Search the Community
Showing results for tags 'ไม่พกใบขับขี่ก็เล็กน้อย?'.
The search index is currently processing. Current results may not be complete.
-
วันที่ 27 ส.ค. พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด ผบก.จร. เปิดเผยกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล มีนโยบายแจกใบเตือนแทนใบสั่ง สำหรับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรครั้งแรก เริ่มวันที่ 1 ก.ย.2555 นั้น ว่า ความผิดที่จะออกใบเตือนนั้นจะเป็นความผิดเล็กน้อย และไม่กระทบกับส่วนรวม ตามพระราชบัญญัติจราจรปี 2522 มีประมาณ 100 กว่าข้อหา ซึ่งเป็นความผิดนอกเหนือจาก 13 ข้อหาหลักที่กวดขันจับกุมและออกใบสั่งให้ตามปกติ สาเหตุที่ไม่ระบุข้อหาชัดๆ เพราะจะเป็นเงื่อนไขมากจนเกินไป เนื่องจากมีมาก คงแล้วแต่จะตรวจพบความผิดข้อหาใดโดยให้ตำรวจเป็นผู้กรอกข้อความ สำหรับข้อดีการออกใบเตือน เป็นการให้โอกาสผู้กระทำผิด เดิมความผิดเล็กน้อย ตำรวจมีอำนาจว่ากล่าวตักเตือนด้วยวาจา เพียงแต่มาเพิ่มทำเป็นใบเตือน เพื่อเก็บบันทึกไว้เป็นสถิติ และเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่าได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนจริง นอกจากนี้ เป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เคารพกฎหมายมากขึ้น เพราะบางคนอาจไม่รู้ หรือขาดเจตนากระทำผิด ส่วนจะดำเนินการนานแค่ไหนนั้นต้อง รอดูผลการประเมินอีกครั้ง พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจจนะพุกกะ ผกก.3 (ศูนย์ข้อมูลใบสั่ง) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) เปิดเผยถึงการเตรียมพร้อมออกใบเตือนให้กับผู้ขับขี่บนท้องถนนว่า เบื้องต้นใบเตือนจะเริ่มใช้ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 1 ก.ย.นี้ เช่น ขับขี่โดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย หรือขับขี่โดยไม่พกใบอนุญาตขับขี่ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจออกใบเตือนให้ผู้ขับขี่ที่ทำผิดกฎไปแล้ว หากมีความผิดซ้ำจะมีการบันทึกข้อมูล และให้ตำรวจปรับในอัตราสูงสุด พ.ต.อ.วีระวิทย์กล่าวอีกว่า ในส่วน 12 ข้อหาหลักที่เตือนไม่ได้ ต้องจับกุมเท่านั้น ได้เพิ่มมาอีก 1 ข้อหา รวมเป็น 13 ข้อหา คือ แท็กซี่ที่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร หากผู้โดยสารเดือดร้อนสามารถโทรศัพท์แจ้งตำรวจได้โดยตรง ไม่ต้องไปร้องเรียนที่ขนส่งทางบกแล้ว โดยจดจำเลขทะเบียนรถเพื่อแจ้งตำรวจ จะได้ตรวจสอบและจับกุมตามความผิดทันที ทั้งนี้ ข้อหาดังกล่าวถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไปที่จำเป็นต้องอาศัยรถแท็กซี่เพื่อโดยสาร ทำให้ไม่สามารถจะออกใบเตือนให้ได้. ประชาชนหลายคนสับสนว่า การทำผิดกฎจราจรในปัจจุบันนี้ ตำรวจควรออกใบเตือนก่อน แต่ การออกใบเตือนกับผู้ที่ขับขี่ผิดกฎจราจรจะไม่นำไปใช้ใน สำหรับ13 ข้อหาหลักตามนโยบาย ประกอบด้วย 1. แข่งรถในทาง (ม.134) 2. ขับรถเร็ว (ม.67) 3. แซงในที่คับขัน (ม.46, 47และ 48) 4. เมาแล้วขับ (ม.43(2)) 5. ขับรถย้อนศร (ม.41) 6. ไม่สวมหมวกนิรภัย (ม.122) 7. จอดรถซ้อนคัน (ม.57(9)) 8. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน (ม.7) 9. มลพิษควันดำ(ม.10 ทวิ) 10. จอดรถในที่ห้ามจอด (ม.57) 11. การจอดรถบนทางเท้า (ม.57(1)) 12. การขับรถบนทางเท้า (ม.43(7)) 13. แท็กซี่ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร พวกดื่มแอลกอฮอล์ พอเจอด่านตรวจ ตำรวจเรียกตรวจ และให้เป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ มักจะคิดว่า ถ้าเป่าแล้ว ค่าแอลกอฮอล์เกิน ที่กฎหมายกำหนด ตำรวจควรตักเตือน ให้ใบเตือน จริง ๆ ไม่ใช่นะครับ โปรดระวัง กรณีน้องกิ๊ฟซ่าเป็นตัวอย่าง โดย: ทีมข่าวกทม. และ พันทิพ