Jump to content

ช่วยด้วยครับ รถมีอาการเข้า D แล้วไม่ค่อยไหล


Recommended Posts

รบกวนด้วยครับ คือว่ารถผมพอเข้าเกียร์ D แล้วไม่ค่อยจะไหลครับ

ถ้าไหลก็ไปสุดที่ 7 แต่ช้ามากๆกว่าจะไปถึง7 

 

ยางเดิมขอบ15 รถวิ่งมา 37000กิโล เป็นทั้งแก๊สและน้ำมัน เครื่องไม่มีสะดุดไม่กระตุก รอบเครื่องปรกติ

เพิ่งเช็คระยะ4หมื่นโลไป

 

ซึ่งปรกติมันจะไหลไปถึง12 แต่พักนี้ไม่ไหลเลยครับ บางทีเข้า D เสร็จ รถไม่กระดิกเลย เหยียบถึงไป

 

 

มันเกิดจากอะไรได้บ้างครับ

Link to comment
Share on other sites

เครื่องเย็นไหลเร็ว แต่ถ้าเครื่องร้อนแล้วมันจะไหลช้าลงน่ะครับ ไม่อยากให้เป็นเพราะเกียร์นะครับ

Link to comment
Share on other sites

ดูน้ำมันเกียร์  เบรค เบรคมือจ้า ว่ามีติดป่าว ยกทีละล้อแล้วลองหมุนด้วยมือ 

Link to comment
Share on other sites

เครื่องเย็นไหลเร็ว แต่ถ้าเครื่องร้อนแล้วมันจะไหลช้าลงน่ะครับ ไม่อยากให้เป็นเพราะเกียร์นะครับ

อาการนี้เลยครับ มันเป็นที่เกียร์หรอครับ

 

ดูน้ำมันเกียร์  เบรค เบรคมือจ้า ว่ามีติดป่าว ยกทีละล้อแล้วลองหมุนด้วยมือ 

น้ำมันเกียร์มันยังมีนะครับ น้ำมันเบรกมือนี่กระปุกไหนอะครับพี่ทอม   

 

ล่าสุดเมื่อวานวัดระดับน้ำมันเครื่องดูปรากฏว่าเหลือแค่เม็ดๆล่างที่ก้านเองครับ ทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนเดือนที่แล้วตอนนี้วิ่งมา2พันกิโล

 

โทรสอบถามทางศูนย์ Honda เค้าแจ้งว่าอาจต้องตั้งวาลเครื่อง ค่าตั้ง 1200 บาทเลยหรอครับ แล้วมันจำเป็นต้องตั้งไหม ตอนนี้ต้องทำยังไงไปไม่เป็นเลยครับ ช่วยด้วย T-T

Link to comment
Share on other sites

ไม่ใช่น้ำมันเบรคมือนะหัวหน้า หมายถึงระยะหน้าสัมผัสคับ

 

เบรคใดๆ มันอาจจะติดไปหน่อย อะไรแบบนี้ เลยฝืดๆ

 

เดาโลดๆ

Link to comment
Share on other sites

ผมเคยเป็นนะ แต่มาสังเกตุ พอเปลี่ยนผ้าเบลกหน้าแล้ว กลับมาไหลเหมือนเดิมครับ ของผมน่าจะเป็นเพราะ ผมเบลกหมด จนถึงเหล็กเตือน

แต่ตอนนี้ น่าจะจานขดละ เซ็งเลย - -*

Link to comment
Share on other sites

ไม่ใช่น้ำมันเบรคมือนะหัวหน้า หมายถึงระยะหน้าสัมผัสคับ

 

เบรคใดๆ มันอาจจะติดไปหน่อย อะไรแบบนี้ เลยฝืดๆ

 

เดาโลดๆ

อ่อๆๆๆ เดี๋ยวกลับบ้านไปเอาตะเข้ยกหมุนดูครับ 555

 

ผมเคยเป็นนะ แต่มาสังเกตุ พอเปลี่ยนผ้าเบลกหน้าแล้ว กลับมาไหลเหมือนเดิมครับ ของผมน่าจะเป็นเพราะ ผมเบลกหมด จนถึงเหล็กเตือน

