Tu@pted

ถ้าตัวจาน 282 มม เอามาใส่ fd1 ใส่เลยไม่ได้ครับ เพราะคอม้ายื่นไม่เท่ากัน และจาน fd2 ฮับจานสูงกว่าครับ ส่วนคาลิปเปอร์ต่างกันที่ขนาดลูกสูบ แต่ใช้ผ้าเบรคด้วยกันได้ครับ

ไม่ได้เข้ามาทักทายซะนาน คันนี้หล่อจนจำไม่ได้เลยครับ

ขอเข้ามาแชร์ด้วยคนครับ วาล์วน้ำเดิม วาล์วน้ำซิ่ง มันดีไม่ดียังไง คือเครื่องยนต์เดิมๆ วาล์วน้ำจะเริ่มเปิดสุดที่อุณหภูมิ ... ( เท่าไรผมไม่สนใจ ) แต่เกิน 80 แน่นอนครับ กับ วาล์วน้ำแต่งเปิดสุดที่หลัก 7สิบปลาย เท่ากับว่า การใช้งานสภาพปกติ วาล์วน้ำเดิมจะทำให้อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นอยู่ประมาณ 90-95 วาล์วน้ำซิ่ง จะวิ่งอยู่ 80-85 หรือ อาจจะไม่ถึง 80 ดี เครื่องยนต์เดิมๆ โรงงานอยากให้เครื่องร้อนเร็วเร็วครับ เพื่อที่จะลดปริมาณการฉีดน้ำมันช่วงอุณหภูมิน้ำเย็น ( Cold enrichment fuel injection เอาง่ายๆว่าที่อุณหภูมิน้ำต่ำๆ จะฉีดหนากว่า 14.6 ) xxxเจ้า Cold enrichment จะไปหมดแถวๆอุณหภูมิ 7สิบนิดๆ นี่แหละครับ ถ้าเครื่องร้อนเร็ว Cold enrichment ก็จะหมดไว Emission ก็จะดีครับ เครื่องยนต์เดิมๆ มันสามารถทนอุณหภูมิน้ำได้ค่อนข้างสูงอยู่ครับ บริษัทรถยนต์เค้าเทสเครื่องกันที่อุณหภูมิ เกิน 100 องศาซีไปเยอะ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะฮีทง่าย หรือ มันจะพังไว สิ่งที่ผมกลัวนอกเหนือจากวาล์วน้ำเดิม วาล์วน้ำแต่งก็คือ " วาล์วน้ำตาย " ถ้าตายละงานมาแน่ครับ ถ้าน้ำหล่อเย็นครบระยะ 160000 กม เปลี่ยนวาล์วน้ำด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ ปล. ผมใช้วาล์วน้ำซิ่งครับ ถ้าใช้งานในสภาวะโหดๆหน่อยจะเห็นคุณงามความดีมันมากๆครับ น้ำเย็นลง ออยเท็มลงตาม ออยเพรสฟิตปั้ง ใช้วาล์วน้ำเดิมวิ่งโหดๆในคอนดิชั่นเดียวกัน เท็มน้ำลง 10 องศา เท็มออย 5 องศา มีให้เห็นครับ

รูปบนสุดเป็น fx50 รอบคันนะครับ

ก่อนหน้านี้เคยใช้ 3m fx50 ก็โอเครครับ ผมไม่ชอบตรงไม่ใส่มากเท่ากับ l75 ใช้ได้ซักพักบานหน้าเจอหินบินแตกครับ เลยจะเปลี่ยนเป็น L75 มาเจอราคา Ice tech ก็ตกลงปลงใจกับตัวนี้ สีสวยครับ เทียบกับL75 แยกออกยากนะครับถ้าอยู่ในร่ม ถ้ากลางแดด L75 จะเขียวใสกว่าหน่อยๆ กันร้อนน้อยกว่า L75 เวลาเจอหลอดไฟสีฟิล์มจะออกรุ้งๆหน่อย แต่สุดท้ายถ้าเทียบกับราคาก็ถือว่าผ่านครับ คันไหน L75 คันไหน Icetech ครับ อิอิ

