Kt Lamaiman

เพิ่งกลับจาดินเนอร์ อิ่มตื้อสะดือปลิ้น คริๆ

เพิ่งกลับจาดินเนอร์ อิ่มตื้อสะดือปลิ้น คริๆ

http://m386.photobucket.com/albumview/albums/lamaiman/20130525_174454_zps7cc6bf22.jpg.html

เพิ่งถึงบ้านเหมือนกัน อิ่มจริงๆ อิ่มมากมาย

หลังจากใช้เวลาทำสปารถไป 4 ชม กว่า เล่นเอาเหนื่อยเพราะแดดดีมาก ได้เวลาเอาผลงานมาโชว์ครับ ^^
 
วันนี้สเต็ปนี้พอเพราะต้องออกไปทำธุระข้างนอกอีกครับ แชมพู glossworkz , jetseal109 , blitz
 

ผมลงรถพอดีเลยอะบูม วิ่งข้ามสะพานลอยเกือบไม่ทันหลังจากนั้นขึ้นรถซูบารุเข้าซอยเลยรอดเปียกไปละ. ตอนนี้หยุดละ

ผมขอมาสรุปเรื่องเสื้อนะครับ เสื้อคาดว่าน่าจะได้ครบแล้ว ของหมอโบว์ เช็คสถานะมีคนรับไปตั้งแต่เมื่อวันศุกร์นะครับ 
 
เหลือของต้อม 3ตัว จากการติดตาม คาดว่าจะได้อาทิตย์หน้า 
 
หลังจากได้เสื้อต้อมแล้วผมจะนำส่งให้โดยขอให้ต้อม PM ที่อยู่จัดส่งไว้ให้ผมด้วย 
 
หลังจากนั้นผมจะโอนเงินที่เหลือ ให้กับพี่จุ๊ป แล้วจะมาแจ้งเรื่องเสื้อต้อมเป็นโพสสุดท้ายนะครับ  
 
 
ขอบคุณครับ 

4 วันพุธสีเขียว

 

อีกชุด
 
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เพื่อตาต้นโดยเฉพาะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

สวัสดีครับชาวเรือทุกท่าน
ผมกับต้นได้รับเสื้อเรียบร้อยแล้วครับตั้ม
 
บูมได้รับเสื้อหรือยังอะ หากตัวเล็กไปจะแลกกับผมก็ได้นะครับ และโทรมาด่วน้ลยก่ินที่ผมจะซัก ภายหลังจากอ่านข้อความนี้แล้ว
 
ขอบคุณพี่เม้งกับอาหารมื้อเที่ยงนะครับ
 
ขอบคุุณน้องเน๊ตกับตุ๊กตาฝากแพนด้า
 
ขอบคุณท่านเปี๊ยก และอาจารย์มาตรสำหรับขนมมากครับ
 
ขึ้นเรือละโดนตัดสัญญาณแล้วครับ. ไปละ

เรียนเชิญนะครับ
 

ได้เสื้อล่ะครับ ขอบคุณพี่ตั้มมั๊กมากครับ ที่อุตสาห์สละเวลาส่วนตัวในการจัดทำครับ    
 

สวัสดีก่อนจะหลับครับ

HBD ครับ และสวัสดีทุกท่าน  ผมก็หนีมาจากบ้านเก่าครับ และมารู้จักกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ให้การต้อนรับที่อบอุ่นมากเลย ให้คำแนะนำในทางที่ถูกต้องทุกอย่างเลยครับ 
ขอให้อยู่กับพวกเรานานๆนะครับ HBD ครับ
 
ขอบคุณครับ

วันนี้ครบรอบหนึ่งปีที่เรา ร่วมกันมาบุกเบิก ก่อร่าง สร้างบ้านใหม่ ได้มาอยู่กันแบบเพื่อน พี่น้อง 1ปีผ่านมาไวมาก ดีใจครับที่ได้มาเจอกับทุกท่าน ขอให้บ้านหลังนี้อยู่อย่างอบอุ่นอย่างนี้ต่อไปนานๆนะครับ 

อาจารย์จัดชุดใหญ่ พี่หมีนอนไม่หลับเลย
 
ฝันดีครับ

ก็ diff   integrate ประมาณนั้น
 
หุหุ
 
 
ดูของ จารย์รูฟ ซิแหร่มเรย
 
จะหนีเข้าวัดไหมนี่ คนนี้

ข้างล่างแม้จะ 2 ชั้น แต่..........

