vanganetus

คันที่ตามผมมาเข้าเป็นที่3 OVER ALL ไม่ใช่ 1.8เกียร์ AT นะครับ เป็นคุณปู๊ FD2.0เกียร์ AT และ ที่4-5 OVERALL เป็น FB 1.8 เกียร์ MT ทั้งคู่ครับ
ลองดูดีๆครับ ดูเวลารวมอย่าดูที่อันดับเพราะที่ตามหลังผม คือ คนที่ได้ที่1 Class B
 
รถผม เป็น CIVIC FD 1.8 เกียร์ ออโต้ครับ โช๊ค KYB+สปริงโหลด จานเบรคขนาดเดิม เปลี่ยนผ้าเบรค
ถ้าเทียบกันแล้ว รถผมคงอยู่คนละขุมกันเลย กับ FD2-R ครับ  ฝีมือผมก็อแค่มือใหม่
ตั้งแต่เกิดมาเคยวิ่งสนามพีระ มาคั้งนี้เป็นครั้งที่3 ได้เวลา 1:25แค่นี้ผมก็พอใจในตัวเองแล้วครับ 
 
แต่แน่นอนครับว่าถ้าผมวิ่งได้ 85วินาทีทุกรอบ ครบห้ารอบ ผมจะเข้าเส้นชัยโดยใช้เวลา 425 วินาที
และคันที่1ถ้าเค้าวิ่งได้ 79วินาทีทุกรอบ ครบห้ารอบ ผมจะเข้าเส้นชัยโดยใช้เวลา 395 วินาที
 
ที่ออกมาแชร์ ไม่ได้ต้องการ ถ้วยและของรางวัลแล้วครับ แต่ต้องการแชร์พฤติกรรมของผู้จัดที่ไม่แน่ใจว่าแสวงหาสิ่งใด
ในตอนที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่แบบนี้ ที่บอกว่างานนี้เฉพาะหน้าใหม่มือใหม่ แต่ผมว่า 1:19 คงไม่ใหม่
สปอนเซอร์ควรจะได้รู้ครับ  ว่ามีเหตุการฉกรางวัลแบบนี้เกิดขึ้น 
 

ตรงจุดยึดครับพี่ ^^ แค่ 1 รูเท่านั้นครับ ถ้าใส่ได้ คอม้าพี่ต้องเป็น FD2 แล้วนะครับ

จากโพสท์ด้านบน ผมเลยมานั่งคิด ถ้าผมขับ FD2R ไปไล่รถ 30 คันจะเข้าได้ที่ 1 ไหมหนอ    แลว่าน่าจะเข้าน่าจะกลุ่มยางข้างทางสักกลุ่มก่อนแน่ๆ 
 
 
ด้วยความอยากรู้จักคุณเต้ย Timedeco เลยลองเซิสในเนตหาดู  ไปเจอชื่อที่เกี่ยวข้องกัน ไม่รู้ใช่หรือเปล่านะคับ แค่เซิสเจอ ถ้าใช่นี่ คุณเค้าน่าจะเป็นเจ้าของบริษัท Timedeco กันเลย 555 
 
แลว่าคุณเต้ยเค้าน่าจะชอบแข่งรถมากมายคับ รถแต่ละคัน ในฝันทั้งนั้น และแกดูเก่งและประสบการณ์สูงมากๆคับ แม้ไม่ใช่นักแข่ง แต่คงลงแข่งขันสนามยากๆมาหลายสนามทีเดียว
 
ไม่ได้จะมาสร้างประเด็นอะไรนะคับ ทุกฝ่ายได้แจ้งรายละเอียดให้เข้าใจกันมาหมดแล้ว   ประเด็น จขกท ผมว่าเคลียร์ครับ  อันนี้ผมเจอมาเลย เอามาถามดู 
 
 

เข้ามาให้กำลังใจทุกฝ่ายครับ
 
 
ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ครับ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่าให้มันเกิดขึ้นครับ ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามครับ

นึกว่าอยู่ญี่ปุ่นครับ สวยฟุดๆ

ดัง เอี้ยดๆ หรือว่า อย่างอื่นครับพี่  แต่ เมื่อเราใส่โช็ค มา ควรตั้งศูนย์ครับ ผมใส่ 2010 ที่ติวานนท์โช็คแปลง แล้วติวานนท์ยางยนต์ใส่ให้ครับ ไม่มีเสียง แต่ผมเคยใช้ปี 07 - 09  มีเสียงสปริงดังจากด้านหลัง เอี้ยดๆ ครับ แต่ผมมา 2010 เงียบ ทุกการขับขี่ครับ

สงสัยรอบหน้าต้องวาง K26 โบ แล้วครับแบบนี้ เริ่มจะอยู่ยากละ

เข้ามาให้กำลังใจทุกฝ่ายครับ
 
 
ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ครับ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่าให้มันเกิดขึ้นครับ ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามครับ

เปลี่ยน K20A ดีที่สุด ฮ่าๆๆๆ

เข้ามาให้กำลังใจทุกฝ่ายครับ
 
 
ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ครับ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่าให้มันเกิดขึ้นครับ ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามครับ

.....Type R Spoon Sport ....


