Toajeed

โดยหลักการแล้วเห็นด้วยเรื่องปรับปรุง ระบบทางเดินไอดีไอเสีย เพราะเห็นผลในความเสถียรอย่างชัดเจน แต่ติดเรื่องราคานี้ซิ แรง...เอาเรื่อง ไม่คุ้มกับความแรงที่ได้มา แต่ถ้าเอาไว้จับกับรถ NA ด้วยกันมีเฮแน่ๆ คุยได้ว่ารถผมเดิมๆ ใครจะรู้ แต่ลองเข้าไปอ่านใน facebook ของเขาก่อน อธิบายไว้ละเอียดมาก เขาทำฝาสูบให้กับรถสนามซึ่งมี กติกาบังคับอยู่ แพ้ชนะกันสนามแข่ง ก็เหลือแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แหละ เพราะกติกาเขากำหนดไว้

ผมรอด้วยคน แต่มีข้อมูลจากทางฝั่ง Pantip มาฝาก http://pantip.com/topic/31003677

ผมว่าเขากำลังพิสูจน์ให้เห็นว่า กรองเดิมหรือกรองเปลื่อยไม่ได้ส่งผลมากมายนัก อากาศที่เย็นต่างหากทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้น ยิ่งตอน daihutsu ใส่กรองเปลื่อยเอาในไว้ในห้องเครื่องยิ่งแย่แต่พอกรองเดิมซึ่งมีท่อดักอากาศอยู่นอกห้องเครื่องกลับให้แรงม้าที่ดีกว่า คุณคิดถูกแล้ว

ผมใช้ 0w40 ยี่ห้ออะไรไม่บอกล่ะกัน เดี๋ยวจะเป็นประเด็นร้อน น้ำเครื่องยี่ห้ออะไรก็ได้ ขอให้มาตรฐานสูงๆ ก็พอ Api sa sb sc เยอะแยะ มันไล่เรียงไปเรื่อย ปัจจุบันมาถัง sn แล้ว เลือกน้ำมันเครื่องที่ Api s ล่าสุดแล้วกัน ส่วนน้ำมันเครื่องพวก 0w20 0w30 ก็ใช้ได้หมด แต่ผมว่านะ ความคิดเห็นส่วนตัวนะ ผู้ผลิตแนะนำเรา 0w20 0w30 ผมว่าผู้ผลิตเขาต้องการสร้างภาพลักษณ์เรื่องประหยัดน้ำมันกับสินค้าของตัวเอง ตั้งข้อสังเกตูไว้ว่า รถ Eco car ใช้ 0w20 เพื่อต้องการให้รถตัวเองประหยัดน้ำมัน civic fd เมื่อก่อนแนะนำ 0w30 ปัจจุบันแนะนำ 0w20 ผมว่ามันเป็นเรื่องการตลาด ส่วนตัวผมก็เลยเลือกใช้ 0w40 เพราะเชื่อว่ามันทนได้ทุกสถานะการณ์การขับขี่ แต่ทำให้รถไม่ประหยัดเชื่อเพลิงเท่าน้ำมันใสๆ 0w20 0w30 ผมมองว่าการขับรถเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะ Eco car หรือรถอะไรก็ช่าง ถ้าขับในเมืองไม่ค่อยผลเห็นหรอกครับ จะไปเห็นผลตอนขับรถทางไกลต่างจังหวัดมากกว่า ไม่อย่างนั้นผู้ผลิตคงไม่ทำรถ Hybrid หรอกครับ แต่เห็นไหมว่ารถ Hybrid ราคาจะสูง การตลาดอีกแล้วไปไม่รอด สุดท้ายก็มาถึงจุดลงตัวกับรถ Eco car ต้นทุนต่ำ ตอบโจทน์ประหยัดน้ำได้ตามราคาคุย 20 กิโล/ลิตร ขึ้นไปตามราคาคุย โอ้ยนี้ผมบ้าอะไรซะยาวเยียด พอก่อนแล้วกัน ส่วนถ้าใครบอกว่าผู้ผลฺิตบอกให้ใช้ 0w20 0w30 แล้วทำไมไม่ใช้ ผมเชื่อว่ามันให้รถประหยัดเชื้อเพลิงแต่เครื่องยนต์สึกหรอก่อนไวอันควร แต่คุณคงไม่ใช้รถไปจน 20-30 ปีมั้ง เด็มที่ 7 ปีก็เปลี่ยนรถแล้ว มันไม่ส่งผลอะไรหรอกถ้าจะใช้ 0w20 0w30 ส่วนตัวผมขอ 0w40 แล้วกันเพราะขับรถโหด มันให้ความมั่นใจกว่าเยอะ

