astronautnoom

บรรยากาศยามเช้าบนแผ่นฟิล์ม ไออุ่นๆจากน้ำ

 

 
ภาพนี้ตั้งใจโฟกัสที่ไม้ไผ่ สีมันดูคลาสสิคดีน่ะ

 
โบเก้จากเมล็ดกาแฟ

FD ยังอยู่บ่าววี  เพิ่งทำสีทั้งคันใหม่  อิอิ  ขาวเว่อ  (เตรียมขายทอดลาด 555)   กิจการรุ่งเรืองดีนะ รวยๆเฮงๆเร็วๆนะ

ภาพสวยดีครับ 

สวัสดีครับพี่หนุ่ม สวยมากครับ FD ขายไปยังครับบ

ภาพสวยๆมาอีกแล้ว  ทริปพี่น่าไปอะครับ

สวยงามอีกแล้ว ชอบๆหมอกๆเย็นๆดี

จังหวัดนี้มาทีไรก็รู้สึกดี ท้องฟ้าสวยดี
 

 
ถือว่าเป็นที่กางเต๊นท์นอนที่มีอะไรๆเพียบพร้อมมาก
 

 
ที่จอดรถก็มีเป็นที่เป็นทาง  สำหรับผมนะที่จอดรถปลอดภัย ห้องน้ำดีๆ แค่นี้ก็วิเศษแล้ว
 

ต้นไม้ต้นเดิมแต่ต่างกันที่กาลเวลา 
 

 
ตอนขึ้นไปถามว่าหนาวมั้ย ผมว่าแค่เย็นๆนะ สบายๆดี
 

 
ก็เอามาฝากสำหรับคนที่มีแผนจะไปเที่ยวนะครับ ห้องน้ำใช้ได้  มีร้านค้าพร้อม
 

จากการขับขี่อัตราเร่งพอมีให้ใช้ตามอัตภาพ  จะมีหน่วงๆเป็นบางจังหวะ  ช่วงล่างเซ็ตมาแข็งกว่าปกตินิดหน่อย  เวลาแซงรถใหญ่มีอาการปลิวนิดๆ น่าจะมาจากยางหน้าแคบเกินไป  
 

 
ไม่รู้จะถ่ายอะไร ถ่ายต้นไม้ต้นเดียวนี่ล่ะ 555
 

 
แล้วพระอาทิตย์ก็ขึ้นมา
 

แวะมาโพสอะไรไร้สาระอีกแล้ว ช่วงนี้งานการกุศลเยอมมาก แทบไม่ว่างเลย  งานนี้ก็เช่นกันเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมามีเหตุต้องไปงานที่จังหวัดแพร่  งานนี้เราเลือกใช้ City CNG  ถือเป็นการทดสอบรถด้วย  ออกจากบ้าน 4 ทุ่ม ไปถึงปลายทาง อช. ขุนสถาน  จ.น่าน  เกือบๆ 6 โมงเช้า ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นพอดี  มีอัตราสิ้นเปลืองมาฝากด้วย
 
ออกจากบ้านดอนเมืองเติม CNG แถว ม.กรุงเทพ(รังสิต)  132 บาท
 
                                เติม CNG แถว นครสวรรค์           133 บาท
 
                                 เติม CNG แถว พิษณุโลก              94 บาท
 
                                 เติม CNG แถว อุตรดิตถ์                90 บาท
 
จากนั้นยิงยาวขึ้นไปบนขุนสถานแล้วกลับมาเติมที่ตัวเมืองแพร่ได้พอดี  นับว่าประหยัดพอสมควร เพราะกด 120 + ตลอด
 
 

 

 

ครั้งที่สองแล้วนะที่แวะมา กินแห้วทั้งสองครั้งเลย Y_Y
เป็นกล้องเก่าในยุคเซนเซอร์ ccd ผมว่ามันเก็บรายละเอียดของสีได้ดี และเก็บรายละเอียดส่วนมืด-สว่างได้น่าพอใจเลยครับ

ช่วงนี้งานแต่งเพื่อนๆเยอะมาก ไม่มีเวลาทำอะไรเลย 555 แต่งกันทุกอาทิตย์เลยทีเดียว

เดินตากแดดจนเมาต้องหาอะไรกินรองท้องซะหน่อยก็ดันมีแต่เจ้านี่ขายอยู่
 

 
หิ้วท้องรอไปกินที่ฝั่งโน้นก็ได้ ได้เวลาจากแล้วแก่งหลี่ผี ขากลับนั่งรอเรืออีกตามเคย
 

 
มีโอกาสจะกลับไปเยือนใหม่ตอนหน้าหนาว
 

บริเวณที่เรานั่งเรือผ่านเค้าเรียกว่ามหานทีสี่พันดอน หมายถึงมีดอน(เกาะกลางน้ำ) สี่พันเกาะ จริงๆมีเยอะกว่านั้นแต่นับที่มีคนอาศัยอยู่
 

 
นานพอดูเราก็มาถึงท่าเรือ อันที่เห็นเป็นเสาโด่ๆเค้าว่าเป็นสะพานทางรถไฟ มองยังไงก็มองไม่ออก
 

 
แต่เรายังไม่ถึงที่หมายนะ ต้องต่อรถห้าแถวไปอีก ดูจากรถแล้ว อืมมมมมม ห้าแถวจริงๆ
 

เวลาที่ใช้ในการนั่งเรือก็นานอีกเช่นกัน เนื่องจากแล่นได้ช้าพอสมควร
 

 
แต่เด็กๆร่วมคณะทัวร์ดูเหมือนจะตื่นเต้นในการเดินทางครั้งนี้ แต่ก็อยากจะบอกว่า น้องๆ น้ำมันกระเด็นใส่หน้าพี่อ่ะ 555
 

