Jump to content

siamvip

CCTH Member
  • Posts

    9
  • Joined

  • Last visited

Posts posted by siamvip

  1. ข้อมูลดีมากๆครับ 

     

     

    :)
    DIYนี้มันถูกต่อยอด มาจากการทำHIDโปรเจคเตอร์โคมไฟหน้ารถผมเอง ว่า...จะทำยังงัยเวลาบรรทุกของหลังรถ
    หรือมีคนนั่งกันแบบเต็มๆแล้ว ด้านท้ายรถมันก็จะถูกกดลง ส่วนหน้ารถมันก็จะเชิดหัวขึ้น พอเป็นเช่นนั้นแล้ว
    ก็จะทำให้ลำแสง ไม่ว่าไฟแบบฮาโลเจนเดิม หรือไฟแบบHID, รีเฟรคเตอร์, หรือโปรเจคเตอร์ ลำแสงมันก็จะไปส่อง
    เข้าลูกนัยน์ตา ของรถที่ขับสวนมา ก็อาจมีเคืองๆกันได้ (เวลาบรรทุกเยอะมากๆ)

    ฟังก์ชั่นนี้ มันมีประโยน์สำหรับรถเดิมๆแบบผม โช๊คเดิม สปริงเดิม แต่บรรทุกเยอะๆ และก็ต้องเดินทางต่างจังหวัด บ่อยๆ
    ซึ่งผมเคยขับรถจากทางเหนือ เพื่อกลับมายังกรุงเทพฯ ระยะทาง700กว่ากิโลเมตร แล้วมีความจำเป็นต้องเดินทางในตอนที่
    ใกล้จะมืดค่ำแล้ว แถมพ่วงด้วยคน+สัมภาระเต็มเอี้ยด แต่ไม่ใช่คันCivic FDครับ แล้วแสงอาทิตย์ก็มาหมดตอนเข้าเขตลำพูน
    ก็จะต้องเปิดไฟหน้ารถซิ... ซึ่งใจก็นึกอยู่แล้วล่ะต้องเป็นเช่นนี้ คือไฟหน้าหลอดฮาโลเจน เดิมๆติดรถมาจากโรงงาน
    ไปส่องตาคนขับรถที่ขับสวนมา หรือขับอยู่เบื้องหน้า ไม่เว้นแม้กระทั่งรถพ่วง รถสิบล้อ ที่นี้ก็จะทำอย่างงัยได้ล่ะครับ ก็ต้องคอย
    กระพริบไฟสูงสั้นๆ เพื่อบอกให้เค้ารู้ว่า นี่คือไฟต่ำผมแล้วครับ แต่บรรทุกเยอะไปนิดนึง ต้องขออภัยด้วยครับ เป็นอย่างนี้ทูกกกกกคัน
    ต้องบอกกันไปตลอดทาง พอหนักๆเข้า ถ้าผมเห็นถนนดี ดูแล้วเส้นทางตรงๆ ก่อนไฟจะแยงตารถข้างหน้า ผมดับไฟหน้า
    เหลือแต่ไฟหรี่ขับกันไป - -" (ชีวิตลำบากเลย) ก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดจนถึงกรุงเทพฯ สุดแสนจะเหนื่อย...

    ทำอย่างไร???
    ไปดูสิ่งที่ต้องมีครับ ว่าต้องเตรียมสิ่งของอันใดบ้าง
    1. โคมไฟหน้ารถเรา อันนี้แน่นอน!!!


    2. มอเตอร์ปรับระดับสำหรับติดตั้งที่โคมไฟหน้า รูปตัวอย่าง
    ที่ผมเลือกใช้ จะเป็นOEM ที่ Hellaผลิต ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ในโคมไฟหน้าของType R, CRV, Mitsu Evoที่ปรับระดับโคมไฟหน้าได้ครับ
    794f202854cd5a49231a2264ece906e9.jpg

    แต่เราสามารถใช้ตัวมอเตอร์ปรับระดับ แบบอื่นก็ได้เช่นของKoito ที่เป็นเกลียวสตัทยื่นออกมา ก็จะเหมือนกับแกนเกลียวที่ปรับด้วยมือ
    แบบนี้
    9baeba8c8292f86b1c71a7a930aa71ae.jpg
    แต่ทั้งสองแบบ ก็จะสามารถที่จะใช้กับหมุดล็อคเดิมที่ยึดกับจานฉาย เพื่อปรับให้เลื่อนเข้า-เลื่อนออก โดยที่ตัวจานฉายของโคมไฟหน้ารถเรา
    ก็จะเงยขึ้น หรือลง ทำให้แสงที่ส่องออกจากโคมไฟหน้ารถเรา สูงขึ้น หรือต่ำลง


