Lhorn

ไม่ได้เข้ามาดูหลายหน้า.... พี่เก่ง สงสัยจะเป็น Type R ไปซะแล้วนะครับ แต่ละอย่างสวยๆทั้งนั้นเลย

ถ้าใช้ซักอาทิตย์แล้ว ยังรู้สึกว่าเบรคไหลๆ กดเบรคแล้วจมลึกถึงจะรู้สึกแรงเบรค (กดลึกเกิน 30% ของระยะเบรค แล้วยังไม่เริ่มจับ) แนะนำลองกลับไปที่ร้านดูครับพี่เก่ง โดยทั่วไปแป้นเบรคของ civic มันตื้นครับ กดแตะเบาๆจะต้องรู้สึกว่าเบรคจับกับตัวจานเบรคแล้ว

พี่เก่งมา Review เลยครับ อิจฉาผ้าเบรคนำเข้าจากเมืองนอกอ่ะคับ

ผมตั้งวาล์วเอง ประเก็นเดิมแข็ง และแตกลายงา น้ำมันเครื่องซึมตลอด เข้าศูนย์เปลี่ยนให้ ของพร้อมค่าแรง 4-5 ร้อย บาทครับ ตอนนี้ ไม่รั่ว ไม่ซึมแล้วครับ

ขับขี่ปลอดภัยครับ ผ้าเบรคนี้ทำงานได้ดีในช่วงตกใจครับ เปรียบเทียบ 1.8 กับตัว 2.0 ที่สังเกตุง่ายๆอีกอย่างคือ ปกติ ใช้ เบรค 1.8 วิ่งไกลๆ (ผมทำธุระ บางใหญ่ ไปสวนผึ้ง กลับทางเมืองกาญ ไปกลับ 420km.) กลับมาทีไรจานเบรคไหม้ทุกที ( ไม่ fade นะครับ) ผมวิ่งทุกอาทิตย์ พอเปลี่ยนมาใช้ 2.0 เบรคไม่ไหม้เลย แถมจะหว่ะเลียเบรค ควบคุมความเร็ว ก็ดีกว่าเดิมมากครับ อาจารย์เคยสอนไว้ " เบรคไม่ได้มีไว้เพื่อหยุดอย่างเดียว แต่มันใช้ควบคุมความเร็ว และจังหว่ะของรถยนต์ "

ถ้าหากว่า Shock Up ของเรามันไม่รั่วไม่ซึม หรือแค่เสื่อมสภาพ มันก็อาจจะทำให้รู้สึกว่ามันแน่นขึ้นมาบ้างนะครับ ลูกหมาก ถ้าหากว่าถอดออกมาแล้ว ลองโยกๆ หมุนๆ ดูก็ได้ครับ ถ้ามันเสียละ ใช้นิ้วเดียวหมุนสบายเลย... ตอนก่อนที่จะเปลี่ยน Shock Up ผมเองเปลี่ยนลูกหมากเองอ่ะคับ ก็รู้สึกว่ามันดีขึ้นมาบ้าง จะหว่ะมันไม่โยนเหมือนตอนแรก (ผมใช้มา 120,000 Km.) ก่อนที่จะเปลี่ยนลูกหมากอ่ะคับ

ดีกว่า Shock Up เดิมเยอะเลยครับ พอดี รีวิว เล็กๆไว้ในกระทู้นี้ครับ http://www.civicclubthailand.com/board/index.php/topic/4356-ถามเกี่ยวกับโช้คอัพ-monroe-ครับ/

