kyosuke

สำหรับ FD จุดที่รั่วง่ายที่สุดก็จะเป็นหน้าแปลนสามเหลี่ยมของท่อไอเสียท่อนกลาง ซึ่งอยู่ในตำแหน่งกันโคลงหน้าครับ หน้าแปลนมีลักษณะเป็นวงแหวนบางๆ ซึ่งรั่วง่ายเพราะความบางนี่แหล่ะครับ หรืออีกกรณีคือเมื่อถอดประกอบหน้าแปลนตัวนี้จะต้องมีการเปลี่ยนปะเก็นทุกครั้งถ้าไม่เปลี่ยนก็จะมีโอกาสรั่วครับ
 
วิธีการตรวจสอบแบบง่าย จอดรถข้างกำแพงในซอยเงียบๆ แล้วเร่งรถเป็นจังหวะโดยไม่จำเป็นต้องใช้รอบสูงครับ ถ้าท่อไอเสียรั่วก็จะได้ยินเสียงดังแฟดๆ เหมือนเสียงอากาศรั่วครับ หรือง่ายกว่านั้น เข้าไปให้ร้านท่อไอเสียใกล้บ้านตรวจสอบได้เลยครับป๋ม...
 
ถ้าท่อไอเสียรั่วก็เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์กำลังตก เพราะ Back pressure ในระบบไอเสียลดลง ทำให้มีการสูญเสียไอดีในระบบ ทำให้จุดระเบิดได้กำลังลดลงจากปริมาณไอดีที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น และกินเชื้อเพลิงขึ้นด้วยครับผม...

อ่อๆผมก็มีควันดำเหมือนกันนะก้แจ้งช่างไปเหมือนกันช่างก้ยังยืนยันว่าน่าจะเปนที่น้ำมันเบนซินสกปรกไปอุดตัน  ผมจำที่ช่างบอกกับผมได้ไม่หมดอ่ะจำได้แค่ว่ากล่องECUมันอ่านค่าไม่ถูกเลยมีบางจังหวะจ่ายน้ำมันเยอะเกินไปหนาควันเลยดำ   แต่ตอนทำเสดลองเบิ้ลเครื่องดู ควันดำก็ยังมีอยู่แต่ต้องเหยียบๆหน่อย   แต่อาการรถเจ้าของกระทู้ดูจะหนักกว่ารถผมนะจากในคลิป   อาการแบบนี้มันหลายสาเหตุจิงๆ ออกซิเจนเซนเซอร์ลองเช็คดูบ้างยังอ่ะคับ

วันนี้พอมีเวลาได้โอกาสล้างเครื่องยนต์ และ ทำความสะอาด MAF Sensor =Mass Air Flow Sensor (เซนเซอร์ ไอดี)
เริ่มต้นเครื่องมือที่ต้องใช้ครับ น้ำยาขจัดคราบห้องเครื่องยนต์ชนิดที่ไม่ทำลายพลาสติก สายไฟ ท่อยาง สายพาน และระบบไฟ+ น้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์อิเลคทรอนิค ครับ ผมซื้อมาจาก Lotus โดยคำแนะนำจาก สมาชิก ชมรม ช้างน้อยครับ



ข้อควรระวังน่ะครับ ต้องรอให้เครื่่องยนต์เย็นสนิทก่อนน่ะครับ เพื่อป้องกันความเสียหายของเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์วิ่งมาร้อนๆ จอดเปิดฝากระโปรง แล้วฉีดน้ำเลย วัสดุที่กำลังร้อนอยู่มากระทบกับความเย็นของน้ำอาจเกิดการปรับตัวไมทันทำให้บิดแตก เสียหายได้ครับ

