Jump to content

G-autogas

CCTH Member
  • Posts

    59
  • Joined

  • Last visited

  • Days Won

    3

Everything posted by G-autogas

  1. กรองเกียร์ได้เปลี่ยนบ้างรึยังครับ อาจจะต้องต่อคอมอ่านค่าดูว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหน สาเหตุที่น่าจะเป็น คือ แรงดันน้ำมันเกียร์ต่ำ , คลัชใกล้จะหมด
  2. ต้องดูโจทย์ว่า จะเอามาใช้ทำอะไร FD น่าจะใช้มาตรวัดสัญญาณไฟฟ้าแล้ว ไม่สามารถตัดต่อพ่วงได้ สายสัญญาณจะรวมหลายข้อมูลจากกล่อง ทางเลือกจะใช้อุปกรณ์เสริมที่ต่อทางปลั้ก OBD II อ่านค่าทีเดียวได้หลายตัว
  3. ที่จริงเครื่องของฮอนด้า นี่ควรจะตั้งวาล์วตามระยะเลยครับ ทุก ๆ 40,000 กิโล ก็ตั้งวาล์ว เช็คสายพาน แล้วก็เช็คอาการน้ำมันเครื่องรั่ว ตามจุดท่อน้ำมันเครื่องวาล์ว Vtec ปั้มน้ำมันเครื่อง ดูจากรายการเปลี่ยนแค่แหวนลูกสูบ ประเก็นฝาสูบ เป็นแค่ทำท่อนบน อาการแหวนลูกสูบตายจากความร้อน และมีอาการวาล์วยัน วาล์วไหม้ ก็เจียรวาล์ว ตีบ่าใหม่ ขอและถามเป็นข้อมูลครับ - ปกติใช้น้ำมันเครื่องอะไร กรองน้ำมันเครื่องอะไร เปลี่ยนทุกกี่กิโลครับ - ตั้งวาล์วบ่อยขนาดไหนครับ - น้ำหล่อเย็นใช้ของอะไร เปลี่ยนถ่ายที่ระยะเท่าไหร่ - ใช้หัวเทียน ยี่ห้ออะไร เบอร์ไหน เปลี่ยนที่กี่กิโลครับ ขอบคุณครับ
  4. ต้องดูว่า - เปลี่ยนยางรองแท่นเครื่องแท่นเกียร์ นี่เป็นการเคลม หรือ จ่ายเอง อาการก่อนเปลี่ยนหลังเปลี่ยนต่างกันไหม ดีขึ้นไหม - ได้ตรวจสอบส่องดูเองไหม ว่าตัวโช้คมีคราบน้ำมันหรือไม่ ถ้ามีคือลักษณะโช้ครั่ว เตรียมตัวเปลี่ยนได้ - ถ้าได้ส่องเองแล้วโช้คไม่มีคราบ แล้วได้ดูพวกบูชยาง ลูกหมากหรือไม่ เพราะอายุขนาดนี้แล้ว จะได้ทำทีเดียวจ่ายค่าแรงรวดเดียว - โช้ค มีทั้งของศูนย์ ของทดแทน หลากหลายราคา เปลี่ยนเป็นคู่ ๆ จะคู่หน้าหรือหลัง ดูว่ารั่วจุดไหนค่อยเปลี่ยน เช่นเดียวกับบูชยาง ลูกหมาก ลองหาอู่ยกรถเช็คดู แล้วประเมินราคาเอาได้ครับ
  5. ขออภัยครับขอแก้นิดนึงครับ แบตแบบน้ำจะต้องดูแลน้ำกลั่นไม่ให้ต่ำกว่าระดับที่กำหนด (ต้องมีตามขีดนอกแบต) เพราะว่าแบต มีกระแสไฟเข้าออกตลอด ถ้าไฟเดินไม่ดี มันก็อั้นจนทำให้เกิดความร้อนได้
