Lhorn

ไม่น่าจะแพงกว่าชุดที่ใส่ หน้า 8 พอต หลัง 4 พอต ของอีกคันอ่ะครับ^^ ชุดนั้นเพิ่ง 8 พันกว่า อันนี้แค่4 พอตหน้า หลังเดิม ผมว่าไม่เกิน 4 พัน

ขอมาเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่จะเปลี่ยนผ้าเบรคหลังเองนะครับ  ประสบการณ์โดยตรงอีกครั้ง
หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรคมา พบว่า ล้อแต่ละล้อมันร้อนไม่เท่ากัน  โดยผ้าเบรคหน้า ร้อนมาก  ร้อนจนคิดว่าสลักเบรคตาย  แต่จริงๆไม่ใช่   พบว่าเบรคหลังมันทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพเท่านั้นเอง 
 
ผมก็หาสาเหตุดูว่ามันเกิดจากอะไรได้บ้าง ถอดล้อเข้าออก 3-4 รอบ  เล่นเอาซะคล่องเลย
 
 

 

 
 
จากรายละเอียด ต้องทำตามหน้านี้นะครับ  คือแผ่นเตือนไว้ล่าง และสลักเบรค PIN A กับ PIN B ต้องอยู่ตรงตำแหน่งที่ถูกต้องด้วยครับ  ภาพบนคือเบรคหลัง  ภาพล่างคือเบรคหน้านะครับ
 
 
ถ้าหากว่า ใส่ไม่ถูกต้อง รถของท่านอาจจะเกิดปัญหาตามภาพนี้ได้ ( โดนกับตัวเอง )
 
 

อย่างแรก ผ้าเบรคจับไม่เต็มหน้าจานครับ  ถ้าตอนประกอบตัวผ้าเบรคเข้าไป มันก็จะใส่ผ้าเบรคได้ตามปกติ รวมถึงสลักเบรคด้วยเช่นกัน 
 
ถ้าถามว่าใส่ได้มั้ย   ใส่ได้ครับ แต่มันจะฝืนนิดๆ เหมือนจะใส่ไม่เข้า  แต่มันก็ใส่เข้า
 
 

หลังจาก สังเกตุเห็นในวันแรก หลังจากติดตั้งเข้าไป นั้นคือ...... ผ้าเบรคจับบริเวณแค่ตรงกลาง ไม่เต็มหน้าจาน
จากการตรวจสอบพบว่าผ้าเบรค แอบหลังเต่านิดๆ  แจ้งผู้ขายไปแล้ว
 
 

นำเอาออกมาขัด และตะไบให้เรียบร้อย ให้มันเรียบทั้งแผ่นครับ  ใช้ตะไบเหล็กทำนะครับ  ทั้งให้ครบทุกชิ้นเลย
 
 

ทำการตรวจสอบว่า ผ้าเบรคของเรานั้นจับเต็มหน้าจานหรือไม่   ผมใช้วิธีเอาปากกาเคมี  มาขีดไว้เลยครับ ทำหลายๆรอยขีด เพื่อตรวจสอบว่า จานเราเรียบหรือไม่ และผ้าเบรคใหม่ที่เราตะไบนั้นเรียบหรือไม่
 
 

หมุนตรวจสอบดูครับ  จะเห็นได้ว่า  ยังจับไม่เต็มหน้าจาน  แต่ถ้าใช้ซักพักน่าจะเต็มไปเอง
 
 

หลังจากทำครบทั้ง คู่แล้ว ตอนเช้าวิ่งทดสอบลงมาดู พบว่าจับเต็มหน้าจานแล้ว เย้ๆ   
 
 
 
ตรวจสอบให้ครบทั้ง 4 ด้านนะครับ  
 
 
 
สรุปสั้นๆ
 
ผ้าเบรคหน้า  แผ่นเตือนจะอยู่ด้านในข้างบน
ผ้าเบรคหลัง แผ่นเตือนจะอยู่ด้านในข้างล่าง
 
จุดที่ติดกับ Retainer ให้ทาจารบีบางๆ เพื่อให้มันสามารถเคลื่อนตัวได้สะดวกตอนเบรคครับ
 