แต่ตอนนี้ น่าจะจานขดละ เซ็งเลย - -*

แปลกดีแท้ๆๆๆๆ

 

 

ผ้าเบรกตอนนี้ใช้ของ Muอยู่ครับ เปลี่ยนจากร้านในนี้ละมั้ง เฉพาะผ้าเบรกหน้า

 

 

เมื่อซักครู่ผมโทรไปถาม Honda ติวานนท์ สนามบินน้ำ เค้าบอกอาจต้องตั้งวาลและล้างปีกผีเสื้อ ค่าล้างที่ 1100 บาท  

แต่พอโทรถาม Honda ปากเกร็ด เมืองทอง บอกค่าล้างอยู่ที่ 800 กว่าบาท = ="

Link to comment
Share on other sites

ตั้งวาล์ว ล้างลิ้นก้อมีผล แบบนี้เหมือนกัน

 

แต่ไม่ได้บอกแต่แรก เพราะอาจจะยากไป 555

Link to comment
Share on other sites

ตั้งวาล์ว ล้างลิ้นก้อมีผล แบบนี้เหมือนกัน

 

แต่ไม่ได้บอกแต่แรก เพราะอาจจะยากไป 555

555 ครับ  ถ้าไม่หายเดี๋ยววันอาทิตย์ผมจะไปหาป๋าทอมและเพื่อนๆช่วยวิเคราะห์ อิอิ

Link to comment
Share on other sites

อาการนี้เลยครับ มันเป็นที่เกียร์หรอครับ

 

น้ำมันเกียร์มันยังมีนะครับ น้ำมันเบรกมือนี่กระปุกไหนอะครับพี่ทอม   

 

ล่าสุดเมื่อวานวัดระดับน้ำมันเครื่องดูปรากฏว่าเหลือแค่เม็ดๆล่างที่ก้านเองครับ ทั้งที่เพิ่งเปลี่ยนเดือนที่แล้วตอนนี้วิ่งมา2พันกิโล

 

โทรสอบถามทางศูนย์ Honda เค้าแจ้งว่าอาจต้องตั้งวาลเครื่อง ค่าตั้ง 1200 บาทเลยหรอครับ แล้วมันจำเป็นต้องตั้งไหม ตอนนี้ต้องทำยังไงไปไม่เป็นเลยครับ ช่วยด้วย T-T

 

เวลาเครื่องยังเย็น เช่น start เครื่องใหม่ๆ รอบเครื่องมักจะสูงตอนเราเพิ่งสตาร์ท เช่นของผมบางครั้งขึ้นไป 1200 rpm เลย ถ้าเราเข้าเกียร์ตอนนั้นรถจะไหลเร็วมาก รถอาจไหลได้เร็วประมาณ 12 - 14 km/h เลย เนื่องจากรอบเครื่องมันสูงครับ

 

พอผ่านไป อุณหภูมิทำงานเครื่องมันได้ระดับแล้ว (ขีดความร้อนขึ้นมาเกือบครึ่งมาตรวัด) รอบเดินเบาจะอยู่ที่ประมาณ 750 rpm ทีนี้ถ้าเข้าเกียร์ D ไว้แล้วปล่อย รถมันจะไหลไปช้าๆ ก็เนื่องมาจากว่ารอบเครื่องเราต่ำกว่าตอนเครื่องเย็นนั่นเองครับ ส่วนจะช้ามากช้าน้อย ขึ้นอยู่กับความเรียบของพื้น ลมยางว่าอ่อนมากมั๊ย อะไรพวกนี้

 

ถ้าอาการมันเป็นแค่นี้ อาจจะปกติครับ

 