  6. ปัญหานี้วิเคราะห์ได้ 3 ทาง - ไดชาร์จ ชาร์จไฟเกิน 14V ปัญหาจะอยู่ที่ Regulator ตัวคุมไฟ ไม่ให้ชาร์จไฟมากกว่า 14V แล้วพอแบตเจอไฟโวลต์สูงก็ทนไม่ไหว น้ำกลั่นร้อนจนเดือด สายไฟ ขั้วแบตร้อนจนพลาสติกละลาย เช็คค่าโวลต์ ตอนติดเครื่อง ควรจะอยู่ในช่วง 13.0-13.9 V - แบตเตอรี่ แบตแบบแห้ง จะต้องเติมน้ำกลั่นให้อยู่ช่วงนี้ที่กำหนดเสมอ เพื่อให้ปฏิกิริยาทางเคมีเป็นไปตามที่ออกแบบ และรูระบายอย่าไปอุด ถ้าน้ำกลั่นน้อยและทิ้งไว้นานจะทำให้การถ่ายกระแสอิเล็กโทรไลท์ยาก ทำใหแผ่นธาตุเสื่อมสภาพ และเกิดความร้อนได้ แม้จะเติมน้ำกลั่นทีหลัง แต่แผ่นธาตุมักจะเสื่อมสภาพไปแล้ว กระแสไฟเดินไม่สะดวกก็เกิดความร้อนแทน (คล้าย ๆ เตาขดลวด) - ขั้วแบต มีขี้เกลือจำนวนมากทำให้ไฟเดินไม่สะดวก
  7. ที่ศูนย์ใช้เวลานานคงคิวเยอะครับ แต่ของฮอนด้าตามสูตรถ้าจำไม่ผิดเค้าจะ 2 แสนกิโล หรือ 5 ปี ค่อยถ่ายทีนึง แล้วใช้น้ำยาของฮอนด้าแบบไม่ผสม แต่ถ้าใช้แก๊ส ผสมน้ำหน่อย แต่ถ้าไม่สะดวกเอาน้ำยายี่ห้ออื่นที่น่าเชื่อถือแทนได้ - ล้างจริงไม่นาน อยู่ที่จะเปิดก้อกถ่ายน้ำทิ้งรอจนหยดติ๋ง ๆ แล้วเติมน้ำติดเครื่องให้น้ำไหลวนล้างภายในนานแค่ไหน - หม้อน้ำยุคนี้เป็นอะลูมิเนียมเชื่อมฝาพลาสติก แกะมาล้างไม่ได้ ต้องใช้น้ำไหลวนเอา - อยู่ความละเอียด และลูกค้าต้องการแบบไหน รอได้ไหม ปกติ เปิดให้น้ำไหลวนซัก 5 นาทีก็พอแล้ว แล้วไล่อากาศออกให้หมด - ติดแก๊ส การล้างไม่ต่างเพราะน้ำวนทั่วกันอยู่แล้ว แต่ต้องไล่ลมให้ดี หม้อต้มต้องติดต่ำกว่าฝาหม้อน้ำ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องอากาศค้างในระบบน้ำหล่อเย็น และไล่อากาศง่าย ส่วนหม้อต้ม ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องผ่า น้ำหล่อเย็น : น้ำซัก 1:1 หรือ 7:3 หรือง่าย ๆ ใช้แบบ premix แกลลอน 4 ลิตร แล้วผสมน้ำ หรือ แบบเข้มข้น 2 ลิตรแล้วผสมน้ำ ประมาณนี้
  8. ท่อนี้น่าจะหนากว่าของเดิม ดูขาวแปลก ๆ ส่วนเหล็กแบบเดิมเป็นแบบหนีบถ่าง เวลาใช้ไปนาน ๆ จะล้ารัดได้ไม่แน่น แบบนี้จะขันได้แน่นกว่า แต่ก็อย่าขันจนแน่นเกินไป เอาแค่พอแน่นพอครับ
