Jump to content

ทริป 3 เดินป่า ปีนดอย สอยตะวันที่ม่อนจอง By Kenny


Recommended Posts

.......ดอยม่อนจอง เป็นดอยสวยมากๆ อีกดอยหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะไม่ค่อยรู้จัก บางคนได้เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างเกี่ยวกับดอยม่อนจองว่าที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่ของเลียงผา กวางผา ดอยม่อนจองไม่ใช่อุทยานแห่งชาติเป็นเพียงเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าสังกัดอยู่กับเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอมก๋อย ผืนป่าดอยม่อนจองเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำปิงที่ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล ในด้านการท่องเที่ยว ดอยม่อนจองเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม บนเส้นทางเดินบนสันดอยไปสู่ยอดสูงสุดกว่า 3 กิโลเมตรเป็นจุดชมวิวที่เปิดโล่ง ทางด้านซ้ายเป็นหน้าผาสูงมองลงไปจะเห็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ทางด้านขวาเป็นป่าทึบซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และป่าทางด้านซ้ายนี้ยังมีพันธ์ไม้ที่สำคัญคือต้นกุหลาบพันปี มีขึ้นอยู่เป็นดงๆ แต่ละต้นมีขนาดใหญ่มากเรียกได้ว่าทีนี่เป็นแหล่งของกุหลาบพันปีที่สมบูรณ์มาก ในช่วงฤดูหนาวจะออกดอกสีแดงสะพรั่งงดงามยิ่งนัก เมื่อกุหลาบพันปีมีดอกก็จะเป็นจุดดึงดูดให้นกสวยงามนานาชนิดมารวมกันที่นี้เพื่อดูดกินน้ำหวาน นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวในช่วงเวลานี้ก็จะได้เห็นทั้งดอกกุหลาบพันปีและได้ดูนกสวยงามอีกด้วย

ที่ตั้ง ดอยม่อนจอง ตั้งอยู่กลางป่าลึกของผืนป่าอมก๋อย อยู่ในพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากอำเภอฮอด 145 กิโลเมตร ทิศตะวันออกจรดกับเขื่อนภูมิพล ด้านทิศตะวันตกติดกับถนนสายอมก๋อย-บ้านแม่ตื่น ทิศเหนือจรดกับพื้นที่อำเภอดอยเต่า ด้านทิศใต้จรดกับลำห้วยแม่ตื่นที่ไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล ลักษณะของดอยม่อนจองหากดูจากภาพถ่ายทางอากาศก็จะเห็นเป็นแนวหน้าผายาวเป็นแนวกว่า 3 กิโลเมตร โดยมียอดดอยม่อนจอง ( ศรชี้) เป็นจุดสูงสุด จุดนี้มีชื่อเรียกว่าหัวสิงห์ เพราะมีลักษณะเหมือนหัวสิงโต ดอยม่อนจองมีความสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยสูงของไทย บางตำราก็ว่าสูง 1,886 เมตร บ้างก็ว่า 1,929 เมตร ส่วนตัวเลขจริงๆ สูงเท่าไรกระผมก็ไม่รู้หรอกรู้แต่ว่าสวย จากจุดกางเต็นท์พักแรมด้านซ้ายของภาพเมื่อเดินขึ้นยอดสูงสุดก็จะต้องเดินมาตามทางเดินบนสันเขา ( ดังภาพข้างล่าง) ระหว่างทางเดินขึ้นสู่ยอดหัวสิงห์จะเห็นวิวที่สวยงามมากๆ ชมวิวแบบโล่งตลอดทางเดินทางยาวเหยียด แล้วยิ่งในช่วงเช้าหากมีทะเลหมอกในหุบเขาเบื้องล่างก็จะยิ่งสวยงามมาก บริเวณด้านทิศตะวันออกของสันดอยเป็นป่าทึบ เป็นต้นน้ำลำธาร นักท่องเที่ยวก็ได้อาศัยแหล่งน้ำจากลำธารเล็กๆ บนผืนป่าแห่งนี้ใช้หุงหาอาหาร

