icelc99

ครับผมไม่เข้าใจ แต่ผมขอข้อมูลให้ผม ผู้โง่เขลา ได้เข้าใจด้วยครับ ถ้ามาบอกว่าผมแล้วเงียบหายแบบนี้ ผมก็จะโง่เขลาเหมือนเดิมนะครับ

ผมไม่รู้นะว่าอาการแบบนี้มันเกิดจากอะไร แต่ผมบอกได้คำเดียวว่า ร้านรับตั้งศูนย์ล้อ แบบว่าร้านล้อแม็ก หรือร้านตามปั้มน้ำมัน (บางร้าน)เขาไม่มีความรู้เรื่องระบบศูนย์ล้อเลย เขามีแต่ค่ามาตรฐานที่สเป็กมันมากับเครื่องตั้งศูนย์ล้อเท่านั้น ผมอยากทราบว่า เสียค่าใช้จ่ายไป เกือบๆ 1,800 บาทเนีย ช่างเขาแจ้งค่าแรงค่าอะไรในส่วนไหนมั้ง พูดง่าย ซ่อมอะไรบ้าง ช่วยอธิบายที เพราะผมเคยเป็นเหมือนกัน แต่มันกินซ้ายนิดๆ แรกๆก็หาสาเหตุที่ล้อหน้าตั้งนาน แต่สุดท้ายดันเกิดจากล้อหลังซะงั้น เสียค่าตั้งศูนย์ไป 400 บาทเอง

ถอดขั้วแบตทั้งบวกและลบออก 1 คืน เต็มๆ เช้ามาเกจติดเป็นปกติครบทุกคัว โอเค จบ..!!

หน้า 8 ออฟ 42 ถ้าโหลดด้วยสปริงคุณทศ ไม่ติดแน่นอนครับ แต่ถ้า s tech ไม่เหลือ ส่วนหลัง 9 ออฟ 35 ถ้าว่าบรรทุกแก๊ส ควรอย่างยิ่งเลยที่จะหาสปริงแดงคุณทศมาครอบครอง ปล. ล้อกว้าง9 ออฟ35 มันยืนๆออกมานอกตัวรถนะครับ ส่วนล้อหน้า กว้าง8 ออฟ 42 พอดีสุ้ม กำลังสวยครับ

s tech ถ้าใส่กับล้อนี้ ติดแน่นอนครับ เพราะ s tech หน้าจะเตี้ย แนะนำที่ต้องใส่เลยคือแดงเก่า ไม่งั้นก็แดงใหม่ อยู่ที่ว่าชอบหน้าลงนิดๆ หรือหน้าสูงๆ แต่ถ้าเป็นผม แนะนำแดงเก่านะครับ (ใส่แดงเก่าแบบที่ผมบอกไม่ผิดหวังแน่นอน)

Well, everything except the price.

ไม่ติดทั้งไฟ ทั้งเข็มครับ ผมใช้ของเร็กเทค ครับ ยังไงผมก็คิดว่าไม่เสีย มันน่าจะเกี่ยวกับระบบไฟ เพราะว่า เมื่อกี่ผมได้ถอดขั้วแบตอีกครั้ง ปรากฏว่า กลับกลายเป็นดับไป 2 ตัวแล้วครับ ดับสนิดทั้งไฟ ทั้งเข็มครับ เดี๋ยวถ้ายังไง พรุ่งนี้จะลองถอดขั้มแบตอีกซักรอบ ดูดิจะดับเป็น 3 ตัวมั้ย อิอิ

