-
Posts
381 -
Joined
-
Last visited
-
Days Won
2
Content Type
Profiles
Forums
Events
Everything posted by ken_style
-
กระทู้ขอบคุณ พี่เก๋ 96.5 ครับ
ken_style replied to Prince_civicclub's topic in CivicClub Lobby | ห้องรับแขก
เคยรถแบ็ตหมดแถววัดหน้างต่างนอก อยุธยา โทรหาเก๋กริ๊งเดียว มาทันที ต้องขอบคุณจริงๆกับน้ำใจคนคนนี้ -
เที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
ken_style replied to man_comsci's topic in Travel & Foretaste Room | ห้องท่องเที่ยวตระเวนชิม
ฤดูเที่ยวน้ำตกมาถึงแล้ว เส้นทางหลังจากที่ราดยางแล้วขับมันส์จริงๆ -
HBD ด้วยคนครับ แป๊ปเดียวเอง เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
-
ขึ้นบ้านใหม่โซนดินแดง 16/05/55
ken_style replied to ken_style's topic in CCTH - Metropolitan กรุงเทพและปริมณฑล
ไงโดนประกาศจับเหรอน้องฟ้า ตอนแรกพี่นึกว่ารถใครสีแดงติด ติ๊กเกอร์ zone ดินแดงด้วย ใน zone ก็ไม่มีใครสีแดงเลย นึกว่า ติ๊กเกอร์ ดินแดงมีคนทำปลอม แต่ดูทะเบียนคุ้นๆอยู่ก็เลยจำได้ -
ขอบคุณมากเลยครับ
-
แล้วรถมอไซด์มีให้เช่าใหมครับ ถ้าไม่มีผมคงต้องหาเหมารถรับจ้างตระเวณเที่ยวก่อน แล้วค่อยไปนอนลำปางแล้วหาเช่ารถแถวนั้นเที่ยว เพราะหลักๆตั้งใจจะไปไหว้พระธาตุช่อแฮ กับ พระธาตุลำปางหลวง แล้วที่เหลือกะจะหาเที่ยวเก้บภาพวัดเก่าๆตามเส้นทางระหว่างแพร่กับลำปาง แล้วช่วงเย็นมี บขส นั่งไปลำปางหรือเปล่าครับ
-
ถ้ำนกนางแอ่นอยากกลับไปซ้ำอีกเหมือนกัน แต่ถ้ำเสาหินคงไม่เข้าแล้วเพราะหนักเกิน ตอนขากลับ แล้วเป็นถ้ำมืดด้วย บริเวณนั้น ยังมีอีก 3 ถ้ำถ้ำใหญ่ เข้าไม่ได้แล้วเพราะเพดานถ้ำพังลงมา ส่วนถ้ำ world cup กับถ้ำน้ำตก อีก 2 ถ้ำ เขาปิดอยู่ เพราะว่าเป็นถ้ำเป็น เขาเคยเปิดให้เข้าชม พอคนเข้าไปชมแล้วทำความเสียหายให้ตัวถ้ำ เลยต้องปิดให้ถ้ำใช้เวลาฟื้นตัวก่อนแต่คงเป็น 10 ปีนั้นแหละ ปีนึงเขาจะเปิดให้ชมถ้ำประมาณ 3 เดือนช่วงมีนา-พฤษภา เพราะถ้าเข้าหน้าฝนแล้วน้ำจะท่วมถ้ำเข้าไม่ได้ครับหมอเนศ
-
ขึ้นบ้านใหม่โซนดินแดง 16/05/55
ken_style replied to ken_style's topic in CCTH - Metropolitan กรุงเทพและปริมณฑล
เบบี๋ -
สวัสดีครับชาวแพร่ รบกวนสอบถามหน่อยครับ คือผมจะไปจังหวัดแพร่ ไม่ทราบว่าที่ตัวจังหวัดมีบริการรถเช่าหรือเปล่าครับ พอดีไม่อยากขับรถไปเอง จะไปหาเช่ารถที่โน่นขับเที่ยวเอง และที่พักในเมืองราคาไม่แพงมากพักที่ไหนดีครับ ขอบคุณครับผม
-
ถึงปากทางเข้าถ้ำแล้ว อันนี้ถือว่าเป็น window แรก ถ้ำนี้เป็นถ้ำเปิด มีแสงสว่าง ไม่ต้องใช้ไฟฉาย.... หายใจได้สะดวก ไม่อับชื้น มองเห็นได้ชัดเจน เพราะผนังถ้ำพังลงมาเป็นช่วงๆ ....(เรียกว่า Karst window เป็นลักษณะทางภูมิศาสตร์อย่างหนึ่งเป็นเพดานถ้ำที่ถล่มลงมา โดยต้องมีลำธารน้ำไหลผ่านพื้นที่บริเวณนั้นด้วย...... ถ้ำนกนางแอ่นมีลักษณะของ Karst window ถึง 4 แห่ง ) ใช้เวลา ล่องน้ำในถ้ำประมาณ 2 ชม. เศษ ก็ออกมา เราปีนป่ายกันต่อเพื่อไปยังจุดที่ต้องเริ่มลอยคอไปตามน้ำ
-
