WORAWIT

ขอบพระคุณมากครับพี่ 

4ใบสุดท้ายครับ 

ขอ 2 ใบ นะครับ
พรชัย มงคลอรรถ 
บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ที่ 4 ตำบลสาลี
อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี 72150
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ

จัดส่งให้แล้วทั้งสองท่านนะครับเช้านี้ 

แจ้งเพิ่มเติมครับ ได้บัตรมาเพิ่มอีกจำนวนนึงครับ แจ้งชื่อกับที่อยู่มาเพิ่มได้นะครับ

พอดีได้บัตรงานauto salon มาปึกนึงครับ ถ้าใครสนใจแจ้ง ชื่อที่อยู่และจำนวนที่ต้องการมาทางPMนะครับ จพจัดส่งให้ครับ 
 
 
ขอขอบคุณ คุณยุ้ย ร้านกาแฟ coffee_fac ซอยสามัคคี ที่มอบบัตรให้มาแจกในครั้งนี้ด้วยนะครับ

วรวิทย์ วณิชวัฒนกุล 457
ถ.อุตรกิจ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ 81000
ขอ 2 ใบครับผม ขอบคุณมากครับ

คุณสมบัติของน้ำมันเบรคจะระบุเป็นจำนวนของ DOT เช่น DOT3 หรือ DOT4 ความแตกต่างกันคือ DOT4 จะมีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้สูงกว่า DOT3 จึงสามารถใช้งานที่มีภาระหนัก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นรถที่มีการใช้ความเร็วสูง ๆ อยู่เสมอ
 
ตารางการทนความร้อนของน้ำมันเบรคครับ ยิ่ง dot มากยิ่งดี
Boiling Point Ranges
DOT          Dry boiling point      Wet boiling point 
DOT 3       205°C (401°F)       140°C (284°F) 
DOT 4       230°C (446°F)       155°C (311°F)
DOT 5       260°C (500°F)       180°C (356°F) 
DOT 5.1    270°C (518°F)        191°C (376°F) 
 
จะเห็นว่าน้ำมันเบรคที่มีค่า DOT ที่สูงกว่าจะมีจุดเดือดสูงกว่าตามไปด้วย การที่มีจุดเดือดที่สูงขึ้นทำให้โอกาสการเกิดฟองอากาศ (Vapour Lock) ในระบบเบรคลดน้อยลง การที่เกิดฟองอากาศในระบบเบรคขึ้นจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งในการขับขี่รถยนต์ เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรคลดน้อยลง หรืออาจถึงกับเกิดอาการเบรคไม่อยู่ หรือเบรคจมขึ้นได้
 

DOT 3, 4, 5.1 นั้นเป็น Glycol base แตกต่างกันที่จุดเดือด แต่จุดเดือดที่ว่านั้นมีสองอย่างคือ Dry boiling point (จุดเดือดเมื่อไม่มีความชื้น) และ Wet boiling point (จุดเดือดที่มความชื้นมากกว่า 3%) สำหรับรถแข่งซึ่งเปลี่ยนน้ำมันเบรคกันเป็นว่าเล่น จะสนใจ Dry boiling point เพราะไม่เคยมีความชื้นในระบบ ถ้ารถใช้บนถนนประจำวัน ต้องสนใจ Wet boiling point เพราะมีความชื้นในระบบประจำ
 

DOT 5 นั้นเป็น Silicone base ซึ่งนอกจากจะ compress ได้ ทำให้รู้สึก"ยวบๆ"แล้ว คุณสมบัติอีกกย่างคือจะไม่ผสมกับน้ำ ฟังดูดีแต่ถ้ามีน้ำในระบบ(หรือความชื้นเกิน 3%) แล้วน้ำมันเบรคร้อนถึงจุดเดือด น้ำในระบบจะกลายสภาพเป็นไอน้ำ และเนื่องจากระบบเบรคนั้นเป็นระบบปิด ไอน้ำนั้นจะทำให้เกิดความดันในระบบ ทำให้เบรคติดหรือเลียจานได้
 
โดยทั่วไปผู้ผลิตรถยนต์จะกำหนดให้ใช้น้ำมันเบรคชนิด DOT 3 แต่ถ้าผู้ใช้รถต้องการจะใช้เป็น DOT 4 หรือ DOT 5 ก็ได้ เพราะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ในระบบเบรค เป็นแต่เพียงว่าราคาของน้ำมันเบรกจะแพงกว่า DOT 3