พี่บูมใส่ไม่ได้ส่งต่อมาให้ผมเลยครับ

จริงป่ะ  ขอลองก่อนล่ะกัน อิอิ
 
 
มีใครช่วยน้องเน๊ตได้มั๊ย  พ่อสื่อ แม่ชักทั้งหลาย
 
 
สวัสดีครับพี่
 
ข้ามๆ เลยพี่  ผมข้ามกระจาย  แต่ถ้า pote อ มาต ข้ามไม่ได้เด็ดขาด อิอิ

จริงป่ะ  ขอลองก่อนล่ะกัน อิอิ
 
 
มีใครช่วยน้องเน๊ตได้มั๊ย  พ่อสื่อ แม่ชักทั้งหลาย
 
 
สวัสดีครับพี่
 
ข้ามๆ เลยพี่  ผมข้ามกระจาย  แต่ถ้า pote อ มาต ข้ามไม่ได้เด็ดขาด อิอิ

ตามนี้เลยครับท่านแจค
 
ขั้นตอนง่ายๆในการดูแลรถด้วยตัวเองสำหรับมือใหม่
Credit : www.autogeekonline.com
 

 
Step 1 : Wash & Dry : ล้าง & เช็ดแห้ง
ขั้นตอนแรกนี้ เริ่มจากการล้างทำความสะอาดซุ้มล้อ ล้อและยาง รวมทั้งการล้างทำความสะอาดตัวรถ ตามด้วยการเช็ดแห้งทั้งภายนอก ตามซอกขอบประตูต่างๆ ซึ่งเราควรทำเป็นประจำ ประมาณสัปดาห์ละครั้งครับ เพื่อดูแลให้รถเราสะอาด พร้อมใช้งานอยู่เสมอ และถือเป็นการเตรียมรถก่อนดูแลในขั้นตอนต่อไปด้วยครับ
 
Step 2 : Detailing Clay : ลูบดินน้ำมันขจัดคราบ
ตามด้วยการลูบดินน้ำมัน โดยขึ้นอยู่กับความสกปรกของพื้นผิว หากหลังล้างรถแล้วยังพบสิ่งสกปรกฝังแน่นอยู่มาก หรือพื้นผิวสาก หยาบ ก็ให้ลูบด้วยดินน้ำมันครับ หลังจากนั้นเราอาจล้างรถซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเปล่า เพื่อขจัดคราบดินน้ำมันหรือน้ำยา Luber ที่อาจหลงเหลืออยู่บนพื้นผิว แต่หากรถไม่สกปรกมาก การล้างรถเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอต่อการทำความสะอาดแล้วครับ ปกติหากเราล้างรถทุกสัปดาห์ เราควรลูบดินน้ำมันประมาณเดือนละ 1-2 ครั้งครับ
 