หลังจากดูๆ เรื่องเบรคมานาน... ถึงเวลาเปลี่ยนกับเขาเสียที ตอนแรกใช้ผ้าเบรค hi-soft v.2 หลังจากเปลี่ยนมาใช้เบรค 2.0 ก็ใช้ผ้าเบรค hi-soft v.2 อีกเช่นเคย.. เพราะถูกใจในการใช้งาน ของเดิมๆ เลยเบรค 1.8 แอบเสียดาย เพราะเปลี่ยนชุดซ่อม สลักเบรค ลูกสูบเบรคใหม่ ผ้าเบรคใหม่... แต่ทำไงได้ อยากใช้ 2.0 ครับ พี่ใหญ่ของ 1.8 คือ เบรค 2.0 ที่หลายๆคนตามหากัน ซึ่งไม่ค่อยจะมีใครขายซักเท่าไหร่ หายากและแถมแพงอีกด้วย สภาพดีๆเห็นขายกัน 4-5 พันบาทเลยทีเดียว (แต่มันใช้แล้วจบ หาชุดซ่อมง่าย) หลังจากได้มาใหม่ ก็ทำการซื้อสลักเบรคมาใหม่ครับ รหัสตามภาพเลย เพราะว่าของเดิม คิดว่ามันคดไป 1 ตัวจากการทดสอบเลื่อน slide กับตัว caliper ของมันเอง ให้ทางร้านดำเนินการติดตั้งให้เสร็จ ฝักเบรคใหญ่มาก.. ใหญ่กว่าของเดิม 1.8 ซะเยอะเลย แถมใช้ผ้าเบรคตัวเดียวกันกับเบรคของ Accord 2.4 และ 3.0 ด้วยครับ สำหรับเบรค 2.0 ฉะนั้น.. กับ civic 1.8 กำลังเครื่องเล็กกว่าพวกนี้เยอะ เอาอยู่เหลือๆ เลยครับ กับค่า Friction Coe. 0.45-0.55 หลังจากใส่ผ้าเบรคเสร็จ ก็... Bedding-In และทดสอบการใช้งาน ผ้าเบรคสีเหลือสดใสเชียวครับ แต่ใช้ๆไป ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด ฮะฮะ หลังจากติดตั้งเสร็จใส่ล้อกลับคืน เต็มล้อเลยครับ จากการใช้ผ้าเบรค hi-soft v.2 ทั้ง 1.8 และ 2.0 ทั้งคู่นะครับ บอกตามการใช้งานได้ดังนี้เลย ผ้าเบรค hi-soft ถือว่าคุณภาพเกินราคา 1500 บาทครับ เบรค 1.8 และ 2.0 นั้น... ในช่วงเริ่มเหยียบเบรค ความรู้สึกคล้ายๆกันครับ ถ้าหากว่าเหยียบเบรคเกินกว่า 30% เบรค 2.0 จะดึงลงเร็วมากกว่า 1.8 เยอะครับ เบรค 1.8 นั่ง 4 คนเต็มคันรถ เบรคแล้วไหล เหมือนไม่อยู่ ถึงแม้จะ hi-soft v.2 ก็ตาม เบรค 2.0 นั่ง 4 คนเต็มคันรถ เบรคไม่ไหล... กดเบรคเท่าไหร่ หยุดเท่านั้น ตอนนี้ใช้เบรค 2.0 กับรถ Civic 1.8 และผ้าเบรค hi-soft v.2 ถือว่าลงตัวมากครับ ถึงแม้ว่าช่วงออกตัว การใช้เบรค 2.0 และจาน 282mm. จะทำให้การออกตัวอืดขึ้นแบบรู้สึกได้ (ไม่อยากจะคิดว่า Odyssey จะอืดขนาดไหน) ====================================================================== นอกเรื่องนิด ทางร้านไม่ได้ใช้จารบีสำหรับเบรคโดยเฉพาะ ใช้จารบีทาลูกปืนมาติดตั้งให้ เลยทำให้เป็นดังภาพที่ผมถ่ายมาไว้ แต่ก็ตั้งใจไว้ว่า... ให้เขาเปลี่ยนเบรคให้ ไล่น้ำมันเบรคให้ใหม่ และจะกลับมาล้าง ใส่เบรคใหม่เองที่บ้าน ข้อดีของการใช้จารบีลูกปืนทา คือประหยัดทางร้าน... ข้อเสียของการใช้งาน คือ อนาคตจะทำให้ลูกยางต่างๆ บวม เป็นผลเสียกับเรา จึงอยากเตือนพี่ๆน้องๆ ทุกคนที่ไปทำ ว่า... มันมีรายละเอียดจุดนี้ด้วยนะครับ ใส่ใจตรงนี้เพื่อยืดอายุการใช้งานเบรคเรา จากภาพ อายุการใช้งาน 200Km. (ใน1วัน) ขอบคุณที่อ่านและติดตามครับ

