bleachoat

ของผมก็เป็นน่ะครับ แต่อาจจะไม่ได้ดังเสียงแหลมแบบนี้ แต่ผมว่ามันหลายๆปัจจัยนะครับ ตัวเนื้อของผ้าเบรก ประกอบดีไหม ได้ทาจารบีตามจุดที่ควรจะทาครบไหม ใช้จารบีถูกประเภทรึเปล่า ตามสลักเบรกสะอาดดีอยู่ไหม แผ่นกันเสียงที่ยึดอยู่หลังผ้าเบรกใส่ดีไหม อะไรประมาณนี้อ่ะคับ ส่วนตัว ตอนแรกใช้ของ N-bra.. เสียงเวลาลาเบรกแบบเจ้าของกระทู้มีนิดหน่อยตอนจะหยุดดัง อึ๊ด เดียว แต่ตอนนี้ใช้ของ ben... เสียงก็มีคล้ายๆแบบเจ้าของกระทู้น่ะคับ ผมว่าอันนี้อยู่ที่ตัวคนขับมากกว่าว่ารับเสียงได้ไหม ของผมถ้าไม่ใช่เสียงแหลมๆเหมือนเหล็กสีกันแบบเสียงแหลมๆ ผมไม่ซีเรียสเลยครับ ผมคิดว่ามันเบรกปกติ เสียงมีบ้างตามอากาศ พอร้อนก็หายแล้วครับ
 
ถูกผิดยังไงขออภัยด้วยค้าบ

อธิบายให้ฟังละกันนะครับ ที่ลูกลอย มีปัญหากับ E85
เนื่องจาก Ethyl Alcohol มี Oxygen อยู่ด้วย ตามสูตรเคมี C2H6O
ในขณะที่ Benzene ไม่มี ตามสูตรเคมี C6H6
 
ดังนั้น ทองแดงที่เป็นหน้าสัมผัสของลูกลอย
ทำปฎิกริยากับไอระเหยแอลกอฮอล์และกระแสไฟฟ้า
จนทำให้ลูกลอยนั้น ใช้งานไม่ได้ในที่สุด
 
ดังนั้น ถึงเราจะเอาลูกลอยของรุ่นอื่นมาใช้
ก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจาก ECU ของรถ
ที่ทน E85 นั้น เค้าจะจับระดับของน้ำมัน
ตอนสตาร์ท หรือ คำนวณอัตราสิ้นเปลืองเอาครับ
 
สรุป ลูกลอยที่ทน E85 นั้นไม่มีครับ ต้อง
ลดกระแสไฟฟ้า ที่จะจ่ายเข้าไปที่ลูกลอย
ถึงจะไม่ทำให้ลูกลอยพัง

ถ้าเห็นรอยน้ำมันก็รู้เรื่องแล้วครับว่าลูกรอกเสียแน่ๆ ยิ่งอาการที่บอกว่าเข้าเกียร์ D เหยียบเบรกแล้วเร่งเครื่อง ของผมเคยเป็น ลองใส่ d เบรกแล้วเร่งเครื่องแช่ที่สัก 2 พันรอบอ่ะคับ เสียงจะดังครื้ดดดดด ถ้าใช่ ของผมเปลี่ยนลูกลอกสายพาน + สายพานไปเลย แล้วก็มีน๊อตใหม่1 ตัว ต้องเช็คแบบการคล้องสายพานดีๆด้วยนะคับ

บางทีจอดติดไฟแดง เข้าเกียร์เหยียบเบรคไว้ จะมีเสียงดัง คล๊อคๆๆๆๆๆ
แต่พอเร่งออกตัวปุ๊บ จะมีเสียงดัง คราดดดด!!! มาจากห้องเครื่อง พอรถลอยตัว กดคันเร่งแผ่วๆ เสียงก็หายไป แต่พอจังหวะเร่ง จังหวะที่ใช้แรงบิดออกตัว จะมีเสียงที่ว่า ดังมาเลยครับ
จากที่สังเกตดู สายพานมันไม่ค่อยตึงอะครับ เอามือข่มดู รู้สึกได้เลย
และมีรอยน้ำมันซึม จากโช๊คตัวเล็กๆ ที่มันติดอยู่กับลูกรอกอะครับ แต่พอผมถอดสายพานออก แล้วลองโยกลูกรอกดู โช๊คมันก็ดันได้ปกตินะครับ แต่ทำไมสายพานไม่ค่อยตึงครับ

เบิกของศูนย์น่ะคับประมาณ 25 บาทต่อตัวเองคับ ตอนแรกผมไปหากาวพวกอีพ็อกซี่มาเชื่อม ค่ากาวแพงกว่าเบิกน๊อตตัวนี้ใหม่อีกคับ 5555

