา ทำให้การผ่านของอากาศในรอบเดินเบา ไม่ flow ดีอย่างเดิมแล้ว
ทำให้เครื่องยนต์จะมีอาการสั่นบ้างในรอบเดินเบา และจะสั่นมากขึ้นยามที่มี Load มากระทำเช่น ขณะพัดลมความร้อนทำงาน หรือ แอร์ทำงาน



การล้างลิ้นปีกผีเสื้อ ไม่ได้ต้องทำบ่อยครับ ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น เพราะถ้ารักษาระบบการกรองอากาศดี คราบเขม่านี้จะมีปริมาณเล็กน้อย
ไม่ส่งผลต่อเครื่องมากนัก และ ระบบ ECU จะทำการคำนวณ และ ชดเชยการเปิดลิ้นรับอากาศในรอบเดินเบาให้อยู่แล้วในระดับหนึ่ง

รถผม ประมาณ 7 หมื่นโล ยังไม่มีอาการเครื่องสั่นเวลาใดๆจนรู้สึกผิดปกตินะครับ
ส่วนหนึ่งเพราะผมดูแลเรื่องกรองอากาศและพยายามหนีจากการตามตูดรถเมล์ หรือกระบะที่มีควันดำมาตลอด
ที่ทำครั้งนี้ เพราะ เห็นน้องหลายๆท่านทำไว้นานแล้ว (น้องถัง น้องเอ็ม ) ครานี้เลยอยากลองบ้าง
จะให้ศูนย์ทำก้อได้ครับ แต่ทำเองได้ก้อไม่นาน ผมทำจนเสร็จรวมล้าง ห้องเครื่อง ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
งานนี้ผมไม่แกะแผงจิ้งหรีดกับชุดใบปัดออกนะครับ เพราะตัว Bolt ของ Throttle Body สามาถถอดได้ด้วยประแจต๊อกแต๊กได้เลยครับ



เริ่มเลย

1. หลังจากจอดรถ ก้อ รอรถเครื่องเย็นสนิทนะครับ ไม่งั้นทำงานไม่สนุกครับ เสี่ยงด้วย
แล้ว หลังจากนั้น ก้อ ถอด แบตขั้วลบ ซะ เพราะเราจะถอดปลั๊กหลายตัว ทำหลายอย่าง กันงานเข้า

2. ถอด ชุด Air Cleaner Housing ครับ ชุดกล่องกรองอากาศดำๆ นั่นแหละ ตามลายแทงเลย ไม่ยากครับ


3. อันนี้ แยกขยายมาให้ชม ก่อนยก Housing ออก ให้ปลดท่อคู่นี้ออกก่อนครับ


4. ก่อนเริ่มถอด Throttle Body เอาท่อนนี้ออกซะก่อนดีกว่า ไม่ยากครับ แล้วปลด Connector ออกด้วยเลย


5. เริ่มถอด Throttle Body ครับ บล๊อคเบอร์ 12 ต่อขา 15 ซม สามารถเข้าถอด Bolt ได้ครบทั้ง 4 ตัวครับ ไม่ติดบน สบายมาก


6. เปิดมาจะเห็น ประเก็นยางครับ เอามาล้างๆหน่อย พอแล้ว



7. มาดูคราบ Carbon ที่บอกครับ อันนี้ ขนาดขับระวังๆ ดูแลอย่างดีนะครับ ซกมกเชียว
แต่ขนาดนี้ก้อยัง ไม่มีผลทำให้เครื่องสั่นแบบรู้สึกผิดปกติครับ


ด้านใน ซกมกกว่าอีกเยอะเลย



8. ล้างซะครับ เอา Sonex หรือ เบนซิน ล้าง ก้อตามใจกันเถิด อย่าใช้น้ำยาพิสดารงานอื่นมาลองล่ะ
ก้อทำไปเรื่อยๆ ล้างๆ เช็ดๆ เเอา Sonex ฉีด เอาพู่กันค่อยๆปาดๆ หน่อย สักพักก้อหมดละครับ

ปล. ระวังจุดตรงแกนหมุนครับ คู่มือเค้าบอกว่ามันเคลือบ Molybdenum หล่อลื่น กันสึกหรอไว้ อย่าไปยุ่งมาก











เพิ่มเติม...by jchoomal

เพิ่มเติมให้ครับ
การทำความสะอาด อย่าใช้แรงมากเกินไป องศาปิดในสภาวะปกติจะต้องอยู่ที่ 0-3 องศา หากใช้แรงมาก
และมีผลทำให้องศาในจุดเริ่มต้นนี้เปลี่ยน การทำงานของมันจะเพี้ยนไปหมด ผลคือเปลี่ยนตัวใหม่ลูกเดียว

