Jump to content

mnirun

CCTH Member
  • Posts

    192
  • Joined

  • Last visited

Posts posted by mnirun

  1. มันคืออะไร แล้วเอาไว้ทำไรเหรอครับ

     

    ScanGaugeE เป็นอุปกรณ์ที่อ่านค่าต่างๆ ของรถยนต์จาก ECU (Engine Control Unit) ผ่านทางช่อง OBDII (On-Board Diagnostics, version II) ที่อยู่ระหว่างพวงมาลัยและคอนโซลกลางครับ

     

    DLC.jpg

     

     

    ScanGaugeE ราคาเท่าไรอ่ะครับ

    แล้วมันต่างกับ ScanGauge II ยังไงบ้างอ่ะครับ

     

    ScanGaugeE เป็นอุปกรณ์จากบริษัท Linear Logic ประเทศสหรัฐอเมริกา เน้นกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ที่สนใจการขับขี่แบบประหยัดพลังงาน ซึ่งต่างจาก ScanGaugeII ที่สามารถวัดประสิทธิภาพของรถยต์ (Perfornamce Monitor) เช่น ควอเตอร์ไมล์, อัตราเร่งจาก 0-100 เป็นต้น

     

    จากตารางเปรียบเทียบความสามารถของ ScanGaugeII และ ScanGangeE ก็จะเห็นว่าความสามารถของ ScanGaugeE นั้น น้อยกว่า ScanGaugeII อยู่หลายอย่าง แต่หลายอย่างที่ขาดหายไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้สนใจการขับขี่แบบประหยัดพลังงานให้ความสำคัญมากนัก ราคาของ ScanGaugeE ก็ถูกกว่า ScauGaugeII ถึง 35% แถมสิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน ScanGaugeE ซึงเป็นจุดเด่นก็คือ fuel economy feedback graph ครับ

     

    ราคารวมภาษีประมาณ 4,100 บาทครับ

     

    Feature_Comparison.gif

     

    กระทู้ดีๆอีกแล้ว มาลงชื่อหาข้อมูลครับ กำลังสนใจพอดี

     

    ว่าจะเอาบทความเกี่ยวกับ ScanGaugeE มาลงบ้านนี้ แต่คอมเสีย ข้อมูลอยู่ในนั้นหมด ตอนนี้นั่งตอบผ่านคอมที่ทำงานครับ

     

    อย่างแจ่มอะพี่โป่ง ถ้าไม่กลัว Galaxy Tab จะบินใส่หน้าตอนเบรค น่าติดเอาไว้หน้าคอนโซลเลยครับ ดูได้ครบ มี sampling เป็นกราฟ มีบอกค่าpeak ค่า min

     

    ใช้ Virus Mount for Galaxy Tab สิครับ ;)

     

    vice-galaxytab-car-mount_02.jpg

    vice-galaxytab-car-mount_04.jpg

  2. ส่วนตัวไม่แนะนำวาล์วน้ำซิ่งครับ

     

    Z1 Performance

     

    Why would you want the engine to run cooler? The OEM honda thermostat should allow the motor to run at the most efficient (i.e correct) temps.

     

    Unless you have a dedicated track car where heat can be an issue, there are no benefits.

     

    Cooler isn't always better in terms of coolant temp. For operating efficiency, wear and emissions, the OEM thermostat should be best, especially for N/A cars.

     

    If there was a problem with excess heat, there could be some benefit...but you shouldn't run into that problem on the street. Constant flogging on the track could task the OEM cooling system...forced induction could contribute as well (turbo = big heat).

     

    If you have or are getting a FlashPro, it'd make for some interesting datalogs to compare one to the other (perhaps the ECU adds/pulls timing based on coolant temp).