คุณเกรซยังเข้ามาเยี่ยมอยู่ ดีใจ 
 
 
 
ปล.สมาชิกท่านนี้เป็นอาจารย์งาน Retrofit ไฟหน้าของผมครับ เผื่อใครไม่รู้จัก   แกเป็นสมาชิกเก่าแก่มาก   
 
คนแรกที่ทำ Retrofit ใน FD เลย ล้ำมากๆ กว่าจะมีคนทำตามแกได้ ก้อโน่น อีก 2 ปีให้หลังเลยครับ เก่งจริงๆ
 
ได้คุณเกรซแนะนำ + หาของให้ในราคาถูก (ตอนนั้นของหายาก แพงเว่อร์ๆ) เลยได้วิชามาจนบัดนี้ 

ผมจัด Re003 มาเรียบร้อยแล้วค้าบ ตั้งแต่วันนั้นเลยค้าบ เส้นละ 3800 ที่วงเวียน22 ค้าบผม
 
ขอบคุณพี่ๆมากค้าบ ^^

กลิ่นอาจจะติดที่แผ่นกรองแอร์น่ะคับ ลองเปลี่ยนกรองแอร์ดูก่อนคับ ถ้าไม่หายคงต้องล้างคอยเย็นต่อไปค้าบ

ผมเคยไปทำแถวๆเมืองทองคับ ร้าน injector shop หาในเฟสดูก็ได้คับ ตอนนั้นไปล้างรู้สึกจะเสียพันนึงพร้อมประกอบใส่ ถอดไปล้างและเทสในเครื่องเทสเลยคับ ถ้าหัวฉีดเสียลองหามือ2(ที่ร้านน่าจะมีคับ)
 
ของผมใช้ e85 ตอนแรกเอาไปล้างหัวฉีดที่นี่ สุดท้ายหัวฉีดเสีย เปลี่ยนเป็นมือ2 ที่ล้างเทสใหม่แล้ว 2พันเองคับ(ราคาที่ผมเปลี่ยนเป็นหัวฉีดK20 ใช้กับ e85 น่ะคับ) ปัจจุบันก็ใช้อยู่จะปีแล้วคับ
 
**ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านน่ะค้าบ แค่มาแนะนำเพราะเคยไปทำค้าบผม

ผมเคยโดนกัดก็ตัดส่วนนั้นทิ้งแล้วใช้เป็นเหมือนต่อตรงของตู้ปลาแต่เป็นสีดำๆ
 
ซึ่งจิงๆตรงช่วงท่อที่อยู่ตรงแผงจิ้งหรีดก็ใช้ข้อต่อแบบนี้อยู่แล้วคับ
 
หาร้านที่ขายพวกอุปกรณ์รถยนต์พวกพุ๊ก ไรงี้ใหญ่ๆหน่อยมีนะคับ

ทุกวันนี้ใช้มาปกติน่ะคับ จะเป็นปีแล้วคับ
 
ช่างย้ำแค่ว่าตอนที่น๊อตขาดคาขอแค่ว่าทำเกลียวให้ดี ใช้น๊อตใหม่ ย้ำค่าท๊อคแรงขันน๊อตตามสเป็ก ลูกรอกใหม่ สายพานเบอร์ใหม่ คล้องสายพานแบบใหม่ แค่นี้ก็ชัวแล้วค้าบ

*แล้วอยากทราบว่า FD 1.8 มียางแท่นเครื่องกี่ตัว , แท่นเกียร์กี่ตัว แล้วแต่ละตัวราคาประมาณเท่าไหร่
 
4 มั๊ง ถ้าจำไม่ผิด ตัวที่เสียบ่อยคือหน้าขวา (ด้านคนขับ) ตัวนี่สามพันกว่าครับ แท่นเกียร์ 1700 รึไงนี่แหละ อีก 2 ตัวเป็นยางตันๆ ไม่ค่อยเสียครับ
 
**แล้วคลัชคอมแอร์เสีย จะมีอาการอย่างไร (พอดีเวลาคอมแอร์ทำงาน รถจะสั่นๆ นิดหน่อย รอบเครื่องสวิงลงเล็กน้อย ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด)
ขอบคุณคับ
 
เปิดแอร์แล้วเป่าลมอย่างเดียวครับ บางครั้งอาจเป็นที่รีเลย์เสียก็ได้
 
แต่อาการ จขกท อาจเกิดจากลิ้นผีเสื้อสกปรก หรือวาล์วห่างเล็กน้อยครับ รถใช้แก๊สรึเปล่าครับ