 

778723_10200506873213174_220003962_o.jpg

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

   ทริปนี้จัดขึ้นอย่างรีบด่วน ด้วยความที่ใกล้จะหมดหนาวแล้วและเป็นครั้งแรกของผมที่จะได้ไปสุดอากาศบนดอยทางภาคเหนือ ไม่อยากพลาดโอกาสทองในครั้งนี้ จึงรวบรวมสมาชิกที่มีใจรักเดินป่าได้ 3 คนรวมผมด้วยอีก1 คนเป็นแก็งค์เดิมที่ไปปีนเขาช้างเผือกด้วยกัน ทริปนี้เราไปแจมกับคนอื่นอีกตามเคยเพราะขี้เกียจขับรถไปเอง เลยไปกับทัวร์เดินป่าของป๋าคมรัฐ www.trekkerhut.com 

 

  เริ่มออกเดินทางกัน 3 ทุ่มครึ่งวันที่ 25 ม.ค วิ่งไปทาง อ.เถิน ลี้ ฮอด แล้วไปแวะพักกินข้าวเช้ากันตอน 6 โมงเช้าที่ อช.ออบหลวง ใช้เวลาเดินทางช่วงแรก 8 ชม

 

 

382189_10200661191951046_439969601_n.jpg

 

775795_10200583892058597_193446600_o.jpg

 

556463_10200502517944295_309628271_n.jpg

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

ออกจากออบหลวงเราก็มุ่งหน้าู่ อ.อมก๋อย เพื่อไปยังหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ แต่ระหว่างทางจอดแวะถ่ายภาพกันที่สถานีวนวัฒนวิจัย บ่อแก้ว หรือที่รู้จักกันว่าสวนสนบ่อแก้ว ซึ่งสถานที่นี่หลายคนเห็นภาพแล้วนึกถึงเกาะนามิ ประเทศเกาหลี ระหว่างทางมีแก็งค์มอไซด์วัยรุ่นของเชียงใหม่ขับกินลมชมวิวกันมา ซึ่งน่าอิจฉาพวกเขาจริงๆ ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันมากมายของเมืองเชียงใหม่

 

377688_10200661358195202_1679203339_n.jp

 

46760_10200583895658687_690971012_n.jpg

 

6567_10200661259712740_1322159578_n.jpg

 

385389_10200661259432733_1661842822_n.jp

 

555386_10200502476903269_1705004809_n.jp

 

405677_10200661344594862_946257227_n.jpg

 

556466_10200502362300404_2059744821_n.jp

 

602688_10200502491743640_1478528866_n.jp

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

หลังจากถ่ายภาพกันพอเป็นพิธีแล้ว ก็มุ่งสู่ หน่วยมูเซอ อ.อมก๋อยทันที เพื่อไปติดต่อลูกหาบและเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะพาไปยังดอยม่อนจอง 

 

556066_10200661462997822_1997359218_n.jp

 

543630_10200661473838093_256304928_n.jpg

 

307913_10200661515719140_497775975_n.jpg

 

549210_10200661427516935_731897245_n.jpg

 

539726_10200661440837268_1960054252_n.jp

Link to comment
Share on other sites

    หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่เสร็จก็เดินทางเข้าไปทางหมู่บ้านมูเซอดำ ซึ่งป้ายหน้าหมู่บ้านเขียนติดไว้หน้าปากทางเข้าเลยว่า ห้ามนำสุราข้างนอกเข้ามาภายในหมู่บ้าน เราก็นึกว่าหมู่บ้านนี้ดีน่ะ ห้ามกินเหล้า แต่ที่ไหนได้ คือภายในหมู่บ้านเขาต้มเหล้าไว้ขายเอง ซึ่งเป็นเหล้าที่เขาเรียกว่า "ดาวลอย" แค่ชื่อก็คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณก็น่าจะนึกภาพออกน่ะครับ พวกเราจอดแวะหิ้วกันขึ้นไปพอแก้หนาวกันคนละขวด 2 ขวดเพราะขนาดอุณหภูมิพื้นราบตอนกลางคืนก็ประมาณ 17 องศาแล้วบนยอดดอยคงสาหัสกว่านี้ 