 
:)

ผมก็แค่สมาชิกคนนึงในบ้านนี้ และบ้านนี้มีกฏ กติกาคือ "ใส่ภาพประจำตัว"

สมาชิกทั่วไป post แล้วลบไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ ครับ  (ยกเว้น admin)
มีแต่เพียง "ขอโทษ" ถ้าเกิดการเข้าใจผิด และทำให้เสียหาย นั่นคือการแสดงความจริงใจ และสปิริตในบ้านหลังนี้
 
"หากทางผู้จัดสามารถอธิบาย สิ่งต่างได้ ชัดเจน ก็เป็นแนวทางที่ดีครับ"


ขอบคุณครับ

เค้าก็ต่อว่าผู้จัดนิครับ ไม่ได้ต่อว่านักแข่งรายอื่นๆ ยกเว้นเคสที่มีปัญหา
 
แต่เห็นด้วยครับที่ควรคุยในสนามให้จบ พูดตอนนี้มันแก้อดีตไม่ได้หรอกครับ
 
เพียงแต่คนนอกอย่างผมอ่านแล้วรู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และผมเชื่อว่าหลายๆคนคงรู้สึกไม่ต่างกัน หากปล่อยไว้ผลเสียก็จะตกอยู่ที่ผู้จัดงาน และอาจจะกระทบต่อการจัดงานครั้งต่อๆไปหรือเปล่า หากเป็นไปได้อยากให้ทางผู้จัดได้มาชี้แจงแถลงไขเพิ่มเติมครับ

เยี่ยมครับ ไม่ทราบว่าราคาวัสดุทุกอย่างที่ลงทุนลงไป ประมาณเท่าไหร่ครับ อยากฝึกหัดทำมานานแล้วแต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้อพวกผ้าพวกน้ำยาพวกนี้ได้ที่ไหน ทั้งชุดพร้อมทำเลยราคาเท่าไหร่ครับ

พอดีเสี้ยนอยากลองเล่นผ้าเคฟล่าดูบ้าง เลยต้องบอกลาน้อง 3M หุหุ มือใหม่ต้องหาของมาลองก่อน เอาฟ่ะ เนี้ยและ ฝาครอบเกียร์กับฝาครอบสวิตทั้ง 4 ประตู ว่าแล้วก็หาซื้อของกัน
 
1. เรซื้น 355E
2. ตัวช่วยเร่งปฎิกิริยา (Cobalt) ตัวม่วง 5-6 หยด 3. โมโนสไตรีน - - ทำให้เรซิ่นเหลว  4. ตัวทำแข็ง (Hardener) 9-10 หยด แล้วแต่สภาพแดด ถ้าอยากเสียวเร็วก็หยดเยอะๆ หุหุ  5. กระดาษทราย 80 320 1000 ขยันมากก็หาเบอร์อื่นๆ ได้น่ะ    **** ตัวแสบไม่รู้ตัวไหน 2 3 4 เล่นตรูซะหมดคารามายไป 1 ขวดเลย (คันยิกๆ หุหุ)   เริ่มกันเลย 1. ถอดงานมา อยากหุ้มอะไรก็ถอดออกมา ถอดไม่ได้ก็ไม่ต้องหุ้ม หุหุ  2. ขัดครับ ขัดไป ใช้ 80 ลง 3. ผสมเรซิ้น อันนี้แล้วแต่สภาพอากาศ แดดมาก แดดน้อย อยากให้แข็งเร็ว แข็งช้า (ใช้กับอย่างอื่นช่วยให้แข็งได้ป่ะเนี้ย  ) 4. ทาสัก 3 รอบครับ 5. เก็บงาน ตัดขอบและส่วนที่ไม่ต้องการ ตอนนี้แหละ หลังจบ เตรียบคารามายไว้ได้เลย หุหุ 6. ขัดงานครับ 320 1000 ถ้าขยันต่อด้วย 2000 ก็ได้น่ะ 7. ขัดเงาด้วยน้ำยาขัดหยาบ และต่อด้วยขัดละเอียด 8. พ่นแล็คเกอร์ เพิ่มความเงา 9. เก็บเข้าที่เดิม ตอนนี้ก็สำคัญ ทำมาตั้งนานใส่กลับไม่ลง แสดดดดด   เอามาแก้ใหม่ (ก็มันหนากว่าติ๊กเกอร์นี้หว่า) 10. เรียบร้อยจ้า ยืนชมผมงานและทนเหม็นกลิ่นเรซิ่นกันไป   ปอดตรู กว่ากลิ่นจะหาย     เฮ้ออออ มันก็อยู่ของมันดีๆ อยู่แล้วน่ะเนี้ย ตรูหาเรื่องโดยแท้     ลงกะมังซ่ะ   ขัดจ้า ขัด           กรรมโดยแท้ รูไม่ได้เจาะ มันแข็งแล้วจะเจาะไงล่ะเนี้ย   ขัดกันเข้าไป ใครมันเป็นคนคิดฟ่ะ หุหุ   พ่นแล็คจะได้เงาๆ       เอาอีกๆ อยู่ของมันดีๆ ไม่ชอบ   นั่งลอกหนังกันขัดเอากาวโฟมออก ให้พี่เค้าไปเลย 1 วัน (ใครติดกาวฟ่ะ สุดๆ ไปเลยลวกเพี้ย)   จัดไป 3 รอบ   ขัดอีกแล้วครับท่าน   ปูดๆ ไม่เรียบ หุหุ ก็ขัดมือ ไม่มีเครื่องขัด   มีอีก 3 บานให้แก่มือ    