 
 
 
ขอบคุณครับ

ขอมาเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่จะเปลี่ยนผ้าเบรคหลังเองนะครับ  ประสบการณ์โดยตรงอีกครั้ง
หลังจากเปลี่ยนผ้าเบรคมา พบว่า ล้อแต่ละล้อมันร้อนไม่เท่ากัน  โดยผ้าเบรคหน้า ร้อนมาก  ร้อนจนคิดว่าสลักเบรคตาย  แต่จริงๆไม่ใช่   พบว่าเบรคหลังมันทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพเท่านั้นเอง 
 
ผมก็หาสาเหตุดูว่ามันเกิดจากอะไรได้บ้าง ถอดล้อเข้าออก 3-4 รอบ  เล่นเอาซะคล่องเลย
 
 

 

 
 
จากรายละเอียด ต้องทำตามหน้านี้นะครับ  คือแผ่นเตือนไว้ล่าง และสลักเบรค PIN A กับ PIN B ต้องอยู่ตรงตำแหน่งที่ถูกต้องด้วยครับ  ภาพบนคือเบรคหลัง  ภาพล่างคือเบรคหน้านะครับ
 
 
ถ้าหากว่า ใส่ไม่ถูกต้อง รถของท่านอาจจะเกิดปัญหาตามภาพนี้ได้ ( โดนกับตัวเอง )
 
 

อย่างแรก ผ้าเบรคจับไม่เต็มหน้าจานครับ  ถ้าตอนประกอบตัวผ้าเบรคเข้าไป มันก็จะใส่ผ้าเบรคได้ตามปกติ รวมถึงสลักเบรคด้วยเช่นกัน 
 
ถ้าถามว่าใส่ได้มั้ย   ใส่ได้ครับ แต่มันจะฝืนนิดๆ เหมือนจะใส่ไม่เข้า  แต่มันก็ใส่เข้า
 
 

หลังจาก สังเกตุเห็นในวันแรก หลังจากติดตั้งเข้าไป นั้นคือ...... ผ้าเบรคจับบริเวณแค่ตรงกลาง ไม่เต็มหน้าจาน
จากการตรวจสอบพบว่าผ้าเบรค แอบหลังเต่านิดๆ  แจ้งผู้ขายไปแล้ว
 
 

นำเอาออกมาขัด และตะไบให้เรียบร้อย ให้มันเรียบทั้งแผ่นครับ  ใช้ตะไบเหล็กทำนะครับ  ทั้งให้ครบทุกชิ้นเลย
 
 

ทำการตรวจสอบว่า ผ้าเบรคของเรานั้นจับเต็มหน้าจานหรือไม่   ผมใช้วิธีเอาปากกาเคมี  มาขีดไว้เลยครับ ทำหลายๆรอยขีด เพื่อตรวจสอบว่า จานเราเรียบหรือไม่ และผ้าเบรคใหม่ที่เราตะไบนั้นเรียบหรือไม่
 
 

หมุนตรวจสอบดูครับ  จะเห็นได้ว่า  ยังจับไม่เต็มหน้าจาน  แต่ถ้าใช้ซักพักน่าจะเต็มไปเอง
 
 

หลังจากทำครบทั้ง คู่แล้ว ตอนเช้าวิ่งทดสอบลงมาดู พบว่าจับเต็มหน้าจานแล้ว เย้ๆ   
 
 
 
ตรวจสอบให้ครบทั้ง 4 ด้านนะครับ  
 
 
 
สรุปสั้นๆ
 
ผ้าเบรคหน้า  แผ่นเตือนจะอยู่ด้านในข้างบน
ผ้าเบรคหลัง แผ่นเตือนจะอยู่ด้านในข้างล่าง
 
จุดที่ติดกับ Retainer ให้ทาจารบีบางๆ เพื่อให้มันสามารถเคลื่อนตัวได้สะดวกตอนเบรคครับ
 
 
 
