Jump to content

mnirun

CCTH Member
  • Posts

    192
  • Joined

  • Last visited

Everything posted by mnirun

  1. อยู่นี่ครับ -> เปิดรับจอง พวงกุญแจ CCTH รายได้ทั้งหมดเพื่อทำกิจกรรมสร้างพระ
  2. ใช้แล้วเป็นอย่างไรครับ คุณปู่ ของใช้งาน ใครบอกว่าของเล่นครับ น้องต้น ไม่แน่ใจครับ เพราะเขาออกแบบมาให้ใช้ภายในห้องโดยสาร ถ้าหากเอาไปใช้ในห้องเครื่องเกรงว่าจะสกปรกมาก จนใช้ได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนอันใหม่ครับ
  3. ลองดูครับ ราคาไม่แพงครับ แต่ใช้แล้วคุ้มครับ น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ อารมณ์เวลาจับ Cyber Clean มันเหมือนแอลล์กอฮอล์เจลครับ
  4. ส่วนตัวผมให้ Senna (ซ้ายมือ) เหนือกว่าครับ
  5. ครับผม ผมใช้งาน Car DVR กับ GPS พร้อมกันได้ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ ยังงงเลยว่ามันเกี่ยวกันอย่างไร ขับที่ 160 กม./ชม. GPS ก็ยังนำทางได้ปกติครับ เอาไว้วันเสาร์นี้ผมถ่ายวิดีโอการทดสอบโดยเอา GPS ทั้งสองตัวของผมไปจ่อกับกล้อง DVR เลย แล้วมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรกัน ดีไหมครับ
  6. เจออันที่น่าสนใจแล้ว รายการที่ 47. ฝาถังน้ำมัน FD คาบอนลาย 2 2999 บาท เต้ย mnirun 0897992900
  7. อันนี้ผล Dyno เดิมๆ เกือบทุกอย่าง เปลี่ยนแค่พักปลายเป็น ProDrager อย่างเดียวครับ
  8. เปลี่ยนกระจกมองข้างเป็น Spoon ด้วยจะหล่อกว่านี้อีก
  9. ด้วยความยินดีครับ อะไรกัน คุณน้อง Spoon
  10. ไอเดียดีแท้ ถ้าใครอยากได้ถูกๆ สั่งจาก eBay ได้ครับ ราคาประมาณ 260 บาท ผมก็ซื้อมาแต่ไม่ได้ใช้ เพราะไปเจออันอื่นที่ถูกใจมากกว่าครับ
  11. ชั้นใต้ดินครับ เป็นร้านใหญ่หาไม่ยากครับ กระทู้รีวิว ไม่ใช่กระทู้ขายของนะครับ ฮา
  12. สว้สดีครับเพื่อนๆ ทุกท่าน วันนี้ขอมารีวิวอะไรเปลกๆ กันบ้าง กับเจ้า Cyber Clean Car เจลทำความสะอาด ที่ว่ากันว่าสามารถกำจัดเชื้อโรคได้ถึง 99.999% Cyber Clean เป็นเจลทำความสะอาด มี 4 ชนิด ได้แก่ Car, Home & Office, Hypoallergenic, และ For Inside Shoes แต่สำหรับในวันนี้ผมจะมารีวิวตัว Cyber Clean Car ครับ ก่อนอื่นเรามาลองดูวิดีโอก่อนสักนิด จะได้เข้าใจว่าเจ้า Cyber Clean มันคืออะไร http://www.youtube.com/watch?v=jKoH6A2CDyU มาดูของจริงกันเลย เปิดฝากระปุกมาก็เจอกันแผ่นฟอยด์ แกะออกมา ก็จะเห็น Cyber Clean สีฟ้าในกระปุก ดูกันให้ชัดๆ สักนิด ถึงเวลาลองของจริงกันแล้ว ตัว Cyber Clean จะนิ่มๆ ผิวเหมือนจะมีน้ำอยู่นิดๆ แต่เมื่อใช้งานไม่ทำให้พื้นผิวเปียกแต่อย่างใด รอช้าอยู่ใย เริ่มกันเลย จัดช่องแอร์ไปเต็มๆ แบบนี้ ดึงออกมาเป็นรูปช่องแอร์ไปแล้ว สังเกตว่าฝุ่นเริ่มหายไปแล้วแต่ยังไม่หมดดีนักเนื่องจากเป็นช่องเล็กๆ ก็ให้เราทำความสะอาดหลายๆ ครั้งหน่อยครับ จัดปุ่มบนพวงมาลัยไปสักชุด ดึงออกมาเป็นรูช่องพวงมาลัยเลย สะอาดเอี่ยม จัดไปอีกทุกที่ ที่เราต้องการ เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็เก็บกลับเข้าไปในกระปุก เราสามารถใช้งาน Cyber Clean ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าจะสกปรกมากๆ จนเปลี่ยนสีไปเป็นแบบตัวอย่างข้างกระปุกครับ หาซื้อได้ที่ร้านคอมพิวเตอร์ Hardware House ตามห้างต่างๆ ใกล้บ้านท่าน ราคากระปุกละ 259 บาท แต่ผมซื้อมาจาก Hardware House สาขา Seacon Square ลดราคาเหลือแค่ 165 บาทครับ หวังว่าเพื่อนๆ จะมีความสนุกในการทำความสะอาดรถคันที่เรารักมากขึ้นอย่างที่ผมเป็นอยู่ครับ
  13. Cycle recording เป็นความสามารถพื้นฐานของ Car DVR อยู่แล้วครับ กล้องจะบันทึกเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด โดยเมื่อหน่วยความจำเต็ม กล้องก็จะทำการลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออกไปเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการ บันทึกเหตุการณ์ครับ Car DVR กับ GoPro มันคนละวัตถุประสงค์กัน เอาไปเทียบกันคงไม่ถูกนัก เหมือนเลี่อยฉลุกับเลี่อยไฟฟ้า ใช้เลื่อยไม้ด้วยกันทั้งคู่ แต่ต่างวัตถุประสงค์กันครับ ถูกต้องนะคร้าบ ผมจัดเต็มทุกรีวิวครับ พี่หมู ลองดูครับ http://www.google.co...p200&lr=lang_th 2,490 บาทครับ -------------------------------------------------------------------------------- กล้องติดรถยนต์ที่ดีๆ ยังมีอีกหลายยี่ห้อ ไม่จะเป็นต้องเป็น Provia P200 Season2 แต่ที่ผมเลือกตัวนี้เพราะตรงกับที่ผมต้องการ (ขนาด ราคา ความสามารถ) หากเพื่อนๆ ใช้ยี่ห้อไหนแล้วดีก็มาแชร์กันในกระทู้นี้ได้นะครับ จะได้เป็นทางเลือกให้กับชาว CCTH ท่านอื่นๆ ครับ
  14. ด้วยความยินดีครับ ตัวเดียว แต่ 2 กล้องก็มีนะครับ
  15. ซื้อของดีๆ หน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องซื้อหลายๆ รอบเหมือนผมครับ 2,490 บาทครับ กลางวันชัดดี กลางคืนไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะฟิลม์รถผมมืดพอสมควรเลยละครับ ขอบคุณครับ
  16. ความรู้เกี่ยวกับ Car DVR เริ่มแรกเลยก็ต้องปูพื้นความรู้กันก่อน เราจะมาลองดูว่าความสามารถของ Car DVR ที่เค้าโฆษณากันนั้น มันหมายความว่าอย่างไรกับบ้าง 1. Automatically recording after car start, automatically turn off after car stop ทำการบันทึกเหตุการณ์อัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถยนต์ หยุดบันทึกและปิดเครื่องเมื่อดับรถยนต์ไปแล้ว 5-10 วินาที โดยอาศัยไฟจากแบตเตอรี่ในตัวกล้อง 2. Wide angle len เลนส์มุมกว้าง สามารถบันทึกเหตุการณ์ได้กว้างกว่าเลนส์ปกติ กล้องราคาถูกบางตัวได้มุมกว้างก็จริง แต่สัดส่วนภาพจะผิดเพี้ยน รูปทรงบิดเบี้ยวและโค้งงอไปเยอะ 3. Cycle recording (overwrite first file if memory is full) บันทึกเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด โดยเมื่อหน่วยความจำเต็ม กล้องก็จะทำการลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออกไปเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอต่อการบันทึกเหตุการณ์ 4. Time slice ไฟล์วิดีโอของ Car DVR จะไม่ได้เป็นไฟล์ยาวๆ ไฟล์เดียวตลอดการบันทึกเหตุการณ์ แต่จะแบ่งออกเป็นไฟล์ย่อยๆ เช่น 2 นาที, 5 นาที, 15 นาทีต่อไฟล์ เป็นต้น ที่ต้องแบ่งเป็นไฟล์เป็นช่วงนาทีแบบนี้ก็เพื่อรองรับความสามารถของ cycle recording ยกตัวอย่าง สมมุติว่าหน่วยความจำของกล้องเราบันทึกเหตุการณ์ได้สูงสุด 60 นาที แล้วเราทำการบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด 61 นาที - time slice 2 นาที