Jump to content

mnirun

CCTH Member
  • Posts

    192
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by mnirun

  1. รถติดๆ อุณหภูมิ 92c ถือว่าปกตินะครับ ขอเสริมสักนิด ขนาด Hondata ที่ชำนาญเรื่อง ECU ของรถยนต์ Honda เองยังไม่แนะนำให้ใช้วาล์วน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าเดิมเลยครับ
  2. ประกาศจับ 3792 เจอกันที่สวนหลวงร.๙ ตอนเช้าๆ หลายครั้งแล้ว วันนี้โอกาสดี เจ้าของไม่อยู่ เดินไปถ่ายรูปมาจับเสียหน่อย ถ่้าเจอคันนี้แวะมาทักทายได้ครับ ผมไปวิ่งทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ครับ
  3. ถูกต้องครับ แต่ผมว่าขับสัก 1 สัปดาห์ (ถ้าขับทุกวัน) ก็พอ แล้วค่อยไปจูนแก๊สใหม่ครับ ถ้ากราฟน้ำมันเปลี่ยนไปมากๆ เช่นการล้างปีกผีเสื้อและ reset ECU ใหม่ เพื่อให้แก๊สวิ่งดีๆ ควรจะออกโต้จูนใหม่ด้วยครับ ถ้าจูนอย่างเดียวโดยไม่ออโต้จูนใหม่ก็สามารถทำได้ แต่การออโต้จูน+วิ่งจูนจะให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดครับ
  4. ลองดูหน้าความคลาดเคลื่อนว่าอยู่ในช่วงบวกลบ 10% หรือไม่ ถ้าอยู่ในช่วงนี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้วละครับ แต่ถ้าอยากได้เนียนๆ หลังปีใหม่เจอกันครับ
  5. Auto Door Locking ตั้งค่าได้ 3 แบบครับ - ขับรถเร็วมากกว่า 15 กม./ชม. (ค่ามาตรฐาน) - ออกจากเกียร์ P - ปิดระบบ Auto lock รถผมจอดที่บ้านมาหลายวันแล้ว ผมไม่ได้กด lock มันก็ไม่ได้ lock เองครับ lock เองนี่ยังไม่เคยเจอครับ ส่วนนี่รูปจาก Civic Owner's Manual จากเมืองนอกครับ ของไทยก็น่าจะมีบอก แต่พอดีรถผมจอดอยู่ที่บ้านเลยไม่มีคู่มือให้ดูครับ
  6. รถผม 2009 MC AS ก็ทำได้ครับ ทำตั้งแต่ได้รถมาแรกๆ เลย เพราะไม่ชอบที่เข้า P แล้วปลดล็อครถ
  7. ลูกเดิมติดรถมาเคยเสื่อมไปครั้งนึงตอนอายุปีครึ่ง พอได้เครื่องชาร์จ CTEK มาชาร์จไปสักพักก็กลับมาใช้งานได้ปกติเลยเอาไปใส่รถอีกคัน ตอนนี้ 3 ปี 2 เดือนได้แล้วก็ยังใช้งานได้อยู่ครับ
  8. เวลาจูนรอบเดินเบา พี่จะเลื่อนจุดจุดจูนแรก (ไม่นับจุดบนแกน) ไปที่เวลาฉีดน้ำมันเลย ตัวอย่างรถน้องเต้ยก็เลื่อนจุดจูนไปที่ 3.2ms แล้วค่อยปรับจูน แต่จากรูปนี้เราจูนแปลกจริง ไม่มีจุดจูนที่ 3.2ms อยากให้จูนอย่างนี้ครับ เลื่อนจุดจูนจุดแรกไปที่ 3.2ms แล้วจูนรอบเดินเบา ส่วนจุดถัดมาให้จูนตอนเปิดแอร์ให้สุด(พัดลมแอร์จะได้ไม่ตัด)แล้วค่อยจูนครับ ส่วนที่ต่ำไปกว่ารอบเดินเบาลงไปไม่จำเป็นต้องจูนให้เท่ากันก็ได้ครับ
  9. แสดงว่ายังขับไม่โหดพอ อันนี้ FD ที่เคยจูนมา คนแถวนี้แหละ