 
ขอบคุณครับ

เอาข้อมูลผ้าเบรกมาฝากครับ ยี่ห้อนี้เห็นยังไม่ค่อยมีใครใช้ แต่อีกคลับที่ผมอยู่ใช้กัน ติดใจมากฮะ เงียบ ฝุ่นน้อย ไม่กินจาน ราคามิตรภาพ ^^
 

 
Posi Quiet Ceramic Brake Pads
• Longest wearing most advanced material available.
• Lowest dust.
• 100% scorched for easy bed-in. 
• 100% shimmed to eliminate noise and vibration.
• Positive Molded for even wear characteristics.
• Stable friction performance across a wide temperature range.
• Hardware included. *Where applicable.
• 100% Asbestos-free formulas.
• Ask for Posi Quiet Ceramic Brake Pads (105 series).

ผ้าเบรคผมสั่ง posi ceramic pad ไปแล้วอ่ะครับ
ของเมกา ><

อ่านไปอ่านมา ชักอยากจะเสียตังค์ซื้อเบรค Odyssey สักชุดมาลองแล้วสิ

ขอบคุณมากครับ  งบน้อย เลยต้องใช้ล้อเดิมไปก่อน
สอบถามไปยังร้านพี่เกรียง  แจ้งว่าชุดเบรค 2.0 สามารถใส่กับล้อ  16" 5 ก้านได้สบายๆ เลยตกลงปลงใจกับตัวนี้ครับ แต่ยังแอบสนใจตัวจาน 300mm. อยู่ครับ ซึ่งเท่าที่ดูมา  จะสามารถใช้จานของ S2000 ได้เลย  ว่าจะหาข้อมูลว่า จาน 300mm. มีของ Accord จะสามารถใส่ได้หรือป่าว
 
 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ คุณ Endless หามาด้วยครับ

ตอนนี้ ผมได้ชุดเบรคหน้ามาใหม่ครับ
ของพี่เก่ง (Keng_BlackFD) ชุดปั้ม 2.0 ผ้า จาน คาลิปเปอร์
 
จานหน้าหนา 22.4mm จาก 23mm. ชุดลูกสูบ ลูกยางต่างๆสภาพดีไม่เปื่อยยุ่ย
 
ราคาแทบจะให้กันเลยครับ ไว้จะทดสอบการใช้งานดู กับตัวผ้าเบรคเกาหลีครับ
 
 
ปล. หลังจากทดสอบผ้าเบรคเกาหลี กับ ชุดเบรคเดิม 1.8 จะตามด้วย 2.0 ครับ

จริงครับราคาถูกมาก ถ้าคันแฟนผมยังไม่ได้ใส่รับรองได้โดนแน่ๆล้อเดิม 5 ก้าน เหมือนว่าจะใส่กับ Odyssey ไม่ได้นะครับ มีคนถามหลายทีละ ไม่ได้เช็คซักที ^^"

ถ้าเทียบใน condition รถเหมือนๆกันผ้า mu-spec เหมือนกัน ระหว่าง 2.0 vs Odyssey (ปล.ที่บ้านมี FD 1.8 2คัน คันผม Odyssey คันแฟน 2.0 ครับ)
ผมก็ยังเลือก Odyssey มากกว่า เพราะ
1.ลักษณะการใช้งานผมขับตจว.มากกว่า ขับทางไกล(กรุงเทพ-หาดใหญ่) ใช้ความเร็วสูงเป็นหลัก 140 เทียบกันแล้ว odyssey ตอบโจทย์ผมได้ดีกว่าสำหรับผม
2.น้ำหนักอาจจะเป็นจุดที่ด้อยกว่าของ Odyssey ด้วยตัวปั้มและจานที่ใหญ่กว่า (282 - 300) แต่ก็แลกมาด้วยการเบรคที่มั่นใจกว่า และโดยส่วนตัวถ้าใช้ 1.8 แล้วข้ามมาเป็น odyssey จะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนิดนึงในช่วงแรก แต่ถ้าเทียบระหว่าง 2.0 กับ odyssey ผมว่าไม่ต่างกันชัดเจนเหมือน 1.8 กับ odyssey
3.การหาชุดปั้ม ตอนแรกผมตั้งใจใช้ 2.0 แต่ว่าหาของเป็นปีไม่มีใครปล่อยเลย(จริงๆก็มีแต่ราคาแพงเวอร์) เลยไปโดนเจ้า Odyssey แทน แต่ทว่าหลังติดตั้งไปแล้วมีคนปล่อย 2.0 เป็นระยะๆเลย T^T ซึ่งที่คุณ Lhorn ได้มาต้องบอกว่าถูกมาก(จริงๆกระทู้นี้ผมก็เข้าไปดูนะ อยากเอามาเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะเอามาใส่คันไหนละ คันผมก็ Odyssey คันแฟนก็ 2.0)
4.ราคา ของผมได้มา 3,000 และสามารถหาของได้เรื่อยๆ ซื้อจายขยายอย่างเดียวยังแพงกว่าชุด Odyssey ทั้งชุดอีก
5.ไม่ต้องแปลง ยัดอย่างเดียว
 
