Jump to content

เครื่อง 2.0 ปี 07 เข้าเกียร D รถกระชากแรงมาก


Recommended Posts

รบกวนถามพี่ๆหน่อยครับ

รบผมเครื่อง 2.0 ปี 07 วิ่งประมาน 2 แสน กม

มีอาการประมาณ 3-4 เดือนแล้วที่ตอนเครื่องเย็น (จอดทิ้งไว้เกิน 6 ชม)

เข้าเกียรเดินหน้า เกียร D รถมีอาการกระชากแรงมากๆ ขนาดเหยียบเบรคจนมึดช่วยแล้วก็ยังกระชากแรงมาก

จนมาถึงวันนี้เข้าเกียร D แต่รถรอประมาณ 5-10 วินาทีถึงจะออกตัวได้

อาการนี้แก้ไขยังไงครับ แนะนำหน่อยครับ

 

ปล. ลองเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว อาการไม่ดีขึ้น , ยางแท่นเครื่องปกติ , ลิ้นปีกผีเสื้อไม่ได้ล้างมาประมาณ 1 แสน กม (แต่รอบเครื่องปกติ ไม่มีสวิง)

Link to comment
Share on other sites

ขอโทษครับ พิมผิด น้ำมันเกียรลองถ่ายแล้วครับ อาการไม่ดีขึ้น ถ่ายตอน 4 เดือนที่ผ่านมาครับ

Link to comment
Share on other sites

กรองน้ำมันเกียร์ เคยเปลี่ยนมาบ้างหรือเปล่าครับ

 

ช่วงต้นปี รถผมมีเสียงครืดดังมาจากห้องเครื่อง ตอนเปลี่ยนจากเกียร์ R ไปเกียร์ D เวลาถอยรอออกกจากบ้านตอนเช้า

หลังจากเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ อาการดีขึ้นครับ (ตอน 120,000 km) ส่วนน้ำมันเกียร์เปลี่ยนตามระยะอยู่แล้ว

Link to comment
Share on other sites

กรองน้ำมันเกียรไม่ได้เปลียนอะครับ

 

ตอนเครื่องเย็น เข้าเกียรเดินหน้ารถจะกระชาก

แต่ถ้าเข้าเกียรถอยหลัง ปกติ ครับ

Link to comment
Share on other sites

ยางแท่นเครื่องมี 4 ตัวครับ หนึ่งในนั้นเป็นยางแท่นเกียร์ และอีกอย่าง ถึงไม่ขาดให้เห็น แต่ถ้ามันแข็งจนหมดสภาพแล้วก็อาจมีปัญหาได้ครับ

 

แต่ส่วนตัว กลัวว่าเกียร์มีปัญหาแล้วครับ จากที่บอกว่าเข้าเกียร์แล้วต้องรอ 5-10 วินาทีถึงยอมวิ่งน่ะครับ

Link to comment
Share on other sites

ครับขอบคุณมากครับ แต่เมื่อเวลาเครื่องร้อน อาการนี้ไม่เป็นเลยอะครับ ไม่กระชาก เข้าเกียรและออกตัวปกติ อันนี้น่าจะเกี่ยวกับอะไรครับ

Link to comment
Share on other sites

รถผม จะสองแสนโล วิ่งพอๆกัน
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกสามหมื่นโล กรองเกียร์ยังไม่เคยเปลี่ยน ลิ้นปีกผีเสื้อยังไม่เคยล้าง ยังปกติ  

 

ถ้ายางแท่นเครื่อง ยางแท่นเกียร์ และกระดูกหมาใต้ท้องรถ ยังปกติ เกียรืน่าเป้นห่วงแร่ะ 

 

อาการ ตอนเพิ่งสตาร์ทหรือตอยเครื่องเย็น เข้าD แล้วไม่วิ่ง หรืออืดๆไม่มีแรง และถ้าร้อนแล้ววิ่งปกติ มันแสดงถึงเกียร์ เริ่มจะมีปัญหา 
แอคคอร์ดเพื่อนผมอาการแบบนี้แหล่ะสตาร์ทใหม่ๆไม่ค่อยจะวิ่ง พอรอเครื่องร้อน วิ่งปกติ .....แต่... ไม่นานเกียร์ก็พัง

 

Link to comment
Share on other sites

ใช่แบบที่พี่พูดมาเลยหละครับ

ตอนเครื่องเย็น วิ่งออกตัวไปแล้ว สัก ไม่เกิน 2 กม  ถ้ามีการแตะเบรค หรือ ชลออรถ รถจะกระชากเหมือน รถรอรอบ แล้วกระชากอีกครั้งหนึง

แต่ถ้าวิ่งไปแล้ว เครื่องร้อน จะไม่มีอาการคับ

 

ปล. ถ้ารถผมมีอาการเกียรจะพังจิงๆ มีแนะนำไหมครับ ว่าจจะซ่อมยังไง ที่ไหนดี หรือ วิธีแก้ที่จบๆ ครับ

 

