tonsena Posted June 12, 2012 Report Share Posted June 12, 2012 เจ้าของ DIY อันนี้คือคุณ เกรซ Zephyr ครับ ทั้งไฟหน้า Projector ไฟท้าย LED ของเขาทั้งนั้น http://www.youtube.com/watch?gl=CA&hl=en&v=uAmpnXnpRP8 มาแล้วครับรูป พร้อมคำอธิบายคร่าวๆ อย่างแรกต้องบอกก่อนนะครับว่า งานนี้จะว่ายากก็ยาก จะว่าไม่ยากก็ไม่ยากครับ ความยากของมันไม่ได้อยู่ที่การทำวงจรหรือต่อสายอะไรครับ แต่อยู่ที่ 1. การหาอุปกรณ์ครับ โดยเฉพาะ LED ผมไปเดินบ้านหม้อมาถามคนขายว่า LED นี้มี spec หรือเปล่า คำตอบคือไม่รู้ 55 คนขายของยังไม่รู้เลยครับ ดังนั้นผมจึงต้องใช้วิธีเสี่ยงเอา คืองี้ครับ ผมต้องการ LED ที่เป็นแบบ super flux คือสว่างกว่า LED ทั่วๆไป ตามปรกติ LED แบบ super flux คือแบบที่มี 4 ขา โดยจะกินกระแสที่ประมาณ 70 mA แต่บ้านเราแยกลำบากเพราะว่า LED แบบสี่ขาที่บ้านเราขายกันนั้นทำจากหลายที่มากๆ แล้วก็ไม่ได้มีการคุม spec ส่วนใหญ่จะใช้กระแสปรกติแบบ 3 mm หรือ 5 mm ที่เป็น 2 ขา คือที่ 20 mA วิธีการที่ผมทำคือไปทีร้านแถวบ้านหม้อ แล้วผมก็เลือกเอาอันที่มันสว่างที่สุดอ่ะ มั่วๆเอาเลยซะงั้น (แต่สำหรับ LED สีส้มที่ผมซื้อมานั้น บังเอิญผมค่อนข้างมั่นใจระดับนึงว่าสามารถทนกระแสได้ที่อย่างน้อย 50 mA เนื่องจาก packaging มันดูมีมาตรฐานดี คือบรรจุใน หลอดขนาด 60 ดวง และมี part no. และ lot code ครับ) 2. การแกะโคม เนื่องจากการ seal โคมไฟท้ายนั้นมันไม่เหมือนไฟหน้าที่ใช้ความร้อนในการแกะ แต่การ seal โคมไฟท้ายใช้วิธีการเชื่อมพลาสติก ดังนั้นวิธีการแกะคือต้องตัดอย่างเดียว ผมใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องเจียรมือขนาดจิ๋ว ที่เปลี่ยนหัวได้ครับ เป็นหัวตัด ซึ่งผมซื้อไว้ใช้ตั้งแต่โปรเจ็คโคมไฟหน้าครับ ส่วนการ seal กลับนั้นง่ายมาก ใช้ silicone ใสครับ หลังจาก seal แล้วแกะมาแก้ไขได้ง่ายด้วย เอาล่ะครับ เรามาเริ่มขั้นตอนกันเลย ภาพแรกเป็นภาพที่ผมทดลองวาง LED บนแผ่นวงจรเอนกประสงค์ครับ เพื่อให้ได้ขนาดตามต้องการ ตกลงใช้ LED 20 ดวงต่อ ไฟท้าย 1 ดวง เนื่องจากไฟรถอยู่ที่ประมาณ 12 volt แต่ LED สีแดงมี forward voltage ที่ประมาณ 2.0-2.5 โวลต์ ดังนั้นผมจะใช้ LED 4 ดวงต่อ 1 แถว แล้วต่อกับตัวต้านทานขนาด 82 โอห์ม เพื่อคุม forward current ที่ประมาณ 35 mA (อย่างที่บอกผมไม่แน่ใจสักเท่าไรนะครับ จริงๆผมอยากได้กระแสที่ ประมาณ 50 mA) ดังนั้นในไฟท้าย 1 ดวงผมต้องต่อ LED แบบขนาน 5 แถว แถวละ 4 ดวง) ภาพที่สองและสาม หลังจากต่อเสร็จแล้วครับ ภาพที่สี่ เป็นการทดลองว่าต่อเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร สังเกตกล่องสีดำจะเป็น voltage regulator และ Pulse Width Modulation (PWM) หน้าที่ของมันคือ หนึ่ง ควบคุมvoltage ให้คงที่ที่ 12 volt (ไฟรถผมเวลาติดเครื่องจะจ่ายไฟ 13.5 volt และจะ drop ตอนพัดลมทำงานครับ) และสอง ควบคุมความสว่างของไฟท้าย (ความสว่างของไฟท้ายตอนไม่เหยียบเบรก ผมสามารถปรับได้ครับ แต่จะไม่ปรับ max เพราะ ค่า max นั้นสำหรับตอนเหยียบเบรก) เอาหละ test ดู เอาไปใส่ในโคม ตอนเหยียบเบรก และไม่เหยียบเบรก หน้าตาไม่สวยแฮะ ต้องตบแต่งหน่อย โดยการใช้ แผ่นฝ้าอะคริลิก สำหรับทำฝ้าที่มีไฟอยู่ด้านในน่ะครับ เอามาตัดและเจาะรู แต่เนื่องจากมันยังไม่สวยเท่าไร เลยเอา sticker มาแปะซะ ได้เรื่อง!!! เสร็จแล้วสำหรับไฟท้าย ต่อไปเป็นไฟเลี้ยว ไฟเลี้ยวนี่วุ่นวายเล็กน้อยตอนผมทำ เหมือนเดิมผมต่อ LED สี่ดวงต่อ 1 แถว แต่คราวนี้ผมใช้กระแสมากหน่อย คือที่ 45 mA ด้วยเหตุผลที่ผมบอกข้างต้น ดังนั้นเลยต่อตัวต้านทานที่ 56 โอห์มต่อแถวครับ ที่นี้ เนื่องจากว่าผมต้องการให้มันเป็นแบบ sequential ผมก็ต้องวางแผนหน่อย อย่างแรกก็ต้องตัดแผ่นวงจรให้ได้ขนาดใกล้เคียงกับช่องที่เป็นไฟเลี้ยว แล้วก็ดูว่าจะแบบเป็นกี่ segment ดี โดยวงจรที่ผมเอามาทำนั้นประกอบด้วย IC 4017 ซึ่งเป็น decade counter คือแบ่งได้มากสุด 10 ช่อง สรุปแล้วผมแบ่งเป็น 7 segment ครับ (โดยบาง segment จะประกอบด้วย LED 2 แถว บาง segment จะประกอบด้วย LED 1 แถว เพื่อให้สอดคล้องกับรูปร่างของแผ่นวงจรครับ) คือไฟจะสว่างไล่จาก segment ที่ 1 ไล่ไปจนถึง segment ที่ 7 โดยความเร็วของการไล่จะสามารถปรับได้จากตัว variable resistant (จำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับจังหวะของไฟเลี้ยวของรถ) ระหว่างทำมันก็มีปัญหาเล็กๆน้อยๆหลายอย่าง แต่ผมคงไม่สาธยายนะครับ เพราะมันเป็นรายละเอียด เอาเป็นว่าถ้าใครจะทำแล้วเจอปัญหาก็ค่อยถามมาละกัน เอาหละเสร็จแล้ว จริงๆผมมีการตัด อะคริลิก เพื่อตีกล่องในช่องไฟเลี้ยวด้วยนะครับแต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา ตอนนั้นรีบทำไปหน่อย คือผมตีกล่องเพื่อวางแผ่น LED ให้อยู่ตื้นขึ้นมาหน่อยโดยหลัง LED นั้นผมสามารถใส่วงจร sequential ซ่อนไว้ได้ และยังใส่หลอดไฟเลี้ยวเดิมไว้ได้ด้วย หลายคนอาจจะงงว่าทำไมผมต้องใส่หลอดไฟเลี้ยวเดิมไว้ด้วย อันนี้เป็น technique ครับ สำหรับคนที่ไม่ทราบก็รับไว้เป็นความรู้ละกันครับว่าถ้าเราเอาหลอดไฟเลี้ยวออก คือไม่ต่อไว้ ไฟเลี้ยวจะกระพริบด้วยควาถี่ที่สูงขึ้นเพราะว่าระบบมันจะคิดว่าหลอดไฟขาดครับ พูดง่ายๆคือ relay หน่วงเวลาไฟเลี้ยวมันพบว่า load ไม่พอ ดังนั้นมันจึงไม่หน่วงเวลา การแก้ไขตรงนี้สำหรับรถรุ่นอื่นอาจจะไปซื้อ electronics relay มาเปลี่ยนแทน relay ไฟเลี้ยวเดิมได้ แต่สำหรับ FD ไม่ได้คับ เพราะตัว relay ไฟเลี้ยวของ FD นั้นมัน