Step 3 : Check & Preparation Surface : ตรวจสอบสภาพสีรถ & ปรับสภาพ ทำความสะอาดสี
ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวรถ หลังจาก Step1 และ Step2แล้ว ให้เราประเมินพื้นผิวรถก่อนว่าอยู่ในสถานะใด เพื่อเลือกวิธีการเตรียมพื้นผิวได้อย่างเหมาะสม โดยการใช้น้ำยาต่างๆไม่ว่าจะเป็น compound, swirl remover, finishing polish, cleaner, prewax, polish หรือ glaze ครับ จากแผนผังนี้ สามารถแบ่งการเตรียมพื้นผิวออกเป็น 3 ระดับคือ
          Neglected Paint คือสภาพพื้นผิวที่ถูกปล่อยทิ้ง ขาดการดูแลมานาน ซึ่งอาจส่งผลให้สีหมอง มีริ้วรอยลึกเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูก่อน  ซึ่งในที่นี้ ทาง Autogeek แนะนำไว้ดังนี้
          ขั้นแรก ให้ทำการขัดฟื้นฟูด้วยน้ำยากลุ่ม Compound หรือน้ำยาขัดฟื้นฟูสภาพสีเป็นอันดับแรก เพื่อลบริ้วรอยหนักๆเช่น รอย Scratch หรือรอยขีดข่วนต่างๆ รอบ Major Swirl หรือรอยแบบใยแมงมุมที่ลึกและค่อนข้างใหญ่
ขั้นที่สอง ต่อด้วยการขัดด้วยน้ำยากลุ่ม Swirl Remover หรือน้ำยาขัดลบรอยทั่วไป เช่นรอย Minor Swirl หรือรอยแบบใยแมงมุมบางๆ รอยแบบก้นหอย รวมทั้งริ้วรอยบางๆทั่วไป ซึ่งน้ำยากลุ่มนี้บางตัวมีส่วนผสมของ filler ช่วยเติมเต็มและกลบริ้วรอยบางๆไว้ได้ด้วยครับ
ขั้นสุดท้าย ให้จบด้วยการใช้น้ำยากลุ่ม Finishing Polish หรือน้ำยาประเภทขัดชักเงา กระตุ้นเม็ดสี ให้มีความสดใส เรียบเนียนใกล้เคียงสภาพใหม่ จึงถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนสำหรับสภาพสีแบบ Neglected Paint ซึ่งทั้งสามขั้นตอนในกลุ่มนี้ การใช้น้ำยาควบคู่กับเครื่องและหัวขัด จะให้ประสิทธิภาพของงานที่สูงกว่าการใช้งานด้วยมือครับ แต่หากเราไม่มีเครื่องขัด ก็สามารถเลือกใช้น้ำยาบางตัวในท้องตลาดที่ออกแบบมาให้ใช้ได้กับทั้งเครื่องและมือก็ได้เช่นกันครับ
Moderate Imperfections คือสภาพพื้นผิวที่มีริ้วรอย หรือความหมองของสีในระดับปานกลาง อาจมีริ้วรอยบางๆอยู่บ้างพอสมควร หรือมีอาการสีหมอง เม็ดสีไม่สดใส ไม่แวววาวเหมือนใหม่ แต่ไม่หนักถึงขนาดต้องขัดฟื้นฟูสภาพ ดังนั้นกรณีนี้จึงให้ใช้เพียงน้ำยา Swirl Remover และน้ำยา Finishing Polish เท่านั้นก็เพียงพอสำหรับการเตรียมพื้นผิวในลักษณะ Moderate Imperfections แล้วครับ
         Good Condition หากสภาพรถเราอยู่ในกลุ่มนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนของการขัดฟื้นฟูสภาพสีครับ แต่อาจมีริ้วรอยบางๆ ซึ่งน้อยมากๆ และสามารถจัดการได้ด้วยน้ำยาในการเตรียมพื้นผิว จะลงด้วยมือหรือเครื่องก็ได้แล้วแต่สะดวกครับ โดยเลือกใช้น้ำยาในกลุ่ม Cleaner, Polish หรือ Prewax ตามความต้องการของเรา เพื่อเตรียมพื้นผิวก่อนเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบสีครับ
สำหรับขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวรถนี้ มือใหม่อย่างเราๆ แนะนำให้เลือกหาน้ำยามาทำเองเฉพาะในกรณี Good Condition หรือ Moderate Imperfections จะปลอดภัยกว่าครับ แต่หากพื้นผิวรถมีสภาพอย่าง Neglected Paint แล้ว ควรนำรถเข้ารับบริการจากคาร์แคร์หรือช่างผู้ชำนาญจะดีกว่าครับ ค่าใช้จ่ายราวๆ 1,000-2,500 บาทต่อครั้ง
 