     

    the engine is not going really run "cooler" with a colder thermostat - the thermostat is just going to open sooner

     

    peak temps may vary slightly on the track - for the street, it would really be sorta useless (not to mention, the ecu would likely need to be tuned around it, as the fuel curves are, to a certain extent, temperature derived)

    AK47 Performance

     

    Sad that it takes Hondata to convince people about this issue. If you run a cooler thermostat, the computer will adjust the fuel curve and other parameters to run like the engine isn't fully warmed up yet. You don't want to be giving your engine full throttle UNTIL its in closed loop. This was even an issue on the 87-93 mustangs. People think cooler is better but in reality, it just makes your car run like crap.

    Thermostat Information

     

    It is very important to use the correct temperature thermostat in your cooling system, as the water temperature plays an important part in closed loop fueling operation.

     

    Many people think that running a colder thermostat will keep their engine from over heating or that it will give some performance gain. This is incorrect and will just keep the engine from properly warming up. The engine should be between 185 and 200 degrees when fully warm.

     

    http://www.hondata.c...thermostat.html

    Hondata

    Low temperature thermostats

    Sun Feb 01, 2004 1:37 pm

     

    We do not recommend the use of low temperature thermostats, as this causes tuning problems since the ECU still thinks the engine is still warming up.

     

    For those who think low temperature thermostats stop their engines over-heating - what is the difference between a 160 degree thermostat and 178 degree (stock) thermostat when the coolant is 185 degrees, and both thermostats are fully open?

     

    http://www.hondata.c...opic.php?t=1193

    Lower Temperature Thermostats

     

    Stock Honda thermostats are designed to fully open around 185 - 195 degrees depending on model and/or engine. Many "performance" thermostats are designed to open around 160 degrees. The intention of these low temp. thermostats is to keep the engine slightly cooler, resulting in more power and making the engine less prone to detonation.

     

    We do not recommend installing a lower temperature thermostat because it actually makes the ECU "think" that the engine is still warming up and not fully at operating temperature. This fools the ECU into make fueling, timing, and idle adjustments that are not desirable under normal operating conditions or during tuning.

     

    For those who still insist that a lower temperature thermostat will keep their engine from overheating: If an engine's coolant temp is at 205 degrees, what difference does it make if the thermostat opened at 160 or 190? None.

     

    If you are having trouble with engine overheating we suggest repairing a clogged/blocked radiator, hoses, or engine coolant passages. If this still does not cure overheating, then an upgraded aluminum radiator with a larger core and/or higher cfm radiator fan should be installed.

     

    http://www.hamotorsp...ostat-info.html

    180-200 degrees is optimal operating water temp for Hondas

    Low temp thermostats do not allow the vehicles to get up to temp therefor causes issues in the long run

     

    http://www.superhond...fo-also-157511/

    - Running rich/lean? Proper rich/lean tuning is extremely important. An interesting point: the Mugen thermostat and similar do not let engine ever warm up all the way so that tuning gets harder because the engine keeps adding fuel.

     

    http://www.8thcivic....ide-tuning.html

  3. FD คันนี้ควรคู่กับบอดร์มากๆครับผม

    คุณภาพคับแก้วแน่นอนคันนี้ อิอิ

     

    ขอบคุณครับ :)

     

    กลับมาๆ บ้านร้างแล้วเนี่ย

     

    ไม่ค่อยได้ update เพราะไม่มีอะไรใหม่เลย แต่ตอนนี้มีของเล่นใหม่แล้ว ^_^

     

    SAM_2902.jpg

     

    ไปปฏิบัติธรรมมา เลยเอาบุญมาฝากครับ เต้ย

     

    ขอบคุณครับ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว สบายดีไหมครับ เอ็กซ์

  4. ผมใช้ ScanGaugeE อยู่ เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อเน้นการประหยัดเชื้อเพลิงเป็นหลักครับ

     

    อยากทราบข้อมูลในแง่ไหนถามมาได้เลย จะได้ตอบให้ตรงจุดครับ

     

    ScanGaugeE.jpg

  5. รีวิวของใช้ดีๆจากพี่เต้ยอีกแล้วกำลังต้องการเพราะจุดประสงค์เดียวกันเลย

    ตอนนี้กำลัง DIY แบบง่ายๆอยู่ถ้าสำเร็จจะเอามาแชร์คร้าบบ

    มารอดู DIY ครับ :)

