Jump to content

dikiboyz

CCTH Member
  • Posts

    285
  • Joined

  • Last visited

  • Days Won

    2

Everything posted by dikiboyz

  1. ขอบคุณมากครับพี่ทอมมี่ กำลังหาของอยู่ ปัญญหาคือจะดูยังไง นี่ละ เพราะผมก็ไม่รู้จะเอาตัวตัวเลข บาร์โคดหรือ Seial อะไรมายืนยันว่าเป็นตัวใหม่ ตัวเก่า เป็น Oem ฮอนด้า หรือรุ่นอื่น รูปนี่ละชัดสุดๆ ละ ช่วยผมได้มากเลยครับพี่ ขอบคุณมากครับ
  2. ก็อย่างที่ จขกท. เข้าใจนั้นละครับ ว่าเอาไปเปรียบเทียบกับ Tein SS มันคนยาก (แต่จั่วหัวมามาซะแบบนั้น ฮ่าๆ) เพราะว่าตัว SS คงต้องไปตีกับ HKS, BuddyClup,Spoon อื่นๆ อีกมากมาย ราคาครึ่งแสน แต่ถว่าเจ้าตัว TunerConcept ตัวนี้ ราคา 2 หมื่นต้น ผมอยากให้มองคู่ไปกับ Silver, H-Drive, MoDi หรือ Street Basic เพราะมันน่าจะพอๆ กัน ราคา ประมาณ 23k - 30k ช่วงราคาประมาณนี้ เจ้า TunerConcept มาบ้านเราสักพักแล้วครับ ในวงการ Drift ก็มีคนใช้ครับ หาซื้อหรือมีปัญหามีหน้าร้านครับ ร้าน"1 A....S..." ไม่เอ่ยชื่อ เพราะผมไม่ได้มาโฆษณาให้เขา ถามว่า TunerConcept,Silver,H-Drive,MoDi,StreetBasic ชอบตัวไหนมากกว่ามกัน เพราะ - ทั้งหมดปรับสูง-ต่ำได้ - ปรับนุ่ม - แข็งได้ ยกเว้น StreetBasic กับ MoDi - TunerConcept มี BallJoint เป็นหัว Forge แต่บางคนไม่ชอบหัว BallJoint เพราะมันอาจมีเสียงตังตอนขับขี่ ตัว Silver R รู้สึกว่าจะไม่มีแล้วนะ - Service ทุกตัวมีร้านรับหมด แต่ระยะเวลาก็ว่ากัน - ราคาก็หาดูได้ตามห้องซื้อขาย ประสิทธิภาพโดยรวม ผมว่าไม่น่าจะต่างกัน ต่างกันคือ ความทนทาน และบริการหลังการขาย ซะมากกว่าครับ เลือกตัวที่ชอบ หรือตัวที่ใจท่านอยากได้จะดีที่สุด ไม่เสียใจทีหลังครับ ปล.ผมชอบ HKS ครับ แต่มันคนละราคา ถ้าในตัวเลือกผมเลือก H-Drive ครับ
  3. พอดีผมเป็นขับรถกลางคืนบ่อยครับ และไฟ 1.8 เดิมโรงงานผมว่ามันก็สว่างดีปกติ แต่ผมอยากได้ที่สว่างกว่า และระยะแสงไกลกว่า พอดูแล้วไม่น่าจะพ้นไฟ Xenon + Projector kit ครับ (เลยขอข้ามหลอดอัพเกรดไป) อย่างน้อยมันก็ไม่ฟุ้ง ไม่กระเจิงเข้าตาเพื่อร่วมทาง อย่างที่บอกครับ ผมขับรถกลางคืนบ่อย เลยเข้าใจความรู้สึกนี้ดี และในใจผมอยากได้ Ballast โรงงานครับ ส่วนหลอด D2S กับ Projector kit ขอข้ามไปก่อน(มีในใจอยู่แล้ว) คำถามคือ 1. ตัว Ballast โรงงานของ Honda ที่อยู่ใน FD2 บ้านเรา และก็อยู่ใน Accord