mie

เจ้าของรถโชคดีมากที่ไม่ได้ฝืนสตาร์ทรถอีก น้ำเลยหยุดอยู่แค่ที่กรองอากาศ ถ้าผืนสตาร์ทอีก เครื่องจะดูดน้ำจากที่นองในกรองอากาศเข้าไปในเครื่อง เจ๊งบ๋อง ทันที จะเจอค่าซ่อมเป็นแสนเลยจ่ายเอง อ๊วกแตกแน่ (ปลายปีที่แล้ว ช่วงน้ำท่วมทั่วไทย มีข้อมุลคนที่น้ำเข้าเครื่อง เจอค่าซ่อมร่วม 200,000ไปหลายคน)
 
ตรงกรองอากาศที่มีใส้กรอง มันจะมีตัวต่อจากท่อเก็บเสียงที่มันยาวลงไปถึงด้านล่าง ที่ตัวเก็บเสียงนั้นมันจะมีรูเล็กๆ อยู่ น่าจะทำไว้ให้ระบายน้ำออก
แต่ ในทางกลับกัน ถ้าน้ำท่วมสูง ตรงรูนั้นจมน้ำอยู่ เวลาเครื่องยนต์เดิน เร่งเครื่อง มันก็กลายเป็นเครื่องดูดน้ำจากรูที่จมอยู่เข้ามาทันที
 
นึกง่ายๆ มันก้จะเหมือนกับที่เราใช้หลอดดูโอเลี้ยงแหล่ะ ซ๊วบบบบบๆๆๆๆๆ แฮ่

Like ครับ

+1 เห็นด้วยมากๆ

ขอบคุณครับ
 
สำหรับผมที่เคยอ่านมาคือ เข้าให้ช้า(จะได้ไม่แหกโค้ง)---ออกให้เร็ว(เด๊ยวคันหลังจะชนเอา)

สมัยผมเรียนชื่อนี้ครับ

โชคดีแล้วครับไม่เป็นอะไร และผมก็ได้เป้นบทเรียน หากเครื่องดับจะได้ไม่ต้องสตาร์ท ว่าแต่น้ำเข้าทางไหนนะครับ อยากรู้จัง

สรุปว่าจ่ายค่ารถยกใช่ไหมครับ แล้เคลมกับประกันได้ไหมครับ

ขอบคุณครับกับข้อมูล
 
ผมก็เพิ่งต่อบริการช่วยเหลือฉุกเฉินไป 1290 บาท 1 ปีครับ(รถผมเข้าสู่ปีที่ 4 ครับ) เบอร์โทรฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ที่ผมได้รับคือ
 
1. เบอร์ 1401-555-000 มือถือนาทีละ 3 บาทครับ
2. เบอร์ 1800-555-000 เบอร์บ้านโทรฟรีครับ
 
ไม่ทราบว่าโทรไปเบอร์ไหนครับ ผมจะได้เก็บเป็นข้อมูลครับ

ให้กำลังใจ พี่ๆ ทีมงานนะครับ เรื่องกำหนด วัด และ วัน
 
ปล.กิจกรรมนี้ ผมและทีมอาสา จะดูแค่ เส้นทาง การสื่อสาร เป็นหลักครับ

ต้องช่วยกัน ซื้อจากคลับ เท่านั้นครับ
 
ต่อไป ถ้าทีมงานเวปนี้ อมตัง
 
เราจะได้มีสิทธิ์ ตรวจสอบ ได้เต็มที่
 
เพราะ เงินส่วนหนึ่ง จะเข้ากองกลาง เพื่อพัฒนาเวป
 
อุดหนุนกันครับ
 

สรุป จุดรวมสุดท้าย เบื้องต้น
 
เราจะใช้ จุดรวม 3 ปั๊ม ติดกัน ตามแผนที่นี้ http://goo.gl/maps/mgYp
 
 
โดยที่จะใช้ ปั๊ม ปตท เป็นปั๊มหลัก
 
ถ้ารถล้น จะให้ ไปใช้ปั๊ม สำรอง ปิโตนัส เอสโซ่ ตามลำดับ (ตามคำแนะนำของพี่โป่ง)
 
โดยทีมสือสารจะแบ่งคน คุมตามจุดต่างๆ เพื่อประสานงานกัน ทาง ว.
 
