Search the Community

พูดถึงประกันภัยรถยต์ ทุกคนคงคิดว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้ว ท่านทั้งหลายกำลังคิดผิด เพราะถ้าหากว่าวันใดวันนึงคุณจำเป็นต้องใช้รถบนท้องถนน และต้องเผชิญกับรถเยอะๆซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างมาก วันนี้จะมา แนะนำให้ฟังว่าทำไมรถทุกคัน ควรมือเพื่อความอุ่นใจ พูดถึงประกันภัยถยนต์ ทุกคนอาจจะมองข้ามถึงความสำคัญของมัน กลับมองว่าสิ้นเปลือง แต่ถ้าหากว่า วันใดวันนึงคุณลูกค้าเกิด อุบัติเหตุขึ้นมา และรถเกิดไม่มีประกัน คุณลูกค้าจะเสียหายหลายแสน หรือ หลายล้าน เลยก็ว่าไดค่ะ แต่ถ้ารถคุณลูกค้า มีประกันภัยรถยนต์ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจาก ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุ ได้มาก เพราะทางบริษัท นั้นๆเค้าจะมีทุนประกันให้อยู้แล้ว แค่พูดถึงก็คุ้มแล้ว ถ้าเป็นลูกค้าจะเลือกแบบไหนค่ะ เป็นนุ่น นุ่นขอเลือกซื้อประกันภัยไว้ เพื่อความอุ่นใจเวลาขับรถดีกว่าค่ะ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาไม่คุ้มแน่นอนค่ะ เพราะฉะนั้นอ่าฉะล่าใจค่ะ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า ซึ่งบริษัท กลาสเทค ประเทศไทย จำกัด จึงเลงเห็นความปลอดภัยและความสะดวก สบาย ของลูกค้าเป็นสำคัญ จึงหยิบประกันภัยรถยนต์ทุกๆบริษัท และเบี้ยที่คุ้มที่สุดมาเสนอให้กับลูกค้า พร้อมกับความคุ้มครอบที่ครอบคลุม และการดูแลที่ตรงใจ และของแถม โดนๆให้กับคุณลูกค้า กลาสเทค ที่นุ่นพูดมาทั้งหมดนี้ กลาสเทค ทำให้ได้ทั้งหมดเลยค่ะ มาฟังค่ะว่าดีอย่างที่นุ่นพูดไหม 1. เข้าใจปัญหา เมื่อลูกค้าเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เพราะเราคือบริษัทกระจกรถยนต์ มีประสบการ์ณยาวนานมากกว่า 33 ปี พร้อมให้การบริการ 2. จากปัญหาข้างต้น เรามีทีมงานด้านสายประกันภัย พร้อมให้คำแนะนำ ตอบคำถาม บริการต่างๆ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด 3. เบี้ยราคาพิเศษ และโปรโมชั่นที่ลูกค้าไม่เคยได้รับจากที่ไหน 3.1 ฟรี E-Coupon ใช้แทนเงินสด เพื่อติดฟิล์มรอบคัน ยี่ห้อ Hi- Kool ทุกรุ่น มูลค่า 4500 บาท 3.2 ฟรี E-Coupon ใช้แทนเงินสด มูลค่า 4000 บาท เพื่อแลกซื้อ แพ็คเกทคุ้มครองกระจกรถยนต์แตกทุกกรณี 1 ปี ในแพ็คเกทนี้มีของแถมให้อีกนะคะ อทิเช่น 1.เปลี่ยนกระจกให้ฟรีไปเลย 1 ครั้ง 2. ซ่อมฟรี 3 ครั้ง 3.ค่าแรงฟรี 4.แถมฟิล์มบานหน้าเต็ม ให้ฟรี 5.บริการนอกสถานที่ และที่สำคับ ต่อกับเรา ไม่เสียประวัติค่ะ ถ้าหากมาเคลมที่เรา เบี้ยก็ไม่เพิ่มด้วยค่ะ 4. สะดวก รวดเร็ว ประหยัด เราเลือกแผนความคุ้มครอง คุ้มค่า ที่ดีที่สุด 5. บริการครบวงจร รับทำประกันภัยทุกประเภท รถ บ้าน อุบัติเหตุ ต่างๆ เรากล้าให้ค่ะ เพราะเรามองว่า ลูกค้าคือ คนในครอบครัวของเรา เราอยากให้ลูกค้าได้ในสิ่งที่ดีที่สุด คุ้มค่าที่สุด ซึ่ง เราก็กล้าทำให้ และพร้อมดูแล ลูกค้าตั้งแต่ เริ่มสนทนากับเรา และจะดูแลจนกว่าลูกค้าจะพึงพอใจที่สุดค่ะ สนใจติดต่อ คุณกาญจนา เบอร์โทร 063-3286222