ถ้าหากปิดแอร์ จะทำงานราวๆ 98 องศา
หากเปิดแอร์ความร้อนจะคุมอยู่ราวๆ 82-92 ประมาณนี้คับ
 
ถ้าหากเปิดแอร์แล้วความร้อนเกินนี้ ต้องเช็คพัดลมแล้วค้าบผม

ถ้าหากปิดแอร์ จะทำงานราวๆ 98 องศา
หากเปิดแอร์ความร้อนจะคุมอยู่ราวๆ 82-92 ประมาณนี้คับ
 
ถ้าหากเปิดแอร์แล้วความร้อนเกินนี้ ต้องเช็คพัดลมแล้วค้าบผม

ของผมเอาจากปลํ้กตรงหน้ารถมีเส้นเดียวอ่ะ อยู่ระหว่างพัดลม2ตัวอ่ะค้าบ

ถ้าเห็นรอยน้ำมันที่ตัวโช๊ค ก็โช๊คแตกแล้วละค้าบ
 
แนะนำเปลี่ยนทั้งคู่นะคับ คือคู่หลัง จะหามือ2 ในห้องซื้อขาย หรือโช๊คยี่ห้ออื่นค้าบ
 
สาเหตุก้เป็นได้เยอะที่มันจะแตกคับ ขับถนนแย่ๆบ่อย เจอทางต่างระดับไม่ชะลอ ได้หมดคับ ขับปกติมันก้แตกได้ค้าบ
 
ตัวโช๊ค ส่วนตัวผมไม่แนะนำให้ซ่อมคับ เค้าเรียกกันว่าอัดน้ำมันใหม่ เพราะสุดท้ายมันก็รั่วอีกคับ แนะนำเปลี่ยนดีกว่าคับ

เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รถชาร์ตไฟเกิน ตอนเช้าผมได้สตาร์ทวอมเครื่องปกติแบบทุกวัน เนื่องจากช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้รถนะคับ พอสตาร์ทเพื่อจะวอมเท่านั้น
 
เกจในรถที่ติดเพิ่มร้องประสานเสียงกัน เตือนว่าไฟเกิน พอดูเลขที่เกจวัดได้อยู่ที่ 17-18V ผมรีบดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ ก้ยังเป็น ผมเลยลองโทรถามช่างที่ศูนย์เนื่องจากพึ่งเปลี่ยนไดร์ชาร์ตมาจากศูนย์ ช่างขับรถมาดูให้เพราะผมกลัวไม่กล้าขับรถเลย
 
ช่างมาดูบอกว่าให้ขับเข้าศูนย์เลย พอขับได้ ตอนขับออกไปไฟ ABS Airbag ไฟแบต ขึ้นเต็มหน้าปัดไปหมดเลยค้าบ ไปถึงศูนย์ทิ้งรถไว้ 2 วัน
 
ข้ามไปวันรับรถเลยนะคับ ช่างแจ้งว่าไดชาร์ตไม่ได้เสีย แต่.... สายกราวน์ที่เป็นเหมือนตัวคำสั่งจาก ECU ให้ไดร์ลดไฟหรือเพิ่มไฟสกปรก ทำให้ECUสั่งไปไม่ได้ ช่างแจ้งว่าไฟที่ชาร์ตเกินมาคือ 29v ผมก็ไม่คิดไร รับรถออกมา
 
กำลังจะขับออกจากศูนย์ วิทยุเปิดไม่ติด ช่างเลยเอาเข้าดูใหม่ ปรากฎว่าวิทยุไหม้จากไฟที่ดันเกิน ไฟในรถ ไฟหลังคา ไฟเท้า ขาดหมดเลยคับ
 
ผมนี่เซ็งเลยคับ แค่สายกราวน์เพียงจุดเดียว จะทำให้รถเสียลามไปเยอะเลยคับ (สายกราวน์ที่ช่างบอกๆว่าเป็นสายที่มีสายไฟรวมอยู่ 5 เส้นตรงแถวๆใต้แบตคับ) ทั้งที่รถผมมีกราววายเต็มเลยนะคับ แต่มองข้ามกราวน์เดิมๆของรถไม่ได้เลยจิงๆ

อาการนี้จริงๆแล้ว ใช้ไปสักพักมันจะค่อยๆปรับให้เองนะคับ
 
หรือไม่ก้เข้าศูนย์ให้เค้าตั้งรอบเดินเบาให้ก้ได้คับ เสียค่าแรง 440 บาทโดยประมาณค้าบบ