 

    พวกเราเดินทางต่อโดยอาศัยรถ 4 wd โดยมีชาวเขาเผ่ามูเซอเป็นคนขับ เพราระว่าเส้นทางที่เราจะไปนั้นเป็นทาง offroad ขึ้นเขาลงเขา ต้องอาศัยคนพื้นที่ซึ่งชำนาญในการขับเป็นอย่างมากเพราะข้างทางจะเป็นเหว จากหน่วยมูเซอ ยืนหลังรถ 4wd ไปประมาณ 20 กิโลใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่งไปถึงจุดเริ่มเดินเป็นอะไรที่สาหัสมาก ต้องยืนเกร็งแขนจับราวของตัวรถ ที่พร้อมจะสะบัดให้เราล่วงลงมาจากรถได้ตลอดเวลา พอถึงจุดเริ่มเดินเรามาถึงเวลา เที่ยงครึ่งพอดีคำนวนเวลาเดินทางรถจาก กทม มาใช้เวลาไปแล้ว 15 ชม พวกเราแวะพักกินข้าวเพื่อเรียกเรี่ยวแรงก่อน และได้ขอพรพระที่ประดิษฐานอยู่ตรงทางขึ้นเพื่อเป็นกำลังใจในการเดินทางขึ้นดอยในครั้งนี้...

 

528962_10200583902738864_346890875_n.jpg

 

734741_10200583902338854_1602785205_n.jp

 

394923_10200583903658887_840835440_n.jpg

 

72923_10200661542959821_1724956451_n.jpg

 

561472_10200661565560386_224776076_n.jpg

 

556553_10200502544424957_1157951491_n.jp

 

734349_10200583893738639_1070245879_n.jp

 

46689_10200583905498933_2079213675_n.jpg

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

หลังจากกินข้าวกันเสร็จก็ไม่รอช้าสะพายเป้ของใครของมันขึ้นบ่า พยายามเอามาให้น้อยที่สุด เดินไปไม่เท่าไหร่ก็รู้สึกมันหนักขึ้นทุกที ส่วนลูกหาบทั้งเสบียงอาหาร เต้นท์ สะพายขึ้นหลังเดินตัวปลิวล่วงหน้าเราไปเรียบร้อย ลักษณะเส้นทางจะเริ่มไต่ระดับขึ้นทันที ไม่มีให้วอร์มทางราบก่อนเหมือนเขาช้างเผือก ทำให้รู้ึสึกเหนื่อยมากเป็นพิเศษ สภาพป่าไม้เป็นไม้เบญจพรรณ ผสมป่าสนเขาในช่วงแรก และความชุ่มชื้นของผืนป่าทำให้มีมอส ไลเคน ปกคลุมตามต้นไม้อยู่มากมาย รวมทั้งกล้วยไม้ชนิดต่างๆ การเดินทางช่วงแรกนี้อากาศเย็นสบายไม่ร้อน แต่ต้องมีทั้งข้าม ทั้งลอด ไม้ล้มที่มีเป็นระยะ ๆ 

 

379301_10200501975650738_412218055_n.jpg

 

67291_10200661840527260_573940709_n.jpg

 

309807_10200583905858942_2095023326_n.jp

 

560018_10200661982410807_828367975_n.jpg

 

426100_10200661982330805_1104632789_n.jp

 

16400_10200661840687264_469969992_n.jpg

 