ประกันภัยรถยนต์ ข้อมูลเยอะ ! เปิดมาแบบนี้ใครหลายคนก็คงจะคิดว่าไม่ยากอ่ะละ มันต้องปวดหัวแน่เลย แต่เดี๋ยวก่อนถึงจะเยอะยังไงก็ย่อให้เข้าใจได้ ตามสไตล์คนเข้าใจอะไรยากแบบผม ขอเริ่มเลยละกันก่อนจะเกิด 5 นาที ประกันภัยรถยนต์ คือ การบริหารความเสี่ยงไปไว้ที่บริษัทประกันภัย ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันให้ผู้รับประกัน โดย ผู้รับประกันต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้ผู้เอาประกัน (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) เพื่อตอบแทน มี 2 ประเภทคือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เราเรียกว่า พรบ รถยนต์ นั้นเอง ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ มี 4 ประเภทนั้นคือ ประกันชั้น 1, 2+, 3+ และ 3 โดยมีความคุ้มครองดังนี้ ประกันชั้น 1 ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + สูญหาย + ไฟไหม้ + ภัยธรรมชาติ ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ให้ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและใน รวมถึงช่วยในเรื่องของ รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ และ ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม จุดเด่นของประกันชั้น1ก็คือสามารถเคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี ยกตัวอย่างเช่น ถอยรถชนต้นไม้ เบียดกับฟุตบาท เป็นต้น ประกันชั้น 2+ ซ่อมเขา + ซ่อมเรา(ในกรณีรถชนรถ) + สูญหาย + ไฟไหม้ ความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น1 แตกต่างกันตรงทีการขอเคลมรถยนต์จะต้องเป็นเหตุการณ์ที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น ถ้า ไม่มีคู่กรณีเราต้องออกเงินค่าซ่อมรถเอง ประกันชั้น 3+ ซ่อมเขา + ซ่อมเรา(ในกรณีรถชนรถ) คุ้มครองรถยนต์คล้ายกับประกันชั้น2+ เงื่อนไขเหมือนกัน แต่ว่าความคุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ ไม่มี หากใครรถยนต์ไม่ติดแก๊ส หรือที่จอดรถไม่เสี่ยงต่อการถูกขโมยได้รับการป้องกันอย่างดี ก็อาจจะทำประกันภัยรถยนต์ชั้น3+ แทนประกันชั้น2+ ก็ได้ ประกันชั้น 3 ซ่อมเขา คุ้มครองเฉพาะบุคคลภายนอกเท่านั้น ค่าซ่อมรถยนต์ของเราต้องพร้อมจ่ายเอง นี้คือเรื่องพื้นฐานของ ประกันภัยรถยนต์ ที่ทุกคนควรรู้ถ้าอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมฉบับเต็มสามารถตามได้ link ด้านล่างนี้เลย prakanmart.net

การเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ระหว่างซ่อม กรณีที่เราเป็นฝ่ายถูกเราจะสามารถเรียกสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถยนต์ระหว่างซ่อมได้ จากประกันภัยรถยนต์ของคู่กรณี โดยจะต้องดำเนินการด้วยตนเองนะครับ ประกันภัยรถยนต์ของเราไม่ดำเนินการให้นะครับ ตรงนี้เป็นสิทธิของเราสามารถเรียกร้องได้ตามข้อกำหนดของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ซึ่งเราจะต้องเตรียมตัวดังนี้ อ่านต่อ...https://www.insurerich.com/missingcarrepair/