การทำความสะอาดใช้น้ำยาที่ป๋าทอมแนะนำ ร่วมกับ Cotton Bud ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์โดยเฉพาะ (ปลายจะแหลมๆ พันกันแน่นมากๆ ใยไม่หลุดง่าย) หรือ กระดาษที่ใช้ทำความสะอาดโดยเฉพาะ (Clean wipe paper )
.
ข้อควรระวัง

1 ระวังคมอาจจะปาดนิ้วมือได้

2 อย่าทำความสะอาดบริเวณที่เป็นจุดหมุนของแบริ่งและเพลา เพราะเคลือบด้วยสารหล่อลื่น molybdenum coating, หากสารเคลือบนี้หลุดออกไปจะทำให้เพลาหมุนของปีกผีเสื้อหมุนไม่คล่อง ฝืด ปิด เปิดไม่คล่อง มีผลต่อการเร่งเครื่อง ความเร็วค้าง (เมื่อเบาคันเร่ง แต่ปีกผีเสื้อไม่คืน ) เครื่องสั่น เพราะปีกผีเสื้อไม่หมุนปิด เปิดวาล์วคล่องตัว

3 พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเสปร่ย์หรือใส่น้ำยาล้างโดยตรงบน the throttle body. (ให้เสปร่ย์บน cotton bud หรือ กระดาษที่ใช้ทำความสะอาดโดยเฉพาะ (Clean wipe paper ) แล้วนำไปทำความสะอาด เพราะน้ำยาทำความสะอาดอาจจะแรกตัวเข้าไปตามจุดหมุน ไปทำลายสารเคลือบ หรือ นำพาเอาสิ่งสกปรกเข้าไปได้

4 แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ล้าง และน้ำยาทำความสะอาดของฮอนด้า (อันนี้ ฮา....)

เมื่อล้างเสร็จ อาจทำตามที่ป๋าทอมบอกคือทำความสะอาดส่วนอื่นๆ ด้วยเลย
แล้วประกอบกับ

และทุกครั้งที่ล้างวาล์วปีกผีเสื้อต้องทำ Idle Learn ทุกครั้ง

เรื่องการทำ Idle Learn มีเทคนิคด้วย เดี๋ยวไปคอมเม้นต์เพิ่มเติมให้ครับ



9. พ่น Sonex ล้างคราบนิ้วมือ สะบัดเบาๆ หรือเอาลมเป่าไล่น้ำยาสักหน่อย แล้วปล่อยแห้งซัก 15 นาที ใส่คืนได้ครับ
อ้อ ก่อนใส่คืน ล้างๆ ห้องเครื่องแถวนั้นซะหน่อยก้อดีครับ นานๆถอดมาที เอาซะให้คุ้ม



10.ใส่คืนแบบย้อน Step พร้อมเช็ดให้เรียบร้อยครับ
อ้อ ถ้าจะล้าง MAF Sensor ก้อจัดซะเลยครับ เอาผ่าน Contact cleaner ซะหน่อยก้อโอแล้ว



ที่นี้ มาว่านี่กันต่อ Idle Learn

หลังจาก ใส่ขั้วแบตกลับเรียบร้อย ทำตามนี้ครับ

1. แน่ใจว่าปิดอุปกรณ์ใช้ไฟทั้งหมดก่อนครับ แล้ว เสียบกุญแจ บิดไป IG II
2. รอ 2 วินาที หรือจะเอา Sure ก้อ รอจน Engine check light ดับก้อได้ แล้ว สตาร์ท
3. รอ เครื่องร้อนถึงอุณหภูมิใช้งาน หรือจะเหยียบคันเร่ง ไปที่ 3000 Rpm แช่ไว้จนพัดลมความร้อนเริ่มทำงานครั้งนึงก้อตามใจ
4. อันใดอันหนึ่งมาถึงก่อน ก้อจับเวลาได้ครับซัก 5 นาที ปล่อยเครื่องเดินเรียบๆไปนั่นแหละ จนครบเวลา ดับเครื่อง จบข่าวครับ

รอบเดินเบามันจะนิ่งครับ แต่พอออกมาวิ่งอาจจะมีเหวอๆ แรงๆ พุ่งๆ เกินๆบางจังหวะนะครับ
เพราะลิ้นมันยังเปิดเท่าเดิมแต่ได้อากาศมากขึ้น

ขับไปเรื่อยๆ พักนึง หรือ ช่วงวัน 2 วันน่ะ ECU มันจะปรับทริมกลับมาให้ค่าที่ดีที่สุด เรียบเนียนเองครับ คอยเบรคดีๆละกัน



เพิ่มเติม...by jchoomal
เพิ่มเติมให้ในการทำ ECM/PCM Idle Learn Procedure
ในการทำ ECM/PCM Idle Learn ช่างจะต้องทำทุกครั้งเมื่อ
1. เปลี่ยน ECM/PCM.
2. Reset ECM/PCM.
3. Update ECM/PCM.
4. Replace or clean the throttle body.