เจ้าหน้าที่บอกว่าเส้นทางไม่โหดมาก แต่พอมาถึงก็เริ่มไต่ขึ้นเนินเขากันแล้ว เป็นเขาหินปูนสภาพเป็นหินคมๆ ล้มลงไปมีหวังเลือดสาดกันบ้าง รุ่นพี่ที่มาด้วยกันเริ่มออกอาการอีกแล้ว เพราะยังไม่หายดีจากเมื่อวาน แต่ก็ยังฮึดสู้ตามพวกเรามาจนได้ เดินไต่ระดับมาสักพักถึงจุดชมวิวผานกนางแอ่น เส้นทางช่วงนี้จะมีลมเย็นๆพัดมาให้คลายร้อนคลายเหนื่อยได้บ้าง ส่วนภาพที่เห็นมีปีนป่ายอันนั้นเป็นแค่มุมกล้องเท่านั้น ทางจริงไม่ได้ลำบากอะไรมาก เราจะต้องเดินขึ้น ลง เนินที่ไม่สูงมาก ระยะทางประมาณ 1 กม. จะถึงปากทางเข้าถ้ำ
-
.....เช้าวันที่สอง ตื่นขึ้นมาพร้อมความปวดเมื่อยเพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนกินยาคลายกล้ามเนื้อไป ค่อยยังชั่วลงหน่อย เรารีบจัดแจงทำอาหารเช้าและทำเตรียมไว้สำหรับมื้อกลางวันที่เราจะกลับมากินที่นี่ รถมารอพวกเราแล้วต้องรีบกินรีบเก็บกันชุลมุน เพราะเราออกกันสายแล้ว รถกระบะขับพาเรามาส่งที่จุดเริ่มเดิน แวะชักภาพเป็นที่ระลึก ก่อนลุย..
-
ถ้ำนกนางแอ่น คือแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในท้องที่ หมู่ 5 บ้านเขาพระอินทร์ ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นถ้ำขนาดใหญ่ โตกว้างขวาง มีความยาวถึง 3 กิโลเมตร โดยมีลำห้วยคลองงูไหลผ่าน ลักษณะพิเศษคือ เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเหมือนปล่องภูเขาไฟทำให้ถ้ำนกนางแอ่นแบ่งออก เป็น 3 ช่วงเหมือนกับโบกี้รถไฟมาต่อกัน แต่มีขนาดใหญ่โตมาก บนเพดานถ้ำมีช่องเปิดหลายแห่ง ผนังถ้ำเต็มไปด้วยผลึกแคลไซด์แวววาว ในถ้ำมีหินงอกลักษณะคล้ายถ้วยเวิลด์คัพขนาดใหญ่ และหินปูนแผ่กว้างเป็นม่านน้ำตกสูงใหญ่หลายสิบ เมตร การเกิดถ้ำนกนางแอ่นนี้มีลักษณะทางธรณีวิทยาเรียกว่า หน้าต่างคาสท์ เกิดขึ้นโดยการยุบตัวลงของเพดานทำให้มองเห็นน้ำใต้ดินใหลผ่าน มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก ภาย ในถ้ำยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยฝูงนกนางแอ่นฝูงใหญ่ การเข้าเยี่ยมชมถ้ำต้องมีการติดต่อล่วงหน้าและมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น การเดินทาง ทางรถยนต์ใช้เส้นทางเดียวกับถ้ำเสาหิน จากบ้านพุเตย เดินทางต่อไปอีก 6 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านเขาพระอินทร์ จากหมู่บ้านเขาพระอินทร์จะมีถนนเดิน เลี้ยวขวา เข้าไปอีกระยะทางประมาณ3 กิโลเมตร ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อหรือหาเช่ารถไถนาดัดแปลง (รถอีแต๊ก) จากชาวบ้านเขาพระอินทร์ แล้วเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 30 นาที ก็จะถึงปากถ้ำ หรือใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) เลี้ยวขวาที่กิโลเมตร 26 (แยกพุทโธ) เข้าไปผ่านน้ำตกทุ่ง นางครวญ เลยไปจนถึงบ้านห้วยเสือ ระหว่างเส้นทางห้วยเสือ บ้านพุเตยจะผ่านบ้านเขาพระอินทร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนดินอีก 3 กิโลเมตรจะถึงจุดจอดรถแล้วเดินเท้าต่อไปอีก 30 นาที การเข้าชมควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หรือชาวบ้านจากหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงเป็นผู้นำชม และควรมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและเตรียมร่างกายก่อนการ เดินทาง ข้อมูลโดย : องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 336/1 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี 71000