หลังจากเครื่องยนต์เย็นแล้ว ให้ทำการหาถุงพลาสติก มาปิดตามจุด Sensor หรือขั้วต่อปลั๊กกันน้ำอาจเข้าไปทำความเสียหายหรืออาจช็อตได้
(เพราะผมเองเคยแนะนำน้องที่ขับ Civic ES ให้ลองล้าง แต่น้ำดันไปเข้าเซ็นเซอร์ทำให้เซ็นเซอร์เสีย เบิกใหม่ 5พันกว่าบาท
จุดที่ควรป้องกันน้ำเข้า ตามรูปครับ หาถุงพลาสติกมาคลุมไว้ครับ เซ็นเซอร์และปลั๊กไฟ



ปลั๊กไฟเข้ากล่อง ECU



ไดร์ชาร์จ และ ปลั๊กเซ็นเซอร์



ท่อดูดอากาศ



หลังจากที่เอาพลาสติกปิดจุดที่อาจจะเกิดอันตรายจากน้ำแล้ว เริ่มเลยครับน้ำอย่าแรงมากครับใล่คราบสกปรกออกก่อนบางส่วนหรือใช้แชมพูล้างรถช่วยล้างด้วยก็ดีครับ (จากตัวอย่างผมไม่ได้เอาพลาสติกคลุมน่ะ จัดสดเลย ทำตามระวังด้วยครับ)



ลงแชมพูก่อน 1 รอบครับ



จากนั้นล้างออก เช็ดให้ห้องเครื่องให้แห้ง เพื่อจะได้เห็นชัดว่าตรงใหนยังไม่สะอาด จัดการ เขย่าประป๋องสเปรย์ทำความสะอาดห้องเครื่องยนต์ แล้วฉีดเลยครับ ตามจุด ตามซอก ต่างๆ ปล่อยทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก ครับ



ล้างออกเช็ดให้สะอาด สภาพที่ได้ OK เลยครับ ไม่เหนื่อยเปล่า ไม่ทิ้งคราบน้ำมัน เหนียวๆ เป็นตัวเก็บฝุ่นเหมือนที่ ตามศูนย์ใช้น่ะครับ



ต่อไปใหนๆ ก็ใหนๆ แล้ว ล้าง MAF Sensor ต่อเลยดีกว่า หลายคนอาจสงสัยว่าล้าง MAF Sensor ทำไม ที่ควรจะต้องล้างก็คือ อุปกรณ์ตัว Sensor อากาศนี้ ใช้ไปนานๆอาจเกิด การสกปรก ทำให้ คำนวน ค่าอากาศเข้าห้องเผาใหม้ไม่ดีเท่าที่ควร ปัญหาที่พบได้คือ เร่งไม่ขึ้น มีอาการอึด ลองล้างดูครับ อาจตอบโจทย์ได้บ้าง หรือถ้าไม่หวังอะไรก็ล้างมันหน่อยเหอะ

หน้าตา MAF Sensor ครับ ตำแหน่ง ของเครื่อง 1.8 และ 2.0 จะอยู่ต่อจาก กรองอากาศครับ



กดปลั๊กดึงออกมาเลยครับ ถอดน็อตสองตัวออก



หน้าตา MAF Sensor Civic FD 2.0 ครับ



เอาสเปรย์ฉีดอัดเข้าไปเลยครับ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วประกอบกลับ **ต้องรอให้แห้งสนิทจริงๆนะครับ** แล้วสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้เพื่อใล่ความชื่นตามจุดต่างๆ ครับ



ฉีดเสร็จเป็นแบบนี้ รอให้แห้งสนิทก่อนน่ะ





หากมีไฟ engine รูปเครื่องสีเหลือง ไม่ดับ เบื้องต้น ให้ ดับ เครื่อง และ ถอดขั้วแบต ทิ้งไว้สัก 15-20 นาที ครับ ถ้าไม่หายก็ตัวใครตัวมันครับ