     

    ถามหน่อยครับ อี เบ คืออะไรครับ

    เป็นเวปสั่งซื้อของ ประมูลของค้าบบ

    eBay เป็นเวปซื้อ-ขาย/ประมูลของจากทั่วโลกครับ

     

    แอปแผนที่ นี่ แอปอะไรจ๊ะ จะโหลดมาใช้สักหน่อย

    iGO My way for Android v8.4.3.179971 Thin v1.7 ครับคุณปู่ ถ้าหา link ไม่ได้ เดี๋ยวส่ง link ไปให้ครับ ;)

  6. เหมาะเลยครับ กำลังมองหาอยู่พอดี

    รีวิวดีๆจากคุณเต้ยมาอีกแล้วครับ

     

    ________________

    :0207: ไปล่ะครับ....

    ดูน่าใช้ดีจัง

    ด้วยความยินดีครับ

     

    ยอดเยี่ยมครับ ไม่รู้คลองถมมีมาหรือยังน่าสนใจมากๆครับ

    มีแล้วบอกด้วยนะ :)

     

    ราคาน่าจัดมากแต่ ซื้อของอีเบย์ไม่เป็นอ่ะ เสียดายจัง

    ช่าย ซื้อไม่เป็นทำไงดี รวบๆรวมกันซื้อได้ไหมครับ

    ใครซื้อเป็นจัดที่ครับ มีคนฝากสองคนแหละ นึกว่าสงสารตาดำๆ ฮือๆๆ

    ซื้อไม่ยากครับ มีบัตรเครดิตก็ซื้อได้แล้วครับ ;)

  7. สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวของใช้(เล่น) ชิ้นใหม่ เป็น Car Dash Mount ครับ

     

    ก่อนอื่นลองมาดูวิดีโอสักนิด

     

     

    มาดูของจริงกันเลย

     

    SAM_2848.jpg

     

    หมุนได้ 360 องศา มีที่เกี่ยวสายไฟและหูฟัง Bluetooth มาให้ด้วย

     

    SAM_2852.jpg

     

    ด้านล่างเป็น gel pad ช่วยให้ยึดติดได้แน่น ที่เห็นขาวๆ นั่น ยังไม่ได้ลอกกระดาษออกครับ

     

    SAM_2850.jpg

     

    ลอกกระกาษออกมาแล้วเป็นแบบนี้ครับ

     

    SAM_2855.jpg

     

    เลื่อนสลักที่ฐานไปด้านหลังจะทำให้ตัวฐานเป็นสูญญากาศเหมือน Dash Mount ทั่วไป ขาจับเลือนเข้า-ออกได้ แต่ไม่สามารถปรับสูง-ต่ำได้

     

    SAM_2851.jpg

     

    คอนโซลของ Civic FD ไม่ได้เรียบสนิท แต่ก็สามารถยึดติดได้แน่นด้วยการออกแรงกดตัวฐานลงไปแล้วเลื่อนสลักไปทางด้านหลัง แค่นี้ก็ติดแน่นแล้วครับ

     

    SAM_2860.jpg

     

    ผมเลื่อนขาจับออกมาด้านหน้า จะได้เห็นจอมือถือเล็กๆ ของผมได้ชัดหน่อย

     

    SAM_2859.jpg

     

    เอาโทรศัพท์ไปลองใส่ดู

     

    SAM_2857.jpg

     

    ภาพมุมสูง

     

    SAM_2858.jpg

     

    ภาพหน้าตรง

     

    SAM_2856.jpg

     

    ซื้อมาเพื่อการนี้ :lol:

     

    SAM_2863.jpg

     

    GPS มันดูแนวนอนได้นะ แต่ดูแนวนี้แล้วมันเห็นภาพไกลดี ;)

     

    SAM_2864.jpg

     

