-
Posts
285 -
Joined
-
Last visited
-
Days Won
2
Content Type
Profiles
Forums
Events
Everything posted by dikiboyz
-
รถกินน้ำมันมากผิดปรกติ หลังจากเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อเติม E85
dikiboyz replied to societyjunk's topic in Drivers Talk | ห้องคนขับ
E85 ผมว่ามันกินกว่าพวก E10 หรือ E20 มากกว่า 30% โดยประมาณ ผมว่าถ้าเทียบกับน้ำมันปกติ ผมว่าปกตินะ ในเมืองก็ประมาณนี้ น้ำมันธรรมดา พวก E20 หรือ โซฮอล ผมวิ่งแถวสุขุมวิท พระราม 4 พระราม 3 เต็มถังก็ ประมาณ 300 กว่าๆ กิโล 7-10 Km/L (รถติดพอสมควร) ถ้าออกต่าวจังหวัด ก็ 550+ (15-18Km/L)ครับ ที่บอกว่า "เค้าวิ่งกัน350อัพ" นี่เป็นน้ำมันทั่วไป หรือ E85 ครับ -
อัพเดท ซ่อมเสร็จเรียบร้อย (ซ่อมศูนยฺ์) ค่าใช้จ่าย 3,200 นิดๆ - ค่ากระจก 521 บาท - ค่าเปลี่ยนกระจก ดูดกระจก ค่าแรง 1,200 บาท - ฟิล์ม 3M เบอร์ FX-20 รวมค่าแรง 1,200 บาท เผื่อมีคนประสบเหตุการณ์เหมือนกับผมครับ แชร์ๆ กัน
-
ช่วยเลือกฟิล์มหน่อยครับ Lamina 3M Hikool ดีครับ
dikiboyz replied to yamcha's topic in Drivers Talk | ห้องคนขับ
กลางวันกำลังดี ผมว่าดีสุดแล้วสำหรับขับกลางวันนะ หน้า 60 รอบคัน 80 แต่ กลางคืน ทางลาดยาง ที่ไม่ตีเส้น หรือเส้นแบ่งเลนลบ ณคือเจ้าของถนนครับ เพราะไม่รู้ว่าตรงไหนเลน ไปหรือเลนสวน 55+ ทางมืดๆ ต้องตั้งใจขับ เพิ่งถนนมากขึ้น ปล. ถ้าเป็นคนสายตาสั้น หรือสั้นไม่มาก (ที่ไม่ยอมใส่แว่น เหมือน ผม นะ) ไม่แนะนำครับ เอาบานหน้าไม่เกิน 40 กำลังพอ ประมาณนี้เลยครับ แต่ของผมบานหน้า ปรอท นะครับ -
บานหน้า ผมไม่แนะนำให้ติดถึง 80 นะครับ กลางวันเย็นจริง แต่กลางคืนขับยากครับ มองไม่ค่อยเห็นถนน ยิ่งเจอถนนยางมะตอย มืดๆ ยิ่งไปกันใหญ่
-
ตามนี้เลยครับ โดยส่วนตัว แนะนำบานหน้าเอาแบบปรอทด้วย น่าจะโอเคกว่า
-
ใช่ครับ ราคาก็ตามที่ผมโพสไปก่อนหน้า ทั้งของศูนย์ฮอนด้า และของ กลาสเทค คุณ PPOPP ได้ 1,800 บาท ฟิล์ม 600 บาท ตอนผมโทรไปถามบอก 2,000 บาท + ฟิล์ม 500 บาท ผมก็ไม่ทราบว่าราคามันมี List ของมัน หรืออยู่ที่คนรับโทรศัพท์กำหนดขึ้นมาเอง สรุป คือ ผมคงเข้าศูนย์ครับ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ และแนะนำครับ
-
วันนี้โทรถามร้าน กลาสเทค มาแล้วครับ เขาคิดค่ากระจกประตู หลัง-ซ้าย เขาบอก 2,000 บาท ติดฟิล์ม 500 บาท แพงกว่า ศูนย์ 4 เท่าตัว สรุป ผมว่าจะเอาเข้าศูนย์ฮอนด้าครับ ให้เขาประเมินราคาซ่อม แล้วค่อยเอารถเขาไปเปลี่ยนกระจกเมื่อเบิกของแล้ว เปลี่ยนกระจกข้าง ไม่น่าจะนาน เหมือนกระจกหน้า
-
