Jump to content

ponsit

CCTH Crew
  • Posts

    1,722
  • Joined

  • Last visited

  • Days Won

    25

Posts posted by ponsit

  1. ขอตอบตามตรง ถ้าอยากได้ต้นดี ปลายจะหาย

     

    ถ้าปลายดี ต้นจะหาย ต้องเลือกเอาครับ

     

    ว่าอยากได้ช่วงไหน ถ้าดีหมดทุกช่วง เป็นไปไม่ได้ครับ

  2. ถ้าชอบเสียงปลายตัวนี้ ใส่พักกลาง เสียงมันจะเงียบลงครับ

    ระบบเครื่องยนต์ มันก็มีแค่ ดูด อัด ระเบิด คาย

     

    - อัด (เป็นที่ลูก กะข้อเหวี่ยง)

    - ระเบิด (น้ำมัน, องศาไฟจุดระเบิด) เราทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกล่องเดิมมันปรับไม่ได้

    - คาย ชอบเสียงนี้อยู่แล้ว ปรับเปลี่ยนท่อ ก็เสียงเปลี่ยน

    - เหลือก็แค่ดูดนั่นแหละครับ

     

    ยังไงลองฟังความเห็นท่านอื่นๆ ดูก็ได้ครับ

  3. อยากเปลี่ยนทั้งที ยกทั้งเส้นไปเลยครับ ได้ทั้งแรง และ เสียง

     

    ถ้าเปลี่ยนแค่ปลาย ได้แค่สวย และ เสียง แรง ไม่ต่างจากเดิมครับ

     

    ยี่ห้อไหนก็ได้ ที่ชอบ ดัดทรายไม่มีรอยคอด และ มีแหล่งที่ไปและมา ชัดเจน

     

    Fujitsubo J's racing ProDrager ท่อเทพ เล่นได้หมดเลยครับ

  4. ถ้าอยากเปลี่ยนจริง ผมอยากให้หาข้อมูลก่อน (ผมไม่มีเนื่องจากไม่เคยใช้)

    ขนาดลูกสูบเดิม กับ ลูกสูบของแต่ละรุ่นมีขนาดเท่าไหร่ ต่างกันหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน

     

    เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ส่วนเรื่องจานเบรค จานยิ่งเบา ยิ่งดีครับ

    เป้าหมายคือลด Unsprung weight ให้น้อยที่สุด

    หรือพูดง่ายๆ คือลดน้ำหนักของช่วงล่างที่ขยับได้ให้น้อยที่สุด

    เช่น ล้อ เบรค คาลิปเปอร์ ยิ่งเบา ยิ่งดีครับ

     

    ถ้าล้อ 18" ใส่ 355 ล้อ 17" ใส่ 330

    น่าจะเป็นสูตรสำเร็จที่ค่อนข้างลงตัวครับ

     

    ส่วนตัว ผมคิดว่าเบรค FD ค่อนข้างให้มาแบบพอเพียง

    ไม่ค่อยเหมาะมาทรมานกับการซิ่งเท่าไหร่ อัพเกรดได้ก็ดี

    แต่ควรจะละเอียดด้วยเวลาติดตั้ง

     

    จานเบรค กับ ตำแหน่ง คาลิปเปอร์ ได้ Center หรือไม่

    ตำแหน่งที่จานเบรค สัมผัสกับผ้าเบรค เต็มจานหรือไม่ เป็นต้น

    ขอให้พบอู่ที่ทำแล้วจบ (แนะนำอู่ให้ไม่ได้จริงๆ เพราะไม่เคยทำ)

  5. พักกลาง จุดประสงค์ไม่ได้ช่วยให้ช่วงต้นรถวิ่งดีขึ้น

    แต่เพื่อลดเสียงให้ดังน้อยลง ดังนั้น หากต้องการได้ต้น

    แต่ใช้การเพิ่มพักกลาง จะทำให้เสีย ช่วงปลายไปครับ

     

    เพราะพักกลางจะทำให้รอบต่ำไอเสีย ไหลลื่นกว่าเดิม (ตอนนี้โล่ง)

    แต่จะอั้น เมื่อไปรอบสูง (เนื่องจากต้องผ่านพักกลางก่อน)

     

    ดังนั้น หากจุดประสงค์อยากได้ต้น

    ลองเปลี่ยนกรองแผ่น K&N ดูก่อนมั้ยครับ ?