เห็นหลายๆคนบอกว่าเรื่องของ ประกันภัยรถยนต์ นั้นเข้าใจยาก มีข้อมูลเต็มไปหมด เนื่องจากผมก็เรียกได้ว่า ศึกษาเรื่องของ ประกันรถยนต์ มาพอสมควรก็อยากที่จะได้แบ่งปันให้เพื่่อนๆได้ฟังกัน ในแบบ ฉบับ เข้าใจง่าย รวดเร็ว ย่อ ให้กระชับที่สุด ไม่ต้องอ่าน ข้อมูลที่เยอะๆกันอีกต่อไป ดังนี้ ประกันภัยรถยนต์ มี 2 ประเภท 1. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ กฎหมายบังคับให้ทำ คุ้มครอง : เฉพาะบุุคคลอย่างเดียว ในส่วนของ ตัวรถยนต์ นั้นไม่คุ้มครอง เช่น เกิดเหตุ ฝ่ายคู่กรณีได้รับบาดเจ็บ พ.ร.บ. รถยนต์ก็จะช่วยค่ารักษาพยาบาลทั้งของเราและของคู่กรณี ในวงเงินที่กำหนด แต่ในส่วนของ รถยนต์ จะไม่คุ้มครอง 2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท ด้วยกัน เราสามารถเลือกความคุ้มครองได้เอง ที่ตรงกับความต้องการของเรา ถ้าเป็นรถยนต์ใหม่ส่วนใหญ่ก็จะเป็น ประกันภัยชั้น 1 ที่มีความคุ้มครองมากที่สุด ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1ประกันชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้าง (แบบย่อ)ซ่อมเขา+ซ่อมเรา+สูญหาย+ไฟไหม้มีความคุ้มครองที่ครอบคลุุมมากๆ คุ้มครองแม้กระทั้งเราไม่มีคู่กรณี แต่ก็มาพร้อมกับ ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ ที่ค่อนข้างแพงอยู่หน่อยนึงประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ฉบับเต็มประกันภัยรถยนต์ประเภท 2ประกันชั้น2 คุ้มครองอะไรบ้าง (ฉบับย่อ)ซ่อมเขา+สูญหาย+ไฟไหม้ให้ความคุ้มครองในกรณี รถยนต์ของคู่กรณี และ รถยนต์สูญหาย กับ ไฟไหม้ แต่รถยนต์ของเรานั้นซ่อมเอง ประกันชั้น 2 คุ้มครองอะไรบ้าง ฉบับเต็มประกันภัยรถยนต์ประเภท 3ประกันชั้น3 คุ้มครองอะไรบ้าง (ฉบับย่อ) ซ่อมเขา+ไม่ซ่อมรถ+ไม่คุ้มครอง สูญหาย กับ ไฟไหม้มีค่าเบี้ยประกันรถยนต์ น้อยที่สุดในทุกประเภทประกันภัยรถยนต์ เหมาะกับรถยนต์เก่า ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง ฉบับเต็มประกันภัยรถยนต์ประเภท 5 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ 3+ นั้นเอง (คนจะรู้จักกันในชื้อนี้) เป็น ประกันภัยรถยนต์ที่เพิ่มเข้ามาที่หลัง ซึ่งตอนนี้กำลังได้รับความนิยมสุดๆ เนื่องจากมีความคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อ มีราคาถูก แต่ว่า ต้องเป็นไปตาทเงื่อนไขของ ประกันภัยรถยนต์ ประกันชั้น2+ คุ้มครองอะไรบ้าง | ซ่อมเขา + ซ่อมเรา(รถชนรถต้องมีคู่กรณี) + สูญหาย + ไฟไหม้ประกันชั้น3+ คุ้มครองอะไรบ้าง | ซ่อมเขา + ซ่อมเรา(รถชนรถต้องมีคู่กรณี) + ไม่รวมสูญหาย กับ ไฟไหม้เป็นประเภทประกันรถยนต์ที่ เพิ่มเติมขึ้นมาจากเดิม กำลังได้รับความนิยม มากๆ ในตอนนี้ประกันชั้น 2 พลัส คุ้มครองอะไรบ้าง ฉบับเต็มประกันชั้น 3 พลัส คุ้มครองอะไรบ้าง ฉบับเต็ม ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก http://prakanmart.net/ http://www.prakan24.com/ http://www.autocarinsurequotes.com/ https://www.easyinsure.co.th/

ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี | ที่ไหนดี ราคาถูกๆ ผ่อนสบายๆ สวัสดีครับเพื่อนๆ เคยมีคำถามในใจแบบผมไหมครับ ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี ตอนแรกไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่หรอกครับ พอประกันจะหมดก็รีบค้นคว้าทันทีครับ ปรากฎว่าถามใครใครก็ไม่สามารถบอกได้ว่า บริษัทประกันที่ไหนดีที่สุด ซึ่งผมก็เลยต้องออกไปท่องอินเตอร์เน็ตด้วยตนเอง หนักไปกว่านั้นคือ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ประกันภัยรถยนต์ คืออะไร กว่าจะหาคำตอบได้ ปรากฎว่า