integrate อยู่ที่แผงควบคุมด้านหน้า (ที่ หน้าปัด) ผมเลยต้องต่อหลอดไฟเลี้ยวเดิมขนานไว้ด้วยเพื่อให้ระบบมี load พอที่จะหน่วงเวลาครับ (แต่คนอื่นมองไม่เห็นเพราะมันซ่อนอยู่หลังแผง LED) อิอิ ตอนประกอบไม่ได้ถ่ายอ้ะครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ambre 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Tommie Posted June 12, 2012 Report Share Posted June 12, 2012 อร๊าย Mod ต้น เริ่มจัดแร้น เอามาเยอะๆ ทำ Tag ดีๆ หาง่ายๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted June 12, 2012 Author Report Share Posted June 12, 2012 อร๊าย Mod ต้น เริ่มจัดแร้น เอามาเยอะๆ ทำ Tag ดีๆ หาง่ายๆ เอาของอาจารย์เกรซ มาลง Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted June 12, 2012 Author Report Share Posted June 12, 2012 มาต่อกันที่วงจร เอาเป็นว่าผมอธิบายวงจรแรกก่อนเลยนะครับ วงจรแรกนี้เค้าเรียกกันว่า PWM (Pulse Width Modulation) ประโยชน์ของมันคือไว้สำหรับ “หรี่” ไฟ LED น่ะครับ ลองคิดดูเวลาที่เราต่อไฟเข้า LED ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องเท้าหรืออะไรก็แล้วแต่ มันจะมีความสว่างแค่ค่าเดียวใช่มั้ยครับ ความสว่างนั้นจะเป็นความสว่างที่สูงที่สุดและเราจะใช้ความสว่างระดับนั้นเป็น “ไฟเบรก” ครับ ดังนั้น ในกรณีเป็นไฟปรกติที่ยังไม่ได้เหยียบเบรก ความสว่างของ LED ก็จะต้องน้อยกว่าเวลาเหยียบเบรก และ***เจ้า PWM เนี่ยแหละครับที่เราจะนำมาใช้ “หรี่” ไฟ LED ผมใช้คำว่า “หรี่” แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้จ่ายกระแสให้ LED น้อยลงหรือให้ volt ที่น้อยลงแต่อย่างไรครับ หน้าที่ของ PWM คือทำให้เกิดสัญญาณ “เปิด-ปิด” วงจรที่ ความถี่สูง จนทำสายตาเรามองว่ามันสว่างน้อยลงเท่านั้นเองครับ ทั้งๆที่วงจรยังคงมีกระแส และ volt เท่าเดิม ถ้าดูจากในวงจร ตัวที่ทำหน้าที่ก่อให้เกิดสัญญาณ “เปิด-ปิด” คือ IC เบอร์ 555 น่ะครับ ซึ่งตัว IC นี้จะมีทั้งหมด 8 ขา ซึ่งเราสามารถควบคุมความถี่ของการ “เปิด-ปิด” ได้จากตัวต้านทานที่ปรับค่าได้ VR1 ขนาด 500 Kohm (เหมือนตัวปรับเสียงที่หมุนๆได้อะครับ) สำหรับ IC อีกตัวนีงคือ KIA278R12PI นั้นมันคือตัว voltage regulator ธรรมดาๆ นี่เอง หน้าที่มันคือควบคุม voltage ให้คงที่ที่ 12 volt ครับ ตามที่เราๆน่าจะทราบกันว่า แบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้แต่ละคันนั้นมี volt ที่ไม่เท่ากัน โดยมีตั้งแต่ 13 volt จนถึง 14 volt และระหว่างที่รอบเครื่องตัดหรือพัดลมแอร์ทำงาน volt ก็จะดรอป ดังนั้น ตัว IC ตัวนี้คือทำหน้าที่ให้ปรับ volt ให้คงที่ที่ 12 volt เป๊ะๆ ตลอดเวลาอะครับ เพียงแต่ IC ตัวนี้จะพิเศษกว่าตัวอื่นคือมี 4 ขา โดยขาที่ 4 จะเป็นขาสัญญาณ on/off คือสั่งให้ตัว IC ทำงานหรือไม่ทำงานน่ะครับ การต่อวงจรนั้น ความจริงถ้ามีพื้นฐานทาง electronic สักเล็กน้อยก็น่าจะไม่มีปัญหาแล้วล่ะครับ ก็ดูกันตามวงจรตรงๆเลย แล้วก็พยายามไล่ดูนิดนึงว่าตัวไหนต่อกับตัวไหนเท่านั้นก็เรียบร้อย ส่วนตัวย่อต่างๆก็มีดังนี้นะครับ D1 ก็คือ diode ที่ทนกระแสได้สัก 2-3 amp D2 ก็คือ diode เหมือนกัน แต่ไม่จำเป็นต้องทนกระแสได้สูงนัก อาจใช้เบอร์เดียวกับ D3 ก็ได้ครับ คือ 1N4148 ถ้าผมจำไม่ผิดผมจะใช้ 1N4007 ครับ หน้าที่ของ Diode คือเมื่อต่อในวงจรแล้วจะยอมให้กระแสวิ่งผ่านด้านเดียว ไม่ยอมให้วิ่งไหลกลับ นั่นก็คือกระแสจะวิ่งผ่านได้ตามทางที่สัญลักษณ์ diode ชี้ไปครับ R ก็คือตัวต้านทาน ซึ่งผมก็ใส่ตัวเลขจำนวน Ohm ไว้ให้แล้วครับ เช่น 300 ก็คือ 300 ohm 5K ก็คือ 5 kilo-ohm ส่วน C ก็คือตัวเก็บประจุ Q ก็คือ transistor ซึ่งผมเขียนเบอร์ไว้แล้วคือ แบบ PNP เบอร์ TIP42 เอาล่ะ วิธีการทำงานของวงจรนี้ผมจะอธิบายคร่าวๆดังนี้นะครับ ในตอนแรกเวลาที่เราเปิดไฟ กระแสไฟจะวิ่งจาก Marker (หรือไฟหรี่นั่นแหละ) เข้าไปในวงจรโดยส่วนแรกจะวิ่งเข้าไปที่ IC regulator ส่วนที่สองจะวิ่งไปยังขาของ transistor และส่วนที่สามจะวิ่งเข้าไปวงจรที่มี IC 555 คุมอยู่ ซึ่งวงจรที่มี IC555 จะสร้างคำสั่ง “เปิด” และ “ปิด” สลับกันไปโดยมี่ VR1 คอยควบคุมความถี่ของการเปิดปิด ในกรณีที่สัญญาณ "เปิด" ถูกส่งออกมานั้น จะออกมาทางขาที่ 3 ของ IC555 โดยจะเข้าไปยัง transistor เพื่อกระตุ้นให้ กระแสในส่วนที่สอง ไหลผ่าน transistor ได้ เมื่อกระแสส่วนที่สองไหลผ่าน transistor มาได้ ก็จะวิ่งไปสู่ขาที่ 4 ของ IC regulator เพื่อกระตุ้นให้ IC regulator เป็น status ON และส่งกระแสไปยัง แผง LED ที่เราต่อไว้ ไฟก็จะสว่าง ในกรณีที่วงจร IC 555 ส่งกระแส “ปิด” ก็จะทำให้กระแสทั้งหมดหยุดไหลครับ อย่างไรก็ตาม การเปิด และปิดนี้ เร็วมากจนสายตาเรามองไม่ทัน เราจะเห็นเพียงสว่างขึ้น กับมืดลง เท่านั้นเองครับ หรือพูดง่ายๆก็คือ “หรี่” ไฟ ได้โดยการปรับที่ VR1 ส่วนเวลาเราเหยียบเบรก กระแสจะวิ่งจาก Brake ไปยัง IC regulator และอีกทางส่งไปยังขาที่ 4 ของ IC regulator เพื่อบอกให้ IC ทำงาน ในกรณีนี้สัญญานจะสั่งให้ IC regulator ทำงานตลอดเวลาเพราะไม่มีคำสั่ง “เปิด-ปิด” ใดๆทั้งสิ้น กระแสก็จะไหลจาก IC regulator ไปยังแผง LED ตลอดเวลา สิ่งที่เรามองเห็นก็คือ ไฟ LED จะสว่างเต็มที่ เวลามีสัญญานจาก Brake ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted June 12, 2012 Author Report Share Posted June 12, 2012 วิธีผ่าโคมโดยคุณตี๋ Login : next9422 อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1. คัตเตอร์ 2. สว่านมือ 3. ใบตัดพลาสติก 4. ดินสอไม้ที่มียางลบติดที่ปลายหรือปากกาเขียนแผ่นซีดี (ของผมใช้อันหลังนี้) เน้นเลยนะครับต้องมียางลบที่ปลาย เริ่มลงมือได้ 1.