Jump to content

ken_style

CCTH Crew
  • Posts

    381
  • Joined

  • Last visited

  • Days Won

    2

Everything posted by ken_style

  1. เคยรถแบ็ตหมดแถววัดหน้างต่างนอก อยุธยา โทรหาเก๋กริ๊งเดียว มาทันที ต้องขอบคุณจริงๆกับน้ำใจคนคนนี้
  2. เค็นมอบตัวครับ ปกติจะไม่โดนจับเพราะขับกลางคืนเท่านั้น แต่วันนั้นพอดีออกไปเร็วหน่อยเลยโดนจับซะเลย
  3. ฤดูเที่ยวน้ำตกมาถึงแล้ว เส้นทางหลังจากที่ราดยางแล้วขับมันส์จริงๆ
  4. HBD ด้วยคนครับ แป๊ปเดียวเอง เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน
  5. ไงโดนประกาศจับเหรอน้องฟ้า ตอนแรกพี่นึกว่ารถใครสีแดงติด ติ๊กเกอร์ zone ดินแดงด้วย ใน zone ก็ไม่มีใครสีแดงเลย นึกว่า ติ๊กเกอร์ ดินแดงมีคนทำปลอม แต่ดูทะเบียนคุ้นๆอยู่ก็เลยจำได้
  6. แล้วรถมอไซด์มีให้เช่าใหมครับ ถ้าไม่มีผมคงต้องหาเหมารถรับจ้างตระเวณเที่ยวก่อน แล้วค่อยไปนอนลำปางแล้วหาเช่ารถแถวนั้นเที่ยว เพราะหลักๆตั้งใจจะไปไหว้พระธาตุช่อแฮ กับ พระธาตุลำปางหลวง แล้วที่เหลือกะจะหาเที่ยวเก้บภาพวัดเก่าๆตามเส้นทางระหว่างแพร่กับลำปาง แล้วช่วงเย็นมี บขส นั่งไปลำปางหรือเปล่าครับ
  7. ถ้ำนกนางแอ่นอยากกลับไปซ้ำอีกเหมือนกัน แต่ถ้ำเสาหินคงไม่เข้าแล้วเพราะหนักเกิน ตอนขากลับ แล้วเป็นถ้ำมืดด้วย บริเวณนั้น ยังมีอีก 3 ถ้ำถ้ำใหญ่ เข้าไม่ได้แล้วเพราะเพดานถ้ำพังลงมา ส่วนถ้ำ world cup กับถ้ำน้ำตก อีก 2 ถ้ำ เขาปิดอยู่ เพราะว่าเป็นถ้ำเป็น เขาเคยเปิดให้เข้าชม พอคนเข้าไปชมแล้วทำความเสียหายให้ตัวถ้ำ เลยต้องปิดให้ถ้ำใช้เวลาฟื้นตัวก่อนแต่คงเป็น 10 ปีนั้นแหละ ปีนึงเขาจะเปิดให้ชมถ้ำประมาณ 3 เดือนช่วงมีนา-พฤษภา เพราะถ้าเข้าหน้าฝนแล้วน้ำจะท่วมถ้ำเข้าไม่ได้ครับหมอเนศ
  8. สวัสดีครับชาวแพร่ รบกวนสอบถามหน่อยครับ คือผมจะไปจังหวัดแพร่ ไม่ทราบว่าที่ตัวจังหวัดมีบริการรถเช่าหรือเปล่าครับ พอดีไม่อยากขับรถไปเอง จะไปหาเช่ารถที่โน่นขับเที่ยวเอง และที่พักในเมืองราคาไม่แพงมากพักที่ไหนดีครับ ขอบคุณครับผม
  9. เสี่ยงมากครับทริปนี้ กลัวกล้องพังเหมือนกันพี่ทอม ต้องคอยเช็คไปตลอดทางเลย ทริปนี้โชคดีหน่อยมีตากล้อง 2 คนเลยมีภาพกับเขาบ้าง
  10. เราทุกคนออกจากถ้ำกันมาโดยสวัสดิภาพ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยาน ตุ้ง ต่อ เอ๋ และอีกหลายคนที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี รวมทั้งพี่ปอง หัวหน้าทริป ที่พาเราไปสถานที่ี่ที่น่าประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิต... แล้วพบกันใหม่ review ทริปหน้าน่ะครับ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชม
  11. และจุดนี้เองเป็นทางออกที่เราต้องวัดใจ โดดกันอีกครั้ง คราวนี้สูงกว่าเดิม เพราะถ้าไม่ไปทางนี้ก็ออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่เขาบอกมา ต้องเกลี้ยกล่อมหลอกล่อ ผู้หญิงกันอยู่นานกว่าจะยอมโดด พอโดดเสร็จ คนนำทริปกับเดินออกมาอีกทางโดยไม่ต้องโดด >< จระเข้กำลังเลื้อยขึ้นมางาบ
  12. พอเข้ามา window 4 ต้องตะลึงกับบรรยากาศภายในนี้ เพราะว่ามองไปทางไหน ก็ชวนจินตนาการไปถึงสัตว์ประลาดในหนังได้เป็นอย่างดีทีเดียว เอเลี่ยน VS อนาคอนด้า มือแม่นาค
  13. window ที่ 3 นี้เพดานถ้ำสูงมากจนเรากลายเป็นคนแคระไปในพริบตา มีหินงอกหินย้อยลวดลายต่างๆงดงามยิ่งนัก
  14. เข้าสู่ window ที่ 3 - 4 เหมือนเป็นอีกโลกนึงที่เราหลุดเข้ามา ราวกับว่าเป็นยุคดึกดำบรรพ์
  15. ลอยคอไปสักพักก็ลุกขึ้นเดินปีนเข้าไปใน window ที่ 2 ทางเข้าน้ำไหลแรงมากต้องขึงเชื้อก และพยายามเกาะเชือกไว้ให้แน่นไม่ยังงั้นน้ำจะพัดพาเราลอดใต้ถ้ำไปโผล่ที่ไหนไม่รู้
  16. ถึงปากทางเข้าถ้ำแล้ว อันนี้ถือว่าเป็น window แรก ถ้ำนี้เป็นถ้ำเปิด มีแสงสว่าง ไม่ต้องใช้ไฟฉาย.... หายใจได้สะดวก ไม่อับชื้น มองเห็นได้ชัดเจน เพราะผนังถ้ำพังลงมาเป็นช่วงๆ ....(เรียกว่า Karst window เป็นลักษณะทางภูมิศาสตร์อย่างหนึ่งเป็นเพดานถ้ำที่ถล่มลงมา โดยต้องมีลำธารน้ำไหลผ่านพื้นที่บริเวณนั้นด้วย...... ถ้ำนกนางแอ่นมีลักษณะของ Karst window ถึง 4 แห่ง ) ใช้เวลา ล่องน้ำในถ้ำประมาณ 2 ชม. เศษ ก็ออกมา เราปีนป่ายกันต่อเพื่อไปยังจุดที่ต้องเริ่มลอยคอไปตามน้ำ
  17. พอถึงยอดเขาแล้วที่นี่ก็เดินลงอย่างเดียว ต้องผ่าน "ประตูทะลุมิติ" เพื่อเข้าไปยังปากประตูเข้า ถ้ำนกนางแอ่น
  18. เจ้าหน้าที่บอกว่าเส้นทางไม่โหดมาก แต่พอมาถึงก็เริ่มไต่ขึ้นเนินเขากันแล้ว เป็นเขาหินปูนสภาพเป็นหินคมๆ ล้มลงไปมีหวังเลือดสาดกันบ้าง รุ่นพี่ที่มาด้วยกันเริ่มออกอาการอีกแล้ว เพราะยังไม่หายดีจากเมื่อวาน แต่ก็ยังฮึดสู้ตามพวกเรามาจนได้ เดินไต่ระดับมาสักพักถึงจุดชมวิวผานกนางแอ่น เส้นทางช่วงนี้จะมีลมเย็นๆพัดมาให้คลายร้อนคลายเหนื่อยได้บ้าง ส่วนภาพที่เห็นมีปีนป่ายอันนั้นเป็นแค่มุมกล้องเท่านั้น ทางจริงไม่ได้ลำบากอะไรมาก เราจะต้องเดินขึ้น ลง เนินที่ไม่สูงมาก ระยะทางประมาณ 1 กม. จะถึงปากทางเข้าถ้ำ
  19. .....เช้าวันที่สอง ตื่นขึ้นมาพร้อมความปวดเมื่อยเพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนกินยาคลายกล้ามเนื้อไป ค่อยยังชั่วลงหน่อย เรารีบจัดแจงทำอาหารเช้าและทำเตรียมไว้สำหรับมื้อกลางวันที่เราจะกลับมากินที่นี่ รถมารอพวกเราแล้วต้องรีบกินรีบเก็บกันชุลมุน เพราะเราออกกันสายแล้ว รถกระบะขับพาเรามาส่งที่จุดเริ่มเดิน แวะชักภาพเป็นที่ระลึก ก่อนลุย..