เครื่องจูนแล้วต้องเปลี่ยนหัวเทียนเย็น - ถ้าหัวเทียนยังใหม่อยู่หรือ เพิ่งเปลี่ยน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่อีกครับ ความจำเป็นของการเปลี่ยนหัวเทียนเย็นคือ มีการเพิ่มกำลังอัด ทำให้ความร้อนในห้องเผาไหม้สูงขึ้น ใช้ไปนานๆจะทำให้หัวเทียนเบอร์เดิมโรงงาน สึกหรอเยอะ ตรงปลาย Tip กับเขี้ยว ทางกลับกันคุณใช้ e85 น่าจะไม่ได้อะไรกับไส้ใน ยิ่งทำให้อุณหภูมิห้องเผาไหม้ลดลงครับ หัวเทียนเย็นเลยไม่จำเป็นเลย หัวเทียนเย็นสตาร์ท E85 ง่ายขึ้น -อันนี้ก็ยิ่งไม่ใช่ ถ้าใช้ยิ่งเย็นยิ่งสตาร์ทยากครับ ใช้ E85 สตาร์ทยากขึ้น - E85 มีคุณสมบัติที่นอกจากออกเทนสูงคือ ระเหยยากที่อุณหภูมิต่ำ ระเหยง่ายที่อุณหภูมิสูงเทียบกับน้ำมัน ถ้าสตาร์ทตอนเช้าช้า ตอนเครื่องร้อนปกติ แสดงว่าเค้าไม่ได้จูนการฉีดน้ำมันตอนสตาร์ทให้เลย ถ้าสตาร์ทตอนเช้าปกติ ตอนเครื่องร้อนช้า แสดงว่าเค้าจูนการสตาร์ทให้ แต่จูนแบบหนายกตาราง ไม่ได้จูนบางให้ในช่วงเครื่องร้อนครับ ทำให้ส่วนผสมตอนเครื่องร้อนมันหนาไป สตาร์ทช้านิดหนึง

ใส่ให้ครบเลยครับพี่ อิอิ

บรรยายอ่านเพลินๆดีจังครับ เก็บทุกเม็ดเลยนะครับ

พี่สิทนำไปก่อนเลยพี่ 55 ขอบคุณมากครับที่ติดตาม ยังไม่เทพครับ ไทป์อาร์เดิมๆ คันเต็มๆชอบซุ่มครับ อิอิ 555 คนนั่งตรงข้ามผมหลอนสีเขียวทุกวัน

นานๆๆ จะได้อัพซักทีมาคราวนี้เปนเรื่องของช่วงล่างครับ ตัวผมเองตั้งแต่ใส่โช้คเดิมๆไทป์อาร์ใส่ได้ซักพัก คงมีหลายๆคนได้ลองกันมาบ้าง ตัวผมเองก็ทนกับความดิบไม่ไหว เลยเปลี่ยนมาใช้ Honda access modulo TypeR ครับ ตัว Modulo R นั้นเบสโช้คก็คือโช้ค R แหละครับจูนโดย showa ตัวกระบอกเปนเหล็ก มีสิ่งที่เพิ่มมาจากโช้คเดิม R คือ มันสามารถปรับหนืดได้ 5 ระดับเฉพาะด้านหน้า ( ถ้าปีตัวโช้คปีใหม่ๆปรับได้ทั้งหน้าหลังครับ ) อาการโช้ค ก็มีหลายบุคลิคปรับนิ่มขับสบายๆ ปรับหนืดๆ ก็หนึบแน่นไม่เด้ง โดยรวมดีกว่าไทป์อาร์มากครับ ถึงมันจะดีแต่กิเลสมันก็หยุดกันลำบากนะครับ ตัวผมเองก็อยากได้ช่วงล่างแบบสตัท ที่มันปรับได้จะได้มีอะไรทำบ้าง สุดท้ายมาจบที่ Tein monoflex เพราะ เคยนั่งแล้วชอบ เซอร์วิสก็มีอะไหล่ทุกชิ้น ราคาไม่แพงเวอร์ สเปคก็ดีครบ ปรับสูงต่ำแบบสไลด์กระบอก โช้คที่ประมูลมา ยุ่นเขียนมาว่าวิ่งมา 8000 โล แต่เค้าก็เขียนมาว่าหัวบอลหลวม 1 ข้าง พอของมาถึงมือ เชคสภาพด้วยตาก็สภาพดีครับ หัวข้างที่หลวม สภาพจริงๆก็ไม่ได้หลวม แต่ไม่แน่นเท่าข้างซ้ายครับ สุดท้ายก็ได้ใส่ เอาไปให้พี่ใหญ่tein ติดตั้งให้ ผลออกมาก็น้ำตาจะไหล ฟีลไม่กระด้าง แต่ก็ไม่นิ่ม ตอนความเร็วสูงโช้คสามารถเก็บได้หมด และรีบาวด์ได้แบบไม่กระเด้งกระดอน มีความรู้สึกว่ามันดูดถนนมาก ขับแล้วมันใจขึ้นเยอะครับ รูปตอนเสร็จแล้ว แต่ความสูงยังไม่พอใจเด๋วกดต่ำแล้วมารีวิวอีกที ปล.ขอบคุณคุณปุ้ยด้วยนะครับ ที่จัดการโช้คชุดมาให้