รถผมติดตั้งเกจวัด 4 ตัว วัดแบต วัดความร้อน วัดรอบ วัดความสมบูรณ์เครื่อง(เวกกั่ม) พอดีผมไปติดตั้งสายกราวในห้องเครื่องมาแล้วช่างไขน๊อตขั่วแบตไม่แน่นมาให้ พอขับไปได้ซักเดือนนึงขั้วแบตดันหลวมขึ้นมา รถสตาร์ทไม่ติด ตอนแรกไม่ทราบว่าขั้วแบตหลวม เลยลองสตาร์ทดูหลายที แต่ก็ไม่ติด จนทำให้วัดรอบทั้ง 4 ตัวเกิดอาการรวน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดจากสาเหตุใด ตอนแรก ไฟค้าง 1ตัว ดับ 1 ตัว กระพริบ 1 ตัว ปกติ 1 ตัว พอผมถอดขั้วแบตออก แล้วขันกลับให้แน่น รถสตาร์ทติดเหมือนเดิม แต่วัดรอบ 1 ตัวไม่ยอมติด (ซึ่งตัวที่ไม่ยอมติดนี้ มันเป็นตัวที่ติดปกติเมื่อตอนที่เกิดอาการรวนครั้งแรก) อยากทราบว่ามีใครเคยเป็นอาการแบบนี้มั้ย แล้ววัดรอบเรามีปุ่มรีเซตอะไรตรงไหนมั้ย (ผมคิดว่ามันไม่น่าจะพัง) เพราะขนาดตัวที่รวมเมื่อครั้งแรกยังกลับมาติดปกคิได้เลย

ถึงจะแต่งรถถูกกฎหมาย แต่ถ้าเอารถ 500 ม้า 1000 ม้า มาวิ่งหวาดเสียวบนท้องถนน หรือไล่แซงผู้อื่นแบบแข่งขัน แบบนี้ขอเพียงอย่าให้ถูกจับได้ ซึ่งอาจมีความผิดตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (,160 วรรคสาม) ฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ถูกจับฟ้องศาล ยึดรถ คุมความประพฤติ แบบนี้อาจเรียกว่า จบเกมส์จริงๆ ใช่ไหมล่ะครับ --------------------------------------------------------------------------------------------------- ขออนุญาตเสริมนิดนึง ผมเคยโดนข้อหาที่ว่าด้านบนแล้วนะครับ ที่ผมโดนก็คือ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ขับรถโดยประมาทหวาดเสียว ข้อหาที่ผมเอยมาทั้ง 2 ข้อหานี้ ถ้าโดนจับจะถูกดำเนินคดีฟ้องศาล ถ้าครั้งแรกไม่ติดคุก จะแค่ถูกคุมประพฤติ และบำเพ็ญประโยชน์ ส่วนที่ว่าจะถูกยึดรถนั้น จะต้องโดนข้อหา ร่วมกันข่งขันรถยนต์บนทางสาธารณะ หรือ บนถนนหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลถึงจะสั่งริบรถให้เป็นของแผ่นดินต่อไป นะครับ ปล.1 ข้อหาแข่งรถต้องมีคนโดนจับอย่างน้อย 2 คนขึ้นไปนะครับตำรวจจะทำสำนวนว่าคุณ 2 คนกับพวกที่หลบหนีไปร่วมกันแข่งรถ ทั้งๆที่ 2 คนที่จับมาไม่ได้แข่งกับมันซะกะหน่อย อิอิ ในกรณีโดนจับคนเดียว (ขับรถเล่นแล้วโดนตำรวจเหี้ยๆเรียกยัดข้อหาแข่งรถให้) สู้คดีได้เลยครับ ยังไงก็หลุด การแข่งขันรถ ต้องมีคนแข่งตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ถึงเรียกว่า แข่ง ครับ ถ้าเรา มุดซ้าย มุดขวาตอนขับรถทั่วๆไป ไม่เรียกว่าแข่งนะครับ ปล.2 รถที่โดนศาลสั่งริบแล้วมีโอกาศได้คืนนะครับ (ผมได้คืนมาแล้วไม่ได้โม้) วิธีการก็คือ ถ้ารถเราเป็นรถเงินผ่อน เดินไปหาไฟแน๊น แล้วบอกมันว่า รถโดนยึด ให้ไปเอารถออกให้หน่อย ค่าใช้จ่ายจะจัดการให้ ทางบริษัทไฟแน๊นจะส่งทนายเขาไปร้องต่อศาลว่ารถคันนี้ บริษัทไฟแน๊นเป็นเจ้าของและไม่มีส่วนรู้เห็นในการแข่งรถคร้งนี้ (รู้สึกว่าจะสืบพยานแค่ครั้งเดียว และนัดอีกทีตัดสินเลย) ส่วนอีกวิธีนึง ก็คือถ้ากรณี รถเป็นชื่อ เมีย พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือ ญาติเรา ก็ทำเหมือนๆกับที่บริษัทไฟแน๊นทำนั้นแหละ แต่กรณีนี้เราต้องจ้างทนายเอง แถมเรายังต้องเตี้ยมกับเจ้าของรถให้ดีว่า เวลาศาลสืบพยาน ต้องบอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการแข่งรถครั้งนี้ และมีความเดือดร้อนมากถ้าศาลจะยึดรถคันนี้ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5000 - 10000 บาทเท่านั้น

