Jump to content

aud

CCTH Member
  • Posts

    391
  • Joined

  • Last visited

  • Days Won

    3

Posts posted by aud

  1. น่าจะเป็นน้ำมันเกียร์ที่เราเติมเข้าไปนะครับ ถูกส่งมาจากปั้มน้ำมันเกียร์ สังเกตตอนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ บางส่วนจะยังคงค้างอยู่ในตัว torque convertor และตัวปั้ม เสมอไม่สามารถถ่ายออกมาได้ตอนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ดังนั้นถ้าเราเติมน้ำมันเกียร์ใหม่กลับไป ถ้าเติมตามจำนวนลิตรที่ระบุในคู่มือเลย เมื่อใช้งาน เกียร์ทำงานแล้ว มีการหมุนเวียนระหว่างน้ำมันใหม่กับน้ำมันเก่าที่ค้างอยู่ใน torque convertor ก็จะพบว่าน้ำมันเกียร์เกินมาเยอะเลยทีเดียว ผิดถูกขออภัยครับ 

  2. 8.5 ติดหรอครับ แล้วผมกำลังจะใส่ กว้าง 9 ออฟ 35 สี่ล้อเลย แบบนี้จะงานเข้ามั้ยเนี่ย

    กว้าง 9 ออฟ +35 ไม่น่ารอดครับ อาจจะมีติดในด้วย มีวิธีเดียวเลย คือโช็คต้องแข็งแบบไม่ให้ยุบเลย แต่ถ้าต้องทำถึงขนาดนั้นคงขับไม่ไหวละครับ :D

  3. เอาแบบสบายๆนะครับอาจไม่หรูหรา ลองเป็นตัวเลือก แต่บอกไว้ก่อนว่าร้านนี้เขาชำนาญในการรื้อ FD ใช้ได้ทีเดียวครับ สังเกตจากการถอดนู่น นี่ นั่น บ่งบอกว่าถอดมานับไม่ถ้วนเลยรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ผมเพิ่งไปล้างมาไม่นาน จากคำแนะนำของพี่ที่บริษัท เป็นการฉีดล้างตู้แบบส่องกล้องไปด้วยให้เรายืนดูน้ำฉีดตู้แอร์ผ่านจอทีวีเพลินเลย ถอดแผ่นปิดหม้อน้ำออกมาล้างแผงคอยร้อนหน้ารถให้ด้วย ถอดโบเวอร์ หรือกรงกระรอก ไม่รู้ผมเรียกถูกหรือเปล่า ชุดกลมๆสีขาวมีมอเตอร์ที่เป่าลมใต้คอนโซลผ่านกรองออกมาล้างให้ด้วย ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าเสียหาย 500 ถ้วน อ๋อแนะนำให้เอากรองแอร์อันใหม่ไปเปลี่ยนด้วยก็ดีครับไม่งั้นร้านจะเสนอเปลี่ยนกรองแอร์ของร้านราคา 300 :D http://<https://maps.google.co.th/maps/myplaces?hl=th&vpsrc=6&ctz=-420&ie=UTF8&ll=13.836614,100.66272&spn=0.000005,0.00283&t=m&z=19&layer=c&cbll=13.836684,100.661528&panoid=zb5xd37ySYTgCMAyzpm5LQ&cbp=12,346.04,,0,-5.8>

  4. ขอโทษครับ จำรหัสผิด :D เป็น DB08 ตามพี่ทอมมี่ลงไว้เลยครับ ราคา ถ้าซื้อร้านส่งได้จะถูกกว่า ผมขี้เกียจไปหาซื้อ โดนร้านกระจกรถ เล่นไปตัวสี่ร้อยแนะ แต่ถ้าคิดถึงค่าน้ำมันกับการเดินทางก็คุ้มครับ

  5. เฟืองแตกครับ หาซื้อเฟืองตามร้านซ่อมกระจกไฟฟ้ารถยนต์ รหัส AB08 มาเปลี่ยนเองได้ครับ หรือให้ร้านเปลี่ยนให้เลยก็ได้ครับ ร้านซ่อมกระจกรถยนต์ทั่วไปส่วนมากทำได้ครับ

  6. ถ้าเป็น H-Drive สปริงหลัง มีตัว 8K ให้เลือกใส่นะครับ แต่สำหรับผมเอาจากที่ใช้อยู่ตอนนี้นะ 6K ก็แข็งเอาเรื่องแล้วนะครับ

  7. ถ้าผมใส่ D แล้วเหยียบเบรคค้างไว้ มันจะได้ยินชัดไหมครับ ผมลองแล้วก้อได้ยินเหมือนเสียงหัวฉีดทำงาน ไม่ได้ดังแบบเสียงสับหมูหรือดังอะไรมากอ่ะครับพี่

     ถ้าใช้ยังไงก็ได้ยินครับ ยิ่งเอาหูแนบฟังที่พวงมาลัยนี่ได้ยินชัดเลย ยินดีด้วยครับที่ไม่ ต๊อก :)

