Jump to content

Tonkun

CCTH Member
  • Posts

    177
  • Joined

  • Last visited

Reputation Activity

  1. Like
    Tonkun reacted to ponsit in ว่าด้วยเรื่องท่อ   
    ต้องทำความเข้าใจกับ i-VTEC ใน K20Z กับ K20A ก่อนนะครับ 
    สำหรับ K20Z เป็น VTEC แบบประหยัด ซึ่งเน้นแรงบิดที่รอบต่ำ
    ด้วยการยกวาล์วน้อยกว่าปรกติ (Valve Lift)
    ทำให้ได้แรงม้า/แรงบิดดีในรอบต่ำ พอขึ้นรอบสูงจะเปลี่ยน
    ระยะยกวาล์วให้มากขึ้น รอบผมจำไม่ได้แน่ชัดครับ
    ประมาณ 2500
     
    ส่วน K20A เป็น VTEC ซิ่ง ระยะยกจะมียกปรกติ
    กับยกมาก ซึ่งจะเปลี่ยนไปใช้ยกมาก
    ที่รอบประมาณ 5,400 รอบ
     
    ดังนั้น ผมไม่เห็นด้วยว่าแรงบิดของเครื่อง K20Z
    จะน้อยมากๆ ในรอบต่ำ ซึ่งควรจะดีกว่าเครื่อง
    ในพิกัดเดียวกันมากกว่าครับ
     
    ส่วนประเด็นเรื่องขนาดเท่าไหร่ดีนั้น
    ถ้ายังสเตปท่อกรองเฉยๆ ผมว่า 2"
    หรือ 50 mm น่าจะเหมาะสม
    กับปริมาณไอเสียที่ปล่อยออกมาครับ
  2. Like
    Tonkun reacted to golfk in ว่าด้วยเรื่องท่อ   
    ขอบคุณครับทุกท่าน ช่วงนี้ไม่ได้เข้ามาที่บอร์ดเลยครับ  สิ่งที่อยากรู้ที่สุดคือว่าท่อขนาดไหน ไส้แบบไหนเหมาะกับ K20Z2 มากที่สุด
  3. Like
    Tonkun got a reaction from Davidtour in แอร์ไม่เย็น...   
    ผมเอาเข้าศูนย์ฯ บางนา ... แจ้งอาการว่า แอร์เย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง

    ศูนย์ฯ บอกว่า น้ำยาแอร์หมด ต้องล้างแอร์, ไล่เช็คระบบแอร์ใหม่ และเติมน้ำยาแอร์

    ผมเลยถามว่า น่าจะเป็นที่ คลัตช์คอมแอร์ ด้วยหรือป่าว เห็นว่ามีขยายเวลารับประกัน
     
    ศูนย์ฯ บอกว่า .... ใช่ครับ ขยายเวลารับประกันจริง แต่เฉพาะเครื่อง 1.8 นะครับ  รถพี่ เครื่อง 2.0 ไม่ได้ขยายเวลาครับ
     
    สรุป .... ผม ถอยกรูด กลับบ้าน แทบม่ายทันนน
     
    เฮ้อออออ
  4. Like
    Tonkun reacted to parnmusic in LPG โดนัท ช่วงล่างเปลี่ยนเฉพาะสปริงอย่างเดียว แต่โช๊คเดิมได้ป่าวครับ   
    ผมก็โช้คเดิม สปริงแดงใหม่ครับ (โดนัท 52 ลิท)
  5. Like
    Tonkun reacted to Kitipong P. in LPG โดนัท ช่วงล่างเปลี่ยนเฉพาะสปริงอย่างเดียว แต่โช๊คเดิมได้ป่าวครับ   
    สปริงแดงพี่ทศ+ LPG ถังโดนัท 52 ลิตร = สาดโค้ง 180 ชิวๆ
  6. Like
    Tonkun reacted to eaker2006 in แอร์ไม่เย็น...   
    ผมพึ่งเป็นเมื่อวานครับ รถติดแถวพัทยาครึ่งชั่วโมง อยู่ดีมีแต่ลมร้อนออกมา ลองเปิดปิดไม่หาย ต้องเปิดกะจกวิ่ง สักพักลองเปิดใหม่กลับมาเย็นเหมือนเดิม รถ 2008 ไมล์ 120,000 กม ยังสามารถเครมได้ไหม มีใครเคยเคลมที่ศูนย์ศรีราชาไหมครับ เครมได้ไหม รถออกศูนย์ชลบุรี (ไกลบ้าน)
  7. Like
    Tonkun got a reaction from 9697 in สำรวจการสั่งซื้อสติกเกอร์คลับ   
    จากยอดโหวตก้อประมาณ 460ก่าๆ ... ไม่อยากพลาดเลยคร๊าฟฟฟ
  8. Like
    Tonkun reacted to @Jo in LPG โดนัท ช่วงล่างเปลี่ยนเฉพาะสปริงอย่างเดียว แต่โช๊คเดิมได้ป่าวครับ   
    รีบๆมาพาผมเข้า Ford เลย เบื่อจะแย่แล้ว
  9. Like
    Tonkun reacted to @Jo in LPG โดนัท ช่วงล่างเปลี่ยนเฉพาะสปริงอย่างเดียว แต่โช๊คเดิมได้ป่าวครับ   
    พอได้ครับ 
     