AT กล่อง+ท่อ+จูน ลงวิ่งกับ MT ท่อใบเดียว ที่ว่านี้พูดถึง เวลาเราวัดกันตอนมุดซ้ายมุดขวาบนถนนหลวงหรือเปล่าครับ ถ้าแบบนั้นต้องยอมรับว่าสู้ไม่ได้ เพราะรถ ออโต้ เชนเกียร์ช้ากว่า ผมว่า ออโต้ ทำดีๆก็พอสู้ได้นะ และอีกอย่างเขาใจเจ้าของกระทู้เลยว่า ในเมื่อเรามีรถเกียร์ออโต้แล้ว จะให้เราไปทำยังไงให้เป็นเกียร์ปกติ จะยกเกียร์ใหม่ก็ใช่เรื่อง ยังไงก็ต้องคิดที่จะทำ ออโต้ให้แรงก่อนเกือบทุกคนแหละ ปล.วิเคราะห์ง่ายๆตามผมนะครับ ในสนามแข่งรถทางตรง 402 เมตร เขาจะจำกันรุ่นในการแข่งขัน หลักๆ ก็คือกล่อง(รถยนต์บ้าน ไม่รวมถึงกระบะ หรือรถรุ่นโอเพน) ยกตัวอย่างเช่น รุ่นอีโก้คาร์เครื่องยนต์ไม่เกิน 1200 กล่องใบเดียว หรือไม่ก็รุ่นเครื่องยนต์ไม่เกิน 1200 ไม่มีกล่องแต่ทำอย่างอื่นได้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้ที่คิดกฎกติกาในการจัดกรแข่งขัน เขาเล็งเห็นว่า กล่องใบเดียวมีผลต่อการแข่งขันมาก ซึ่งรถเกียร์ออโต้ก็สามารถปีนระดับขึ้นมาแข่งกับเกียร์ธรรมดาได้สบาย ซึ่งก็หมายความรวมๆได้ว่า คุณจะประมาทรถยนต์เกียร์ออโต้ที่มี ท่อ+กล่อง ไม่ได้ถ้ารถเกียร์ธรรมดาของเราไม่มีกล่อง