หลังจากเอาเบรค 2.0 ไปใส่ 1.8 ที่ร้านนึง ตอนที่ช่างติดตั้งผมเห็นใช้จารบีลูกปืนมาใส่สลักเบรค แล้วก็ประกอบการติดตั้งเข้าไป ทักไป ทางช่างเขาก็ว่า..ใช้มา ก็ไม่มีปัญหานะ ! ผม..ไม่เอาอ่ะ (ในใจคิด) กลับบ้านไปจะถอดออกมาล้างแล้วทาจารบีใหม่ หลังจากกลับมาบ้านก็ถอดออกมาเลยครับ วันนั้นวิ่งไปทำธุระด้วยก็ประมาณ 200Km. ถอดออกมาก็เห็นดังภาพเลยครับ ลักษณะจับตัวเป็นก้อนๆ และก็ฝืดๆ ไม่ลื่น ผมถอดล้างทำใหม่ทั้งหมด จึงอยากให้สังเกตุกันนิดนะครับ ... ว่าควรจะใช้จารบีเฉพาะในการประกอบและติดตั้งเข้าไปใหม่ครับ ถึงแม้ว่าร้านนั้นจะติดตั้งดีแค่ไหนก็ตาม แต่เราก็ต้องสังเกตุไว้ด้วยนะครับว่า เขาใช้ของดีหรือไม่ดีให้กับเรา จากภาพ เพียงแค่ 1 วัน...เป็นแบบนี้ ถ้าหากว่าใช้ไปนานๆ จะทำให้ลูกยางบวม ฉีกขาด และทำให้สลักเบรคติดได้นะครับ ก็ต้องมาคอยซ่อมกันอยู่เรื่อยๆ จึงมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆทราบครับ

ไปทำเบรคมาร้านนึง... ใช้ บล๊อคลมยิงอัดเข้ามา... ไม่ได้ใช้ประแจปอร์นขัน สรุปว่า กลับมาบ้านใช้ กากบาท เอาไม่ออก ต้องใช้ประแจปอร์นมาขัน กว่าจะออก... ดีนะน๊อตเดิมๆของโรงงานเลย

ลูกหมากกันโคลงหน้าและหลังผมซื้อมาเปลี่ยนเองอ่ะคับ ค่าอะไหล่ ประมาณ 1500 บาทครับ แยกเป็นลูกหมากหลังประมาณ 900 บาทของ ยี่ห้อ 555 ลูกหมากกันโคลงหน้าเป็นยี่ห้อ RBI ประมาณ 5-6 ร้อยบาท จำไม่ได้ครับ สำหรับ Shockup ผมเปลี่ยนไปเป็นของ Monroe Reflex หน้าและหลังรวมติดตั้ง หมื่นต้นๆครับ แน่นขึ้นเยอะเลยครับ

แบบนี้เ้ข้าเช็คร้านเลยครับ พวก แร็คลูกหมากต่างๆครับ รถ 6-7 ปีสภาพลูกยางน่าจะเสื่อมไปพอสมควร วิ่งๆไป โยนๆ ตรวจสอบ Shock UP ด้วยก็ดีครับ ของผมวิ่งมาจะ 140,000 Km. 4ปี ก็เปลี่ยนไปซะหลายอย่างเลยครับ แต่ที่เปลี่ยนหลักๆเลยจะเป็นลูกหมากกันโคลงหน้าและหลัง... Shockup ก็เปลี่ยน รู้สึกว่ารถจะแน่นขึ้นครับ