สวัสดีครับเอก คันน้ำเงินหล่อกว่าเยอะเลยค้าบบ

สีเงินคันนี้สวยมากๆเลยครับ

ไปทริปนี้วิ่งไปประมาณ 2300 km ครับ ใช้ E20 เติมน้ำมันไปทั้งหมด 220 กว่าๆลิตร อัตราสิ้นเปลืองคร่าวๆ ประมาณ 10.xx km/h กับความเร็วเดินทางสูงนิดหนึง ถือว่าประหยัดมากใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่กระเป๋าฉีกจนเกินไปนะครับ ( จิงๆวิ่งทางราบมี 11.xx km/l กลางๆ ทางเขาหลือประมาณ 9.xx ครับ ) ปล.คันน้ำเงินสวยจัง อิอิ

เอาลูกชายไปตะลุยเหนือมาครับ ดอยอินทนนท์ ปางอุ๋ง ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่ เอามาฝาก 1 รูป

18 8.5 +40 ครับ

ช่วยอัพนะคร้าบ โปรเจคดีๆอย่างนี้

ถ้าแบ่งตาม line up RE002 กับ PS3 จะอยู่กลุ่มเดียวกันครับ ผมก็เคยได้ลองทั้งคู่ ก็ดีคนละอย่างไม่มีอะไร perfect ทุกอย่าง PS3 เป็นยางสปอร์ทที่ขับแล้วรู้สึกแปลกๆนิดๆครับ ถามว่าเนื้อยางนั้นเกาะถนนดี รีดน้ำดีมาก เสียงก็เงียบกว่าที่ยางสปอร์ทควรเป็น แต่เงียบได้อยู่ซักไม่เกิน 4 หมื่น ก็เริ่มดัง ที่บอกว่าแปลกๆคือ เกาะแต่ย้วย เนื้อยางนะเกาะถนนดีครับ แต่ยางต้องการที่จะตอบโจทย์ ติดนิ่มด้วย เลยทำให้อาการพวงมาลัยมันไม่คมเท่าคู่แข่ง RE002 มีอาการย้วยนิดๆตอนเปลี่ยนเลนเร็วๆ RE002 คมกว่า ดังกว่าแต่ดังคงเส้นคงวา ตั้งแต่ลงพื้นจน 6 หมื่น เสียงไม่น่าเกลียดถ้าไปเทียบกับความดีด้าน ความคม ความเกาะยันสะพานยาง รีดน้ำก็ดีกว่า RE001 เยอะแต่สู้ PS3 ไม่ได้ ถ้าเคยใช้ RE001 จะรู้สึกว่า RE002 user freindly กว่า RE001 เยอะ นิ่มขึ้นรีดน้ำดีขึ้น สุดท้ายจะเลือกอะไรก็แล้วแต่ว่าชอบลักษณะไหน ติดนุ่มเงียบ แอบเปรี้ยวบางเวลาก็ PS3 ถ้าชอบฟีลคม แม่นยำ มั่นใจๆก็ RE002 ครับ