รู้ตั้งแต่ความหมายจนกระทั่งยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเลยทีเดียว กลายเป็นผู้รู้เกี่ยวกับ ประกันภัยรถยนต์ ไปซะอย่างงั้นเลย ผมก็เลยคิดว่า ถ้ามีคนอย่างเราอีก 100,000 คนในประเทศที่มีปัญหาเดียวกับเรา แล้วเรานำมาบอกให้หมดได้ เวลาที่เหลือหลายๆคนคงนำไปใช้อย่างอื่นได้ดีกว่า ผมจึงได้ย่อส่วนเนื้อหาให้อ่านง่ายขึ้น และประหยัดเวลามากขึ้น ดังนี้ ประกันภัยรถยนต์ หมายถึงอะไร ประกันภัยรถยนต์ คือ การบริหารความเสี่ยงในรูปแบบหนึ่ง โดยมีองค์ประกอบทั้งหมด 3 ส่วน 1. ผู้รับประกัน ( บริษัทประกัน ) 2. ผู้เอาประกัน หรือผู้ถือกรมธรรม์ ( ตัวเราเองเนี้ยแหละ ) 3. ผู้รับผลประโยชน์ ( ลูก หลาน เราเมื่อเราเกิดเสียชีวิตขึ้นมา ) ประกันภัยรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ. คือ กฎหมายบังคับให้ทำเพื่อเอาไว้ใช้ คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกาย ชีวิตของเราและบุคคลภายนอก 2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ คือ กฎหมายไม่ได้บังคับให้ทำ เราเป็นคนตัดสินใจทำเอง เพื่อกระจายความเสี่ยงที่มีต่อบุคคลและทรัพย์สินในอนาคต ให้บริษัทประกันรับผิดชอบแทนในบางส่วนที่กำหนดไว้บนกรมธรรม์ อาทิเช่น คุ้มครอง รถสูญหาย รถชนรถ ไฟไหม้รถ น้ำท่วมรถ ฯลฯ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ สามารถแยกออกเป็น 5 ประเภท ประกันชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครอง : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + สูญหาย + ไฟไหม้ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ สามารถเคลมได้ทุกกรณี แม้เราจะเป็นฝ่ายผิด หรือ ฝ่ายถูก อ่านบทความเพิ่มเติม : ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันชั้น2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+คุ้มครอง : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา (กรณีรถชนรถ) + สูญหาย + ไฟไหม้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป อ่านบทความเพิ่มเติม : ประกันภัยรถยนต์ชั้น2+ คุ้มครองอะไรบ้างประกันชั้น3+ คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+คุ้มครอง : ซ่อมเขา + ซ่อมเรา (กรณีรถชนรถ) เท่านั้น คล้ายประกันชั้น3 แต่มีความคุ้มครองเพิ่มขึ้น กรณีรถชนรถ อ่านบทความเพิ่มเติม : ประกันภัยรถยนต์ชั้น3+ คุ้มครองอะไรบ้างประกันชั้น2 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครอง : ซ่อมเขา (ไม่ซ่อมเรา) + สูญหาย + ไฟไหม้ ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันจะรับผิดชอบคู่กรณีเท่านั้น อ่านบทความเพิ่มเติม : ประกันภัยรถยนต์ชั้น2 คุ้มครองอะไรบ้างประกันชั้น3 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครอง : ซ่อมเขา ( ไม่ซ่อมเรา ไม่รวมสูญหาย ไฟไหม้ ) สำหรับผู้ขับขี่ที่ระมัดระวังเป็นพิเศษ และเบี้ยประกันภัยถูก อ่านบทความเพิ่มเติม : ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 คุ้มครองอะไรบ้าง เมื่อรู้เกี่ยวกับเนื้อหาเบื้องต้น ก็พอจะตัดสินใจได้แล้วนะครับว่าควรจะ ซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี ก็ขึ้นอยู่ว่ารถยนต์ของเราเหมาะสมกับประกันภัยประเภทไหน อาทิเช่น รถใหม่ป้ายแดงก็ ประกันชั้น1 รถอายุเกิน 