Jump to content

nueng_1001

CCTH Member
  • Posts

    9
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by nueng_1001

  1. Civic fd ตัว 2.0 ก็มีครับ ราคาประมาณ 600 กว่าบาท จะอยู่ด้านหน้าถอดเปลี่ยนง่ายครับ
  2. อาการอีกอย่างนะครับ ลืมบอกไป ตัวเปลี่ยนเกียร์ PADDLE SHIFT ที่พวงมาลัยจะเริ่มใช้ไม่ค่อยได้ด้วยครับ ในกรณีที่เกียร์เริ่มเสีย ส่วนท่านที่บอกว่าเกียร์อาจจะมีสะดีดสะดิ้งเพราะเครื่อง warming ในจุดนี้ผมอยากให้ท่านลองนึกย้อนไปในวันที่ท่านได้ไปรับรถวันแรกครับว่าถ้ามันมีอาการแบบนี้ท่านจะซื้อรถคันนี้หรือไม่ เราใช้งานรถทุกวันครับถ้ามีอาการผิดปกติยังไงก็ต้องซ่อมต้องดูแลกันไปครับ
  3. คืออีกอย่างเพื่อนผมจะดูแลรถตามคู่มือ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามที่คู่มือกำหนดหรือมากกว่านิดหน่อย แต่สำหรับเกียร์ของรถรุ่นนี้ หมายถึงตัว 2.0 นะครับ จะเสียหายประมาณ 2-3 แสนโลครับ ด้วยปัจจัยของประเทศเราเป็นเมืองร้อน น้ำมันเกียร์มีความร้อนสูงยิ่งขับรถนานๆ จะเกิดความร้อนสะสม เป็นต้นเหตุของการเสื่อมของเกียร์ครับ ลืมบอกไป ผมก็ใช้ FD 2.0 เหมือนกัน แต่ปี 2010 ครับ อาการที่ผมสังเกตุนิสัยของเกียร์ตัวนี้คือ ตอนขับนานๆเดินทางไกล เกียร์จะมีการตอบสนองช้าลงอาจจะไม่มากแต่รู้สึกได้ในช่วงเปลี่ยนเกียร์จะรู้สึกว่ามันต่อเกียร์ช้าลง เหตุผลก็คืออุณหภูมิน้ำมันเกียร์มันสูงขึ้นครับ วิธีแก้ไขของผมนะครับ คือ1.เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้เร็วขึ้นครับ รุ่นนี้ใช้น้ำมันเกียร์ประมาณ 3 ลิตร เปลี่ยนครั้งหนึ่งไม่เกิน 700 บาท ลืมบอกค่าซ่อมเกียร์ตัวนี้ประมาณ 25,000 บาทครับ คิดดูครับ ถ้าเราเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้เร็วขึ้น ทุกๆ 20,000 โล รถเราวิ่ง 2 แสน โล เราเสียค่าเปลี่ยนประมาณ 7,000 บาทเองครับ 2. กรองน้ำมันเกียร์ตัวนอก ผมจะเปลี่ยนทุกๆ 4 - 5 หมื่นโลครับ อะไหล่ตัวนี้ราคาไม่เกิน 700 เช่นกัน ตามคู่มือศูนย์จะไม่มีให้เราเปลี่ยนครับ ช่างจะไม่แนะนำเรา ซึ่งเพื่อนผมก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกันครับ 3.อันนี้แล้วแต่ตัวบุคคลนะครับเพราะจะเสียเงินเพิ่มเยอะอยู่เหมือนกัน คือติดออยเกียร์เพิ่มครับ มันจะช่วยระบายความร้อนของน้ำมันเกียร์ ซึ่งติดตั้งแล้วผมก็พอใจนะครับ มันช่วยได้จริง เกียร์ตอบสนองได้ดีกว่าเดิมไม่ช้าเหมือนก่อนติดตั้งครับ และถ้าอยากรู้ว่าน้ำมันเกียร์ร้อนขนาดไหน ผมก็ได้ลองเอามือไปแตะที่ออยเกียร์ดู รู้เลยว่ามันร้อนได้ใจจริงๆครับ
  4. อาการเหมือนเกียร์กำลังจะไปแล้วครับ ตอนนี้มันน่าจะกำลังอยู่ในระยะเตือนอยู่ ควรรีบหาที่ซ่อมด่วนครับ ไปตายกลางทางอาจจะไม่คุ้ม เพื่อนผมใช้ FD 2.0 ปี 2007 วิ่งได้ประมาณ 3 แสนโลได้ มีอาการแบบเดียวกัน ตอนแรกก็ทดลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ก่อนก็ไม่ดีขึ้น สุดท้ายจึงไปโอเวอร์ฮอร์นเกียร์ อาการหายสนิท แล้วที่เปลี่ยนไปคือตามที่เพื่อนบอกคือรถจะพุ่งกว่าเดิม คงเพราะขับมานานจนเราชินกับรถที่ระบบเกียร์เสื่อมลง แต่พอโอเวอร์ฮอร์นเกียร์มา ตามที่ช่างบอกทุกอย่างกับมาใหม่หมด ประสิทธิ์ภาพเกิน 95 % แน่มันจึงเหมือนรถใหม่ๆ ที่เราเคยขับครั้งแรกครับ