บ้านเรา และ Honda ตัวอื่นๆ ที่เป็น HID Xenon นี่เป็น Ballast ตัวเดียวกันไหมครับ 2. ตัว Ballast มันมีความคุณสมบัติเฉพาะตัวไหมครับ แบบว่าสามารถย้ายจากอีกรุ่น อีกยี่ห้อ ไปใส่ได้กับทุกรุ่น(ไม่นับขั่วสาย กับที่ยึด) พวก แรงดันไฟ หรือ CAN-BUS อะไรพวกนี้ 3. ตัว Ballast โรงงานของ Honda เป็นรุ่นอะไร ยังไง 4. ใครมีตัวอื่นแนะนำ ช่วยแนะนำด้วยครับ ปล. ใครมีรูปตัว Ballast FD2 แบบชัดๆ หลายๆ มุม จะกรุณาแบ่งผมได้ ขอบคุณอย่างยิ่งครับ จะได้เอาไปเปรียบเทียบตอนหาซื้อ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นครับ
  4. อยากทำเหมือนกันครับ อยากเอาฝา Type R (เหล็ก) ไปใส่รางน้ำเป็นฝา RR อยู่เหมือนกัน แต่คงไม่ใช่ช่วงนี้ เคยเห็นในบอร์ดเรานี่ละ ไม่รู้ร้านไหน จำไม่ได้ เขาทำอยู่ เนียนดี สวย
  5. นิดๆ หน่อยๆ พลาดไม่ได้เลยนะครับ อิอิ
  6. คลิปนี้นานแล้ว ผมดูอยู่สุดๆ ครับ อาศัยเอาเบา กับ handling ดีเข้าว่า ผมดูแทบทุก episode ของ Best Motoring International เลยครับ ชอบเป็นการส่วนตัว ถ้าดู Ep: Type R Return น่าทำให้รู้ว่า Type R แต่ละ Gen จะเกิดมาได้ต้อง Perfect ของ Honda จริงๆ
  7. ผมเป็น 3M ครับ บานหน้า 40% ปรอท , รอบคัน 60% ดำ ติดมาจากป้ายแดงจากศูนย์ แถมมา เลยไม่ทราบราคา เอาอารมณ์การขับขี่ละกัน ขับกลางวัน ดีครับ เย็นดี แต่กลางคืนผมว่ามันมืดไปนิด(สำหรับผมนะ)
  8. ขอบคุณครับสำหรับแนะนำดีๆ ผมก็ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย นี่คือสังคมแห่งการแบ่งปันครับ ความรู้ทั้งนั้น คนอ่านก็จะได้เอาไปประกอบการตัดสินใจ
  9. "เท่าที่ผมรู้มาไม่ได้เพิ่มน้ำมันนะครับ แค่หรอกคันเร่ง" ที่ท่านกล่าวถึงคือหลอกยังไงครับ น่าจะขยายความหน่อยนะครับ เท่าที่ผมเข้าใจมา D1 Spec หรือกล่อง(หลอก)คันเร่ง พวกนี้ไม่ได้เพิ่มน้ำมันโดยตรง แต่ถว่า มันเป็นการหลอกให้กล่อง ecu ที่เขา set ค่าการฉีดน้ำมันมาจากโรงงานครับ ไม่ว่าจะเป็นองศาการเปิดลิ้นผีเสื้อ, ความเร็ว, อัตราส่วนไอดี , การโหลดของคันเร่ง และน้ำหนักบรรทุก ฯลฯ พวกนี้มีผลต่อการฉีดน้ำมันหมดครับ สมมุติว่า ที่ 3000 รอบ ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดอยู่ 30 องศา หัวฉีด ฉีดน้ำมันประมาณ 10% ของแรงดันหัวฉีด อาจรถรู้สึกว่า "เอ๊ะ ทำไมรถมันอืดๆ ไม่พุ่งเลย" แต่ เมื่อคุณติดกล่องพวกนี้เข้าไป การฉีดน้ำมันก็จะเปลี่ยนไป