โดยรวมจากนิสัยการขับของผม Odyssey จึงตอบโจทย์ผมมากกว่าครับ
 
สรุป
ชอบแบบไหนเลือกให้เหมาะกับตัวเอง เอาแบบที่ชอบดีที่สุดครับ ^^
 
ว่าแต่คุณ Lhorn อยู่แถวไหนอะครับ ถ้าไม่รบกวนมากเกินไปอยากลองทดสอบ v2 ดูบ้าง ^^

เปลี่ยนไปเป็นไรอ่ะ 5555

คุณ koko ผมได้ ชุดเบรค 2.0 จากพี่ในคลับมาครับสภาพดี เบรคอายุ 80,000km. ชุดลูกยางสภาพยังดี
 
ชุดเบรค 2.0 ,จานเบรคศูนย์ (เหลือ22.4mmจาก 23mm. ใช้ได้อีกยาวๆ) ,ผ้าเบรคศูนย์
 
3 อย่างนี้ 2,000 บาทถ้วนๆครับ ผมเห็นในเวปขายทั่วๆไป 4,000-5,000 บาทครับ เฉพาะ ปั้มเบรค ไม่รวมจาน หรือ ผ้า แต่ได้ราคานี้จากพี่ Keng_blackfd ครับ
 
ตอนแรกจะหา odessey แต่... ผมใช้ล้อเดิมๆ กลัวว่า odessy จะใส่ไม่ได้ รวมทั้ง ผมคุ้นกับความรู้เบรค1.8 อยู่แล้ว 2.0 น่าจะหนึบกว่านี้ครับ odessey สอบถามจะผู้ใช้งาน. ได้คำตอบว่า..
 
การใช้งานเบรคดี แต่ก็หนัก มีจังหว่ะเบรคหน้าทิ่มความเร็วต่ำ แต่ก็ไหลอยู่ เขาแนะนำว่าง่ายๆจบๆ มาจบที่ชุดเบรค 2.0 ดีกว่า ผมเลยตัดสินใจเลือกเบรค 2.0 ครับ
 
 
การใช้งาน hisoft v.2 แตกต่างจากตัว v.1 ชัดๆ คือความเร็วต่ำ เบรคหยุดได้ดีมาก ดีกว่า v.1 ชัดเจน แต่เช้าๆ เหยียบเบรค 4-5 ครั้งก่อนครับ ครั้งแรก ลื่นนิดๆ. แตะเบรคเบาๆ ก็ดึงรถแบบหนึบๆแล้ว หน้าไม่ทิ่มเหมือน bendix stelth และส่วนตัวคิดว่าดีกว่า mu-spec 20-30% ได้ น่าจะเพราะ spec ต่างกันครับ ค่า friction coe. ของ hi-soft v.2 มากกว่าครับ
 
 
สำหรับผ้าเกรด racing ผมกลัวว่า จะมีผลแค่ความเร็วสูงๆ 130-140+ ซึ่ง ไม่ได้เหยียบเบรคจังหว่ะนั้นแรงบ่อยๆ ซึ่ง เวลาขับขี่ ก็ต้องประเมินสถาณการณ์ ตลอดอยู่แล้วครับ เลยคิดว่า v.2 พอละครับ
 
 
เท่าที่ลองใช้มาคือ..
 