ขอบคุณมากครับ แบบนี้เศร้าเลยครับ เพราะคู่กรณีคันไหนก็ไม่ทราบ สะเก็ดเห็นมันคงมาแบบวิถีกระสุน คงยากที่จะทราบว่ามาจากคันไหน ขอบคุณมากเลยครับ เป็นประโยชน์กับผมมาก เมื่อกี้ลองโทรถามศูนย์ ฮอนด้า มาได้ใจความว่า 1. กระจำบานข้าง หลัง-ซ้าย (เฉพาะบานเลื่อน) 557 บาท รวม vat + ค่าติดตั้ง 400 บาท 2. ฟิล์มกระจกบานข้าง หลัง-ซ้าย 1,000 บาท รวมติดตั้ง ราคาข้างบนนี้เป็นยังไงบ้างครับ แพงไปหรือสมน้ำสมเนื้อครับ ผมไม่เคยเปลี่ยนกระจก เลยไม่ทราบจริงๆ
-
ตกลงไม่น่าจะเครมได้ใช่ไหม ผมก็ทำใจไว้ครึ่งนึงแล้วละ ว่าจะคงเครมไม่ได้ เพราะไม่มีข้อกรณี ที่เข้าเงื่อนไขของ 2+ (หินมันดีดมาจากคันไหน ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) ปล.ใครพอทราบราคา กระจก กับ ฟิล์ม ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
-
วันนี้เย็นๆ กลับจากลพบุรี นั่งมา 2 คนกับแฟน มาถึงช่วง วังน้อย -> บางประอิน และแล้วมันก็ดัง " ปุ๊ก!!!!" ตกใจเกือบหักพวงมาลัย แต่ยังคุมสติอยู่เลยจับพวงมาลัยนิ่งๆ แล้วค่อยๆ ชะลอ (แว๊บแรกไม่รู้จริงๆ ว่าเสียงอะไร) แต่ได้ยินเสียง "เป๊าะแป๊ะๆ" ตามมา รู้เลยว่าเสียงกระจกลั่นแน่ๆ หันไปมองใช่จริงๆ ด้วย ผมไม่ทราบจริงๆ ว่ามันแตกได้ยังไง ทีแรกนึกว่าแก๊งปาหิน เพราะตอนนั้นประมาณทุ่มกว่าๆ แต่คิดว่าคงไม่ใช่ เพราะผมขับเลนขวาสุด ความเร็วตอนนั้นประมาณ 120 Km/h ไม่มีมอเตอร์ไซต์ขับสวนมาสักคัน แต่เดาว่านะจะเกิดจากหินดีดจากรถบรรทุก หรือรถทัวร์ ที่วิ่งๆ อยู่เลนซ้ายเป็นขบวนเลย เศร้า... แต่ลึกๆ ผมก็คิดว่าโชคดีแล้วที่ไม่โดนกระจกบานหน้า (ถ้าเป็นบานหน้าไม่อยากนึกภาพเลย) ขอบสอบถามเพิ่มเติมว่า 1. กระจกประตูหลังด้านซ้าย ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ 2. ฟิล์ม 3M บานประตูข้างบานเดียวประมาณเท่าไหร่ครับ ผมทำประกัน 2+ ของกรุงเทพฯ ว่าจะแจ้งเครมพรุ่งนี้
-
มองๆ ล้อใหม่อยู่ พอมีใครจะทราบว่า ที่ไหน ร้านไหนขายล้อ YOKOHAMA AVS MODEL T5 ไหมครับ ล้อแท้ งานไทย งานนอก ก็ได้ครับ ล้อลายนี้อะครับ
-
h drive กับ type r ใส่อะไรดีครับ
dikiboyz replied to Sleepforest's topic in Drivers Talk | ห้องคนขับ
ถ้าเอาเรื่องการใช้งานก็ต้อง H-Drive อยู่แล้วครับ แต่ราคามันต่างกันเยอะอยู่นะครับ เกือบ 3 เท่าเลย ปล. น่าจะเทียบกับ New SR หรือ Monro ฯลฯ น่าจะเป็นตัวเปรียบเทียบที่โอเคกว่า -
จริงเหรอครับ ผมเข้าศูนย์ประจำอยู่ 3-4 ที่ เขาไม่เคยทาให้ผมเลยนะครับ
-
ความรู้ไหม่จริงๆ ครับ ขอบคุณมากครับ แค่สงสัยว่ามันเป็นแบบนั้นจริง ทำไมเจ้าอื่น ยี่ห้อเขาไม่ทำกัน
-