     
     
    แต่ให้ดีงบไม่บานมาก อัดน้ำมันโช้คครับ
     
     
    เพราะโช้คแบก น้ำหนักถังแก้สมาก โช้คทำงานตลอดเวลา เวลาเข้าโค้งระยะยุบ การทำงานเปลี่ยนไป
  10. Like
    Tonkun reacted to Puthapong in เข้าเกียร์ N หรือ ค้าง D เอาจริงๆ ใครถูก ใครผิด   
    เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
     
                ตั้งแต่มีรถเกียร์อัตโนมัติ มาขับในบ้านเรา นั้น  เรื่องหนึ่งที่มีการถกเถียงมากที่สุดในเรื่องของการขับขี่ คงจะไม่พ้นข้อคำถามที่ว่า ในระหว่างการขับขี่หากรถหยุดชั่วขณะหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สี่แยกไฟแดง เราควรจะปรับตำแหน่งเกียร์จาก  D  ที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ มาสู่ตำแหน่ง  N  หรือ เกียร์ว่าง ซึ่งจะความคล้ายคลึงกับการใช้งานในรถยนต์เกียร์ธรรมดา หรือไม่

                    ข้อถกเถียงที่ไม่มีวันที่สิ้นสุดนี้ เป็นเหมือนเรื่องราวไก่กับไข่ ที่เถียงกันมายาวนาน ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็มีเหตุผลมาสนับสนุน และไม่เพียงแต่ในไทยเท่านั้นแต่ที่ต่างประเทศก็มีการพูดถึงเรื่องนี้ ซึ่งเป็นข้อกังขากันมาอย่างยาวนาน จนแทบจะพูดว่านี่คือคำถามสุดคลาสสิคของเกียร์อัตโนมัติกันลยทีเดียว
                    คำถามที่ชวนเถียงกันทะเลาะกันเปล่าๆนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าขำขัน เมื่อระบบเกียร์อัตโนมัติ ถูกผลิตขึ้นมาให้มีตำแหน่งเกียร์ที่สำคัญ คือ  P R ND  และ บ้างก็จะมีตำแหน่งเกียร์พิเศษขึ้นมาเพื่อสนองตอบต่อการใช้งานเช่น  D3  , 2 , และ 1 ซึ่งการมีตำแหน่ง N  ที่เท่ากับเกียร์ว่าง ทำให้หลายคนได้รับความเข้าใจมาแบบผิดว่า การเข้าตำแหน่งเกียร์จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพมากกว่านี้ จะก่อให้เกิดผลต่อการทำงานของระบบเกียร์มากกว่า และวันนี้เรามี 3  เหตุผลที่คุณควรเปลี่ยนเกียร์มาตำแหน่ง  N  เมื่อมีโอกาส ตราบเท่าที่คุณมองว่าสมควร
     
    1.       ปลอดภัยมากกว่า ทุกครั้งที่คุณเหยียบเบรกเข้าเกียร์  D  แม้รถจะหยุดนิ่ง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่มันจะทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในการจราจรติดขัด  ที่คุณอาจจะเผลอเรอได้เพียงแค่คุณผ่อนน้ำหนักที่แป้นเบรก นิดเดียว รถที่อยู่ในตำแหน่ง  D  ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไปข้างหน้าทันที ดังนั้น หากรถติดขัดสาหัสมากนานหลายนาที การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ มายัง  N  ย่อมจะทำให้คุณปลอดภัยมากกว่าอย่างปฏิเสธไม่ได้
     