    3. สวิทช์ปรับระดับ ผมเลือกใช้ แบบในรูปนี้ครับ
    31aeb5590134f7191079bd8bd430b9bb.jpg

    ต้องบอกก่อนว่าSW. ตัวนี้เป็นของโตโยต้าครับซึ่งอยู่ในรถซีดาน ตัวท๊อป... พูดให้ดูดีไว้ก่อนจริงๆ ของยี่ห้ออะไรก็ได้ครับ
    ขอให้เป็นสวิทช์ประเภทนี้แล้วยังใช้งานได้อยู่ ก็โอเคแล้ว เพราะว่าข้างในเจ้าสวิทช์นี้หลักๆ ก็มีค่าความต้านทาน
    แบบปรับเลือกค่าความต้านทานคงที่ได้ แล้วก็หลอดใส้เล็กๆ แต่หลอด...แพ๊งแพง หรือจะเป็นหลอดLED ซึ่งก็จะแล้วแต่รุ่น
    แตกต่างกันไป แต่ตัวที่ผมใช้นี้เป็นแบบหลอด ชนิดLED ให้แสงสว่างเรืองๆตอนเวลาเปิดไปหรี่ หรือไฟหน้าตอนกลางคืน...

    อันนี้รูปSW. ที่ตรงรุ่นตรงรูใช้ได้เลย
    9d7fe8e38142ea9238deeac77ababa39.jpg

    ถามว่า >>> ทำไมไม่ใช้SW. ปรับระดับของ Hondaเลยล่ะ ตรงรู ตรงรุ่นเลย ไม่ต้องแปลงให้เหนื่อยด้วย...???
    ก็ตอบว่า >> ราคามันโหดร้ายยย เกริ้นนนน กับสวิทช์แบบเลือกปรับค่าความต้านทาน กระแสผ่านจี๊ดนึง แค่เนี่ย...(ความจริงคือ งก!!! )

    ส่วนผลพลอยได้จากตัวสวิทช์ปรับระดับที่ผมเลือกใช้นี้ คือว่า สเตปในการปรับ มันจะเยอะกว่า ละเอียดมากกว่า สวิทช์ของHonda

    ราคาSW.ของHonda ตรงรุ่น ตรงรูพอดีช่อง ก็ราวๆ พันห้า-สองพันกว่าบาท. โดยประมาณ แรงๆๆ
    แต่ตัวที่ผมใช้นั้น ได้มาเป็นของมือสอง 300 บ. ของใหม่ๆก็ราวๆ 450-500 บ. เท่านั้น!!!

    สเตปที่ปรับได้ ก็ตามนี้
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    SW.ของตรงรุ่น ปรับได้ 0 > 1 > 2 > 3

    SW.ที่เลือกใช้ ปรับได้ 0 > 1 > 2 > 3 > 4 > 5
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ผมได้ทดลองต่อSW. ปรับดูกับโคมไฟจริงแล้ว ปรับได้ทุกสเตป จาก 0 >> 5 ผลคือ จานฉายเลื่อนขึ้น-ลงได้โดยไม่ชนกับ
    กรอบครอบด้านหน้าโคม และตัวโคมแต่อย่างใด ผ่านฉลุยครับ

    จริงๆ แล้วที่ภายในตัวมอเตอร์เอง มันจะมีลิมิตสวิทช์ ติดตั้งเพื่อเซฟตี้อยู่ด้วย ปรับยังงัยก็ไม่เกินครับ...
    อีกอย่างที่จะบอก คือว่าสวิทช์ตัวนี้ระหว่างจากตัวเลข ไป อีกตัวเลขนึง มันจะปรับครึ่งคลิ๊กได้ด้วย จึงปรับได้ละเอียดมาขึ้นครับ
    จริงๆแล้วต้องบอกว่ามันปรับได้ 10สเตปกันเลยทีเดียว ต้องบอกว่างั้น!!!