ส่วนที่ช่างศูนย์บอกว่าให้ตั้งวาล์ว เขาคงสันนิษฐานว่าระยะวาล์วคลาดเคลื่อนไปจากปกติ (วาล์วห่าง วาล์วยัน) ทำให้กำลังอัดลดลงได้เช่นกัน ถ้าเป็นอาการนั้นจริง รอบเดินเบาเราจะต้องสั่นๆแกว่งๆด้วยครับ เวลาเข้าเกียร์แล้วหักเลี้ยว อาจมีรอบวูบๆได้ด้วยครับ

 

ลองพิจารณาดูว่าอาการเป็นแบบไหนแล้วกันครับ

Link to comment
Share on other sites

เวลาเครื่องยังเย็น เช่น start เครื่องใหม่ๆ รอบเครื่องมักจะสูงตอนเราเพิ่งสตาร์ท เช่นของผมบางครั้งขึ้นไป 1200 rpm เลย ถ้าเราเข้าเกียร์ตอนนั้นรถจะไหลเร็วมาก รถอาจไหลได้เร็วประมาณ 12 - 14 km/h เลย เนื่องจากรอบเครื่องมันสูงครับ

 

พอผ่านไป อุณหภูมิทำงานเครื่องมันได้ระดับแล้ว (ขีดความร้อนขึ้นมาเกือบครึ่งมาตรวัด) รอบเดินเบาจะอยู่ที่ประมาณ 750 rpm ทีนี้ถ้าเข้าเกียร์ D ไว้แล้วปล่อย รถมันจะไหลไปช้าๆ ก็เนื่องมาจากว่ารอบเครื่องเราต่ำกว่าตอนเครื่องเย็นนั่นเองครับ ส่วนจะช้ามากช้าน้อย ขึ้นอยู่กับความเรียบของพื้น ลมยางว่าอ่อนมากมั๊ย อะไรพวกนี้

 

ถ้าอาการมันเป็นแค่นี้ อาจจะปกติครับ

 

ส่วนที่ช่างศูนย์บอกว่าให้ตั้งวาล์ว เขาคงสันนิษฐานว่าระยะวาล์วคลาดเคลื่อนไปจากปกติ (วาล์วห่าง วาล์วยัน) ทำให้กำลังอัดลดลงได้เช่นกัน ถ้าเป็นอาการนั้นจริง รอบเดินเบาเราจะต้องสั่นๆแกว่งๆด้วยครับ เวลาเข้าเกียร์แล้วหักเลี้ยว อาจมีรอบวูบๆได้ด้วยครับ

 

ลองพิจารณาดูว่าอาการเป็นแบบไหนแล้วกันครับ

อ่อ ตอนเช้าสตาท รอบเครื่องก็อยู่คงที่ 700รอบครับ ถ้าเข้า D ไปอยู่ที่ 1000 รอบ เช้าๆจะพุ่ง แต่ก่อนได้ 11-12 อยู่ ตอนนี้เป็นไรไม่รู้ได้แค่ 9 เต็มที่

พอเครื่องร้อนแล้ว ตัดไปแก๊ส หรือลองปรับเป็นน้ำมัน รอบเครื่องเดินเรียบไม่เหยียบคันเร่งที่ 700-800 รอบ ถ้าเลี้ยวจะเพิ่ม900-1000รอบ  ความเร็วที่ 6-7 ถ้าเลี้ยวจะ 8-9 ครับ ได้แค่นั้น

 

ตอนนี้ผมลองยกทุกล้อแล้วหมุนครับ เบรกไม่ขัดครับ หมุดได้ มีล้อหน้าหนักๆหน่อยครับ แต่ไม่มีเสียงเสียดสีกับเบรกครับ

 

เดี๋ยวเลิกงานผมจะไป Autobac สาทร เพื่อเปลี่ยนกรองแก๊สดูก่อนครับ แล้ววันศุกร์นัดช่างเข้า Honda สาขาแจ้งวัฒนะครับผมเพื่อเช็ค

 

น้ำมันเครื่องที่ใช้ 10w40 ELF ครับ  ระยะทางรถ 37000กิโล  เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเช็ค 4หมื่นตอน 35000 กิโลครับ เท่ากับ1เดือนวิ่งประมาณ2000กิโลครับ รถผมอายุ2ขวบกับ3เดือนได้

