-
Posts
16 -
Joined
-
Last visited
Content Type
Profiles
Forums
Events
Posts posted by miss prakanpai
-
-
ไฟเขียว อย่าเพิ่งรีบออกรถ
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่จอดติดไฟแดงเป็นคันหน้าสุด ไม่ควรรีบออกรถทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว เพราะทางฝั่งที่เพิ่งหมดไฟแดง อาจมีรถที่วิ่งข้ามผ่านเส้นสีขาวก่อนสัญญาณไฟเหลืองแต่ยังข้ามไม่พ้นทางแยกตกค้างอยู่
โดยเฉพาะในแยกใหญ่ ๆ ที่ทางเดินรถกว้างมาก ถ้าหากเรารีบออกรถเร็วเกินไป ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกันได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงควรรอให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยออกรถค่ะCr. ตำรวจภูธร ภาคห้า /CSR Society with Toyota
-
-
-
หนาวนี้...ใครยังไม่มีโปรแกรม ขอแนะนำ 13 ที่ท่องเที่ยวรับลมหนาว (ขับ Fd ชิวๆ กับสาวข้างกาย)
-
-
Puthapong, bird_ie8, superpiak, abudareen, mie, ppopp, JeamsBall
สวัสดีค่ะ.....ไปละ แวะมาทักทายยามเช้าเฉย ๆ อิ อิ :D
-
-
-
6 วิธีง่ายๆ กับการดูแลรักษารถประจำวัน
ประการที่ 1
ที่จะต้องตรวจก็คือ ลมยาง ตรวจง่ายๆ ด้วยสายตาว่ามันแฟบอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะครับ เพระถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ
ทำให้เบรกปัด, วิ่งส่าย, รถแถไปด้านหนึ่ง เป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุด้วย อาจจะทำให้อายุของยางสั้นลง จึงต้องควักกระเป๋าก่อนถึงเวลาอันควรด้วยนะครับ
เพราะฉะนั้น ถ้าพบว่าแรงดันลมไม่เท่ากันต้องตรวจเติมให้เรียบร้อย
ประการที่ 2
ที่ต้องตรวจนั้นคือ ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆใต้ท้องรถ ซึ่งก้มดูด้วยสายตาทำได้ง่ายๆครับ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งาน
รีบปรึกษาช่าง และเมื่อตรวจพบว่าน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ถ้าเป็นข้อต่อก็ไขควงกวดอัดให้แน่น และถ้าพบรอยรั่วของน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเกียร์หรือน้ำมันเฟืองท้ายก็อย่างนิ่งนอนใจ เมื่อมีเวลาจะต้องนำไปปรึกษาช่างเพื่อทำให้รอยรั่วนั้นๆหมดไป ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าวของรถยนต์นะ
ประการที่ 3
คือการดูแลน้ำระบายความร้อน วิธีดูก็ไม่ได้ยุ่งยากเลยนะ เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออก ถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม
สำหรับรถบางคันนะครับ ลองสังเกตุดูว่าถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำนะครับ ให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน
ถ้าน้ำยังอยู่ในระดับที่กำหนดก็ไม่ต้องเติม แต่ถ้าต่ำก็ให้เปิดฝาขวดเก็บน้ำสำรอง แล้วเติมน้ำสะอาดให้เต็มนะครับ เรื่องดูแลน้ำระบายความร้อนอย่าละเลย
เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ของท่านเสื่อมสภาพเร็วได้
ประการที่ 4
ดูแล ตรวจเติมระดับน้ำมันเครื่องนะครับ เพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ วิธีตรวจระดับน้ำมันเครื่องก็ไม่ยุ่งยากอะไรเลย
เพียงแต่ดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งของมันให้ สุดจากนั้น ดึงออกมาตรงๆในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสักเกตได้จากรอยคราบน้ำมัน
ที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด น้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L (Low) และ F (Full) ถ้าต่ำจาก L ก็ให้เติมให้อยู่ในระดับเท่าเดิม และไม่ควรเติมจนเกินอักษร F