อ้อ เหรอครับ ขอบคุณมากเลยครับ งั้นโล่งไปที นึกว่างานจะเข้า เพราะผมเองไม่เคยเปลี่ยนหลอดไฟ โตต้า เอง เพิ่งเคยลองเปลี่ยนเอง โรงงานเขาแต้มจารบีขาวๆ มาทำไมเหรอ อยากรู้ เพราะถ้ามันมีข้อดี ทำไมเจ้า FD เราถึงไม่แต้มมา แบงค์พัน (ทอน 2 ร้อยครับ)
-
เนื่องจากได้อัพเกรดหลอดไฟเอง พอดีซื้อหลอด Osram NB+ มา ขั่ว H4 เลยเปลี่ยนเอง บนรถอีกคัน(Vigo Champ) ครับ พอถอดออกมา สังเกตุที่ขั่วหลอด พบว่ามันเจลๆ ครีมๆ สีขาวๆ ไม่ทราบว่ามันคืออะไรเหรอครับ ทีแรกนึกว่าขั่วหลอดเป็นเกลือ แต่ไม่น่าใช่ เพราะรถใหม่อยู่(รถป้ายแดง อายุ 1ปี ) ผมเปลี่ยนเจ้า FD เป็นหลอด NB+ มันก็ไม่มีแบบนี้นะครับ เป็นเกลี้ยงๆ เลยไม่ทราบจริงๆ ว่ามันคืออะไร ใครพอจะทราบว่ามันคืออะไรช่วยบอกทีครับ ถ้ามันผิดปกติผมจะได้รีบแก้ไข ขอบคุณครับ
-
เดี๋ยวลองไปเช็คดูครับพี่ทอมมี่ น่าจะแนววเดียวกันเลยครับ
-
ตอนปล่อยเบรค (คลายเบรค) เกียร์ D ครับ แต่รู้สึกว่าจะเป็นเกียร์ สมมุติว่า ถ้ารถวิ่งมาแล้วเบรค พอรคหยุดสนิทแล้วคลายเบรค จะดัง "กึ๊ก" แทบทุกครั้ง เท่าที่ฟังๆ ทั้งผ้าเบรค เย็นอยู่ หรือร้อนแล้ว
-
ใครเป็นบ้างครับ เวลาปล่อยเบรค ย้ำนะครับว่า เวลาปล่อยเบรค(จากรถหยุดนิ่ง) จะมีเสียงดัง "กึ๊ก...กึ๊ก" ทุกครั้งที่ยกเท้าออกจากแป้นเบรค(ตอนปล่อยเบรค) และจะดังเฉพาะเวลาปล่อยเบรคจากจังหวะที่ปล่อยเบรคจากรถหยุดนิ่ง เท่านั้น รู้สึกว่าดังตั้งแต่เปลี่ยนผ้าเบรคมา(ผ้าเบรคยี่ห้อญี่ปุ่น)
-
ช่วยเลือกฟิล์มหน่อยครับ Lamina 3M Hikool ดีครับ
dikiboyz replied to yamcha's topic in Drivers Talk | ห้องคนขับ
เรื่องคุณภาพกับการใช้งานจริง ผมไม่ทราบเหมือนกัน แต่รถผมเป็น 3M ทั้งคัน (ค่อนข้างมืดจำเบอร์ฟิล์มไม่ได้ บานหน้า 60 ปรอท ข้าง 80 มั้ง ) - เท่าที่ใช้งานมาก็ถือว่าดีมากครับ ถ้าเทียบกับรถอีกคันของผมเป็น Vigo 4 Dr 4X4 เป็น Lamina ค่อนข้างใส ผมว่า 3M บน FD ผมเย็นกว่า ไม่ค่อยแสบแขนตอนขับกลางวัน (น่าจะเป็นความต่างกันของเบอร์ฟิล์มด้วยละ) - เรื่องความทนไม่ต้องห่วงเพราะรับประกันฟิล์ม 7 ปีครับ -
ใช้เกียร์ "อัตโนมัติ" ให้ถูกต้อง! ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นนิยมผลิตเฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติหรือออโต้ ออกมาจำหน่าย เพื่อให้สะดวกสบายในการขับขี่ แต่ยังมีผู้ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติไม่ถูกต้อง หลายครั้งก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบเกียร์ หลายครั้งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เกิดเหตุการณ์เศร้าสลด เมื่อผู้ขับควบคุมเกียร์อัตโนมัติไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ดังนั้น เพื่อเป็นการเตือนสติและให้ผู้ขับขี้ทบทวนการใช้งานเกียร์อัตโนมัติที่ถูกต้องอีกครั้ง จึงมีข้อแนะนำดังนี้ 1.