 
ประมาณนี้ก่อนครับ
 
ปตท 13.585634,100.319429
ปิโตนัส 13.577791,100.30406
เอสโซ่ 13.571075,100.291132
 

 

 

เหมือนกันเลยครับ รอนับวันถอยหลังเข้าร่วมงานครับ
 
3 ปั๊มนี้ เจ๋งไปเลยครับ เห็นด้วยมากกกกกกกกกกครับ

รอคนอื่นแสดงความคิดเห็นก่อนครับ แต่ 3 ปั๊มนี้ในตอนนี้ Ok สุดแระ

เช็คลมยาง
เช็คศูนย์ล้อ
รถแค่หมื่นโลเอง ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายมาก
ลมยางอ่อนไปหรือป่าว ลองเช็คดูนะครับง
 
เมื่อไหร่พวกช่างปากหมาจะหมดไปจากศูนย์สักที
มีหน้ามาตอบไปได้ว่า มันเป็นมาตรฐานของรถรุ่นนี้
ของผมแสนห้าหน้ายังนิ่ง หมายถึงหน้าคนขับนะครับ
ตอนนี้ลูกหมากก็เริ่มหลวมแล้ว เตรียมตัวเสียตัง!

สงสัยผมว่าเราได้ เปป(ซี่) มากินก่อน
 
:P

เอาแบบหน้าแรกเว็บก็เท่ดีนะครับ

ตัวบนไว้ติดด้านหลัง
ตัวเล็กไว้ติดกระจก

เสี่ยต้นต้องขับไกลแล้วละครับอยู่ มีเบนซิน 91 ที่ผมเห็น คือ
1. Shell ตรงข้ามบิ๊กซีดาวคะนอง + ตรงแยกบางปะแก้ว ใกล้ 0 ฮอนด้า ผมไม่มั่นใจครับ และผมก็ไม่รู้ว่าทำไม Shell ถึงกลับมาขาย 91 ธรรมดา
2. Esso ตรงข้ามบิ๊กซีบางปะกอก (ผมเติมประจำ เพราะแถมน้ำดื่ม และเก็บบิลทุกครั้ง กลัว 0 อ้าง จากสาเหตุหัวตันครับ)
3. Caltex เลยบิ๊กซีบางปะกอกมา 2 ป้ายรถเมลล์ครับ (เลยทางเข้า รร.วัดบางปะกอกประมาณ 100 ม.) Caltex ด้านตรงข้ามไม่มี 91 นะครับ แต่มีเบนซิน 95 แทน
 
แต่คงไกลเสี่ยต้นละครับ
เหตุหนึ่งที่ผมเติม 91 เพราะว่ารถผมวันไหนแฟนไม่เอาไปทำงาน แล้วจอดไว้ที่แฟลต ใน 1 สัปดาห์ จะหายไป 1 ขีด (แกสโซฮอลล์นะครับ) แต่ 91 ไม่หาย วัดจากการเติมเต็มถังปั๊มตัดแล้วอัดต่ออีก 1 ลิตรครับ ผมเลยไม่ค่อยเชื่อทฤษฎีจากคุณ Google เท่าไรครับที่เอาน้ำมันตากแดด และขอให้หัวฉีดไม่อุดตันทุกคันนะครับ

เดี๋ยวจะหาปั๊มที่มี 91 ธรรมดา ก็ยากอ่ะครับพี่

ผมเจอรถทะเบียนนี้เมื่อไรละขับตามเลยนะครับเสี่ยต้น

นี่แหละครับตัวปัญหาที่ผู้ผลิตน้ำมันไม่ยอมบอกผลเสียมีอะไรบ้าง บอกแต่ผลดีคือประหยัดลดการนำเข้า Additive ผมเคยคุยกับช่างในระดับหัวหน้าที่ 0 บริการ Honda เขาบอกว่าเจ้าแอคคอร์ดเป็นกันเยอะมากเลย แต่เจ้า FD ก็มีบ้าง(เฉพาะที่ 0 ที่เขาดูแลอยู่นะครับ) เนื่องจากมีคราบขาวๆ บางคนเรียก Gum ซึ่งอยู่ในแกสโซฮออล์ เมื่อใช้เป็นเวลานานๆและจะไปเกาะหัวฉีดทำให้เกิดการอุดตันครับ จริงเท็จอย่างไรรอท่านต่อไปมาบอกดีกว่า แต่ของผมปี 2009 ใช้ เบนซิน 91 ครับ ยังไม่เกิดปัญหาครับ หากเป็นไปได้หากไม่ใช้เบนซิน 91 แนะนำให้สลับกันระหว่าง 91 กับแกสโซฮอลล์ ครับ