  10. 1. มีผลในระยะยาวครับ เพราะถ้าหัวฉีดเปิดสุดก็หมายถึงเปิดค้างไม่ปิดเลยหัวฉีดก็จะไหม้ได้ นั่นเป็นเหตุผลให้กล่อง ECU แก๊สตัดไปเป็นน้ำมันเพื่อป้องกันไม่ให้หัวฉีดแก๊สไหม้ครับ ถ้าเป็นไปได้จูนให้มันเกิด error เลยจะดีที่สุดครับ 2. ดูจากกราฟ ตอบไม่ได้ครับ ข้อนี้ต้องนั่งจูนเองถึงจะรู้ครับ เพราะพี่ต้องดูค่าหลายๆ อย่างทางด้านขวาของโปรแกรมประกอบการจูนด้วยครับ เช่น หัวฉีดแก๊สเปิดสุดที่กี่ ms แล้วจึงแจ้งเตือน, แรงดันแก๊สตอนนั้นเป็นเท่าไหร่, ตอนที่เปิดสุด แก๊สฉีดที่กี่ ms เป็นต้นครับ ถ้าให้พี่แนะนำจากรูปที่มีอยู่ ก็แนะนำให้เลื่อนจุดจูนที่ 14ms ไปไว้ที่ 17ms แล้วลองปรับตัวคูณขึ้นดูครับ 3. จากจุดจูนจุดแรกบนแกน multiplier แสดงว่าหัวฉีดค่อนข้างใหญ่ วิ่งดีแต่จะมีปัญหาตรงรอบเดินเบานี่แหละครับ เพราะแก๊สมันจะเยอะไปจูนลำบาก ถ้าพี่เจอแบบนี้ก็จะไม่ได้ปรับให้มันเท่ากันเป๊ะๆ ครับ ต่างกันนิดหน่อยได้ เช่น น้ำมันฉีด 2.0-2.2 ตอนใช้แก๊สอาจจะฉีด 1.9-2.1 ก็ได้ครับ ห่างกันแค่ 0.1 ไม่เป็นไรครับ ใกล้จะได้อย่างที่ต้องการแล้ว อดใจอีกนิดครับ ช่วงนี้พี่ออกต่างจังหวัดบ่อย เอาไว้หลังปีใหม่แวะมาให้พี่ช่วนจูนให้ได้ครับ
  11. เพิ่มอีกนิด อยากให้ลองดูด้วยว่าแก๊สถังนึงวิ่งได้เท่าไหร่ ตอนนี้น่าจะประหยัดขึ้นแล้วนะครับ แต่ถ้าขับซัดๆ ก็คงไม่ประหยัดละ
  12. 1. ปกติครับ เส้นกราฟน้ำมันหรือแก๊สมันเปลี่ยนไปได้ตามลักษณะการขับขี่ มันไม่ได้ตายตัวเป็นค่าคงที่ครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็คงไม่ต้องมาจูนกันเอง ผู้ผลิตระบบแก๊สคงมีไฟล์จูนรถยนต์ตามแต่ละรุ่นมาแล้วละครับ จริงไหม 2. ปกติครับ โปรแกรมจูนจึงมีหน้าจอ ความคลาดเคลื่อน (Deflection) โดยในคู่มือการจูนของ AC เองก็บอกเอาไว้ว่ากราฟแก๊ส บวก-ลบ ไม่เกิน 10% ของกราฟน้ำมันถือว่าปกติครับ 3. รอบเดินเบา (จุดแรกสุดที่ประมาณ 2ms) ต้องไม่เปิดแอร์หรือใช้ไฟฟ้าอะไรทั้งสิ้นนะครับ แต่ถามว่าจำเป็นต้องทับกันเลยไหม พี่ตอบว่าไม่ครับ แค่จูนตามวิธีด้านล่างที่พี่แนะนำก็พอแล้วครับ เทคนิคการจูนรอบเดินเบา 1. ใช้น้ำมัน แล้วดูเวลาการฉีดน้ำมัน (Petrol) ว่าเป็นเท่าไหร่ เช่น 2.0 ms ปล. พี่ไม่มีรูปตัวอย่างเวลาการฉีดน้ำมันที่ 2.0 ms แต่สมมุติว่ารูปมันเป็น 2.0 ms ละกันนะ 2. เลื่อนจุดจูนรอบเดินเบาไปที่ 2.0 ms หรือตามที่เราได้ค่ามาจากข้อที่ 1. 