Jump to content

พ่นกันสนิม เลือกร้านไม่ดี อาจมีงานเข้า


Recommended Posts

คุณสมบัติหลักของน้ำยาพ่นกันสนิม ป้องกันความชื้น การพ่นน้ำยากันสนิม จะช่วยให้น้ำยาไปเคลือบตัวถังในส่วนที่เราพ่น เพื่อไม่ให้ความชื้นเข้าไปสัมผัสทำให้เกิดสนิมได้ และน้ำยาพ่นกันสนิมบางประเภทก็สามารถกันเสียงได้ในระดับหนึ่งด้วย แต่รถที่ผลิตขึ้นในปัจจุบันจะมีการพ่นกันสนิมมาจากโรงงานแล้ว 

 

toyota_2013-08-26-09-51-42.jpg

 

"ถ้าแบบนี้เราจะพ่นน้ำยากันสนิมอีกทำไม?" ก็เพราะน้ำยาที่พ่นมันอาจมีการกระเทาะ หลุดล่อนจากการใช้งานได้ โดนเฉพาะบริเวณใต้ท้องรถ ที่อาจถูกขูดขีดด้วย หิน กรวดต่างๆ เหตุนี้เราจึงต้องมีการ ตรวจและพ่นกันสนิมเพิ่มเติม เป็นระยะเหมือนการดูแลรถส่วนอื่นๆ 

 

เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้ เราไม่สามารถทำเองได้แล้ว คงต้องพึ่งช่างทำให้ ตรงจุดนี้ละครับ ที่บางทีอาจเกิดปัญหาขึ้น ปัญหาไม่ได้เกิดจากน้ำยาหรอกครับ แต่มาจากช่างที่พ่น ขาดความรู้ความเข้าใจ และการระมัดระวังที่ดีพอ ต่างหาก

 

ก่อนอื่นต้องอธิบายคุณสมบัติของน้ำยาพ่นกันสนิมก่อนว่า น้ำยาเหล่านี้มีส่วนผสมของ ปิโตเคมี ในเกรด แอสฟัล หรือยางมะตอย ซึ่งจะยึดเกาะและกันความชื้นได้ดีแต่ตัวปิโตเคมีนั้น เป็นอันตรายกับยางต่างของรถ เพราะจะกัดทำลายยางและวัสดุที่มีส่วนผสมยางต่างๆ

 

ซึ่งถ้าช่างไม่มีความรู้ พ่นกลบหมด หรือไม่เอาใจใส่จะปิดส่วนที่เป็นยาง  หลังพ่นกันสนิม รถคุณมีปัญหาแน่ๆครับ เพราะยางส่วนต่าง เช่น ยางหุ้มเพลา ยางลูกหมาก ยางหุ้มโช้ค จะเปื่อยหมด

 

และมีอีกส่วนที่ต้องระวัง คือรถรุ่นใหม่ที่มีเซ็นเซอร์ควบคุมต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ ABS , สปีดเซ็นเซอร์ , เซ็นเซอร์ไอเสีย พวกนี้ห้ามให้น้ำยาไปโดนเด็ดขาด ละอองก็ห้ามครับ แต่ช่างที่ไม่รู้แกพ่นดะ พังหมด!

 

ท่อยางต่างๆ สายน้ำมันเบรก สายน้ำมันพาวเวอร์ ท่อยางน้ำหม้อน้ำ ท่อน้ำยาแอร์ พวกนี้ก็มีส่วนผสมของยาง

 

และรถบางรุ่นจะมีรูระบายน้ำ ใต้ท้องรถ กรณีขับรถลุยน้ำมา ก็ห้ามพ่นทับไปเพราะเวลาน้ำเข้ามันก็จะไม่ระบาย หรือลูกยางทีอุดไว้ใต้ท้องรถก็ต้องระวัง ขั้นตอนนี้ ร้านพ่นกันสนิมที่เป็นมืออาชีพจริงๆ เขาจะมีผังโครงรถมากางเลยว่า รู และลูกยางตรงไหนที่ห้ามพ่น

 

จากที่กล่าวมาจะเห็นว่าการพ่นกันสนิม ไม่ใช่แค่สักแต่เอาน้ำยามาฉีดๆ แล้วจบ มีข้อต้องระมัดระวังมากมาย ควรเลือกใช้บริการจากร้านที่ได้มาตรฐาน และมีความชำนาญจะดีกว่า เพราะถ้าเสี่ยงเลือกร้านที่เอาเด็กฝึกงานมาทำให้เรา ต้องลุ้นละครับว่างานจะเข้ารถคุณหรือเปล่า

 

ปล. บริเวณที่ควรจะพ่น ซึ่งมักจะเกิดสนิมได้ง่ายที่สุดคือ ขอบซุ้มล้อด้านใน ( แต่ช่างที่ไม่เชี่ยวชาญ มักจะไม่ได้พ่น )

 

ข้อมูลจาก



 

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ ผมก็พ่นประจำทุก 6 เดือน ที่0 ของ พรีเมี่ยม จ่ายค่าแรง 450 บาท ไม่รู้ว่าได้มาตรฐานไหม

แต่ที่ได้แน่ๆ คือของแถมมาทุกครั้งเลย แม็กเลอะ กับภายในพวกเบาะคนขับ กับขอบประตูแถวๆที่ปิดเปิดฝากระโปรง

สงสัยโดนตอนช่างเข้าไปนั่งขับ

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ ผมก็พ่นประจำทุก 6 เดือน ที่0 ของ พรีเมี่ยม จ่ายค่าแรง 450 บาท ไม่รู้ว่าได้มาตรฐานไหม

แต่ที่ได้แน่ๆ คือของแถมมาทุกครั้งเลย แม็กเลอะ กับภายในพวกเบาะคนขับ กับขอบประตูแถวๆที่ปิดเปิดฝากระโปรง

สงสัยโดนตอนช่างเข้าไปนั่งขับ

 

ของผมนี่ น้ำยาพ่นกันสนิม เละ ใต้สเกิรต หมดเลยครับ กลับมาต้องเอา ซิลิโคนออฟเช็ดเองต่อ

Link to comment
Share on other sites

ใช้มาตั้งแต่คันเก่า 15 ปี จนถึงคันนี้ 4 ปี ไม่เคยพ่นเลยสักครั้ง

Link to comment
Share on other sites

ถ้าไม่ได้ใช้รถในพื้นที่น้ำเค็มจัดๆ ผมว่าไม่จำเป็นเลยครับ


ยิ่งคนสมัยนี้ ชอบเปลี่ยนรถกันตามทันสมัย ยิ่งไม่ต้องกลัวเลยว่าจะผุก่อน


 


แต่ถ้าใช้ในพื้นที่ลุยน้ำเค็มก็ควรพ่นนะครับ


กระบะที่บ้านวิ่งของทะเล 3 ปี สนิมเกาะแชสซีเพียบ ต้องเอาไปพ่นเลย ไม่ไหวๆ


 


แต่ถ้าใครจะพ่นเพื่อความสบายใจก็ดีครับ 


 


อ้อ ! เวลาไปร้านพ่น ใครใส่ของแต่งเยอะๆ ก็บอกเขาหน่อยนะครับ


เดี๋ยวโช๊คสปริง ค้ำ สีสวยๆ จะกลายเป็นสีดำหมด 

Link to comment
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
×
×
  • Create New...