    4. ชุดสายไฟ จากสวิทช์ปรับระดับที่ติดตั้งภายในตัวรถ ลากสายไปยังที่ตัวมอเตอร์ ที่ยึดอยู่ที่โคมไฟหน้า
    ทั้งด้านซ้าย - ขวา อันนี้สุดแล้วแต่จะหามา หรือจัดทำขึ้นมาของแต่ล่ะท่านเลยครับ แต่หลักๆ เราจะใช้สายไฟ
    เดินยาวๆ2-3 เส้นครับ ขึ้นอยู่กับวิธีการเดินสายไฟครับ แล้วจะทราบเองเมื่อไปถึงขั้นตอนการติดตั้งเดินสายไฟ แต่ผมเลือก
    ที่จะเดินสายไฟแค่ 2เส้นครับ ก็เนื่องจากว่า ระบบกราวน์ในรถนั้นคือถึงกันหมด ไม่ว่าเราจะเลือกต่อกราวน์ ณ จุดใดในรถก็ตาม
    หลายคนคงจะถึงบางอ้อ...กันบ้างแล้วชิมิ
    ca2ccfa9f401ef4627388e1cc589e905.jpg

    แฟรนไชส์ เว็บไซต์สำเร็จรูป ร้านค้าออนไลน์ รับทำเว็บไซต์เว็บขยายสายงานเว็บโรงเรียน


    5. เครื่องมือต่างๆที่ช่วยในการทำและติดตั้ง สุดแล้วแต่จะหามาได้ครับ ค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกันนะ
    ทำๆไป พอหันไปดูเครื่องมือที่มากองๆอยู่
    เฮ้ย!!! :0179: นี่เราขี่ช้างจับตั๊กแตนเปล่าว่ะเนี่ย... :P


    6. ความตั้งใจจริง +กับต้องใจเย็นๆครับ เพราะ...
    - มันต้องมี การตัด ปาด งัด แงะ แกะ คว้าน เจาะ เจียร แปะติด ฯลฯ
    - ถ้าใจร้อน ของมันก็จะเสีย พอของเสีย มันก็จะเซง... ตามๆกันไป ตามนั้น!!!

  2. ข้อมูลมีประโยชน์มากๆครับ 

    ความเป็นมาคือ ผมต้องการที่จะอัพเกรดระบบเบรคให้ดีขึ้นกว่าของเดิมหลังจากที่ผ่าน Step แรกมาแล้วด้วยการเปลี่ยนจากผ้าเบรคศูนย์มาเป็น Mu spec (ไม่ใช่ว่า Mu spec ไม่ดีนะครับ แต่มันเพียงพอกับความต้องการ ^^") จึงได้มีโปรเจคใหม่ที่จะอัพขึ้นอีก Step

    สไตล์การขับ - ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 140 กม/ชม ขับต่างจังหวัดมากกว่ากทม.

    จุดประสงค์
    1.เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรคให้ดีมากยิ่งขึ้น คุมน้ำหนักเบรคได้ง่ายเพื่อป้องกันการเสีย Balance ง่ายแก่การควบคุมรถในช่วงฉุกเฉิน (ไม่ต้องการแบบเบรคทีหัวทิ่ม)
    2.งบประมาณไม่เกิน 10,000 บาท

    สภาพปัจจุบัน ณ ขณะนั้น คือ Capiler 1.8 เดิม + จานเดิม + ผ้าเบรค Mu Spec

    img_0630.jpg

    ทางเลือกที่พิจารณา
    1.ใช้ชุด Caliper 1.8 + จานอัพเกรด(ขนาดเดิม) เช่นพวก E-spec EBC
    2.ใช้ชุด Caliper 1.8 + จานขยาย 320 (ต้องต่อขาเล็กน้อย)
    3.ใช้ชุด Caliper 2.0 + จานเดิม 2.0 (มือ2)

    ผลสรุปคือ ผมเลือก ข้อ 3 เพราะ
    1.ไม่ต้องมีการดัดแปลงใดๆสามารถยกใส่ได้เลย ทำให้ง่ายแก่การดูแลรักษา หากมีปัญหาสามารถซ่อมที่ไหนก็ได้
    2.จากที่ได้ทดลองเบรคของเพื่อน พบว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับที่ต้องการ
    3.งบประมาณไม่สูงมากนัก อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
    แต่... ชุด Caliper 2.0 พร้อมจาน หาของยากมากกกกก ไม่ค่อยมีคนปล่อย หรือปล่อยก็ราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น :0006:
    จึงได้หาข้อมูลต่อไปจนมาเจอข้อมูลของเจ้าตัวนี้ครับ ใช่แล้ว... มันคือ Odyssey :0023:
    ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะใช้กันได้ แถมยิ่งกว่านั้นคือ :0032:
    1.ตรงรุ่น ไม่ต้องแปลงอะไร สามารถจับใส่ได้เลย
    2.ผ้าเบรคหาได้ง่าย สามารถใช้ของ Accord G7 ได้เลย
    3.จานขยายจาก 1.8 เดิมประมาณ 260mm > Odyssey 300mm
    4.ราคาถูกมากกกกก ผมได้มาทั้งคอม้าเลย(คอม้า+ปั้ม+จาน)

