5ydney

จำไม่ได้ว่ายื่นกว่าแำก้มเดิม ข้างละ 5 หรือ 10 มิลนะครับ คิดแล้วจะตก 1 ซม. = 25,000 +- บาท

 

ไอเท็มพวกนี้ ใจล้วนๆครับ เพราะ คนเล่นกับคนบ้าเท่านั้นถึงจะสังเกตุเห็น ^^

ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ป๋ามาถูกทางละคับ 

 

2-3 วันแรก อาจแปลกหูแปลกตาไปบ้าง แต่หลังจากนั้นจะยี้กระจกเดิมเลยฮะ

ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ป๋ามาถูกทางละคับ 

 

2-3 วันแรก อาจแปลกหูแปลกตาไปบ้าง แต่หลังจากนั้นจะยี้กระจกเดิมเลยฮะ

ไม่มีใครว่ากลุ่มหรอกทุกคนมองว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้จัดทั้งนั้น
เมื่อการจัดไม่ยุติธรรม คงไม่มีใครไปโทษคนร่วมกิจกรรมแน่นอนครับ
ใจเย็นๆ เราคนรักในรถยนต์เหมือนกัน
 
แต่การที่ผู้จัดบอกว่าจะปิดการรับสมัคร แล้วจำนวนรถกลับไม่นิ่งนั้น
เค้าอาจจะไม่ได้รักในรถยนต์เหมือนเราๆ เค้าน่าจะรักอย่างอื่นมากกว่า

สวัสดี เพื่อนๆพี่น้อง ชาว Civic Club Thailand นะครับ


 

มาช้าไปนิด พอดีเพิ่งเก็บเสื้อผ้าเสร็จจากบ้านเก่า


 

ผม "สิทธิ์" หรือ Sydney แห่ง DRM นะครับ หัวใจเป็น Spoon 100% ไม่ปันใจให้ใครแน่นอน


 

ยินดีให้คำปรึกษาทุกเรื่องเท่าที่พอจะรู้เกี่ยวกับเจ้ากระเรียนเน้อ


 
 
 



 

มีปัญหาแบบเดียวกับผมเลย ยางสปอร์ตลังเลที่จะมายางเงียบ เพราะไม่รู้ว่าข้อด้อยของยางคอมฟอร์ทตัวผมเองจะรับได้มั้ย เงียบนะแน่นอน แต่การให้ตัวของแก้มจะประมาณไหน
 
Re002 ➡︎ gr100 ตัว 002 ผมว่ามันก็ไม่ดังอะไรมากนะครับ คม แม่น เกาะตามสไตล์ยางประเภทนี้ gr100 ไม่เคยลองแต่ gr90 เคยขับระยะสั้นๆ สิ่งที่แย่ลงก็ยอมรับได้ ย้วยขึ้น แต่ผมก็เข้าใจมันเพราะมันเงียบ 55
 
ถ้าอยากเกาะเหมือนเดิม อยากเงียบด้วย คงต้องแนะนำ bs s001 ครับ ราคาแอบแรงหน่อย แต่ตัวผมเองก็คิดว่า gr100 ราคาก็ไม่เบาเช่นกัน
 
ลองชั่งใจดูครับ

หมดเวลาสวยงามแล้วครับ ถึงเวลาโทรเรียกนายหัวให้เอาหอยมาส่งได้ละ

ถ้าคิดว่า e85 ชะล้างดีนั้น จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ
 
ลองสังเกตุช่างตามอู่สิครับ จะล้างอะไรก็เบนซินล้าง ออกง่ายหมดจด พูดง่ายๆสารชะล้างอยู่ในเบนซินครับ ถ้าเป็น e85 เหลือเบนซิน 15%ความสามารถในการชะล้างน้อยลงเยอะครับ
เคสe85 แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างหัวฉีดช่วยครับ

เอาคาลิปเปอร์ของ FD2 มาใส่ FD1 ได้ครับ แต่......
ต้องย้ายชิ้นส่วนตามนี้
ชุดลูกสูบ FD2 + ฐานคาลิปเปอร์ FD1 + จานเบรค FD1
อธิบายเพิ่มเติม
ชุดลูกสูบ จะเป็นชุดที่สามารถขยับตัวได้ตามแรงกดเบรค
ฐานคาลิปเปอร์ เป็นชุดที่พยุงชุดลูกสูบ ฐานนี้จะไปยึดกับขาคอม้าอีกที
 