นอกจากพี่โป่งว่า มีนอกเรื่องนิดหนึ่งกับท่อ LFA เสียงท่อได้มีการปรับจูนเพื่อความเพราะล้วนๆ โดยยามาฮ่า ท่อทั้ง 3 มีความถี่เสียงที่ไม่เท่ากันเพื่อจะได้คอรัสได้เพราะครับ

แก้มป่องกว่าอยู่ครับ ก่อนเปลี่ยนผมก็มีความคิดว่าต่างไม่มาก แต่ความจริงแล้ว ค่อนข้างเยอะนะครับ รูปบนคือแก้มเดิม ก่อนรถผมเปลี่ยนสี รูปล่างคือแก้ม R ล้อยางทั้ง 2 รูปสเปคเดียวกันครับ

ถึงจะไม่เคยพบหรือพูดคุย แต่เคยเห็น user มานานมากตั้งแต่บ้านเก่าแล้วครับ ยังอดใจหายไม่ได้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

อยากมีกะเค้าบ้าง เศร้า. ...

รถสวยครับ ถ้าผมยังไม่กลับสี คันนี้จะเป็นแฝดรถผม

มาเรื่องเบรคกันต่อครับ ตอนนี้สภาพเบรค ทั้งจานและผ้าเบรคสภาพเน่ามากครับ ผ้าเบรค ผมเคยใช้มาคือ Brembo , Project mu HC+ , Project Mu Bspec Brembo ที่ติดปั้มมาใช้งานสตีทดีมากครับ แทรคก็ดี เสียงก็ไม่มี ตอนเบรคเย็นก็ใช้ได้ วิ่งร้อนๆก็ดูดดี วิ่งแทรคมีเฟดบ้างหลังจากวิ่งเกิน 6 รอบ แต่โดยรวมใช้ดี กินจานไม่มาก ข้อเสียคือ ฝุ่นผ้าเบรคเยอะมากครับ Project mu HC+ ตัวนี้เปนตัว street and track ของโปรเจคมิว ใช้ดีมากๆๆครับ ทุกอย่างจะเหมือนเบรมโบ้ข้างบน สิ่งที่ดีกว่าคือ initial bite ครับ และ ความเสียดทานที่สูงกว่าทนเท็มกว่า Intitial bite ที่ว่าคือ การที่ผ้าเบรคสัมผัสจานครั้งแรกครับ ฟีลง่ายๆก็คือ กดแล้วจึ๊กทันทีรถเหมือนโดนรั้งไปท้ังคัน แล้วดูดกว่า เบรมโบ้เยอะครับ วิ่งยังไงก็ไม่เฟดครับ ผ้าทนได้ 800 องศา วิ่งแทร๊คมันๆยาวๆเพลินๆ จนจานมีร้าวที่ผิวเลยครับ ข้อเสียคือ เสียงนิดๆตอนใกล้จอด ฝุ่นพอกับเบรมโบ้ กินจานใช้ได้ครับ Project Mu Bspec ตัวที่สองหมด เลยอยากลองลดดีกรี ความโหดมาเป็นตัว 500 องศาขอวโปรเจคมิว สเปคโดยรวมคือคู่แข่งเบรมโบติดปั้ม สรุปง่ายๆ ไม่ประทับใจ ไม่ดูดเท่าเบรมโบ้ มีดีกว่าแค่ไม่มีฝุ่น สุดท้าย b spec ก็หมด คราวนี้ไม่ลองละ ขอเอาตัวที่ชอบที่สุดละกัน Project mu HC+ ผ้าเบรคเก่า สภาพเน่า แตก ร้าว กินเป็นลิ่ม ทั้งจานที่ใส่อยู่ก็บางแล้วครับ จนต้องเปลี่ยนจานสำรองที่มีอีกชุด dixel type SD มันก็บางแล้วครับ แต่ยังไม่โคม่าเท่าจานเดิม จาน FD2 DC5 มีสเปคหนา 25 มิลครับ minimum tickness อยู่ 23 มิลเอง มีให้ใช้แค่ 2 มิล ถ้าช่างเจียจานเป็น เนื้อจานจะเนียนเหมือนจานเบิกใหม่เลยครับ เสร็จละครับ งานต่อไปคงต้องหาจานใหม่ เพราะจานที่ใส่อยู่มันหนา 23.3 เองครับ ติดตามตอนต่อไปนะครับ