มันจะไปหลอกกล่อง ecu ว่า ที่ 3000 รอบ ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดอยู่ 30 องศา หัวฉีด ฉีดน้ำมันเพิ่มเป็น 15-20% แล้วแต่กล่องที่ติดเพิ่มไปนั้น เขาจะ set ค่าแบบไหน (ตัวกล่องเองก็มีโหมดให้เราเลือกได้เองด้วย) ความรู้สึกที่ได้คือ ก่อนติดกล่อง และหลังติดกล่องพวกนี้ กดคันเร่งเท่าเดิม รอบเท่าเดิม จะรู้สึกว่ารถแรงขึ้น พุ่งกว่าเดิม ข้อสังเกตุ คือ ถ้าไม่จ่ายน้ำมันเพิ่ม รถมันจะแรง จะพุ่งกว่าเดิมได้อย่างไร และหลายๆ คนก็บอกว่า โหมด eco หรือ sport มันก็กินน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้เท่ากันด้วย(ไม่นับ feeling ที่ได้นะ) แสดงว่ามันต้องไปยุ่งกับการจ่ายน้ำมันเดิมๆ ที่ ecu โรงงานเขา set มาแน่นอน ถึงแม้ว่าตัว D1spec จะไม่ใช่ตัวสั่งจ่ายน้ำมันเองก็เถอะนะ ปล. การติดตั้งตังกล่องปรับคันเร่งไฟฟ้า หรือกล่องหลอกคันเร่งพวกนี้ เป็นการหลอกให้ฉีดน้ำมันเพิ่มขึ้น ในขณะที่ องศาของปีกผีเสื้อเท่าเดิม ครับ ถ้าผมเข้าใจอะไรผิด ช่วยเพิ่มเติม และขอโทษมานะที่นี้ด้วยนะครับ ปล2. ที่ผมแนะนำให้ จขกท. กลับไปใส่ แคท เพราะ จขกท. เขาอยากได้ต้น ให้ต้นมา เลยแนะนำไปแบบนั้นครับ เพราะผมเคยบอกไปตั้งแต่ comment แรกแล้วว่า step ที่ จขกท. ทำมา มันคือ step เอาปลายไหล รอบปลายดี ครับ
  10. ความเห็นผมนะครับ + ความรู้เท่าหางอึ่งของผม step ที่ท่าน จขกท. ทำมามันเหมือนทำเพื่อเอาปลายไหล รอบปลายขี้นเร็ว เพราะ กรอง เอาแคทออก ท่อกลาง+ปลาย น่าเอาโล่งเข้าว่า (ไม่รู้สูตรเขาทำเพื่อ เครื่องเดิมหรือแต่ง เกียร์ AT หรือ MT เอาต้นหรือปลาย เพราะสูตรมันน่าจะต่างกันนะผมว่า) และก็ P2R (เพิ่มพื้นที่ไอดีก่อนเข้าห้องเผาใหม่้)จนไปถึง D1Spec (เพิ่มน้ำมันเชื้อเพลิง) ทั้งหมดนี้ ผมว่าจะเห็นผลจริงๆ ช่วงกลางถึงปลาย เพราะทุกอย่างที่ว่ามามันคือ การเพิ่มอากาศ+น้ำมัน (A/F) ซึ่งรอบต้นๆ ไม่น่าใช่แบบนี้ เพราะสำหรับรอบต้นๆ หรือความเร็วต่ำๆ แล้ว ที่แน่ๆ คือ อากาศ+น้ำมัน ไม่ได้ต้องการเยอะขนาดนี้(หรือผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้) แล้วบวกกับ 1.8 i-vtec(แบบประหยัดว่ากันแบบนั้น) ทำงานตอน 1500-3500 รอบแล้วละก้อ มันจะทำให้รถพุ่งน้อยกว่าช่วง 3500+ รอบไปแล้วแน่นอน(อุปกรณ์เสริมข้างบนน่าจะเหมาะกับช่วงรอบ 3500+ แบบนี้มากกว่า) ความคิดผมคือ 1. ท่าน จขกท. น่าจะกลับไปเอา catalytic มาใส่ จะของเดิม หรือของ customize ที่ร้านต่างๆ ทำขึ้นมาก็ได้ครับ จะได้ไม่เสียกำลังอัด 2. ไม่ทราบว่าท่าน จขกท. ใส่ปลายแแบบไหนครับ ตรงหรือเยื้อง รถเป็น 1.8 AT ผมแนะนำให้ใส่ใส้เยื้องดีกว่าครับ เพราะมันจะได้ไม่โล่งเกินไป จะมีผลกับต้นโดยตรงเลย 3. ล้อขอบเท่าไหร่ครับ ถ้า 18" มีผลกับต้นเหมือนกัน สังเกตุได้จาก เวลาเข้าเกียร์ D แล้วปล่อยเบรค ถ้าพวก ขอบ 16 รถมันไหลไปเองโดยที่ยังไม่ต้องกดคันเร่ง แต่พวกขอบ 18+ มันนิ่งเลย หรืออาจไหลช้าๆ ทำให้เราต้องกดคันเร่งเพื่อออกตัว ประมาณนี้ครับ ผิดถูกยังไง ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำด้วยนะครับ
  11. ขอราคาตามรายการข้างล่างนี้นะครับ - กันชนหน้า mugen rr (ไม่ทราบว่าเป็นชื้นแยกกับกันชนหรือเป็นชิ้นเดียวกัน) - skirt ข้าง mugen RR LR - diff หลัง RR - ตัดหมอก RR v.1 - ทับทิม F1 สำหรับ RR v.1 เป็นงานดิบนะครับ
  12. ขอบคุณมากครับ น่าคิดเหมือนกันครับ เผื่อเปลี่ยนแนวบั้นท้ายเป็น J's หรือ T R หรือ MTR ในวันข้างหน้า ขอบคุณมากครับพี่หนุ่ย กำลังมองหาอยู่ ว่าจะเอาทีเดียวให้จบเหมือนกันครับ
  13. เอ้า เหรอครับ ผมนึกว่า ถ้าเป็นงานพวกก๊อปแท้ มันน่าจะเหมือนกันหมด
  14. ขอบคุณมากครับ คิดว่าจะทำแบบนั้นเหมือนกันครับ โมแต่เจ้าก็ไม่รู้เป็นโมแบบไหน ก๊อปแท้หรือก๊อปปี้ กำลังคิดว่าจะเอากันชนหลัง Type R กับ ดิฟ RR ร้านเดียวกัน น่าจะเข้ารูปดี
  15. ขอบคุณครับ จะได้หา Diff RR ใหม่มาเปลี่ยนไปเลย เดี๋ยวโยนอันเก่าให้เพื่อน
  16. ตอนนี้ผมมี Diff ของ RR อยู่ครับ แต่ใส่กับกันชนเดิม MC ช่วงนี้มีโปรเจคว่าจะเอากันชน Type R มาเปลี่ยน แล้วจะเอา Diff ของ RR ตัวที่ใส่กับกันชนเดิม MC มาใส่ ไม่รู้จะใส่กันได้หรือป่าวครับ หรือว่าต้องหา Diif ของ RR ที่ใส่เฉพาะรุ่นกับ กันชน Type R เท่านั้น ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำครับ
  17. เปลี่ยนหัวฉีดอย่างเดียวเลยเหรอครับ ต้องจูน หรือเพิ่มกล่อง ชุด kit ด้วยหรือป่าวครับ
  18. ขอถามต่อ คนละเรื่องเดียวกันหน่อยนะครับว่า "Diff หลัง RR ต่อกันชนหลังเดิม MC ย้ายเอามาใส่ กันชนหลัง Type R ได้ไหมครับ?" พอดีจะเปลี่ยนกันชนหลังเป็น Type R แต่ยังอยากได้ทรง RR อยู่ครับบ