 
Hi-soft v.2. ราคาถูกกว่า mu-spec เกือบๆ 600 บาท
Hi-soft v.2 เบรคความเร็วต่ำได้ดีกว่า mu-spec แบบรู้สึกได้
แต่ เบรคนุ่ม พอๆกัน แต่เจ้า mu-spec เบรคนุ่มกว่านิดๆ อาจจะเพราะ hi-soft มันใกล้ๆหยุดมันหน่วงรถกว่า
ที่ลอง 120 แล้วเบรค ไม่ไหลเหมือน mu-spec หยุดดีแบบ v.1 หรือมากกว่า
 
 
ตอนนี้ไม่เจอเสียง มีแต่กลิ่นปลาหมึกแห้ง แต่ทิ้งไว้ซักพัก กลิ่นปลาหมึกคงหายไป
 
 
 
 
ปล. จากข้อมูลทุกอย่างล้วนแต่เกิดจากการใช้งาน และ ทดลอง ของผมเอง บางอย่างเกิดจากความรู้สึกล้วนๆ ผิดถูกประการณ์ใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ขอบคุณสำหรับขัอมูลครับ
สงสัยเสียตังแน่เลย

พรุ่งนี้จะแปลงร่างเป็น Modulo Type R บ้างละครับ 555

Package ใหม่  สีเหลือง  และใส่กล่องมาแล้ว
 

 
 
ลักษณะเนื้อผ้าเบรค

 
 
ขนาดความหนาของผ้าเบรค  รู้สึกว่าจะมากกว่า mu-spec 2mm.  นั้นคือ 12mm. ครับ

 
 
ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของ hi-soft v.2 

 
คราวนี้มีวันเดือนปีที่ผลิตด้วย อยู่บนแผ่น Shrimp
 

 
 
พอนำเอาไปเทียบกับจานเบรคของ civic fd 2.0 ที่ขนาด 282mm. แล้วก็ได้ดังภาพ
ผ้าของ 1.8จะเล็กกว่าเล็กน้อยครับ  จากภาพ hi-soft v.1 ครับ

 
 
ของเก่าใช้ Mu-Spec   เพราะ hi-soft v.1 นั้นเสียงดังแสบแก้วหูมาก  เลยมาใช้ซัก 5000Km. ก่อน

 
 
 
ไม่รอช้าติดตั้งเลยละกัน( เพราะยุงเยอะ )  ขัดผิวหน้าจานก่อน
 

 

 
 
หลังจากติดตั้งเสร็จแล้ว ก็...ทำการตรวจสอบว่า เราขันน๊อตนั้น แน่นเกินไปหรือป่าว โดยปกติการขัน PIN caliper เข้าไป ตัว PIN A และ PIN B ต้องขันด้วยแรงเท่าๆกันนะครับ ไม่อย่างนั้นจะทำให้ผ้าเบรคกินไม่เท่ากัน   ก็ทดสอบง่ายๆสำหรับล้อหลัง  ดูว่ามันติดมั้ย มันฝืดหรือป่าว
 
สำหรับล้อหน้า ใช้วิธี หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วให้ใส่เกียร์ว่างๆ จากนั้นใส่ล้อแล้วหมุนดูครับ  

 
 
ทำครบทั้ง 4 ล้อแล้วก็ ลองเข็นรถดูครับว่า  หลังจากเราย้ำเบรคหลายๆรอบ  เราใส่เกียร์ว่างเข็นรถได้ไหม  ถ้าได้ก็ไปทดสอบเลยครับ
 

 
 
 
 