    สรุป

     

    ข้อดี

    - งานประกอบดี

    - ยึดได้แน่นด้วย gel pad

     

    ข้อเสีย

    - ไม่สามารถปรับสูง-ต่ำได้

     

    ผมได้มาในราคา 619.09 บาทจาก eBay ท่านใดสนใจ ลองดู link จากใน YouTube ด้านบนนะครับ

  8. ขอบคุณครับน้องเต้ย

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

     

    ด้วยความยินดีครับ

     

    เสียเงินเรียบร้อยครับ ของมาส่งวันศุกร์ ราคา 3,500 บาท

     

    อยากจะบอกว่า น่าจะคุ้มสำหรับผมมาก จอดรถทิ้งทีนึง สตาร์ทแล้วไฟอ่อนมาก บางครั้งจอดนานถึง 15 วัน

     

    สัญญาณกันขโมย มันกระพริบตลอด ดูดไฟไปเรื่อยๆ T_T

     

    ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ที่สุดแล้ว เพราะกลับมาทีไร สตาร์ทได้ แต่เหมือนแรงน้อย พอออกไปวิ่ง รถวิ่งแทบไม่ออกเลย

     

    เพิ่งรู้หลังจากเปลี่ยนแบตใหม่ว่า ถ้าไฟเต็มๆ นี่รถโครตแรงเลย ^^ แบบนี้กลับมาจากนอก ผมก็ชาร์จให้เต็มแล้วค่อยวิ่ง จะได้ขับสนุกหน่อย

     

    ขอบคุณพี่เต้ย ที่แนะนำครับ

     

    ดีใจด้วยที่ได้ของที่ถูกใจครับ น้องเต้ย :)

     

    ของแต่งรถอย่างอื่น แพงกว่านี้เยอะครับ ;)

     

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

    ผมขอถามเพิ่มเติมครับ

    ถ้าผมใช้รถทุกวัน จำเป็นต้องมีเจ้าตัวนี้ไหมครับ

    ผมวิ่งโดยเฉลี่ยวันละ 150-200 โลครับ

     

    ไมจำเป็นครับ แต่ถ้ามีไว้ใช้ก็จะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ได้ครับ ผมยังตอบไม่ได้ว่าจะใช้ได้นานขึ้นกว่าเดิมมากแค่ไหน เพราะกำลังอยู่ในช่วงเก็บข้อมูลจริงอยู่ครับ ถ้าได้คำตอบแล้วจะมาโพสบอกอีกครั้งครับ (คงอีกหลายๆ ปี)

     

    ลองอ่านด้านล่างนี้ก่อนนะครับ

     

    อายุของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบครับ โดยทั่วไปก็อยู่ระหว่าง 1.5 - 2 ปี

     

    Battery_Sign.gif

     

    หากอยากรู้ให้แน่ชัด เวลาเข้าศูนย์เค้าจะมีการตรวจแบตเตอรี่ด้วยเครื่อง Battery Analyzer อย่างเช่น Midtronics MDX-P300 เป็นต้น ผมใช้ GS Super Diamond Double Lid 46B24L-MF (D60-MF) 45Ah หน้าตาผลการตรวจเป็นแบบนี้ครับ

     

    Midtronics_MDX-P300_-_GS_Super_Diamond_Double_Lid_45Ah.png

     

    ค่าที่เราควรสนใจก็คือ CCA (Cold Cranking Amps) ในบรรทัดที่มีคำขึ้นต้นว่า MEASURED ซึงรถผมพึ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่มาใหม่ วัดค่าได้ 411CCA

     

    อะไรคือ CCA

     

    ในภาษาอังกฤษจะเรียกการสตาร์ทรถว่า Cranking ซึ่งการสตาร์ทรถยนต์จะต้องใช้กระแสไฟฟ้าถึง 200-300 amps แล้วทำไมแบตเตอรี่ก้อนเล็ก ๆ 35-45Ah จึงสตาร์ทรถให้ติดขึ้นได้ละ ?