  19. ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษคุณ DRM-Satan นะครับสำหรับคอมเม้นต์ของผมที่ไปพาดพิง ทำให้คนคิดว่า ผมไปดูถูกดูแคลนความคิดเห็นของสมาชิก CCTH ท่านอื่น เพราะเจตนาผมไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เพราะ CCTH เขาเกิดขึ้นมาก็เพื่อแบ่งปันความคิดเห็น ความรู้ และช่วยเหลือสมาชิก CCTH ด้วยกัน ส่วนตัวแล้วความเห็นที่ผมเขียนไป ผมระบุอยู่แล้ว "ถ้าเกียร์เดิม อัตราทดเดิม" มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้าเขา Modified เครื่องยนต์ เกียร์ และ final drive มาแล้วก็อีกเรื่อง ผมก็พร้อมยินดีกับชาว CCTH ที่มี FD แรงๆ ทุกคันอยู่แล้ว เพราะผมเห็นๆ มา FD2R K20A 225HP 6MT เขาวิ่งกันสุด เข็มรอบฟาดแบบว่าไม่ขึ้นแล้ว อยู่ประมาณ 267km/h ครับ เลยคิดว่า 1.8 AT เดิมๆ เรามันปิ๊ดขนาดนั้นเลยเหรอ ขอแย้งคุณ NoThinGz หน่อยนึงนะครับ ที่ว่า " แต่มันไม่ใช่เครื่อง 1.6 Turbo Diesel แต่มันเป็นเครื่อง 5 Cylinder 2.5 Litre" เพราะความเป็นจริงแล้ว กฎกติกาของ FIA สำหรับรายการ WTCC เขาเพิ่่งเปลี่ยนกฎให้จากเครื่องยนต์ 2.0 NA มาเป็นเครื่อง 4 สูบ 1.6 ลิตร turbocharged ครับ ยิ่งคุณบอกว่าเป็น 5 สูบ 2.5 ลิตร นี่เอามาจากไหนเหรอครับ เป็นไปได้เหรอครับ? นี่ข้อมูลเสริมครับ นี่เป็นกฎกติกา WTCC ครับ วรรคที่ 2 จะเป็นกฎของเครื่องยนต์ คลิก --> http://www.fiawtcc.com/uploads/files/documents/76_wtcc_for_beginners.pdf ส่วนนี่เป็นข้อมูลของรถที่ใช้แข่งขัน WTCC ครับ Cruze 1.6T --> http://www.fiawtcc.com/drivers/carDetail/id/1 Seat Leon --> http://www.fiawtcc.com/drivers/carDetail/id/5 BMW 320TC --> http://www.fiawtcc.com/drivers/carDetail/id/3 Civic S2000TC -->http://www.fiawtcc.com/drivers/carDetail/id/11 ส่วนนี่เป็นข้อมูลเปลียนเทียบของรถแข่ง WTCC จะบอกถึงเครื่องยนต์ แรงม้า แรงบิด เกียร์ เป็นเว็ปของแฟน WTCC ครับ เขาจะมี Chart บอกตางกลางๆ เว็ป เลือกดูได้ คลิก --> http://cvo-tessenderlo.be/2012exrony/nl/cars/honda-civic-s2000-tc ขอบคุณ คุณ NoThinGz ที่ช่วยเตือนผมนะครับ ต่อไปผมจะได้ตรวจสอบ และพิจารณาคอมเม้นต์ของตัวผมเอง ก่อนโพสน์ครับ