    2.       เรื่องสึกหรอ จริงหรือเปล่าที่จะช่วย แม้จะไม่มีข้อพิสูจน์ที่ฟันธงกันไปเลยว่า การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จากตำแหน่งเกียร์  D  ไป  N  จะมีผลต่อกระบวนการสึกหรอของชุดเกียร์มากน้อยเพียงใด แต่ข้อเท็จจริงทางด้านเทคนิคในรถยนต์เกียร์อัตโนมัตินั้น คือ ทุกครั้งที่คุณเข้าตำแหน่งเกียร์ขับเคลื่อน ตัวชุด  Torque Covertor จะถูกเชื่อมเข้ากับชุดฟลายวีลที่ด้านหลังเครื่องยนต์  
    หากแต่ที่รถไม่ขับเคลื่อนนั้น เพราะว่า มีแรงเบรกมากพอที่จะเอาชนะแรงบิดจากเครื่องยนต์ ซึ่งยังไม่มีแรงบิดมากนักที่กำลังเครื่องยนต์รอบเดินเบา ทำให้รถหยุดนิ่งกับที่ได้ ซึ่งหมายความว่าทุกครั้งที่คุณเข้าเกียร์  D  แล้วเหยียบเบรกไว้ จะมีการใช้งานระบบเบรกอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะแรงจากเครื่องยนต์ ซึ่งสามารถสร้างการเสื่อมสภาพให้กับเบรก ได้ในระยะยาวอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะชุดหม้อลมและท่อทางเดินน้ำมันที่จะรับแรงดันเป็นเวลานานๆ ต่อเนื่อง
     

    เช่นเดียวกัน การคงตำแหน่งเกียร์ที่ D ในส่วนของตัวเกียร์เองก็ทำให้ชุด  Torque convertor  ถูกต่อติดกับเครื่องยนต์ตลอดเวลาและ ภายในเจ้าตัวแปลงกำลังเครื่องยนต์นี้ก็มีการหมุนเวียนน้ำมันเกียร์เช่นกัน ซึ่งจุดนี้เองที่ทำมีการถกเถียงกันว่าเกียร์จะเสื่อมสภาพถ้าค้างเป็นเวลานานๆ หรือไม่นั่นเอง
    ประเด็นที่ถกเถียงกันในเรื่องนี้ ก็มาจากในระบบเกียร์เองมีการใช้แรงดันน้ำมันในการทำงานเช่นกันเพื่อปรับตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสม และมีแรงดันสูง ซึ่งอาจจะทำอันตรายต่อระบบถ้าเปลี่ยนไปๆมาๆ บ่อยครั้ง ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือว่า ถ้าน้ำมันมีการหมุนวนมากๆ โดยไม่เคลื่อนไหว อาจจะก่อให้เกิดความร้อนสะสม มากขึ้นในน้ำมัน และมันคือศัตรูที่สำคัญ ที่ทำให้ระบบเกียร์เสื่อมสมรรถนะเร็วขึ้นเช่นกัน  รวมถึงในส่วนของระบบคลัทช์ระหว่างเฟืองเกียร์ด้วย ที่จะพร้อมทำงานตลอดเวลา ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็มีการเสื่อมสมรรถนะได้ทั้งสิ้น
    **ดังนั้นในเรื่องนี้ถ้ามองแล้วต้องมาพบกันตรงกลาง คือถ้าคิดว่ารถติดเวลานานมาก สาหัสมากก็ให้เปลี่ยนตำแหน่งจาก  D  มา N  น่าจะดีกว่า และเช่นเดียวกัน ถ้าตัวเลขเวลารอที่สี่แยกไม่ได้นานอย่างที่คิด ก็คงค้างที่ตำแหน่งเดิมแล้วเหยียบเบรกเอาก็น่าจะดีกว่าเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้ดุลพินิจของผู้ขับขี่
     
    3.       เรื่องความประหยัด ประเด็นที่ถกเถียงกันมากถัดมานั้นก็คงไม่พ้นเรื่องของความประหยัดในการใช้น้ำมันของเครื่อง ระหว่างการเปลี่ยนตำแหน่งหรือไม่เปลี่ยน เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับชุดเกียร์ แต่ก็อธิบายไม่ยาก และสามารถตอบได้จากเหตุผลข้อที่แล้วว่า ทุกครั้งที่เราเข้าเกียร์  D  เหยียบเบรกแล้วรถไม่เคลื่อนมาจากการกำลังเบรกต้านไว้ มันก็คือการที่เราสั่งรถเดินหน้าอยู่ตลอดเวลา

    ทั้งที่ความจริงเราไม่ได้จะเดินหน้า ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ โดยตรงเพราะในรถบางรุ่นจะมีการปรับการทำงานเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อยเพื่อความสะดวกและให้กำลังของการออกตัว และมันหมายถึงการสิ้นเปลืองน้ำมันนั่นเอง  โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์พยายามที่จะสู้กำลังเบรกอย่างต่อเนื่องยิ่งทำให้มีความต้องการเร่งในช่วงสั้นๆบ่อยครั้ง ซึ่งคุณสามารถสังเกตได้ว่าเมื่อเข้าเกียร์จะมีการใช้รอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าตอนที่เราไม่เข้าเกียร์ D  หรืออยู่ในตำแหน่งเกียร์ N
     