563234_10200661840007247_680690854_n.jpg

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

เราเดินข้ามเขาไปได้ 2 ลูก ป่าก็เริ่มเปลี่ยนไป บนยอดเขาจะเป็นทุ่งหญ้าสะวันน่า เพราะต้องโดนแนวลมพัดผ่านตลอดปี พืชพรรณเลยต้องปรับสภาพเพื่อให้ทนต่อภูมิอากาศบริเวณนั้น แต่อีกฝั่งมีไม้ใหญ่ขึ้นเต็มไปหมดเพราะว่ามันอยู่ในแนวหุบเขา ซึ่งไม่มีแนวลมมาปะทะนั้นเอง เราเดินตามเหลี่ยมเขาขึ้นมาเจอจุดพักจุดหนึ่งที่เรียกว่าหินช่อ ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่วางซ้อนกันอยู่ ใครมีแรงเหลือก็จะปีนขึ้นไปถ่ายรูปกัน ส่วนผมไม่ไหวขอพักชมวิวก่อน 

 

561585_10200662018491709_1117225175_n.jp

 

397453_10200501957090274_1250770002_n.jp

 

19109_10200502633187176_1937790369_n.jpg

 

64255_10200507214541707_1111134464_n.jpg

Link to comment
Share on other sites

หลังจากพักเหนื่อยดื่มน้ำกันเรียบร้อยแล้ว (ถ้าใครดื่มน้ำเก่งไม่กลัวหนักก็แบกขึ้นไปได้เลย) ส่วนของพวกผมจะติดตัวกันคนละ 2 ขวด เพราะข้างบนเขาบอกมีตาน้ำไว้ดื่มกินหุงหาอาหารได้ ไกด์นำทางบอกว่าเราเดินกันมาครึ่งทางแล้ว ข้ามเขาไปอีกลูกก็ถึงแล้ว ซึ่งมองไปก็คิดว่าไม่ไกลเท่าไหร่ แต่ความจริงต้องเดินลงไปในหุบก่อน และต่อจากนั้นทางขึ้นมันจะเป็นแนวยาว 45 องศากว่าจะถึงยอด ซึ่งเรียกความเมื่อยล้าได้มากจุดหนึ่งเลยที เดียว เดินไป 5-6 ก้าวก็ต้องพักเป็นระยะ หันหลังมองกลับไปยังเนินที่เรามองมาเนินลูกที่เรายืนอยู่นี้ มันใช้เวลามากเลยทีเดียว หลังจากผ่านจุดนี้ไปแล้วทางเดิน จะเป็นทางเดินบนแนวสันเขา ไม่ลำบากเดินชมวิวสบายๆ จะมองเห็นลำน้ำแม่ตื่นอยู่ลิบๆข้างล่าง แล้วมีขึ้นลงเนินอีกนิดหน่อยก็ถึงที่พักแล้ว

 

487998_10200662042852318_141903475_n.jpg

 

64830_10200662060172751_1593843831_n.jpg

 

404372_10200662075573136_1942115095_n.jp

 

483094_10200501849167576_545198884_n.jpg

 

11221_10200662090293504_1219965848_n.jpg

 

379267_10200506865092971_1716751697_n.jp

 

537375_10200506862652910_256769459_n.jpg

 

309814_10200502569785591_358719221_n.jpg

 

402269_10200509303753936_1343742822_n.jp

 