ถ้าเราบันทึกจนเต็มก็จะได้ 30 ไฟล์ แล้วกล้องก็จะลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออก 1 ไฟล์ (2 นาที) แล้วจึงบันทึกเหตุการณ์ใหม่ แสดงว่าเรามีข้อมูลตั้งแต่นาทีที่ 2:01 ถึงนาทีที่ 61:00 (หายไป 2 นาที) - time slice 5 นาที ถ้าเราบันทึกจนเต็มก็จะได้ 12 ไฟล์ แล้วกล้องก็จะลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออก 1 ไฟล์ (5 นาที) แล้วจึงบันทึกเหตุการณ์ใหม่ แสดงว่าเรามีข้อมูลตั้งแต่นาทีที่ 5:01 ถึงนาทีที่ 61:00 (หายไป 5 นาที) - time slice 15 นาที ถ้าเราบันทึกจนเต็มก็จะได้ 4 ไฟล์ แล้วกล้องก็จะลบไฟล์ที่เก่าที่สุดออก 1 ไฟล์ (15 นาที) แล้วจึงบันทึกเหตุการณ์ใหม่ แสดงว่าเรามีข้อมูลตั้งแต่นาทีที่ 15:01 ถึงนาทีที่ 61:00 (หายไป 15 นาที) 5. M-JPEG, H.264 ทั้ง M-JPEG และ H.264 นั้นก็คือการบีบอัดข้อมูลไฟล์วิดีโอ โดยกล้องระดับล่างๆ จนถึงกลางๆ จะใช้ M-JPEG เนื่องจากใช้อุปกรณ์ที่ราคาไม่แพง สามารถทำราคากล้องให้ถูกลงได้ แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดเลยก็คือใช้หน่วยความจำสูง ถ้าเราบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 1280x720@30FPS ต้องใช้พื้นที่ถึง 4.5GB/Hour ต่างกับ H.264 ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ราคาอุปกรณ์แพงกว่า M-JPEG ราคากล้องจึงสูงขึ้น แต่มีข้อดีที่ใช้หน่วยความจำน้อยลง 1280x720@30fps ใช้พื้นที่เพียง 2.4GB/Hour เท่านั้น 6. Seamless recording (no leak second) กล้องโดยทั่วไปจะเกิดการ "รั่ว" (leak) ของเหตุการ์ในระหว่างไฟล์ มากน้อยต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวกล้องและความเร็วของหน่วยความจำที่เราเลือกใช้ ซึ่งกล้องที่ผมใช้จะ leak ไป 3 วินาที เมื่อนำไฟล์มาเปิดดูต่อกับไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าเวลาหายไป 3 วินาที ถ้าหากเกิดเห็นการณ์ในระหว่างที่ leak แล้วละก็ เราก็จะไม่มีหลักฐานในช่วงเวลานั้นนั่นเอง ซึ่งเราสามารถลดจำนวนการ leak ขอกล้องโดยการเลือก time slice มากๆ ได้ แต่ก็ต้องแลกกับช่วงเวลาที่หายไป ตามที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อ time slice ซึ่งกล้องระดับกลางขึ้นไปจะสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้ครบถ้วนทุกวินาที ไม่เกิดการ leak เลย เรียกว่า seamless recording นั่นเอง 7. Motion detection กล้องบางรุ่นมีความสามารถบันทึก "ความเคลื่อนไหว" เมื่อกล้องตรวจพบความเคลื่นไหวในขณะที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ได้ ซึ่งจะบันทึกที่ frame rate ต่ำๆ เช่น 5 fps เพื่อไม่ให้เเปลืองหน่วยความจำมากครับ โดยอาจใช้ไฟจากแบตเตอรี่ในตัวกล้อง หรือใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อใช้ไฟโดยตรงจากแบตเตอรี่รถยนต์ โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่านี้จะตัดไฟเมื่อไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์เมื่อต่ำกว่าระดับที่เรากำหนดไว้ได้ เพื่อป้องกันแบตเตอรี่หมดนั่นเอง บอกได้เลยครับว่าอุปกรณ์เสริมที่ว่านี้มันแพงครับ 8. G-sensor เซ็นเซอร์วัดแรง G เมื่อเกิดแรง G อย่างรุนแรง เช่น เบรคกระทันหัน เกิดการชนขึ้น