     

    นั่นก็เพราะว่าแบตเตอรี่ของรถยนต์เป็นแบบ Starting (cranking) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาได้สูงในระยะเวลาสั้นๆ อย่างการสตาร์ทรถ โดยความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดคงที่ในช่วงสั้นๆ นั้นเราเรียกว่า Cold Cranking Amps (CCA) ยิ่งแบตเตอรี่มี Ah มากเท่าไหร่ ค่า CCA ก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

     

    Car_Electric.gif

     

    กลับมาเข้าเรื่องการอ่านค่าจากเครื่อง Battery Analyzer ต่อ ถ้าแบตเตอรี่ยังใหม่ CCA ก็ยังสูง ทำให้สตาร์ทรถได้ง่าย แต่เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมลง ค่า CCA ก็จะน้อยลงเป็นเงาตามตัว สตาร์ทรถยากขึ้น ไฟหน้าสว่างน้อยลง เนื่องจากจ่ายกระแสไฟฟ้าได้น้อยลงนั่นเอง

     

    หากเปรียบ CCA ให้เข้าใจง่ายๆ ก็เหมือนสายน้ำ CCA ที่มากเปรียบเหมือนกระแสะน้ำแรงๆ บิดก๊อกนิดเดียวน้ำก็ไหลแล้ว ต่างกับแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพเหมือนน้ำไหลเอื่อยๆ บิดก๊อกจนสุดน้ำก็ยังไม่อยากจะไหลเลย

     

    Battery_Capacity_CCA2-web.gif

     

    โดยปกติแบตเตอรี่ควรมีค่า CCA ไม่ต่ำกว่า 200CCA ครับ หากเข้าศูนย์วัดค่า CCA ได้ใกล้ๆ 200 ละก็เปลี่ยนใหม่ได้เลยครับ ไม่ต้องรถให้ไปตายกลางทางแล้วค่อยเปลี่ยนนะครับ จะหงุดหงิดใจเปล่าๆ ครับ

     

    ส่วนนี่เป็น CCA ของรถผมที่ผ่านไป 1 ปี 3 เดือน ก็ยังมี CCA มากกว่าตอนซื้อแบตเตอรี่มาใหม่ๆ เลยครับ

     

    Midtronics_MDX-P300.gif

     

    น่าสน

     

     

    จัดดีกว่า

    เก็บตังค์จัดบ้างดีกว่า เพราะปกติจอดขับแค่เสาร์-อาทิตย์ :)

     

    ถ้างบถึง ก็แนะนำ CTEK ครับ อาจแพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ แต่ผมว่าคุ้มครับ

     

    ด้านล่างนี้ เก็บมาฝากครับ

     

    Team_Buddyclub-Watchman_Mclaren_MP4-12C_GT3.jpg

  9. แบบนี่ผมไปต่างประเทศ เดือนละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 8-10 วัน ผมควรเสียบเครื่องทิ้งไว้ให้ไฟ มันสม่ำเสมอ เลยไหมครับ?

    หรือว่ากลับมาแล้ว ค่อยชาร์จให้ไฟเต็มถค่อยใช้รถครับ ?

     

    วิธีไหนดีกว่ากันครับ ?

     

    รบกวนพี่เต้ย PM ที่ซื้อให้หน่อยครับ. ขอบคุณครับ

     

    ก่อนไปชาร์จให้เต็ม พอกลับมาค่อยชาร์จอีกรอบครับ แค่ 8-10 วันนี่สบายๆ ครับ

     

    ชาร์จทิ้งไว้เปลืองไฟครับ และเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ควรสียบทิ้งเอาไว้โดยที่ไม่มีใครดูด้วยครับ

     

    รายละเอียด พี่ชี้เป้าไว้ให้ด้านบนแล้วครับ

     

    พี่เต้ย ผมถามเพิ่มนิดนึงครับว่า ***โหมด ฟื้นฟู เนี่ย มันเ้อาไว้ใช้ตอนไหนครับ ????