NOTE: ในการทำECM/PCM Idle Learn ไม่จำเป็นต้องลบข้อมูลก่อนด้วย HDS

ขั้นตอน Procedure

1. Make sure all electrical items (A/C, audio, lights, etc.) are off.
มั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้า อิเล็ทรอนิคส์ อื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ได้ปิดทั้งหมดแล้ว
2. Reset the ECM/PCM with the HDS.
ทำการ Reset the ECM/PCM with the HDS อันนี้ ป๋าทอมทำโดยการถอดแบตออกในระหว่างที่ล้างวาล์วปีกผีเสื้อ
ถือว่าโอเค
3. Turn the ignition switch ON (II), and wait 2 seconds.
บิดสวิตไปที่ ON (II), และให้รอ 2 วินาที
4. Start the engine. Hold the engine speed at 3,000 rpm (min-1) without load (in Park or neutral)
until the radiator fan comes on, or until the engine coolant temperature reaches 90 °C (194 °F).
สต๊าดเครื่องยนต์ เร่งรักษาความเร็วรอบให้คงที่ที่ 3,000 rpm โดยไม่มีโหลด อยู่ที่เกียร P หรือ N
รอจนพัดลมทำงาน หรือรอจนความร้อนเพิ่มขึ้นจนอยู่ที่ระดับปกติที่ประมาณ 90 °C (194 °F).
5. Let the engine idle for about 5 minutes with the throttle fully closed.
แล้วให้เครื่องยนต์รักษารอบเดินเบา ไปจนครบ 5 นาที ในตำแหน่งที่วาล์วปีกผีเสื้อปิดเต็มที่ (จะอยู่ที่ 0-3 องศา)

NOTE: If the radiator fan comes on, do not include its running time in the 5 minutes.
ถ้าพัดลมทำงาน, จะไม่นับเวลารวมใน 5 นาทีนะครับ อันนี้ป๋าทอมไม่ได้บอกไว้

6. Verify on the HDS data list that the idle learn procedure is complete.
ตรวจสอบข้อมูลบน HDS data list ว่าการทำ idle learn ถูกต้องครบถ้วนหรือเปล่า
อันนี้ไม่ต้อง เพราะเราไม่มี HDS แบบศูนย์เขา

แล้วดับเครื่อง จบ ครับ

15 user(s) are reading this topic
14 members, 1 guests, 0 anonymous users
 
Ms_smart, ppopp, sorachais, jaimihan, sk2514, superpiak, olkeyn, jack1srw, nakara, tri, mie, aud, Mahasarakham, chai_racing  
 
คนกันเองทั้งนั้น

บ่ายแล้วกินข้าวกันยังครับ

เปล่าค๊าบ...คือพี่จัดชุดหน้าก๊อปแท้มาจากพี่หนุ่ยน่ะนะ ตะแกรงก็เลยเป็นแผ่นพลาสติกธรรมดา หน้าตาแบบในรูป เอามาแปะไว้ใให้เหมือนเฉย ๆ ครับ
 

 
 
ต่างจากตะแกรงแท้มาก ตรงที่ตะแกรงแท้จะมีกรอบตามรูป (2 ข้างซ้ายขวา จะราคาไม่แพง ราว ๆ 1750 บาท แต่ชิ้นกลางจะแพงมากอยู่ที่ราว ๆ 12000 บาท ของใหม่)
 
เหตุผลที่ตะแกรงแท้แพงเพราะว่าชิ้นกลางจะมีกรอบที่ยึดกับตัวกันชน และแผ่นด้านล่างยึดกับตัวถังรถอีกที ทำให้แข็งแรงขึ้น
 

 
เวลาเอาตะแกรงแท้ไปใส่ ต้องทำหูยึดกับกันชนใหม่ครับ ไปทำที่ร้านมา (อันนี้ขอหลังไมค์ เรื่องราคา) ผลงานออกมาดังรูป เหมือนเป๊ะ
 

ถอดเบาะหลังด้วยตัวเอง...By..Meaw-Rx
 
 
ดูที่ 1 ครับมีน๊อต 2 ตัว ใช้ประแจ block ที่ยาวหน่อยลงไปขันครับ
 
กิ๊บที่เลข 2 มี 2 ตัว ให้ดึงไปข้างหน้า (ตามแนวลูกศร) ครับ แล้วค่อยๆยกขึ้น
 

ช่วงนี้ เก็บเล็กผสมน้อยไปก่อน
ครอบเกียร์ใหญ่ + เพลทนับเบอร์ type R ไฟเบรค LED ดวงที่ 3 พลาสติกลำโพงหลัง Type R มีที่ล็อคเบาะเด็ก เก๊ะเก็บของฝั่งคนนั่ง Type R + พลุ LED พลาสติกครอบฐานพวงมาลัย Type R (มีปั้มสัญญาณไฟสูง-ต่ำ)
ฝากรูปวิวสวยๆในจุฬา ที่ทำงานผมด้วยครับ  
ขอบคุณที่ติดตามกัน