กล้องจะทำการป้องกันไม่ให้ไฟล์ที่กำลังบันทึกอยู่ถูกเขียนทับ โดยไฟล์ที่ถูกการบันทึกโดยวิธีนี้ จะดึงช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุการณ์ (Pre-recording) มารวมเอาไว้อยู่ในไฟล์ ยกตัวอย่างเช่น เกิดการชนกันเมื่อเวลา 15:00:00 น. กล้องจะบันทึกไฟล์นี้เอาไว้ตั้งแต่ 14:59:30 เป็นต้นไป (เวลาที่ถูก Pre-recording ขึ้นอยู่กับกล้องแต่ละตัว) เพื่อที่เมื่อเราเปิดไฟล์ขึ้นมาดู จะได้รู้ว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไรครับ 9. Emergency button G-sensor นั้นทำงานโดยอัตโนมัติ ไม่สามารถสั่งงานตามใจเราได้ กล้องบางตัวจึงมีปุ่ม emergency button ให้ใช้งานแบบแมนวลเพื่อป้องกันการเขียนไฟล์ทับ โดยใช้วิธีการ Pre-recording แบบเดียวกับ G-sensor ครับ ยกตัวอย่างเหตุารณ์ เช่น ขับรถอยู่แล้วถูกรถคันข้างหน้าลงมาหาเรื่อง เราก็กดปุ่ม emergency button เพื่อบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ เราก็แน่ใจได้ว่าไฟล์นี้จะไม่ถูกเขียนทับอย่างแน่นอนครับ ก่อนใช้งาน emergency button โปรดศึกาษข้อมูลของกล้องที่คุณใช้ก่อน ว่ารองรับไฟล์ที่ถูกบันทึกด้วยวิธีนี้สูงสุดกี่ไฟล์ บางกล้องรองรับได้ 10 ไฟล์ หากเรากดปุ่ม emergency button อยู่บ่อยๆ โดยเข้าใจว่าไฟล์จะถูกเก็บเอาไว้หมดไม่ถูกเขียนทับ แล้วพอจะใช้ไฟล์ขึ้นมาก็ไม่มีข้อมูลอยู่เสียแล้ว กล้องบางตัวให้ใช้พื้นที่ได้ถึงครึ่งหนึงของหน่วยความจำ แต่ยิ่งมีไฟล์ emergency เกิดขึ้นมาก ก็กินพื้นที่มาก เนื้อที่ในการจัดเก็บเหตุการณ์ปกติก็จะเหลือน้อยลงนั้นเอง พื้นที่ข้างต้นเป็นเพียงการยกตัวอย่างให้เข้าใจเท่านั้น ในการใช้งานจริงกล้องแต่ละตัวจะใช้พื้นที่แตกต่างกัน โปรดศึกษาข้อมูลจากกล้องของท่านอีกครั้งหนึ่ง 10. GPS กล้องบางรุ่นจะมี GPS เพื่อที่สามารถระบุตำแหน่งที่บันทึกเหตุการณ์ได้ ความเร็วรถยนต์ โดยเมื่อใช้ร่วมกับโปรแกรมที่มากับตัวกล้องก็สามารถวาดเส้นทางการเดินทางโดยอาจใช้แผนที่จาก Google Maps ได้ ตัวรับ GPS นั้นอาจรวมอยู่ในตัวกล้อง หรือเป็นอุปกรณ์แยกต่างหากแล้วเชื่อมสายเข้ากับตัวกล้องก็ได้ ข้อ 1. - 5. นั้นเป็นความสามารถพื้นฐานที่กล้องทุกตัวต้องมี ส่วนข้อ 5. ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะเลือกใช้การบีบอัดข้อมูลในแบบไหน ข้อ 6. - 10. เป็นความสามารถเพิ่มเติม ไม่จำเป็นต้องมีในกล้องทุกตัวครับ -------------------------------------------------------------------------------- ความหลากหลายของยี่ห้อและชื่อรุ่น กล้องราคาระดับล่างถึงกลาง (1000 - 3000 บาท ราคาอ้างอิงจาก eBay เพราะที่ขายในไทยมันบวกกำไรกันเป็นเท่าตัวเลยก็มี) ส่วนมากมาจากประเทศจีน ซึ่งมาจากหลากหลายโรงงาน ไม่มียี่ห้อและไม่มีชื่อรุ่นที่เป็นมาตรฐาน การเรียกชื่อกล้องจึงทำได้ลำบาก เพราะบางทีกล้องรุ่นเดียวกัน หน้าตาและความสามารถเหมือนกัน แต่ต่างโรงงานก็เรียกต่างรุ่นกันก็มี หรือบางทีกล้องหน้าตาภายนอกเหมือนกันทุกประการ แต่ภายในคนละเรื่องกันเลยก็มี ผู้ซื้ออย่างเราเลยต้องทำการบ้านมากหน่อย โดยหากได้ชื่อรุ่นของกล้องมาก็ลองไปค้นหาตัวอย่างไฟล์วิดีโอได้จาก YouTube ถ้าเป็นกล้องที่คนเค้านิยมใช้กันก็จะมีไฟล์ตัวอย่างให้ดู ถ้าค้นหาแล้วไม่เจอแนะนำให้มองหารุ่นอื่นแทนครับ ถ้าไม่เห็นภาพวิดีโอตัวอย่าง ผมไม่แนะนำให้ซื้อ เพราะซื้อมาแล้วอาจผิดหวังได้ครับ -------------------------------------------------------------------------------- แบ่งกลุ่มกล้องตามความสามารถ ผมแบ่งกลุ่ม Car DVR ออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ 1. Standard Definition 2. Interpolation HD 3. 