     

    ต้องให้แบตหมดเกลี้ยง แล้วค่อยใช้โหมดนี้ หรือยังไงครับ ??

     

    ใช่ครับ ต้องแบตหมดเกลี้ยงก่อน จึงจะใช้โปรแกรมนี้ครับ

     

    การชาร์จโดยปกติจะข้าม step 6 ไป แต่หากเราเลือกโปรแกรม Recond จะเป็นการเพิ่ม step 6 เข้าไปในการชาร์จ โดยเพิ่มแรงดันและกระแสไฟฟ้าให้มากกว่าปกติครับ โปรแกรมนี้ใช้สำหรับแบตที่ไม่มีประจุเหลืออยู่เลยเท่านั้น ไม่เหมาะกับการชาร์จแบตโดยทั่วไป และหากเราใช้งานโปรแกรม Recond บ่อยๆ จะทำให้อายุแบตสั้นลงครับ

     

    CTEK_Programs.gif

     

    ตัวเครื่องที่ดูจากรูปดูมีขนาดเล็กจัง

    ผมแค่สงสัยว่าตัวเล็กแค่นี้สามารถจ่ายกระแสได้ถึง 5.0 A เลยหรอครับ

     

    น่าจะได้นะครับ

     

    เห็นแล้วอยากมีติดบ้านไว้ซักอัน ^^

     

    ของเค้าดีนะ ใช้แล้วจะติดใจ :)

  10. เป็นข้อมูลที่ดีครับ แต่หาซื้อได้ที่ไหนครับ ที่สำคัญ ขอบคุณครับที่นำข้อมูลมาครับ

    หาซื้อที่ไหนครับ น่าสนมาก

     

    สำหรับท่านที่สนใจ ผมชี้เป้าให้ละกันนะครับ http://www.google.co.th/search?q=ctek+โต้ง

     

    ขอบคุณครับ มีข้อมูลและของใหม่ๆมาแนะนำกันอีกแล้วครับ

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีครับพี่เต้ย

    สุดยอดครับป๋า... :0023:

    สุดยอดครับ

    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆอีกครั้งครับ พี่เต้ย

    เยี่ยมครับ :0146:

    ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณอีกครั้งครับ

    ขอบคุณมากครับ

    สำหรับความรู้่ และทำให้เกิดกิเลส :lol:

     

    ด้วยความยินดีครับ

  11. เป็นข้อมูลที่ดีครับ แต่หาซื้อได้ที่ไหนครับ ที่สำคัญ ขอบคุณครับที่นำข้อมูลมาครับ

     

    หาดูใน Google ได้ครับ มีหลายเจ้าครับ ผมไม่อยากเอาข้อมูลลงในนี้ กลัวจะกลายเป็นกระทู้ขายของไปครับ ;)

  12. ขอเอาข้อมูลเก่า มาเล่าใหม่นะครับ ;)

     

    ประเภทของกรองอากาศหลักๆ ก็มี

     

    1. กรองกระดาษ (กรองแห้ง)

     

    กรองเดิมติดรถเป็นแบบแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากกระดาษ (dry, paper filter) แลัวพับเป็นจีบ (pleated) เพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสในการกรองอากาศให้มากขึ้น กรองฝุ่นผงได้ดีที่สุด แต่อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ทำได้เพียงเป่ากรองเพื่อลดฝุ่นที่เกาะอยู่บนผิวกระดาษ อายุการใช้งาน 20,000 กิโลเมตร

     

    oemfilterpleating.jpg

     

    2. กรองแผ่นโฟม (กรองแห้ง)

     

    เช่นกรอง HKS เป็นกรองแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากโฟม (dry, foam filter) อากาศผ่านได้ดี HKS ใช้โฟมความละเอียดต่างกัน 3 ชั้นเพื่อเพิ่มความสามารถให้การกรองฝุ่นให้ดีีขึ้น สามาทำความสะอาดโดยล้างน้ำตัวแผ่นกรองได้ อายุการใช้งาน 30,000 กิโลเมตร