ถ่ายจากล้องมือถือน่ะครับ อาจไม่ได้อรรถรส ในการเสพย์ ต้องขออภัย เอาเป็นว่าไม่เน้นฝีมือ นำมาให้ดูแบบ บ้านๆ สำหรับขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มงานจนจบงาน สำหรับ ผู้ชมทางบ้านน่ะครับ
เริ่มด้วยกลุ่มแรกที่ไปถึงราวๆ 11 โมงเช้า วนหาที่จอดกันสักพัก ไปเจอน้องเอ๊ะ มารอแล้ว เลยจัดแจง สถานที่ และ นายตั้มมา ได้เอาป้ายไปติดหน้าทางเข้าให้สมาชิกที่ตามมาได้ทราบ โปรดยืนไว้อาลัยให้นายตั้มด้วยครับ งานนี้ป่วยจนต้องยอมพลีชีพ
 

 
ฝ่ายเตรียมการ
 

 
สมาชิกเริ่มเข้ามากันแล้วครับ จัดระเบียการจอด
 

 

 

 
จัดเตรียมของแจกที่ระทึก  ณ จุดละทะเบียน เช่น สมุด เข็มกลัด สติ๊กเกอร์ และแผ่นปิดป้ายทะเบียนครับ
 

 
เริ่มมากันเยอะแล้วครับ แยก เป็น แถว โดยแบ่งตามสีครับ
 

 
 
โดนฝนมาบ้างก็เช็ดกันไป
 

 
DRM มากันแล้ว
 

 
2 คันนี้ชอบมากเลยครับ 
 

 

 

 
Admin มาล่ะครับ
 

 

 

 

 

 

 
จุดลงทะเบียนขอพี่โป่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ครับ
 

 
เริ่มเต็มพื้นที่ละครับ
 

 

 
มีตัวแทนจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ เข้ามาแนะนำตัวเรื่อยๆ ครับ คนนี้มาจากน้ำมันเครื่อง...... จากประเทศญี่ปุ่นครับ
 
 
 
ตอนนี้ก็ดูรถสมาชิกไปเรื่อยๆ ครับ
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 
 
Civic FD 1.8 Turbo
 

 

 

 
รถคุณเม่า ตัวโชว์ให้สาวๆ จากญี่ปุ่นและไทยได้ลูบไลท์ครับ
 

 

 

 

 

 

 

 
ช่วงค่ำมีจับแจกหาง GT กันฟรีๆ ต้องขอขอบคุณ คุณชายที่นำของรางวัลมาแจกครับ
 

 
เลขที่ออก 84 ครับ ท่านประธาน
 

 
โฉมหน้าผู้โชคดีครับ ยินดีด้วยครับ 
 

 
พามาชมภายในงานหน่อยโดย Admin ได้เสื้อ จาก W Work ฟรี เพราะไปใส่ล้อเค้า 
 

 

 
 
ช่วงค่ำๆ ก็จัดการถ่ายรูป ตามสะดวกครับ
 

 

 

 
ช่วงสุดท้ายขอฝากคลิปให้คุณเม่าน่ะครับ ถ้าจะเคลมรอยรอบคัน ก็เอาคลิปให้ประกันไปน่ะครับ เผื่อไม่ต้องเสียค่าแอคเซพ 
 
http://youtu.be/RF2vrf6dChU
 
http://youtu.be/7tkIZoudtDQ
 
http://youtu.be/fGO16R0rBa0
 
http://youtu.be/L9u82mDCW3g
 
http://youtu.be/-xKANPGxxbQ
 
 
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทุกๆ ท่าน แต่ละกลุ่มแต่ละโซน ที่นำรถเข้ามาร่วมจอดโชว์ครับ และ ท่านที่มาจาก ต่างจังหวัดเพื่อร่วมงาน ซึั้งใจจริงๆ และ ในโอกาสอันไกล้นี้ อาจได้เจอกันอีกกิจกรรมหน้าครับ ขอบคุณ มิตรภาพ และ สิ่งดีๆ จาก CCTH 
ขอขอบคุณครับ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทาง CCTH ที่ให้พื้นที่กับรถบ้านๆได้ไปจอดกับรถเทพๆนะค่ะ บ่องตงอ้ายยย....อาย 555
และต้องขอโทษที่ไม่ค่อยได้ทักใครนะค่ะ เพราะจำไม่ได้อะค่ะ คราวหน้าเอาล๊อกอินแขวนคอไว้ด้วยนะค่ะ 555
เอารูปจากมือถือไปก่อนนะค่ะ ไว้มีเวลาจะเอารูปจากกล้องมาลงอีกทีค่ะ
 