3. กดเปลี่ยนไปเป็นแก๊ส แล้วดูว่าเวลาการฉีดน้ำมัน ว่ามากขึ้นหรือน้อยลง 3.1 ถ้ามากขึ้น แสดงว่าแก๊สน้อยไปกล่อง ECU จึงสั่งให้ฉีดนานขึ้น เราก็ปรับจูนแก๊สโดยเพิ่ม multiplier (กดขึ้น) ให้มากขึ้น จนเวลาการฉีดน้ำมันเมื่อใช้แก๊ส เท่ากับเวลาการฉีดน้ำมันเมื่อใช้น้ำมัน 3.2 ถ้าน้อยลง แสดงว่าแก๊สมากไปกล่อง ECU จึงสั่งให้ฉีดสั้นลง เราก็ปรับจูนแก๊สโดยลด multiplier (กดลง) ให้น้อยลง จนเวลาการฉีดน้ำมันเมื่อใช้แก๊ส เท่ากับเวลาการฉีดน้ำมันเมื่อใช้น้ำมัน กดสลับไป-มา เพื่อดูว่าค่าเวลาการฉีดน้ำมันเท่ากันเมื่อใช้น้ำมันและแก๊ส และเมื่อใช้แก๊สเครื่องยนต์เดินเรียบเหมือนใช้น้ำมัน สังเกตุได้จากพวงมัยลัยสั่นเหมือนกันทั้งน้ำมันและแก๊สก็ได้ครับ ยินดีด้วยที่รถวิ่งดีเป็นปกติแล้วนะครับ
  13. 1. ใช่ครับ 2. ปกติจุดแรกสุดและหลังสุดบนแกนแนวตั้ง เราจะไม่ไปปรับอะไรครับ ผมไม่ได้อ่านเนื้อหานะ เพราะไม่ได้เข้า CFDT แล้ว แต่ลูกค้ามีสิทธิที่จะปรับแต่งอะไรก็ได้ สินค้าซื้อมาแล้วมันเป็นสิทธิของเรา มีหรือครับซื้อของแล้วห้ามปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น ใช้ไปตามมีตามเกิดอย่างนั้นหรือครับ ? ซื้อรถไปใครแต่งรถหรือซื้ออะไรเพิ่มเติมเข้าไปในรถแล้วเวลาเข้าศูนย์ ศูนย์เค้าเคยหลอกด่าลูกค้าบ้างไหมครับ ? ผมไม่อยากดราม่า แต่เจนตนาของคุณเบียร์ "อาจจะ" ไม่อยากให้ไปปรับแต่งอะไรเองโดยที่เรารู้ไม่เท่าทันจนอาจเกิดปัญหาก็ได้ครับ ส่วนตัวผมเอง ผมสนับสนุนให้เจ้าของรถที่อยากจูน จูนรถเองเป็นครับ แต่ต้องรู้ว่าหลักการปรับจูนคืออะไร อะไรปรับได้-ไม่ได้เสียก่อน จะได้ไม่เกิดความเสียหายในภายหลัง แค่นั้นเองครับ
  14. มาเพิ่มเติมอีกนิด เพราะพึ่งนึกออก จุดสุดท้ายอย่าให้ตัวคูณ (Multiplier) เกิน 1.5 ครับ เพราะถ้าหัวฉีดแก๊สเปิดเกิน 20ms LPG/CNG injectors full open แน่นอนครับ ปัจจุบันจุดสุดท้ายของเต้ยอยู่ที่ประมาณ 22.75ms (13ms * 1.75) ครับ จูนแล้วเป็นอย่างไร ก็มาบอกกันด้วยนะครับ
  15. 1. ต้องยกครับ แต่พี่เราเรายกมากไปหน่อยครับ 2. มันต้องหาจุดกึ่งกลางครับ(ทางสายกลาง) มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดีครับ อย่างที่บอกครับ พี่อยากจะจูนเองมากกว่า เพราะจะได้เห็นข้อมูลระหว่างวิ่งจริงว่าแรงดันแก๊ส เวลาการฉีดแก๊ส ฯลฯ เป็นอย่างไร ดูแค่กราฟก็แก้ไขไปตามประสบการณ์ครับ เบอร์พี่ PM ไปให้แล้วครับ