720p HD 4. 1080p Full HD 5. Dual Camera 6. GPS -------------------------------------------------------------------------------- 1. Standard Definition ความละเอียดสูงสุด : 640x480 การบีบอัดข้อมูล M-JPEG (AVI) ขนาดไฟล์โดยประมาณ : 640x480@30FPS, 2.6GB/Hour ตัวอย่างกล้อง : ตัวอย่างวิดีโอ : 2.5"Color IR LED HD Car DVR Camera Recorder 640x480 Cheap Ebay Car DVR (6 IR LED's) Noname SXGA DVR recording -------------------------------------------------------------------------------- 2. Interpolation HD Interpolation = การขยายขนาดภาพ ตัวกล้องจริงๆ สามารถบันทึกาพได้ที่ความละเอียดต่ำ แล้วใช้ software ขยายให้ภาพใหญ่ขึ้น เหมือนเรามีภาพขนาดเล็ก แล้วกด zoom ขยายให้ใหญ่ ความละเอียดสูงสุด : 640x480 ความละเอียดสูงสุดโดยการขยายภาพ (software interpolation) : 1280x960 การบีบอัดข้อมูล : M-JPEG (AVI) ขนาดไฟล์โดยประมาณ : 1280x960@30FPS, 3.6 - 4 GB/Hour (software interpolation) ตัวอย่างกล้อง : ตัวอย่างวิดีโอ : S4000 car DVR HD 720p recording (interpolated 640x480) http://www.youtube.com/watch?v=fsKLRQBppTs PICT0087.AVI Record from "HD like" car DVR in 720p mode -------------------------------------------------------------------------------- 3. 720p HD ความละเอียดสูงสุด : 1280x720 การบีบอัดข้อมูล : M-JPEG (AVI), H.264 ขนาดไฟล์โดยประมาณ : - M-JPEG 1280x720@30FPS, 4.5 - 5 GB/Hour - H.264 1280x720@30FPS, 2.4GB/Hour ตัวอย่างกล้อง : ตัวอย่างวิดีโอ : ES-HD-T1 - PICT0016.AVI Dealextreme Car DVR Dash Cam TRUE 720P 30FPS 720P DVR Day 720P DVR Night HD 720p DVR sample -------------------------------------------------------------------------------- 4. 1080p Full HD ความละเอียดสูงสุด : 1920x1080 การบีบอัดข้อมูล : H.264 ขนาดไฟล์โดยประมาณ : 1920x1080@30fps, 3.6- 4 GB/Hour ตัวอย่างกล้อง : ตัวอย่างวิดีโอ : Abee V30 http://www.youtube.com/watch?v=gfGusC2fKkA PAPAGO! P1 http://www.youtube.com/watch?v=Ntm7i6ufRo4 Aiptek Car Camcorder X1, Autokamera, FullHD - Test Video No 5 http://www.youtube.com/watch?v=C-Jt_arEJkI 3400 FHD.AVI http://www.youtube.com/watch?v=9Kraj7QfXks -------------------------------------------------------------------------------- 5. Dual Camera ความละเอียดสูงสุด : 1280x480 (SD), 1920x720 (HD) การบีบอัดข้อมูล : M-JPEG, H.264 ขนาดไฟล์โดยประมาณ : - 1 Channel 640x480@30FPS, 1.3GB/Hour - 2 Channels 1280x480@30FPS, 2.6GB/Hour - 2 Channels 1920x720@30FPS, 9.0GB/Hour, M-JPEG ตัวอย่างกล้อง : ตัวอย่างวิดีโอ : Dual car camera DVR black box in Lamborghini Gallardo