รถยุ้ยเองค่ะ บ้านสุดๆ

 

 
เริ่มมากันหลายคันละสีขาวเยอะมากกกก

 

 

 
ชอบช่วงนี้แดดส่องแสงสวยดีค่ะ

 

 

 
ส่วนหนุ่มๆคงชอบช่วงนี้มากกว่า อิอิ

 

 

 
เจ้าของรถเช็ครถยังค่ะเครื่องอยู่ครบมั้ย555 ตาแจ็คเล็งอยู่นาน

 
ล้างรถ ล้างรถ ภาพไม่ชัดนะค่ะเนื่องจากความสูงไม่ค่อยมี555 เอื้มสุดแขน เขย่งสุดปลายเท้า

 

 

 

 

 
สภาพตาแจ๊คหลังจากดูล้างรถเสร็จ 555 หมดแรงกันทีเดียวเชียว

 
เริ่มมึดละ

 

แวะเอารูปงานมาฝากอีกเช่นเคย กับงาน

Bangkok International Auto Salon 2013

ที่ทาง Civic Club Thailand ได้รับเกียรติให้ไปออกงานโชว์รถ

ณ Impact Challenger เมืองทองธานี

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา

 

เนื่องจากรูปค่อนข้างเยอะมากๆ ขออนุญาตินำรูป Highlight มาลงนะครับ

เพื่อนๆที่สนใจดูรูปทั้งหมด รบกวนแอด Facebook มาครับ

https://www.facebook.com/kriangccth

กรุณาส่งแมซเซจมาด้วยนะครับว่ามาจาก CCTH

 

งั้นเรามาเริ่มกันเลยครับ

เริ่มจากกลุ่มแรกที่มางานกันครับ ตั้ง 4 แถว



 

โต๊ะลงทะเบียนรับสมุด เข็มกลัด และสติ๊กเกอร์



 

กลุ่ม DRM ก็มา



 

มากันเยอะแยะมากมาย



 

สีขาวเยอะมาก สองแถวยาวๆ



 

J's Racing คันนี้ดีกรีแชมป์จากงาน Honda Day Live Night Race



 

เรียงกันเป็นตับ



 

ทีมงานๆ



 

RE30 ขายดีจริงๆ



 

รถเทพๆทั้งนั้นที่มาร่วมงาน



 

สีๆก็เพียบ



 

แวะไปดูสาวๆล้างรถเม่า



 

ถ่ายรูปรวมตอนเย็นๆ (ขออภัยไม่มีภาพเนื่องจากช่างกล้องขอเข้ากล้องด้วยคน)

 



 

ตอนค่ำๆแสงสวยดีจริงๆ



 

จับฉลากชิงรางวัลวิง GT จาก SV Fiber



 

ส่วนอันนี้ของแถมที่ไปเชิญนิกกี้มาถ่ายรูปครับ

 



 



 



 



 

สุดท้ายถ่ายกับน้องมูมู่หน่อยครับ

 



 



 



 



 

จบแระคร้าบ ติดตามเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ้คนะครับ

 

ผมต้องปรับตัว...ใครจะใช้ ตามสบายเด้อ 
 

 
     