    เมื่อได้ของมาแล้วต่อไปก็ถึงวันผ่าตัด ผมเลือกที่นี่ครับ "เกรียงไกรการช่าง by ช่างลี"



     

    img_0635.jpg


    มาดูพระเอกของเรากันบ้างว่ามีสภาพเป็นอย่างไร (อันนี้สภาพล้างแล้ว ตอนที่มากับคอม้าดำมอมกว่านี้ครับ)

    1.Caliper Odyssey


    0img_0626.jpg


    เลยจับมาโมฯซะหน่อย


    img_0714.jpg0img_0720.jpg


    2. Brake Rotor


    FD 1.8 เดิม กับระยะทาง 150,000 กม. (เหลือประมาณ 20มม.)


    fd1.8l.jpgfd1.8r.jpg


    Odyssey 300mm. (จับมาเจียรจาน + เซาะร่อง)


    0img_0625.jpg


    ความหนาของจานหลังเจียร ประมาณ 26 - 27 mm


    odyseel.jpgodyseer.jpg


    เมื่อเตรียมพร้อมกันแล้วขั้นตอนต่อมาก็ลงมือแงะ :0102:


    img_0706.jpgimg_0722.jpgimg_0724.jpg


    img_0727.jpgimg_0729.jpg0img_0733.jpg


    img_0738.jpgimg_0745.jpg


    ดูกันชัดๆ จับเกือบจะเต็มจาน


    img_0746.jpg


    สิ่งที่ได้เปลี่ยนไปหลังจากการเปลี่ยนมาใช้ชุด Odyssey จากการขับมาช่วง 2 สัปดาห์
    1.เบรคดีขึ้นมาก ดูดมากขึ้น ไม่มีอาการไหลบ้างเหมือนตัวเดิมเวลาเบรคในระยะสั้น(เปรียบเทียบโดยการกดหนักแต่ไม่ให้ล้อล็อคเทียบกับตัวเดิม) โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
    2.การควบคุมน้ำหนักคุมได้ง่าย ไม่มีอาการหน้าทิ่ม ปรับตัวจากของเดิมไม่มาก
    3.พวงมาลัยหนักขึ้นเล็กน้อย รู้สึกได้ในช่วงแรกที่พึ่งเปลี่ยน แต่ตอนนี้ชินเป็นแฟรนไชส์ เว็บไซต์สำเร็จรูป ร้านค้าออนไลน์ รับทำเว็บไซต์เว็บขยายสายงานเว็บโรงเรียนปกติแล้ว น่าจะเกิดจากน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นของ Caliper + จาน ที่ใหญ่ขึ้น
    4.สืบเนื่องจากข้อ3 การออกตัวจะช้าลงเล็กน้อย น่าจะเพราะสาเหตุเดียวกัน จะสังเกตอากการได้ในการออกตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้ากดก็มาเหมือนเดิม

    โดยรวมคะแนนเต็ม 10 ผมให้ 8.5 ได้คะแนนในเรื่องประสิทธิภาพ + ความคุ้มค่ากับเงินที่ลงทุน แต่ไปเสียคะแนนตรงเรื่องน้ำหนักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในข้อ 3 และ 4
    สำหรับผ้าเบรค เนื่องจากของเดิมผ่านร้อนหนาวมาอย่างไรก็ไม่รู้ เลยเปลี่ยนใหม่โดยจัดตัวนี้มาครับ Mu spec :0002:

    img_0742.jpg


    ใส่ได้พอดีเป๊ะ ไม่ขาด ไม่เกิน

    สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ถึง 5,000 บาท (ไม่รวมผ้าเบรคใหม่) :0025:
    1.ค่าอุปกรณ์มาทั้งคอม้า 2 ข้าง 3,000 บาท (คอม้า+Caliper+จาน+ผ้าเบรค) ปกติผ้าเบรคจะมีติดมาด้วยแต่ผมไม่ไว้ใจสภาพเลยเปลี่ยนใหม่ครับ
    2.ค่าแรง (อันนี้แล้วแต่ร้านที่ทำ + Option ต่างๆครับ) โดยปกติสำหรับการถอด-ใส่ อย่างเดียวจะอยูที่ประมาณ 800 - 1,000 บาท (ที่ถามมาหลายๆร้านนะครับ)
    เผื่อไว้เป็นแนวทางในการอัพเกรดระบบเบรคให้ดีขึ้น โดยที่ลงทุนไม่มาก (ลงแรงหาของมากหน่อยเท่านั้นเอง) :0036:
    ขอให้ขับรถเดินทางด้วยความปลอดภัยกันทุกคนครับ