    แม้การปรับตำแหน่งเกียร์  N  ไป D  จะมีข้อดีและเสียต่างกัน แต่การเปลี่ยนตำแหน่งนี้ ก็ยืนยันว่ามันไม่สร้างความสึกหรอเท่ากับ การเปลี่ยนตำแหน่งกับสู่เกียร์  P  ไปมาเป็นประจำที่รถหยุดซึ่งบางคนมักทำติดเป็นนิสัย หากแต่ไม่ว่าวันนี้คุณจะมีเหตุผลอะไร ทางออกที่ดีในการถนอมชุดเกียร์และปลอดภัยที่สุด ในการขับขี่เพื่อป้องกันไม่เผลอเรอ คือการปรับตำแหน่งเกียร์ไปที่ Nเมื่อรถติดเป็นเวลานานๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นส่วนที่สำคัญที่สุดคือคุณในฐานะผู้ขับขี่ต้องตัดสินใจว่าเมื่อไรควรจะปรับเข้าสู่  N
     
     
     
    เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
     
    ที่ีมาของข้อมูล http://auto.sanook.com/5152/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-n-%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87-d-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%86-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94/
  11. Like
  12. Like
    Tonkun reacted to Nui Showcase in ของเกือบฟรี... สำหรับคนรักล้อเดิม ยางเดิม 15" 16" เท่านั้ัน   
    มีรุ่นพี่ทำงานเกี่ยวข้องกับ มิชลินครับ.. ส่งข่าวมาบอกว่า
    ฝากบอกเพื่อนๆ
     
    ข้อกำหนด
    1. รถยนต์ 1600 cc ขึ้นไป
    2. ใช้ยาง 205/65-15 หรือ 205/55-16
    3. มีเวลามาเช็คสภาพยางปีละ 2 ครั้ง (ตามนัดหมาย)
     
     
    เงื่อนไข
    ยางขอบ 15 ... จะได้ยาง XM2 205/65-15
    มัดจำเงิน 6,000 บาท (ได้คืน 6,000 เมื่อครบสัญญา 1-3 ปี ตามระยะทางและสภาพยาง)
    ค่าสมัคร 2,000 บาท
    ค่าถอดเปลี่ยนยาง ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ 1,000 บาท
    รวม 9,000 บาท
     
     
    ยางขอบ 16 ... จะได้ยาง MXV8 205/55-16
    มัดจำเงิน 8,000 บาท (ได้คืน 8,000 เมื่อครบสัญญา 1-3 ปี ตามระยะทางและสภาพยาง)
    ค่าสมัคร 2,000 บาท
    ค่าถอดเปลี่ยนยาง ตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ 1,000 บาท
    รวม 11,000 บาท
     
    เมื่อสิ้นสุดสัญญา จะได้รับเงินมัดจำคืน 6,000 หรือ 8,000 บาท ตามขนาดยาง
    เหมือนได้ใช้ยางฟรี...
     
    ของมีจำนวนจำกัด ...
    นัดเปลี่ยนประมาณ เดือน พย. 2555 ตามตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้าน (ของเจ้าของรถ)
    ที่ทาง บริษัท กำหนด .... สงสัยอาจจะต้องเฉพาะใน กทม. ปริมณฑล
     
    ผู้สนใจ (ไม่ต้องส่งมาทางข้อความนะครับ เดี๋ยวข้อความผมเต็ม อิอิ) ขอรายละเอียด
     
    ชื่อเล่น
    login
    เบอร์โทร
    ขนาดยางที่ใช้
    ยี่ห้อรถ
    รุ่น
    ลงไว้ในนี้แหละ... เดี๋ยวผมมาแจ้งอีกทีว่าจัดส่งไปที่ไหนยังงัย
     
     
    คำถาม
    ถ้า....ใช้ไปแล้ว ยางแตก ปะได้ ก็ปะให้, ปะไม่ได้ก็เปลี่ยนฟรี ในรุ่นเดิม แบบเดิม
    ถ้า....ใช้ไป 1 ปี แล้วหมดสภาพ ... ก็รับเงินคืน (ส่วนจะต่อ Pro มั้ย..ยังไม่ทราบ)
    ถ้า....ใช้ไปแล้ว 1 ปี ขายรถ ยังไม่หมดสัญญา แล้วเปลี่ยนยาง อาจจะไม่ได้เงินค่ายางคืนนะครับ
     