  20. ถ้ำนกนางแอ่น คือแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติลำคลองงู ในท้องที่ หมู่ 5 บ้านเขาพระอินทร์ ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นถ้ำขนาดใหญ่ โตกว้างขวาง มีความยาวถึง 3 กิโลเมตร โดยมีลำห้วยคลองงูไหลผ่าน ลักษณะพิเศษคือ เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเหมือนปล่องภูเขาไฟทำให้ถ้ำนกนางแอ่นแบ่งออก เป็น 3 ช่วงเหมือนกับโบกี้รถไฟมาต่อกัน แต่มีขนาดใหญ่โตมาก บนเพดานถ้ำมีช่องเปิดหลายแห่ง ผนังถ้ำเต็มไปด้วยผลึกแคลไซด์แวววาว ในถ้ำมีหินงอกลักษณะคล้ายถ้วยเวิลด์คัพขนาดใหญ่ และหินปูนแผ่กว้างเป็นม่านน้ำตกสูงใหญ่หลายสิบ เมตร การเกิดถ้ำนกนางแอ่นนี้มีลักษณะทางธรณีวิทยาเรียกว่า หน้าต่างคาสท์ เกิดขึ้นโดยการยุบตัวลงของเพดานทำให้มองเห็นน้ำใต้ดินใหลผ่าน มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก ภาย ในถ้ำยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยฝูงนกนางแอ่นฝูงใหญ่ การเข้าเยี่ยมชมถ้ำต้องมีการติดต่อล่วงหน้าและมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น การเดินทาง ทางรถยนต์ใช้เส้นทางเดียวกับถ้ำเสาหิน จากบ้านพุเตย เดินทางต่อไปอีก 6 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านเขาพระอินทร์ จากหมู่บ้านเขาพระอินทร์จะมีถนนเดิน เลี้ยวขวา เข้าไปอีกระยะทางประมาณ3 กิโลเมตร ต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อหรือหาเช่ารถไถนาดัดแปลง (รถอีแต๊ก) จากชาวบ้านเขาพระอินทร์ แล้วเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 30 นาที ก็จะถึงปากถ้ำ หรือใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) เลี้ยวขวาที่กิโลเมตร 26 (แยกพุทโธ) เข้าไปผ่านน้ำตกทุ่ง นางครวญ เลยไปจนถึงบ้านห้วยเสือ ระหว่างเส้นทางห้วยเสือ บ้านพุเตยจะผ่านบ้านเขาพระอินทร์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนดินอีก 3 กิโลเมตรจะถึงจุดจอดรถแล้วเดินเท้าต่อไปอีก 30 นาที การเข้าชมควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานฯ หรือชาวบ้านจากหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงเป็นผู้นำชม และควรมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้าและเตรียมร่างกายก่อนการ เดินทาง ข้อมูลโดย : องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 336/1 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี 71000