เห็นหน้าเว็บของเรา มีแบนเนอร์ ตารางรายการอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนพร้อมค่าบริการตามระยะทาง ลองคลิ๊กเข้าไป ผลออกมา ตกใจหมดเลย เดี๋ยวนี้ศูนย์บริการ Honda ให้ใช้น้ำมันเครื่อง 0w-20 แล้วหรือ คิดยังไงกันบ้างครับ ผมว่าใช้ตามล่ะ

ไม่ทราบว่าเปลี่ยนล้อได้ใส่ปลอกกันสั่นหรือเปล่าครับ เห็นบอกว่าเอาโช๊คหน้าไปอัดน้ำมัน ก่อนหน้ายังไม่เอียงพออัดน้ำมันมาแล้ว 3 เดือนเอียง โช๊คนั่นแหล่ะทำให้เอียง การทำอะไรกับช่วงล่างรถต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ทุกครั้ง และควรตั้งศูนย์ทั้งล้อหน้าและหลัง

อู่ฮอนด้าทั่วกรุงเทพ 1. อู่ HONDA Speed R : รามอินทรา กม.8 T.02-948-6586 Speed Way : ซ.ลาดปลาเค้า 52 เสนานิคม T.02-570-6194 , 02-570-6646 ฮอนด้า เรวดี : ซ.เรวดี (เรวดี 27) ถ.ติวานนท์ T.01-649-8012 , 02-951-7136 Asia Car Service : ซ.สุภาพงศ์ 1 ถ.ศรีนครินทร์ ตรงข้าม ซีคอนสแควร์ T.01-431-7675 , 02-743-3848-52 STB Service Center : พี่ สุชาติ ซ.โชคชัยร่วมมิตร ถ.วิภาวดี (ฝั่งขาเข้า) T.02-690-0703 , 02-690-0223 Advance Honda Service : ซ.วัดบัวขวัญ ถ.งามวงศ์วาน T.02-580-0671-2 เสนา ฮอนด้า คาร์ : ซ.เสนานิคม 201 ถ.เกษตรตัดใหม่ T.01-408-4724 , 02-907-0249 JR.June Up : พหลโยธิน กม.27 ปากทางลำลูกกา ถ.พหลโยธิน T.01-832-5976 , 02-580-0671-2 , 02-531-1353 วิชัย การช่าง : ซ.นางลิ้นจี่ 5 ถ.นางลิ้นจี่ T.01-637-2181 บางกรวยอะไหล่ : ถ.บางกรวย-ไทรน้อย T.02-883-9397 Hi Way Motor Car : ตรงข้าม ราบฯ11 บางเขน ถ.พหลโยธิน T.02-927-8989 Work’s Power : ซ.พัฒนาการ 28 ถ.พัฒนาการ T.02-319-3046 , 02-318-2285 SB Auto Service : ถนนคู่ขนาน Motor Way ฝั่งขาออก T.01-642-8900 , 02-379-4150 Honda House : ซ.พหลโยธิน 24 ถ.พหลโยธิน T.02-939-7502 คุณ ดิเรก : ซ.รามอินทรา 16 รามอินทรา กม.3 ถ.รามอินทรา T.01-803-7743 , 06-785-9541 1 st Auto Service : แถวการประปา บางบัวทอง T.02-925-9125 # 1 , 01-457-5963 Zero Start : ถ.ศรีนครินทร์ T.02-758-7394 Pro Street : เชิงสะพานพระนั่งเกล้า T.09-785-5564 ATS Car Service : ซ.อ่อนนุช 37 ถ.อ่อนนุช T.02-721-3757-8 VM Motor : เลยแยกอ่ออนุช ไปทาง ซีคอน 300 ม. ตรงข้าม ธ.