จับครั้งแรก อยู่ได้ 2 เดือนครับ ตอนนี้เริ่มจับครั้งที่ 2 ครับ พี่ทอมมี่

ผมเคยสาย ไฮพาวเวอร์ รั่วมาครั้งนึงเปลี่ยนแล้วครับ 
 
อันนี้รั่วที่ตัวแร็คเลย

ไม่เห็นมีไรนะป๋า  
ขับได้ปกติ เสียงอะไรก็ไม่มี แต่ต้องเช็ดพื้นน้ำมัน มันหยดลงพื้นแล้วเดี๋ยวคนเดินจะลื่น ผมดูน้ำมันอาทิตย์ละครั้งก็ไม่พร่องเท่าไหร่
ประมาณเดือนนึงเติมที รอให้มันพังมันไม่เห็นพังอ่ะ 

ตาต้นนี่ตัวจริงคับ      บ่นมานานแสนนาน บ่นตั้งแต่หม้อน้ำยังไม่รั่ว จนหม้อน้ำรั่ว เปลี่ยนหม้อน้ำ 
 
แรครั่วนี่ก้อยังสถิตย์อยู่ในรถ 555 แสดงว่า รั่วไม่ได้มีผลต่อการขับ ตาต้นขับรถเร็ว

ผมเติมมาเป็นปีละ ยังไม่ได้เปลี่ยน หมดน้ำมันไปเกือบสองกระปุกละ 

ของผมเหมือนกันเลยครับ เติมเรื่อยๆ เดือนนึงเติม 2 ครั้ง ยุบไปนิดนึง

ลองจับระดับน้ำมันยุบดูก่อนคับ จะรู้เลยว่ามันรั่วหนักขนาดไหน 

ผมลองทำแบบพี่ทอมมี่ มาแล้วครับเมื่อวาน เข้าไปที่ search พิม แรคพวงมาลัยรั่ว แล้ว Google search ครับ อ่านไปเยอะพอควรครับ แต่หาคำตอบให้กับตัวเอง ไม่ได้ครับ เลยต้องมาตั้งกะทู้ ถามอีกครับ ผม 5555

ลองดูเป็นตัวเลือกครับ
http://www.civicclubthailand.com/board/index.php/topic/8381-%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%84%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7/page-2

เมือวานเอารถไปให้ช่าง 0 ฮอนด้า ตรวจเช็คมาให้ครับ ช่างได้แจ้งอาการมาดังนี้ครับ ( มีน้ำมันรั่วซึมในแรคพวงมาลัย บริเวณ ซีลยาง ) ครับ
ส่วนทางแก้ไข ช่างแจ้งมา 2 วิธีครับ
แบบที่ 1
เปลี่ยนทั้งหลายทั้งปวง
1 ยางรัดยางหุ้มชุดบังคับเลี้ยว
2 ยางหุ้มชุดบังคับเลี้ยว
3 ชุดกระบอกบังคับเลี้ยว ราคาโหดมาก 21500 บาท ไม่รวมภาษี ครับ
4 O/H ปั๊มพาวเวอร์ ด้วย ( ผมว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันนะครับ ถ้าไม่ทำจะได้ไหม? ทำแค่ข้อ 1 2 3 พอ ) ประกอบด้วย 
4.1 น้ำมันพาวเวอ
4.2 ท่อยางน้ำมันพาวเวอ
4.3 ท่อน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอ
4.4 ท่อน้ำมันไหลกลับพวงมาลัยพาวเวอ
4.5 คลิปรัดท่อน้ำมัน
4.6 ลูกปืนตลับ
4.7 ซีลปั๊มน้ำมันพาวเวอ
4.8 ซีล 2 ตัว
4.9 ลูกยางโอริง
4.10 ซีลกันน้ำมันรั่ว
4.11 โอริง 23.8X2.4
4.12 ลูกยางโอริง
4.13 โอริง 12.7X1.8
4.14 โอริง
4.15 ซีล B ฝาครอบปั๊ม
4.16 ซีลฝาครอบปั๊ม
4.17 แหวนยางกันรั่ว
4.18 โซแว้น ทำความสะอาดชิ้นส่วนอะหลั่ย
 ทุกอย่างรวมค่าอะหลัย ค่าแรง และภาษีแล้ว เป็นเงิน 31422 บาทครับ
แบบที่ 2 
คิอ ถ้าน้ำมันพาวเวอขาด หรือพร่อง จนถึงขีด Minimum ให้เติม น้ำมันเพาเวอลงไปครับ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ
คำถามมีอยู่ว่า ??????????
ข้อที่ 1 ถ้าผมเลือกแบบที่ 2 แล้วขับต่อไปเรื่อย ขาดก็เติม ขาดก็เติม จะมีปัญหาอะไรบ้างครับ ในระยะยาว???
ข้อที่ 2 ถ้าเลือกทำเฉพาะข้อที่ 1 2 3 เท่านั้น จะเป็นไปได้ไหมครับ เหตุผลเพราะ รายการที่ 4 ทั้งหมด ของผม อะหลั่ยไม่ได้เสียอะไรเลยนี่ครับ
ข้อที่ 3 ขอคำแนะนำอย่างอื่นด้วยครับ
ขอบคุณครับ
 
