Jump to content

ฝาหม้อน้ำ แตก หลังจากใช้งานมา 248000 KM


Recommended Posts

          เรื่องม่อยู่ว่า เมื่อวานตอนขับรถกลับบ้านรู้สึกว่าอุณหภูมิหม้อน้ำสูงขึ้นกว่าปรกติที่เคยขึ้นมาเล็กน้อยอยู่ประมาณ 1-2 องศา ผมดูจาก app android ที่ใช้ OBD2 Bluetooth อ่านนะครับ พอมาถึงบ้านก็เปิด ฝากระโปรงเช็คน้ำในหม้อพักน้ำก็ขึ้นมาสูงเหมือนทุกๆวัน ก็ไม่ได้สนใจอะไร

          พอมาตอนเช้าเปิดฝากระโปรงรถเพื่อตรวจน้ำในหม้อพักน้ำอีกที่ว่าลดลงไปตามตำแหน่งที่เคยหรือเปล่า ปรากฏว่าน้ำในหม้อพักยุบลงไปมากกว่าเดิมตอนที่เครื่องเย็นมาก เลยเปิดฝาหม้อน้ำเพื่อเช็คดูว่าซีลฝาหม้อน้ำผิดปรกติไหม เลยเจอภาพดังรูปครับ

snd_1.jpg

งานเข้าแล้วครับ ก็เลยลองถอดท่อหม้อน้ำมาเช็คดูว่ามันค้างในท่อไหม  ตามรูปครับ

tvc_2.jpg

      ก็เลยลองติดเครื่องดูว่าทิศทางการไหลวนของน้ำมันไหลไปไหน คือว่าการติดเครื่องนี้ผมถอดท่อหม้อน้ำออกแล้วนะครับเฉพาะท่อนบนนะครับและลองติดเครื่องแล้วรีบดับเครื่องทันทีจะเห็นว่าน้ำไหลออกจากฝาสูบเข้าท่อด้านบนของหม้อน้ำ โล่งใจไปได้เปราะหนึ่งครับ คือเศษ สปริงกับพลาสติกที่หลุดจากฝาหม้อน้ำไม่ได้เข้าไปในฝาสูบแน่ๆ เลยจัดการถอดหม้อน้ำออกมา แล้วฉีดน้ำไล่เศษฝาหม้อน้ำให้ออกมา ดังรูปครับ

0qh_4.jpg

 

      ไชโย +++++ ออกมาแล้วครับ

zdw_5.jpg

     อันนี้สปริงนะครับ

7af_6.jpg

     อันนี้โอริงกับวาวดันน้ำย้อนกลับครับ

 

       เสร็จแล้วเลยจัดแจงล้างหม้อน้ำซะทีเดียวเลยครับ

hkf_7.jpg

    แล้วก็ขี่รถมอร์เตอร์ไซค์ ไปซื้ออะไหลมาเปลี่ยน

i12_8.jpg

      ได้มาแล้วครับ

eu7_9.jpg

     แล้วรีบจัดแจงประกอบเข้าที่เดิม ลองสตารท์รถดู งานเข้าอีกแล้วครับ ไฟเอ็นจิ้งขึ้นครับ ซวยละคราวนี้ พอดีผมมี OBD2 Bluetooth เลยจัดการ scanดูว่าเป็นอะไร ผลออกมาตามรูปครับ

dm_10.jpg

code_1.jpg

      น่าจะเกิดจากผมไปถอด sensor tempที่อยู่ใต้หม้อน้ำออกมา แล้วบังเอินไปเปิดกุญแจon ไว้ทำให้ecuไม่เจอ sensor ก็เลยรีบลบโค้ดซะเรียบร้อย

j3_11.jpg

       .กลับมาใช้งานได้ปรกติแล้วครับ

 

 

สรุปว่า ฝาหม้อน้ำที่ติดมากับรถ นั้นควรที่จะมีการเปลี่ยนใหม่ น่าจะทุกๆ 100,000 KM น่าจะปลอดภัยนะครับ

ราคาฝาไม่ได้แพงมากมายครับ ผมเบิกศูนย์มา 462 บาทรวมvat แล้วครับ

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณมากครับ จขกท มีการตรวจสอบ สังเกตที่ดี ในการใช้รถ อาการรถ

 