ไทยพาณิชย์ T.02-721-2230 Honda Auto : แถวโชคชัย 4 T.02-931-0145 Auto Way Service : พี่ ก่ำ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 28 T.02-412-6866 ,02-412-6868, 02-717-3825 Mr.Service : ถ.ลำลูกกา คลอง 3 ฝั่งเดียวกับ วัดสายไหม T.02-997-3233 NVR : ซ.ชินเขต 2 ติด KV แมนชั่น ระหว่าง ซ.20-22 ถ.งามวงศ์วาน T.02-580-0973-4 Smart Honda : เยื้องปั้มคาร์เทกซ์ ถ.สาย 345 ใกล้สะพานนนทบุรี(นวลฉวี) T.02-975-3413, 09-128-1298 P-Race : ป๊อป ถ.เกษตร-นวมินทร์ ฝั่ง มุ่งหน้า สี่แยกเกษตร T.02-948-8473 กด 1, 01-339-4556 K.P.Speed 2 : พี่ เพลิน ซ.สหกรณ์ มีนบุรี T.02-918-7428-30, 01-735-1273 UK autoservice ซ.ประชาอุทิ 27 T.01-915-0334 Hondata ซ.ลาดพร้าว 42 (ปากซอย ติด ถนน) T.02-513-8075 , 01-567-2544 Honda สายไหม ถ.สายไหม T.02-994-3903-4 ร้านอะไหล่ HONDA ร้านสว่างยนต์ : อะไหล่มือหนึ่ง แถววรจักร T.02-221-0661 , 02-222-6633 , 02-224-6299 ร้าน ย แสงชัย : อะไหล่มือหนึ่ง จากแยกวังหินมา เลย jusco ไปประมาณ 1 km. T.02-931-6992 ร้าน ส.รุ่งโรจน์ : อะไหล่มือหนึ่ง แถววรจักร T.02-621-0744-8 2. น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรคดูตามสภาพ น้ำหม้อน้ำไม่ต้องเปลียนเดี๋ยวงานงอก รอหมอน้ำตันค่อยว่ากันจะได้ไม่เปลื่องเงิน ใช้ไปเรื่อยๆ มีปัญหาว่ากันไปเป็นอย่างๆ 3. สายพานหน้าเครื่อง สายพานราวลิ้น ดูตามสภาพ เปลี่ยนได้จะดีกันเหนียว ถ้าสายพานราวลิ้นมันเก่าอาจจะขาดได้ ถ้าขาดขึ้นมาเครื่องพัง เปลี่ยนสายพานราวลิ้น ก็เปลี่ยนสายพานหน้าเครื่องทีเดียวไปเลยจะได้เสียค่าแรงคร้งเดียว อ้อลืมเปลี่ยนลูกรอกดันสายพานด้วย 4. เลี้ยวมีเสียงดัง แก็กๆๆๆๆ ลูกปืนเพลาััขับเสีย ถ้าไม่อยากเสียเงินทนใช้ไปก่อนยังใช้ได้อยู่หรือถ้ารำคาญก็จัดไป เสียเงินน้อยก็ ใช้เพลารีบิว ถ้าเนียนก็เบิกใหม่ ปล.แอดมินคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะแนะนำ link welove civic นะครับ ไปตามลิ้งนี้เลย http://www.welovecivic.com/forum/index.php?PHPSESSID=df7e50ead5bff319c7ba5eccf4fe1b3f& ที่นี่ชาว EK เพียบครับ ผมใช้ EK มาก่อนและก็เป็นสมาชิกอยู่เว็บนี้ครับ