  20. สุดยอดครับ แต่อึ้งด้วย เกียร์ 4 วิ่ง 200km/h แล้ว ยังไม่เปลี่ยนเกียร์ 5 เลย นี่สุดยอดกว่าครับถ้าเกียร์เดิม อัตราทดเดิม ส่วนเครื่องยนต์ R18 ต่อให้ทำมา 800 ม้่าผมก็เฉยๆ ครับ เพราะถ้าเกียร์กับอัตราทดเดิมๆ มันจะเกิดคำว่า "ตัน" ครับ เหมือนกับรถกระบะซิ่งเดี๋ยวนี้โมเครื่องมา 200-300 ม้า วิ่งตันไม่เกิน 200km/h เขาเลยต้องไปหาเฟืองท้ายใหม่(เกียร์เดิม) เอาของ 2JZ บ้างละ ของ BMW 320,325,328 ที่เป็นเครื่อง 6 สูบ เพราะเฟืองท้ายจะเบอร์เล็กกว่า ตัวเครื่อง 4 สูบ(316หรือ318) หรือไม่ก็ไปใส่เฟืองท้ายซิ่ง หรือไม่ก็ของ Strange ไปเลย(แต่แพง) จะได้ช่วยเพิ่มความเร็วสูงสุด และทำให้รถไกลมากขึน ทำให้เห็นว่ากระบะซิ่งๆ บ้านเราเดี๋ยวนี้ วิ่ง 200+ กันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ทั้งที่อัตราทดเดิม ตันตั้งแต่ยังไม่ถึง 185 km/h แล้ว
  21. เห็นว่าขับรถเร็วแบบนี้เป็นประจำ น่าจะถ่ายคลิปมาให้ดูไม่ยากเกินไปจริงไหมครับ มีคนอยากดูเยอะแยะเลยครับ ที่เขาไม่เชื่อคุณว่า Civic FD 1.8 AT เดิมๆ วิ่ง 250+ นั้น เขาไม่ได้ไม่เชื่อคุณครับ แต่เขาไม่เชื่อว่า Civic FD 1.8 AT มันวิ่งไปได้ขนาดนั้นต่างหากครับ เพราะว่ารถ Civic มันไม่ได้มีคันเดียวในโลก คนอื่นเขาก็มี คนที่เขามีเขาก็ลองกดดูแล้วเหมือนกันกับผมคนนึงที่ใช้ FD E 1.8 E AT(AS) เดิมยันลิ้นปี่ ตอนออกมาช่วงไมล์ไม่ถึง 2000 โล ผมก็เคยกดสุดแบบเครื่องแทบกระเด็นออกจากฝากระโปรงได้ 209 km/h แต่ตอนนี้เลขไมล์ไปเยอะพอสมควรแล้ว กดสุดๆ ได้ 204 km/h นั่ง 2 คน น้ำมันโซฮอล 91 ปั้มหอย ผมคงไม่ต้องลงคลิปนะครับ เพราะว่าเพื่อนๆ ชาว CCTH คนอื่นๆ เขาก็ได้ประมาณนี้กัน คงไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติหรอกจริงไหมครับ อืมลืมบอกไปว่า Cruze WTCC เขาเป็นเครื่อง 1.6 turbo นะครับ เช่นเดียวกับ Civic S2000TC (โฉม Euro) 2012 แต่เป็น 1.6 turbo รวมไปถึง BMW320TC(หรือ 320si) E90 ก็เป็น 1.6 turbo และก็ Ford Focus โฉมปัจจุบัน ก็เป็น 1.6 Turbo เหมือนกัน แต่ทั้งหมดนั้น แบกแรงม้าไว้ 310 ม้า(ยกเว้น Focus พกมา 300 ม้า) และน้ำหนักตัวรถ 1150 kg รวมน้ำหนักคนขับ
  22. ใช้เบอร์ 35 อยู่ครับ ลื่นดีครับ ได้มา 3 แกลลอนละ ราคากำลังพอดี ได้ Fully Syn ด้วย ส่วนรถ 120,000 โล ใช้เบอร์ 35 ก็ไม่ได้เสียหายอะไรครับใช้ไปก่อน(เพราะบาง 150,000 ยังใช้เบอร์ 30 อยู่เลย เจ้าอื่นนะ) ถ้าน้ำมันเครื่องหายรอบหน้าค่อยเปลี่ยนเป็นเบอร์ 45 ก็ได้ครับ
  23. ของผมตัว 1.8 i-vtec มันเป็นสนิม คราบดำๆ สนิมๆ ว่าจะเอาไปเครมอยู๋เหมือนกัน ไม่รู้เครมได้ป่าว จะครบ 3 ปี สิ้นปีนี้แล้ว ว่าจะไปเอา final เครมเลย
×
×
  • Create New...