Step 4 : Last Step Protection ( LSP ) : เคลือบสีขั้นสุดท้าย
เมื่อผ่านขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวมาแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือการเคลือบสีที่เรียกว่า Last Step Protection โดยสามารถเริ่มจาก
ใช้น้ำยาประเภท Glaze เพื่อชักเงาพื้นผิวและสร้างชั้นฟิล์มเป็นการรองพื้นก่อน เพราะในตอนที่เราใช้Cleaner, Polish หรือ Prewax บางตัวนั้น น้ำยาจะทำความสะอาดและขจัดแว๊กซ์เก่าที่เสื่อมสภาพแล้วออกไป ดังนั้นการใช้น้ำยา Glaze ก่อนจึงช่วยสร้างชั้นฟิล์มรองพื้นสำหรับการลงแว๊กซ์ได้ดีพอสมควร แต่ในปัจจุบันมีน้ำยาประเภท Prewax หลายตัวที่รวมคุณสมบัติของ Glaze เข้าไว้ด้วย ทำให้เราสามารถลดขั้นตอนการทำงานลงไปได้มากทีเดียวครับ
ต่อจากนั้น เราจึงเคลือบสีด้วยน้ำยาเคลือบสีตามความต้องการของเรา ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งน้ำยากลุ่ม Sealant หรือน้ำยากลุ่ม Carnauba Wax ก็ได้ครับ ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่นิยมเคลือบสีด้วยน้ำยา Sealant ก่อนเพื่อเน้นสร้างชั้นฟิล์มปกป้องพื้นผิวได้ดี และเมื่อ Sealant เซ็ทตัวเต็มที่แล้วจึงลง Carnauba Wax ตามเพื่อสร้างความสวยงามเพิ่มขึ้น เช่น ฉ่ำ เยิ้ม เข้ม แลดูมีมิติที่ชัดเจนและสะท้อนสายตาได้มากขึ้นไปอีกครับ
ส่วน Spray Wax นั้นสำหรับรถที่ผ่านการเคลือบสีเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เรามักนิยมใช้ทดแทน Sealant หรือ Carnauba Wax ในกรณีที่ต้องการความสะดวก รวดเร็วและประหยัดเวลา เป็นการ Maintenance อย่างเร็วครับ ซึ่ง Spray Wax บางตัวจะมีส่วนผสมของ Carnauba จึงให้ผลงานที่เงางามใกล้เคียงกันครับ แต่ความคงทนจะสู้การลงแว๊กซ์ตามปกติไม่ได้ และสำหรับ Quick Detailer นั้น ส่วนใหญ่นิยมใช้ในการดูแลประจำวัน ในการทำความสะอาดพื้นผิวแทนการล้าง โดยการใช้คู่กับผ้าไมโครไฟเบอร์ในการลูบเบาๆเพื่อเก็บฝุ่นละอองเล็กๆน้อยๆ แล้วอาจตามด้วย Spray Wax เพื่อคืนความสดใส เงางามให้กับรถของเราครับ
 