 

ติดแก๊สของ Lovato OBD ครับ  ล้อขอบ15เดิมๆ ลมยางที่ 30 ครับ

Link to comment
Share on other sites

เวลาเครื่องยังเย็น เช่น start เครื่องใหม่ๆ รอบเครื่องมักจะสูงตอนเราเพิ่งสตาร์ท เช่นของผมบางครั้งขึ้นไป 1200 rpm เลย ถ้าเราเข้าเกียร์ตอนนั้นรถจะไหลเร็วมาก รถอาจไหลได้เร็วประมาณ 12 - 14 km/h เลย เนื่องจากรอบเครื่องมันสูงครับ

 

พอผ่านไป อุณหภูมิทำงานเครื่องมันได้ระดับแล้ว (ขีดความร้อนขึ้นมาเกือบครึ่งมาตรวัด) รอบเดินเบาจะอยู่ที่ประมาณ 750 rpm ทีนี้ถ้าเข้าเกียร์ D ไว้แล้วปล่อย รถมันจะไหลไปช้าๆ ก็เนื่องมาจากว่ารอบเครื่องเราต่ำกว่าตอนเครื่องเย็นนั่นเองครับ ส่วนจะช้ามากช้าน้อย ขึ้นอยู่กับความเรียบของพื้น ลมยางว่าอ่อนมากมั๊ย อะไรพวกนี้

 

ถ้าอาการมันเป็นแค่นี้ อาจจะปกติครับ

 

ส่วนที่ช่างศูนย์บอกว่าให้ตั้งวาล์ว เขาคงสันนิษฐานว่าระยะวาล์วคลาดเคลื่อนไปจากปกติ (วาล์วห่าง วาล์วยัน) ทำให้กำลังอัดลดลงได้เช่นกัน ถ้าเป็นอาการนั้นจริง รอบเดินเบาเราจะต้องสั่นๆแกว่งๆด้วยครับ เวลาเข้าเกียร์แล้วหักเลี้ยว อาจมีรอบวูบๆได้ด้วยครับ

 

ลองพิจารณาดูว่าอาการเป็นแบบไหนแล้วกันครับ

ถ้าพิจารณาจากรอบเครื่องยนต์ เดินเบา ก็น่าจะสัมพันธ์กับความเร็วประมาณนั้นหรือเปล่าครับ และให้สังเกตอีกอย่าง ตอนปล่อยไหล ลองโยกพวงมาลัยซ้าย-ขวา ดูด้วยครับ รุ่น 1.8 ตอนมีโหลดปั้มเพาเวอร์เพิ่มมา เครื่องจะชดเชยรอบขึ้นมาอีกนิด ความเร็วก็จะเพิ่มตามนิดหน่อยเหมือนกัน อันนี้ผมสังเกตจากรถผมเองนครับ :) ตอนเช้าวิ่งในหมู่บ้าน วอร์มเครื่องร้อนแล้ว รอบอยู่ที่ 750 rpm เข้า D ปล่อยไหล ความเร็วไปหยุดที่ 8 km พอโยกพวงมาลัยเลี้ยว จะขยับไปที่ 9-10 km โดยไม่ต้องแตะคันเร่งครับ ส่วนจะไหลขึ้นช้าหรือเร็ว ตามพี่ข้างบนมีส่วนครับ จากที่ผมสังเกต เรื่องความลาด ความชัน ของถนน เพราะรอบเดินเบา 750 rpm ถือว่าน้อยมากๆครับ อันนี้เป้นสิ่งที่ผมสังเกตจากรถตัวเองนะครับ อยากทราบสาเหตุเหมือนกัน ผิดถูกขออภัยครับ :D  

Link to comment
Share on other sites

สำหรับเจ้าของกระทู้ ผมคิดว่าเรื่องเกียร์พังน่าจะตัดได้เลย ใช้แค่ไม่ถึง 40,000 km น่ะครับ น่าจะมาจากเรื่องอื่นมากกว่า

 