หาข้อมูลแล้วไปเจอมา ผมพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมต้องเปลียนหัวฉีดหรือไม่เปลี่ยนก็ได้โดยติดกล่อง E85 Kit ไปเจอใน Pantip เครดิตคุณ Tan NB ขอ อนุญาติก็อปปี้ข้อมูลนะครับ กล่อง E85 หลักการมันง่ายนิดเดียวคือ ยกหัวฉีดให้นานขึ้น เพื่อให้จ่ายน้ำมันเยอะ ขึ้นตาม % ที่กำหนด เช่น ECU รถสั่งยกเป็นเวลา 10msec กล่องก็จะรับสัญญาน ไฟฟ้านั้นมาแล้วก็คงสัญญานไฟฟ้าที่ส่งไปยกหัวฉีดให้นานขึ้นเช่น ตั้งไว้ 20% สัญญานที่ไปที่หัวฉีดก็จะเป็น 12 msec ก็ทำให้น้ำมันไหลเข้าห้องไอดีมากขึ้น กล่องแก้ปัญหาไฟ เครื่องขึ้นเพราะ ECU รถมันเตือนว่าจ่ายบาง พอติดกล่อง มันก็จะจ่ายหนาขึ้นตาม % ที่เราตั้ง ECU มันก็เลิกเตือนว่าจ่ายบาง พอน้ำมันหนา ขึ้น ECU รถที่ฉลาดๆ มันก็เพิ่มไฟแก่ขึ้นเพื่อเผาน้ำมันให้หมด สมบูรณ์ แต่ E85 มีแอลกอฮอลผสมอยู่ 85% ในแอลกอฮอล มีของแถมคือออกซิเจนซึ่งใช้ในการ สันดาบของเครื่องยนต์อยู่แล้ว ก็เลยช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ดีขึ้น ทั้งที่ตัวมัน ให้พลังงานความร้อนต่ำกว่าเบนซิน และกล่องช่วยให้ เครื่องยนต์ Start ติดง่าย ขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอลมีจุดวาบไฟ สูงคือจุดติดยากกวาเบนซิน เค้าเลยต้องผสม เบนซินลงไป 15% เพื่อให้จุดติดง่าย และ คนเอาไปกินไม่ได้ ถ้า E100 คนซื้อไปผสมเหล้า กินแน่ เลยต้องผสมให้มันกินไม่ได้ และ ช่วยปรับค่าออกเทน หรือจุดวาบไฟไม่ให้สูงเกินไป กล้องก็จะไปช่วยในจุดนี้ด้วยเพราะช่วยจ่ายหนา ทำให้ Start ติดง่ายขึ้นตอนเช้าๆ ถ้าใช้ E85 ไม่ติดกล่องจะ Start ยาว แต่ถ้าติดกล่องก็จะ Start ยาวนิดๆ กว่าปกติที่เติม E10 หรือ E20 นิดเดียว โดยเฉพาะ ECO car ทั้งหลาย เซนเซอร์มันไว้มากเพราะว่าเป็นรถรุ่นใหม่ที่ ECU ทำงานเร็ว และตลอดความเร็วรอบ มันจะจ่ายบาง จนไฟขึ้น นอกนั้นเรื่องท่อทางน้ำมันต่างๆ ถ้ารถเก่าและ ไม่รองรับ E20 แนะนำให้เปลี่ยนใหม่แต่ถ้ารถใหม่ตั้งแต่ 2008 ที่รองรับ E20 แล้ว หลังจากใช้ E85 ไปสัก 3-4 ถัง ให้ไปเปลี่ยน กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ทิ้งไป เพราะ E85 มันจะไปล้างคราบน้ำมัน และสิ่งสกปรก ในระบบ น้ำมัน ออกมาอยู่ที่กรอง ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วสกปรกมาก ปั้มติ๊กก็จะพัง ตามมา อย่างที่เค้าว่าๆกันใช้ E85 แล้วปั้มติ๊กพัง เพราะกรองมันตัน ปั้มมันดูดไม่ขึ้นความร้อนสูงมอเตอร์มันก็พัง เป็นเรื่องปกติ ที่นี้ก็ใช้ E85 กันได้ยาวๆ บำรุงรักษาตามปกติ กล่องมันทำงานแค่นั้นแหละ นอกนั้น ECU