  16. เพิ่มเติมนะ จุดแรกปรับไปไม่ได้เกี่ยวกับรอบปลายๆ ครับ เท่าที่ดูนะ เราเติมปลายหนาไปยกขึ้นเยอะเลย ลากสุดน่าจะกระตุกละแก๊สหนาเกิน ถ้าอยากลองแก้ปัญหาเอง แนะนำแบบนี้ครับ 1. บันทึกค่าการจูนปัจจุบันเก็บเอาไว้ก่อน 2. เอารถไปวิ่งสัก 20-30 นาทีให้เครื่องร้อน 3. ดูช่วงแรงดันที่ทำงานว่าอยู่เท่าไหร่ สูงจ่าจะประมาณ 1.1-1.2 ต่ำน่าจะประมาณ 0.7-0.8 แรงดันแก๊สน่าจะอยู่ประมาณ 1.0-1.2 4. Auto tune ใหม่ เนื่องจากของเก่าจูนปลายหนาไป และถ้าจูนแก้โดยลดแก๊สลงมาก็จำไม่ได้แล้วว่าของเก่าอยู่ประมาณไหน ฉะนั้น จูนใหม่ดีกว่าครับ 5. ลบกราฟน้ำมันและแก๊สออกไปให้หมด เพราะถ้าเก็บไว้เราจะไม่รู้ว่าจูนอยู่กับกราฟเดิมหรือกราฟใหม่ครับ 6. วิ่งจูนตามปกติ 7. กราฟหลังจาก 11ms ไม่ต้องให้ทับกันก็ได้ครับ (กราฟเริ่มดิ่งลง) เพราะถ้าเราอยากจะให้ทับกันมันต้องจูนหนาแล้วหน้าจะทิ่มตอนเหยียบสุดครับ หรือถ้าอยากจะแก้จากของเดิมก็ได้นะ ให้ลด 2 จุดจูน ที่ 12ms กับ 13ms ลงให้เท่ากับจุดที่ 9ms ก่อน แล้วลองเอาไปลองวิ่งดูว่ากระตุกอยู่ไหม ถ้าไม่กระตูกค่อยๆ เติมแก๊สไปเรื่อยๆ พอเริ่มอืดก็หยุดเติมแก๊สแล้วปรับลดมานิดหน่อยครับ
  17. ดูแต่รูปมันตอบอะไรไม่ได้ เหมือนหมอรักษาคนไข้ดูแต่ผลการตรวจร่างกายอย่างเดียวก็บอกได้ว่ามีปัญหา แต่ระบุสาเหตุไม่ได้ครับ ว่างๆ นัดมาจูนรถกันไหม เราขับแล้วให้พี่จูน จะได้ช่วยดูปัญหาตอนวิ่งจูนครับ ใจพี่อยากจะทำ case study รถที่มีปัญหาที่เกิดจากการจูน ทำแบบก่อน-หลังการจูน เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจูนแก๊สได้ครับ
  18. ไม่เทพหรอกครับ แค่จูนมาเยอะกว่าคนอื่น เลยมีประสบการณ์เยอะหน่อยครับ
  19. เบื้องต้นอยากให้ตรวจสอบอย่างนี้ครับ 1. แก๊สประมาณครึ่งถัง 2. ดูค่าแรงดันแก๊สช่วงเดินเบา ควรอยู่ระหว่าง 1.0-1.2 บาร์ 3. ดูค่าที่อ่านได้จากการจูน ว่ามีอุณหภูมิแก๊สและช่วงแรงดันดันที่ทำงานอยู่ที่เท่าไหร่ ถ้าแรงดันต่ำสุดมันสูงไป (มากกว่า 0.8) เวลากระแทกคันเร่งแรงดันแก๊สจะตกลงไปเยอะมันจะตัดไปเป็นน้ำมันเครื่องยนต์อาจสะดุดได้ 4. ถ้าแรงดันแก๊สตกลงไปอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น จะเจอ error ว่า LPG pressure to low ให้ลองปรับแรงดันต่ำเป็น 0.8 หากยังเป็นอีกให้ลองปรับเป็น 0.7 ว่ายังมีอาการอีกหรือไม่ 5. ดูจุดจูนจุดแรกที่อยู่บนแกน Multiplier ค่าที่ได้ควรอยู่ระหว่าง 1.0-1.6 6. ถ้าจุดแรกมากกว่า 1.6 หรือค่อนไปทาง 1.6 (รูหัวฉีดเล็กเกินไป) เวลากระแทกคันเร่งหัวฉีดอาจเปิดสุดแล้วก็ยังจ่ายแก๊สไม่พอ จะเจอ error ว่า LPG injectors full open ทางแก้ต้องเจาะขยายรูหัวฉีดให้ใหญ่ขึ้นครับ 7. ถ้าจูนยังไม่ดีพอ เช่น จ่ายหนาไปก็วิ่งไม่ออกได้เหมือนกันครับ คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ
×
×
  • Create New...