     
    ผม.. ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสียกับ PROMOTION นี้
    แค่มีข่าวมาบอก.... ยางดี ไม่ดี อย่าว่ากันนะ "ออกตัวล้อฟรีคงไม่คุ้ม"
    แต่..อยากให้สมาชิก CCTH ได้สิทธิ์นี้ไปครับ
     
    หากใครมีคำถามเพิ่มเติม ถามในนี้เลยนะครับ ผมจะส่งข้อความไปให้กับ บริษัทฯ
    ส่วนเงื่อนไขต่างๆ จะมีรายละเอียดให้อ่านเพิ่มเติมในลำกับต่อไป
  13. Like
    Tonkun reacted to patcha in ประกันอาคเนย์ไม่คุ้มครองเครื่องยนต์หรอคะ   
    เฮียเม้งผู้เป็นที่พึ่งที่น่ารักที่สุดเลยค่ะ
    ปล กลับมาหล่อแล้วจามาอัพเดทนะคะ
  14. Like
    Tonkun reacted to Tommie in การเปลี่ยน โช๊ค สปริง เหล็กกันโคลง TypeR สำหรับมือใหม่ที่สนใจ   
    สำหรับท่านที่สนใจนะครับ น่าจะมีประโยชน์ในการตัดสินใจบ้าง
     
    ฟิลลิ่งการขับขี่ คิดว่าต้องมีคนถาม บอกเลยว่า เด้ง แบบแน่นๆ ไม่นิ่ม ไม่ย้วย สำหรับถนนห่วยๆ   ถ้าทางหลวง ถนนเรียบ ขับสนุก แน่นๆ มั่นใจ 
     
    ถ้าเปลี่ยนมาใหม่ๆ ขับแล้วจะอ้วก ให้ทนขับไปสักพัก พอโช๊คและม้ามเข้าที่อาการจะหายไปครับ  เรื่องจริงนะครับ 
     
    อันนี้กระทู้   เหล็กกันโคลง1 เหล็กกันโคลง2  เผื่อสนใจครับ 
  15. Like
    Tonkun reacted to BESTCOROLLBOY in หลายท่านถามว่าท่อ Modulo มันคือท่อแต่งหรือท่อเดิม ผมเอามาให้ดูครับ   
    ผมไม่มันใจว่าเค้าเรียกว่าอะไรอะคับ แต่ที่แน่ๆคือมันเงียบมากคับ และอั้นด้วย
     
    แต่ดูแล้วน่าจะเรียกว่า "โครตย้อน" อะคับเพราะมันวนหลายรอบเกิน 555
  16. Like
  17. Like
    Tonkun reacted to @Jo in [[[REview]]] Oil Adapter สำหรับเครื่อง R18A   
    ต้องขอขอบคุณ โจ้ Dirty Bit แห่ง The Code นะครับ ที่ชี้เป้าและจุดประกาย
     
    ขอบคุณน้องต้น pawancompany นะครับที่หาของให้อย่างรวดเร็ว
     
    ขอบคุณพี่เบิ้ลครับงานเรียบร้อยมากมาย ^^
     
     
    เกริ่นกันก่อนสักนิด เนื่องจากเครื่อง R18A ของเรา ออกแบบมามีพื้นที่่น้อยมาก
    ทำให้ไม่สามารถใช้ oil adapter แบบปกติได้ ช่วงแรกจึงได้มีการนำ adpater ทอวเหลืองเป็นแท่งๆ
    มาเสียบที่หน้าเครื่อง เนื่องจากน้ำหนักมาก ทำให้หลายคัน เกิดก่รร้าวและหักคา ผมเองถอดทัน รอดไป
     

     
    หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ใช้เกจสองตัว ปล่อยไฟกระพริบ จนกระทั่งวันนี้ มันกลับมาแล้วครับ

     
     
     
     
    package ชัดเจนครับ ของ R18A นะ shadow ทำมาโดยเฉพาะเลย
     

     
     
    ภายในมี ข้อต่อ oil filter, oil temp sensor, oil adapter มาให้
     

     
    oil temp sensor ต้องใช้ของ ที่ให้มาครับของเดิมใช้ไม่ได้ เพราะยาวไปใส่เเล้วจะชน
     

     
    ใส่ defi sensor ชนเลย

     
     
    ของ shadow พอดีครับ

     
     
    อุปสรรคถัดมาคือปลักซ์ครับ ต่างกันต้องโม แนะนำอย่าตัดต่อเพราะ อนาคตถ้ามีอะไรชำรุดจะลำบาก ให้ทำ socket ต่อเอา
    ช่างผมเอา socket จาก ไฟ Xenon มาทำให้ น่ารักมาก
     

     
     
     
    อย่ารอช้า ขึ้น hoise และประกอบกันเลย
     

     