กับเซนเซอร์ เดิมๆของรถทำงานตามปกติ จ่ายหนาจ่ายบาง ชดเชยต่างๆ แค่โดนกล่อง + % เวลาของการยกหัวฉีด แปรฝันตามกัน เช่น ECU บอกน้ำมันหนาไป ลดการฉีดจาก 10msc ยกจริง 12 msc เหลือ 8 หัวฉีดจะยกจริง = 8 X 1.2 = 9.6 msc และเป็นแบบนี้ตลอกการทำงาน ของสัญญานหัวฉีด ที่ ECU สั่งมา พอรู้หลักการแล้ว อาจจะไม่ต้อง ติดกล่องก็ได้อย่างในคลับ Jazz บางคนก็ไม่ติดกล่อง แต่เปลี่ยนหัวฉีด K20 ฝาดำที่ฉีดน้ำมันได้เยอะขึ้นในเวลายกเท่าเดิมมาใช้ ชุดละ 3000 รวมเปลี่ยน ก็ใช้ E85 ได้ เพราะจ่ายน้ำมันเยอะขึ้นตามที่ ECU สั่ง เหมือนกัน แต่แค่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ สมมุติ หัวฉีด Jazz เดิม ฉีดได้ 2 cc ต่อการที่ ECU สั่งยก 10 msc พอเปลี่ยน เป็นหัวฉีด K20 ยก 10msc เท่ากันแต่ฉีดได้ 2.4 cc ในเวลาเท่ากัน น้ำมันก็เข้าไปมากขึ้น 20% ใช้ E85 แล้วไอเสียหอมละมุด ไม่เหม็นแสบจมูก เคยเกือบโดนตำรวจให้เป่าหาว่าเมากลิ่นละมุดหึ่ง แอร์เย็นขึ้น ยังไม่รู้สมเหตุ แต่ควดว่าน่าจะเกิดจากอุณภูมิน้ำหล่อเย็นมันลดลง เดาเอา น้ำมันเครื่องไม่ค่อย ดำ เพราะแอลกอฮอลเขม่าน้อย เพราะมีออกซิเจนทำให้เผาไหม้หมดจด ถ่ายน้ำมันวิ่งมา 5000 km แล้วน้ำมันแทบไม่ต่างจากตอนถ่ายใหม่ๆ เข้มขึ้นนิดหน่อยแต่ไม่ดำปี้เหมือนตอนใช้ E20 รถคันไหนใช้ E85 วิ่งผ่านได้กลิ่นรู้เลย รถยุโรป หรือรถที่ถังน้ำมันเป็นเหล็กไม่แนะนำให้ใช้ E85 เพราะว่า มีโอกาศเกินสนิมในถังและสร้างปัญหาตามมาในภายหลัง ใช้ E85 ควรใช้ให้หมด หรือเติมให้เต็มเสมอ ป้องกันอากาศ (ไฮโดรเจน) เข้าไปทำปฏิกิริยากับ ออกซิเจนใน E85 เกินเป็นน้ำ ไฮโดรเจน (H2)+ ออกซิเจน (O) = น้ำ หรือที่เรียกน้ำมันบูด ถ้าต้องจอดนานกว่า 1 อาทิตย์ มี 2 อย่าคือถ้าถังว่างให้เติม เบนซินไว้ให้เต็ม หรือ ถ้าถังมี E85 เยอะให้เติมให้เต็มๆไว้ พวกรถจอดมากกว่าวิ่งก็ไม่ค่อยแนะนำ E85 ปัญหาน้ำมันบูดจะถามหา แล้วจะว่า E85 ไม่ดี กล่องยี่ห้อที่ไม่มีที่ปรับ เติมอะไรก็ได้ จริงๆเค้ามีที่ปรับแต่อยู่ในกล่องปรับไว้กลางๆ ควรซื้อกล่องที่ปรับได้ ไม่ว่าจะกดเปลี่ยนตำแหน่งชนิดน้ำมัน หรือ หมุนๆ ก็ใช้ได้หมด เพราะหลักการเหมือนกัน ดูคุณภาพ การรับประกัน การบริการ และราคาเป็นสำคัญ อีกอย่ากล่องจีนที่ขาย Noname อย่าได้ไปลองนะครับ จีน Copy มาขาย ราคาถูก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มันต้องเป็น ชนิดที่ใช้กับรถยนต์ เอากล่องไว้ในห้องโดยสารก็ดี ไม่ร้อนทำให้ทำงานเสถียนขึ้น ทนทานขึ้น ถ้าเปลี่ยนน้ำมันก็ปรับ % ให้เหมาะสม เช่นกลับมาเติม E10 ,E20 ก็ 0%