 
ต่างจากเด็กท้องถิ่นที่มีหน้าที่ติดเรือไปช่วยในการจอด ดูหน้าตาคงจะเห็นจนเบื่อแล้ว
 

แต่ก็ดีได้ดูวิถีชีวิตคนริมน้ำ สมัยก่อนเราคงใช้ชีวิตแบบนี้เหมือนกัน
 

 
อากาศเริ่มร้อน เราใกล้จะได้เดินทางกันแล้ว
 

 
ในที่สุดก็ได้ขึ้นเรือ เดินทางๆๆ
 

วันที่สอง หลังจากหลับยังไม่เต็มตานอนยังไม่เต็มตื่นก็มีอันต้องลุกจากที่นอนตามเวลานัดหมาย ออกไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมจำปาสักพาเลซที่เดิม แต่คราวนี้ไม่มีเวลาอ้อยอิ่ง รีบออกเดินทางไปแก่งหลี่ผีกัน ทำไมต้องทำเวลาขนาดนั้น มันไกลมากกกกกกเลย นั่งรถดูหนังจบเป็นเรื่องๆยังไม่ถึงเลย ถนนหนทางยังไม่ราบเรียบเท่าไหร่ แต่แล้วเราก็มาถึงลงจากรถตู้เดินมาท่าจอดเรือ
 

 
ใช้เวลาในการรอขึ้นเรือนานพอสมควรเลยถ่ายโน่นถ่ายนี่ไปเรื่อยเปื่อย
 

 
มันนานจริงๆ ไม่ใช่จะขึ้นเรือแล้วเดินทาง พิธีการเยอะมาก
 

ไว้มีโอกาสคงไม่พลาดไปเยี่ยมชมอีกแน่ๆที่นี่
 

 
ร่มเย็น เดินเพลินดีเหมือนกัน สถาปัตยกรรมหลากหลาย
 

 
จบการนำเสนอครับผม ขอบคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาในการติดตามนะครับ ภาพอาจจะไม่งามงดนะครับแต่จะพยายามทำให้ดีขึ้นๆๆๆๆ
 

กระแตกระรอกก็มีเยอะนะ ทดสอบความไวในการโฟกัสได้ดีเหมือนกัน ตามหลักการถ้าสปีดได้ 1/2500 ทุกๆอย่างจะหยุดนิ่ง แต่ถ้าแสงไม่มีจะทำยังไงดี
 

 
หลังจากเพลิดเพลินกับสรรพสัตว์เราก็มาชมสิ่งปลูกสร้างในบริเวณพระราชวังกันบ้าง
 

 
เป็นอะไรที่งดงามหลากหลายรูปแบบมาก
 

แต่ที่ถือว่าเยอะมากๆสำหรับที่นี่คือไก่ อันนี้ผมกำลังพยายามหาเหตุผลอยู่
 

 
เราจะเจอไก่ทุกพื้นที่ในพระราชวัง
 

 
ผมจึงได้ถ่ายรูปไก่มาเยอะมาก อิอิ สนุกดีอยู่ไม่นิ่งเลยแต่ละตัว
 

จะมีประชาชนมาออกกำลังกายกันหนาแน่นมาก
 

 
คนมาถ่ายรูปก็เยอะพอๆกัน มาอ่านหนังสือ มาพักผ่อน
 

 
ที่นี่อนุญาติให้นำสุนัขเข้ามาได้น่าจะเพราะมีอนุสาวรีย์ย่าเหล
 

นานๆจะมีเวลาว่างๆซักที งั้นแถมอีกที่แระกัน ไม่ใกล้ไม่ไกล พระราชวังสนามจันทร์ นครปฐมนี่เอง
 

 
พอดีวันนั้นขับรถหาอะไรกินไปเรื่อยเปื่อย เลยมีโอกาสได้แวะชม
 

 
ตอนเย็นๆที่นี่จะเปิดให้เป็นสวนสาธารณะ แต่จะไม่สามารถเข้าไปในตัวอาคารได้
 

ไหนๆก็มาถึงนี่แระ เลยไปผาแต้มหน่อยดีกว่า เลยไปไม่ไกลเกินใจจะไขว่คว้า
 

 
ก่อนจะถึงมีจุดให้แวะชมพอสมควร แต่แดดแรงมากนั่งถ่ายมันบนรถนี่ล่ะ
 

 
แล้วเราก็มาถึงผาแต้มพร้อมแสงแดดอันแรงกล้า
 

คาดว่าสภาพน่าจะใกล้เคียงดวงจันทร์มากกว่าทุกที่ๆเคยไปมา
 

 
แต่ก็ไม่ถึงกับผิดหวังที่ได้ตั้งใจมา
 

 
มีโอกาสจะแวะไปอีกแน่นอน
 

แวะมาอัพรูปวันว่างๆ ต่อเนื่องจากทริปข้างบนคือลาวใต้ อย่างที่บอกไว้จิงๆแล้วไม่ได้ตั้งใจไปเท่าไหร่อยากมาเที่ยวสามพันโบกซะมากกว่า แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากลาวใต้นั้นเกินคุ้ม เราไปเที่ยวกันเลยดีกว่าเวลามีน้อย อิอิ
 

 
เรื่องประวัติความเป็นมาคงต้องรบกวนหาอ่านในวิกิกันเอาเองนะครับ ผมไม่รู้
 

 
ถามว่าทำไมถึงอยากมา ตอบได้แค่ว่าไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆก็แว๊บเข้ามาในความคิดแล้วก็ไปเลย