P2R ช่วยรอบต้นได้ครับ ต้นกลับมาแรงเหมือนเดิม สำหรับคนที่ขยายเส้นกลางยิงตรง

ยากที่ Sensor ตัวบนครับ ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะในการถอด คล้ายบล๊อคไข สอดลงไปแล้วก็บิดออกได้เลย
 
 
น่าจะหาซื้อได้ครับ

ท่อดีๆร้านไหนก็ได้ ขอให้ถูกหลักการ
เฮดถึงปลาย +p2r + กรองแผ่นตรงรุ่น +ล้อเบาๆ หรือล้อเดิม
ก็ดีขึ้นระดับนึงแล้วคับ

ลดน้ำหนักก็ช่วยให้ขับดีขึ้นนะครับ
ล้อ Forged เบาๆ มีผลพอรู้สึกได้
+ ท่อ & P2R
กรองแนะนำใส่แค่กรองแผ่น K&N แทนแผ่นเดิมโรงงานพอครับ
จูนอีกสักหน่อย จะลื่นๆขึ้น

รถหล่อเสียงท่อก็หล่อมากคับพี่เว้งเจอตัวเป็นๆแล้วคันนี้
พีเองคับที่ไปจัดพักกลาง

จูน โคลสลูปได้ครับ แต่ไฟจะโชว์ เพราะมันต้องชักปลั๊ก O2 sensor ออก แต่ไม่รุ้ว่าเจ้าของกระทู้ได้ทำหรือเปล่า
 
มีรุ่นพี่ในกลุ่มบอกว่า ปลดโคลสลูปไม่ได้จำเป็นสำหรับรถ NA อย่างเราเลย การปลดโคลสลูปนั้นจะเหมาะกับรถที่เซตเทอโบ เนื่องจากการทำงานของโคลสลูปจะอยู่ในช่วงคันเร่งไม่เกิน 50% โดยประมาน และคอยทำให้ส่วนผสม AF อยู่ในช่วง 14.2 โดยประมานผมไม่แน่ใจตัวเลข ถ้ารถเซตเทอโบ กรอคันเร่ง แต่กรอเพลิน ถึงรอบที่บูสมา แต่ยังไม่หลุดโคลสลูป ส่วนผสมAF ยังคงเปน 14.xx นั้นคือ พังชัวครับเพราะส่วนผสมบางมากเกินไป รถเทอโบจึงควรปลดโคลสลูปซะ
 
แต่..รถ NA บ้านๆ หรือ ซิ่งๆ อย่าง K20a ฝาแดงควรมีโคลสลูปไว้ เพราะอะไรหรอ ?? เพราะตัว โคลสลูปนี้แหล่ะที่จะคอยเซฟเครื่องเรา เวลามีอะไรผิดปกติขึ้นมา โคลสลูปจะชดเชยน้ำมันให้ได้ค่า ส่วนผสม AF 14.xx ซึ่งเปนค่าโรงงาน ทำให้รถเราสามารถขับแบบกรอคันเร่งไปได้ ฟังแล้วอาจจะงงๆ แต่รถ NA มีโคลสลูปไว้อะดีแล้วคร้บ อยากจะหลุดโคลสลูปก็แค่กดคันเร่งจมๆ (อันนี้รวมถึงกรณีจูนกล่องด้วยนะครับ) เท่านั้นเองครับ
 
การปลดโคลสลูปของกล่อง Data Tec อาจจะตอบสนองได้ดีกว่าเก่าเวลากรอคันเร่ง (ในกรณีที่ จูนเนอร์เก่งนะครับ) แต่ต้องแลกกับค่าน้ำมันที่เปลืองกว่าเก่าและต้องเจอกับ ไฟเอนจิ้นโชว์ แต่ไม่ได้ส่งผลอะไร แต่ถ้าในอนาคตรถเราเกิดมีปัญหาอะไร ที่เกี่ยวกับเครื่อง หรือปัญหาอื่นๆ ที่ปกติมันจะต้องขึ้นไฟเอนจิ้น เราจะไม่มีทางรู้ได้เลย ว่ารถเรามีปันหาอะไรหรือไม่ เพราะรถเรา มันไฟโชว์มาตลอดตั้งแต่จูนกล่องครับ

[media]
[/media] 
 
เอาใหม่

กรองแบบนี้แหล่มมากครับ ราคาน่าจะแรงหรือเปล่าครับ แต่ใส่แล้วห้องเครื่องดูเต็มๆเลยครับ

โหดมากครับ

อธิบายละเอียดมากครับ เห็นแล้วอยากลองขับดูบ้าง