งงมั้ย 5555

ขออนุญาตเพิ่มเติมอีกนิดนะ


 

ถ้าจะมองว่า กันโคลง จำเป็นหรือป่าว ให้ลองมองย้อนมาที่นิสัยการขับรถของตัวเองดู ถ้าปกติใช้รถในเมืองเรื่อยๆ ขับชิลๆเสมือนยังไม่ได้ปลดล็อก 120 km.



อย่างนั้นก็พูดได้เต็มปากเลยว่าไม่จำเป็นหรอก


 

ของพวกนี้มีก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้ามี มันจะเพิ่มความมันส์ ความสบายใจในการขับรถให้เจ้าของได้แน่นอน


 

ผมเป็นคนนึง ที่เคยเห็นรถซีวิครุ่นเดียวกันเดิมๆ โยกเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง แล้วหมุนต่อหน้าต่อตา หลังจากวันนั้นไม่เคยรู้สึกว่าของแต่งเพิ่มสมรรถภาพพวกนี้แพงเลย


 
 

เผลอๆ รถที่ใส่ค้ำท่วมคัน ใส่ทุกรูเท่่าที่จะใส่ได้ ยังแสดงอาการไม่ต่างจาก กันโคลง 2 อันเท่านั้นเลย


 

ลองพิจารณาดูครับ ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆกับใครอยู่แล้ว

ขอเข้ามาแชร์ด้วยคนครับ
 
วาล์วน้ำเดิม วาล์วน้ำซิ่ง มันดีไม่ดียังไง 
 
คือเครื่องยนต์เดิมๆ วาล์วน้ำจะเริ่มเปิดสุดที่อุณหภูมิ ... ( เท่าไรผมไม่สนใจ ) แต่เกิน 80 แน่นอนครับ กับ วาล์วน้ำแต่งเปิดสุดที่หลัก 7สิบปลาย
เท่ากับว่า การใช้งานสภาพปกติ วาล์วน้ำเดิมจะทำให้อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นอยู่ประมาณ 90-95
วาล์วน้ำซิ่ง จะวิ่งอยู่ 80-85 หรือ อาจจะไม่ถึง 80 ดี
 
เครื่องยนต์เดิมๆ โรงงานอยากให้เครื่องร้อนเร็วเร็วครับ เพื่อที่จะลดปริมาณการฉีดน้ำมันช่วงอุณหภูมิน้ำเย็น ( Cold enrichment fuel injection เอาง่ายๆว่าที่อุณหภูมิน้ำต่ำๆ จะฉีดหนากว่า 14.6 ) xxxเจ้า Cold enrichment จะไปหมดแถวๆอุณหภูมิ 7สิบนิดๆ นี่แหละครับ ถ้าเครื่องร้อนเร็ว Cold enrichment ก็จะหมดไว Emission ก็จะดีครับ
 
เครื่องยนต์เดิมๆ มันสามารถทนอุณหภูมิน้ำได้ค่อนข้างสูงอยู่ครับ บริษัทรถยนต์เค้าเทสเครื่องกันที่อุณหภูมิ เกิน 100 องศาซีไปเยอะ ไม่ต้องกลัวว่ามันจะฮีทง่าย หรือ มันจะพังไว
สิ่งที่ผมกลัวนอกเหนือจากวาล์วน้ำเดิม วาล์วน้ำแต่งก็คือ " วาล์วน้ำตาย " ถ้าตายละงานมาแน่ครับ ถ้าน้ำหล่อเย็นครบระยะ 160000 กม เปลี่ยนวาล์วน้ำด้วยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ
 
ปล. ผมใช้วาล์วน้ำซิ่งครับ ถ้าใช้งานในสภาวะโหดๆหน่อยจะเห็นคุณงามความดีมันมากๆครับ น้ำเย็นลง ออยเท็มลงตาม ออยเพรสฟิตปั้ง ใช้วาล์วน้ำเดิมวิ่งโหดๆในคอนดิชั่นเดียวกัน เท็มน้ำลง 10 องศา เท็มออย 5 องศา มีให้เห็นครับ