สืบเนื่องเมื่อคืนวันที่ 25 มิถุนายน 2556 เวลาประมาณ 19.30 รถผมได้ประสบอุบัติเหตุ โดนรถกระบะถอยชนตรงบริเวณ หน้าปั๊ม esso ตรงบริเวณ สวนอุตสาหกรรมไฮเทค ได้โทรหาพี่เก๋ พี่เก๋ก็มายังจุดเกิดเหตุมาเป็นเพื่อนและมาดูความเสียหาย รออยู่จนกว่าจะเสร็จสิ้น ต้องขอขอบคุณพี่เก๋ด้วยครับ ผมดีใจที่อยู่ในเว็บนี้ มีทั้งพี่ทั้งน้องและเพื่อน ที่รักกัน ผมขอขอบคุณไว้นะที่นี้ด้วยครับ ขอให้รักกันอย่างนี้ตลอดไปนะครับ CCTH

ผมว่า ท่านสมาชิก อ่านดีๆ ค่อยๆทำความเข้าใจดีกว่าคับ 
 
สายพานขาดมันเป็นเหตุสุดท้ายของสถานการณ์น่ะ ไม่ใช่ตัวมันที่อยู่ดีๆแล้วขาดคับ อย่าสับสน 
 
สายพานเครื่อง เค้าพัฒนามาตั้งแต่สมัยเฮนรี่ ฟอร์ดพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินแล้วครับ
 
ในโรงานอุตสาหกรรมก้อใช้สายพานและพัฒนารูปแบบวัสดุ การผลิต กันมาจนสุดทางแล้ว สายพานเดี่ยวนี้ทนกันเป็นมาตรฐาน หมุนหมื่นสองหมื่นรอบสบายๆคับ
 
ขับแบบเรา 7-8 พันรอบ มันไม่มีทางขาดง่ายๆคับ หรือนอกจากมีเหตุกระทบมันคับ  เดี๋ยวจากเหตุการณ์นี้ จะกลายเป็นขับรถไม่สนุกไป
 
เดี๋ยวผมเอาวิธีตรวจสอบเบื้องต้นมาลงให้คับ จะได้ตรวจสอบกันเองที่บ้านใช้งานได้สบายใจ 

แรงกว่า INW เหล่านี้อีกเหรอ?

http://www.youtube.com/watch?v=Ph0SjLC_lqk

มาพบกันอีกเช่นเคยกับ Moo Moo DIY

 

DO-IT-YOURSELF ที่คุณทำได้เองง่ายๆ

 

คราวนี้มาพร้อมกับวิธีเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเ้กียร์ Auto เอง

 

เริ่มจากคุณต้องรู้ก่อนว่าน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์มะช่ายบล็อคเบอร์ 14 หรือ 17 ทั่วไป แต่เป็น socket สี่เหลี่ยมขนาด 3/8" ดังรูป

 



 

ตายละหว่าค้นทั่วบ้านไม่มีตัวก๊อกแก๊กขนาด 3/8"

 

เลยต้องไปเดินหาอุปกรณ์ เจอที่โฮมโปรมีชุดบล็อค 3/8" ชุดละ 519 บาท แต่ด้ามก็จะเล็กๆหน่อย

 

เลยลองไปดูร้านอะไหล่รถยนต์แถวบ้านเจอเจ้าตัวนี้ครับ ข้อลดจาก 1/2" เหลือ 3/8" แข็งแรงทนทานแน่นอน

 



 

ได้อุปกรณ์มาแล้วก็ขันน็อตถ่ายออกเลยครับ ลืมบอกไปว่ายกรถขึ้นด้วยนะครับ ไม่งั้นติดพุงแน่ๆ

 



 

ถ่ายน้ำมันเกียร์ออกเลย

 



 

ถอดน็อตออกมาดู น็อตตัวนี้เป็น M18x1.5 และเป็นน็อตแม่เหล็กด้วย

 

โอ้แม่เจ้า ผงเหล็กเยอะโครตๆที่ระยะ 60,000 โล

 



 

จัดแจงทำความสะอาด สวยปิ้งตามภาพ แล้วก็ขันกลับเข้าที่ครับ

 



 

สิ่งที่ต้องเตรียมคือน้ำมันเกียร์ฮอนด้า 3 ป๋อง กับกรวยพร้อมสายยาง เพื่อให้ง่ายต่อการเติมน้ำมันเกียร์

 



 



 

จัดการยัดสายยางลงที่เติมน้ำมันเกียร์้้้เลย (ที่เราเช็คน้ำมันเกียร์นั่นละ)

 



 

เทน้ำมันเกียร์ลงไปสักป๋องก่อน แล้วเช็คว่าน็อตขัันแน่นดีไม่รั่ว

 



 

เติมไปสัก 2.5 ลิตร แล้วเช็คระดับดูครับ ให้อยู่กลางๆตารางของแท่งเช็คน้ำมันเกียร์

 

จากนั้นก็ปิดช่อง แล้วสตาร์ทเครื่องเข้าเกียร์ทุกเกียร์ เกียร์ละสัก 10-15 วินาที

 

จากนั้นก็มาเช็คระดับน้ำมันอีกครั้ง เติมจนได้ตรงกลางตารางเหมือนเดิมเป็นอันจบครับ

 



 

เท่านี้เพื่อนๆก็ได้น้ำมันเกียร์ใหม่ๆให้ลูกน้อย เปลี่ยนเองได้ไม่ยาก รู้งี้เปลี่ยนมันทุก 20,000 โลละ 5555+

 

:D :D :D

 

 

 

ขอเป็นส่วนหนึ่งในการนำภาพความสนุก ประทับใจ อิ่มบุญ อิ่มท้อง จากกิจกรรม จิตอาสาำ ทำเพื่อน้อง วัดโบสถ์วรดิตถ์ จ.อ่างทอง  มานำเสนอทุกท่านครับ จากทีมงานช้างน้อย CCTH
 
เริ่มออกเดินทางกันจาก กทม เวลา ตี5 นัดเจอกันระหว่างทาง บริเวณปั๊ม ปตท เริ่มด้วยภาพ มนุษย์พิเศษ เพิ่งกลับจากฮ่องกง เพื่อไปกวาดล้าง เฟอร์บี้ เชื่อเค้าติดอยู่ที่กระจกหลังอยู่แล้วครับ ซูมดีๆ
 

 
ทีมงานหาอะไรรองท้องกันก่อน
 

 
ถึงวัดล่ะครับ เช็คสถานที่กันวุ่นวายเลย เนื่องจากพิกัด GPS ชี้ไปที่ สถานีตำราจ มีซากรถ มี พระพุทธรูปเหมือนวัดเลย 
 

 
เริ่มเตรียมงานรอ ประสานงานกับ เจ้าหน้าที่ จัดเตรียมสถานที่จอดรถ รอทีมงาน และ สมาชิกทุกท่านที่มาร่วมกิจกรรมในวันนั้น
 

 
ประมาณ 08.00 น. น้องตั้มและน้องปริ้น ก็ล่วงหน้ามาเตรียมเก็บภาพและ คอยกันรถสำหรับสมาชิก ชุดแรกที่จะมาถึง
 

 

 
หลังจากนั้นเกิดมีรถบรรทุก เสียตรงทางเข้าวัดพอดีเลย ประสานให้น้องปริ้นแจ้ง ให้สมาชิกชุดที่ 2 เข้าทางด้านหลังวัดแทน ช่วงนี้ไม่ได้เก็บภาพน่ะครับ ไปคอยยืนโบกรถด้านหลังวัด
 
หลังจากนั้นสมาชิกเริ่มมาถึง พี่พร นำรถกระบะขนข้าวสารมา 30 กระสอบ ต้องขอบคุณด้วยที่ประสานงานจัดเตรียมของและอุปกรณ์ รวมถึง มารับพระไปส่งที่วัดก่อน ขอบคุณครับ
 