10 ปี ก็ ประกันชั้น2+ ประกันชั้น3+ ประกันชั้น2 ประกันชั้น3 ลองลงมา ซึ่งค่าเบี้ยประกันก็จะถูกลงมาและความคุ้มครองก็จะลดลงมาด้วย ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อยนะครับ แต่ว่าถ้าเพื่อนๆท่านใดสนใจหรือยังตัดสินใจไม่ได้ และอยากทราบเนื้อหาสาระเกี่ยวกับประกัน สามารถสอบถามผมได้ในนี้ หรือสามารถเข้าไปอ่านได้ตาม link ที่ผมให้ข้างล่างนี้นะครับ อ่านได้ที่นี่ > Website : https://www.easyinsure.co.th/ , www.easyinsurebroker.com/ ขอบคุณแหล่งข้อมูล : http://www.carinsurance-blog.com , http://www.insurecarthai.com ขอบคุณพื้นที่แห่งการแบ่งปันความรู้ : Civicclubthailand

สวัสดีชาว civicclubthailand ทุกคนนะครับ วันนี้ผมจะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ประกันภัยรถยนต์ ให้ฟัง หวังว่าคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะ ขอขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ด้วยนะครับ ก่อนจะทำประรถยนต์ เพื่อน ๆ ควรรู้อะไรบ้างละ ต้องบอกก่อนเลยว่า ตอนนี้ประเทศไทยมีรถยนต์วิ่งอยู่บนถนนมากกว่า 25 ล้านคัน ดังนั้นจึงไม่แปลกใช่ไหม ที่เราจะต้องซื้อประกันรถเพื่อที่จะปกป้องทรัพย์สิน อันสุดที่รักของเรา ประกันรถ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. ประกันภาคบังคับ 2. ประกันภาคสมัครใจ ประกันภาคบังคับ หรือพูดแบบภาษาบ้าน ๆ เลยก็คือ พ.ร.บ รถยนต์นั่นเอง โดยกฏหมายจะบังคับให้รถยนต์ทุกชนิดที่มีเครื่องยนต์จะต้องทำนั่นเองครับ พ.ร.บ.รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง ตอบ จะให้ความคุ้มครองในกรณี ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายของบุคคลภายนอก นั่นหมายถึง กรณีที่เพื่อน ๆ เกิดขับไปเฉี่ยวชนคนบนถนน จนได้รับบาดเจ็บ กรณีแบบนี้่ พ.ร.บ.รถยนต์ ก็จะจ่ายให้นั่นเอง (แต่มีวงเงินจำกัดนะครับ) ประกันภาคบังคับ หรือพูดแบบภาษาที่คนอื่นนิยมพูดกันเลยก็คือ พวก ประกันชั้น 1 2+ 3+ ชั้น3 นั่นเองครับ โดยประกันประเภทนี้ จะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้กฏหมายไม่ได้บังคับให้เราทำแต่อย่างใด หากเกิดอุบัติเหตุ เพื่อน ๆ จะต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเองทั้งหมดนั่นเองครับ โดยความคุ้มครองส่วนใหญ่ จะคุ้มครองครอบคลุมมาก ๆ ตารางความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ให้ความคุ้มครองกรณี ซ่อมเขา + ซ่อมเรา + สูญหาย + ไฟไหม้ ( จะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ เลยก็คือ สามารถเคลมได้ทุกกรณีนั่นเอง ) ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง จะให้ความคุ้มครองในกรณี ซ่อมเขา + ซ่อมเรา ( กรณี รถชนรถ เท่านั้น ) + สูญหาย + ไฟไหม้ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+บอกเลยว่าตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันแบบสุดๆไปเลย เนื่องจาก ราคาถูก และมีความคุ้มครองที่ครอบคลุม และดูเมื่อเหมือนว่าความนิยมของประกันชั้น 2+ เพิ่มมากขึ้น ประกันชั้น 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง ให้ความคุ้มครองกรณี: ซ่อมเขา + ซ่อมเรา ( กรณี รถชนรถ เท่านั้น ) ไม่รวม สูญหาย ไฟไหม้ ประกันภัยรถยนต์ 