     

     
    โฉมหน้าช่างครับพี่เบิ้ล Dynamic งานเนียน
     

     
     
    ยัดเข้าไปพบว่าพอดีมากๆ แบบว่าเอียง ซ้าย ขวาไม่ได้เลย
     

     
    จากนั้นไล่สายครับ
     

     
    มันกลับมาแล้ว
     

     
     
     
    สิ่งที่ควรระวัง กรองจะต่ำลงมาอีกนิดหน่อยครับ แต่ยังสูงกว่า crank น้ำมันเครื่อง
     
     
    ปล เป็นแนวทางนะครับ แต่เจ๊พี บอกว่า adapter ทองเหลืองแบบเข้าหน้าเครื่องมีแบบอันเล็กลงแล้ว แต่ผมยังไม่ได้ไปลองเลยครับ >.<"
  18. Like
    Tonkun reacted to Tommie in ล้างและเคลือบผิวโคมไฟหน้า ช่วยแก้โคมหมองเป็นรอยเยอะได้   
    แต่ผมพวกเล่นไฟ ความกริบของผิวโคมมีผลต่อแสง เลยต้องจัดหนักครบๆ
     
    จริงๆ ก้อควรทำครับ น้ำยาเคลือบโคมสมัยนี้ ถูกมาก 500 กว่าบาท ใช้ได้ ประมาณ 4 โคม น่ะ
     
    หมายความว่านอกจากไฟหน้าแล้ว เราไปทาไฟท้ายได้ด้วยครับ ทาๆไปเถอะ แข็ง ทนการขูดขีดได้ดีระดับนึงเลย
     

  19. Like
    Tonkun reacted to Tommie in ล้างและเคลือบผิวโคมไฟหน้า ช่วยแก้โคมหมองเป็นรอยเยอะได้   
    สะอาดแห้ง มาดูผลงาน
     
    มันจะเรียบใส ถ้าไม่คิดอะไรมาก ใช้น้ำยาเคลือบสีรถน่ะ ทับไว้เรื่อยๆ ใช้ได้อีกยาวคับ
     

  20. Like
    Tonkun reacted to Tommie in ล้างและเคลือบผิวโคมไฟหน้า ช่วยแก้โคมหมองเป็นรอยเยอะได้   
    เสร็จละ ก้อ ล้างให้สะอาดจ้า ล้างมันยันรถน่ะแหละ หมดจดดี
     

  21. Like
    Tonkun reacted to Tommie in ล้างและเคลือบผิวโคมไฟหน้า ช่วยแก้โคมหมองเป็นรอยเยอะได้   
    ของครบก้อมาลุยเลย
     
    จะถอดโคม รึเล่นคารถแบบผมก้อตามใจ และ ความสามารถส่วนบุคคลนะคับ
     
    แต่ต้องระวังจริงๆ ทั้งน้ำมันเบรค และ น้ำยาเคลือบ มีผลต่อผิวสีครับ
     
    ผมจัดคารถเลย ขี้เกียจรื้อ น่ะ
     

  22. Like
    Tonkun reacted to Tommie in ล้างและเคลือบผิวโคมไฟหน้า ช่วยแก้โคมหมองเป็นรอยเยอะได้   
    มาเริ่มเลยคับ สำหรับโคมที่โดนความร้อนเยอะๆ เริ่มเป็นฝ้า มารักษาฝ้ากันแบบประหยัด ลอกหน้ากันเลย
     
    ทำได้ ทั้งด้านนอก และด้านในนะครับ วิธีนี้แหละ แต่ด้านในต้องเปิดโคมมาทำนะจ๊ะ
     
     
    อุปกรณ์ที่ต้องมีนะครับ ผมเอาง่ายไปหา ที่ AUTOBAC ครบอยู่ในราคา ประมาณ 700 บาทครับ
     
    มีแค่นี้เอง
     

  23. Like
  24. Like
    Tonkun reacted to jojoecung in วิธีรับบัตร Motor Expo ฟรี หน้างาน   
    สำหรับคนที่ใช้ iphone นะครับ ผมไม่แน่ใจว่า Android ใช้ได้หรือป่าว
     
    โหลด App ชื่อ Motor Expo ใน app store แล้วไปที่ช่อง 3.2 (ช่องแลกบัตรฟรี)
     
