Jump to content

nonto

CCTH Member
  • Posts

    29
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by nonto

  1. หลายท่านคิดผิดที่ว่าขี้นกเป็นแค่คราบ ไม่นานก็สามารถเอาออกได้ ที่จริงมันมีผลต่อสีรถของเราครับ วันนี้โตโยต้านนทบุรี จะแนะนำวิธีการที่ถูกต้อง ในการรับมือกับขี้นกกัน 1.อย่าปล่อยทิ้งไว้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้มันจะทำให้สีรถเราด่างได้ เมื่อนกขี้ใส่รถของเรา ควรใช้ผ้าที่มีเนื้อนิ่ม หรือกระดาษที่มีเนื้อที่ในการหยิบ ห้ามถูเด็ดขาด 2. กรณีขี้นกแห้ง ก็ใช้ผ้าที่มีเนื้อนิ่ม หรือกระดาษเหมือนขั้นตอนแรก แต่ให้เพิ่มน้ำยาแว๊กหรือทำความสะอาดมาทาทิ้งไว้ สักพักและเช็ด ออก ทางที่อย่าปล่อยให้ ขี้นกแห้ง เพราะมันอาจเกิดกัดกล่อนของชั้นแล็คเกอร์แล้ว 3.อย่าลืมล้างมือ เพื่อสุขภาพของตัวเอง เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากขี้นก หลังจากคุณจัดการมันจากรถคุณไปแล้ว 4.ล้างรถ ถ้าคุณพอมีเวลาอยู่บ้าง การล้างรถถือเป็นสิ่งดีที่สุดในการขจัดคราบสกปรกออกจากรถ และขอแนะนำหลังจากล้างเสร็จแล้ว ควรเคลือบแว๊กเคลือบสีลงไป เพื่อปกป้องสภาพสีตัวรถของเราเข้าไปอีกนะครับ 5 เปลี่ยนที่ที่จอดรถ ถ้าจอดรถทิ้งไว้พบกับขี้นกเป็นประจำบ่อยๆ ควรหาที่ใหม่ในการจอดรถเสียใหม่ดีกว่า ทีนี้ละครับจะได้ไม่มาต้องนั่งเครียดกับปัญหาขี้นกขี้ใส่รถเรา ในเมื่อเรารู้หนทางการแก้ไขแล้ว ที่สำคัญอย่าปล่อยละเลยทิ้งไว้จะดีที่สุดครับ ข้อมูลจาก เมื่อรถเปื้อนขี้นก ควรทำอย่างไร http://www.toyotanon.com/index.php
  2. เมื่อคุณเป็นคนขับ แล้วเกิดเหตการณ์ไม่ว่ารถหรือด้วยกันหรือคน สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ ห้ามหนีเป็นอันขาด เพราะความผิดฐานขับรถประมาทไม่ใช่เรื่องเจตนา ผู้กระทำผิดไม่ใช่อาชญากร ควรอยู่เพื่อต่อสู้กับความจริง ไม่งั้นต้องหลบหนีคดีอยู่ 15 ปี ถ้าขับรถชนคนตาย แล้วคุณมอบตัวสู้คดี บางทีศาลอาจปราณีลดโทษให้ส่วนหนึ่ง หน้าที่ของคนขับรถเมื่อเกิดรถชนกันนั้น ตามที่กฎหมายระบุไว้มีดังนี้ 1. ต้องหยุดรถและช่วยเหลือตามสมควร ตัวอย่าง ขับรถชนคนก็ต้องหยุดรถ ช่วยเหลือคนที่ถูกชน นำส่งโรงพยาบาลเท่าที่ทำได้ 2. ต้องไปแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้เคียงทันที ต้องบอกตำรวจด้วยว่าเราเป็นคนขับรถอะไร แจ้งชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ หมายเลขทะเบียนรถ แก่ผู้ได้รับความเสียหายด้วย 3. ถ้าผู้ขับขี่หลบหนีหรือไม่แสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ กฎหมายให้สันนิฐานว่าเป็นผู้กระทำผิด และตำรวจมีสิทธิอำนาจยึดรถที่ขับไว้จนกว่าจะได้ตัวผู้ขับขี่หรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ถ้าคนขับคนใดไม่ปฏิบัติตามข้อ (1), (2) และ (3)ที่กล่าวมา ระวังจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ถ้าคนที่ถูกชนบาดเจ็บสาหัสหรือตาย ต้องจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท ถ้ารถของคุณมีประกัน ท่านตัองรีบติดต่อกับบริษัทประกันของท่านทันที เพราะบริษัทประกันเขาจะมีเจ้าหน้าที่มาที่เกิดเหตุ พร้อมทำแผนที่เกิดเหตุไว้พร้อมมูลเพื่อเอาไว้ต่อสู้คดี ถ้ามีกล้องถ่ายรูป หรือหากล้องถ่ายรูปใกล้ที่เกิดเหตุได้ต้องรีบถ่ายรูปรถ และที่เกิดเหตุไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้เก็บไว้เป็นหลักฐานการต่อสู้คดีต่อไป หากมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งหรือมูลนิธิร่วมกตัญญูถ่ายภาพศพหรือ ที่เกิดเหตุไว้ ก็ให้ติดต่อขอภาพที่ถ่ายเก็บไว้ให้ได้ เพราะจะเป็นประโยชน์แก่รูปคดีในภายหลัง ควรช่วยเหลือคนเจ็บหรือค่าทำศพของผู้เสียชีวิต เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ คนขับรถ มักไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของการช่วยเหลือ ความจริงเมื่อเราขับรถชนคนตาย บาดเจ็บ หรือการขับรถโดยประมาทนั้น เรามีความผิดทั้งทางกฎหมายแพ่ง และอาญา ทางอาญา เราอาจจะต้องรับโทษติดคุก ทางแพ่ง เราจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่าบาดเจ็บ ค่าทำศพให้กับเขา คือติดคุกแล้วยังจะต้องเสียเงินให้กับฝ่ายคนเจ็บ คนตายเขาอีก ทีนี้ถ้าหากเราช่วยเหลือคนเจ็บ หรือใช้ค่าทำศพคนตายแล้ว มีผลดียังไง ตอบได้ว่า มีผลดีมาก ยกตัวอย่างเช่น เราขับรถชนคนบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ต่อมาอัยการฟ้องเราต่อศาล เราก็แถลงต่อศาลว่า เราช่วยเหลือคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ส่วนมาก ศาลจะเห็นว่า เราเป็นคนดีมีน้ำใจ ศาลก็อาจจะรออาญาให้เราโดยไม่จำคุกเรา แต่ถ้าเราชนแล้วหนี ส่วนมาก ศาลมักจะจำคุกเราเลย เพราะเห็นว่าเราเป็นคนแล้งน้ำใจ การตกลงใช้ค่าเสียหายให้แก่คนเจ็บก็มีประโยชน์มากเช่น ถ้าเราไม่พยายามตกลงใช้ค่าเสียหายให้กับคนเจ็บ ตำรวจเขาจะมีระเบียบไว้ว่า ไม่ให้คืนรถของกลางให้แก่ผู้ต้องหา จนกว่า ผู้ต้องหา จะพยายาม ตกลงกับฝ่ายผู้เสียหาย และถ้าหาก เราชดใช้ค่าเสียหาย จ่ายค่าทำศพให้เขา คดีแพ่งก็ระงับ เพราะถือว่า