  9. เบื้องต้น - ความร้อนสูงระดับไหน ถึงตัว H เลยไหม - มาจากสาเหตุไหน น้ำรั่ว ท่อน้ำหลุด - หลังดับเครื่อง รอซักพักจนเครื่องเย็นระดับนึวค่อยเติมน้ำหรือไม่ ถ้ารู้ตัวเร็วและดับเครื่องทัน อาจจะยังไม่บานปลาย แต่ต้องเช็คละเอียดอีกที ตอนนี้ มีอาการน้ำหายหรือไม่ น้ำหล่อเย็นยังใสตามสี ไม่หนืดข้น แล้วความร้อนนิ่งยัง ถ้าน้ำหล่อเย็นปกติ ไม่หายมาก ความร้อนนิ่งพอขับไปเช็คได้ ตอนเครื่องเย็น ลองเปิดฝาหม้อน้ำแล้วติดเครื่อง ถ้ามีฟองอากาศตลอดไม่หาย แล้วเร่งเครื่องยิ่งฝุดออกมา มีโอกาสฝาโก่ง แรงดันรั่ว
  10. ที่ยัดไส้มาก็ - น้ำยาล้างแอร์ 1,890 - น้ำยาล้างหัวฉีดเบนซิน 465 - น้ำยาทำความสะอาดเบรค 465 รายการพวกนี้ศูนย์ชอบยัดให้ ตอนเสนอราคามาให้เอาออกเลย ควรจะเช็คใบเสนอให้เรียบร้อยก่อนอนุมัติด้วย ตกลงรถนิสสันมารช์หรืออัลเมร่าใช่ไหมครับ เข้าศูนย์นิสสัน ถ้าเอาฮอนด้าเข้าศูนย์นิสสันคงแปลก ๆ และเห็นรหัสเครื่อง HR12 และใช้น้ำมันเครื่อง 3 ลิตร ส่วนน้ำมันเครื่องซีวิคน่าจะใช้ประมาณ 3.7-4 ลิตร เช็คเบรค แล้วน้ำมันเบรคเช็คไหม เพราะควรจะเปลี่ยนน้ำมันเบรคทุกปีด้วย ส่วนแบตนี่ต้องวัดค่าโวลต์ประกอบ ตอนดับเครื่องประมาณ 10-11.x ติดเครื่อง 12-13.x แล้วก็เช็คขั้วแบต ตาแมว ระดับน้ำกลั่น
  11. หัวฉีดน้ำมันใหญ่ขึ้น แล้วปั้มติ้กเบนซิน เรกูเรเตอร์ ใช้อะไร ตั้งแรงดันเท่าไหร่ เดินท่อยังไง บูสเท่าไหร่ สำคัญอยู่ที่ แรงดันน้ำมัน น้ำมันพอไหม เพราะถ้าจูนให้น้ำมันมาเยอะแต่ปั้มมาไม่พอก็ไร้ความหมาย ยิ่งถ้าบูสต์สูง แรงดันเบนซินก็ต้องสูงตามด้วย ส่วนหม้อต้มแก๊ส พอจะปรับแรงดันสูงชดเชยได้ แต่ทางที่ดีคำนวนแรงม้าและเผื่อไว้อีก 40% ของแรงม้าที่ปั่นได้กันเหนียว
  12. เรื่องเสียง นี้ต้องได้ไล่ตัวเองจะดีที่สุดครับ ถ้า รถอยู่กับที่ต้องลองเช็ค - สภาพสายพาน ร่องดูดี ฟันไม่แหว่ง - ติดเครื่อง ไม่เปิดแอร์ รอบเดินเบา มีเสียงไหม เร่งเครื่อง 1,500-2,000 มีเสียงไหม แล้วดูการหมุนของลูกรอกประกอบ อันนี้ดูลูกรอก ลูกปืน - ติดเครื่อง เปิดแอร์ รอบเดินเบา มีเสียงไหม เร่งเครื่อง 1,500-2,000 มีเสียงไหม อันนี้แยกดูลูกปืน คลัชคอมแอร์ ถ้าไม่มีเสียงผิดปกติ ต้องวิ่งทดสอบ (ถ้ามาถึงข้อนี้อาจจะออกที่ลูกปืนล้อ)