เท่าที่ผมรู้มา เรื่องการจ่ายน้ำมันจะถูกสั่งงานด้วยกล่อง ECU โดยมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอากาศก่อนเข้าห้องไอดีกับเซ็นเซอร์ตรวจจับอากาศที่ออกทางท่อไอเสีย ส่วนจะใช้กันกี่ตัวก็แล้วแต่ผู้ออกแบบเครื่องยนต์ไม่ขอลงลึกล่ะเอาแบบหลักๆ ก็มีเซ็นเซอร์อากาศก่อนเข้าไอดี กับเซ็นเซอร์ไอเสีย หน้าที่ของมันก็วัดปริมาณออกซิเจนกับวัดปรมาณคาร์บอนเพื่อควบคุมการจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมทุกย่านหรือการกดคันเร่งถอนเร่ง สมมุติเราเปลี่ยนมาใช้ E85 รถมันไม่รู้หรอกว่ามันกินอะไรอยู่แต่มันจะรู้ว่าปริมาณคาร์บอนทางไอเสียมันน้อยลงเซ็นเซอร์ก็จะไปบอกกล่อง ECU ว่าคาร์บอนน้อยไปนะจ่ายน้ำมันเพิ่มด้วย เข้าเรื่องเลยนะครับ หัวฉีดเดิมเปลี่ยนกรองหัวฉีดเป็นแบบโลหะกล่อง E85 ยังไม่ต้องติดเพราะ ECU เดิมสามารถจ่ายน้ำมันได้ตามข้างบน เปลี่ยนกรองหัวฉีดแบบโลหะ ส่วนปั๊มติ๊กกับท่อน้ำมันนี้ไม่รู้รอผู้รู้อีกที ส่วน Piggyback ซึ่งมันจูน E85 ได้ ผมก็ว่าไม่จำเป็นนอกจากจะปรับแ่ต่งโมดิฟายเครื่องยนต์ จนกล่อง ECU ติดรถไม่สามารถจ่ายได้ทุกย่าน ถึงค่อยใช้ Piggyback