อัพเดตรถกันหน่อย หลังกลับมาจาก Track Day
พบอาการแปลกๆ กดเบรคลึกแล้วรถเป๋ออกด้านซ้าย
ปรึกษากับกูรูแล้วพบว่า จานเบรคบางจนคาลิปเปอร์กดไม่ถึงแล้ว
 
เพราะจานสำหรับคาลิปเปอร์ F50
เบิกใหม่จะหนา 32 มิล
ก่อนหน้านี้ผมวัด เหลือแค่ 27 มิลเท่านั้น
 
จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนจานเบรคด่วน
ซึ่งตัวเลือกมีไม่มากนัก เนื่องจาก
hub กลางเป็นของ RDD เช็คราคา
แล้วสู้ไม่ไหว เลยนอกใจไปคบกะ
Project Mu แทน
 
เนื่องจากต่างยี่ห้อ จึงต้องมีการแปลงนิดหน่อย
โดยจุดยึดจานกับฮับ ของ RDD จะหนา 7 มิล
ส่วนของ Project Mu หนา 10 มิล ซึ่งแก้
ไขได้ไม่ยาก แค่ปาดออกไปบางส่วน
ส่วนรูน้อตตรงกันหมด แต่ขนาดต่างกันเล็กน้อย
ก็ขยาย เท่านั้นก็จบแล้วครับ
 
หลังจากใส่แล้ว เบรคกลับมาเป๊ะเหมือนเดิม
เมื่อก่อนเวลาวิ่งมีเสียงแก๊กๆๆๆ ก็เงียบไปเลย
 
แต่มีงานเพิ่มนิดหน่อย ขาคาลิปเปอร์อลูมิเนียม
โดนยิงปืนลมมาเกลียวรูด ต้องทำขาใหม่
จำไว้นะครับ ขาคาลิปเปอร์อลูมิเนียม
ขันน้อต 60 ปอนต์ก็พอแล้ว ห้ามยิงปืนลมเด็ดขาด
 

อัพเดทเล็กๆน้อยๆ ของที่ต้องมีตั้งนานแล้ว แต่ไม่มี อายๆๆ
 
คือผมใส่พวงมาลัย Type-R มานานและ แต่แอร์แบคใช้ของบ้านเราอยู่ ก็เอาสติ๊กเกอร์ H แดงแปะเอา
พอดีน้องในกลุ่มขายของเลยช่วยน้องซะหน่อย 
 
 

 
 
H แดง แอร์แบค Type-R แท้ เวลาลูบนี่มันได้อารมณ์จริง เพราะจะเรียบไปเลย
ไม่เหมือนของเก่าลูบแล้วติด ลูบไปลูบมา กลายเป็นแงะ H อีก จะหลุดเอา
 
--------------------
 
อันต่อมา อันนี้ยิ่งหนัก บางคนคิดว่าผมมีแล้วด้วยซ้ำ
แต่เราเพิ่งมีครับ กับจัดระเบียบลมหลัง !!
 
 

 
 
เพิ่งจะมีกับเขาครับ หลังจากปล่อยให้โล่งมาตั้งนาน
ซึ่งผมเองก็เพิ่งทราบว่า ต้องเจาะรูยึดน็อต ถ้าปี 2010 ขึ้นไป จะมีมาให้ 1 รู คือตำแหน่ง B ส่วน 1 รูตำแหน่ง A จะเจาะเพิ่มหรือไม่ก็แล้วแต่
ส่วนรถปีต่ำกว่านั้นลงมานั้น จะรูไม่ตรงทั้ง 2 รู ซึ่งก็ต้องเจาะทั้ง 2 รู 
 
 

ภาพประกอบจากคุณ 1100pm ขอบคุณครับ
 
 
งานนี้ก็ได้พี่โจ้แห่งสำนัก Car-Up จัดการให้ครับ ลำบากพอสมควร
สุดท้ายผมเลยเลือกเจาะแค่ ตำแหน่ง A ครับ 1 ที่ ก็ยึดอยู่แล้ว 
 