 
จัดเรียงของที่สมาชิกนำมาบริจาค
 

 

 

 

 

 
พระพุทธรูปที่ทาง CCTH จัดซื้อจากเงินบริจาคที่เหลือจากงานสร้างพระ ในครั้งแรก น่ายินดีน่ะครับ บริจาคกันได้ทุกปีเลย ขออนุโมทนาบุญไปยังสมาชิกและผู้ร่วมบริจาคทุกท่านด้วยครับ
 

 

 

 

 
 

 
รายได้จากการบริจาคให้วัด จำนวนเงิน 13,110 บาทถ้วน
 

 

 
ร่วมเลี้ยงอาหารเพลพระ อาหารกลางวันน้อง และ อาหาร เช้า + กลางวัน พี่ๆ CCTH หิวและอร่อยมากครับ
 

 

 
 
ปิดท้ายด้วยทีมงาน ช้างน้อย และ DRM บางส่วนไปเที่ยวต่อที่อยุธยา พระราชวังบางปะอิน และ กินกุ้งต่อที่ ต้นน้ำริเวอร์วิว ครับ งานนี้อิ่มบุญ อิ่มท้องกันทั่วหน้า กิจกรรมหน้าพบกันใหม่ครับ
 

 

 

 
ขอขอบคุณ เก๋ และทีมงาน จิตอาสา CCTH ที่เสนอโปรเจคนี้ขึ้นมาทำให้เราได้รู้ว่า มิตรภาพ ดีๆ ไม่เคยห่างหายไปจาก CCTH เลย ขอบคุณครับ งานหน้าพบกันใหม่
 
 
**ปล. กล้องมือถือ ภาพอาจได้เต็มที่เท่านี้หล่ะครับ ขออภัยด้วย**

อาการแบบนี้น่าจะแบตครับ
 
พ่วงแบตแล้วต้องรอครับทิ้งไว้ซักพักครับ
 
พ่วงแปปเดียวไม่ติด มีหลายกรณี สายพ่วงอาจจะเล็กไป ลองพ่วงแล้วรอซักพักครับ
 
เพราะไดสตาร์ทำงานแล้วแต่ไฟไม่พอ

จัดให้ดู 17" หน้า 8+40 หลัง 9+40 งานCGคับ สปริง S-TECH หลังไม่ติดนะเพราะผมนั่งไม่เกิน3คน หน้าจั้มแรงๆๆมีเสียงฟิตๆๆให้ได้ยินบ้าง
 

17/9/40   คับบบ หน้าล้นนิดๆ 
 

มามอบตัวครับ ไม่ได้เข้าเว็ปหลายวันโดนจับซะแล้ว

คันนี้คุ้นม๊าก ไปงานสร้างพระ...ไม่แน่ใจคันที่นัดเจอรวมตัวกันโซนบางนารึป่าว ถ้าไม่ไช่ก็ขออภัยครับ....แต่รถทั้งโหดทั้งหล่อจริงๆครับ..

คันนี้เจอตอนงานสร้างพระ ผมขับตามคันนี้อะ

สีดำแต่งดุ มากๆครับ มามอบตัวด้วยนะครับบบ
 
ส่วนรูป งานบางแสนดูได้ที่นี้ครับ
 
 http://www.facebook.com/media/set/?set=a.4484413626581.2166543.1177344634&type=1

ถึงเวลากลับแล้ว ลูกหาบเก็บเต้นท์เสร็จเดินตัวปลิวแซงหน้าเราไปเฉยเลย พวกนี้เดินไวยังกับผีหลอก
 

 

 

 

 

 
ฝรั่งก็มาปีนเขาเมืองไทยกันเยอะน่ะ กลุ่มนี้มาจากเยอรมันเดินกันเก่งมาก
 

 