ใช้สว่านมือ ตัดขอบระหว่างขอบแดงและของสีเทาออกจากกัน ใช้เวลาเป็นชั่วโมง 2.เมื่อตัดแยกจากกันจะได้ตามรูป 3.แกะน๊อตสองตัวนี้ออก เฉพาะโคมไฟเบรค(โคมใหญ่) หลังจากนั้นใช้มือดันโคมไฟเบครออกจากเบ้า แน่นมาก 4.เมื่อแยกชิ้นส่วนเสร็จ ก็จะได้ตามรูป 5.หลังจากนั้น นำโคมไฟเบรคสองอันนี้มาแกะฝาครอบใสออกจากโคม วิธีแกะ ดันสลักสองตัวนี้ออกก่อน แล้วให้เอาดินสอหรือปากกา ที่มียางลบ มาสอดเข้าไปในรูไฟเบรค แล้วหงายโคมไฟขึ้น จับดินสอหรือปากกาให้มั่น กระแทกโคมไฟลงกับพื้น อย่างแรงมากนะครับ ฝาครอบใสก็จะหลุด 6.หน้าตาของสลักสองตัวที่กล่าวถึง 7.เมื่อถอดฝาครอบได้ 8.ต่อมาก็ถอดฝาครอบใสออกจากโคมไฟหรี่ 9.วิธีถอด ให้เอาดินสอหรือปากกา ที่มียางลบ มาสอดเข้าไปในรูไฟเบรค แล้วหงายโคมไฟขึ้น จับดินสอหรือปากกาให้มั่น กระแทกโคมไฟลงกับพื้น อย่างแรงมากนะครับ ฝาครอบใสก็จะหลุด เป็นอันเสร็จวิธีการแกะไฟเบรค Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
oat_fd Posted June 12, 2012 Report Share Posted June 12, 2012 สุดยอดมากเลยครับ เเต่งคงทำเองไม่ได้เเหง่ๆ ขอบคุณนะครับ สำหรับข้อมูลดีๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
นายตาต่ำ Posted June 12, 2012 Report Share Posted June 12, 2012 อยากได้ไฟเสี้ยวครับ MC แต่ดูจากวิธีแกะโคมแล้ว ม่ะกล้าเลย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted June 13, 2012 Author Report Share Posted June 13, 2012 เมื่อทราบขั้นตอน basic กันแล้ว ก็ลองมา advance กันหน่อย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted June 13, 2012 Author Report Share Posted June 13, 2012 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ZXON Posted June 13, 2012 Report Share Posted June 13, 2012 ต้องพี่ต้นเท่านั้น Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
vittyz Posted June 13, 2012 Report Share Posted June 13, 2012 สวยอ่ะ แต่ไม่กล้าทำ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
pissfd Posted June 14, 2012 Report Share Posted June 14, 2012 กระทู้นี้เลยที่รอคอย บ้านเก่าโดนลบหมดเลยอ่ะ (ของคุณต้นอ่ะครับ) อยากดูแบบที่คุณต้นทำกับไฟท้ายของMC อ่ะครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