 
ทดสอบเมื่อวาน รวมเช้าวันนี้ก็ประมาณ 170Km. ครับ  รถเบรคได้ดีขึ้นในช่วง 20-30Km. แรกเลย  ผ้าเบรคเริ่มจับได้มากขึ้น และในช่วงวิ่งระยะทางประมาณ 70Km. นี้นั้น ช่วงความเร็วต่ำกลับทำได้ดีกว่า Mu-Spec ซะอีกแหะ ความรู้สึกเดียวกัน  ถ้าใครใช้ Mu-Spec อยู่นะครับ    สำหรับ hi-soft v.2 นี้... มันจะดึงกว่าเดิมประมาณ 20-30% เลย.. อันนี้เป้นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ   แต่โดยรวมรู้สึกว่าเบรคได้ดีกว่า mu-spec นะครับ
 
หลังจากทดลองใช้ซัก 10,000 Km. ผมจะเปลี่ยนเบรคคู่หน้าเป็น  ชุดเบรคของ 2.0 ครับได้มาจากพี่ในคลับนี่ละครับ  ตอนแรกว่าจะใช้ Odyssey แต่...ไม่เอาดีกว่า  ใช้ 2.0 นี่ละ... และในผ้าเบรคชุดถัดไป คงใช้ hi-soft v.2 นี่ละครับ แต่จะเป็นการใช้กับเบรค 2.0 ครับ
 
ปล.ใครใช้ hi-soft premium v.2 นี้นั้น  ถ้าได้กลิ่นปลาหมึกแห้ง ไม่ต้องตกใจนะครับ   ของแท้จากเกาหลี
ผมทดลองขับ  เปิดกระจก ก็ว่า..ได้กลิ่นแปลกๆ   พอจอดรถเสร็จดมล้อ.... ชัดเลย  กลิ่นผ้าเบรค  ถ้าใครซื้อไปไม่มีกลิ่นปลาหมึก... ระวังของปลอมครับ
 
 
ขอบคุณครับ

ตามคุณต่อเลย
 
ผมใช้ GR-90 60,000 ปะบ่อยเลยเปลี่ยนมาเป็น PS3
PS3 ตอนนี้วิ่งมา 30,000km. แล้วครับ ยังสึกไม่ถึงสะพานยางเลย ทนจริงๆ

GR-90 ทนกว่าครับ  ผมใช้ไป60,000 Km. ดอกยังเหลือ

ตอนนี้ ผมได้ชุดเบรคหน้ามาใหม่ครับ
ของพี่เก่ง (Keng_BlackFD) ชุดปั้ม 2.0 ผ้า จาน คาลิปเปอร์
 
จานหน้าหนา 22.4mm จาก 23mm. ชุดลูกสูบ ลูกยางต่างๆสภาพดีไม่เปื่อยยุ่ย
 
ราคาแทบจะให้กันเลยครับ ไว้จะทดสอบการใช้งานดู กับตัวผ้าเบรคเกาหลีครับ
 
 
ปล. หลังจากทดสอบผ้าเบรคเกาหลี กับ ชุดเบรคเดิม 1.8 จะตามด้วย 2.0 ครับ

ลองตรวจสอบ Shockup กับ ตำแหน่งยึดกันโคลงหลังดูครับ
 
โช็คตรวจดูว่ารั่วซึมหรือป่าว ส่วนลูกหมากต้องดูจุดยึดกันโคลงกับปะกับครับ ปกติ มันจะต้องอยู่ในแนวระนาบกัน ไม่เอียงซ้ายหรือขวาครับ น่าจะ มีส่วนบ้างอะครับ

Test E85 ในเขตเมือง  (สภาพรถติด เคลื่อนตัวช้า)   ขอร่วมทดสอบด้วยครับ
Civic FD1.8 AT (รองรับ E20 แล้ว) -->> ใช้น้ำมัน E85 อย่างเดียว