     

    shf_img_02.gif

     

    3. กรองผ้ากอซ (กรองเปียก)

     

    ส่วนกรอง K&N เป็นกรองเปียก ตัวกรองเป็นผ้ากอซ (wet, gauze filter) นำมาทำเป็บจีบอยู่ในโครงตาข่าย อากาศผ่านได้ดี แต่ความสามารถในการกรองผุ่นต่ำ จึงจำเป็นต้องอาศัยน้ำยามาฉีดที่ตัวกรองเพื่อเพิ่มดักฝุ่นให้เกาะอยู่ที่ผิวตัวกรอง เมื่อใช้ไปถึงระยะเวลาหนึ่ง ฝุ่นก็จะเกาะอยู่บนผิวของตัวกรองทำให้อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี จึงต้องนำมาล้างแล้วฉีดน้ำยาใหม่ ข้อดีคือสามารถล้างน้ำและนำมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ

     

    ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรฉีดน้ำยามากเกินไป เพราะน้ำยาอาจไปเกาะที่ตัว Mass Airflow Sensor ทีอยู่ในกล่องกรองอากาศได้ครับ

     

    knmicro_2.jpgknmicro.jpg

     

    cutaway_afe.jpg

     

    gauzefilterexplode.jpg

  13. ทำไมต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ ทุกสัปดาห์ไม่ถี่เกินไปหรือ ?

     

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ปัจจัยหลักสำหรับอายุของแบตเตอรี่ก็คือ Depth of Discharge (DOD) เปอร์เซ็นต์ของความจุแบตเตอรี่ที่ถูกใช้งานออกไป หรือคายประจุออกไป

     

    เรามาลองดูกราฟด้านล่างกัน

     

    life_cycles.gif

     

    จากกราฟเมื่อเราใช้แบตเตอรี่ไป 30% (30% DOD) แล้วจึงทำการชาร์จ เราจะสามารถ Charge -> Discharge กลับไปกลับมาได้ถึง 1200+ ครั้ง

     

    แต่ถ้าหากเราใช้แบตเตอรี่ไป 50% (50% DOD) แล้วจึงทำการชาร์จ เราจะสามารถ Charge -> Discharge กลับไปกลับมาได้น้อยลง เหลือเพียง 600+ ครั้ง

     

    และถ้าหากเราใช้แบตเตอรี่ไป 100% (100% DOD) แล้วจึงทำการชาร์จ เราจะสามารถ Charge -> Discharge กลับไปกลับมาได้แค่ 300+ ครั้งเท่านั้น

     

    * ตัวเลข Cycle อาจต่างกันไปบ้างในแบตเตอรี่แต่ละยี่ห้อ, ประเภท แต่ก็เป็นไปในทางเดียวกันครับ

     

    โดยธรรมชาติแล้วเมื่อปล่อยแบตเตอรี่ไว้โดยไม่มีการใช้งาน แบตเตอรี่จะมีการคายประจุด้วยตัวเอง (Self Discharge) อยู่แล้ว การจอดรถทิ้งไว้นานๆ โดยไม่มีการใ้ช้รถ จึงทำให้เกิด DOD สูง ทำให้อายุแบตเตอรี่สั้น ต่างกับคนที่ใช้รถอยู่เสมอๆ มีโอกาสได้วิ่งจนสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างเพียงพอ ก็จะทำให้ DOD ต่ำ อายุแบตเตอรี่ก็จะยาวนานขึ้นครับ

     

    นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า หากเราต้องการยืดอายุแบตเตอรี่ได้อยู่กับเราไปนานๆ เราต้องลด DOD ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ การชาร์จแบตเตอรี่ทุกสัปดาห์ด้วยเครื่องชาร์จดีๆ จึงช่วยลด DOD และทำให้อายุแบตเตอรี่ยาวนานมากขึ้นครับ

×
×
  • Create New...