3+ เป็น ประกันภาคความสมัครใจ คล้ายกับชั้น 3 ปกติ แต่จะมีความคุ้มครองเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของกรณี รถชนรถ ประกันชั้น3 คุ้มครองอะไรบ้าง ประกันภัยรถยนต์ชั้น3 ให้ความคุ้มครองกรณี ซ่อมเขา + ไม่ซ่อมเรา ไม่รวม สูญหาย ไฟไหม้ ( จะให้พูดแบบ บ้านๆก็คือ สามารถ ซ่อมรถคู่กรณีได้อย่างเดียว ) การซื้อประกันภัยรถยนต์ ทุกครั้งย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อเราควรอ่านรายเอียดให้ดี ๆ ด้วยนะครับ เพราะปัจจุบันนี้ มีคนโดนหลอกซื้อประกันเยอะเอามาก ๆ ดังนั้นห้ามประมาท หาซื้อจาก บริษัทที่คิดว่าดีที่สุดนะครับ โดยหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก pantip จริง ๆ มีบทความให้อ่านเยอะกว่านี้อีกนะครับ เดียวเอาไว้วันหลังผมจะเอาบทความอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มเติมให้ แต่ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ ใจร้อนก็สามารถกดคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยนะครับ ยกตัวอย่าง 1.ซ่อมห้าง ซ่อมอู่ อันไหนดีกว่ากัน 2.กรณีแบบไหนบ้างที่ประกันไม่รับผิดชอบ 3.เมาแล้วขับประกันจ่ายไหม 4.น้ำท่วมรถ ประกันจะเคลมให้เราได้หรือไม่ 5.เคลมสดเคลมแห้ง แตกต่างกันอย่างไร 6.ค่าเสียหายส่วนแรก คืออะไรกันแน่ อ่านรายเอียดเพิ่มเติมคลิกเข้ามาที่นี่เลยครับ Website : http://www.xn--12c4bcfhbk6bsbdce1pqac34a1e.com/

เมื่อก่อนผม ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ เรื่อง ประกันภัยรถยนต์ เลย หรือพูดง่ายๆก็คือ ไม่รู้ห่าอะไรเลย ด้วยความที่ผมอยากรู้ ผมก็เลย เปิดเว็บไซต์ หวังว่าจะศึกษา เอาน่า อย่างน้อยๆ ก็น่าจะรู้ว่า ประกันชั้น 1, 2+, 3+,ชั้น3 มันคุ้มครองอะไรบ้าง ผลที่ได้มาคือ ดันงง ไปมากกว่าเก่าอีก โอ้โห แม่เจ้า ภาษาหลักการ ทั้งนั้น ที่เข้าไปก็หวังแค่อยากจะรู้ว่า.. xxxประกัน ชั้น1 2+ 3+ ชั้น3 มันคุ้มครองอะไรบ้างแค่นี้เอง แต่กลับไปเจออะไรก็ไม่รู้ ยาวๆ เป็น 20 บรรทัด เจอแบบนี้เซงเลย ผมก็เลย อยากจะมาแชร์ความรู้เล็กๆน้อยๆที่ผมได้ อ่านได้เจอมาบ้าง เผื่อจะมีประโยชน์กับคนอื่นได้บ้าง ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง แน่นอน ประกันชนิดนี้ มันคือ ประกันภัยรถยนต์ที่ดีที่สุด โดยจะให้ความคุ้มครองในกรณี รถหาย ไฟไหม้ (น้ำท่วม) < บางแพ็กเกจก็ไม่มีนะ แม้แต่กระทั่งกรณี ถอยหลังไปชนประตูบ้าน หินกระเด็นโดนกระจกแตก แมวข่วน หมาแทะ เคลมได้หมด แต่ก็นะ ราคาค่อนข้างที่จะแพง ยิ่งรถเราราคาแพงมากเท่าไร ราคาก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ความคุ้มครอง เป็นรองแค่ชั้น1 อย่างเดียว ให้ความคุ้มครอง กรณี รถหาย ไฟไหม้ (น้ำท่วม)< บางแพ็กเกจ คุ้มครองในกรณี อุบัติเหตุ รถชนรถเท่านั้น แล้วถ้าหากไปชนกับต้นไม้ละ เคลมได้ไหม! คำตอบคือ ไม่ได้นะ ย้ำๆ ต้องชนกับรถยนต์ เท่านั้น ชนกับอะไรก็ได้ที่มีเครื่องยนต์ แล้ววิ่งอยู่บนบก ประกันชั้น 3 คุ้มครองอะไรบ้าง แน่นอน ประกันชนิดนี้ ค่อนข้าง ฮิตสุดๆ เพราะว่า ราคาค่อนข้างที่จะถูก ส่วนเรื่องของความคุ้มครองละก็ คุ้มครองกรณี ตามตาราง ไม่คุ้มครอง รถหาย ไฟไหม้ การชน หวังว่าคงจะได้ ความรู้กันบ้างนะ ไม่ 1 % ก็ ไม่รู้เรื่องเลยอะ 555 โชคดีครับ