ทุกอย่างมันจะมาติดที่กรองอากาศก่อนเข้าหน้าห้องเครื่องอ่ะครับ เรื่องฝุ่น... มันก็อาจจะเข้ามากกว่าของติดรถครับ แต่สิ่งที่มันได้มาเพิ่มขึ้นคือ อากาศที่อุณหภูมิต่ำกว่าภายในฝากระโปรง นั่นคือข้อดีของมันเลยครับ แต่.. ถ้าจะลุยน้ำ หรือไม่แน่ใจว่าจะเจอบ่อยแค่ไหนนะครับ เรื่องพวกนี้ ไม่แน่นอน บางทีผมขับรอดใต้สะพาน เจอท่วมน้ำกระแทกใต้ท้องรถเลยก็มี บางที เราค่อยๆขับไม่เท่าไหร่หรอก เจอพวกรถยกสูงวิ่งผ่าน คลื่นน้ำผ่านมาจะยุ่งเอาครับ หรือ... หนักสุด ก็จะเป็นแบบนี้

ซ่อมเยอะแบบนี้... หนีไปออก G9 เลยหรอครับ เปลี่ยน น้ำมันเกียร์ , เบรค , ยางแท่น ลูกหมาก... แต่ G9 สวยครับ

ยินดีด้วย เรื่องเงินเรื่องทอง ทำเพื่อนแตกแยกมาเยอะครับ

อารมณ์นี้เคยเป็นมาก่อนเลยครับ ผมใช้ Spring แพงใหม่ หน้า-หลัง พี่ทศ กันโคลงหลัง 19mm. พี่แซม เหลือ Shock Up นี่ละ ตอนแรกจะเอา Kayaba New SR แล้วตามแรงเชียร์ท่านอื่นๆ แต่ เห็นบอกว่ามันกระด้างกว่าเดิมเยอะ ซึ่งใจอยากได้อารมณ์นิ่มๆเหมือน Shock Up เดิม อีกอย่าง Kayaba New SR รวมติดตั้ง ตั้งศูนย์ก็ 2หมื่นนิดๆแล้ว ส่วนตัว ไม่ไหว...กับราคานั้น ไปๆ มาๆ ไปเจอ Monroe Reflex หาข้อมูล ก็ไม่มีใครใช้ มีแต่รถยี่ห้ออื่นใช้กัน... แต่สุดท้ายมาจบที่ Monroe Reflex ครับ ขับช้าๆ อารมณ์แบบ Shock Up เดิมติดรถ แต่แน่นกว่า ขับเร็วๆ รู้สึกว่ามันกระด้างขึ้นพอตัวเลยทีเดียว... " ช้าๆนุ่ม เร็วๆ แน่น " ตอนนี้ Concept ผม ล้อเดิม 16" Spring แดงใหม่ พี่ทศ กันโคลงหลัง 19mm พี่แซม Shock Up Monroe Reflex Shock Up หมื่นต้นๆ รวมเปลี่ยนกันฝุ่น ยางเบ้า Shock Up ค่าแรง.. น้ำมันเครื่อง กรอง 15K ครับ

จริงๆแนะนำเข้าเช็คระยะตามคู่มือของรถดีกว่าครับ ถ้าเข้าเช็คระยะทุก 10,000 Km. ก็ไม่น่าจะกังวลอะไรมากครับ สำหรับการตั้งวาล์ว ส่วนตัวไม่มีร้านแนะนำครับ อาจจะต้องสอบถามๆพวกพี่ๆในคลับท่านอื่นด้วยครับ

ขอให้เครื่องมือครบ มีเวลา และใจเย็นๆ ดูว่า ถอดอย่างไร ขันแรงเท่าไหร่ ผมขัดขาดไป 1 ตัว น็อตฝาครอบวาล์ว

ตรงนี้เอง เห็นกล้องอยู่บนหัวเสาเลย ชัดมาก !!

