-
Posts
4 -
Joined
-
Last visited
Content Type
Profiles
Forums
Events
Posts posted by asnbroker
-
-
เริ่ม! 17 สิงหาคมนี้ เตรียมปิดการจราจรตลอดแนวถนนพหลโยธิน บริเวณหมอชิต - คูคต ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว(หมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต)นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนี้เป็นต้นไปจะเริ่มปิดการจราจรตลอดแนวถนนพหลโยธิน จากบริเวณหมอชิต - คูคต รวมระยะทาง 18.7 กิโลเมตร ในเวลา 22.00 - 05.00 น.เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)
"การปิดจราจรดังกล่าว เพื่อให้ผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวทำการสำรวจระบบสาธารณูปโภคที่จะต้องรื้อย้าย เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปาและจะมีการปิดการจราจรถาวรเพื่อก่อสร้างโครงสร้างงานโยธาอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี" นายพีระยุทธ เผยสำหรับแผนการปิดการจราจรนั้น จะปิดฝั่งละ 1 ช่องจราจร และปิดช่องจราจรฝั่งละครึ่งเลน ในกรณีที่ลงพื้นที่โดยใช้เครื่องมือขนาดเบาก่อสร้างถ้าใช้เครื่องมือขนาดใหญ่ อาทิ ตัวขุดเจาะวางฐานราก สามารถปิด 1 ช่องจราจรได้ทั้งนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต) จะสร้างเป็นทางยกระดับตลอดสาย ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร มี 16 สถานีตามแผนคาดว่าจะเปิดบริการราวเดือนกุมภาพันธ์ 2563สำหรับใครที่เดินทางประจำเส้นพหลโยธิน ช่วง หมอชิต คูคต ASN Broker แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปเป็นเส้น วิภาวดี หรือ รัชดาภิเษกและวิ่งทะลุซอยทางลัดเอานะครับ น่าจะสะดวกต่อรถที่ต้องติดบนถนนในเวลานานๆ
-
ยางแบนขณะขับรถ เป็นปัญหาเหมือนฝันร้าย ที่ เจ้าของรถทุกคนไม่อยากพบเจอ แต่ถ้าคุณเป็นคนใช้รถ ไม่ว่ายังไงยก็ต้องพบเจอเข้าสักวันASN Broker ประกันภัยรถยนต์ จึงอยากนำความรู้ วิธีแก้ไขปัญหา ทำไงยดีเมื่อยางแบน ขณะขับรถยนต์ แต่จะไม่เป็นเช่นนั้นอีกหากคุณได้รู้วิธีการเปลี่ยนยางอย่างง่าย ๆ แล้วคุณจะรู้ว่าการเปลี่ยนยางง่ายกว่าการขับรถเสียอีก1.ก่อนใช้แม่แรงยกรถ- จอดรถบนไหล่ทางที่เรียบ- ใส่เกียร์จอด หรือถ้าคุณใช้รถเกียร์ธรรมดาให้ใส่เกียร์ว่างเพื่อกันไม่ให้รถเลื่อนไหล- ใส่เบรกมือ- เปิดไฟกะพริบหรือไฟฉุกเฉิน- บล็อกล้อเพื่อมั่นใจว่ารถจะไม่ไหลแน่นอน (วิธีการบล็อกล้อคุณสามารถใช้ หิน อิฐ แผ่นกระดาษ หรือของหนัก ๆ ที่สามารถดันใต้ยางได้วางไว้หลังล้อ)- เตรียมยางสำรอง2.การถอดฝาครอบดุมล้อและถอดน๊อต- ถอดฝาครอบดุมล้อ- ใช้ไขควงงัดฝาครอบดุมล้อออกจากล้อ (บางครั้งอาจมีตัวล็อกฝาครอบดุมล้อ คุณจำเป็นต้องไขล็อกออกก่อน)- ใช้ฝาครอบดุมล้อเป็นภาชนะ สำหรับใส่น็อตล้อไว้ตอนคุณเปลี่ยนยาง- ถอดน็อต- ไขน็อตล้อ- ถ้าน็อตล้อมีรูปตัว L ให้หมุนตามเข็มนาฬิกา- ถ้าไม่มีรูปตัว L หรือมีรูปตัว R แทนให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา- เมื่อถอดน็อตล้อเสร็จแล้วอย่าเพิ่งถอดล้อเพราะอาจทำให้ขอบยางเสียหาย ให้ยกรถขึ้นก่อน