ยอมความคดีแพ่งกันแล้ว จะฟ้องเรียกค่าเสียหายเราในทางแพ่งไม่ได้อีกแล้ว และถ้าเราถูกฟ้อง คดีอาญาต่อศาล ผู้เสียหาย จะมาแถลงต่อศาลว่า เราได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เขาแล้ว ส่วนมากแล้ว ศาลจะปรานีจำเลย โดยตัดสินให้รออาญาแก่จำเลย เห็นหรือยังว่า การช่วยเหลือคนเจ็บ และการมีน้ำใจ ถ้าเราเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ควรเข้าช่วยเหลือคนเจ็บตามสมควร และเราจะต้องแสดงตัวเป็นพลเมืองดี โดยยินดีที่จะเป็นพยานในคดีให้ สมมุติว่าเราเห็นรถคันหนึ่งชนคนแล้วหนี สิ่งที่เราควรช่วยหลือจับกุมคนที่ทำผิดได้ก็คือพยายามจดทะเบียนรถ ชื่อยี่ห้อ สีรถที่ชนไว้ได้แล้วรีบแจ้งให้ตำรวจทราบเพื่อติดตามจับกุม ถ้าท่านเป็นคนเจ็บเพราะรถชนหรือคู่กรณี สิ่งแรกคือท่านจะต้องขอร้องให้คนอื่น หรือตำรวจนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อช่วยชีวิตไว้ก่อน ส่วนเรื่องคดีนั้นเอาไว้พิจารณาภายหลัง แต่ถ้าเจ็บเล็กน้อยพอยอมความได้ก็ยอมเสีย เพื่อมิให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ แต่จะต้องพยายามขอชื่อหรือจำทะเบียนรถคันที่ชนเราไว้ให้ได้ เพราะถ้าหากผู้ขับขี่เบี้ยวเราภายหลังเราจะได้จัดการเรียกค่าเสียหายได้ตาม กฎหมาย มิฉะนั้นแล้วจะไม่รู้ว่าจะไปฟ้องร้องเขาจากใคร ที่ไหน เมื่อรู้วิธีกันก็เอาไปทำตามกันดูนะครับเพื่อประโยชน์แก่ตัวทางเอง ทางที่ดีควรอย่าขับรถด้วยความประมาทเลยครับ และปฏิบัติตามกฏจราจรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นนะครับ จะได้ไม่ต้อง เสียเวลา เสียเงินหรือสูญเสียคนสำคัญไป ข้อมูลจาก จะทำอย่างไร เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน toyotanon
  3. ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ตกทั้งหนัก ทั้งเบา บางวันก็ตกทั้งวัน วันนี้จึงมาเตือนปัญหาที่อาจกับเกิดรถของคุณได้ ก็คือ "รถรั่ว" ! อย่าเพิ่งตกใจที่ว่ารั่วหมายถึง ยางขอบประตูรถตามจุดต่างๆ ครับ แหม ก็ช่วงหน้าฝนนี่ บางคนไม่สามารถจอดในที่ร่ม หรือที่บ้านไม่มีที่จอดรถแบบมีหลังคา ต้องให้รถจอดตากฝนตลอด พอจอดหลายวันนานเข้าน้ำฝนเล็ดเข้ามาในรถอีก น้ำฝนที่เล็ดเข้าในรถส่วนมากจะเกิดปัญหาสำหรับรถที่ใช้มาประมาณ 5-7 ปีขึ้นไปเพราะว่าพวกแถบยางขอบประตูเริ่มเสื่อมคุณภาพไป พวกแถบขอบยางพวกนี้จะติดประกบกับประตูรถ ฝากระโปรงท้าย ยางขอบประตูพวกนี้จะเป็นส่วนป้องกันไม่ให้น้ำและเสียงเข้ามาในรถ วิธีดูว่ามันเสื่อมยังไงด้วยวิธีง่ายๆ ลองล้างรถดูครับถ้าน้ำซึมเข้ามาในรถหรือเวลาวิ่งรถเร็วแล้วมีเสียงลมเข้ามาในห้องโดยสาร หรืออาจจะมีกลิ่นแปลกปลอมเข้ามารบกวนในห้องโดยสารด้วย อาการเหล่านี้ละครับคือ อาการยางขอบประตูเริ่มเสื่อมแล้ว ส่วนเรื่องในการเปลี่ยนนั้น ของแท้ราคาจะสูงกว่าของเทียมไม่น้อย แต่เรื่องอายุการทำงานก็น่าจะรู้อยู่แล้วละครับว่าของแท้อายุการใช้งานย่อมดีกว่าของเทียม และอีกตัวเลือกหนึ่งคือสินค้านำเข้าเกรดสูง พวกนี้อยู่นาน 8-12 ปี แต่ราคาก็โหดเลยทีเดียว ลองเลือกกันดูครับ ทางที่ดีก็ลองตรวจยางขอบประตูทุก 4 เดือน / 1 ครั้ง ก็น่าจะดีนะครับว่ามันมีรอยหรือขาดเสื่อมหรือขาดบ้างหรือเปล่า คือสังเกตุดูเนื้อยาง ว่าคงรูปดีอยู่ไหม ประกบสนิทตัวรถอยู่ไหม ทดลองเอามือบีบดูด้วย นุ่มหรือแข็งขนาดไหน ยางขอบประตูที่น่าจะยังใช้งานได้ดีไม่ควรแข็งจนเกินไป หรือนิ่มยวบยาบจน,ยุ่ย หรือมีรอยปริแตก เพราะอาจทำให้น้ำเล็ดลอดเข้ามาในรถเราได้ครับ ยางขอบกระจกบังลมหน้า-หลังอีกทำให้น้ำฝนเข้ามาได้อีก วีธีตรวจสอบก็ลองล้างรถดูเหมือนกันครับ ถ้าจุดไหนมีน้ำรั่วซึมออกมา เราอาจจะแก้ปัญหาเองได้โดย การหาซิลิโคนมายาแนวตามขอบกระจก เมื่อใช้ ซิลิโคนแนวขอบกระจกไปแล้วควรทิ้งไว้ ประมาณ 24 ชม ก่อน เพื่อให้ซิลิโคนมันอยู่ตัว แล้วลองทดสอบใหม่โดยการล้างรถ แล้วก็ไปดูจุดที่รั่วซึมอีกครั้ง และอีกจุดนึงก็ควรลองเช็คดูแผงจิ้งหรีดหรือแผงซี่ มันจะอยู่ตรงตรงบริเวณที่ยึดก้านปัดน้ำฝน จุดนี้น้ำฝนก็อาจจะเล็ดลอดเข้ามาได้เหมือนกัน เพราะเป็นช่องระบายอากาศ เพื่อไม่ให้กระจกรถเราเป็นฝ้า และลดกลิ่นอับภายในรถ แต่ในทางกลับกันถ้าฝนตกหนักๆ รถบางรุ่นก็อาจมีน้ำฝนเล็ดรอดมาจากทางนี้ได้เหมือนกัน ควรเช็คให้ดีด้วยครับว่าน้ำที่เข้ามามันมาจากทางไหนไม่ใช่เปลี่ยนแล้วไม่ได้เช็คอาจทำให้ท่านต้องเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น นอกจากห่วงรถตัวเองแล้วก็อย่าลืมห่วงตัวเองนะครับช่วงหน้าฝนอย่าลืมพกร่มพวกชุดกันฝนติดมือ ติดรถไว้ครับ ข้อมูลจาก ยางขอบประตูเสื่อม ปัญหาประจำช่วงหน้าฝน http://www.toyotanon.com/index.php
  4. ในการเดินทางด้วยรถยนต์ ทุกท่านคงนึกภาพออกว่า ถ้ามีรถคันหนึ่งเสียติดอยู่บนถนน จะเกิดปัญหากับรถคันที่ร่วมเส้นทางขนาดไหน แค่รถคนอื่นเสียยังเสียเวลามาก แต่ถ้ารถเราเสียเองละจะเสียเวลาและเสียอารมณ์ขนาดไหน ไหนยังรู้สึกเกรงใจผู้ร่วมทางด้วย สำหรับคนที่ไม่ใช่ช่าง หรือไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถยนต์ บางครั้งก็อาจพลาดจุดสังเกตุของอาการผิดปกติของรถคุณ จนต้องมาเสียกลางทางได้ โตโยต้านนทบุรี มีข้อแนะนำ 7 ข้อ ที่จะช่วยลดปัญหาจากสถานะการณ์นี้ได้ 1. ตั้งสติและเปิดไฟฉุกเฉิน นี่คือสิ่งแรกที่ต้องทำ เมื่อคุณรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติของรถคุณ ไม่ว่าเสียงดังแปลกๆ ควันขึ้น หรือแม้กระทั้งดับกลางถนน คุณต้องกดไฟฉุกเฉินทันทีเพื่อเตือนเพื่อนร่วมทางให้รู้ว่ารถคุณผิดปกติ เพื่อที่เขาจะได้เบี่ยงรถให้คุณ 2. รีบขับรถเข้าข้างทาง เมื่อเปิดไฟฉุกเฉินแล้ว ให้ขับรถเข้าข้างทางโดยเร็ว เพราะการจดเสียในช่องจราจร นอกจากจะกีดขวาง รถคันอื่นแล้ว ยังอาจจะเกิดอุบัติเหตุจากรถคันหลังที่ขับเข้ามาแล้วหลบรถคุณไม่ทัน และให้จอดช่องซ้ายเท่านั้นนะครับ 3. โทรศัพท์มือถือ+เบอร์ฉุกเฉิน สถานะการณ์แบบนี้สิ่งที่ต้องทำคือการโทรขอความช่วยเหลือ สมัยนี้คนใช้สมาร์ทโฟนต้องเตรียมตัวสักนิด เพราะแบตเตอรี่หมดไวเหลือเกิน ก่อนเดินทางสำรวจแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ว่าเหลือพอเหตุฉุกเฉินด้วยหรือไม่ และ เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินก็ควรจะมีพกไว้ประจำ 4. อย่าอยู่ห่างรถ อย่าไปไหนไกลจากรถไม่ว่ารถคุณจะยังขับได้หรือไม่ก็ตาม เพราะการจอดทิ้งไว้บนถนนก็มีความเสี่ยงพอแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้แก้ปัญหาหรือหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดได้ อย่าลืมนำกรวยหรือป้าย สามเหลี่ยมฉุกเฉินมาตั้งก่อนถึงรถคุณประมาณ 50 เมตรด้วย 5. ความรู้ช่างเอามาใช้ สำหรับบางคน ที่พอรู้เรื่องช่างบ้าง ถ้ารถเสียไม่มากอาจจะช่วยให้คุณรอดพ้นปัญหาในตอนนี้ได้ ลองสังเกตุรถคุณดูอาจจะช่วยให้คุณกลับบ้านได้ เช่น ขั้วแบตเตอรี่หลวม ยางแบน ซึ่งถ้ามีอุปกรณ์ที่เหมาะสมก็สามารถแก้ปัญหาได้ครับ 6. สังเกตุสิ่งรอบข้าง ข้อนี้อาจจะช้าเกินไป แต่เวลาขับรถลองมองๆ และจำสิ่งรอบข้างไว้ เผื่อจังหวะจำเป็นเช่น ปั้มน้ำมัน ร้านปะยาง หรืออู่ซ่อมรถที่ขับผ่าน ซึ่งความจำบางทีก็กู้วิกฤติเราได้ 7. ระวังผู้หวังดี สมัยนี้มีพวกมิจฉาชีพที่รอซ้ำเติมปัญหาของเราอยู่ครับ สังเกตุดูพฤติกรรมของคนที่ลงมาช่วยด้วยจะดีมากๆ ยิ่งถ้ารถเสียบนถนนต่างจังหวัดนี่ยิ่งอันตราย ถ้าไม่จำเป็น นั่งอยู่บนรถเปิดไฟฉุกเฉิน ข้อปฎิบัติ 7 ข้อเหล่านี้ อย่างน้อยที่สุดก็จะช่วยลดปัญหาจากเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ แต่ทางที่ดีที่สุดคือตรวจสภาพรถให้พร้อมอยู่เสมอ ข้อมูลจาก ข้อปฎิบัติ 7 ข้อ เมื่อรถคุณเสียระหว่างทาง http://www.toyotanon.com/
×
×
  • Create New...