 

 
 
ก็จบไปครับ สำหรับ ไอเทมเบาๆในครั้งนี้ 

ไปทริปนี้วิ่งไปประมาณ 2300 km ครับ ใช้ E20 เติมน้ำมันไปทั้งหมด 220 กว่าๆลิตร อัตราสิ้นเปลืองคร่าวๆ ประมาณ 10.xx km/h กับความเร็วเดินทางสูงนิดหนึง ถือว่าประหยัดมากใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่กระเป๋าฉีกจนเกินไปนะครับ ( จิงๆวิ่งทางราบมี 11.xx km/l กลางๆ ทางเขาหลือประมาณ 9.xx ครับ )
 


 
ปล.คันน้ำเงินสวยจัง อิอิ

เอาลูกชายไปตะลุยเหนือมาครับ ดอยอินทนนท์ ปางอุ๋ง ห้วยน้ำดัง เชียงใหม่ เอามาฝาก 1 รูป
 

https://www.facebook.com/darumaperformance

 

เข้ามายืนยันอีกเสียงครับ ถ้าซื้อจากน้องตู้ ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอนครับ เท่าที่รู้ H แดงหลัง จะไม่มีปั๊มตราใดๆด้านหลังนะครับ

 

ไม่ผิดนะครับ ที่จะระแวง เพราะเดี๋ยวนี้ H ก็อปค่อนข้างทำได้ใกล้เคียงของแท้มาก แต่ก่อนที่จะคิดเองเออเองอะไรไป อยากให้ลองเช็คประวัติผู้ขาย หรือว่าลองหาข้อมูลจากทางพ่อค้าที่ขายของแท้ดูก่อนก็ดีนะครับ (ถามจากเชษฐ์ก็ได้ครับ)

 

เพราะถ้าไม่สบายใจที่จะซื้อของมือ 2 กลัวว่าจะแท้ไม่แท้ แนะนำให้มองของใหม่จากร้านที่น่าเชื่อถือไปเลยครับ

เข้ามายืนยันอีกเสียงครับ ถ้าซื้อจากน้องตู้ ไม่มีทางเป็นของปลอมแน่นอนครับ เท่าที่รู้ H แดงหลัง จะไม่มีปั๊มตราใดๆด้านหลังนะครับ

 

ไม่ผิดนะครับ ที่จะระแวง เพราะเดี๋ยวนี้ H ก็อปค่อนข้างทำได้ใกล้เคียงของแท้มาก แต่ก่อนที่จะคิดเองเออเองอะไรไป อยากให้ลองเช็คประวัติผู้ขาย หรือว่าลองหาข้อมูลจากทางพ่อค้าที่ขายของแท้ดูก่อนก็ดีนะครับ (ถามจากเชษฐ์ก็ได้ครับ)

 

เพราะถ้าไม่สบายใจที่จะซื้อของมือ 2 กลัวว่าจะแท้ไม่แท้ แนะนำให้มองของใหม่จากร้านที่น่าเชื่อถือไปเลยครับ

แวะเอาข้อมูลมาฝาก งูๆปลาๆ ผิดถูกแย้งได้น่ะครับ

 

จะพาไปชมอู่ของ Hondatwincam กันครับ เผื่อการรับชมที่มากขึ้น ผมจึงขอเอาภาพจาก google street view มาให้ชมกัน

เพราะถ้าใครเข้าไปชมในเวปไซด์ทางการ แล้วดูรูป รูปจะเล็กมาก ดูแล้วไม่สะใจเลย 

เลยอาสาพาไปชมเองเลยครับ แหล่มกว่าเยอะ

 
สำนัก Hondatwincam มี อู่อยู่ 3 ที่ ดังนี้

 

1. สาขา Suginami

Narita Suginami Tokyo

 

ที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ของ Hondatwincam

ภาพด้านบน หรือภาพที่เห็น ส่วนใหญ่จะถ่ายออกมาจากที่อู่นี้ครับ

 

 

 



 

 

 

2. สาขา Sugito

Saitama Sugito Tsubaki

 