เพราะจะทำให้ควันขาวจากน้ำมันเครื่องเข้ามาห้องเผาไหม้ และซคลเพลาข้อเหวี่ยงรั่วนะครับ ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์เลย
ประการที่ 5
การตรวจเติมน้ำมันเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั้มเบรก ถ้ามีระดับสูงก้ไม่ต้องเติมนะครับแต่พ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจน ได้ระดับที่ถูกต้อง
การเติมน้ำมันเบรกมีข้อควรระวังก็คือ อย่าให้น้ำมันเบรกหกราดโดนสีรถจำทำให้สีเสียหาย และถ้าหก ห้ามเช็ดนะครับ ให้ใช้น้ำราดให้เจือจาง เพราะจะทำให้สีเสียหาย
เป็นแผลทางยาวไปตลอดแนวที่เช็ด สำหรับน้ำมันเบรกนั้น ถ้าพร่องมากๆทุกวัน จะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่างนะครับ “เพราะเบรกคือชีวิต” มีชีวิตของใครบ้างหรือครับ
ก็ชีวิตของท่าน และผู้ที่โดยสารมากับท่านรวมถึงผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนกับท่านด้วย
ประการสุดท้าย
การบำรุงรักษาประจำวัน คือกระบอกคลัตช์น้ำมันจะต้องมีการตรวจเติมน้ำมันให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง กระบอกดังกล่าวอยู่ข้างๆกระบอกน้ำมันเบรกและน้ำมันที่เติมก็คือ
น้ำมันเบรกนั่นแหละ อย่าละเลย เพราะถ้าน้ำมันหมดจะเข้าเกียร์ไม่ได้ นั่นคือรถวิ่งไม่ได้นั่นเอง
** เพียงท่านเสียสละเวลาเพียง 15 นาทีต่อวัน หมั่นดูแลรักษาสภาพเพียงเท่านี้ รถของท่านก็จะอยู่ไปกับเราได้อีกนาน **
-
-
อย่างเกลียดเลย อย่างงี้ไปกินติมด้วยกันม่ะได้แระ
อาหย่อยจะตาย เชอะ.... อิ อิ
พี่หมีค่ะ พอแล้วน๊าาา เด๋วอ้วน 5555
-
ไปละๆๆๆๆ ไปรับผิดชอบหน้าที่การงานก่อน โดนสายตาอำมหิตจ้องมองมาละ อิอิ
:0013:
-
ตกใจหมดเลยผมอ่านเป็นพี่หมอกลัวผีสิง
ง่ะ เด๋วคนอื่นก็รู้หมดหรอว่าพี่หมีอายุมากแล้ว 5555 :rolleyes:
-
-
สวัสดีครับนู๋เน๊ต
ทำไมวันนี้มาแปลก มาในนาม miss prakanpai
วันนี้เข้ามาทำงานค่ะ เลยแอบเข้ามาดูหนุ่ม ๆ นิดนึง อิ อิ
-
-
ขอรายละเอียดการประกันภัยรถยนต์ด้วยครับ
- Honda CIVIC รุ่น 1.8 S AT (AS) ออกรถปลายปี 2010
- ประกันหมดเดือนธันวาคม (จะเริ่มปีที่ 3)
- ไม่ระบุคนขับ และ/ระบุคนขับ 2 คน อายุ 33-36
- ซ่อมห้าง
- รับผิดชอบส่วนแรก ไม่มี
- ทุนประกัน 600,000
- ติดแก๊ส LPG
- รวม พรบ., อากร และภาษี
- ปีที่แล้วประกันของ กรุงเทพ
- ขอของกรุงเทพ กับ คุ้มภัยครับ
ขอบคุณครับ
รบกวนตรวจสอบ pm ด้วยค่ะ
หลักการเลือกซื้อประกันภัย แบบมืออาชีพ ฉบับ Mr.Prakanpai
in Insurance Talk | ห้องสนทนาประกันภัย
Posted
ความคุ้มครองที่คุณจะได้รับจาก ประกันภัยรถยนต์ ชั้น1
– ความรับผิดต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
– ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
– ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย(จ่ายสูงสุดตามทุนประกันภัย)
– ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย( จ่ายสูงสุดตามทุนประกันภัย )
ความคุ้มครองที่คุณจะได้รับจาก ประกันรถยนต์ ชั้น2พลัส
– ความรับผิดต่อความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
– ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
– ความรับผิดต่อความสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
– ความรับผิดต่อความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย
** ความแตกต่างจากประกันชั้น 1 คือ
1. ทุนประกันคุ้มครองตัวรถต่ำกว่า ชั้น 1
2. รับผิดชอบเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น และต้องมีคู่กรณีในที่เกิดเหตุด้วย