การขับรถเกียร์อัตโนมัติหรือออโต้ สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มขับรถ ต้องเหยียบเบรกทุกครั้งก่อนสตาร์ตรถ เพื่อป้องกันอันตราย แม้ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ตำแหน่ง (P) หรือ (N) ก็ตาม และเหยียบเบรกทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ว่าง (N) หรือเกียร์จอด (P) ไปเป็นเกียร์เดินหน้า (D) หรือเกียร์ถอยหลัง ® เมื่อรถหยุดนิ่ง ต้องเหยียบเบรกก่อนทุกครั้ง ก่อนขยับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ 2.ถ้าเลื่อนคันเกียร์ออกจากตำแหน่งเดินหน้า (D) ไปเป็นตำแหน่งถอยหลัง ® หรือเปลี่ยนจากตำแหน่งถอยหลัง ® ไปเป็นตำแหน่ง (D) ควรให้รถหยุดสนิทให้เรียบร้อยก่อน อย่าใจร้อน เมื่อรถยังเคลื่อนที่อยู่แต่รีบเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จะทำให้เกียร์มีอายุการใช้งานสั้น และค่าซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ใหม่ในรถยนต์ราคาสูงมาก 3.ขณะที่รถวิ่งอยู่ไม่ควรเข้าเกียร์ตำแหน่ง (N) เช่น เห็นไฟแดงข้างหน้า แต่ยังอีกไกล กลัวจะไม่ประหยัดน้ำมัน จึงเข้าเกียร์ในตำแหน่ง (N) และปล่อยให้รถไหลไปจนถึงไฟแดง รถแทบทุกรุ่นในยุคปัจจุบันใช้ระบบหัวฉีดควบคุด้วยสมองกลทันสมัย การจ่ายเชื้อเพลิงขึ้นตรงกับลิ้นปีกผีเสื้อ ถ้ายกเท้าออกจากคันเร่งลิ้นปีกผีเสื้อก็จะปิดทันที เซ็นเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อจะรายงานกล่องสมองกลควบคุมระบบการจ่ายเชื้อเพลิง ให้หยุดทำการจ่ายน้ำมันทันที ไม่จำเป็นต้องปลดเกียร์ว่าง (N) และยังเป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเกียร์อีกด้วย เนื่องจากรถยนต์ในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว เกียร์ที่อยู่ในตำแหน่ง (D) จะมีปั๊มแรงดันสูง ส่งน้ำมันเกียร์เข้าไปหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ปั๊มน้ำมันของเกียร์อัตโนมัติจะทำงานน้อยลงเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง (N) เมื่อไม่มีแรงดันพอเพียงจะดันน้ำมันไปหล่อลื่นเกียร์อย่างเพียงพอ จะทำให้เกียร์ออโต้ร้อน และเกิดการสึกหรอเสียหายตามมา ด้วยสาเหตุนี้เองเวลารถใช้เกียร์ออโต้เสียและต้องลากไปอู่ จึงจำเป็นต้องเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไปอีก เพื่อช่วยลดความร้อนของเกียร์ขณะลากจูง หรือถ้าหาน้ำมันเกียร์มาเติมไม่ได้ ควรยกให้ล้อที่ใช้ขับเคลื่อนให้ลอยพ้นพื้นถนน เนื่องจากระบบปั๊มน้ำมันเพาเวอร์ของระบบเกียร์อัตโนมัติหยุดทำงาน ไม่แนะนำให้ถอดเพลาสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลัง เพระยุ่งยากและเสียเวลามาก ปัจจุบันนี้มีรถยก 6 ล้อ แบบสไลด์ออน สามารถนำรถทั้งคันขึ้นไปไว้บนกระบะหลัง สะดวกสบายและปลอดภัยต่อเกียร์อัตโนมัติและรถยนต์ 4.การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ 2 ต้องระมัดระวังเนื่องจากตำแหน่ง 2 จะมีอัตราทดเฉพาะเกียร์ 1 และ 2 บริษัทผู้ผลิตต้องการทำให้รถใช้งานในกรณีที่ต้องการแรงบิดมากๆ เช่น ทางขึ้นเนินค่อนข้างชัน หรือต้องการการหน่วงความเร็วของรถเอาไว้ เช่น ในขณะที่ขับรถลงเนินเขา (ENGINE BRAKE) หรือวิ่งบนเส้นทางที่คดเคี้ยว ลาดชันมากๆ ห้ามใช้ตำแหน่งเกียร์ 2 ในขณะที่ท่านขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ใช้รอบเครื่องสูงตามไปด้วย จนเกินขีดจำกัดและก่อให้เกิดความเสียหาย และอาจลื่นไถลเนื่องจากเกิดแรงบิดมหาศาลมากระทำที่ล้อ ทำให้รถเสียการทรงตัวได้ 5.ไม่ควรขับลากเกียร์ โดยทั่วไปการขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ (D) ระบบสมองกลควบคุมเกียร์จะสั่งงานให้ปรับเปลี่ยนเกียรให้ขึ้นลงตามความเหมาะสมและความเร็วของรถอยู่ตลอดเวลาบางคนรู้มากใช้วิธีเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยการเลื่อนคันเกียร์ขึ้นลงเองในขณะที่รอบเครื่องทำงานสูงสุด เพื่อหวังผลทางด้านอัตราเร่ง แต่จะมีผลทำให้ผ้าคลัตช์ และระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์สึกหรอเสียหาย และทำให้อายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติสั้นลง 6.ไม่ขับแบบเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำเอง (คิกดาวน์) บ่อยๆ การขับในตำแหน่ง (D) ระบบสมองกลควบคุมเกียร์จะคำนวณค่าของแรงต่างๆ และปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ตามความเร็วของรถในขณะนั้นตลอดเวลาอยู่แล้ว การกดคันเร่งเพื่อเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ หรือที่เรียกว่าคิกดาวน์ ไม่ควรทำบ่อยครั้ง หรือทำเท่าที่จำเป็นในการเร่งแซงให้พ้นเท่านั้น ถ้าทำบ่อยผ้าคลัตช์ของเกียร์จะทำงานหนักและสึกหรอเร็วมากขึ้น 7.ควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดท้ายรถไว้ตลอดเวลาเนื่องจากรถยนต์เกียร์อัตโนมัติไม่สามารถเข็นด้วยความเร็วต่ำแล้วกระตุกสตาร์ตให้ติดเครื่องยนต์ได้เหมือนรถยนต์เกียร์ธรรมดาการเข็นรถเกียร์อัตโนมัติแล้วใช้วิธีกระตุกสตาร์ตต้องใช้ความเร็วอย่างน้อย 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข็นด้วยแรงคนเป็นไปได้ยาก และยังเสี่ยงกับความเสียหายต่อเกียร์ในขณะที่เข็นหรือลากอีกด้วย ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้มีไฟพอเพียงต่อการสตาร์ตทุกครั้ง 8.