สาขานี้จะอยู่นอกเมือง บรรยากาศดี มีแต่ต้นไม้

แต่รถที่จอดนี่เพียบเลยซะงั้น แต่ละคันไม่ธรรมดาทั้งนั้น 

ผมสนใจคันสีน้ำเงินที่อยู่ลิบๆ เสียดายที่รถ Google ไม่ได้ขับผ่านถนนหน้าร้าน

เลยเห็นแต่ระยะไกล ไม่งั้นคงได้ภาพรถเทพๆมาอีกเพียบ

 

 

 



 

 

 

3. สาขา Yokohama

Kanagawa Yokohama Tsuzuki-ku

 

สาขานี้จะออกแนวเล็กๆ มีช็อปขายของอยู่ด้านหน้า ส่วนรถอยู่ด้านหลัง

ประตูเข้าออกรถอยู่ด้านหลัง accord สีน้ำเงิน

 

 

 



 

 

วันนี้เอามาฝากแค่นี้ครับ

ไว้ว่างๆ เดี๋ยวหาอะไรมาลงเพิ่มเติมให้ใหม่ 

หาข้อมูลแล้วไปเจอมา ผมพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมต้องเปลียนหัวฉีดหรือไม่เปลี่ยนก็ได้โดยติดกล่อง E85 Kit ไปเจอใน Pantip เครดิตคุณ Tan NB ขอ อนุญาติก็อปปี้ข้อมูลนะครับ
 
กล่อง E85 หลักการมันง่ายนิดเดียวคือ ยกหัวฉีดให้นานขึ้น เพื่อให้จ่ายน้ำมันเยอะ
ขึ้นตาม % ที่กำหนด เช่น ECU รถสั่งยกเป็นเวลา 10msec กล่องก็จะรับสัญญาน
ไฟฟ้านั้นมาแล้วก็คงสัญญานไฟฟ้าที่ส่งไปยกหัวฉีดให้นานขึ้นเช่น ตั้งไว้ 20%
สัญญานที่ไปที่หัวฉีดก็จะเป็น 12 msec ก็ทำให้น้ำมันไหลเข้าห้องไอดีมากขึ้น

กล่องแก้ปัญหาไฟ เครื่องขึ้นเพราะ ECU รถมันเตือนว่าจ่ายบาง พอติดกล่อง
มันก็จะจ่ายหนาขึ้นตาม % ที่เราตั้ง ECU มันก็เลิกเตือนว่าจ่ายบาง พอน้ำมันหนา
ขึ้น ECU รถที่ฉลาดๆ มันก็เพิ่มไฟแก่ขึ้นเพื่อเผาน้ำมันให้หมด สมบูรณ์ แต่ E85 
มีแอลกอฮอลผสมอยู่ 85% ในแอลกอฮอล มีของแถมคือออกซิเจนซึ่งใช้ในการ
สันดาบของเครื่องยนต์อยู่แล้ว ก็เลยช่วยให้การเผาไหม้สมบูรณ์ดีขึ้น ทั้งที่ตัวมัน
ให้พลังงานความร้อนต่ำกว่าเบนซิน และกล่องช่วยให้ เครื่องยนต์ Start ติดง่าย
ขึ้น เนื่องจากแอลกอฮอลมีจุดวาบไฟ สูงคือจุดติดยากกวาเบนซิน เค้าเลยต้องผสม เบนซินลงไป 15% เพื่อให้จุดติดง่าย และ คนเอาไปกินไม่ได้ ถ้า E100 
คนซื้อไปผสมเหล้า กินแน่ เลยต้องผสมให้มันกินไม่ได้ และ ช่วยปรับค่าออกเทน
หรือจุดวาบไฟไม่ให้สูงเกินไป กล้องก็จะไปช่วยในจุดนี้ด้วยเพราะช่วยจ่ายหนา
ทำให้ Start ติดง่ายขึ้นตอนเช้าๆ ถ้าใช้ E85 ไม่ติดกล่องจะ Start ยาว แต่ถ้าติดกล่องก็จะ Start ยาวนิดๆ กว่าปกติที่เติม E10 หรือ E20 นิดเดียว โดยเฉพาะ ECO car ทั้งหลาย เซนเซอร์มันไว้มากเพราะว่าเป็นรถรุ่นใหม่ที่ ECU ทำงานเร็ว
และตลอดความเร็วรอบ มันจะจ่ายบาง จนไฟขึ้น 