ของผมก็เป็นที่ล้อหลังขวา เวลาเลียเบรคตอนรถใกล้หยุดจะดัง กรอด กรอด เจียจานประชิดล้อเสียงหายแต่ก็กลับมาดังอีก เปลี่ยนจานเปลี่ยนผ้าเสียงหายแต่ก็กลับมาดังอีก เวลาเบรคแป้นเบรคก็ไม่สั่น ใครพบสาเหตุที่แท้จริง หรือว่าดุมล้อคดตามที่คุณ Fluke007 ว่า ดุมล้อราคาเท่าไรครับ

สวยมากครับ ขอ link ขายสีด้วยคนครับ

จดหมายเพิ่งมาถึงเปิดอ่าน...อ๊าก !!! ขับรถด้วยความเร็วเกินกฏหมายกำหนด(124 กม./ชม.) อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 67 และต้องโทษตามมาตรา 152 มีโทษปรับ 1,000 บาท และให้นำจดหมายไปเสียค่าปรับที่ สถานีตำรวจทางด่วนบางพลีสุขสวัสดิ์ หรือชำระค่าปรับทางไปรษณีย์ คำเตือน การไม่มารายงานตัวตามเวลากำหนด จะมีความผิดฐาน "ไม่มารายงานตัวในกำหนดเวลาที่กำหนดฯ" จะมีโทษปรับเพิ่มเติม และดำเนินการระงับธุรกรรมทางทะเบียน ปกติที่เคยเจอกล้องที่อื่นๆ เขาปรับ 400 บาท แต่ที่บางพลีสุขสวัสดิ์ช่างโหดร้ายจริงๆ

ใครเคยใช้ สตรัทปรับเกลียวยี่ห้อนี้บ้าง TunerConcept Suspension ช่วยมาแชร์กันหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ใช้ได้ครับผ้าเบรคเกรดดีๆ ผสมคาร์บอนเยอะทนความร้อนได้สูง ส่วนผ้าเบรคจะจับจานเบรคได้ดีก็ต้องผสมโลหะลงไปในเนื้อผ้าเบรคด้วย ส่วนจะเป็นโลหะอะไรต้องจับคู่กับจานเบรคด้วยว่าเป็นโลหะชนิดไหน ถ้าเอาจานเบรคเดิมๆไปใส่กับ ผ้าเบรคผสมคาร์บอนกับเหล็ก เบรคอยู่ดีกว่าเดิมแน่นอน แต่จานเบรคสึกเร็วมาก ถ้าโหดมากจานเบรคไหม้ครับตามมาด้วยจานคด

ถูกต้องแล้วครับ ระยะทางจากชุมพรไประนองอีกประมาณ 120 กว่ากิโลแต่ใช้ว่าเดินทางประมาณสองชั่วโมงกว่า สิ่งที่น่ากลัวคือรถบรรทุกปลาวิ่งเยอะมาก น้ำเมือกปลาหกลงบนถนนครับทำให้ถนนลื่น น้ำเมือกปลาที่หกลงมาใหม่ๆก็ไม่เท่าไรแต่มันหกสะสมบนถนนช่วงทางโค้งบนเขารถบรรทุกมันเข้าโค้งเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาน้ำเมือกปลาก็หกบนถนนแล้วถูกแดดเผาแห้งไป แล้วสมมุตินะครับระหว่างที่ขับรถอยู่บนเขาแล้วฝนตกลงมา คราวนี้แหล่ะครับถนนจะลื่นมากมายจนควบคุมรถไม่ได้เลย สุดท้ายก็แหกโค้งตกข้างทาง คนระนองชุมพรจะรู้ดีครับเรื่องเมือกปลา ถนนที่เมือกปลาเยอะๆ ยังมีที่ๆ พระราม 2 ครับ เคยฟังข่าวไหมเวลาฝนตกใหม่ๆ ถนนพระราม 2 รถตกข้างทางเป็นประจำ

นั่นนะซิใครรู้บ้าง

เส้นทางจาก กรุงเทพฯไปชุมพรไม่เท่าไรครับ แต่จากชุมพรไประนองอันตรายครับถ้าขับตอนกลางคืน ถ้ายังดื้อจะไปแนะนำให้นอนค้างชุมพรก่อนเพราะออก 5 โมงเย็นกว่าจะถึงชุมพรก็ประมาณ 4-5ทุ่มแล้ว นอนค้างชุมพรแล้วค่อยออกไประนองตอนเช้าจะดีกว่าครับ

ถามร้านที่ติดตั้งว่าถอดท่อร่วมไอดีมาเจาะไหม ถ้าเขาบอกว่าไม่ ก็บอกไปว่า ผมอยากให้ถอดมาเจาะคิดเงินเพิ่มเ่ท่าไร ถ้ามันยังยืนยันว่าไม่ต้องถอดอีก ก็บอกว่าไม่เป็นไรผมเกรงใจคุณเอาเป็นว่าผมไม่ทำนะ