    ตูน - Endless

     

  3. กระทู้ รีวิวเส้นทาง และ นัดแนะรวมตัว

     

    https://maps.google.co.th/maps?saddr=ทางหลวงสายเอเชียหมายเลข+1&daddr=วัดศิริรัตน์วนาราม,+ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข+113+ท่าข้าม+ตำบล+ชนแดน+จังหวัด+เพชรบูรณ์&hl=th&ie=UTF8&ll=14.228029,100.611119&spn=0.006375,0.010568&sll=14.226115,100.607514&sspn=0.025334,0.042272&geocode=FRga2QAdJjT_BQ%3BFRCQ9gAd9RICBilFVphNB_ofMTHpTggrkKnyeA&t=h&mra=dme&mrsp=0&sz=15&z=17

     

    แผนที่ ปริ๊นติดรถ แบบย่อ

     j2nyf.jpg

     

     

    รีวิวเส้นทาง (ขอบคุณตากล้อง พี่เคน ดินแดง มากๆครับ)

    6ler1.jpg

     

    nna82.jpg

     

    po1j3.jpg

     

    hdo84.jpg

     

    z1d45.jpg

     

    s55p6.jpg

     

    i51s7.jpg

     

    bzw18.jpg

     

    yuhi9.jpg

     

    i7410.jpg

     

    tph11.jpg

     

    05w12.jpg

     

    w9t13.jpg

     

    4eu14.jpg

     

    4u315.jpg

     

    jdn17.jpg

     

    ius18.jpg

     

    แฟรนไชส์ เว็บสำเร็จรูป ร้านค้าออนไลน์ รับทำเว็บไซต์เว็บขยายสายงานเว็บโรงเรียน

     

    96619.jpg

     

    qqv20.jpg

     

    uqy21.jpg

     

    sbd22.jpg

     

    nzr23.jpg

     

     

     

     

    ลงชื่อ จุดรวมย่อย จุดต่างๆ

     

    สะดวกไปรวม กับโซนไหน จุดไหน ลงชื่อกันได้เลยครับ

     

    1.จุดรวม MidNight พบกันที่ ห้างโลตัส ปทุมธานี อยู่ตรงข้ามกับ ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ก่อนเวลา 4.30 น.

    ติดต่อ ปุ๊ PU Midnight 089-9893583 พี่วี 081-3752332

     

    2.จุดรวมโซนธน พบกันที่ ปั๊ม ปตท. แม็คโดนัล บนถนนกาญนาภิเศก พิกัด 13.773848,100.407602 http://goo.gl/maps/ODc3w ออกเดินทาง 04.00 น.

    ติดต่อ พี่โจ Josan 081-9844282 พี่ต้น sorachais 089-4138424 คุณเบ็นซ์ benz 92 085-3533467

     

    3.จุดรวม ลพบุรี พบกันที่ 7 - ELEVEN ปั๊ม ปตท. เสาธง พิกัด 

    ออกเดินทาง 6.00 น.

    ติดต่อ อ.มาตร Ms_Smart 081-7045430 , 086 - 3601047 (Line)

     

    4.จุดรวม สุพรรณบุรี ออกเดินทางไปรอที่วัด เวลา 04.30 น.

    ถ้าจะไปพร้อม จุดรวมสุพรรณบุรี ติดต่อ คุณจ๊อบ HERO 081-8584393

     

    5.จุดรวม รังสิต พบกันที่ บริเวณ ด้านหลังศูนย์ฮอนด้า (ศูนย์ตรงข้ามฟิวเจอร์ฯ)

    ออกเดินทาง 04.30 น.

    ติดต่อ พี่อาตร์ art@wa 080-9741198  แจ๊ค kosin_012 * 086-8940904 

     

    6.จุดรวม บางนา พบกันที่ ปั๊ม เชลล์ ถ.บางนา-ตราด http://goo.gl/maps/7e58a

    ออกเดินทาง เวลา 04.00 น.

    ติดต่อ น้าปู่ OLDMAN56 * 0870896996

     

    7.จุดรวม รามอินทรา พบกันที่ ปั๊มปตท เลยแฟชั่น ก่อนถึงโรงพยาบาลนพรัตน์ http://goo.gl/maps/q0yt9

    ออกเดินทาง 04.00 น.

    ติดต่อ ตั้ม นายตาต่ำ ตั้ม นายตาต่ำ 087-0149949

     

    8.จุดรวมสุดท้าย พบกันที่ ปั้ม ปตท ใกล้นิคมไฮเทค อยุธยา

    http://goo.gl/maps/olx5w ออกเดินทาง 05.00 น.

    ติดต่อ  ป้อ 0863920874  เก๋ 0840662588 

     

    9. The CODE พบกันที่ ปั้มบางจาก เลย ม.กรุงเทพรังสิต ไปนิดนึง 

    พิกัดตามนี้ครับ http://goo.gl/maps/6VbNP ออกเดินทาง 04.30 น.

    ติดต่อ พี่โจ้ Dirty Bit 0817501450 พี่เกรียง kriang83  0858348344

     

    10.ไปรอที่วัด ก่อนเลย

     

  4. แจ่มครับ

     

     

    อันนี้ ที่ได้ลองกันหลายๆคัน 

     

    พบว่า ถ้าพลาสติกไม่กรอบขาวจนเสียสภาพ สามารถกลับมาดำฉ่ำได้แน่นอนคับ  ทาไปเฉยๆนี่แหละ  :D

     

    ไม่ใช่น้ำมัน หรือเจลเหนียวทายาง หรือ ที่ทารองเท้านะคับ น้ำยาตัวนี้เหมือนโลชั่นทาผิวเลย ทาไปก้อซึมลงไปดำปื้ดเลย ลูบไม่ติดมือ 

     

    06.jpg

     

    เป็นน้ำยาที่ควรมีคับ เอามาแนะนำกันนะคับ ถ้าสนใจก้อหาลู่ทางสั่งกันเอาเองคับ 

  5. ขอบคุณมากๆครับ

    หลังจากที่ได้ลองนั่งช่วงล่างต่าง ๆ มามากมาย ทั้งเดิม ไม่เดิม เกลียว ไม่เกลียว
    แข็ง ไม่แข็ง เตี้ย ไม่เตี้ย จนได้ช่วงล่างชุดที่ถูกใจเสร็จสมอารมณ์หมายมาใช้กันซะที
    ผมเองดีใจครับ ที่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หลายท่าน เวลาเจอผมมักจะมาถามผมว่า
    ควรจะเอาช่วงล่างชุดไหนดีเสมอ เพราะนั่นหมายความว่าเรทติ้งเราคงพอใช้ได้ 5555

    พูดกันตรง ๆ ว่าผมไม่ใช่คนที่รู้ไปหมดหรือถูกไปหมด แต่ผมโชคดีกว่าเพราะมีโอกาสได้ลองมาเยอะ
    ก็เลยอยากจะถือจะฝากบอกเพื่อน ๆ ที่กำลังมีแนวคิดจะปรับเปลี่ยนช่วงล่างใหม่ว่า เราต้อง
    หาช่วงล่างที่เหมาะสมกับการขับของเราเสมอครับ เราต้องหาตัวเอง
    ให้ได้ว่าเราขับรถแบบไหนก่อน ใช้ล้อแบบไหน ถนนที่ขับประจำเป็นอย่างไร มีอุปสรรคในการโหลด
    มากน้อยขนาดไหน เพราะผมเชื่อว่าการแต่งรถนั้น เราต้องยอมสูญเสียความสบายบางส่วนออกไป
    บ้างเพื่อแลกกับ Performance ที่ได้มา แต่ถ้ามันถึงขั้นกับลำบากในการใช้รถ ต้องคลานทุกดอก
    ต้องหยอดทุกเม็ด อันนั้นผมว่ามันก็เกินไปนิด

    เอาล่ะครับ หวังว่าประสบการณ์จากความเรื่องมากของผมต่อไปนี้
    จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ที่นี่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

    ขอเริ่มด้วยสปริงยอดฮิต H&R

    HR_50404_88.jpg

    ลดความสูงได้ประมาณ 30 MM ทั้งหน้าและหลัง
    ชาติตระก*ลหรู จากเยอรมัน คุณภาพหายห่วง
    ผ่านมาตรฐานทุกสำนักจากเยอรมัน
    โดยบุคลิกค่อนข้างแข็งเล็กน้อย ใช้กับโช๊คเดิมมีกระด้างบ้าง
    เหมาะกับการใช้กับโช๊คที่หนืดกว่าเดิมมากขึ้น
    ไม่งั้นอาจจะมีปัญหา "สปริงเต้นไม่หยุด" ในความเร็วสูง
    หรือช่วงที่โดดสะพานแรงๆ ช่วงขับช้ามีเต้นบ้างแต่รับได้ครับ