นอกนั้นเรื่องท่อทางน้ำมันต่างๆ ถ้ารถเก่าและ ไม่รองรับ E20 แนะนำให้เปลี่ยนใหม่แต่ถ้ารถใหม่ตั้งแต่ 2008 ที่รองรับ E20 แล้ว หลังจากใช้ E85 ไปสัก 3-4 ถัง
ให้ไปเปลี่ยน กรองน้ำมันเชื้อเพลิง ทิ้งไป เพราะ E85 มันจะไปล้างคราบน้ำมัน
และสิ่งสกปรก ในระบบ น้ำมัน ออกมาอยู่ที่กรอง ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วสกปรกมาก
ปั้มติ๊กก็จะพัง ตามมา อย่างที่เค้าว่าๆกันใช้ E85 แล้วปั้มติ๊กพัง เพราะกรองมันตัน
ปั้มมันดูดไม่ขึ้นความร้อนสูงมอเตอร์มันก็พัง เป็นเรื่องปกติ 
ที่นี้ก็ใช้ E85 กันได้ยาวๆ บำรุงรักษาตามปกติ กล่องมันทำงานแค่นั้นแหละ 
นอกนั้น ECU กับเซนเซอร์ เดิมๆของรถทำงานตามปกติ จ่ายหนาจ่ายบาง
ชดเชยต่างๆ แค่โดนกล่อง + % เวลาของการยกหัวฉีด แปรฝันตามกัน
เช่น ECU บอกน้ำมันหนาไป ลดการฉีดจาก 10msc ยกจริง 12 msc เหลือ 8 หัวฉีดจะยกจริง = 8 X 1.2 = 9.6 msc และเป็นแบบนี้ตลอกการทำงาน ของสัญญานหัวฉีด ที่ ECU สั่งมา 

พอรู้หลักการแล้ว อาจจะไม่ต้อง ติดกล่องก็ได้อย่างในคลับ Jazz บางคนก็ไม่ติดกล่อง แต่เปลี่ยนหัวฉีด K20 ฝาดำที่ฉีดน้ำมันได้เยอะขึ้นในเวลายกเท่าเดิมมาใช้
ชุดละ 3000 รวมเปลี่ยน ก็ใช้ E85 ได้ เพราะจ่ายน้ำมันเยอะขึ้นตามที่ ECU สั่ง
เหมือนกัน แต่แค่ปรับเปลี่ยนไม่ได้ สมมุติ หัวฉีด Jazz เดิม ฉีดได้ 2 cc ต่อการที่ ECU สั่งยก 10 msc พอเปลี่ยน เป็นหัวฉีด K20 ยก 10msc เท่ากันแต่ฉีดได้ 2.4 cc ในเวลาเท่ากัน น้ำมันก็เข้าไปมากขึ้น 20%  

ใช้ E85 แล้วไอเสียหอมละมุด ไม่เหม็นแสบจมูก เคยเกือบโดนตำรวจให้เป่าหาว่าเมากลิ่นละมุดหึ่ง แอร์เย็นขึ้น
ยังไม่รู้สมเหตุ แต่ควดว่าน่าจะเกิดจากอุณภูมิน้ำหล่อเย็นมันลดลง เดาเอา น้ำมันเครื่องไม่ค่อย
ดำ เพราะแอลกอฮอลเขม่าน้อย เพราะมีออกซิเจนทำให้เผาไหม้หมดจด ถ่ายน้ำมันวิ่งมา 5000
km แล้วน้ำมันแทบไม่ต่างจากตอนถ่ายใหม่ๆ เข้มขึ้นนิดหน่อยแต่ไม่ดำปี้เหมือนตอนใช้ E20