  13. ก่อนอื่น เช็คขั้วแบตก่อนเลย ว่ามีคราบอะไรมาเกาะหรือไม่ ขันน๊อตยึดแน่นรึปล่าว ถ้าขั้วแบตยังดี กดรีโมทยังไม่มีไฟ ไฟเก๋งแทบไม่ติด รถใหม่ป้ายแดง โทรเรียกศูนย์มายกรถไปเลย มันต้องไฟรั่วหรือมีอุปกรณ์ที่ใช้ไฟเอ๋อตรงไหนซักแห่ง ขนาดดูดไฟจนแบตหมดหม้อ แล้วดูว่ามีติดอุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช่มาจากโรงงานหรือไม่ เช่น ไฟตัดหมอก สัญญาณถอยหลัง เครื่องเสียง ที่เซลล์แถมให้ และมีการติดตั้งที่ไม่เรียบร้อย (บางชิ้นเหมือนจะมาจากโรงงานแต่ก็ไม่ใช่นะครับ ถ้าไม่ใช่ออฟชั่นตามรุ่นจริง ๆ) ให้เขาเช็คสายไฟหาจุดที่ไฟรั่ว เช็คแบต (แต่คาดว่าจะไม่รอดและล่อซะแบตหมดเลย)
  14. Monroe Reflex แพงกว่าของศูนย์ไม่มาก แต่หนืด หนึบกว่าเดิมครับ โดยที่ไม่แข็งจนรับไม่ได้ เหมาะกับสปริงเดิม ช่วงล่างเดิมมาก ๆ ตัวเลือกที่ไม่แพงนอกจากของศูนย์ ก็มี ของ Kayaba , Monroe นี่แหละครับ
  15. เบื้องต้น เช็คน้ำมันเกียร์ กรองเกียร์ก่อน ถ้ากรองเกียร์อยู่ด้านนอกก็ให้เปลี่ยนได้ เวลาอากาศเย็นมาก ๆ พอน้ำมันเกียร์ยังร้อนไม่ได้ที่ มันจะเข้าเกียร์กระชากไม่นุ่มนวล ยิ่งถ้าแรงดันน้ำมันเกียร์ต่ำจะยิ่งออกอาการแรงขึ้น ส่วน เกียร์ 3 จะไปเร็วสุด เพราะรับภาระหนักสุด เป็นเกียร์สุดท้ายก่อนโอเวอร์ไดร์ฟ ที่สามารถเรียกแรงได้ดีสุด และเวลาคิกดาวน์ที่ความเร็วสูงจะลงจากเกียร์ 4-5 มาเกียร์ 3 ทำให้เกียร์ 3 ของฮอนด้าไปก่อนเกียร์ 1
  16. ใช่ครับ หน้ากากคือหน้ากากให้ใส่เครื่องเล่นแบบ 1din , 2 din ได้ ของแท้จะชัวร์สุดว่าใส่แล้วเนียน ไม่มีเสียงกรอบแกรบ ส่วนปลั้กแปลงจะแปลงปลั้กให้ต่อกับเครื่องเสียงที่ไม่ใช่ของศูนย์ได้ ซึ่งซื้อครั้งเดียวก็ใช้ได้ตลอด และเครื่องเสียงบางตัวจะไม่รองรับสวิทซ์บนพวงมาลัย หรือ ใช้ได้แต่ไม่ครบทุกฟังก์ชั่น แต่เครื่องเล่นยี่ห้อดี ๆ รวมความสามารถคุมสวิทซ์บนพวงมาลัยได้เกือบทุกรุ่นแล้ว เวลาเลือกต้องดูจุดนี้ด้วยครับ
  17. หน้ากากก็ใส่ได้เลย ส่วนปลั้กข้างหลัง คือ ปลั้กแปลง ให้ต่อเครื่องเสียงกับสายไฟรถครับ ถ้าเปลี่ยนเครื่องเสียงแล้ว ไม่แน่ใจว่าตัดต่อปลั๊กหรือใช้ปลั้กแปลง ถ้าใช้ปลั้กแปลงก็แล้วไป แต่ถ้าตัดต่อปลั้กก็ให้ร้านเค้าต่อให้ครับ
  18. อาการนี้คล้าย ๆ กระทู้ข้าง ๆ เลย ลิงค์นี้ มันต้องค่อย ๆ ไล่ครับ ถ้ามีคอมจิ้มก็จะช่วยชี้เป้าได้ง่าย เพราะบางกรณีมันก็ไม่โชว์ไฟเตือน แต่ต้องจิ้มคอมอ่านค่าเอา