    แล้วยื่นโทรศัพให้เขาดู app ที่โหลดมา ก็จะได้บัตรเข้างานฟรี 2 ใบ ต่อ 1 เครื่อง หรือ 1 เบอร์
  25. Like
    Tonkun reacted to ZXON in ขั้นตอนการติดตั้ง P2R Civic FD 2.0 และ ล้างลิ้นปีกผีเสื้อครับ   
    โปรเจคนี้เกิดจากความคับแค้นใจที่บากหน้าไปถามเซียนท่านหนึ่งว่าเค้าทำกันอย่างไรในขั้นตอนการติดตั้ง Civic FD2.0 แต่ได้รับการปฎิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย เพราะส่วนมากเห็นแต่รีวิวกันในเครื่อง 1.8 ไอเดียบางส่วนได้มาจาก พี่เต้ย ที่เคยรีวิวไว้แล้ว ที่นี่ครับ ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
     

     
    P2R หรือ Throttle Body Spacer อลูมิเนียม ทำหน้าที่เพิ่มพื้นทำสำหรับเก็บอากาศหลังจากกรองอากาศ โดยทำหน้ากักเก็บอากาศไว้รอป้อนเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้มากขึ้น ทำให้รอบต้นตอนสนองได้ดีขั้นครับ
     
    หน้าตาของเจ้า P2R
     

     
     
    อุปกรณ์ที่มากับ P2R ครับ มีน็อต ยาว 4 ตัว แหวนรอง 4 ตัว ยางอุดรูสำหรับช่อง nitrous oxide systems 1 อัน ประเก็นเบิกศูนย์็ Honda พาส ตามนี้เลยครับ ราคา ร้อยกว่าบาทครับ
     

     

     
    ส่วนเราไม่ได้ใช้ก็อุดรูไว้น่ะครับ
    ขั้นตอนต่อไปก็มาเตรียมอุปกรณ์ครับ ขอบคุณพี่เอ๋ สำหรับอุปกรณ์ในครั้งนี้ด้วยครับ
    อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีตามนี้เลยครับ แต่ไม่ถึงกับต้องใช้ทุกอันน่ะครับ หลักๆที่ต้องใช้ก็มี
    - คีมหนีบ สำหรับหนีบตัวล็อกสาย
    -ประแจบ็อก เบอร์ 12,13 ประแจแหวน เบอร์ 12 สำหรับถอดและใส่น็อตลิ้นปีกผีเสื้อ
    -น็อตตัวเมีย เบอร์ 12 สำหรับถอดเสายึดลิ้นปีกผีเสื้อ 2 ตัว ครับ
    - สเปรย์ คอนแทคคลีนเนอร์ ราคา 215 บาท สำหรับล้างลิ้นปีผีเสื้อไปด้วยเลยครับ
     

     
    ขั้นตอนแรก เริ่มจากการถอด น็อตรัด ท่ออากาศ ออกครับให้ทำการคลาย เข็มขัดรัด ท่ออากาศ ระหว่างกรองไปยังลิ้นปีกผีเสื้อออกออก่อนครับ แล้วใช้คีม บีบตัวล็อกที่เป็นท่อยางและท่อเหล็กที่ต่อมายังท่อยางด้วยครับ ตามที่ผมวงสีแดงไว้น่ะครับ
    ข้อควรระวังขั้นตอนนี้คือ อย่าให้ตัวล็อกสายหล่นไปในเครื่องน่ะครับ ไม่งั้นต้องมาเสียเวลาหาอีก ระวังด้วยครับ ควรจะให้ติดอยู่ที่ท่อยางจะดีกว่าน่ะครับ
     

     

     
     
    คราบเขม่าลิ้นปีกผีเสื้อ วิ่งมา 64,474 กม.
     

     
    คราบเขม่าสีดำมันๆ ครับไม่ได้จับแข็งเหมือนเขม่าท่อน่ะครับ
     
    เช็ดออกได้แต่ระวังหน่อย อันนี้เอานิ้วจิ้มให้ดู
     

     
    หลังจากถอดออกแล้วให้ดันสาย เซ็นเซอร์อากาศ หลบไปด้านบนก่อนครับ ป้องกันการสลับตำแหน่งในขั้นตอนการใส่กลับคืนน่ะครับ
    ถอดท่อยางด้านบนออกครับ ให้กิ๊ิปล็อคติดไปกับท่อยางเพื่อป้องกันการหล่นหายหากติดไปกับตัวลิ้นปีกปีเสื้อ
    ท่อยางที่วงสีแดงไว้ด้านล่างระวังนิดหนึ่งน่ะครับมีน้ำหล่อเย็นอยู่หากทำตอนเครื่องยังไม่เย็นดี น้ำร้อนจะลวกมือเอาน่ะครับระวังด้วย
     