-
ในที่สุดก็มาถึง camp จนได้ รีบเอากล้อง เอาเลนส์ออกมาเช็ค และผึ่งลมไว้ก่อน ทันที ต่อจากนั้นรีบหุงหาอาหาร เพราะหิวกันมว๊ากกก ผู้หญิงก็นอนพักกันไป ผู้ชายก็มาทำกับข้าว มื้อนี้มีปลาราดพริก ไข่เจียว ซุปไก่ และเนื้อแดดเดียว กินเสร็จ ก็ได้เวลาของขี้เมาทั้งหลายที่จะมานั่งสนทนากันอย่างออกรสชาติ เรื่องที่สนทนาก็ไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยในป่า เรื่องของบรรดาผุ้ชายทั้งหลาย เหล้าหมดไปอย่างรวดเร็วเพราะต้องประหยัดน้ำก็เลย on the rock กัน เวลาเพิ่ง 4 ทุ่มเอง แต่ทำไงได้เหล้าหมดแล้ว ก็เลยเข้านอนกัน ก่อนที่จะผจญภัยกันต่ออีกทริปในวันรุ่งขึ้น ......... จบ review ถ้ำเสาหินแต่เพียงเท่านี้ รอชมทริปถ้ำนกนางแอ่นกันต่อในกระทู้ต่อไปน่ะครับ
-
ขากลับเส้นทางที่ตอนขามาเราเดินกันสบายๆ เพราะเป็นทางลงอย่างเดียว กลายเป็นความลำบากมากกว่าจะไต่ขึ้นไปได้ การเดินในป่าที่มองไม่เห็นจุดหมายมันทรมานมากเพราะเดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงซักที ตอนแรกคิดว่าเบากว่าเขาช้างเผือก กลายเป็นเผลอๆจะหนักกว่าซะอีก เดินไปพักไปก็หลายชั่วโมงอยู่กับระยะทางประมาณ 4-5 กิโลกว่าๆ เพราะเป็นทางขึ้นอย่างเดียว ก่อนจะผ่านเนินปราบเซียนมาได้เล่นเอาระบมไปเหมือนกัน
-
ภายในถ้ำมืดมากและเต็มไปด้วยกลิ่นขี้ค้างคาว เราลอยคอกันไปอย่างหวั่นๆว่าไม่รู้จะมีอะไรอยู่ใต้น้ำบ้างหรือเปล่า เดี๋ยวลงน้ำเดี๋ยวปีนขึ้นไปเดิน เป็นช่วงๆ อยู่ไม่นาน เราก็เห็นเสาหินตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ต้องใช้ไฟฉายแสงแรงๆ ถึงจะถ่ายได้เต็มต้น จัดการกางขาตั้งกล้อง ถอด housing กันน้ำเข้ากล้องงอก ล้วงเข้าไปในถุงกันน้ำ เพื่อจะเปลี่ยนเลนส์ปรากฎว่าน้ำเข้าถุงกันน้ำ ตกใจอย่างแรงรีบหยิบเลนส์มาดูยังดีที่น้ำแค่เริ่มซึมเข้าไปในกระเป๋าใส่เลนส์ เช็คถุงกันน้ำอีกทีว่ารั่วหรือเปล่า ปรากฎว่าไม่รั่ว แต่คงเป็นเพราะตอนพับปากถุงกันน้ำไม่ดีน้ำถึงซึมเข้าไปได้ เลยเสียเวลาไปตรงนี้เยอะ พอจะมาถ่ายก็ลำบากในการหา focus อีกเพราะแสงน้อยมากๆ ลำพังแค่ไฟฉายตัวเดียวไม่พอ ต้องรุมกันฉายไปที่เสาหิน กว่าจะได้ภาพมา มีพอดูได้อยู่ 2 รูป นอกนั้นเสียหมด อีกอย่างแมลงภายในถ้ำบินมาตอมแสงไฟเยอะมาก เสียงเจ้าหน้าที่บอกว่าได้เวลากลับแล้ว ยังถ่ายไม่จุใจ แต่ถ้าให้มาแก้มืออีกคงไม่มาแล้ว เพราะไม่คุ้มกับอุปกรณ์ถ่ายภาพพัง ถ้าเป็นอะไรไปนี่คงเสียดายมาก และขากลับเส้นทางไต่ขึ้น โหดมาก ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูหินลายไม้ซึ่งพอโดนน้ำแล้วกระทบแสงไฟจะเป็นมันเลื่อมดูเหมือนหน้าตุ๊กแกการ์ตูนสวยดี