ดีไม่ดีมันจะเป็นปกติน่ะครับ เพราะรอบเครื่องเดินเบาก็ไม่สวิง ส่วนอาการหมุนพวงมาลัยแล้วรอบขึ้นนี่ปกติครับสำหรับรถที่ใช้พวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรลิค เพราะเครื่องจะเพิ่มโหลดไปชดเชยที่พวงมาลัยกินกำลังไปตามที่คุณ aud ว่าไว้ครับ

 

อีกอย่าง ผมใช้มา 160,000 กว่า km แล้ว ผมยังใช้ 5W-30 สังเคราะห์อยู่เลย ไม่ทราบว่า จขกท เปลี่ยนเป็นเบอร์ 40 ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เพราะเบอร์น้ำมันเครื่องมันหนืดขึ้นหน่อยๆ

Link to comment
Share on other sites

สำหรับเจ้าของกระทู้ ผมคิดว่าเรื่องเกียร์พังน่าจะตัดได้เลย ใช้แค่ไม่ถึง 40,000 km น่ะครับ น่าจะมาจากเรื่องอื่นมากกว่า

 

ดีไม่ดีมันจะเป็นปกติน่ะครับ เพราะรอบเครื่องเดินเบาก็ไม่สวิง ส่วนอาการหมุนพวงมาลัยแล้วรอบขึ้นนี่ปกติครับสำหรับรถที่ใช้พวงมาลัยพาวเวอร์ไฮโดรลิค เพราะเครื่องจะเพิ่มโหลดไปชดเชยที่พวงมาลัยกินกำลังไปตามที่คุณ aud ว่าไว้ครับ

 

อีกอย่าง ผมใช้มา 160,000 กว่า km แล้ว ผมยังใช้ 5W-30 สังเคราะห์อยู่เลย ไม่ทราบว่า จขกท เปลี่ยนเป็นเบอร์ 40 ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เพราะเบอร์น้ำมันเครื่องมันหนืดขึ้นหน่อยๆ

ขอบคุณครับพี่ ผมเพิ่งเปลี่ยน 10w40 ครั้งนี้ครั้งแรกครับ ปรกติใช้ 5w30 ครับ  รึมันเป็นเพราะสาเหตุนี้รึป่าวที่ทำให้รู้สึกว่ามันอืดหนืดๆ

 

เมื่อวานผมเปลื่ยนกรองแก๊สแล้วครับ แต่ที่หม้อต้มยังไม่เปลี่ยน และปรับจูนแก๊ส ตอนนี้วิ่งดีกว่าเดิมพอสมควรครับ

 

แต่เพื่อความสบายใจผมอาจจะลองไปที่ศูนย์ฮอนด้าอีกครั้งครับ อาจจะล้างปีกผีเสื้อ ตั้งวาลใหม่ 

 

น้ำมันเครืองผมใช้ไม่เหมาะสมรึป่าวครับ 

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณครับพี่ ผมเพิ่งเปลี่ยน 10w40 ครั้งนี้ครั้งแรกครับ ปรกติใช้ 5w30 ครับ  รึมันเป็นเพราะสาเหตุนี้รึป่าวที่ทำให้รู้สึกว่ามันอืดหนืดๆ

 

เมื่อวานผมเปลื่ยนกรองแก๊สแล้วครับ แต่ที่หม้อต้มยังไม่เปลี่ยน และปรับจูนแก๊ส ตอนนี้วิ่งดีกว่าเดิมพอสมควรครับ

 

แต่เพื่อความสบายใจผมอาจจะลองไปที่ศูนย์ฮอนด้าอีกครั้งครับ อาจจะล้างปีกผีเสื้อ ตั้งวาลใหม่ 

 

น้ำมันเครืองผมใช้ไม่เหมาะสมรึป่าวครับ 

 

 