พอดีหลังจากที่ผมขันแรงเกินไปจนน๊อตมันขาด 5555
เลยทำวิธีเปลี่ยนง่ายมากๆมาให้ดูกันคับ ทำเองไม่เสียอะไรเลย ให้ศูนย์ทำเค้าตีราคามา 440 บาทกับแค่น๊อตตัวเดียว(ของผม2ตัว)
 
เริ่มจากอุปกรณ์ที่ใช้ก่อนน่ะคับ
1. ตัวTเบอร์10 สั้นๆหน่อยนะคับ หรือถ้าใครมีเป็นด้ามปล๊อคก้ได้คับ
2. ประแจเบอร์ 14
 
นี่คือรหัสตัวน๊อตที่เบิกจากศูนย์คับ
1. น๊อตตัวที่ยึดกับเครื่อง(ตัวผู้)

 
2. น๊อตตัวเมียนะคับ (อันนี้ถ้าใครน๊อตตัวผู้ไม่ได้ขาดคาก้ไม่ต้องใช้นะคับ )

 
เริ่มกันเลยคับ
 
ขั้นแรก ถอดแผ่นกันความร้อนจากเฮดเดอร์ออกด้วย T เบอร์10 คับ 2ตัว

 
ถอดออกมาแล้วจะเหลือแค่นี้คับ

 
จากนั้นถอดตัวคอยล์หัวเทียนออก

 
จากนั้นใช้ประแจเบอร์ 14 ขันที่ตัวน๊อตยึดคอยล์ออกเลยคับ

 
เอาออกได้แล้วก็เอาน๊อตตัวใหม่ใส่เข้าไปแล้วขันให้แน่นเลยคับ

 
แค่นี้เองคับ ที่เหลือก็ย้อนขั้นตอนกลับแค่นั้นคับผม

รายงานตัวขอเป็นลูกเรือด้วยครับนายหัว

ขอบคุณมากครับป๋า รอแผงประตูนะครับ ขอผมบวม ฉีกล่ะ

เสร็จแล้วคับ ได้ถุงเกียร์ ที่พักแขนหนังกลับสีดำ มาที่ราคา 200 บาท หนังเหลืออีกครึ่งเมตรกันเลย 
 
หวังว่าจะเป็นแนวทางแต่งรถ ง่ายๆ ประหยัดๆ ในยุคเศรษฐกิจพอเพียงนะคับ 
 
 

 
ตอนแรกว่าจะไปจ้างร้านหนังทำใหม่ แบบดำด้ายแดง 
 
แต่ใช้มานี่ ผมว่า ดำล้วนๆ ก้อดูเรียบดีคับ  ถ่ายด้วยกล้องมือถือ + แฟลช สีหนังอัลคันทาร่ามันจะเพี้ยนๆ สะท้อนไปหน่อย 
 
ผมว่าเอาบวมๆพองๆออกไปแล้วนี่ สบายตาคับ 

คงต้องเปลี่ยนชื่อห้องเป็น "สี(น้ำ)เงิน Gangster" แล้วมั้งครับ อิอิ เจ้าสำนักหายไป 

ก่อนอื่นขออนุญาติเจ้าของกระทู้เก่าจาก CFDT ด้วยนะครับ ขออนุญาตินำมาแชร์ความรู้นะครับ ผิดถูกขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
 
D.I.Y. เปิดฝาครอบวาล์ว ปรับตั้งระยะห่างวาล์ว, หลังจากหาข้อมูลสักพัก+หงุดหงิดกับศูนย์ เลยลองทำดูครับแบบงูๆปลาๆ BY..xyz
 
สืบเนื่องมาจาก fd ของผมอายุอานามล่วงเข้า 4 ปี กับอีก 8 เดือน เลขไมล์ก็ 150,000 กว่าๆ แล้ว แต่ยังไม่เคยเช็ค ปรับ ตั้งวาล์ว กับเขาเลย ก็เลยเอารถไปเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการ เช็คปรับตั้งระยะห่าง วาล์วครับ
เข้าไปวันแรก ตอนเที่ยงๆ พนักงานรับรถบอกว่า พี่ต้องทิ้งรถไว้นะครับ เพราะต้องใช้เวลา ผมก็เลยไม่ได้ทำครับ เพราะต้องใช้รถ
เข้าไปวันที่สอง ไปแต่เช้า 9.00 น.ครับ พนักงานถามว่า รถพี่แรงตก วิ่งไม่ออกหรือเปล่าครับ ถ้ายังก็ยังไม่ต้องปรับตั้งก็ได้ครับ
ผมก็ถามเค้าว่า ในคู่มือเขาให้เช็คทุก 40,000 โลนี่ครับ แล้วนี่รถผมก็ตั้ง 150,000 โลแล้วยังไม่เคยปรับตั้งเลยครับ สุดท้ายก็เลย
ได้ปรับตั้งครับ ตอนรอผมก็สังเกตดูว่าช่าง เค้ารอให้เครื่องเย็นประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ทำการปรับตั้ง ประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ ก็เสร็จครับ
นำรถออกจากศูนย์ อ้าว ทำไมมันอืดๆ หว่า กดแล้วไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนเดิม รู้สึกมันตื้อๆ ตอนนั้นก็เซ็งแล้วครับ เพราะทำแล้วแย่
กว่าเดิม ก็เลยมาหาข้อมูล จาก web และตามคลับต่างๆ สุดท้ายเลยลองทำดูครับ ขี้เกียจไปเข้าศูนย์อีกรอบ เพราะว่าคงเหมือนเดิม
 