3.ยกรถ- ตรวจดูด้วยมือ หรือแม่แรงว่าตำแหน่งไหนของรถที่แข็งแรงพอเหมาะสำหรับใช้เป็นฐานยกรถได้- ถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านนี้ หรือไม่ทราบว่าตำแหน่งไหนสมควรใช้เป็นฐานยกรถ ให้ตรวจสอบจากคู่มือรถ- ตำแหน่งยกรถส่วนใหญ่อยู่ใต้โครงฐานรถ ซึ่งทำหน้าที่รองรับตัวถังและเครื่องยนต์ หรืออาจอยู่บริเวณท่อนเหล็กใหญ่ที่รองรับล้อหน้า หรือเพลาบริเวณหลัง- โยกแม่แรงปั้มขึ้น เมื่อรถอยู่ในตำแหน่งสูงพอจะถอดล้อที่ยางแบนได้แล้วจึงหยุด- ต้องมั่นใจว่ารถอยู่ในสภาพปลอดภัย ไม่สั่นหรือโคลงเคลงเพราะถ้ารถโคลงเคลง อาจทำให้เสียหลักตกจากแม่แรงได้ (นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องหาที่จอดรถเป็นไหล่ทางเรียบ)- อย่าอยู่ใต้รถขณะที่รถลอยอยู่4.เปลี่ยนยาง- ถอดน็อตล้อ (จะเรียบร้อยในขั้นที่ 2) และวางไว้ในฝาครอบดุมล้อบนพี้น- ถอดล้อโดยการดึงเข้าหาตัวและเคลื่อนออก- ยกล้อสำรองใส่เข้าในสลักน็อต เพื่อเปลี่ยนแทนล้อที่ยางแบน- นำน็อตล้อใส่คืนที่ และขันให้แน่นทั้งหมดโดยขันในทิศตรงกันข้ามกับที่คุณไขออก- ปั้มแม่แรงลง จนกระทั่งยางแตะพื้น- ปั้มแม่แรงลง จนกระทั่งยางแตะพื้น- ขันน็อตล้ออีกครั้งหนึ่ง เพื่อมั่นใจว่าแน่นเพียงพอแล้ว- ใส่ฝาครอบดุมล้อคืนที่เดิม แต่หากคุณคิดว่าฝาครอบดุมล้อไม่พอดีเหมือนตอนแรก ให้เก็บไว้ท้ายรถก่อน- เก็บล้อที่ยางแบนและเครื่องมือไว้ท้ายรถ- เก็บวัสดุที่ใช้บล็อกล้อทั้งหมดจำไว้ว่าคุณจำเป็นต้องขันน็อตล้อให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้Note : ล้อสำรองมักมีขนาดเล็ก ดังนั้นไม่ควรวิ่งด้วยความเร็วเกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเดินทางไกลไม่เกิน 70 กิโลเมตร
-
การเคลม (ฟรี) ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ชนิดไม่มีคู่กรณี ทำยังไงย : ###หลายครั้งที่คุณสาวๆ ทั้งหลายขับรถไปแล้วเกิดเฉี่ยวหรือชนเข้ากับวัตถุที่อยู่ริมถนนโดยไม่ตั้งใจ เช่น กระถาง กระบะปลูกต้นไม้หน้าบ้าน หรือแม้แต่กำแพง หรือเสารั้วตอนที่จะเลี้ยวเข้าบ้าน หรือบางทีก็โดนรถจักรยานยนต์เฉี่ยวเอาตัวอย่างสีแล้วหนีไปซะงั้น ไม่สามารถตามตัวได้ รู้ทั้งรู้อยู่ว่ารถเรามีแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเคยได้ยินมาแต่ว่า การเพื่อสั่งซ่อมนั้นต้องมีคู่กรณี ๒ ฝ่าย คือเรากับฝ่ายผู้ก่อเหตุแต่คราวนี้เราเป็นผู้ก่อเหตุซะเองกับสิ่งไม่มีชีวิต หรือผู้ก่อเหตุหนีไปในกลีบถนนแล้วเนี่ย เราจะทำยังไงดี จะเคลมแบบไม่มีคู่กรณีได้มั้ย ขอเชิญติดตามการแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อขอเลขเคลมสั่งซ่อมแบบไม่มีคู่กรณีนั้น สามารถทำได้ และทำกันมาหลายแล้วด้วย พอๆ กับการแจ้งเคลมแบบมีคู่กรณีนั่นแหละ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกวันและทุกเวลาขั้นตอนการแจ้งเพื่อนำรถเข้าซ่อม๑. แจ้งไปที่ศูนย์บริการที่เราซื้อรถคันนี้มาว่า เราจะนำรถเข้าซ่อม โดนอะไรก็แจ้งเขาไป แล้วทางศูนย์บริการก็จะบอกให้เราไปแจ้งบริษัทประกันภัยเพื่อขอเลขเคลม๒. ไปที่บริษัทประกันภัยที่เราได้ทำไว้ แล้วแจ้งทางบริษัทว่าจะขอเลขเคลมเพื่อจะนำรถเข้าซ่อม ทางบริษัทประกันภัยจะให้เขียนรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุทริคการแจ้งรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี-แจ้ง วัน เวลาของการเกิดอุบัติเหตุให้ใกล้วันที่แจ้งเคลมให้มากที่สุด เช่น แจ้งเคลม ๖ พ.