แก้ปัญหาได้เองด้วย น่าชื่นชมครับ ขอบคุณสำหรับการแชร์ข้อมูลครับ

Link to comment
Share on other sites

งานเข้าเลยพี่หมี เมื่อวานผมเพิ่งปรึกษาเรื่องเปลี่ยน Coolant กับพี่อยู่เลยนะ ไหนกลายเป็นรถพี่ต้องเปลี่ยนก่อนผมซะงั้นอะ งานนี้ถ้าเป็นคนที่ไม่ทันได้สังเกตความผิดปกติของรถ มีงานยาวแน่เลย ODB2 นี่ก็ช่วยได้เยอะเลยที่เดียวเตือนก่อนเกทของรถจะขึ้นไป 10 ขีดซะอีก  แถมรื้อแก้ไขเองอีกด้วย ขอบคุณข้อมูลดีๆ ที่นำมาลงแชร์ให้เพื่อนๆสมาชิกได้สังเกตรถตัวเองกันนะครับพี่ :0146:

Link to comment
Share on other sites

ผมคิดว่า น่าจะค้างอยู่ในหม้อน้ำนะแหละครับ ช่วงท่อนบน เพราะรูครีบหมเอน้ำทันเล็ก คงไม่ลงไปด้านล่างได้ แค่ถ้าทิ้วไว้นานอาจะเปื่อยแล้วไปอุดในช่องใดช่องหนึ่งของหม้อน้ำได้นะครับ แต่ตัวสปริงมันเป็นสแตนเลส ถ้ามันเขย่าในหม้อน้ำมากๆอาจบาดช่องครีบด้านในจนทะลุได้ครับ แต่คงใช้เวลานานครับ

เพื่อป้องกันไว้ก่อน ควรที่จะเปลี่ยนที่ทุกๆ 100,000km

Link to comment
Share on other sites

ของผม 260,000 ละ คงต้องหมั่นเช็คมากขึ้น

ถอดหม้อน้ำยากมั้ยครับ มีขั้นตอนยังไงบ้างครับ

อีกนิดครับที่บอกว่าอุณหภูมิสูงขึ้นมันขึ้นไปอยู่ที่เท่าไรเหรอครับ ปกติของผมอยู่ที่ 88-90 C เผื่อจะได้เป็นแนวทางในการสังเกต

ขอบคุณครับ

Link to comment
Share on other sites

เรื่องถอดหม้อน้ำไม่ยากครับ โดยแผ่นปิดกระจังหน้าออกก่อน ผมลืมถ่ายเอาไว้

แล้วก็ถอดคานล็อคฝากระโปรงหน้าออกเลยครับมีน็อตข้างละสี่ตัว เบอร์ 10 ทั้งหมดเลย แต่จะต้องแกะกริ๊ปล็อคสายไฟที่อยู่ตรงคานออกด้วยครับ มันลั้งคานไว้

ใช้ไขควงปากแบนตัวเล็กๆค่อยๆแงะออก พอถอดคานออกมาแล้วจะพบทางสว่างเลยครับ

kvji7.jpg

เสร็จแล้วให้ถอดพัดลมหม้อน้ำก่อนนะครับ แล้วจะยกหม้อน้ำออกมาอย่างสบายครับ ใต้หม้อน้ำจะมีสายเซ็นเซอร์ความร้อนอีกเส้นนะครับระวังถอดออกแล้วลืมใส่คืน

 

ฝาหม้อน้ำ ถ้าเกิน 200,000 km แล้วอันตรายครับ ควรรีบเปลี่ยนนะครับ พลาสติกมันกรอบได้ แล้วยิ่งมีสปริงมาช่วยผลักอีก

 

วิธีการสังเกตุ ถ้ามี gauge วัดความร้อนแบบติดตั้งต่างหาก หรือมี obd2  bluetooth scaner แบบดูผ่าน smartphone ก็จะเห็นค่าอุณหภูิที่ละเอียดกว่าหน้าปัดรถครับ

ของผมสังเกตุสองจุดครับ

   1. ดูที่ obd2  bluetooth อุณหภูมิขึ้นไปที่ 92-93 C ถ้าปิดแอร์วิ่งมันจะขึ้นไปอีกแถวๆ 96 C

