Jump to content

dikiboyz

CCTH Member
  • Posts

    285
  • Joined

  • Last visited

  • Days Won

    2

Reputation Activity

  1. Like
    dikiboyz got a reaction from ppopp in HRV กับ CX3 เอาอันไหนดีครับ   
    ถามในบอร์ด Honda คุณก็จะได้คำตอบส่วนใหญ่ที่ค่อนไปทางฮอนด้าหมดละครับ
     
    แต่ คหสต.
     
    วัดกันที่ตัว TOP เครื่องเบนซินละกัน (HR-V ไม่มี Diesel) ณ เวลาปัจจุบัน
    - เครื่องยนต์ HR-V เป็น 1.8 (น่าจะเครื่องเดียวกับ FB 1.8) ส่วน CX-3 เป็น 2.0 ฉีดตรง(น่าเครื่องเดียวกับ Mazda 3 แต่จูนแรงม้าน้อยกว่า) ---> ส่วนตัว ผมเลือก CX-3
    - เกียร์ HR-V เป็น CVT ส่วน CX-3 เป็น 6 สปีด ครัชคู่  ---> ส่วนตัว ผมเลือก CX-3 แบบไม่ต้องสงสัย ไม่ได้รังเกียจ CVT นะ แต่ชอบเกียร์ 6 สปีดครัชคู่มากกว่า
    - ช่วงล่าง HR-V เป็นปีกนกหน้า-หลัง ส่วน CX-3 ปีนกหน้า แต่หลังเป็นคาน  ---> ส่วนตัว ต้องไปนั่ง ไปขับดูก่อนว่า ชอบแบบไหนมากกว่ากัน
    - ภายนอก  ---> ส่วนตัว ผมให้เสมอ (ถ้าวัดกันจริงๆ ณ วันนี้ ผมถือว่า HR-V ชนะ เพราะออกมานานกว่า แต่ยังให้เสมอ แสดงว่า ยังไม่ตกรุ่น)
    - ภายใน  ---> ส่วนตัว ชอบภายในของ HR-V มากกว่า (ไม่ชอบตรงจอของ CX-3 มันเหมือนเอา Tablet มาแปะไว้ๆ คล้ายๆ CLA ซึ่งส่วนตัวไม่ชอบ และพับเก็บไม่ได้ด้วย)
    - ความปลอดภัย  HR-V มีแต่พวกถุงลม ส่วน CX-3 มีกว่านั้นคือ มีช่วยเบรค เตือนออกนอกเลน เตือนจัดอับสายตา --->  ส่วนตัว ผมเลือก CX-3
    - ระบบช่วยเหลือ จำพวก traction control , stability control , hill asist บลาๆ ---> พอๆ กัน กินกันไม่ลง 
    - Infotainment ---> อันนี้แล้วแต่ชอบเลย
    - ราคา  ---> เลือก model ที่ชอบ แล้วตัดสินใจเอง
    - อัตรการกินน้ำมัน  ---> ต้องวัดเป็นตัวเลข อันนี้หาดูรีวิวตามเว็ปต่างๆ เอาได้ (ถ้าชอบที่รถ ข้อนี้ส่วนมาก คนจะไม่สนใจแล้ว)
     
    สรุป
    1. เลือกคันที่ชอบ (สำคัญสุด 100 คนบอก ถ้าไม่ชอบ ก็คงไม่มีประโยชน์)
    2. เลือกคันที่ตอบโจทย์การใช้งาน (แต่ต้องผ่านข้อ 1. ด้วย จริงปะ)
    3. เลือก model เทียบกับราคา และเงินในกระเป๋า(ไฟแนนท์)
     
    ปล. ถ้าให้เลือก ณ วันนี้ ผมเลือก CX-3 ครับ (คหสต)
  2. Like
    dikiboyz got a reaction from cha2480 in สอบถามเรื่อง Brake ครับ   
    แล้วผ้าเบรค City มันใส่ปั้ม Civic ได้ด้วยเหรอครับ เป็นความรู้ใหม่เลย
     
     
    ขอบคุณครับ กำลังลองๆ ใช้อยู่ ถ้ามีปัญหาเบรคไม่อยู่หรืออื่นๆ จะไปเปลี่ยนถ่ายใหม่ทั้งระบบเลยครับ
  3. Like
    dikiboyz got a reaction from kosdemo in honda รับเคลมถุงลมนิรภัย?   
    นั้นละครับคือประเด็นที่ผมอยากจะสื่อว่า
    ถ้าจริงใจหรือเอาใจใส่ลูกค้าจริงๆ ป่านนี้ประกาศออกข่าว(เมืองนอก recall ประเทศไทยยังรู้ ออกข่าวออกสื่อกันโต้งๆ) หรือ ส่งเอกสารถึงบ้านไปนานละครับ ส่งเอกสาร 3-4 วันถึงบ้านละ ขนาดโทรถามเอง หรือถามต่อหน้า ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เลย  
     