  6. ปรกติ Piggy Back ไม่สามารถจูน Closed Loop ได้ครับ

     

    หากต้องการจะจูนช่วงที่ ECU ทำงานแบบ Closed Loop

    จูนเนอร์จะใส่กล่องหลอกให้ค่าที่อ่านจาก Sensor นั้น

    เป็นค่าที่ ECU ต้องการให้เป็นตลอดเวลา (Lamda 1, A/F 14.7)

    หรือหนักกว่านั้น จะตัดสาย A/F Sensor ทิ้งไปเลย ซึ่งกรณีหลังนี้

    จะทำให้ไฟ Engine Show ครับ

     

    เมื่อ ECU อ่านค่าได้ดังนั้น ทำให้ไม่เกิดการชดเชยใดๆ

    กับ MAP การฉีดน้ำมัน หรือ พูดง่ายๆ คือ Closed Loop

    จะไม่ทำงานนั่นเองครับ

  7. ถ้าอยากเช็ค OBDII มาให้ผมเสียบดูได้ครับ

     

    บางทีเกิดจากสิ่งสกปรกที่ลิ้นมันหายไปทำให้

     

    อากาศผ่านเยอะ เกินไปทำให้รอบสวิงครับ

     

    ทางแก้คือปรับตั้งระยะเปิดปิดลิ้นใหม่

     

    ซึ่งการตั้งเป็นสกรูว์อยู่ที่ลิ้นครับ

     

    ใช้ 6 เหลื่ยมในการไข

     

    ลองดูครับ ได้ผลยังไง แจ้งด้วยครับ

     

    เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ท่านอื่นๆ ต่อไป ^^

  8. อ่านจากฟิล์ม ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ

    ควรหาเบอร์ฟิล์ม ซึ่งผมแนะนำดังต่อไปนี้ครับ

     

    1. ดูที่เนื้อฟิล์ม หากยังไม่ลบยี่ห้อ + รหัสฟิล์ม ให้จดแล้วไปหาใน Google ครับ

    2. ดูจากใบรับประกันฟิล์ม ว่าเป็นยี่ห้อไหน รุ่นอะไร แล้วเอารหัสไปหาคุณสมบัติที่ต้องการจากใน Internet ครับ

  9. อ่อ จะได้รู้ว่ามีแหล่งให้พึ่งพิง

     

    พี่โป่งเป็นไงมั่งครับ

    เครื่องมันมาเป็นจังหวะครับ เวลามีคน

    วาง K ทีนึง ก็หลุดมาตัวนึง ประมาณนั้น

     

    สบายดีครับ ใกล้หมดตัวละฮะ เพราะ FD เนี่ย

     

    ตอนนี้เปิดขายของแต่งรถนิดหน่อย

    ทักมาก็ดีละ กด Like ให้ด้วยเลย 555+++

     

    http://www.facebook.com/knimaru

  10. เท่าที่อ่านเสียงปุ๊บ น่าจะเป็น Missed Fire

    หรือ จุดไม่ติด ซึ่งเกิดจากกล่องจูนครับ

     

    ส่วนที่กินน้ำมันมาก

    คาดว่าเกิดจาก Disabled Closed Loop

    ซึ่ง Closed Loop จะคอยทำหน้าที่สั่งจ่ายน้ำมัน

    ให้เหมาะสม ซึ่งค่าที่จูนปรกติ กับค่าใน Closed Loop

    จะจ่ายน้อยกว่ากันประมาณ 10% +/- ซึ่งเอาง่ายๆ ก็

    ประหยัดกว่าอย่างน้อยๆ 10% อ่ะครับ

     