หายไปนาน ขอมารีวิวยางตกรุ่นนิดนะครับ Dunlop direnza z1 star ครับ 235/40/18 ก่อนหน้านี้เคยใช้ ad08 มา 1 ปีนิดๆ re11 อีกเกือบๆปี ผมเปนคนชอบลอง และเจ้า z1 เปนช่วงที่กำลังจะออก z2 ทำให้ไซด์นี้ลดราคาลงจนยางซิ่งเกาหลี(kumho ku36) ต้องมองค้อน ราคาที่ผมได้เส้นละ 6ต้นๆครับ การใช้งานในถนนครับ เสียงยาง ad08>z1>re11 11เงียบสุดในยางซิ่งละครับ แฮนลิ่งในถนนแห้ง ทั้งสามตัวเหลือเฟือในถนนครับ ทั้งความคมความแม่นยำ ทางเปียกและการเหินน้ำ 11 ทางเปียกถือว่าดีมากครับ วิ่งบนบรูพาฝนโปรยๆ 120 ไม่เครียด แต่ 08 วิ่งซัก 100เดียวกำลังดี กลัวครับ หัวข้อนี้ z1 พอๆกับ 08 การวิ่งแทรค Ad08 ลงแทรคครั้งแรกประทับใจมากๆครับ เกาะคม เหนียว อาการรถดีอันเดอร์น้อย แต่ฮีทไปง่ายนิด ลงครั้งต่อไป ความเกาะหายไปเยอะ การสึกหรอพอใช้ไม่เลวร้ายครับ 11 ดีคงเส้นคงวาตั้งแต่ครั้งแรก ยันดอกใกล้สะพานยาง แต่แอบเกาะน้อยกว่า 08 นิดๆตอนที่ 08 ยังใหม่ๆ การสึกหรอไม่เยอะใช้ได้นานครับ Z1 ลงแทรคครั้งแรกประทับใจเหมือน 08 เหนียวเกาะ ดีกว่า 08 ตรงฮีทยากกว่าวิ่งยาวๆได้ ลงครั้งที่สองความเกาะไม่ลดลง ประทับใจในประสิทธิภาพกับราคา ทั้ง 3 ตัวนี้สำหรับผมยกให้ 11 เป็นที่ 1 ทั้งถนน และ สนาม ไม่ได้ดีที่สุด แต่ดีคงเส้นคงวา ผมให้เป็น overall performance ในกลุ่มยางประเภทนี้ แต่ราคาก็ไม่เบาเช่นกัน ไซด์นี้ก็เส้นละ 1 หมื่นนิดๆ งบประมาณไม่ใช่ปัญหา ก็สมราคาเค้าครับ Z1 ก็ดีคุ้มราคาครับ ความเกาะไม่ได้เปนรอง 11 เลย ( แอบดีกว่านิดๆด้วยซ้ำ ) ข้อเสียคือดัง เหินน้ำ และการสึกหรอยางมากไปนิด ( แก้มยางเขียน treadwear 200 ยังงงว่า 200 มั่วแน่นอน แด๊กยางกว่า 11 อย่างเห็นได้ชัด 55 ) ไม่มีอะไรที่ดีที่สุดครับ ขอให้ดีและเหมาะกับเราเป็นพอ