น้ำมันเกียร์อัตโนมัติหัวใจของการหล่อลื่นและยืดอายุการใช้งานของเกียร์รถให้ยาวนาน จึงควรเอาใจใส่ตรวจสอบบ่อยๆ การตรวจเช็กระดับน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าขีดที่ก้านวัด กำหนดหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางที่แนะนำ 9.ตำแหน่งในเกียร์อัตโนมัติ P)PARKING-เป็นตำแหน่งเกียร์ ใช้จอดในลักษณะไม่จอดขวางทางรถคันอื่น แล้วใส่ตำแหน่งเกียร์นี้ไว้ หรือจอดในทางที่มีลักษณะลาดชัน และใช้ในตำแหน่งสตาร์ตเครื่องยนต์ R) REVERSE-เป็นตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง เหยียบเบรกทุกครั้งที่จะเข้าเกียร์ในตำแหน่งนี้ N) NEUTRAL-เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้ในการตัดกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งลงมาสู่เกียร์ และใช้เป็นตำแหน่งสตาร์ตเครื่องยนต์ D) DRIVE-เป็นตำแหน่งเกียร์เดินหน้าและใช้ในการขับขี่ตามปกติ ตำแหน่งเกียร์อัตโนมัติจะปรับเปลี่ยนเองตามคำสั่งของสมองกลที่ควบคุม สำหรับรถยนต์บางรุ่นที่มีอุปกรณ์เพิ่มเติมบางค่ายเรียก ทริปทรอนิก หรือสเต็ปทรอนิก เป็นสวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบเกียร์ให้เป็นเกียร์สูงหรือต้ำลง ผู้ใช้เข้าระบบเพื่อใช้งานในการปรับตำแหน่งเกียร์ด้วยตัวเอง ช่วยสำหรับการเร่งแซง นอกจากนี้เกียร์ออโต้รถยนต์หลายรุ่น นอกจากเกียร์ (D) แล้ว ยังมีตำแหน่งเกียร์เดินหน้า แต่รอบต่ำลงมามีเลข 2 หรือเลข 3 กำกับ หมายถึงทดเกียร์ลงมา หรืออาจจะมี ( L) LOW เกียร์ในตำแหน่งนี้ มีเพียงเกียร์ 1 เท่านั้น ใช้สำหรับงานหนักที่ต้องการกำลัง หรือรถติดหล่ม หรือทางขึ้น ลงเขาที่ชันมาก ที่มา :คอลัมน์ คาร์ทิปส์ นสพ.มติชน
-
หาใหม่ มือสอง ดีกว่าซ่อมครับ ราคาไม่ต่างกันเลย เพราะซ่อมไม่เนียน ก็เสียดายตัง เสียดายเวลาอีก
-
ผมคยเจอครับ แต่กับวีโก้นัครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นแบบที่พี่ทอมมี่ว่าหรือป่าวนะครับ เพราะรถป้ายแเดง ไม่เคยปรับมาก่อน ผมนี่ละเปิดซิงค์ปรับมันคนแรก เพราะมันเป็นตัว 4x4 มันสูงไปหน่อย ผมหมุนแบบถนอมแล้วนะ แต่หมุนทวน-ตาม เข็มนาฬิกาละก็แล้ว ส่องใส่กำแพง ไม่ขึ้นไม่ลง ไม่หือไม่อือเลย เซ็งๆ เหมือนกันไม่รู้จะทำไงกับมันดี
-
หามือสองในบอร์ดถูกๆ ก็มีเยอะครับ ลองๆ หาดู
-
ของท่านตัวไหนครับ จากเดิม CCA เท่าไหร่ครับ ใช้มากี่เดือน ละครับ