ย. ก็แจ้งวันที่เกิดเหตุว่า เกิดเหตุวันที่ ๕ พ.ย. เป็นต้นหรือถ้าไปแจ้งตอนบ่าย ก็แจ้งในใบแจ้งรายละเอียดว่าเกิดเหตุตอนเช้าวันที่แจ้งไปเลย เพราะถ้าแจ้งวัน เวลาตามความเป็นจริง บริษัทอาจจะหัวหมอโดยอ้างว่าเกิดเหตุนานมาแล้วไม่รีบแจ้ง อาจจะยึกยักให้เราปวดเศียรเวียนเกล้าได้-แจ้งการเกิดเหตุโดยแจ้งว่าได้ ชนหรือเฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กระถาง กำแพง เสารั้ว แต่ต้องให้ดูสมจริงด้วย ไม่ใช่ว่าแผลอยู่ตรงกับแนวไฟท้ายแต่แจ้งว่าชนกระถาง ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ แบบนี้ก็อาจโดนเล่นแง่ได้เหมือนกัน เรื่องแจ้งว่าชนกับอะไรนั้น ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร เพราะเราก็รู้อยู่แล้วว่าเราขับไปชนอะไรมา แต่ในกรณีชนแล้วหนีเนี่ย ต้องแต่งเรื่องนิดหน่อย โดยอย่าบอกว่าโดนชนแล้วหนีเด็ดขาด เพราะอาจจะโดนเล่นแง่ให้ไปตามคู่กรณีได้ ดังนั้นถ้าให้ชัวร์ แจ้งว่าชนกับสิ่งไม่มีชีวิตดีที่สุดครับ-สามารถแจ้งขอเลขเคลมได้ทั้งคัน ไม่ว่าจชนมานานแค่ไหน แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ให้แจ้งวัน เวลาที่เกิดเหตุให้ใกล้วันแจ้งให้มากที่สุดจะดีที่สุด ถ้ามีหลายแผลหลายรอยก็ต้องคิดกันหน่อยตรงนี้๓. ทางบริษัทอาจะขอดูรถเรา ก็ให้เขาดูไป แต่ถ้าไม่ได้เอารถมาด้วย ก็สามารถนัดวันให้บริษัทมาดูได้ แต่ถ้าเขาไม่พูดถึงเราก็ไม่ต้องถาม๔. เมื่อได้เลขเคลมมาแล้วก็แล้วแต่เราล่ะว่าจะนำรถเข้าซ่อมเมื่อไร ไม่จำเป็นว่าได้เลขเคลมมาแล้วต้องนำรถเข้าซ่อมทันที แต่ใบเคลมนี้มีอายุประมาณ ๑ ปี๕.เมื่อจะนำรถเข้าซ่อมก็นำรถไปที่ศูนย์ บริการที่เราซื้อรถมาพร้อมนำใบเคลมติดไปด้วย ยื่นใบเคลมให้ พร้อมเซ็นชื่อสั่งซ่อม ทางศูนย์บริการจะนัดวันมารับรถ หรือหากว่าเป็นการซ่อมไมไหญ่ เช่น โดนทุบกระจก บริษัทประกันจะแนะนำอู่ให้เราถือใบเคลมไปเปลี่ยนเอง แบบนี้เราก็สามารถรอรถได้เลย--หากชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกับชื่อคนแจ้งเคลม ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะคนที่มีพลขับส่วนใหญ่ก็จะให้พลขับเป็นคนเซ็นใบเคลม แต่ถ้าบริษัทยึกยักเล่นแง่หัวหมอ ก็อธิบายไปตามความจริง เช่น ชื่อสามี แต่เราเป็นคนใช้รถ หรือบอกว่า เราเป็นภรรยาของเจ้าของรถ ถ้ายังเรื่องมากอีกก็ใช้ไม้ตายขุ่ว่าจะถอนประกันภัยแล้วจะไปทำประกันภัยกับ บริษัทอื่น รับรองรายไหนรายนั้น ยอมทำให้แน่นอนปล.ที่บอกว่าเพื่อคุณสุภาพสตรีเพราะคิดว่าคุณผู้ชายคงทราบดีอยู่แล้ว
เตือนภัย!! อย่าบีบแตรใส่รถแท็กซี่ (มีคลิป) #เรื่องเด่นโซเชียล
in Entertain Room | ห้องสังสรรค์ บันเทิง
Posted
https://www.youtube.com/embed/MlKNWS5E2rw