 
 

อ้าว ถามหลายกระทู้เลย   
 
ทำแบบผมก้อได้คับ ของผมก้อรั่ว  อาศัยดูน้ำมันพาวเวอร์เอา  
 
ของผมตอนนี้ 3 เดือนลงซักมิล เลยเฉยๆ ซื้อมาขวดนึง เติมไปจิ๊ดนึง ไม่ตกอีก งงเหมือนกัน
 
ถ้าหายฮวบๆ เสียเงินเถอะคับ อันตรายกับเพื่อนบนถนน

ของผมก็น่าจะรั่ว จนถึง โล แล้ว เลยไปซื้อน้ำมันมาเติม จน ไฮ สังเกตุผ่านไป 1 เดือน พร่องลงนิดหน่อย แทบจะดูไม่ออกเลย ถ้าไม่ดูบ่อยๆครับ

โอโหแพงมากครับ NCT 5 3250  ยุทางนี้ประมาน 2800 เองรวมเทินยางเก่า

ความเห็นส่วนตัวนะ
ยางแพง ยางไม่แพง ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการขับรถด้วยความประมาท
สังเกตว่า รถหรูๆ รถซิ่งๆ แพงๆ ยางเทพๆ แพง ๆ ก็ร่วง กันเยอะ ตามที่มีข่าว หรือไดูซากรถตามโรงรถ ซากตามด่านทางหลวง 
 
ขอให้ยางมีสภาพดี มีดอกยางเหมาะสม ขับรถระมัดระวัง ก็ถึงที่หมายปลอดภัยแล้ว
บางคนใช้ยางที่คิดว่าดีมาก เพราะเเพงมาก แล้วเชื่อใจยางมากไป ยางแค่ส่วนหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วที่สำคัญก็คือคนขับ
ที่ผ่านมา เคยใช้ทั้งยางถูก ยางแพง ก็เคยประสบอุบัติเหตุมาแล้วทั้งนั้น มีทั้งเสียหายไม่มาก รวมถึงขนาดรถขาดสองท่อนต้องงัดออกจากรถ คืนซากประกันก็มี โชคดีที่รอดมาได้ เกือบทั้งหมด ยอมรับเลยว่า ประมาทและคึกคะนองเองทุกครั้ง
 
และก็มีเพื่อนๆ หลายคน ที่เจ็บ ที่ตาย  ส่วนมากก็เกิดจากการขับ เกิดจากตัวเองทั้งนั้น เเทบจะไม่ได้เกิดจากรถ หรือยางเลย ประมาทล้วนๆ
 
ตอนนี้ผมก็ใช้ยางไม่แพง ตามกำลังทรัพย์ และก็ ไม่อยากใช้ยางแพงๆ แต่พอเริ่มเก่าก็ต้องทนใช้ ไป
ใช้ยางไม่แพงมากอาศัยเปลี่ยนบ่อยๆ  ใหม่สดตลอด  +ลดความคึกคะนองลง ขับด้วยความระมัดระวังเพิ่มขึ้น ถึงที่หมายปลอดภัยได้

เอามาฝากครับ น่าจะมีประโยชน์สำหรับมือใหม่    ช่วงล่างมันมีหลายตัวลิ้งค์กัน ได้รู้จักมันมากขึ้น 
 

 
 

ฮึ่ย   นี่เค้าเอาสปริงมาใส่รับแรงแทนรึคับ แล้สมันจะเหลือรึ 
 
เมืองนอกเค้าเล่นกันแบบนี้คั ลองดูเป็นแนวทาง
 

หลงปีแล้ว