Spyder http://www.youtube.com/watch?v=BZWUv-Abmzk Blackbox DVR X3000 dual camera DVR http://www.youtube.com/watch?v=ti9JPLz-gkE Dual Camera HD Vehicle Car DVR Road Dashboard Recorder http://www.youtube.com/watch?v=IW2ZSE5ZO34 -------------------------------------------------------------------------------- 6. GPS ความละเอียดสูงสุด : 1920x1080 การบีบอัดข้อมูล : H.264 ขนาดไฟล์โดยประมาณ : 1920x1080@30fps, 3.6 - 4 GB/Hour ตัวอย่างกล้อง : ตัวอย่างวิดีโอ : Sekmadienis parke su KOME CR19S http://www.youtube.com/watch?v=VvQj21UZ-Ak v1000gs http://www.youtube.com/watch?v=RIzpP1wGTHc
  17. เกริ่นนำ ตัวผมเองอยากได้กล้องติดรถยนต์ที่ขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องมีหน้าจอแสดงผล และราคาไม่แพงมากนัก เอาไว้บันทึกเหตุการณ์เผื่อต้องใช้ในยามจำเป็น แต่เอาเข้าจริงๆ นี่ก็เป็นตัวที่ 3 แล้ว เอาเงินมารวมกันซื้อยี่ห้อดีๆ ได้ 1 ตัวเลย เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายจริงๆ 2 ตัวก่อนไม่น่าประทับใจเพียงพอต่อการรีวิวและการใช้งานสักเท่าใดนัก จนมาถึงตัวนี้ที่คิดว่าดีเพียงพอที่จะให้เพื่อนๆ อ่านกันในวันนี้ครับ แนะนำตัว ผมเลือกใช้กล้อง Provia รุ่น P200 Season2 จากเกาหลี มีคุณสมบัติคร่าวๆ ดังนี้ - 2.0M pixels, 1/3" CMOS - เลนส์มุมกว้าง 120 องศา - บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 720x480 (D1), MPEG4 - บันทึกเสียง AAC - 13 เฟรม/วินาที - G Sensor - Seamless recording (มารู้ตอนใช้งานจริง) แกะกล่อง กล่องของ Provia P200 Season2 มีขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านบนระบุยี่ห้อและรุ่น มุมล่างระบุเอาชัดเจนว่า Made in Korea ของทั้งหมดในกล่อง ประกอบด้วย - ตัวกล้อง - ที่จ่ายไฟ - เทปกาวสำรอง 1 ชิ้น - ที่จัดระเบียบสายไฟ 3 ชิ้น - คู่มือใช้งานภาษาเกาหลี อ่านไม่ออก ก็ไม่ต้องไปอ่านมันครับ ฮา มาดูพระเอกของเรากันหน่อย ตัวกล้องสามารถปรับเอียงซ้าย-ขวา หน้า-หลังได้ มุมล่างจะเป็นช่องไมโครโฟน ซูมดูใกล้ๆ กันสักหน่อย ทางด้านขวาจะมีช่อง Video Out (ไม่มีสายมาให้), ช่องใส่ microSD ได้ตั้งแต่ 4-16GB (แนะนำให้ใช้ class 10) ผมลองเอา microSD 2GB มาใส่ดูว่าจะได้ไหม ปรากฎว่าใช้ไม่ได้ เครื่องไม่ยอมอัดวิดีโอครับ, ช่องเสียบไฟ 12V DC ส่วนด้านซ้ายและด้านล่างจะเป็นแบบนี้ครับ ด้านบนจะมีเทปกาวติดมาให้ กล้องตัวนี้ใช้ติดเทปกาว ไม่ได้ใช้ตัวดูดกระจกแบบกล้องทั่วไป ข้อดีคือติดแน่น ไม่มีเสียงขากล้องสั่น ภาพไม่สั่นไหว แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถถอดไปใช้กับรถคันอื่นได้ครับ ด้านหลังมีสวิทช์ เปิด-ปิด เราสามารถเปิดค้างเอาไว้ได้เลย เมื่อเราติดเครื่องรถกล้องก็จะเปิดขึ้นมาเองและเริ่มบันทึกวิดีโอโดยอัตโนมัติ และเมื่อดับรถกล้องก็จะปิดลงไปโดยอัตโนมัติเช่นกัน, ไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน เมื่อเปิดเครื่องมาไฟจะกระพริบ 10-15 วินาที จากนั้นก็จะติดค้างเป็นการบอกว่าบันทึกวิดีโออยู่ครับ หลอดไฟ LED ไม่แยงตาแต่อย่างใด ส่วนที่จ่ายไฟก็มีสายยาว สามารถเดินสายอ้อมมาทางเสา A หน้ารถ แล้วเดินผ่านมาด้านใต้พวงมาลัยได้สบายๆ ครับ การติดตั้ง การติดตั้งก็ไม่ยากครับ ใช้เวลา 10-15 นาทีก็เสร็จแล้วครับ ก่อนอื่นให้เล็งว่าเราต้องการจะติดตั้งไว้ตรงไหน ซึ่งจุดที่แนะนำก็คือด้านหลังกระจกมองหลัง เพราะเป็นจุดกึ่งกลางและไม่มีอะไรบดบังครับ แต่ของผมขยับออกมาทางด้านขวาก็เพราะว่าภาพวิดีีโอที่ได้ติดรูปสติกเกอร์หลวงพ่อมาในวิดีโอเยอะครับ แต่ถึงผมจะขยับออกมาเวลาเอาที่บังแดดลงจนสุดก็ไม่ชนกับตัวกล้องแต่อย่างใดครับ สายไฟก็เก็บไม่ยาก ใช้นิ้วดันสายไฟให้เข้าไปในฝ้าหลังคา ส่วนเสา A เราก็ดึงขอบยางประตูออกมาก่อน แล้วเอามือค่อยๆ ดึงเสา A ออก จากนั้นก็เอาสายไฟหลบเอาไว้ข้างในครับ รถผมฟิลม์หน้ามืดพอสมควร ถ้ามองจากด้านนอกก็จะเห็นประมาณนี้ครับ ขออภัยที่ถ่ายมาแล้วเป็นภาพสะท้อนหลังคาติดมาด้วย พยายามหาเหลี่ยมถ่ายแล้วแต่ยังไงก็หาไม่ได้ครับ ทดสอบการใช้งาน ผมทดสอบการใช้งานจริงทั้งกลางวันและกลางคืน โดยกล้องจะแยกบันทึกไฟล์ออกเป็น 3 โฟลเดอร์ตามเหตุการณ์ต่างๆ (ภาษาเกาหลีอีกเช่นเคย แต่อย่าได้แคร์ครับ) ได้แก่ - Motion recording บันทึก "ความเคลื่อนไหว" เมื่อกล้องตรวจพบความคลื่นไหวในขณะที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ได้ โดยต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อใช้ไฟโดยตรงจากแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งผมจะไม่สามารถทดสอบความสามารถนี้ได้ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์เสริมครับ - Normal recording บันทึกเหตุการณ์ทั่วไป โดยกล้องจะสร้างโฟลเดอร์ตามปีเดือนวันและเวลา โดยในหนึ่งโฟลเดอร์จะมีไฟล์ได้ 100 ไฟล์ เมื่อครบ 100 ไฟล์แล้วกล้องจะสร้างโฟลเดอร์ให้ใหม่ครับ - Event recording แยกบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้ G Sensor ที่อยู่ในตัวกล้องเมื่อเกิดแรง G ขึ้น เช่น เบรคกระทันหัน เกิดการชนขึ้น โดยจะตัดเวลาก่อนเกิดแรง G 10 วินาที และหลังเกิดแรง G 10 วินาที (แต่ละไฟล์จึงยาวแค่ 20 วินาที) ไปเก็บเอาไว้ในโฟลเดอร์นี้ เพื่อให้สะดวกในการย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ในภายหลัง โดยกล้องจะเก็บไฟล์เหตุการณ์ได้สูงสุด 100 ไฟล์ครับ ซึ่งข้อเสียของกล้องรุ่นนี้จุดหนึ่งก็คือ G Sensor มันไวไปหน่อย ขับรถเร็วหน่อยแล้วโยกหลบหลุม, โดดคอสะพาน, เบรคแรงหน่อยก็ตัดมา Event แล้ว โดยไฟล์ที่ได้จะเป็นนามสกุล (container) .avi เข้ารหัส (encoding) วิดีโอด้วย MPEG4 เข้ารหัสเสียงด้วย AAC ไฟล์นึงยาวไม่เกิน 2 นาที ใช้พื่นที่ประมาณ 30MB อ่านกันมาเยอะแล้ว มาดูของจริงกันบ้าง เริ่มจากตอนเช้าๆ บนทางด่วนวงแหวนรอบนอก ตอนสายๆ ในวันเมฆครึ้ม แดดไม่ค่อยมี กับ Civic Type R ขาวๆ ต่อด้วยลอดอุโมค์แยกอุดมสุขสักหน่อย มาดูตอนกลางคืนรถติดๆ หน้าด่านกันบ้าง ใช้ความเร็วบนทางด่วน ในยามค่ำคืน Seamless recording สิ่งหนึ่งที่ผมพึ่งมารู้ภายหลังจากที่ได้ใช้งานแล้วก็คือ P200 มี Seamless recording ด้วย! กล้องโดยทั่วไปจะเกิดการ "รั่ว" (leak) ของเหตุการ์ในระหว่างไฟล์ มากน้อยต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวกล้องและความเร็วของหน่วยความจำที่เราเลือกใช้ ซึ่งกล้องตัวก่อนหน้าที่ผมใช้กับ SanDisk Mobile Ultra microSD class 6 16GB ราคา 