ผมอยู่ ชลบุรี ครับ

Link to comment
Share on other sites

ลองดึงก้านน้ำมันเกียร์มาดมดูครับว่ามีกลิ่นเหม็นไหม้มั้ย

แถวชลก็มีอู่เสกอ่ะครับ ผมเคยไปซ่อมเกียร์เปลี่ยนแผ่นคลัชมาครับ

Link to comment
Share on other sites

อาการเหมือนเกียร์กำลังจะไปแล้วครับ ตอนนี้มันน่าจะกำลังอยู่ในระยะเตือนอยู่ ควรรีบหาที่ซ่อมด่วนครับ ไปตายกลางทางอาจจะไม่คุ้ม เพื่อนผมใช้ FD 2.0 ปี 2007 วิ่งได้ประมาณ 3 แสนโลได้ มีอาการแบบเดียวกัน ตอนแรกก็ทดลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก่อนก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายจึงไปโอเวอร์ฮอร์นเกียร์ อาการหายสนิท แล้วที่เปลี่ยนไปคือตามที่เพื่อนบอกคือรถจะพุ่งกว่าเดิม คงเพราะขับมานานจนเราชินกับรถที่ระบบเกียร์เสื่อมลง แต่พอโอเวอร์ฮอร์นเกียร์มา ตามที่ช่างบอกทุกอย่างกับมาใหม่หมด ประสิทธิ์ภาพเกิน 95 % แน่มันจึงเหมือนรถใหม่ๆ ที่เราเคยขับครั้งแรกครับ

Link to comment
Share on other sites

คืออีกอย่างเพื่อนผมจะดูแลรถตามคู่มือ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามที่คู่มือกำหนดหรือมากกว่านิดหน่อย แต่สำหรับเกียร์ของรถรุ่นนี้ หมายถึงตัว 2.0 นะครับ จะเสียหายประมาณ 2-3 แสนโลครับ ด้วยปัจจัยของประเทศเราเป็นเมืองร้อน น้ำมันเกียร์มีความร้อนสูงยิ่งขับรถนานๆ จะเกิดความร้อนสะสม เป็นต้นเหตุของการเสื่อมของเกียร์ครับ ลืมบอกไป ผมก็ใช้ FD 2.0 เหมือนกัน แต่ปี 2010 ครับ อาการที่ผมสังเกตุนิสัยของเกียร์ตัวนี้คือ ตอนขับนานๆเดินทางไกล เกียร์จะมีการตอบสนองช้าลงอาจจะไม่มากแต่รู้สึกได้ในช่วงเปลี่ยนเกียร์จะรู้สึกว่ามันต่อเกียร์ช้าลง เหตุผลก็คืออุณหภูมิน้ำมันเกียร์มันสูงขึ้นครับ วิธีแก้ไขของผมนะครับ คือ1.เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้เร็วขึ้นครับ รุ่นนี้ใช้น้ำมันเกียร์ประมาณ 3 ลิตร เปลี่ยนครั้งหนึ่งไม่เกิน 700 บาท ลืมบอกค่าซ่อมเกียร์ตัวนี้ประมาณ 25,000 บาทครับ คิดดูครับ ถ้าเราเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้เร็วขึ้น ทุกๆ 20,000 โล รถเราวิ่ง 2 แสน โล เราเสียค่าเปลี่ยนประมาณ 7,000 บาทเองครับ 2. กรองน้ำมันเกียร์ตัวนอก ผมจะเปลี่ยนทุกๆ 4 - 5 หมื่นโลครับ อะไหล่ตัวนี้ราคาไม่เกิน 700 เช่นกัน ตามคู่มือศูนย์จะไม่มีให้เราเปลี่ยนครับ ช่างจะไม่แนะนำเรา ซึ่งเพื่อนผมก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกันครับ 3.อันนี้แล้วแต่ตัวบุคคลนะครับเพราะจะเสียเงินเพิ่มเยอะอยู่เหมือนกัน คือติดออยเกียร์เพิ่มครับ มันจะช่วยระบายความร้อนของน้ำมันเกียร์ ซึ่งติดตั้งแล้วผมก็พอใจนะครับ มันช่วยได้จริง เกียร์ตอบสนองได้ดีกว่าเดิมไม่ช้าเหมือนก่อนติดตั้งครับ และถ้าอยากรู้ว่าน้ำมันเกียร์ร้อนขนาดไหน ผมก็ได้ลองเอามือไปแตะที่ออยเกียร์ดู รู้เลยว่ามันร้อนได้ใจจริงๆครับ

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณมากครับ พอจะบอกได้ไหมครับ โอเวอร์ฮอร์นเกียร ทำที่ไหนมา  คืออยากจบในครั้งเดียวอะครับ

Link to comment
Share on other sites

เคยเป็นครับ FD2.0 ปี2006 วิ่งไป 270,000km overhaul เกียร์ที่ Autoway ไป 25,000.- ทีเดียวหายครับ 

 