เครื่องมือก็มีดังนี้ครับ ผมก็ งูๆ ปลา ๆ ไปครับ

ไล่จากทางซ้ายนะครับ ด้ามฟรี, แขนต่อบล็อก, บล็อกเบอร์ 19, ฟิลเลอเกจ ,ตัวทีเบอร์ 10 ,ไขควงปากแบน ,แหวนเบอร์10
ปะเก็นเหลวแบบทนความร้อนสูง(ลืมถ่ายครับ) รวมราคาที่ซื้อประมาณ พันกว่าบาทครับ แพงกับด้ามฟรีครับ
 
หลังจากรอเครื่องเย็นมาหนึ่งคืน ตอนเช้าก็ลงมือ เปิดกระโปรง ถอดแบตขั้วลบ ถอดฝาพลาสติก ivtec โดยการหมุนน็อตพลาสติกให้คลายออก แล้วงัดฝาขึ้นมาครับ
 

 
จะเห็นฝาพลาสติกอีกชั้นหนึ่ง ด้านขวาจะมีท่อที่ต่อมาจาก กล่องกรองอากาศ ก็ถอดออกครับโดยใช้คีมบีบตัวล็อคให้คลาย แล้วดึงออกครับ

 
คลายน็อตที่ฝาพลาสติกใต้ฝาครอบเครื่องออก โดยใช้แหวน และตัวทีเบอร์ 10 ครับ จะมีน็อตอยู่ 4 ตัวครับ
เพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน ถอดแผงรังผึ้งใต้กระจกหน้า และแผ่นเหล็กใต้แผงรังผึ้งออกด้วยครับ

 
หลังจากนั้นจะเห็นรางสายไฟพาดอยู่ครับ ให้ทำการถอดปลั๊กที่ ต่ออยู่กับไดสตาร์ท(ไม่รู้เรียกถูกมั๊ย) ที่มีขดลวดพันคล้ายๆมอเตอร์อ่ะครับ จะมีปลั๊กอยู่ 3 ตัว สองตัวดึงได้เลย แต่อีกตัวต้องเอายางหุ้มออก แล้วคลายน๊อตครับ

 
เสร็จแล้วถอดปลั๊ก หัวเทียนออกครับ เอาน็อตขันบล็อกปลั๊กหัวเทียนออกด้วยครับเพื่อเพิ่มพิ้นที่ในการทำงาน

 
และคลายน็อตที่รางสายไฟ และยกออกโดยหมุนไปทางด้านขวา (หันเข้าตัวรถ) ให้พ้นทางที่จะเปิดฝาครอบวาล์วครับ
เสร็จ แล้วคลายน็อต ฝาครอบวาล์วทั้ง 8 ตัวโดยใช้ ตัวที เบอร์ 10 ยกฝาครอบวาล์ว ออกอย่างระมัดระวัง

 
หมุนพวงมาลัยหักขวาจนสุด ก้มดูจะเห็นรูสำหรับสอด บล็อกเพื่อหมุนเพลาข้อเหวี่ยงครับ

 
นำด้ามฟรีมาต่อกับ ขาต่อ สวมด้วยบล็อกเบอร์ 19 สวมที่เพลาข้อเหวี่ยงโดยหมุนตามเข็มนาฬิกา
สังเกตที่เฟืองขับ โซ่ราวลิ้น จะมีเครื่องหมาย UP โดยหมุนจนเครื่องหมาย UP อยู่ด้านบนสุดและ ขีด TDC (Top dead center)อยู่ระดับเดียวกับขอบของเครื่องครับ