  21. ในที่สุดก็มาถึง camp จนได้ รีบเอากล้อง เอาเลนส์ออกมาเช็ค และผึ่งลมไว้ก่อน ทันที ต่อจากนั้นรีบหุงหาอาหาร เพราะหิวกันมว๊ากกก ผู้หญิงก็นอนพักกันไป ผู้ชายก็มาทำกับข้าว มื้อนี้มีปลาราดพริก ไข่เจียว ซุปไก่ และเนื้อแดดเดียว กินเสร็จ ก็ได้เวลาของขี้เมาทั้งหลายที่จะมานั่งสนทนากันอย่างออกรสชาติ เรื่องที่สนทนาก็ไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยในป่า เรื่องของบรรดาผุ้ชายทั้งหลาย เหล้าหมดไปอย่างรวดเร็วเพราะต้องประหยัดน้ำก็เลย on the rock กัน เวลาเพิ่ง 4 ทุ่มเอง แต่ทำไงได้เหล้าหมดแล้ว ก็เลยเข้านอนกัน ก่อนที่จะผจญภัยกันต่ออีกทริปในวันรุ่งขึ้น ......... จบ review ถ้ำเสาหินแต่เพียงเท่านี้ รอชมทริปถ้ำนกนางแอ่นกันต่อในกระทู้ต่อไปน่ะครับ
  22. ขากลับเส้นทางที่ตอนขามาเราเดินกันสบายๆ เพราะเป็นทางลงอย่างเดียว กลายเป็นความลำบากมากกว่าจะไต่ขึ้นไปได้ การเดินในป่าที่มองไม่เห็นจุดหมายมันทรมานมากเพราะเดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงซักที ตอนแรกคิดว่าเบากว่าเขาช้างเผือก กลายเป็นเผลอๆจะหนักกว่าซะอีก เดินไปพักไปก็หลายชั่วโมงอยู่กับระยะทางประมาณ 4-5 กิโลกว่าๆ เพราะเป็นทางขึ้นอย่างเดียว ก่อนจะผ่านเนินปราบเซียนมาได้เล่นเอาระบมไปเหมือนกัน
  23. ภายในถ้ำมืดมากและเต็มไปด้วยกลิ่นขี้ค้างคาว เราลอยคอกันไปอย่างหวั่นๆว่าไม่รู้จะมีอะไรอยู่ใต้น้ำบ้างหรือเปล่า เดี๋ยวลงน้ำเดี๋ยวปีนขึ้นไปเดิน เป็นช่วงๆ อยู่ไม่นาน เราก็เห็นเสาหินตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ต้องใช้ไฟฉายแสงแรงๆ ถึงจะถ่ายได้เต็มต้น จัดการกางขาตั้งกล้อง ถอด housing กันน้ำเข้ากล้องงอก ล้วงเข้าไปในถุงกันน้ำ เพื่อจะเปลี่ยนเลนส์ปรากฎว่าน้ำเข้าถุงกันน้ำ ตกใจอย่างแรงรีบหยิบเลนส์มาดูยังดีที่น้ำแค่เริ่มซึมเข้าไปในกระเป๋าใส่เลนส์ เช็คถุงกันน้ำอีกทีว่ารั่วหรือเปล่า ปรากฎว่าไม่รั่ว แต่คงเป็นเพราะตอนพับปากถุงกันน้ำไม่ดีน้ำถึงซึมเข้าไปได้ เลยเสียเวลาไปตรงนี้เยอะ พอจะมาถ่ายก็ลำบากในการหา focus อีกเพราะแสงน้อยมากๆ ลำพังแค่ไฟฉายตัวเดียวไม่พอ ต้องรุมกันฉายไปที่เสาหิน กว่าจะได้ภาพมา มีพอดูได้อยู่ 2 รูป นอกนั้นเสียหมด อีกอย่างแมลงภายในถ้ำบินมาตอมแสงไฟเยอะมาก เสียงเจ้าหน้าที่บอกว่าได้เวลากลับแล้ว ยังถ่ายไม่จุใจ แต่ถ้าให้มาแก้มืออีกคงไม่มาแล้ว เพราะไม่คุ้มกับอุปกรณ์ถ่ายภาพพัง ถ้าเป็นอะไรไปนี่คงเสียดายมาก และขากลับเส้นทางไต่ขึ้น โหดมาก ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ชี้ให้ดูหินลายไม้ซึ่งพอโดนน้ำแล้วกระทบแสงไฟจะเป็นมันเลื่อมดูเหมือนหน้าตุ๊กแกการ์ตูนสวยดี
×
×
  • Create New...