ขอนอกเรื่องนิดนึง ตอนนี้ราคาน๊อต Rays เหล็ก ก๊อบ เปิดตัวที่ราคาประมาณ 900-1000 แล้วแต่ร้าน ซึ่งในอนาคต รับประกันได้เลยว่า น๊อตเหล็กก๊อบจะต้องราคาตกลงมาอยู่ที่ 500 บาทหรืออาจจะถูกกว่านั้นแน่นอน เมื่อก่อนน๊อต มิเนียมก๊อบ เปิดราคาที่ 1500 บาท ทุกวันนี้เหลือ 500-700 บาท ซึ่งต้นทุนวัสดุอลุมิเนียมมันมีราคาแพงกว่าเหล็กอยู่แล้ว ไหนจะค่ายิงทราย ไดร์สี (ไม่รวมค่ากลึง ค่ายิงเลเซอร์โลโก้) ส่วนวัสดุเหล็กราคาถูกกว่า ทำสีโดยใช้วิธีการพ่นอบ ทำโลโก้โดยใช้วิธีการสกรีน ซึ่งขั้นตอนทุกขั้นตอนมันมีต้นทุนที่ถูกกว่ามิเนียมอยู่แล้ว จึงแน่ใจได้เลยว่า อนาคตมันต้องถูกกว่านี้ (ที่มันเปิดราคามาแพงกว่าเพราะว่าความแปลกใหม่นั้นเอง) เรื่องที่สอบถามถึงความแข็งแรงนั้น เหล็กย่อมแข็งแรงกว่าอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่กวนใจเรามันมักจะเกิดจากสีจะหลุด ถลอกได้ง่าย แล้วมันก็จะเกิดสนิม ซึ่งจะทำให้ ล้ออันแสนรักของเราไม่สวยงามเท่าที่ควร

เดี๋ยวอนาคต เครื่อง R18A ก็จะเป็นเครื่องยนต์ที่รถตกรุ่นหามาวางลงในรถตัวเอง จริงๆแล้วจะโมR18A มันก็โมได้เหมือนเครื่องทั่วๆไปแหละ ท่อไอเสียทั้งเส้น กรองอากาศโล่งๆ กล่องควบคุมจีดๆ ช่องไอดีไอเสีย แคมชาร์ฟ หรือแม้กระทั้ง ลูกแหวนก้าน (หรือที่เขาเรียกใส้ในใหม่นั้นแหละ) ก็สามารถทำได้ มีอะไหล่แต่งรองรับหมดแล้ว (รู้สึกว่าอะไหล่แต่งจะมาจากทางด้านอเมริกาซะด้วย)

รู้ว่ามันเป็นน้ำยาที่มาหุ้มสีรถเราไว้ เงางาม ปกป้องสีรถเราได้ แต่ราคาไม่น่าคบหา เดี๋ยวรออีกนิดพอมีคู่แข่งเริ่มนำเขามาให้บริการกันหลายๆร้านเข้า ราคาจะถูกลงเอง ช่วงนี้แนะนำให้ล้างบ่อยๆ+เคลือบสีธรรมดาเอาไปก่อน

สเป็กนี้ ต้องโช๊คแบบว่าไม่เด็งเลยอ่ะถึงจะรอด

จะอธิบายให้ฟังว่า ระบบเบรคของ FD กับ FB มันเป็นแบบเดียวกัน สามารถยกใส่ทดแทนกันได้ไม่มีปัญหาอะไร (ในกระณีของตรงรุ่นเหมือนกัน) แต่...ชุดเบรค R32 R33 + จาน 2 ชิ้น ที่คุณติดตั้งเดิมทีแล้วอยู่ในรถ FD แต่คุณต้องการจะยกมาใส่ในรถ FB นั้น ต้องถามก่อนว่า ตอนติดตั้งระบบเบรค(คันเก่า)ได้มีการดันแปลงคอม้า ตัด เจียรหลบ หรือ อื่นๆ หรือไม่ ถ้าตอนติดตั้งที่คันเก่าได้มีการดันแปลงแบบไหน เวลาจะยกมาใส่ก็ต้องทำคอม้าให้รับกับเบรคชุดนั้น (ดันแปลงคันใหม่แบบคันเก่านั้นแหละ) ซึ่งการติดตั้งในส่วนนี้ ส่วนมากจะเป็นการทำโดนวิธี วัดขนาดเป็นรายคันไป งั้นก็หมายความว่า รถ FB คนใหม่ที่คุณต้องการจะติดตั้งเบรคของ FD คันเก่า คุณเจ้าของก็ต้องเอาคันใหม่ไป วัดตัด ดันแปลง เหมือนกับเมื่อตอนครั้งแรกที่ติดตั้งคันเก่าอยู่ดี ปล...ส่วนใหญ่ เบรค R32 R33 มันจะไม่ตรงรุ่นรถ civic ทางร้านต้องมีการดัดแปลงคอม้า นิดๆ หน่อยๆ