528914_10200506864652960_1792183548_n.jp

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

นี่ืืคือบริเวณที่ตั้งแคมป์ของเราเดินแยกซ้ายจากแนวสันเขาลงมาในหุบ จัดแจงหาทำเลกางเต้นท์ คณะเรามาถึงช้ากว่าอีก 2 คณะเขาเลยได้ทำเลตรงบริเวณนี้ไป ส่วนที่เห็นเป็นลำธารเล็กๆนั้นคือไหลมาจากตาน้ำบนเขาอีกทีทางเจ้าหน้าที่อุทยานเขาเลยเอาแป๊ปมาต่อท่อไว้ เราก็คิดไว้ในใจคงเป็นลำธารเล็กพอจะลงไปจุ่มให้หายเหนื่อยได้แต่พอมาเห็นสภาพแล้วอย่าว่าแต่อาบเลย กินเข้าไปจะเป็นไรหรือเปล่าน่ะ แต่เขาก็ใช้ดื่มกินกัน พวกเดินป่าขาประจำเขาจะพกที่กรองน้ำมาด้วย เราก็เลยได้อาศัยของเขานี่แหละ หลังจากจัดแจงสัมภาระเข้าที่เข้าทางแล้วก็นอนแก้เมื่อยสักครู่ก่อนเดินขึ้นยอดหัวสิงห์ ยอดที่สูงที่สุดของดอยม่อนจอง นอนำนวนเวลาดูตอนนี้ 4 โมงเย็นแล้วเท่ากับว่า เราใช้เวลาเดินทางจากกทม มาถึงที่พัก19 ชม. ><   เดินทางโดยรถยนต์ 15 ชม เดินป่า อีก 4 ชม

 

309870_10200509303913940_1816738060_n.jp

 

164396_10200509392916165_614490681_n.jpg

Link to comment
Share on other sites

หลังจากพักเหนื่อยกันสักครู่นึง เราก็ไปชมวิวกันบนยอดดอยหัวสิงห์ดีกว่า ออกจากแคมป์มาเจอมุมย้อนแสงซึ่งเป็นมุมมหาชนมุมนึงพอดี จากการที่เคยเห็นรูปที่เขาถ่ายกันมา งต้องรอให่ดวงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้ามากกว่านี้ ตรงจุดที่เรายืนนี้จะเป็นทุ่งหญ้าซึ่งเขาเรียกว่า สนามกอล์ฟช้าง ก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงเรียกชื่อนี้ พอเดินขึ้นไปบนสันเขามองลงมาเห็นหลุมขนาดใหญ่อยู่ริมทุ่งหญ้า ก็เลยเข้าใจว่าชื่อนี้คงมาจากทุ่งหญ้าและหลุมขนาดช้างลงไปนอนได้นี่เอง 

 

538145_10200662214976621_466584339_n.jpg

 

387093_10200506863332927_1952127305_n.jp

 

555366_10200507214461705_1336371024_n.jp

 

76359_10200589194711160_965555218_n.jpg

 

385214_10200506863252925_326759826_n.jpg

Link to comment
Share on other sites

เดินมาได้ระยะนึงพวกเราตัดสินใจไม่ไปต่อเพราะคิดว่า มุมตรงนี้สวยที่สุดแล้ว และกลัวกลับลงมาไม่ทันฟ้าจะมืดซะก่อน เลยนั่งเล่น นอนเล่น มองดูยอดหัวสิงห์ และมองทิวทัศน์รอบๆบริเวณนั้น ซึ่งมันสวยมากไม่รู้จะบรรยายเป็นคำพูดออกมาได้อย่างไร 5 โมงกว่าแล้ว ลมหนาวเพิ่มความเย็นขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มทนไม่ไหว เลยกลับที่พักดีกว่า 

 

76114_10200509111069119_260379646_n.jpg

 

 

408571_10200604640857304_178062279_n.jpg

 

44683_10200501433997197_1131234851_n.jpg..

 

19113_10200509371555631_815348730_n.jpg

 

601274_10200509147990042_1572899293_n.jp

 

295406_10200589194871164_767006486_n.jpg

 

394772_10200604713939131_1884225239_n.jp

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

เราเดินมาถึงบริเวณ สนามกอลฟ์ช้างอีกครั้ง เพื่อที่จะนั่งมองดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า พอดีมีเรื่องบินไอพ่นบินมาเข้าฉากพอดีเลยกดมา 1 ใบ แล้วก็เกิดไอเดียเล่นกับดวงอาทิตย์ซะเลย 

 

314866_10200501481838393_777996568_n.jpg

 