    เมื่อใช้คู่กับโช๊คโคนี่ ผลที่ได้น่าพอใจครับ สปริงทำงานได้
    เต็มประสิทธิภาพขึ้น ขับง่ายกว่าเดิม อาจจะรู้สึกกระด้างขึ้นนิด ๆ
    แต่เป็นกระด้างแบบหนึบแน่น เหมาะกับคนขับรถเร็ว

    แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาใส่แล้วยี่ห้อมันต้องอ่านกลับหัว

    Credit: รถคุณวรพล และรถคุณ Torkhum

    tein_stech_evo.jpg

    TEIN S Tech

    สัญชาติปลาดิบ บารมีสะสมมาดีจากชื่อเสียงในการทำชุดสตรัทปรับเกลียว
    ใส่แล้วหน้าทิ่มตูดโด่งตามสไตล์รถยุ่นของแท้ สปริงเรทต่ำกว่า H&R ทำให้
    ความกระด้างน้อยกว่าโดยรวม ใส่แล้วแทบไม่ต่างจากรถเดิม ขับสบาย
    แต่ต้องระวังเล็กน้อย เพราะหน้าทิ่มเหลือเกิน ถ้าใส่มูเก้นอาจได้ถอนเขี้ยวฟรี
    ที่ความเร็วสูงอาจจะมีการเต้นบ้างแต่ดูจะน้อยกว่า H&R เมื่อใช่กับโช๊คเดิม
    เหมาะกับคนที่ขับไม่เร็วและไม่โหดมาก เพราะการเทและยุบตัวของรถยังพอ
    มีอาการให้เห็นได้มากว่า H&R

    เมื่อใช้กับโคนี่ อาจจะต้องปรับมาตรงกลาง ๆ เพื่อให้แมทช์กัน
    ถ้าปรับอ่อนมากไปอาจจะไม่ Firm มากนัก แต่ถ้าแข็งมากไป
    ก็กระด้างไปนิดเหมือนกันสำหรับสุภาพสตรี

    Crfedit: คุณโป่ง

    TEINSS.jpg

    TEIN SS

    "แหล่ม" ที่สุดเท่าที่เคยลองมาในเรื่องความหนึบ วัสดุและการประกอบหายห่วง
    เกลียวและเนื้อโลหะระดับโลก ราคาก็หายห่วงด้วยเช่นกัน แต่ค่อนข้างแข็ง
    โดยนิสัย เหมาะมากกับคนระดับ "ตรีนโหด" เช่น ตุ้ย หรือ Hyattboy
    หัวโช๊คบอลล์จ๊อยนท์บนทำให้เล่นกับมุมล้อได้มากขึ้น
    เปลี่ยนบุคลิกของรถได้อย่างที่ต้องการ มี Service Shop ที่สามารถผ่า
    ออกมา Overhaul ได้ทั้งชุดโดยการแต่งตั้งจากสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น
    ถ้างบไม่ใช่ปัญหา บอกได้คำเดียวว่า จัดไป
    อนาคตเพิ่มตัวปรับความหนืดไฟฟ้าจากในรถได้ แต่ปรับสูงต่ำไฟฟ้าไม่ได้นะจ๊ะ


    Credit: น้องปุ้ยมูเก้นดำ

    DSCF6389.jpg

    GAB

    แอบดังในบ้านเรามานานเหมือนกันในหมู่คนเล่นรถ อดีตเคยถูกนำเข้า
    มาจำหน่ายโดยอู่โรตารี่ชื่อดังย่านลาดพร้าว ถือเป็นโช๊คระดับหัวแถว
    มาก่อนเหมือนกัน แต่หายจากตลาดไปนานมาก ถนัดทั้งโช๊คแบบ
    Replacement ในแบบสตรัทธรรมดาให้ไปหาสปริงคู่เอาเอง
    และแบบสตรัทปรับเกลียวที่มาพร้อมกับสปริงและหัวโช๊คแบบพร้อมรบ

    เท่าที่ลองมา ถือว่า "คุ้ม" กับลูกเล่นในการปรับ 32 ระดับ และสามารถอัพ
    เกรดหัวโช๊คเป็น Balljoint ในอนาคตได้เหมือนกัน สามารถเลือกปรับ
    ความแข็งได้ตั้งแต่สบาย ๆ ไปจนถึงแข็งเรือ(Ship)หายเหมือนกัน