เปลียนจากล้อ 16" มาเป็น ล้อ 17" แล้วอาการเบรคไม่อยู่มันรู้สึกได้ชัดขนาดมาสอบถามวิธีแก้เลยหรอ จริงๆแล้ว ล้อจะขอบอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็น FD เรา ระบบเบรคเดิมๆไม่เพียงพอกับรถรุ่นนี้อยู่แล้ว ปัญหามันอาจจะมาจากยางขอบ 17" เส้นใหม่มันไม่เกาะถนนหรือเปล่าครับ ยางที่ไม่เกาะถนนมันมีผลกับระยะเบรค อัตตราการเหยียบเบรคของเราด้วย (ถ้ายางที่เกาะถนนไม่ดี มันจะทำให้เราไม่ค่อยกล้าที่จะลงแรงไปที่แป้นเบรคทำให้เรารู้สึกว่า ระยะเบรคเรายาวขึ้น)

แท้เท่านั้นที่จะตอบโจทย์ เจ้าของกระทู้มาอ่านข้อความข้างบนแล้ว คงคิดในใจว่า ใช่สิ เราไม่ได้มีเงินเหมือนคุณนิ ถึงจะได้มีเงินซื้อล้อแท้ๆใส่ อยากจะบอกว่าพวกคนที่ซื้อล้อแท้ใส่เขาก็ไม่ได้มีเงินมากมายอะไรนักหนาหรอกครับ ครั้งแรกๆเขาก็หาล้อเนียนๆแบบคุณมาใส่เนียแหละ แต่มันไม่ตอบโจทย์ เขาก็เลยต้องทิ้งล้อเก่าและหันไปคบกับล้อแท้

สิ่งที่จำเป็นต้องเปลียน ถ้า FD จะเติม E85 ระบบควบคุมการจ่ายน่ำมัน(พวกกล่องเสริมต่างๆ) หัวฉีด กล้าพูดได้เลยว่า ถ้าไม่เปลียนพังแน่นอน ปั้มแรงดันน้ำมัน ต้องเปลียนให้มันฉีดแรง ฉีดเยอะขึ้น ระบบท่อยางส่งน้ำมันต่างๆ (ที่มันเป็นยาง เป็นพาสติก)

มีกระจังหน้า Sport Pearl มาเสนอขาย พอดีเบิกศูนย์มา ไม่ได้ใช้ ขอเสนอขายในราคา 3,800 บาท ครบๆชุดไปเลยครับ มีเพื่อนๆสมาชิกท่านใดต้องการซื้อ ติดต่อมาได้เลยครับ Tel.O85568OO32 WhatsApp LINE ID : icemp53 รูปครับ ของมือ 1 ครับ พร้อมกล่อง

เข้ามายกนิ้วให้เลย ถ้าไม่เคยเติม E10 (แก๊สโซฮอล์ 91 95) สมุติว่าถ้ายังไม่เคยเติม ณ ปัจบันนี้ แสดงว่าคุณก็เติมน้ำมัน เบนซิล 95 อยูสิครับ เพราะ 91 เลิกขายแล้ว ผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมยกนิ้วโป้งให้ 4 นิ้วเลย คุณเหลือมาก