yakuzatum Posted June 14, 2012 Report Share Posted June 14, 2012 ไฟท้ายสวยมากคับพี่ต้น Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted June 14, 2012 Author Report Share Posted June 14, 2012 สวยอ่ะ แต่ไม่กล้าทำ ลองเลยครับ มีวิธีทำแล้ว ที่เหลือคือความกล้า กระทู้นี้เลยที่รอคอย บ้านเก่าโดนลบหมดเลยอ่ะ (ของคุณต้นอ่ะครับ) อยากดูแบบที่คุณต้นทำกับไฟท้ายของMC อ่ะครับ ของ MC ก็ทำประมาณนี้ครับ ยากมาก ทำอีกไม่ไหว [media=] [/media] ไฟท้ายสวยมากคับพี่ต้น ขอบคุณครับ ลงทำกันดูครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
IzE_CNX Posted June 14, 2012 Report Share Posted June 14, 2012 สุดยอดเลยครับพี่ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ambre Posted June 15, 2012 Report Share Posted June 15, 2012 กลับมาแล้ว diy ในตำนาน Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
TongFD Posted June 16, 2012 Report Share Posted June 16, 2012 สุดยอดdiyที่ไม่กล้าทำเอง Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
zensor Posted June 16, 2012 Report Share Posted June 16, 2012 ชอบไฟเลี้ยว ที่เหมือน มันวิ่งได้ อยากได้ ๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted July 8, 2012 Author Report Share Posted July 8, 2012 เสร็จเมื่อวาน Latest Version ล่าสุดแต่ยังไม่สุดท้าย ak18, Davidtour, VTEC Salvation and 1 other 4 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Tommie Posted July 8, 2012 Report Share Posted July 8, 2012 มาชมรถตาต้น อู้ย สวยๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted July 9, 2012 Author Report Share Posted July 9, 2012 มาชมรถตาต้น อู้ย สวยๆ ขอเป็นหล่อดีกว่ามั๊ย สวยนั่นผู้หญิงนะ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
GoodLuck Posted July 10, 2012 Report Share Posted July 10, 2012 เสร็จเมื่อวาน Latest Version ล่าสุดแต่ยังไม่สุดท้าย ดู ล้ำ ล้ำ มากเลยครับพี่ต้น Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted July 10, 2012 Author Report Share Posted July 10, 2012 เหมือนปลายท่อ jet turbine เครื่องยนต์ไอพ่นมะ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
devil_102 Posted July 10, 2012 Report Share Posted July 10, 2012 ขอบคุณครับ แต่ขอบายนะพี่ ผมไม่กล้า 555 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
clickkupopz Posted July 10, 2012 Report Share Posted July 10, 2012 ถ้าจชะแหล่ะขนาดนี้ ผมยอม-*- Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Recommended Posts
Join the conversation
You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.