530713_10200509338514805_1744356791_n.jp

 

549924_10200501229912095_395800401_n.jpg

 

67982_10200501279593337_1540126785_n.jpg

 

483060_10200501351835143_1139113069_n.jp

 

408440_10200502216176751_81056416_n.jpg

 

150985_10200501297753791_424658969_n.jpg

 

22014_10200501254072699_1224597288_n.jpg

 

196313_10200501397076274_340678811_n.jpg

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

ภาพเซ็ตนี้ชอบทุกใบ โดยเฉพาะภาพหลังจากออกจากแคมป์ไปหัวสิงห์ สุดๆ เลยคุณเคน  :)

Link to comment
Share on other sites

คืนนั้นตั้งใจว่าจะถ่ายดาว แต่เห็นเป็นข้างขึ้นประกอบกับอากาศ่อนข้างหนาวต่ำกว่า 10 องศา ซดเหล้าต้มของชาวมูเซอเข้าไปหน่อยเดียวรู้สึกเหมือนกินอัลกอฮอลล้างแผล มันบาดปากมากเลย เลยยกให้ลูกหาบไปกิน ส่วนตัวพก regency มาแบนนึงซดกันในเต้นท์ก่อนนอนกับเพื่อน หลับสบาย ตื่นมา ไม่รู้น้ำ้้ค้างเข้ามาในเต้นท์ได้ไงเปียกไปหมด เช้าตื่นขึ้นมาเดินลงจากดอยไปขึ่้้นรถกลับ กทม ถึง ประมาณ ตี 3 เช้าวันจันทร์ เป็นทริปที่เดินทางยาวไกลมากแต่คุ้ม มีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับคืนสู่ธรรมชาติ...ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชม เจอกันใหม่ทริปหน้า 

Edited by ken_style
Link to comment
Share on other sites

ภาพเซ็ตนี้ชอบทุกใบ โดยเฉพาะภาพหลังจากออกจากแคมป์ไปหัวสิงห์ สุดๆ เลยคุณเคน  :)

ไปมายังครับหมอเนศ 

Link to comment
Share on other sites

ไปมายังครับหมอเนศ 

ดูรีวิวนี้คงได้ไปแน่เลยครับ กระตุ้นต่อมเที่ยวมากๆ อ่ะ  :)

Link to comment
Share on other sites

เห็นผมปลิวๆ นี่นึกภาพได้เลย ว่ามันต้องเป็นลมเย็นๆกระแทกหน้าแน่ๆ :lol:

 

เห็นภาพก้อชื่นใจ เมืองไทยยังสวย ไม่แพ้ชาติใดในโลก :D

Link to comment
Share on other sites

เสื้อกั๊กเท่ห์โคตรๆเลยพี่เคน

ช่วยได้เยอะเลยเก๋ แต่เวลาหาไฟแช็คควานหาอยู่นั้นแหละมันอยู่กระเป๋าไหนฟร่ะ 

Link to comment
Share on other sites

เห็นผมปลิวๆ นี่นึกภาพได้เลย ว่ามันต้องเป็นลมเย็นๆกระแทกหน้าแน่ๆ :lol:

 

เห็นภาพก้อชื่นใจ เมืองไทยยังสวย ไม่แพ้ชาติใดในโลก :D

ถึงแม้เขาจะเปิดให้เที่ยวมาเป็น 10 ปีแล้ว แต่ป่าก็ยังไม่บอบช้ำมาก ดีที่เขายังมีช่วงปิดป่าหน้าร้อน เพราะข้างบนจะมีไฟป่า ทำให้ป่าฟื้นคืนสภาพได้บ้าง แต่ตรงจุดกางเต้นท์ค่อนข้างเห็นร่อยรอยของนักท่องเที่ยวที่ไม่ยอมเก็บขยะลงมาด้วยใช้หมดแล้วก็โยนทิ้งไว้ตรงนั้น 

Link to comment
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
×
×
  • Create New...