 
ถึงตรงนี้จะทำการปรับตั้งวาล์วไอดี ไอเสียของสูบที่ 1 ครับ จุดสังเกตว่าวาล์วไอดีปิดสุด ไอเสียยังไม่เปิดให้ลองเอามือขยับกระเดื่องกดวาล์วของสูบที่ 1 จะขยับได้ครับ
นำฟิลเลอร์เกจ สำหรับด้านไอเสียผมใช้เบอร์ 0.010 นิ้วสอดเข้าระหว่างกระเดื่องกดวาล์วและวาล์วที่อยู่ตรงกลางสปริง
จากการสอดฟิลเลอร์เกจพบว่า สอดเข้าไม่ได้ครับ เลยลองเบอร์ 0.009 นิ้วก็ยังเข้าไม่ได้ แสดงว่าศูนย์ตั้งวาล์วมาให้ผมไม่ดีวาล์วไอเสียสูบ 1 ยัน
จากนั้นทดสอบด้านไอดีโดยใช้เบอร์ 0.008 นิ้ว ปรากฎว่าสอดเข้าไม่ได้และลองเบอร์ 0.007 ก็ไม่ได้เช่นกันครับ
เลยทำการปรับตั้งวาล์วทั้งไอดี ไอเสียใหม่ให้ได้ระยะห่างตามสเป็กที่กำหนด ไอดี 0.007-0.009 ไอเสีย 0.009-0.011 นิ้ว (ขอบคุณข้อมูลจาก civicfdthailand ครับ)

 
โดยวิธีการปรับตั้งก็ให้คลายน็อตล็อคตัวปรับตั้งด้วยประแจเบอร์ 10 และใช้ไขควงปากแบนปรับสกรูด้านบนของตัวปรับตั้งโดยให้ระยะพอดีกับฟิลเลอร์เกจเบอร์ที่เราต้องการ

 
เมื่อได้ระยะแล้วก็ทำการล็อกด้วยการขันตัวล็อกให้แน่นด้วยประแจเบอร์ 10 เวลาขันต้องระวังไม่ให้ตัวปรับตั้งเลื่อนด้วยครับ
แล้วก็ทำการเช็คระยะซ้ำอีกรอบ ทำจนครบทั้งสี่วาล์ว
เสร็จแล้วหมุนเพลาข้อเหวี่ยงตามเข็มนาฬิกา ให้เครื่องหมายเลข 3 อยู่ด้านบนสุด และเครื่องหมาย TDC อยู่พอดีกับขอบเครื่อง

 
ทำการปรับตั้งวาล์วไอดี ไอเสีย สูบ 3
หมุนเพลาข้อเหวี่ยงให้เครื่องหมายเลข 4 อยู่ด้านบน เครื่องหมาย TDC อยู่พอดีขอบเครื่อง ปรับตั้งวาล์วไอดีไอเสียสูบที่ 4
 

 

 
หมุนเพลาข้อเหวี่ยงตามเข็มนาฬิกาจนเครื่องหมายเลข 2 อยู่ด้านบน เครื่องหมาย TDC อยู่พอดีขอบเครื่อง ปรับตั้งวาล์วไอดีไอเสียสูบที่ 2 ครับ

 
เมื่อปรับตั้งจนครบทุกสูบแล้ว ก็ใส่ฝาครอบวาล์วกลับตามเดิม โดยทาปะเก็นเหลวที่ยางปะเก็นฝาครอบวาล์วแล้วค่อยๆประกบคืนกับเครื่องครับ

แล้วก็ประกอบทุกอย่างกลับเหมือนเดิมครับ

 
และก็รอลุ้นว่าจะสตาร์ทติดหรือ ไฟเอนจิ้นจะโชว์หรือเปล่า
แต่สตาร์ทติดครับ รอดไปแหะๆ
 
ลองทดสอบวิ่งดูพบว่า ไม่มีอาการตื้อ เหยียบแล้วรอบมาไวไม่อั้นๆ รอบเดินเบาค่อนข้างนิ่งแอร์ตัดรอบนิ่งไม่สวิง
ใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 09.00-14.00น. เลยครับ สำหรับการทำครั้งแรก เล่นเอาปวดหลังเลยทีเดียว
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก civicfdthailand มากครับ

นานนะหัวหน้า เพราะกลัวหลายๆอย่าง กลัวแกะผิด แกะพลาด กลัวช๊อต กลัวใช้น้ำยาผิด กลัวๆ เยอะ หลอน 
 
ทำแต่ละขั้นตอน ก้อเกร็งๆมันจะพัง ไม่ได้เตรียมอะไหล่ไว้ นี่คือวิถี DIY เลย ไปตายเอาดาบหน้า
 
 
ถ้าตอนนี้ทำก้อแป๊ปเดียวละคับ 

แบ่งปันคับบิ๊ก ทำได้จริง ก้อเอามาแชร์ ใครสนใจจะได้มีแนวทาง
 
เราก้อไปหาข้อมูลจากผู้ใจบุญเวบอื่นมาเหมือนกัน
 
ทำได้เอง ประหยัดเงินไปเยอะคับ เปลี่ยนหัวฉีดทีไม่ใช่หลักร้อย 

สุดยอดมากครับป๋า ขอบคุณที่นำความรู้มาแบ่งปันครับ 
 
ผมชอบเข้าห้องนี้เพราะมีคนทำแบบป๋านี้แหละ ชอบครับ ทำเองรื้อเอง จบๆ ไม่เปลืองดีครับ 