799 บาท (เมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา) จะ leak ไป 3 วินาที เมื่อนำไฟล์มาเปิดดูต่อกับไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าเวลาหายไป 3 วินาที ถ้าหากเกิดเห็นการณ์ในระหว่างที่ leak แล้วละก็ เราก็จะไม่มีหลักฐานในช่วงเวลานั้นนั่นเอง ส่วนกล้อง P200 ผมใ้ช้ SanDisk Mobile Ultra microSD class 10 16GB ราคา 600 บาท (เมื่อต้นเดือนนี้) ซึ่งจากการใช้งานจริงพบว่าเป็น Seamless recording หากเราเอาไฟล์มาเปิดต่อกันก็จะไม่เห็นว่ามีวินาทีไหนหายไปเลย ไม่เว้นแม้กระทั่ง Event recording ผมทดลองเอาไฟล์จาก Normal กับ Event มาต่อกันก็ยังเป็น Seamless recoding ด้วย! มาลองดูของจริงกัน จบไฟล์ Normal แรกที่ 14:35:37 เริ่มไฟล์ Event ที่ 14:35:37 หากดูภาพจะเหมือนไม่ต่อกัน แต่ถ้าเล่นไฟล์วิดีโอจะเห็นว่ามันต่อกัน ไม่มีส่วนไหนหายไปเลย กล้องตัดเข้า Event เพราะโยกซ้ายหลบถนนที่มันไม่เรียบครับ จบไฟล์ Event ที่ 14:36:17 เริ่มไฟล์ Event ที่ 14:36:17 กล้องตัดเข้า Event เำพราะเบรคระหว่างทำความเร็ว เนื่องจากมีรถเข้ามาในเลนครับ จบไฟล์ Event ที่ 14:36:37 เริ่มไฟล์ Normal ที่ 14:36:38 วินาทีเปลี่ยนพอดี แต่นั่งดูแล้วก็็ไม่มีส่วนไหนหายไปครับ จริงๆ แล้วผมใช้โปรแกรม Avidemux ต่อไฟล์แล้วเปิดดูว่าเป็น Seamless recording หรือไม่ครับ หากเปิดด้วยโปรแกรมดูหนังทั่วไปมันจะกระตุกตอนเปิดไฟล์ใหม่นิดนึง แต่ที่ผมใช้หน้าจอจากโปรแกรมดูหนังก็เพราะว่ามันเห็นชัดเจนว่าเริ่มไฟล์ไหนเมื่อไหร่ จบไฟล์ไหนเมื่อไร่ครับ สรุป ภาพที่ได้อาจไม่ชัดมากมายนัก แต่อย่างน้อยก็สามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ใช้ในยามเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งนั่นก็เพียงพอต่อความต้องการของผมแล้วครับ ข้อดี - ขนาดเล็ก กระทัดรัด - ไฟล์มีขนาดเล็ก microSD 16GB อัดวิดีโอได้ประมาณ 16 ชม. - Seamless recording ไม่มีหล่นหายไปไหน ข้อเสีย - G Sensor ไวไปหน่อย เบรคแรงหน่อยก็ตัดเข้า Event แล้ว - ภาพชัดในระดับกลางๆ เห็นป้ายทะเบียนชัดในระยะใกล้ๆ เท่านั้น - ใ้ช้งานในตอนกลางคืนต้องอาศัยแสงไฟจากไฟหน้าและถนน หากติดฟิลม์หน้ามืด ภาพอาจออกมามืดไปนิด ผมได้สร้าง playlist ไว้ใน YouTube ซึ่งมีไฟล์วิดีโอมากกว่าที่ลงเอาไว้ในรีวิวนี้ สามารถดูได้จาก link ด้านล่างครับ &list=PL02266F0993AF1D1D&feature=plpp_play_all Provia P200 Season2 Seamless Recording &list=PL6C7948213F56CBF6&feature=plpp_play_all
  18. ผมส่งมั่ง top speed 442 km/h 0-200 เร็วกว่า Bugatti Veyron Bugatti Veyron SS & Hennessey Venom GT Venom GT specification: 0 -- 60 mph in2.5 sec. 1/4 Mile in 9.9 sec. @ 162 mph 0 -- 200 mph in 15.9 sec. (Bugatti Veyron = 24.2 sec.) Top Speed of 275 mph Horsepower = 1,200 bhp @ 6,500 rpm Torque = 1,155 lb-ft @ 4,200 rpm Specific Output =166 bhp / Liter Bhp / Weight = 767.23 hp per ton or 2.61 lbs / hp Boost = 16 psi (1.1 bar) Fuel = 93 octane
  19. ไม่ว่าง ติดธุระ เสาร์-อาทิตย์หน้าว่างครับผม
  20. เห็นแล้วเศร้าเลย เสียใจด้วยนะครับ ขอให้กลับมาเหมือนเดิมเร็วๆ ครับ
×
×
  • Create New...