รถคันไหนใช้ E85 วิ่งผ่านได้กลิ่นรู้เลย รถยุโรป หรือรถที่ถังน้ำมันเป็นเหล็กไม่แนะนำให้ใช้ E85 
เพราะว่า มีโอกาศเกินสนิมในถังและสร้างปัญหาตามมาในภายหลัง ใช้ E85 ควรใช้ให้หมด 
หรือเติมให้เต็มเสมอ ป้องกันอากาศ (ไฮโดรเจน) เข้าไปทำปฏิกิริยากับ ออกซิเจนใน E85 
เกินเป็นน้ำ ไฮโดรเจน (H2)+ ออกซิเจน (O) = น้ำ หรือที่เรียกน้ำมันบูด ถ้าต้องจอดนานกว่า 1 
อาทิตย์ มี 2 อย่าคือถ้าถังว่างให้เติม เบนซินไว้ให้เต็ม หรือ ถ้าถังมี E85 เยอะให้เติมให้เต็มๆไว้
พวกรถจอดมากกว่าวิ่งก็ไม่ค่อยแนะนำ E85 ปัญหาน้ำมันบูดจะถามหา แล้วจะว่า E85 ไม่ดี

กล่องยี่ห้อที่ไม่มีที่ปรับ เติมอะไรก็ได้ จริงๆเค้ามีที่ปรับแต่อยู่ในกล่องปรับไว้กลางๆ 
ควรซื้อกล่องที่ปรับได้ ไม่ว่าจะกดเปลี่ยนตำแหน่งชนิดน้ำมัน หรือ หมุนๆ ก็ใช้ได้หมด
เพราะหลักการเหมือนกัน ดูคุณภาพ การรับประกัน การบริการ และราคาเป็นสำคัญ
อีกอย่ากล่องจีนที่ขาย Noname อย่าได้ไปลองนะครับ จีน Copy มาขาย ราคาถูก
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มันต้องเป็น ชนิดที่ใช้กับรถยนต์ เอากล่องไว้ในห้องโดยสารก็ดี
ไม่ร้อนทำให้ทำงานเสถียนขึ้น ทนทานขึ้น 


ถ้าเปลี่ยนน้ำมันก็ปรับ % ให้เหมาะสม เช่นกลับมาเติม E10 ,E20 ก็ 0%

โครงการ " สติกเกอร์ เรารักในหลวง "
 
ผู้ดำเนินโครงการ
 
       กลุ่ม Daruma และ สมาชิก Civic Club Thailand
 
จุดประสงค์
 
     - เพื่อแสดงความรักต่อองค์พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
 
     - เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 68 ปี  (9 มิถุนายน 2489 - 8 มิถุนายน 2557)
 
     - เผยแพร่สื่อต่างๆ ที่เผยแพร่พระราชกรณียกิจรวมถึงน้ำพระทัยที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยทุกเชื้อชาติ และ ศาสนา
 
     - ด้วยความสำนึกในพระมหากรณาธิคุณของกลุ่มคนรักการแต่งรถยนต์
 
     - ถวายรายได้จากการจัดจำหน่ายสติกเกอร์ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยเนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล
 
     - Link ไปยัง Page และ Website ที่เผยแพร่ภาพที่หาดูยากและพระราชกรณียกิจที่น่าสนใจ
 
                       ราชบัลลังค์ และจักรีวงค์.
 
รายละเอียด
 
     จัดทำสติกเกอร์ Silk Screen 4 สี เคลือบเงาอย่างดี 1 แผ่น ประกอบด้วยสติกเกอร์ 3 ชิ้น
     ผลิตจำนวนทั้งสิ้น 1,000 ชุด จัดจำหน่าย ชุดละ 99 บาท
 
 
ระยะเวลาดำเนินโครงการ
 
      ระหว่าง 5 ธันวาคม 2556 - 31 เมษายน 2557 หรือ จนกว่าของจะหมด
 
รูปแบบสติกเกอร์

 

Daruma 1 Day Trip @ Suphanburi

 

 



 

 



 

 



 

 



 

 



 

 



 

 



 

เมื่อวานได้เห็นสีจริงละ หล่อดีคับ โน๊ต

จำไม่ได้ว่ายื่นกว่าแำก้มเดิม ข้างละ 5 หรือ 10 มิลนะครับ คิดแล้วจะตก 1 ซม. = 25,000 +- บาท

 

ไอเท็มพวกนี้ ใจล้วนๆครับ เพราะ คนเล่นกับคนบ้าเท่านั้นถึงจะสังเกตุเห็น ^^