ผมไม่แน่ใจว่า ร้านหรือว่าศูนย์ตั้งเท่าไหร่นะครับ เคยได้ยินว่าของศูนย์คิดราคาไม่เกิน 1,000 บาท ร้านทั่วไปคง 5-6ร้อย บาทครับ แต่ผมตั้งวาล์วเอง.. เลยเสียแค่ค่าเป๊ปซี่ครับ ;D

สงสัยต้องเอา Sticker B-Quick ออกละ.. กลัวโดนจับ

ตามคู่มือส่วนใหญ่ ก็จะแจ้งไว้ว่า 40,000 Km. อ่ะครับ สำหรับการใช้งานทั่วไป แต่รถผมเอง มาตั้งวาล์วตอน 100,000 Km. ครับ แต่ถ้าติด Gas หลายๆคนก็จะตั้งวาล์วเร็วกว่านั้นครับ อาจจะ 2-3หมื่นโล ก็ตั้งวาล์วกันครับ หลังจากการตั้งวาล์วแล้วนั้น ข้อดีก็มีเยอะครับ เครื่องเดินเรียบขึ้น อัตราเร่งแซงมากกว่า อารมณ์รถใหม่ครับ

ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์ และสำหรับเพื่อนๆพี่ๆ ที่กำลังหาร้านเปลี่ยนนะครับ ตอนที่ผมหาข้อมูล แทบไม่มีข้อมูลอะไรเลยสำหรับโช็คตัวนี้ จากการหาข้อมูลใน Internet พบว่า Shockup ตัวนี้ถือว่ามีชื่อในทางบวกค่อนข้างเยอะ และ เพิ่งจะทำสำหรับ Civic FD ของเราซะด้วย ในตอนแรกผมจะไปซื้อ Kayaba New SR มาใช้ แต่ราคาหมื่นปลายๆ ยังไม่รวมค่าติดตั้งและตั้งศูนย์ ก็น่าจะแตะๆ 2 หมื่นแน่ หาร้านขายและร้านติดตั้งอยู่พักใหญ่ ก็เจอในห้องซื้อขายบ้างอะไรบ้าง แต่ต้องไปหาร้านติดตั้งเอง สอบถามไปยังร้านแถวบ้าน บางร้านก็รับติดตั้ง บางร้านก็ำไม่รับติดตั้ง ยิ่งร้านที่รับติดตั้ง บอกว่า... รับติดตั้งหน้าและหลัง 1,200 บาท... ผมเองไม่ไหวอะครับ เลยไปเจอร้านนึง โทรสอบถามบอกว่ามีของ แต่ต้องจองคิวติดตั้งเพราะว่า คิวรถเยอะ ผมก็ตกลงตามนั้น จองคิวงานติดตั้ง ถึงวันที่นัดติดตั้ง พอไปถึงก็ดูของว่าเป็นแบบไหน ไม่เคยเห็น เจ้าของร้านนำเอามาให้ดู กระบอกสีดำ ช่างขับรถเข้ามาจอดเทียบ เพื่อเตรียมเช็คระบบช่วงล่างต่างๆ เพราะผมบอกไปว่า ช่วงล่างเดิมๆไม่เคยเปลี่ยนเลยนอกจาก Spring และกันโคลงหลัง ส่วนลูกหมากกันโคลงเพิ่งจะเปลี่ยน ให้เช็คตัวอื่นๆด้วย ในระหว่างช่างกำลังกดรถ ดูเช็คส่วนอื่นๆ ให้ ( ส่วนนี้ร้านบอกว่าเป็นการบริการเช็คฟรีครับ) มีน้ำมันเครื่องขาย ส่วนใหญ่จะเป็นของ Castrol บางรายการมีราคาบอกชัดเจน พร้อมเปลี่ยนถ่ายทันที ตัวนี้เพิ่งเคยเห็น ถามทางร้านบอกว่า ตัวใหม่ เหมาะกับคนขับรถติดแก็ส วิ่งในเมืองเป็นอย่างยิ่ง ที่สงสัยคือ มันเป็น API-SN ด้วยครับ งวดหน้าผมจะซื้อใช้งานบ้าง ร้านนี้ส่วนใหญ่ทางเจ้าของอู่บอกว่า มีแต่รถยุโรปซะส่วนใหญ่ครับ หันมาดูรถตัวเอง ถอดล้อแล้วครับ ลาก่อนนะตัวเอง... ใช้งานมานานแล้ว ถึงแม้ว่าจะยังไม่เสียอะไร แต่ของเปลี่ยนนะ หิวน้ำเลยแวะเข้าไปนั่งเล่นในห้องรับรองซะหน่อย... ก็ดูมีของเยอะดี มีหลายอย่างเลย ข้อมูลของ Monroe Reflex ครับ ถ้าทำมาจากของจริง ก็ดีครับ เท่ห์ดี เอาละ.. เดินออกไปดูข้างนอกหน่อย ช่างหยิบเอา Shockup เก่าออกมาให้ดู และทำการตรวจสอบส่วนอื่นๆด้วย