 
ลงมาถึงข้างล่างประมาณ 10 โมงกว่าใช้เวลาประมาณ 2 ชม แต่ขาขึ้นใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม ลงมาเหนื่อยๆ อันดับแรกต้องเป๊ปซี่แก้กระหาย ตามด้วยข้าว แล้วตบด้วยเบียร์ปิดท้ายแก้คอแห้ง
 

 

 

ในทีี่สุดก็มาถึงจุด hilight ของทริป "สันคมมีด" หรือ "สันวัดใจ" ตรงจุดนี้มีหลายคนไม่กล้าขึ้นนั่งรอเพื่อนกลับลงมา แต่ส่วนใหญ่แล้วมาถึงนี่ก็ต้องผ่านให้ได้ เพราะใกล้จะถึงยอดเขาแล้ว คนที่กลัววามสูงอาจมีสั่นๆบ้าง แต่มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำว่าเวลาปีนขึ้นต้องก้าวเท้าไหนก่อน สมัยก่อนจะไม่มีเชือกไว้ปีนต้องปีนด้วยมือเปล่า แต่ตอนนี้ก็มีเชือกเป็นตัวช่วยทุ่นแรงมากขึ้น แ่ต่อย่างว่าแหละครับการท่องเที่ยวแนวนี้ในเมืองไทย ไม่ค่อยมีอุปกรณ์ safety ใดๆทั้งสิ้น หากใครเกิดพลาด หรือหน้ามืดขึ้นมาตรงจุดนี้...ไม่อยากจะนึกเลย แต่เจ้าหน้าที่บอกไม่เคยมีใครตกลงไปเสียชีวิตเลยสักคนตั้งแต่เปิดมา...
 

 

 

 

 
สองฝั่งข้างล่างจะเป็นเหว
 

 
ตกลงไปนี่คงกลับบ้านเก่าอย่างเดียว
 

วันนี้มีหลายคณะมากันเยอะ ทำให้พื้นที่กางเต้นท์ไม่พอ พวกคณะเราเลยปลีกตัวแยกออกมาตั้งแคมป์ต่างหากจะอยู่ก่อนถึงแคมป์หลักที่อยู่ในหุบ
 

 
ยอดเขาช้างเผือกอยู่ข้างหน้านี่เอง แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาจะขึ้นกันประมาณ 4 โมงเย็นเพื่อขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตก ดังนั้นหลังจากกางเต้นท์เสร็จก็ถ่ายรูปบริเวณที่ตั้งแคมป์และพักผ่อนเอาแรงก่อน
 

 
ไม่ต้องสงสัย xxxตัวประหลาดนี่คือข้าพเจ้าเอง อิอิ
 

 
นี่ก็ตัวประหลาดอีกตัวนึงเหมือนกัน บ่าย 3 โมงครึ่งเราเริ่มปีนเขาก่อน เพราะแคมป์เราจะอยู่ไกลกว่าแคมป์หลักที่ใกล้เขาช้างเผือกมากกว่า ดังนั้นเราก็เลยต้องเผื่อเวลาเดินไปแคมป์หลักที่อยู่ในหุบอีกครึ่งชั่วโมง
 

 
ให้ดูความลาดชันของเส้นทางที่เราเดินไป ><
 

 
จุดที่เราจะผ่านไปคือ เขาช้างน้อย
 

 

 

 
ซึ่งวิวตรงนี้จะสวยมาก
 

 

 
ก่อนขึ้นยอดเขาช้างเผือก จะเจอแคมป์หลักหรือแคมป์ที่ 2 ตั้งอยู่ในหุบ ซึ่งบริเวณนี้เป็นแนวลมพัดผ่าน ซึ่งตอนกลางคืนลมจะแรงมาก ถ้าใครกางเต้นท์ไม่แน่นเต้นอาจหักได้
 

ชุดนี้ดึงมาจากเพื่อนๆนะครับ ขอตั้งชื่อว่า...
 
"แกะ แ ม่ง เลย"