อุปกรณ์ที่เปลี่ยน 
- หัวฉีด R20 , มี 10 รูฝอย - ลูกลอย อดทน for E85
- ปลายท่อ FD2   ลักษณะการใช้งานรถ - ล้อ 18" + ยาง 225 40 r18 - นั่ง 1-2 คน - ถอดยางอะไหล่ออก ทดลองวิ่งน้ำมันถังเก่า จนไฟเตือน (2 ขีด) เติม E85 ไป 800 บาท (ราคาขาย 23.18 บาท/ลิตร) ได้น้ำมัน E85 = 34.5 ลิตร ------------------------------ ขับทางในเขตเมือง // เขตราชเทวี, ปทุมวัน // บางนา, ศรีนครินทร์ // ทางด่วน มีใช้เวลาบนถนนมาก เช่น รถติด 1-2 ชั่วโมง ------------------------------ รอบเครื่อง 2000-3500 รอบ ช่วงความเร็วทึ่่ใช้บ่อยๆ 0-40, 50-80, 90-110 km/hr ผลการทดสอบ  ระยะทางที่วิ่งได้ = 410 กิโลเมตร (ไฟน้ำมันเตือนเหลือ 2 ขีด) เทียบเป็น กม./ลิตร = 11.8 เทียบเป็น บาท/กม. = 2.12  ความรู้สึก อัตราเร่ง 0-100 km/hr // E85 (หัวฉีด R20) ไวกว่า ใช้น้ำมัน  E20 (หัวฉีดเดิม R18) เติมน้ำมันได้มากขึ้น....เติม 1000 บาทเต็มถัง มีตังทอน!! ปล. ต้องลองวัดอัตราการบริโภค หลายๆ ถัง เพื่อหาค่าเฉลี่ย ที่นิ่งกว่านี้ ครับ 

สวัสดีครับพอดีเรื่องมีอยู่ว่าผมทำเครื่องเสียงมาแล้วทีนี้เวลาเปิดเสียงเบสเยอะๆ แผงประตูจะครางครับ ผมเลยแดมป์ตัวบานประตูก็ยังไม่หาย เลยจัดการแดมป์แผงประตูเองซะเลย 
 
อุปกรณ์ 
1.แผ่นแดมป์ยี่ห้ออะไรก็ได้ หรือจะใช้"แผ่นยาง"ก็ได้นะครับ (ต้องหนาไม่เกิน2 มม. นะครับ)
2.แผ่นฟองน้ำ ข้างหนึ่งเป็นกาว อีกข้างผมเป็นฟรอย หรือจะใช้แบบไม่มีฟรอยก็ได้ครับ (คลองถมผมซื้อมา 1.2เมตร 350 บาท)

 
มาเริ่มกันเลยครับ
 
ขั้นที่ 1 อันนี้แผงประตูผมที่แดมป์แล้ว ดูวิธีการรื้อในห้อง DIY ครับ

 
ขั้นที่ 2 ลอกผ้าเดิมออก ค่อยๆลอกพยายามอย่าให้เศษผ้าขาดติดครับ จะได้ไม่ต้องเช็ดรึดึง

 
ขั้นที่ 3 นำผ้าที่ดึงออกมาแล้ว มาวัดกับแผ่นฟองน้ำ แล้วติดแผ่นฟองน้ำเข้าไปแทนที่เดิม ยกเว้นตรงส่วนล่างนะครับ ผมใช้แผ่นแดมป์แทน (ตามรูป)
 
ถ้าเกิดใช้แผ่นฟองน้ำติด จะปิดแผงประตูกลับไปไม่ได้ มันจะไม่สนิทครับ รึใครไม่มีแผ่นแดมป์ ให้ใช้แผ่นยางทากาวแล้วแปะเลยครับ ไม่ต้องเอาผ้าเดิมใส่นะครับ ตรงนี้ห้ามหนาไม่งั้นปิดไม่เข้า
 

 
ขั้นที่ 4 ค่อยๆตัดและติด ให้ได้ตามรูปนะครับ ส่วนที่ผมแปะแดมป์ดำๆ ตรงนั้นห้ามติดฟองน้ำครับ 

 
 
เป็นอันเรียบร้่อยครับ ติดประตูกลับ เปิดเพลงดังๆ รับรองไม่มีทะเทือนครับ
 

ก่อนติด Gas ผมใช้ค่าน้ำมันเดือนละ 9,000-12,000 บาท  ใช้งานเฉลี่ยๆ เดือนละประมาณ 4,500-5,000 Km.
 