    คุณภาพในการประกอบและวัสุดเป๋นรอง TEIN SS นิด ๆ
    แต่เมื่อเทียบกับราคา อาจจะต้องใช้คำว่า "คุ้มที่สุด"
    เพราะปรับได้ทั้งความแข็ง สูงต่ำ และอัพเกรดหัวโช๊คเป็น Balljoint ได้

    Credit: (อั้ยตั้ม)

    DSCF5914.jpg

    Mugen

    ผลิตโดย Showa จ้าวเก่า ที่อยู่คู่บุญฮอนด้ามานาน
    ข้อดีคือ มาเป็นสตรัททั้งชุดหน้าทั้งชุด ไม่ต้องประกอบ
    อัพเกรดหัวโช๊คและยางกันกระแทกมาให้เรียบร้อย
    เพื่อรองรับกับการใช้งานที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างถูกออกแบบ
    และปรับตั้งมาหมดแล้ว ไม่ต้องปรับแต่งอะไรทั้งสิ้น

    ใช้การทำงานง่าย ๆ คือลดความสูงสปริงลงมานิดหน่อย
    เพิ่มค่าสปริงเรทขึ้นเล็กน้อย และเอาโช๊คที่หนืดขึ้นมาคอยช่วย
    ขับสบายมาก เพราะเตี้ลงแค่เซนกว่า ๆ รอบคันสำหรับ 1.8
    แต่อาจจะน้อยไปสำหรับวัยรุ่นเช่น Nonzen_Nu

    ไม่ต้องปรับนิสัยการขับมาก เพราะระยะทำงานหายไปแค่เซนกว่า
    ถ้าไม่เป็นระดับคุณหญิงคุณนายหรือลูกผู้ดี รับรองว่าแฟนไม่บ่น
    แม่ไม่ว่าแน่นอน แต่ยังพอมีอาการเทนิด ๆ เวลาสาดแรง ๆ แต่นับว่าน้อยมาก
    ต้องเข้าใกล้ Limit จริง ๆ ซึ่งเมื่อถึงตรงนั้น TEIN SS
    , GAB หรือ Koni+ H&R จะออกอาการน้อยกว่า
    แต่ถ้าขับแบบปกติ เหลือพอครับ

    Credit: ดีเจ Kinetic
    DSCF6581.jpg

    โช๊ค Koni

    ดังที่สุด ดังมานาน ฮิตที่สุดสมัยยุคพาเลซ
    ของเมืองฮอลแลนด์ เคยเป็น OEM รถยุโรป
    หลายจ้าวเหมือนกัน มีหลายรุ่นให้เลือก
    ในยุโรปถูกจัดกลุ่มเป็นกลุ้่ม Aftermarket ที่ได้รับการยอมรับเอาเรื่อง

    ของซีวิค FD เป็นรุ่น Koni Sport สีเหลือง
    ข้างหน้าเป็นแบบ Insert คือต้องผ่าเสือโช๊คเดิม
    ควักไส้ออกแล้วยัดเข้าไปแทนก่อนที่จะยึดไว้
    ด้วยน๊อตตัวผู้ที่ก้นสตรัทอีกที

    บุคลิกขึ้นอยู่กับการปรับและสปริงที่นำมาใช้คู่กัน
    ใช้กับสปริงเดิมได้สบายมากสำหรับท่านที่ไม่อยากลดความสูง
    แต่ต้องการความหนึบแน่นมากขึ้น
    ต้องอาศัยฝีมือแฟรนไชส์ เว็บสำเร็จรูป ร้านค้าออนไลน์ รับทำเว็บไซต์เว็บขยายสายงานเว็บโรงเรียนและความคุ้นเคยในการติดตั้งบ้าง
    อย่าลืมนะครับ หาสไตล์การขับให้เจอ
    ดูล้อที่ใช้ ความกว้าง ออฟเซท ขนาดยาง
    และปัญหาที่มีอยู่ เช่น ถ้าล้อใหญ่มากและมีโอกาสติดอยู่แล้ว
    การใช้ช่วงล่างที่เตี้ยมากและปรับไม่ได้อาจจะแย่กว่าเดิมก็ได้ครับ

    ขอให้ได้ช่วงล่างที่ถูกใจทุกท่านกัยถ้วนหน้าครับ

    Special Thanks: DEEAUTO และทีมงานหื่นทุกท่าน

×
×
  • Create New...