แจ๋วเลยคับ 
 
มันเป็นผิวพลาสติกที่เสื่อมลอกน่ะคับ ถ้าเคยปั่นสีผิวรถจะคุ้นเคยมาก ปั่นขนแกะไปโดนนี่กลับมาดำเลย 
 
ใช้กระดาษทรายเบอร์ 1200 ลูบก้อได้คับ แต่ต้องมีพวกน้ำยาพลาสติกทับหน่อยจะดำขลับดีคับ 
 
แต่วิธีนี้ใช้กับแผงจิ้งหรีดไม่ได้คับ ใช้ได้กับผิว trim ที่เรียบๆ อย่างกระจก หลังคานี่แหละ
 
แผงจิ้งหรีดจะทำผิวขรุขระสวยๆมาจากโรงงาน แก้ยาก    
 
เวลาพวกพลาสติกกลับมาดำนี่ รถดูสะอาดขึ้นนะคับ ผมสังเกตหลายทีละ ขัดให้สีเงาขนาดไหน ถ้า trim ด่างๆมันดูยังไงก้อไม่สะอาด

ขั้นตอนการล้างมันมีแค่นี้ 
 
1. อัดน้ำยาไปรอท้ายหัวฉีด   (ถ้าหัวฉีดเสื่อม ขั้นตอนนี้จะมีลม ออกมาจากหัวฉีดเลย เปลี่ยนออกได้)
 
2. กดสวิทช์ เปิดรูหัวฉีด 
 
3. น้ำยาจะพุ่งออกมาเป็ฝอยจนหมด  
 
4. กลับไปขั้นตอนที่ 1 วนไปเรื่อยๆ จนน้ำยาออกมาเป็นหมอก 
 
 
อันนี้เป็นวิธีอัดน้ำยาของผม ก๊อบฝรั่งมา แต่แจ๋วมากคับ ง่ายเลย ไม่ต้องไปหาอะไรมาอัดลม
 
ต่อเสร็จ กดน้ำยาพรืด ทั้งน้ำยาและแรงอัดจะไปรอท้ายหัวฉีดเลย
 
ขั้นตอนนี้ ถ้าอัดมากไปหัวฉีดพุ่งเป็นบั้งไฟนะคับ กดน้ำยาเข้าไปน้อยๆก่อนคับ ลองดู อย่ารีบ 
 

 
 
ง่ายๆคับ ประกอบกลับตามที่ถอดออกมา ถ้าประกอบไม่ดี พอบิดกุญแจปั๊มติ๊กดันน้ามันมา
 
ถ้าใส่ไม่แน่นจะมีกลิ่นน้ำมันตรงนี้แหละ ตรวจสอบง่ายคับ 
 
ตอนใส่กลับเอาน้ำมันเครื่องทาที่โอริงด้วยนะคับ จะใส่ง่าย 
 
ที่ผมลองดูการพ่นของน้ำยาหลังจากล้าง มันฝอยขึ้น จนเป็นหมอกเลยนะคับ  
 
 
ที่เคยได้ยินว่าเติมโซฮอลไม่ต้องห่วง ไม่ต้องล้างหรอกไม่ตันแน่นอน 
 
มันไม่ตันคับ ถูก  แต่น้ำมันมันก้อไม่ได้สะอาด 100% ขนาดนั้น  แรงดันน้ำมันก้อไม่ได้มากมายนะคับ ไม่ใช่ดีเซล 
 
โอกาสที่สิ่งแปลกปลอมเล็กๆไปจับตัวได้ มันก้อมี โอกาสฉีดแล้ว ฝอยมันไม่ละเอียดดี มันก้อเยอะ  
 
พอน้ำยา+แรงดันมากๆหน่อย มากัด มาอัดมันออก มันก้อกลับมาใช้งานได้ดีมากๆ เหมือนเก่าคับ 
 
ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะทำคนเดียว มันต้องจับหัวฉีด กดสวิทช์ ถ่ายยาก   เอาว่าฝอยมันละเอียดขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหมอกเลย เห็นแล้วชื่นใจ 
 
อัตราเร่งยังไม่ได้ลอง แต่รู้สึกว่าคัเร่งมันติดๆเท้าดีขึ้นคับ ไม่อุปทานแน่นอน เพราะรำคาญมันมาเป็นอาทิตย์แล้ว

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมครับ

เห็นรถตัวเองหลังจากทำสีครั้งแรก ผมอุทานเลย

" นี่ รถ กรู เหรอ วะ เนี่ย! " 
 