เหตุผลหลักๆ เลยคือ  ต้องการพื้นที่ของท้ายรถครับ  เนื่องจากบ้างครั้งไปไหนมาไหน  มีพื้นที่
รถ civic คันเ่ก่าติดแบบ Capsule ครับ แต่เวลาไปไหนมาไหนหลายคน  ก็แบกของมาไว้ในห้องผู้โดยสารทุกครั้งไป เต็มไปหมด  ครั้งนี้เลยตั้งใจเลือกแบบ Donut   เวลาไปซื้อของนั่นๆนี่ๆกับทางบ้าน  พื้นที่เยอะดีครับ แต่หลายคนกังวลกันแตกต่างกันไป
 
 
เช่น ยางรั่ว , ความปลอดภัย , วิ่งได้ไกลกว่า   
ผมเองตั้งแต่ติด Donut มาก็เจอยางรั่วครับ  แต่ผมสังเกตุก่อนที่จะขับรถทุกครั้ง เช่นยางดูนิ่มกว่าปกติหรือไม่  ถ้าเจอก่อนผมก็เติมลมตามปั้มอัดไว้ แล้วค่อยวิ่งไปปะยางครับ  เพราะยางมันไม่รั่วในทันที มันจะค่อยๆซึมออกมาครับ บางที 2-3 วันเพิ่งจะสังเกตุเห็น
 
ความปลอดภัย... อันนี้ ตอนติดตั้งไม่ได้คิดเลยครับ  คิดว่าถ้าชนแรงจริงๆ  จะ Capsule หรือ Donut ก็คงไม่ทิ้งกันมาก
 
วิ่งได้ไกลกว่า Capsule วิ่งได้ไกลกว่าจริงๆครับ แต่ Donut 54Lite ผมก็ป้วนเปี้ยน  450-500Km. ครับ  ปัจจุบันปั้มแก็สเยอะกว่า  7-11 ซะอีก
 
 
สุดท้ายความสวยงาม  เลยจัด Donut มาครับ    จริงๆแล้ว  ... ... .. อารมณ์ล้วนๆ แหะๆ

ไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้ติดไปหรือยัง. ผมติดที่urc AC Stag 300 Premium + Donut 54 + Hana Injection + TOmasetto 380 HP ผมติดมาจะอาทิตย์นึงหล่ะ
วิ่งได้เหมือนน้ำมันเลยครับอัตราเร่งดี ผมวิ่งออกต่างจังหวัด41ลิตรวิ่งได้450กม. งานเนียนครับที่urc

ลองบอกรายละเอัียดข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้หน่อย เผื่อเพื่อนสมาชิกจะได้ช่วยวิเคราะห์ 
เช่น รถใช้มาระยะทางกี่โลแล้ว รถออกปีไหน
รถเคยมีการตรวจเช้คตามระยะหรือไม่ 
การทำงานของหัวฉีด เพราะหัวฉีดเดิม ตัวกรองหะัวฉีดอาจมีการสึกกร่อนทำให้อุดตันเป้นเหตุเครื่องสะดุดได้ (ใน FD หัวฉีดรุ่นใหม่มีการเปลี่ยนสเปคเป็นโลหะแล้ว)
หัวเทียนเคยเปลี่ยนยัง
กรองเบนซินครบระยะต้องเปลี่ยนหรือยัง
 
ค่อยๆไล่ไปครับ
 
 
 
ถ้าเกี่ยวกับแก๊ส ก้ต้องบอกใช้แก๊สมานานยัง  เคยได้มีการตรวจเช็คระยะวาล์ว บ้างใหม่ ระบบแก๊สเคยมีการตรวจสอบปรับจูนระบบแก๊สตามระยะหรือไม่ กรองแก๊สเคยเปลี่ยนบ้างป่าว

ระวังจารบีเยอะเกินไปนะครับ มันจะทำให้สลักเบรค ไม่เลื่อนเข้าเลื่อนออกนะครับ
 
แรงๆทำ เอาแทบไม่ออกครับเป็นสูญญากาศเลย กว่าจะเอาออกแทบแย่ หลังๆ มา ทาบางๆพบครับ