  5. ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าผมยังไม่เคยซ่อมรถรุ่นนี้ และก็ไม่แน่ใจด้วยว่าเกียร์ AT กับ MT เหมือนกันหรือป่าว แต่โดยปกติส่วนที่ต้องเปลี่ยนในจุดนี้คือซีลยางหน้าเกียร์ และซีลยางท้ายเครื่องอาจจะเสียแค่หนึ่งตัว หรือทั้งสองตัวเลย ถ้าคิดจะซ่อมแล้วแนะนำเปลี่ยนทั้งสองตัวไปเลยเพราะค่าแรงในการซ่อมจะค่อนข้างแพง คือมันต้องยกเกียร์ลงเลยครับ ส่วนอะไหล่ราคาไม่กี่บาท ถ้าทำอู่ข้างนอกใช้เวลาประมาณครึ่งวัน แต่ถ้ายังไม่เปลี่ยนก็หมั่นตรวจเช็ครถเวลาจอดมีน้ำมันหยดที่พื้นมากน้อยเพื่ยงใดและตรวจระดับที่ก้านวัดด้วยนะครับ วิธีเช็คว่าเป็นน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์ (ถ้าเป็นเกียร์ AT) ถ้าน้ำมันเป็นสีแดงจะเป็นน้ำมัน เกียร์ครับ
  6. ตามด้านบนเลยครับ มันคือกรองน้ำมันเกียร์ตัวนอกเกียร์ กรองตัวนี้ถ้าไม่แจ้งศูนย์จะไม่ทำการเปลี่ยนให้เพราะในคู่มือเช็คระยะซ้อมไม่มีการพูดถึงการเปลี่ยนกรองตัวนี้ กรองตัวนี้ถ้าจำไม่ผิดราคาประมาณ 600 กว่าบาท ผมเปลี่ยนตอน 20,000 กม. (เนื่องจากรถผมวิ่งน้อยและใช้ใน กทม. เป็นส่วนมาก) แต่ถ้าปกติแนะนำที่ 40,000-50,000 กม. กรองตัวนี้จะช่วยยืดอายุเกียร์ออโต้ให้มีอายุนานขึ้นครับ
  7. อะไหล่ทุกตัวสั่งที่ศูนย์ได้ครับ ตาม part ในรูปเลย แต่จะมีบางตัวทีต้องรอนานหน่อย จากที่ได้ติดตั้งไปแล้วประมาณ 1 เดือน ถ้าจากความรู้สึกเลยคิดว่า อาการสั่นของเครื่องที่กระทำกับตัวรถน้อยลง รู้สึกว่ารถนิ่งขึ้นในรอบเดินเบา สาเหตุน่าจะมาจากการที่แท่นเกียร์ตัวนี้ไปช่วยรับแรงกระทำของเครื่องยนต์ แบ่งเบาภาระหน้าที่ของยางแท่นเครื่องอีกสามจุดที่เหลือ สิ่งที่คาดหวังในระยะยาวของผมคือมันน่าจะช่วยยืดระยะอายุการใช้งานของแท่นเครื่องตัวอื่นโดยเฉพาะยางแท่นเครื่องด้านคนขับที่ซุดกันเร็วเหลือเกิน ถ้าเทียบกับรุ่นอื่น
  8. เนื่องจาก HONDA CIVIC FD 2.0 ปี 2010 คันที่ผมใช้อยู่ไม่มียางแท่นเกียร์ตัวหน้า ไม่มันใจว่าคันอื่นเป็นเหมือนกันหรือป่าว จากนั้นจึงทำการหาซื้ออะไหล่ตัวที่ต้องใช้ในภาระกิจครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย 1. BOLT FLANGE, 12X88 จำนวน 1 ตัว 2.น๊อตตัวเมีย ตัวที่ใส่กับ BOLT FLANGE, 12X88 จำนวน 1 ตัว (ตัวนี้ราคาแรงหน่อย เพราะ MADE IN JAPAN) 3.BOLT FLANGE, 12X35 จำนวน 2 ตัว (ที่ติดมากับรถ จะมี 1 ตัว แต่มันจะสั้นกว่า) 4.ยางแท่นเครื่องตัวหน้า วีธีการติดตั้ง ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เอารถไปขึ้นฮ้อยยกรถ แล้วไข BOLT FLANGE, ตัวเก่าที่สั้นกว่าออก แล้วก็ใสแท่นเครื่องตัวหน้าเข้าไป ขันน็อตทุกตัวก็เรียบร้อยแล้วครับ (ดูรูปประกอบครับ) รูปยังไม่ได้รับการติดตั้ง (มองจากด้านล่างรถ) รูปการติดตั้งเสร็จแล้ว (มองจากด้านล่างรถ) รูปการติดตั้งเสร็จแล้ว (มองจากด้านบนรถ) รูปการติดตั้งเสร็จแล้ว (มองจากด้านบนรถอีกรูป) เนื่องจากการติดตั้งได้ทำการติดตั้งเข้าไปเอง โดยไม่รู้ว่าจำเป็นต้องติดตั้งเข้าไปหรือไม่ ผลที่ตามมาจะมีผลอย่างไรยังไม่สามารถตอบได้ เเต่ที่ได้ทำการติดตั้งเพราะ ใน CIVIC FD2 TYPE R ก็มียางแท่นเกียร์ในตำแหน่งนี้ (แต่รูปร่างไม่เหมือนกันนะครับ) ประกอบกับ CIVIC FD 2.0 มีหูจับมาให้ก็เลยลองใส่ไป สุดท้ายเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ใช้ CIVIC FD 2.0 ที่มีแท่นเกียร์ตัวหน้าแล้วหรือไม่มีเหมือนคันของผม ช่วยชี้แนะด้วยครับว่าจำเป็นไหม ผลดีผลเสียเป็นอย่างไร ขอบคุณครับ (ค่าเสียหายทั้งหมด ประมาณ 1,000 บาทไทยครับ)
×
×
  • Create New...