  8. จากที่ฟังคงเป็นเสียงการทำงานปกติของเครื่องยนต์ ในสถานะรอบเดินเบานะครับ ถ้าจะเช็ค ต๊อกๆ ต้องเข้าไปนั่งในรถ เยียบเบรคค้างไว้แล้วทำให้รถมีโหลดโดยการเข้าเกียร์ D หรือ R ทีนี้ละถ้าใช่ก็เสียงมาเลยครับ เสียงจะประมาณเครื่องรถไถนาอะครับ หรือถ้าฟังไม่ชัดยังไม่แน่ใจ ก็เอาหูแนบลงไปที่พวงมาลัยเลยครับ ถ้าใช่ก็จะได้ยินแน่นอน ขอให้โชคดีไม่ ต๊อก นะครับ อ่อ ตอนใส่เกียร์ R สังเกตอาการสั่นสะท้านของเครื่องด้วยก็ดีครับ เป็นการเช็คสภาพยางรองแท่นเครื่องไปในตัวครับ

  9. ถ้าเป็นการเปลี่ยนน็อตดุมล้อร้านแม็กใหญ่ๆทำได้ถ้าเขามีน็อตตัวนี้อยู่ครับ ผมเพิ่งเปลี่ยนมาตอนไปใส่ล้อ ช่างเจอน็อตเกลียวเสียสองตัว ร้านเลยเปลี่ยนให้ครับ ร้านใหญ่ๆ ถ.ราชพฤษ์ เลยวงเวียนพระราม 5 ไปทางตลิ่งชันแล้ว U กลับครับ

  10. อันนี้เป็นอีกวิธีนึง ลองดูเป็นอีกทางเลือกครับ เป็นวิธีที่ผมใช้อยู่แล้วได้ผลกับรถผม อันนี้ไม่ได้มีเอกสารอ้างอิงทางเทคนิคอะไรนะครับ

    วิธีนี้ เป็นวิธีที่ช่าง 0 ท่านนึง ที่รู้จักกันแนะนำผมมา เขาบอกว่าการที่เราทำในข้อ 5 นั้นจะเป็นการรอให้กล่อง ECU ได้ทำการ Re-Check ค่าต่างๆ

    (องศาการเปิด-ปิด ลิ้นปีกผีเสื้อ,การทำงานของหัวฉีด,หัวเทียน,Feedback ต่างๆจาก Sensor)และจะทำการTrim ค่าที่เหมาะสมในการเรียนรู้รอบเดินเบา

    เป็นค่า Defualt ของกล่อง สำหรับรถที่ยังมีระบบการทำงานเป็นปกติไม่ได้มี Sensor และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเสียหาย ก็จะสามารถกลับมามีรอบเดินเบาเป็นปกติได้

     

    1. ถอดขั้วลบแบต เปิดไฟหน้า ปล่อยทิ้งไว้ อย่างน้อย 1 ชม. นานกว่านั้นยิ่งดี ปกติผมถอดทิ้งข้ามคืนเลย

    2. ปิดไฟหน้า ใส่ขั้วลบแบตกลับคืน

    3. ปิดระบบไฟทุกอย่างของรถ รวมทั้งแอร์ เครื่องเสียงด้วย

    4. บิดกุญแจ ไปที่ตำแหน่งก่อน Start รอจนไฟเช็ครูปเครื่องยนต์สีส้มดับ แล้วบิดกุญแจ Start รถ

    5. เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วให้รอจนกว่าพัดลมหม้อน้ำทำงาน 2 รอบ(นานนะครับแต่ต้องรอ)ไม่ควรเปิดฝากระโปรงรถจะยิ่งทำให้ร้อนช้า คอยฟังเสียงเอา

    6. จากนั้นดับเครื่องยนต์ แล้วกลับไปทำข้อ 4 แล้วทำการตั้งค่า นาฬิกากับเครื่องเสียงใหม่เป็นอันเสร็จ

  11. วิ่งน้ำมัน E85 มาแล้วประมาณ 7 เดือน ราวๆ เกือบ สามหมื่นกิโลเมตร ลองมาแล้วทุกปั๊มที่ว่ามา

    รถผมเติมบางจาก Start สั้นที่สุด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสมเหตุสมผลกับระยะทางที่วิ่งได้

    ส่วนปั๊มอื่นๆ Start ยาว อัตราการสิ้นเปลืองไม่ค่อยเข้าท่า โดยเฉพาะของเจ้าใหญ่ยังกะถังรั่ว :D

    ที่เขียนมาเป็นสิ่งที่ผมใช้งานอยู่แล้วสังเกตจากรถผมเอง เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวผมนะครับ

  12. ถ้ายังไม่มีรอยรั่วซึม ยังไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ครับ ท่อพวกนี้ไม่ได้อันตรายมากครับ แต่ถ้าเสื่อมแล้ว เนื้อยางก็จะแข็ง ให้ตัวไม่ได้ เลยทำให้น้ำมันรั่วซึมตามข้อต่อได้ครับ

  13. ท่อน้ำมันเพาเวอร์มีอยู่ 2 เส้นครับ ดูที่ก้นกระปุกน้ำมันเพาเวอร์เลย เส้นนึงวิ่งลงไปที่ปั้มเพาเวอร์ อีกเส้นวิ่งผ่านมาหน้าเครื่องเพื่อระบายความร้อน (เส้นที่ จขกท.ลงไว้) บีบดูถ้าแข็งแล้วเปลี่ยนใหม่ครับ

  14. ถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนทั้งชุดครับ

    1.ตัวดอกกุญแจ

    2.Switch คอกุญแจ

    3.Switch กุญแจฝาเปิดกระโปรงท้าย

    แล้วจูน หรัส Immo ใหม่ ลองสอบถามพี่ตรีดูก่อนก็ได้ครับ

×
×
  • Create New...