ถ้าไม่เกียงราคาก็ แถวๆ ระหว่างซอยลาซาล ถึงซอยวัดด่าน (บนถนนศรีนครินทร์นะ) มีร้านชั้นนำอยู่ 3-4 ร้าน เข้าไปใช้บริการไม่ผิดหวังแน่นอน แต่ถ้าจะเอาดัง เอาสเต็ปแข่ง ตู้สูตรขั้นเทพ แบบว่า 10 นิ้ว 1คู่ดังเท้ากับงานวัดเลยทีเดียว ผมแนะนำให้ มุ่งหน้าไปแถว บางพลี กิ่งแก้ว ไปหา2ร้านนี้ที่มีชื่อว่า ลือชัยซาวด์ กับ ยิมใสซาวด์ สองร้านนี้เขาผลัดกันเป็นแช่ม ในรุ่น ซับ10นิ้ว ในเก๋ง อยู่ ตู้แบบอื่นก็เก่ง รับประกัน หูแตกแน่ๆ

ในความคิดผม ผมคิดว่า อาการแบบนี้อย่าพึ่งไปตีว่าวิทยุพัง อาจจะเป็นที่วิธีการติดตั้งเครื่องเสียงที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ระบบไฟมาเลี้ยงจอภาพไม่พอ สรุปคือปัญหาจากระบบไฟ วิธีแก้ อาจจะต้องให้ช่างที่ชำนาญลองแก้ไขให้ อาจจะใช้วิธีเดินสายไฟเข้าวิทยุใหม่ เดินสายดินใหม่ เปลียนแบตเตอรี่(เพิ่มแอมป์) เป็นต้น ลองถามๆช่างเครื่องเสียงดู

ตอบแบบง่ายๆให้เข้าใจ และตรงตามความต้องการ (ตามความคิดผม) สเต็ปแรก 1.เปลี่ยนวิทยุก่อน "เพื่อ" ได้เสียงที่ดีกว่า ฟังชั่นที่ครบครัน (ตามความต้องการของคนส่วนใหญ๋ก็ต้องการแบบนี้หมด) 2.เพิ่มทวิสเตอร์ จะให้ดีใส่หูช้างข้างเสาA เพื่อเวทีเสียงที่ดี 3.เปลียนลำโพงคู่หน้า "ตรงนี้สำคัญ" ต้องใช้ลำโพงที่เป็นกรวยกระดาษเท่านั้น กรณีที่เราไม่มีเพาว์เวอร์ 4.แด๊ปประตูคู่หน้า ในส่วนนี้การแด๊ปจะทำหน้าที่เหมือนตู้ลำโพงคู่หน้า เสียงจะดีกว่าเดิมมาก สเต็ปต่อไปก็แล้วแต่ร้านรับทำเครื่องเสียงชั่นนำก็แล้วกัน ตานี้จะเป็นเรื่องของสูตรใครสูตรมันครับ

เครมได้ครับ แต่เขาไม่มีหน้าร้าน ให้ทำไง จะเครมแต่ละที ก็ต้องรอช่างมาทำให้ที่บ้าน รอไป รอมา หมดประกันพอดี แต่ที่เจ็บใจที่สุดคือ พอแจ้งเครมไป รถเรากลายเป็นรถแต่งซิ่งดันแปลงระบบไฟซะงั้น (เขาอ้างว่ารถผมแต่งระบบไฟ ทั้งๆที่ระบบไฟเดิมๆทั้งคัน)

เพิ่มเติมให้อีกซัก 2-3 ข้อและกัน 1.เวลาชาร์ทไอโฟนในรถ เสียบสายชาร์ทเข้าไปทีแรกไฟเข้าดี แต่พอซักพัก ขึ้นว่าอุปกรณ์ไม่รองรับ สลับไปมาไปมาอยู่อย่างงี้ ชาร์ท 1 ชม. ยังได้ไม่ถึง 20% เลย 2.หน้าจอฟั่งชั่นต่างๆ รีเลย์(ช้า)นิดนึง โดนเฉพาะเวลาเราพิมพ์ชื่อสถานที่ใน GPS 3.รูสึกว่าคุณภาพของสินค้าจะไม่ค่อยดี เพราะของผม ปุ่มเพาว์เวอร์ ไม่เด่งคืนซะแล้ว ตัวหนังสือที่สกรีน ก็เริ่มจะจางลงนิดๆ