แนะนำให้่โทรนัดก่อน เข้าเช้าเสร็จเย็นครับ

Link to comment
Share on other sites

มองไนแง่ดี เวลาเครื่องเย็น มันกำลัง warming ครับ รอบเดินเบาจะสูงกว่าปกติ (ลองสังเกตุได้) พอใส่เกียร์อาจจะมีสะดีดสะดิ้งบ้าง ถ้าเครื่องเริ่มร้อนแล้วก็หาย  :D

 

ความเห็นส่วนตัว เรื่องซ่อมหรือจะโอเวอร์ฮอลเกียร์ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ ละกันครับ แต่ลองช่างใจดีๆ ครับ เพราะเคยเจอว่า ซ่อมแพงกว่าหาเกียร์เชียงกงมือ 2 เอาที่สบายใจครับ

 

ยังไงขออย่าให้ต้องเสียตัง(เยอะ) ละกันครับ

Link to comment
Share on other sites

อาการอีกอย่างนะครับ ลืมบอกไป ตัวเปลี่ยนเกียร์ PADDLE SHIFT ที่พวงมาลัยจะเริ่มใช้ไม่ค่อยได้ด้วยครับ ในกรณีที่เกียร์เริ่มเสีย ส่วนท่านที่บอกว่าเกียร์อาจจะมีสะดีดสะดิ้งเพราะเครื่อง warming ในจุดนี้ผมอยากให้ท่านลองนึกย้อนไปในวันที่ท่านได้ไปรับรถวันแรกครับว่าถ้ามันมีอาการแบบนี้ท่านจะซื้อรถคันนี้หรือไม่ เราใช้งานรถทุกวันครับถ้ามีอาการผิดปกติยังไงก็ต้องซ่อมต้องดูแลกันไปครับ

Link to comment
Share on other sites

อาการอีกอย่างนะครับ ลืมบอกไป ตัวเปลี่ยนเกียร์ PADDLE SHIFT ที่พวงมาลัยจะเริ่มใช้ไม่ค่อยได้ด้วยครับ ในกรณีที่เกียร์เริ่มเสีย ส่วนท่านที่บอกว่าเกียร์อาจจะมีสะดีดสะดิ้งเพราะเครื่อง warming ในจุดนี้ผมอยากให้ท่านลองนึกย้อนไปในวันที่ท่านได้ไปรับรถวันแรกครับว่าถ้ามันมีอาการแบบนี้ท่านจะซื้อรถคันนี้หรือไม่ เราใช้งานรถทุกวันครับถ้ามีอาการผิดปกติยังไงก็ต้องซ่อมต้องดูแลกันไปครับ

 

พอดีเท่าที่อ่าน จขกท. แจ้งมาว่า พอเครื่องร้อนแล้วอาการหายครับ ซึ่งถ้าเกียร์เริ่มจะพัง หรือ ผิดปกติ มันควรจะเป็นตลอด (ถึงบอกความเห็นส่วนตัวครับ) ถ้าไม่ไช่ตามที่ผิดคิดหรือจินตนาการ ก็คงต้องหาทางแก้ครับ

Link to comment
Share on other sites

  • 2 months later...

ผมมีอาการเดียวกันเลยครับ ของผม 198000 km ล่ะครับ ยังไงขอทราบว่า แก้ไขยังไงด้วยนะครับ ถ้าอาการหายแล้ว ขอบคุณมากครับ

Link to comment
Share on other sites

ตอนนนี้ผมก็ชักหวั่นๆครับ ช่วงที่หนาววันแรกของที่ผ่านมาครับ สตาร์ท แล้วออกรถปกติ ขับไปรู้สึกว่ามันไม่ยอมเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 สุดที่ 3 เลยจอดดับเครื่อง แล้วลองใหม่ ทีนี้ปกติ เข้าได้ทุกเกียร์ แต่หลังจากนั้นมา พอสตาร์ทตอนเครื่องเย็นๆโดยเฉพาะช่วงนี้ เข้าเกียร์ถอยแล้วกระตุกแรงมาก ถ้าเครื่องร้อนจะไม่เป็น ความแรงน่าจะพอกะ จขกท.ครับ

Link to comment
Share on other sites

เบื้องต้น เช็คน้ำมันเกียร์ กรองเกียร์ก่อน ถ้ากรองเกียร์อยู่ด้านนอกก็ให้เปลี่ยนได้

 

เวลาอากาศเย็นมาก ๆ พอน้ำมันเกียร์ยังร้อนไม่ได้ที่ มันจะเข้าเกียร์กระชากไม่นุ่มนวล ยิ่งถ้าแรงดันน้ำมันเกียร์ต่ำจะยิ่งออกอาการแรงขึ้น

 

ส่วน เกียร์ 3 จะไปเร็วสุด เพราะรับภาระหนักสุด เป็นเกียร์สุดท้ายก่อนโอเวอร์ไดร์ฟ ที่สามารถเรียกแรงได้ดีสุด และเวลาคิกดาวน์ที่ความเร็วสูงจะลงจากเกียร์ 4-5 มาเกียร์ 3 ทำให้เกียร์ 3 ของฮอนด้าไปก่อนเกียร์ 1

Link to comment
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
×
×
  • Create New...