    ผนวกกับตัว E85 ต้องจ่ายปริมาณเชื้อเพลิงมากกว่า

    เบนซินเพียวๆ ประมาณ 35% อยู่แล้วด้วย เลยยิ่ง

    ทำให้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองไม่น่าดูเอาซะเลย

     

    ดังนั้น รถที่จูน Open Loop ล้วนๆ จะรับประทานน้ำมัน

    หนักกว่ารถที่ ยังมี Closed Loop ทำงานอยู่ครับ

     

    ทางเลือกคือกลับไปใช้กล่องเดิม

    หรือ กล่องจูนที่มี Closed Loop ครับ

  11. ถ้างบไม่อั้น ผมแนะนำใหม่ ท่อนบน K20 ฝาแดง

    ท่อนล่าง K24

    เซ็ตโบ 400 ม้า++ 

     

    ถ้าไม่คิดมาก แก๊งค์ผมเซ็ต R18 บูสต์ 0.6 บาร์ 251 ม้าครับ

     

    https://www.facebook.com/video.php?v=401312186707772

  12. ถ้าปรกติทั่วไป 32 ก็พอ

    ถ้าถนนไม่ดี จะเติม 35 ก็ได้

    ถ้าต้องการให้เกาะถนน เติม 28

     

    *ขึ้นกับช่วงล่างด้วยนะครับ

  13. ถ้าสะดวก เอารถมาเสียบ OBD2 ดูน่าจะบอกได้ชัดกว่านี้

     

    ถ้าไม่สะดวก ทาง K-Nimaru บอกว่า สงสัยเรื่องการจูน Gas

    ให้ลองถอดแบตเตอรี่ ทิ้งไว้ 15 นาที เสร็จแล้วสตาร์ท โดยงดใช้แก็สเด็ดขาด

    หลังจากนั้นให้สังเกตุอาการดูครับ ถ้าใช้น้ำมันหมดถังแล้วอาการหายไป

    ชัดเลยว่าเป็นที่ Gas ครับ

     

    ถ้าจะมาให้ดู พี่อยู่แถวลาดพร้าว-สุทธิสารครับ

     

    ป.ล. ไม่ใช่ร้าน ไม่ใช่อู่ บริการฟรี

    (บอกให้มาหลายคนละ ยังไม่เคยมีใครมาจริงซักคน 555+++)

  14. ตัวปั้มติกเปลี่ยนแล้วแต่ก้ยังไม่ติดอีกอะคะ ตัว sensor นี่ใช่ sensor วัดระดับน้ำมันมั้ยคะ

    ผมคิดว่า ไม่เกี่ยวกับปั๊มติ๊ก ตั้งแต่แรกแล้วครับ

    ถ้าเปลี่ยนฟรีก็ดีครับ ถ้าเสียเงิน ผมว่าศูนย์ควรรับผิดชอบ

     

    กลับมาเรื่อง Sensor เครื่องยนต์มี Sensor หลายตัว

    ประเด็นนี้ ไม่น่าเกี่ยวกับ sensor ระดับน้ำมันครับ (ความเห็นส่วนตัว)

    ควรต้องเสียบเช็คดูว่ามีค่าอะไร ผิดปรกติหรือไม่มากกว่าครับ

  15. ไฟ Engine มันขึ้นหรือเปล่าครับ ??

     

    Check-engine-light.jpg

     

    ผมคิดว่า ปัญหาเกิดจาก ECU สั่งจ่ายน้ำมันผิดครับ

    เนื่องจากแก็สจะเลียนแบบการฉีดจากหัวฉีดน้ำมัน

     

    ระบบป้อนเชื้อเพลิงคนละชุดกัน หากเป็นที่ปั๊มติ๊กน้ำมัน
    แก็สต้องสตาร์ทติด อันนี้ ไม่ติดทั้งคู่ เลยทำให้คิดว่า

    น่าจะเป็นที่การสั่งจ่ายของ ECU ผิดปรกติ

     

    ซึ่งอาจจะเกิดจาก sensor หรือ อื่นๆ ก็ได้ครับ

     

    ทางที่ดี เอามาเสียบ OBD2 เช็คดีที่สุดครับ

×
×
  • Create New...