  19. สวิทซ์ สาย คันเกียร์น่าจะมีปัญหา อาจจะหลวม ลองสตาร์ทเกียร์ N ดูก่อนครับ แล้วไปให้อู่ไล่เช็ค
  20. ของคุณ dksanova ต้องดูว่ารั่วตรงไหน ถ้ารั่วแค่ตรงข้อต่อ ก็ง่ายครับ เปลี่ยนแค่ข้อต่อสีดำ ๆ แล้วไล่น้ำ ไล่ลม แต่ถ้ามีคราบรั่วซึมตรงตะเข็บด้วย ต้องผ่ามาดูก่อนว่าผุขนาดไหน พอจะเปลี่ยนชุดซ่อมไหวไหม
  21. วิ่ง 200 กิโลพอไหวครับ คือ ถ้ามันดังแล้ว ยิ่งทำเร็วยิ่งดีครับ เพราะเรามองไม่เห็นว่าสภาพเป็นยังไง ประเมินไม่ได้ วิ่งมาทำดีเดียว ก็จะได้เสียค่าแรงรอบเดียว เสียเวลาครั้งเดียว ก็ดีกว่าไป ๆ มา ๆ หลายรอบ
  22. ยี่ห้อลูกปืนล้อ ของยุ่นเช่น nsk koyo ntn ของยุโรป timken fag เทียบให้ตรงรุ่น รองรับ abs (ถ้ามี) ใช้ได้ครับ ถ้าไม่คิดมากให้อู่หาให้ เค้าจะรับประกันตรงนี้ให้ด้วย ปกติจะเปลี่ยนเป็นคู่ คู่หน้า หรือ คู่หลัง ลองยกรถแล้วขยับล้อเช็คดูครับ ถ้าถึงขั้นดัง คงเริ่มไม่แน่นแล้ว
  23. ตลับลูกปืน อาการเสียขั้นแรก จะมาจากจารบีหมดสภาพ ลูกปืนเสียหาย เสียงหอนจะมาก่อน แต่บางทีเสียงอื่น ๆ จะมากลบ เช่น เสียงยางบดถนน เสียงเครื่อง แต่นี่ หนักถึงขั้นตลับลูกปืนแตก ดุมล้อมันเลยแกว่งให้ตัวขยับไปมาได้ แผ่นกันฝุ่น จานเบรค คาลิเปอร์มันเลยจ้ะเอ๋สัมผัสกันแบบไม่ต้องการ วิธีเช็คอีกอย่าง คือ ยกรถแล้วลองขยับล้อด้านข้าง มันจะต้องแน่น ไม่ขยับ หรือ หมุนล้อเร็ว ๆ แล้วดูว่าต้องไม่มีอาการแกว่ง มีเสียงโลหะกระทบ แต่พวกรถขับหน้าจะเช็คล้อหลังยากไปหน่อย
  24. ต้องค่อย ๆ ไล่ครับ บอกเป้ะ ๆ คงไม่ได้ อาการจานเป็นริ้ว ดูแล้วการขยับของผ้าเบรคไม่เสมอกัน ผ้าเบรคติด หรือมีสิ่งแปลกปลอมมาติด - เช็คการประกอบผ้าเบรค สลักเบรค การไล่ลม - ถ้าไม่เคยเปลี่ยนชุดซ่อม อาจจะต้องถอดเปลี่ยนซีลยางลูกสูบเบรค แล้วเจียรจาน แต่งหน้าสัมผัสผ้าเบรคให้เรียบ อาการสั่นถึงห้องโดยสารและมีเสียง อันนี้ต้องยกรถและค่อย ๆ ไล่ดู - ดูว่าเป็นที่ผ้าเบรคติดหรือไม่ - ลูกปืนล้อ ถ้าแตก เสียงจะออกแนวหอน ๆ โว้ว ๆ มากกว่า - นอกนั้นก็ไล่พวก โช้ค น๊อตหัวโช้ค บูชยาง แขนของระบบช่วงล่าง สปริง
  25. ใช้นวดไปซัก 2-3 สัปดาห์ครับ มันจะค่อย ๆ ลงมาปกติเอง พึ่งใส่มันยังไม่เข้าที่ ยิ่งเบิกมาใหม่จะสูงเกินวิตกครับ
×
×
  • Create New...