     
    แล้วก็จัดการถอดซ็อคเกตชุดสายไฟ ที่จ่ายมอเตอร์ควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อออกด้วยครับ กดตัวล็อกแล้วดึงขึ้นได้เลยครับไม่ยาก
    หลังจากนั้นใช้บ็อคเบอร์ 12 ใช้ด้ามต่อด้วยน่ะครับ ถอดน็อตตัวผู้ ออกก่อน 2 ตัว และน็อตตัวเมียออก 2 ตัว แล้วค่อยๆ ดึงลิ้นปีกผีเสื้อออก
    ระวังน่ะครับขั้นตอนนี้ อย่าให้อะไรหล่นหรือไปกระแทกตัวเปิดปิดลิ้นปีกผีเสื้อเป็นอันขาด น่ะครับไม่งั้นได้เบิกลิ้นปีกผีเสื้อใหม่แน่ๆ ราคาเบิกใหม่ ประมาณ 19,xxx ครับ

     
    เรียบร้อย
     

     
    เอาออกแล้วจะเจอ น็อตเสา 2 ตัว ครับใช้น็อตเบอร์ 12 จำนวน 2 ตัว ใขเข้าหากัน แล้วใช้บ็อกเบอร์ 12 หมุนออก ขั้นตอนนี้ไม่ยากอย่างที่คิดครับ ขันออกเบาๆ สบายมือครับ ตอนลงมือทำห่วงขั้นตอนนี้มาก แต่สรุปขั้นตอนนี้ง่ายที่สุดครับ ทำแบบนี้ทั้ง 2 ตัวครับ
     

     

     
    หลังจากถอดออกมาแล้ว จะเห็นทางเดินอากาศเข้าเครื่อง มีคราบเขม่า นานๆ ถอดซะที จัดการ ทำความสะอาด และ ล้างลิ้นปีกผีเสื้อไปพร้อมกันเลยครับ
     

     
    ใช้ผ้าพันด้ามใขควง เช็ดเข้าไปลึกๆเลยครับ
     

     

     

     
    ต่อไปหันมาจัดการกับลิ้นปีกผีเสื้อที่สกปรกครับ ใช้สเปรย์คอนแทคคลีนเนอร์ ฉีดบริเวณรอบๆ พยายามอย่าฉีดให้โดนตัวลิ้นปีกผีเสื้อตรงๆน่ะครับ ป้องกันการขยับผิดองศาเดิมของลิ้นปีกผีเสื้อครับ
     

     

     

     
    ฉีดทิ้งไว้ ใช้สำลีค่อยๆเช็ดคราบเขม่าออก ระวังด้วยน่ะครับ ที่ต้องเตือนบ่อยๆ เพราะต้องระวังจริงๆ
     

     

     
     
    ต่อไปก็มาเทียบให้ดูถึงขนาดของรูอากาศของ P2R และ รูอากาศที่ลิ้นปีกผีเสื้อเดิมครับ
     

     
    รูปแบบวางทาบก่อนใส่จริงครับเอาน็อตล็อกไว้เลย 2 ตัวแทยงมุม ก่อนใส่กลับครับ
     

     

     

     
    ใส่กลับทำตามขั้นตอนเดิมหัวน็อตของ P2R ที่ให้มา ใช้กับ บ็อคเบอร์ 13 น่ะครับ ขันกลับแค่พอตึงมือ ระวังแน่นไปเดี๋ยวน็อตขาดขึ้นมายุ่งน่ะครับ ประเก็นเดิมไม่ต้องแกะออกน่ะครับใช้ต่อได้ ส่วนตัวใหม่ใส่ไปที่ด้านล่างสุดน่ะครับ
    ใส่ท่อน้ำหล่อเย็นที่ลิ้นปีกผีเสื้อก่อนแล้วเสียบซ็อคเกตควบคุมมอเตอร์ลิ้นปีกผีเสื้อกลับ ใส่ท่อยางครอบลิ้นปีกผีเสื้อไว้ก่อนป้องกันอะไรหล่นไปโดนลิ้นปีกผีเสื้อ และ ทำการตรวจสอบ ว่าใส่กิ๊ปล้อคครอบทุกตัว และ ต่อสายต่อท่อครบหมดหรือยัง
    เสร็จขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้ครับ ตรวจสอบความเรียบร้อย ที่เห็นมี 2 สี ทำสองคันน่ะครับ
     

     

     

     

     
    ต่อไปก็ตั้งนะโม 3 จบ ป้องกันการสตาร์ทแล้วรอบเครื่องค้างครับ
     

     
    โว๊ะ เรียบร้อยครับ รอบเดินปรกติ
     

     
    เสร็จเรียบร้อยหละครับ เดินเครื่องทิ้งไว้สักพัก
    ขอบคุณ
    พี่เอ๋ พี่พร
    และทีมงานช้างน้อยทุกคนครับ ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์และแรงกาย
×
×
  • Create New...