   2. ดูที่หม้อพักน้ำจะมีคราบน้ำยาที่ฝาปิดและน้ำที่หม้อพักขณะเครื่องเย็นแล้วจะยุบลงเรื่อยๆทุกวัน เนื่องจากวาวที่ฝาหม้อน้ำไม่สามารถควบคุมแรงดันในหม้อน้ำได้

ทำให้สูญเสียน้ำไปเรื่อยๆ

Link to comment
Share on other sites

หลักการทำงานของฝาหม้อน้ำ

 

iwyyr.jpg

 

โดยที่หลังจากที่เครื่องยนต์ติดเครื่องแล้วนั้น ลูกสูบทำงานของมันคือการเผาไหม้เชื้อเพลิงตาม Cycle ของมัน ก็จะเกิดความร้อนขึ้นภายในฝาสูบและเสื้อสูบ จนถึงอุณหภูมิหนึ่งที่วาว์ลน้ำเปิดให้น้ำร้อนไหลออกมาที่หม้อน้ำ โดยน้ำร้อนจะออกมาเข้าที่ด้านบน ตามหลักน้ำร้อนเบากว่าน้ำเย็น น้ำเย็นก็จะเข้าไปในเครื่องยนต์แทนน้ำร้อนที่ออกมา 

แน่นอนว่าน้ำร้อนที่ออกมาจากเครื่องยนต์ ย่อมเกิดการขยายตัวจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและตามมาด้วยแรงดันที่เกิดจากการขยายตัวของน้ำ ซึ่งเจ้าแรงดันที่ว่ามันก็สามารถทำลายอุปกรณ์ภายในของระบบระบายความร้อนของเราให้ได้รับความเสียหายได้เช่นกัน จึงต้องทำการลดแรงดันที่สูงนั้นออกไปตามสเปคของฝาหม้อน้ำ ที่ขึ้นอยู่กับผู้ผลิดว่ามีแรงดันที่เท่าไหร่ 

แรงดันก็จะเอาชนะสปริงวาว์ลให้ยุบตัวแล้วน้ำร้อนที่มีแรงดันสูงก็จะถูกถ่ายออกไปเก็บไว้ที่หม้อพักนั้นเอง หลังจากนั้นเมื่อน้ำที่อยู่ในหม้อน้ำได้ถูถระบายความร้อนออกไปหรือเครื่องยนต์หยุดทำงาน แน่นอนว่าความร้อนย่อมลดลงและน้ำร้อนที่เคยขยายตัวก็หดตัวลงทำให้เกิดช่องว่างขึ้นภายในหม้อมน้ำเกิดเป็นศูนย์ญากาศขึ้น ก็จะมีแรงดูดไปดึงวาว์ลตัวเล็กๆที่เห็นไปดูน้ำจากหม้อพักกลับมาที่เดิมเพื่อรักษาระดับน้ำในหม้อน้ำ ไม่ให้น้ำขาดซึ่งจะมีปัญหาความร้อนขึ้นโดยที่เกจความร้อนของเราที่หน้าปัดเราอาจจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็ได้เพราะ ว่าเซ็นเซอร์ที่ใช้วัดอุณหภูมิอาจไม่สัมผัสกับน้ำ ทำให้การวัดคลาดเคลื่อนได้ 

จากที่ว่ามาทั้งหมดน่าจะพอเข้าใจได้บ้างว่า ฝาหม้อน้ำมีความสำคัญขนาดไหน ซึ่งต้องควรดูแลตรวจสอบให้อยู่ในสภาพดี ยิ่งรถใช้ไปนานๆก็อาจจำเป็นต้องตรวจสอบและสังเกตุความผิดปรกติ ของระดับน้ำที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือแม้แต่ท่อน้ำก็สามารถบอกอะไรเราได้ ว่าเกิดสิ่งผิดปรกติขึ้นบ้าง เช่น ท่อน้ำบีบตัวลงหรือแฟบลงนั่นเอง ซึ่งนั้นอาจจะบอกเราว่าเกิดภาวะศูนย์ญากาศในระบบเราแล้ววาว์ลดูกลับอาจไม่ทำงาน และน้ำในหม้อพักมีระดับสูงกว่าปรกติ ควรแก้ไขทันทีเป็นต้นครับ

 

credit จาก http://thaioverdrive.blogspot.com/2011/02/radiator-cap.html

Link to comment
Share on other sites

ผมแจมหน่อยละกันคับ  สปริง พลาสติกฝา เค้าออกแบบขนาดมารองรับกันคับ ไม่ให้เข้าไปในท่อรังผึ้งอยู่แล้ว 