ตอนนี้เลยหยิบมาดูหน่อยว่า.. หน้าตามันเป็นอย่างไร มันต่างกันอย่างไร เพราะเห็นในเวป pantip ท่านนึงบอกว่า ของเขาใส่ไม่พอดี ด้านหน้าและด้านหลัง ผ่านไปซักพัก มีรถเข้ามาอีกแล้ว มีแต่รถยุโรปจริงๆ ทางเจ้าของร้านแจ้งว่าส่วนใหญ่ลูกค้าเก่าๆ มาถึงก็เอากุญแจให้ แล้วก็ออกไป หันมาดูที่ล้อหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เห็นเขาเอา 3ขา มารองไว้ เขาบอกว่า ป้องกันไม่ให้อะไร มันหลุดซักอย่างนี่ละ ฟังไม่ชัด ผ่านไปซักพัก ช่างแจ้งว่า ยางรองเบ้าโช็คพี่เสียนะครับ ใช้ไปไม่นานก็จะพัง ผมมองว่า ไหนๆ ก็ถอดออกมาแล้ว ไม่อยากให้ถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ เปลี่ยนมันซะเลยครับ ที่ร้านใช้ของ RBI ส่วนตัวก็ OK ช่วงเขากำลังเตรียมเบิกของกัน ก็หลบเข้าไปนั่งพักห้องแอร์เย็นๆ ดูทีวี Digital ครับ ตาก็เหลือบไปเห็นป้ายของ Monroe เลยแวะไปดูหน่อย ของผมเป็นแบบ Monroe Reflex ครับ อ่านตามคุณสมบัติได้เลย ยังไม่ทันได้อ่านอะไรมาก เห็นเขากำลังยกเบาะผมกันใหญ่เลย จากภาพ LPG 54lite ครับ จากร้าน URC เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกครับ เวลาโล่งๆแบบนี้ เด็กหยิบ Shockup มาครับ เลยดูรายละเอียดจัดส่งหน่อย มีชื่อร้านพร้อมเบอร์ติดต่อเลย รายละเอียด Shockup หลังครับสำหรับ FD ขยับไป ขยับมา เห็นเขาใส่ง่ายจัง หลังจากติดตั้งเสร็จ เขาก็ใส่ล้อเลย สำหรับ Shockup คู่หน้า ชัดๆ อีกครั้ง เข้าไปนั่งในห้องรับรองอีกรอบ... อ้าวมีจานเบรคขายด้วย เขามีใบรับรองว่า ได้รับการอบรมของ Monroe ด้วยครับ (ว่าอยู่ทำไมทำเร็วจัง) ล้มตัวลงนอนบนโซฟา นุ่มๆ ตามองไปด้านบน โห... วิศวกร ตั้งแต่รุ่นพ่อ !! มิน่า.. เจ้าของร้านเดินคุมงานเองตลอด.. ผมไม่กล้าถ่ายรูปเจ้าของร้านครับ แต่เห็นเดินสั่งงานช่างเอง รถเกือบทุกคันที่เข้ามาในร้าน เจ้าของร้านจะเดินเข้าไปคุยทุกคนครับ บอกตรงๆ มันเย็นสบายจนลืมว่ากำลังใส่ Shockup ด้านหน้า พอมาถึงไม่ทันแล้วครับ เสียดายมาก ถ่ายภาพไม่ทันตอนติดตั้ง มาทันตอนเขาใช้ประแจค่อยๆหมุนยึดเบ้าหัวโช็ค อีกครั้งกับรายละเอียดครับ อาจจะไม่ละเอียดมากนัก แต่ก็ขอจบการ Review เท่านี้ครับ ร้านนี้อยู่ไกลเสียหน่อย แยกสวนสมเด็จเมืองทองนู้นน... ผมอยู่หลังโลตัสบางใหญ่ วิ่งไกลหน่อย ก็ุคุ้มละครับ รายละเอียดการติดตั้ง พี่ๆ เพื่อนๆ ท่านใด สนใจลองติดต่อดูครับ งวดหน้าจะทำเบรคจาก 1.8 เป็น 2.0 ก็จะเป็นคิวของร้านพี่เกรียงไกร ต่อไปครับ... ผมเองหาร้านที่มั่นใจก่อนไปทำ เพราะหลายครั้งไปทำบางร้าน ออกมาก็แก้งานไม่จบซักที สรุปค่าใช้จ่าย ผมซื้อ Shockup หน้าหลัง.. น้ำมันเครื่อง Delphi 4 ลิตร 1 กระป๋อง ยางกันฝุ่น Shockup คู่หน้าแท้ ยางรองเบ้า Shockup จารบี TRW 1 หลอด ค่าแรง รวมๆแล้ว ประมาณ 15k ครับ โดยรวมแล้วพอใจมากครับ