ทำสีเรียบร้อยแล้วครับ เหมือนได้รถคันใหม่ 


เก็บและแก้งานรายละเอียด สายฟงสายไฟ สัญญาณไฟ
จากการประกอบร่างให้เรียบร้อย
แล้วก็เปลี่ยนฝาคาร์บอนบานใหม่ (มือสองได้จากรุ่นน้อง)



ตามด้วยเบลท์ Takata
ห้อยไว้ถ่ายรูปเฉยๆ ไม่ได้ใช้งานจริงครับ 555

 

ปีนี้คง งบหมดเท่านี้ คงหาวิวสวยๆ ถ่ายรูป 
แล้วก็อยู่ชมรมคาร์แคร์ ยาวๆเลยครับ    


 

ผมมีวิธีให้รถลื่นๆ พุ่งๆ อีกนะคับ 
 
ใครได้ทำอะไรแล้วต้องถอดแบตนานๆ แล้วต้องทำ idle ตอนจบงาน ลองวิธีนี้ดูนะครับ รับรองพุ่งปรี๊ด 
 
ก่อนทำ Idle ให้เตรียมการดังนี้ 
 
1. ถ้าใช้กรองแต่งแบบแผ่น ให้ถอดออก แล้วใส่กรองเดิม+กรองอากาศ3M ไว้ด้านล่าง หรือจะผ้าเช็ดหน้าอะไรก้อตามสะดวก ให้อากาศมันเข้ายากขึ้นนิดๆ
 
2. มีกราวไวหรืออะไรก้อตามให้ปลดให้หมด แค่นี้แหละ แล้วสตาร์ทได้เลย 
 
ขณะทำ Idle 
 
1. สตาร์ทเสร็จ ไปเดินเล่นเลยครับ ไม่ต้องมากด 3000 รอบ ปล่อยให้เครื่องมันดูดอากาศเอาเอง ตั้งแต่ 1200 ลงมาจน 750 
 
2. พอซัก 15-20 นาที มันจะได้ 96-100 องศาแล้วพัดลมทำงานเซตค่า ถือว่าจบ พอละ 
 
3. ถ้าเรามีตัววัด ลองดูค่านะครับ ตั้งแต่ 80-100 องศา นี่เครื่องจะรักษารอบมากๆ แกว่งที่ 744-755 กันเลยเรียกว่าเรนจสั้นมาก นิ่งมากๆ 
 
หลังจาก Idle เสร็จ รอสักพักให้เครื่องเย็น 
 
1. เปลี่ยนกรองกลับ  ใส่สายอะไรก้อตามที่มี 
 
2. ถอด MAF มาฉีดล้าง 
 
3. ถอดหัวเทียนมาเช็ดๆขัดๆ ถ้าได้หัวปั่นแบบเส้นทองเหลืองบางๆ จะเวอคมาก ผิวโลหะเขี้ยว หัวเทียนนี่จะสะอาดสุดๆ  ระวังอย่าให้โดนตัวเข็มนะคับ
 
 
หลังจากนี้ ใช้งานตามปกติ รถจะเบามากๆ ใช้งานมีความสุขไปได้เป็นเดือนๆนะครับ ก่อนมันจะถัวๆค่าใหม่จนกลับมาอืดๆ ประหยัดเหมือนเก่า 
 
แอร์ตัดรอบตกนี่ลืมไปเลย ได้ยินแต่เสียง    ลองจำไปใช้ดูคับ ผมทำมาได้ 2-3 ครั้งละ ได้ผลดีคับ
 
ไม่มีอะไรพิสดาร ทำเหมือนเดิมเพียงแต่จัดขั้นตอนใหม่ ปกติเราชอบทำทุกอย่างให้สะอาดให้เป๊ะ แล้วให้มันเรียน มันจะได้ค่าเทพไปจำ
 
พออุปกรณ์มันเริ่มสกปรก เพอฟอแม้นมันก้อดรอปเลยทีนี้ 
 
แต่ถ้าให้มันเรียนตอนค่าอุปกรณ์สกปรก ตามการใช้่งานปกติ  มันจะได้จำค่านั้น  พอได้อุปกรณ์สะอาดๆ มาแทน  คราวนี้พุ่งปี๊ดๆ 

เอาเทปเดินแนวก่อนคับ เอาเส้นบางๆ ไม่เหนื่อยมาก
 
เส้นหนา แกะทีมีมือพองคับ 
 
อ้อ เอาซิลิโคนสีที่ไม่ขาวจะดูดีกว่าครับ  เช่นเงิน หรือ เทา เข้ม
 
ขาวนี่แรกๆจะเนียน สักพักขาวจะหม่นคราบดูสกปรกคับ

ถ้าเอาแบบใส ก้อไปหาขอบตู้ปลาดูเลยคับ ประมาณนั้น