 

พลาสติกแตกจะลอยคับ สปริงจะมีขนาดใหญ่กว่ารูท่อ  เวลาขาดจะหลุดเป็นยวง ไม่ได้แตกละเอียดคับ สามารถทำแบบ จขกท เอาออกมาได้โดยง่ายคับ  :D

Link to comment
Share on other sites

ครับผม ถูกต้องตามพี่ tommie ครับ แต่ผมกังวนเรื่องความร้อนของน้ำในหม้อน้ำมันจะต้มพลาสติกไปเรื่อยๆครับ ทิ้งไว้นานๆมันจะเปื่อยเป็นเศษเล็กๆได้ครับ แต่คงใช้เวลา

ส่วน สปริง ผมเป็นห่วงเวลามันกลิ้งไปมาอยู่บนช่องของหม้อน้ำ อาจจะทำให้รูของครีบหม้อน้ำด้านในมีปัญหาได้อะครับ

 

ผมยกตัวอย่าง ถ้าเราเอาพลาสติกกับสปริงใส่กาต้มน้ำแล้วต้มทิ้งไว้ทุกวันเป็นเดือนๆพลาสติกมันก็จะเป็นขิ้นเล็กๆได้ ผนังกาต้มน้ำก็จะมีลอยเสียดสีของสปริงได้นะครับ

Link to comment
Share on other sites

ของผมชิ้นนี้มันหลุดคาอยู่ในหม้อน้ำยังไม่ได้เอาออกเลย  :(

 

7af_6.jpg

 

ไปสำนักพุทธบูชาสิ

Link to comment
Share on other sites

ลองขีดดูครับ เดือนละครั้ง ถ้าวิ่งปกติ มันแทบจะไม่ลด คือลดลงนิดนึงคับ นิดเดียวจริงๆ

 

เพราะ จุดเดือดของน้ำยามัน 115 C เวลาหม้อน้ำระบายออกมา มันยังไม่กลายเป็นไอ

 

แต่อาจมีระเหยไปได้บ้างเพราะมันเป็นของเหลวคับ 

Link to comment
Share on other sites

  • 3 months later...

ขอขุดกระทู้หน่อยนะคับ

 

อยากทราบว่ามีวิธีดูว่ามันยังดีอยู่หรือยังใช้ได้อยู่ ไหมเอ่ย พอดีรถผมปี 06 ก็8เกือบจะ 9 ปีแล้ว แต่วิ่งแค่ 8 หมื่นกว่าๆเองอะครับ คือระยะมันไม่ได้ แต่ใช้มานานแล้ว แล้วอีกอย่างน้ำยาหม้อน้ำไม่เคยเปลี่ยนด้วยอะครับ ควรเปลี่ยนตอนไหน ยังไงดีคับ 

 

นี่เป็นสภาพฝาตอนนี้ครับ ตรงปลายมันเวลาคว่ำฝาลงมันยืดๆแล้วขยับๆได้นี่ปกติรึเปล่าครับ 

image-EDFB_549C2349.jpg

Link to comment
Share on other sites

ดูง่ายคับ ขยับ ไม่ขยับ อย่าไปซีเรียส มันจะส่งผลตอนมันทำงานซึ่งเราไม่เห็นหรอก

 

1. บิดเปิดออกมา ถ้ามันยังครบ 32 ก้อผ่านไป ปิดกลับไปได้

 

2. หมั่นสังเกตดูน้ำในหม้อพัก ตอนจอดใหม่ๆ และตอนเช้า

ถ้ามีการคาย ดูด ตามอุณหภูมิมันเองก้อผ่านไปเหมือนกัน

 

แค่นี้คับ ถ้ามันเสื่อมจะมีล้นหม้อพักซักวัน เพราะน้ำที่ออกมาหม้อพักจะกลับไม่ครบ

 

สะสมจนล้น จะแตกหักบิ่นยังไง มันจะมีรูออกที่ปิดไม่ได้อยู่รูนึง ที่ระบายออกมา

 

ไม่ต้องกลัวหม้อน้ำระเบิด ดูแค่มันกลับหรือเปล่าก้อพอคับ

Link to comment
Share on other sites

อ่อออ นึกภาพตามแล้วเห็นภาพเลยคับพี่ทอม 5555

 