คนยุคสมัยนี้ เสื่อมลงๆ เพราะเห็นแก่ตัว กฏหมายเมืองไทยตอนนี้มีเอาไว้บนอนุสาวรีย์ ไม่เคารพกฏหมาย อยากจะอยู่เหนือกฏหมาย แต่ให้คนอื่นๆ อยู่ในกฏหมาย บ้านเมืองถึงไม่สงบสุขทุกวันนี้

เปลี่ยนลำโพงคู่หน้าแบบแยกชิ้นเอาระดับปานกลางราคาประมาณ 5000+- ไม่ต้องเพิ่ม Amp เติมด้วย Bass box 5000 +- ส่วน Tweeter ของเดิมไม่ต้องไปพึ่งพามัน เอา Tweeter อันใหม่ใส่หูช้างแจ่มกว่า เน้นนิดหนึ่งเรื่องลำโพงเลือกสเปคที่ความไว db/m สูงๆ 90 db/m ขึ้นไป ยิ่งสูงยิ่งดี

ผมเติมแต่ E20 ตลอดก็ไม่เห็นเป็นอะไรครับ ผมว่าหัวฉีดมันจะเสียไม่น่าเกี๋ยวกับ E20 ครับ รถที่เติม E20 ไม่ได้ หัวฉีดก็เสียนะครับ เสียช้าเสียเร็วผมว่ามันอยู่ที่คุณภาพการผลิตมากกว่าครับ รถที่ประกอบในประเทศไทยไม่ว่ายี่ห้อไหนให้สังเกตุดูครับมีปัญหาทุกยี่ห้อครับ โรงงานประกอบรถจ้างซับพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนเยอะแยะไปหมด คุณภาพบางชิ้นต่ำกว่ามาตรฐานนำมาประกอบ มันจึงเป็นที่มาของการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ไงครับ นี่แหละครับประเทศไทย

ตอนเปลี่ยนล้อเอารถขึ้นฮ้อยนานหรือเปล่าครับ ถ้าขึ้นฮ้อยนานๆ โช๊คเสียได้เหมือนกันครับ เรียกว่าโชีคตายครับกดไม่ลง รถแคมรี่ของญาติผมขึ้นฮ้อยค้างเอาไว้นานโช๊คเสียประสบการณ์ตรงเลยครับ

เบรคให้เอบีเอส ทำงานบ่อยๆ จะได้ชิน เอบีเอสหน้าที่ของมันป้องกันไม่ให้ล้อล็อคเพื่อให้คุณหักหลบสิ่งกีดขวาง ถ้าไม่มีเอบีเอสเวลากดเบรคแบบตกใจกระทืบสุดแรงเกิดประมาณนั้นจะทำให้ล้อล็อค เมื่อล้อล็อคแล้วจะไม่สามารถหักหลบสิ่งกีดขวางได้ อย่าเพิ่งเชื่อผม ให้คุณไปหารถที่ไม่มีเอบีเอสแล้วกระทืบเบรคสุดแรงเกิดแล้วลองหักหลบสิ่งกีขวางดู

ผมเจอมาเยอะคนแบบนี้ ประเทศไทยทุกวันนี้มีคนแบบนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาเรียกว่าคนเห็นแก่ตัวไงครับ ธรรมะไม่อยู่ในใจ คุณทำถูกแล้วครับที่ไม่ไปตอบโต้เขา เจอคนแบบนี้ต้องหนีไปให้พ้นๆ เลยครับ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เอา Pajero กับ Fortuner วิ่งทาง Hi way คงไม่เหมาะมันเหมาะกับ Off Road มากกว่า ถ้าเอา Crv วิ่งทาง hi way ดีกว่า แต่ off road คงไม่เหมาะ จริงๆแล้ว Pajero Fortuner เป็นรถประเภทเดียวกัน ส่วน Crv เป็นรถอีกประเภทหนึ่ง เอามาเปรียบเทียบกันคงไม่เหมาะ