น่าจะเป็นอาการเดียวกันกับที่ผมเป็นนะครับ ตอนแรกคิดว่าเป็นที่ลูกหมากกันโคลงเสีย ก็เลยเปลี่ยนใหม่ ดีขึ้นนิดนึง แต่ไม่หาย เลยเปลี่ยน shockup ซะเลย ตอนแรกกะจะเอา kayaba new sr แต่ดูราคาแล้ว เงินไม่พอ... หาข้อมูลพักใหญ่ มาจบที่ Monroe reflex ครับ การใช้งาน ช่วงแต่ละความเร็วครบทุกอย่าง นุ่ม หนึบ. แน่น. แข็ง...

วันนี้ใช้งาน รู้สึกดีครับ Monroe reflex หน้า-หลัง Spring แดงใหม่ พี่ทศ กันโคลงหลังพี่แซม 19mm. ผมว่าดีกว่าเดิม 30% ได้ครับ สมัยก่อน 4 คน + สัมภาระ กระเด้ง กระดอน เบรคไหล ตอนนี้ อาการหายไป เข้าโค้งนิ่งมากกว่าเดิมเยอะครับ ลงคอสะพานไม่เด้ง วิ่งช้าๆ นุ่ม เหมือนโช็คเดิมนะ อาจจะแข็งกว่าเดิมนิด วิ่งเร็วๆ แข็ง แน่น หนึบ ครับ ช่วงกระแทกหลุม แข็งครับ