Jump to content

I'm No. 4

CCTH Member
  • Posts

    90
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by I'm No. 4

  1. ผมไม่แน่ใจ ว่า amp ของแบตเตอรี่ มันขึ้นอยู่กับขนาดเล็ก-ใหม่หรือเปล่า แต่ถ้าใช่ มันก็น่าจะใส่ได้ 2 ขนาดมั้งครับ คือ 35 amp เท่าของเดิมติดรถ กับ 45 amp ใส่เต็มถาดพอดี เว้นแต่ว่าจะหาที่วางใหม่ หากจ้องใช้ขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากมีอุปกรณ์มากขึ้น
  2. ใช้แบบไหนก็ได้ครับ ทุกยี่ห้อนั้น มีมาตรฐานการผลิตที่เหมือนกัน ระยะเวลาการใช้งานเท่ากัน มันอยู่ที่การดูแลของผู้ใช้งานครับ แบตเตอรี่ทุกลูกที่ออกจากโรงงาน จะใช้การวัดค่า ถ.พ. ค่าความถ่วงจำเพาะ เป็นมาตรฐาน โดยค่าจะอยู่ที่ 1.25 ครับ มันเป็นค่าที่บอกถึงความเข้มข้นของธาตุในแต่ละเซลล์ของแบตเตอรี่ลูกนั้นๆครับ แบต 1 ลูกจะมี 6 เซลล์ เซลล์ละ 2 Volt เมื่อกระแสไฟในแบตเตอรี่ ถูกดึงไปใช้จากอุปกรณ์ต่าง ๆ ค่า ถ.พ. ก็จะลดลง ก็คือไฟอ่อนลงนั่นเอง แบตเตอรี่บางยี่ห้อ มีการออกผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาว่า ทน ใช้นาน (แบบที่ว่าไม่ต้องดูน้ำกลั่นบ่อยๆ) โดยวิธีการผลิตแบตเตอรี่เหล่านี้ก็คือ ทางโรงงานจะเพิ่มค่า ถ.พ. ในแต่ละเซลล์เข้าไปครับ โดยจะเพิ่มจะเพิ่มเป็น 1.28 ทำให้แบตเตอรี่ลูกนั้น ใช้ได้นานขึ้น ต่อให้ใช้แบตดีแค่ไหน ถ้าขาดการดูแลตามระยะเวลา ก็เสียครับ ข้อมูลทั้งหมดนี้ ผมได้มาจากเซลล์ บริษัท จีเอสแบตเตอรี่ ครับ อาจจะจะมีบางส่วนผิดพลาดบ้างนะครับ
  3. น่าจะเป็นท่อแอร์ แต่มันคือตรงไหนครับ พี่ทอมมี่พอชี้ทางได้มั้ย
  4. ตามที่พี่ทอมมี่ว่ามา น่าจะเป็นท่อแอร์หลุดครับ เพราะผมไม่ได้ลุยน้ำสูง จะว่าล้างรถก็ไม่ใช่ เพราะเป็นข้างเดียว
  5. หลายวันก่อน รู้สึกว่ารถมีกลิ่นอับ จนมาเจอสาเหตุรากเหง้า เมื่อได้ล้างรถ ดูดฝุ่น ผมยกพรมรองเท้า ตำแหน่งเบาะหน้าซ้าย พบว่ามีน้ำเกาะอยู่ใต้พรม ลองเอามือกดดู น้ำมันซึมอยู่ที่พื้นรถเลยครับ พอเราเอาพรมวางลงไป น้ำที่พื้นมันระเหยขึ้นมาเจอพรมระเหยต่อไม่ได้ มันก็กลั่นตัวเป็นหยดน้ำที่ใต้พรมแล้วก็ซึมลงไปอย่างเก่า พอจะมีวิธีไหนที่จะทำให้น้ำที่พื้นรถมันแห้งสนิทมั้ยครับ
  6. ไปลองนั่งมาแล้วครับกับโช้ค TypeR รับได้ครับ ไม่แข็งมาก ขอบคุณทุกความเห็นครับ
  7. โช้ค TypeR กับ กันโคลงหน้า-หลัง เห็นว่าราคาใกล้เคียงกัน เลือกชุดไหนดีครับ กำลังลังเล ขอจากประสบการณ์จริงเลยนะครับ พิจารณาโดยภาพรวม
  8. ล้อหลัง หน้า 8 ET38 รอง Spacer ได้หนาที่สุดเท่าไหร่ครับ พอดีว่าล้อมันหุบไปนิดนึง
  9. ช่วยหน่อยครับ ผมหาปุ่ม PM ไม่เจอครับ เวลาจะเข้าไปขอราคาในห้องซื้อขาย ใครรู้ ใครเห็น ช่วยบอกผมที
  10. กระทู้แรกของผมในบ้านใหม่ครับ วันนี้ผมมาแชร์วิธีแก้ล้อหลังกินยางด้านในครับ ไม่ต้องเปลี่ยนแคมเบอร์ ไม่ต้องเพิ่มอุปกรณ์ใดๆ เคล็ดลับมันอยู่ที่กาารตั้งศูนย์ครับ เนื่องจากว่าเจ้า FD ของพวกเรา มันถูกออกแบบช่วงล่างมา เป็นแบบอิสระ 4 ล้อ จึงสามารถปรับตั้งได้เยอะหน่อย โดยวิธีของผม ช่างที่ร้านตั้งศูนย์ที่ผมเข้าประจำ เค้าแนะนำมา และหลังจากที่ทดลองดูแล้ว ผลที่ได้ค่อนข้างพอใจทีเดียวครับ อาการกินยางด้านในหายไป วิธีที่ช่างเค้าทำ ก็คือ ตั้งมุมโทล้อหลังให้ติดลบครับ ของผมตั้งติดลบ 4 องศา ซึ่งผลจากการที่ตั้งมุมโทติดลบ มันทำให้ล้อจะหมุนไปข้างหน้าในลักษณะของการ "ไถไปกับถนน" นิดๆ ครับ ทำให้หน้ายางสึกเต็มหน้ายาง อาการกินยางด้านในจึงหายไปครับ และไม่มีผลต่อการขับขี่ครับ ผมขับอยู่ประมาณ 140 - 150 ก็ยังปกติครับ แต่แน่นอนครับ มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ข้อเสียของวิธีนี้คือ ยางคู่หลังจะสึกเร็วกว่าปกติครับ สึกมากกว่าล้อหน้าครับ แต่หลังจากสลับยาง หน้า - หลัง มันก็จะสึกเท่ากันพอดีครับ ยางสึกเร็วกว่าปกติ แต่สึกเท่ากันไม่กินด้านในครับ ที่ผมเลือกวิธีนี้ เพราะผมชั่งน้ำหนักว่า ยางกินด้านใน ถ้าเป็นมาก ถึงกับเปลี่ยนยาง แต่ยางสึกเร็ว (ไม่มาก) ก็แค่ใช้ได้ระยะทางสั้นลงจากปกติ อาจจะสัก 20 % ผมจึงเลือกใช้วิธีนี้ เพราะมองแล้วมีีผลเสียน้อยกว่าในเรื่อง ของค่าใช้จ่ายครับ *** วิธีนี้ ผมลองทำและพอใจกับผลที่ได้ จึงนำมาแชร์นะครับ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียตามที่บอก ขึ้นอยู่กับการ ยอมรับของแต่ละคนนะครับ....
×
×
  • Create New...