เพื่อนๆนักขับขี่หน้าใหม่คงจะเคยได้ยินคำว่าดอกยางกันมาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าดอกยางคืออะไร มีไว้ทำอะไรกันแน่ จริงๆแล้วมันก็คือลายๆเส้นๆที่อยู่บนยางรถยนต์นั่นแหล่ะครับ โดยมีหน้าที่ในการช่วยกำหนดสมรรถภาพเฉพาะทางของยางชนิดนั้นๆ เช่นบางตัวมีดอกยางที่เหมาะกับการเกาะถนน ในขณะที่อีกรูปแบบเหมาะแก่การวิ่งในน้ำขังได้ดีกว่า โดยบางคนจะเรียกรวมๆว่าดอกยาง แต่จริงๆแล้วจะแบ่งเป็นดอกยางและร่องยาง โดนดอกยางจะนูนออกมาจากเนื้อยางรถยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการเกาะถนน ส่วนร่องยางก็จะบุ๋มลงไปในยางรถยนต์เพื่อใช้ให้น้ำขังบนถนนรีดผ่านออกไปได้ง่ายกว่า ดอกลายยางรถยนต์แบ่งออกมาได้หลากหลายรูปแบบโดยหลักๆจะแบ่งออกเป็น 3 แบบได้แก่ แบบสองทิศทาง จะเป็นลายดอกยางสองทิศทางตรงกันข้ามกัน สามารถติดตั้งได้ง่ายโดยไม่จำกัดว่าจะหันไปทางไหน เหมาะแก่การใช้ในการขับขี่ธรรมดา เกาะถนนดี รีดน้ำได้ดี ทำความเร็วได้ในระดับปรกติ แบบทิศทางเดียวกัน มีลายดอกยางรถยนต์ไปในทิศทางเดียวกัน จะมีลูกศรชี้ทิศทางที่บริเวณแก้มยางเพื่อบ่งบอกว่าต้องติดตั้งไปด้านไหน เป็นรูปแบบที่ออกแบบมาให้รีดน้ำได้ดีกว่าสองทิศทาง จะควบคุมรถยนต์ได้ง่ายกว่าเมื่อต้องขับขี่ในบริเวณที่มีพื้นเป็นน้ำหรือมีน้ำขัง แบบไม่สมมาตร เป็นรูปแบบที่หาได้ยากที่สุด จะมีดอกยางสองข้างไม่เท่ากัน และมีความหนาทั้งสองฝั่งไม่เท่ากันอีกด้วย เหมาะกับการเข้าโค้งที่มีความเร็วมาก ใช้เกาะถนนได้ดี ใช้การสำหรับรถแข่งความเร็วเท่านั้น ไม่นิยมใช้กับุรถยนต์บ้านธรรมดา เรื่องของยางรถยนต์ยังมีอีกมาก ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอีกมากมายที่ทำให้ยางรถยนต์ปัจจุบันเป็นนวัตกรรมยานยนต์อีกชนิดหนึ่งที่ส่งผลอย่างมากต่อการขับขี่ เมื่อรู้สึกว่ายางรถยนต์ของตนเองเริ่มมีรอยดอกยางบางลงไปก็เป็นสัญญาณที่ควรจะเปลี่ยนยางแล้วนะครับ ยางรถยนต์ควรจะเช็คสภาพทุกทุก 3,000 - 5,000 กิโลเมตรเพื่อความปลอดภัย ยางรถยนต์ไม่สามารถเคลมประกันภัยรถยนต์เต็มราคาได้ด้วยครับ ได้เพียงครึ่งราคาเท่านั้น เรื่องของยางรถยนต์นี้มีมากจริงๆ ลองศึกษากันดูได้ที่ Rabbit Finance Glossary นะครับ

การเคลม (ฟรี) ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ชนิดไม่มีคู่กรณี ทำยังไงย : #เคลมประกัน #ประกันรถเก๋ง #ต่อประกันรถยนต์ หลายครั้งที่คุณสาวๆ ทั้งหลายขับรถไปแล้วเกิดเฉี่ยวหรือชนเข้ากับวัตถุที่อยู่ริมถนนโดยไม่ตั้งใจ เช่น กระถาง กระบะปลูกต้นไม้หน้าบ้าน หรือ แม้แต่กำแพง หรือเสารั้วตอนที่จะเลี้ยวเข้าบ้าน หรือบางทีก็โดนรถจักรยานยนต์เฉี่ยวเอาตัวอย่างสีแล้วหนีไปซะงั้น ไม่สามารถตามตัวได้ รู้ทั้งรู้อยู่ว่า รถเรามี ประกันภัยชั้น 1 แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเคยได้ยินมาแต่ว่า การเคลมประกันเพื่อสั่งซ่อมนั้นต้องมีคู่กรณี ๒ ฝ่าย คือเรากับฝ่ายผู้ก่อเหตุ แต่คราวนี้เราเป็นผู้ก่อเหตุซะเองกับสิ่งไม่มีชีวิต หรือผู้ก่อเหตุหนีไปในกลีบถนนแล้วเนี่ย เราจะทำยังไงดี จะเคลมแบบไม่มีคู่กรณีได้มั้ย ขอเชิญ ติดตาม การแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อขอเลขเคลมสั่งซ่อมแบบไม่มีคู่กรณีนั้น สามารถทำได้ และทำกันมาหลายแล้วด้วย