ตอนนี้มันดูดเข้าออกปกติเลยคับ เพราะผมขีดเส้นที่หม้อพักเอาไว้ตอนเวลาเครื่องเย็นลงมาที่ผมขีดพอร้อนก้ขึ้นไปที่ขีดไว้ ปกติเลยคับ

ผมชักเสียวๆจะเป็นแบบ จขกท และพี่ๆหลายคนที่มันขาดแล้วลงไปในหม้อน้ำเลย เดี๋ยวสงสัยพอครบแสนโลจะเปลี่ยนทั้งน้ำยากับฝาไปเลยดีกว่า

 

สอบถามอีกอย่างคับ แล้ววาวร์น้ำส่วนมากเค้าเปลี่ยนกันกี่ กม. หรอคับ

Link to comment
Share on other sites

จะเปลี่ยนทุก 1 กิโล ก้อได้คับ ตามแต่ทรัพย์ที่มี   :D

 

ผมใช้มาจนบัดนี้ยังไม่เคยเปลี่ยน อุณหภูมิน้ำยังขึ้นลงตามอุณหภูมิทำงานปกติที่ควรจะเป็น 

 

ผมว่า ลองถามตัวเองก่อนว่า ทำไมถึงอยากเปลี่ยนวาล์วน้ำ เปลี่ยนเพราะมันเสีย หรือ อยากเปลี่ยนเพราะกลัวเสื่อม 

 

 

คำถามอีกข้อคือ จริงๆแล้ว ถ้าเสื่อมมันจะมีอาการอย่างไร ส่งผลกับรถอย่างไร ไม่เปลี่ยนเป็นอะไรมั๊ย ควรตอบตัวเองให้ได้ก่อน  :D

 

หากจะเปลี่ยนตามเค้า ตามเค้า ไปเรื่อยๆ มันไม่ได้อะไรคับ เสียเงินโดยใช่เหตุ เสียรถ รื้อไปรื้อมา  :lol:

 

ไม่ได้กวนนะคับ แค่ไม่อยากให้ panic เกินไป ไม่งั้นได้ฟังอะไรมา จะเปลี่ยนออกทุกอย่าง เปลืองเงินตายเลย

 

ของใหม่ที่ใส่เข้าไป ใช่ว่าจะดี 100% ของทุกล๊อตมี defect ทั้งนั้น   ของเดิมถ้ามันดีอยู่แล้ว ก้อใช้งานมันให้คุ้มดีกว่าคับ  :D

Link to comment
Share on other sites

แจ่มครับบบ

Link to comment
Share on other sites

  • 4 months later...

ผมอัพไว้หน่อยนะคับ โดนเหมือนกันเมื่อเช้า  :D

 

เดี๋ยวพรุ่งนี้ได้เวลางัดบ้างละ 

 

 

944be800675e8fcc710a9bed86be97ab.jpg

Link to comment
Share on other sites

ผมโดนมาเหมือนกันเมื่อเดือนที่แล้ว ความร้อนขึ้นนิดหน่อย 

แต่น้ำในหม้อพักสำรอง 2 -3 วัน หายหมด 

Link to comment
Share on other sites

  • 2 weeks later...

กระทู้ความรู้ดีๆ เลยครับ ส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไปจริงๆ  ของคุณ Tommie ที่เพิ่งขาดนี่ใช้มาได้กี่ กม แล้วครับ ผมนี่เดี๋ยวต้องกลับไปเปิดดูเลยนะเนี่ย

Link to comment
Share on other sites

กระทู้ความรู้ดีๆ เลยครับ ส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไปจริงๆ ของคุณ Tommie ที่เพิ่งขาดนี่ใช้มาได้กี่ กม แล้วครับ ผมนี่เดี๋ยวต้องกลับไปเปิดดูเลยนะเนี่ย

ของพวกนี้วัสดุเสื่อมคับ เอาแน่นอนลำบาก

 

ถ้าใช้แกสหรือที่พวกความร้อนสูงบ่อยๆเช่นรถติดประจำ

 

เปลี่ยนซัก 6-7 ปีคับ ของผม 9 ปี แสนห้า พึ่งจะเปิดดู

 

อาจจะขาดนานล้ว ไม่ได้ดู ดูแต่น้ำหม้อพักเอา

Link to comment
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
×
×
  • Create New...