ถ้าขับไม่เร็วมาก ไม่ลากรอบเครื่องโหดๆ ผมว่า 5W-30 หรืออะไรก็ได้ที่เป็น 30 ก็น่าจะพอแล้วครับ ผมเองยังไม่เคยเปลี่ยนเบอร์เลยตั้งแต่ออกรถมา (ปี 2008) เพียงแต่ว่าใช้แก๊สแล้วผมเลยเลือกใช้เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แทน เพราะมันทนร้อนได้ดีกว่า

 

น้ำมันเครื่องเบอร์สูงขึ้น มันก็หนืดขึ้นน่ะครับ สำหรับเครื่องที่ใช้งานมาไม่มากอย่างของ จขกท ผมว่านี่อาจเป็นสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดครับ เพราะชิ้นส่วนภายในมันน่าจะยังฟิตมากอยู่ การใช้น้ำมันเครื่องเบอร์สูงมันก็ทำให้อืดได้ครับ

 

การล้างลิ้นปีกผีเสื้อกับตั้งวาล์ว จริงๆแล้วสำหรับการล้างปีกผีเสื้อก็โอเคครับ อยากทำก็ทำได้ แต่ว่าการตั้งวาล์ว ผมว่าอาจจะยังไม่จำเป็นเพราะถ้าตามที่บอกมา ใช้รถน้อยมาก สตาร์ทเครื่องใหม่ๆตอนเครื่องเย็นเจี๊ยบแล้วไม่เห็นว่ารอบแกว่งไปๆมาๆ เช่น ตอนเข้าเกียร์ถอยหลังหรือหักพวงมาลัยแล้วรอบก็ไม่ได้ตกวูบ เครื่องสั่นเหมือนจะดับ ก็ไม่จำเป็นต้องทำตอนนี้ครับ

 

แต่ถ้าวิ่งด้วยแก๊สมาได้สัก 30,000 km แล้ว แบบนี้ไปเช็ควาล์วก็ดีครับ ผมจะบอกว่าผมไปติดแก๊สที่ 48,xxxkm วิ่งมาจนเกือบๆ 80,000 km ถึงเจออาการวาล์วห่าง รอบวูบแบบที่บอกน่ะครับ (ผมขับทุกวัน)

 

ยังไงลองพิจารณาดูครับ

Link to comment
Share on other sites

ขอบคุณครับ ตอนนี้ช่างโทรมาแจ้งว่า วาล์วห่างครับ จะตั้งวาล์ว ค่าใช้จ่ายที่ 1200 บาท สำหรับรถติดแก๊ส รถค้างศูนย์1คืน ส่งเช้าวันศุกร์ รถได้เย็นวันเสาร์ ศูนย์แจ้งมาครับ

แล้วผมควรจะล้างปีกผีเสื้อเลยไหมครับ หรือยังไม่จำเป็น

Link to comment
Share on other sites

ผมว่าทำนอกศูนย์จะดีกว่าไหมคับ เร็วกว่า+ถูกกว่าด้วย(แนะนำว่าถ้าทำข้างนอกหาอู่ที่มีความรู้หน่อยนะคับ เปนอู่ฮอนด้าเลยก็ดีเลยคับ ส่วน ปีกผีเสื้อผมล้างทุกๆ4หมื่นโลคับ จิงๆถ้ารถไม่มีอาการแอร์ตัดรอบตกก็ไม่ต้องล้างหรอกคับ

Link to comment
Share on other sites

อัปเดดครับ ตอนนี้เอาออกมาแล้ว แต่ไม่ได้ล้างปีกผีเสื้อ เข้าDปล่อยไหลได้ที่ 7 เหมือนเดิม ตั้งวาล์วอย่างเดียวครับ แต่รู้สึกได้ว่าเวลาวิ่งไม่อืดเหมือนตอนแรกๆครับที่ต้องใช้รอบสูงในการทำความเร็ว

Link to comment
Share on other sites

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

Guest
Reply to this topic...

×   Pasted as rich text.   Paste as plain text instead

  Only 75 emoji are allowed.

×   Your link has been automatically embedded.   Display as a link instead

×   Your previous content has been restored.   Clear editor

×   You cannot paste images directly. Upload or insert images from URL.

Loading...
×
×
  • Create New...