พอๆ กับการแจ้งเคลมแบบมีคู่ กรณีนั่นแหละ เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกวันและทุกเวลา ขั้นตอนการแจ้งเพื่อนำรถเข้าซ่อม ๑. แจ้งไปที่ศูนย์บริการที่เราซื้อรถคันนี้มาว่า เราจะนำรถเข้าซ่อม โดนอะไรก็แจ้งเขาไป แล้วทางศูนย์บริการก็จะบอกให้เราไปแจ้งบริษัทประกันภัย เพื่อขอเลขเคลม ๒. ไปที่บริษัทประกันภัยที่เราได้ทำไว้ แล้วแจ้งทางบริษัทว่าจะขอเลขเคลมเพื่อจะนำรถเข้าซ่อม ทางบริษัทประกันภัยจะให้เขียนรายละเอียดของ การเกิดอุบัติเหตุ ทริคการแจ้งรายละเอียดของการเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี -แจ้ง วัน เวลาของการเกิดอุบัติเหตุให้ใกล้วันที่แจ้งเคลมให้มากที่สุด เช่น แจ้งเคลม ๖ พ.ย. ก็แจ้งวันที่เกิดเหตุว่า เกิดเหตุวันที่ ๕ พ.ย. เป็นต้น หรือถ้าไปแจ้งตอนบ่าย ก็แจ้งในใบแจ้งรายละเอียดว่าเกิดเหตุตอนเช้าวันที่แจ้งไปเลย เพราะถ้าแจ้งวัน เวลาตามความเป็นจริง บริษัทอาจจะหัวหมอ โดยอ้างว่าเกิดเหตุนานมาแล้วไม่รีบแจ้ง อาจจะยึกยักให้เราปวดเศียรเวียนเกล้าได้ -แจ้งการเกิดเหตุโดยแจ้งว่าได้ ชนหรือเฉี่ยวกับสิ่งไม่มีชีวิต เช่น กระถาง กำแพง เสารั้ว แต่ต้องให้ดูสมจริงด้วย ไม่ใช่ว่าแผลอยู่ตรงกับแนวไฟท้าย แต่แจ้งว่าชนกระถาง ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ แบบนี้ก็อาจโดนเล่นแง่ได้เหมือนกัน เรื่องแจ้งว่าชนกับอะไรนั้น ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร เพราะเราก็รู้อยู่แล้ว ว่าเราขับไปชนอะไรมา แต่ในกรณีชนแล้วหนีเนี่ย ต้องแต่งเรื่องนิดหน่อย โดยอย่าบอกว่าโดนชนแล้วหนีเด็ดขาด เพราะอาจจะโดนเล่นแง่ให้ไป ตามคู่กรณีได้ ดังนั้นถ้าให้ชัวร์ แจ้งว่าชนกับสิ่งไม่มีชีวิตดีที่สุดครับ -สามารถแจ้งขอเลขเคลมได้ทั้งคัน ไม่ว่าจชนมานานแค่ไหน แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ให้แจ้งวัน เวลาที่เกิดเหตุให้ใกล้วันแจ้งให้มากที่สุดจะดี ที่สุด ถ้ามีหลายแผลหลายรอยก็ต้องคิดกันหน่อยตรงนี้ ๓. ทางบริษัทประกันภัยอาจะขอดูรถเรา ก็ให้เขาดูไป แต่ถ้าไม่ได้เอารถมาด้วย ก็สามารถนัดวันให้บริษัทมาดูได้ แต่ถ้าเขาไม่พูดถึงเราก็ไม่ต้อง ถาม ๔. เมื่อได้เลขเคลมมาแล้วก็แล้วแต่เราล่ะว่าจะนำรถเข้าซ่อมเมื่อไร ไม่จำเป็นว่าได้เลขเคลมมาแล้วต้องนำรถเข้าซ่อมทันที แต่ใบเคลมนี้มีอายุ ประมาณ ๑ ปี ๕.เมื่อจะนำรถเข้าซ่อมก็นำรถไปที่ศูนย์ บริการที่เราซื้อรถมาพร้อมนำใบเคลมติดไปด้วย ยื่นใบเคลมให้ พร้อมเซ็นชื่อสั่งซ่อม ทางศูนย์บริการจะ นัดวันมารับรถ หรือหากว่าเป็นการซ่อมไมไหญ่ เช่น โดนทุบกระจก บริษัทประกันจะแนะนำอู่ให้เราถือใบเคลมไปเปลี่ยนเอง แบบนี้เราก็สามารถรอ รถได้เลย --หากชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกับชื่อคนแจ้งเคลม ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะคนที่มีพลขับส่วนใหญ่ก็จะให้พลขับเป็นคนเซ็นใบเคลม แต่ถ้าบริษัท ยึกยักเล่นแง่หัวหมอ ก็อธิบายไปตามความจริง เช่น ชื่อสามี แต่เราเป็นคนใช้รถ หรือบอกว่า เราเป็นภรรยาของเจ้าของรถ ถ้ายังเรื่องมากอีกก็ใช้ไม้ ตายขุ่ว่าจะถอนประกันภัยแล้วจะไปทำประกันภัยกับ บริษัทอื่น รับรองรายไหนรายนั้น ยอมทำให้แน่นอน ปล.ที่บอกว่าเพื่อคุณสุภาพสตรีเพราะคิดว่าคุณผู้ชายคงทราบดีอยู่แล้ว