อาการนี้จริงๆแล้ว ใช้ไปสักพักมันจะค่อยๆปรับให้เองนะคับ
 
หรือไม่ก้เข้าศูนย์ให้เค้าตั้งรอบเดินเบาให้ก้ได้คับ เสียค่าแรง 440 บาทโดยประมาณค้าบบ

เนื่องจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รถชาร์ตไฟเกิน ตอนเช้าผมได้สตาร์ทวอมเครื่องปกติแบบทุกวัน เนื่องจากช่วงนี้ไม่ค่อยได้ใช้รถนะคับ พอสตาร์ทเพื่อจะวอมเท่านั้น
 
เกจในรถที่ติดเพิ่มร้องประสานเสียงกัน เตือนว่าไฟเกิน พอดูเลขที่เกจวัดได้อยู่ที่ 17-18V ผมรีบดับเครื่อง สตาร์ทใหม่ ก้ยังเป็น ผมเลยลองโทรถามช่างที่ศูนย์เนื่องจากพึ่งเปลี่ยนไดร์ชาร์ตมาจากศูนย์ ช่างขับรถมาดูให้เพราะผมกลัวไม่กล้าขับรถเลย
 
ช่างมาดูบอกว่าให้ขับเข้าศูนย์เลย พอขับได้ ตอนขับออกไปไฟ ABS Airbag ไฟแบต ขึ้นเต็มหน้าปัดไปหมดเลยค้าบ ไปถึงศูนย์ทิ้งรถไว้ 2 วัน
 
ข้ามไปวันรับรถเลยนะคับ ช่างแจ้งว่าไดชาร์ตไม่ได้เสีย แต่.... สายกราวน์ที่เป็นเหมือนตัวคำสั่งจาก ECU ให้ไดร์ลดไฟหรือเพิ่มไฟสกปรก ทำให้ECUสั่งไปไม่ได้ ช่างแจ้งว่าไฟที่ชาร์ตเกินมาคือ 29v ผมก็ไม่คิดไร รับรถออกมา
 
กำลังจะขับออกจากศูนย์ วิทยุเปิดไม่ติด ช่างเลยเอาเข้าดูใหม่ ปรากฎว่าวิทยุไหม้จากไฟที่ดันเกิน ไฟในรถ ไฟหลังคา ไฟเท้า ขาดหมดเลยคับ
 
ผมนี่เซ็งเลยคับ แค่สายกราวน์เพียงจุดเดียว จะทำให้รถเสียลามไปเยอะเลยคับ (สายกราวน์ที่ช่างบอกๆว่าเป็นสายที่มีสายไฟรวมอยู่ 5 เส้นตรงแถวๆใต้แบตคับ) ทั้งที่รถผมมีกราววายเต็มเลยนะคับ แต่มองข้ามกราวน์เดิมๆของรถไม่ได้เลยจิงๆ

octane max 4 สุดยอดเลย ครับ

MAF ไม่ได้ล้างทีปลั๊กน้ะค้าบบ ต้องขันน๊อต2ตัวที่ยึดกับกรองออก แล้วถอดออกมาฉีดตัวsenser เลยนะค้าบ ถ้าฉีดแค่ที่ปลั๊กมันแทบจะไม่มีผลอะไรค้าบผม

ของผมเจอกับตัวเลยค้าบ ขันน๊อตยึดคอยร์หัวเทียนตอนเครื่องร้อน ขันเข้าไปเรื่อยๆก็ไม่ได้เอ่ะใจอะไรทำไมมันไม่แน่นสักที สักพักดังแก็ก รู้เรื่องเลย น๊อตขาดดด 55555

อ่านดีๆครับ     หัวเทียนมันไม่ได้เสียนะ  
 
เปลี่ยนขณะเครื่องร้อน โลหะขยายตัว ทำให้เกลียวทั้ง 2 ส่วนมันอาจจะแน่นเกินค่าทอร์คปกติ 
 
ไปขันออก หรือเข้าตอนนั้น อาจทำให้เกลียวสึกหรอมากกว่าปกติคับ
 
ถามว่าพังมั๊ย ไม่พังหรอกครับ แต่ถ้าหลีกเลี่ยง ไว้ทำตอนเครื่องเย็นได้ก้อควรทำ

ถ้ามันจะดังทุกเช้า แค่ครั้งเดียว แล้วเวลาอื่นๆไม่ดัง ก้อช่างมันเถอะครับ 
 
ถ้ามันเสื่อมไปเรื่อยๆ มันจะดังบ่อย จนทุกครั้งที่สตาร์ท ถึงเวลานั้นค่อยเข้าศูนย์คับ