ขอบคุณที่มา http://www.thaiwashercarclub.com/forum/index.php?topic=27613.0

บอกได้คำเดียว 2 พยางค์ ว่า.....................คิดผิด
 
จากประสบการณ์ที่ผมได้รับ 2 ศูนย์บริการ เรื่องพ่นสีกันสนิม 
1. การพ่นกันสนิม ทางศูนย์จะเลือกพ่นเอาเฉพาะจะมิได้พ่นทั้งหมดในใต้ท้องรถ
2. หากพบว่าบริเวณไหนร่องรอยการพ่นครั้งก่อนมีการหลุดลอกก็จะพ่นทับให้ใหม่
3. สีที่พ่นตามซู้มล้อ เมื่อท่านฉีดน้ำล้างสัก 2-3 ครั้งก็จะหลุดหมด ข้อนี้ผมคิดว่าการเตรียมผิวบริเวณที่จะพ่นไม่ดี หมายถึงล้างทำความสะอาดไม่หมด
4. ท่านเสียค่าบริการ 4xx บาท ซึ่งท่านสามารถซื้อสเปร์ยี่ห้อดีๆมาพ่นได้สบาย(หากต้องการ) ผมเคยเห็นพี่ที่บริษัทซื้อมาใช้ยี่ห้อ บอนด์ ใช้ดีมากครับติดหนึบเลยละ พี่เขาบอกมีขายที่โฮมโปร
5. รถของท่านมิได้อยู่ใกล้ๆทะเลอาจจะไม่จำเป็นในการพ่น เนื่องจากรถของท่านได้รับการปกป้องอย่างดี ผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้องตามหลักวิชาการแล้วมาจากโรงงาน(ข้อนี้ลองศึกษาจากหลายๆ Web ได้เลย หรือถาม Google)
6. ข้อทีทำร้ายผมมาก หลอกว่าพ่นแล้วแต่ไม่ได้ทำอะไรให้เลย ซึ่งผมจะเจอก็ต่อเมื่อเข้าไปดูใต้ท้องรถ(ร่วมถึงห่าเชื่อในรถที่เอาป้ายมาวางอย่างเดียว)
7. ท่านอาจจะได้ร่องรอยจากสีพ่นกันสนิมติดตามผิวรถ ซึ่งผมก็ได้บริเวณกันชนหลัง และด้านข้างทั้ง 2 ข้าง
8. ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่ผมได้รับ ท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการเชื่อถือนะครับ
9. หากท่านไปพ่นขอให้ตรวจสอบสภาพก่อน และหลังพ่นให้ทั่วถึง รวมถึงการทำความสะอาดสีส่วนเกินออกให้หมดนะครับ
 
เรื่องเคลือบสีที่ศูนย์
1. สำหรับผมเคยเคลือบ เมื่อ 1 ปีแรก ทั้งของศูนย์ และของบุคคลที่อยู่ในบ้านเก่า (ใกล้แยกลาดพร้าวแต่ไม่ขอบอกละกัน)
2. ศูนย์เคลือบมาให้ผมทุกครั้ง เวลารถผมจอดตากแดดจะเป็นรอยวงๆ ของเครื่องขัด หรือหัวขัดอะไรสักอย่างเรียกไม่ถูก
3. ท่านต้องเสียเงิน 4XX บาทเเน่นอน ซึ้งท่านสามารถเก็บเงินส่วนนี้มาซื้อน้ำยาดีๆ และเครื่องขัด ดีๆได้สบายเลยครับ
4. น้ำยาที่ศูนย์ หรือร้านเคลือบให้ความคงทนที่น้อยมากๆเลย เมื่อเทียบกับ CG ที่ผมใช้ ล้าง 1 ครั้ง หรือ2 ครั้งก็หมดแล้วละ
5. ร่องรอยจากเครื่องขัดที่ศูนย์ท่านไม่สามารถใช้น้ำยาอะไรก็ตามมาเคลือบทับได้หมด (ไม่เชื่อถามท่านปู่ดูได้จาก FD ของผม) ถึงแม้จะมองไม่ชัดในกลางวัน แต่เมื่อใดก็ตามที่อยู่ภายใด้แสงไฟในกลางคืนจะชัดมาก
6. ท่านมีสิทธิ์ที่จะได้รับรอยขนแมวเพิ่มขึ้นภายหลังจากการขัดที่ศูนย์ และของผมเคยขัดซะบนหลังคาที่เป็นสีดำๆออกมาเป็นฝอยเลยต้องให้แก้ไขใหม่
7. ชั้นเคลียโค๊ต หรือชั้นแลคเกอร์ของท่านบางลงแน่นอน เพราะเขาไม่ใส่ใจในการขัดเหมือนมืออาชีพ
8. ท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการเชื่อถือนะครับ