    เหนื่อยใจแทน
     
     
    ของผมน่าจะเอาศูนย์เปลี่ยนพร้อมเช็คระยะ ต้นเดือน ธ.ค. ครับ ยังไงขอให้ตรวจสอบกันด้วยนะครับ
  4. Like
    dikiboyz got a reaction from kosdemo in honda รับเคลมถุงลมนิรภัย?   
    สอบถามฝ่าย service ศูนย์ที่ผมออกรถมาแล้วครับ รถผม Civic 1.8 MC ปี 2010 แต่จดทะเบียนปี 2011เพราะออกรถปลายปี(ไม่บอกละกันว่าศูนย์ไหน) ได้รายละเอียดดังนี้
    พนักงาน : สวัสดีครับ มีอะไรให้ช่วยครับ
    ผม : สวัสดีครับ จะสอบถามเรื่องการแจ้งเครมระบบถุงลมนิรภัยครับ
    พนักงาน : มีปัญหาอะไรครับ
    ผม : ผมสอบถามตามที่ฮอนด้าประเทศไทยเขามีประกาศ recall เพื่อตรวจสอบระบบถุงลมนิรภัยครับ
    พนักงาน : ใครประกาศนะครับ
    ผม : ฮอนด้าประเทศไทยเขาประกาศในเว็ปไซต์ของฮอนด้าประเทศไทยไงครับ
    พนักงาน : ไม่ทราบเรื่องเลยครับ เขาประกาศทางไหนเหรอครับ ปกติถ้ามีปัญหาอะไรฮอนด้าประเทศไทย จะส่งเอกสารแจ้งเจ้าของรถโดยตรง
    ผม : เขาประกาศขึ้นเว็ปไซต์เป็นทางการขนาดนี้  ศูนย์...ไม่ทราบเรื่องเลยเหรอครับ
    พนักงาน : เดี๋ยวผมขอตรวจสอบอีกที
    ผม : รอ.....
    พนักงาน : อ้อ เขาประกาศแจ้ง ตามรุ่น/ปี ที่เข้าข่ายหรือที่ฮอนด้าประเทศไทยระบุครับ
    ผม : เห็นในบอร์ดแจ้งว่า รถ Civic ปี 2010 ก็อยู่ในกลุ่มด้วย เลยโทรมาตรวจสอบครับ
    พนักงาน : เคยเอารถเข้าศูนย์....หรือป่าวครับ
    ผม : ผมออกรถป้ายแดงที่ศูนย์นี้และเช็คระยะศูนย์นี้แทบทุกครั้ง
    พนักงาน : งั้นผมขอเลขทะเบียนหน่อยครับ
    ผม : ทะเบียน XX-XXXX
    พนักงาน : (พรึมพรัมเบาๆ เหมือนไม่ได้คุยกับผม) เปลี่ยนตัวสร้างแรงดันถุงลมด้านคนขับ 
    พนักงาน : อ้อครับ รถคุณมีรายการต้องเปลี่ยนตัวสร้างแรงถันถุงลมด้านคนขับครับ
    ผม : แล้วทำไมไม่เห็นฮอนด้าส่งเอกสารมาแจ้งตามที่คุณบอกผมเลย
    พนักงาน : คุณอาจจะเปลี่ยนที่อยู่ หรือ เอกสารยังไม่ถึงหรือป่าวครับ
    ผม : (คิดในใจ คงไม่ต้องรอเอกสารแจ้งละมั้ง) งั้นโอเคร ตกลงรถผมสามารถเข้าไปเครมเจ้าตัวสร้างแรงดันนี้ได้ใช่ไหม
    พนักงาน : ได้ครับ สะดวกตอนไหน 
    ผม : งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปเครมพร้อมกับเช็คระยะต้นเดือนหน้าเลยละกัน
    พนักงา : ได้ครับ 
     
     
    สรุป คือ
    1. บางศูนย์หรือพนักงานบางคน ยังไม่ทราบเรื่อง(หรือทำเนียนไม่รู้นะไม่อยากมองในแง่ร้ายมาก)
    2. เรื่องเอกสารแจ้งเจ้าของมีจริงหรือป่าวไม่รู้ อันนี้ไม่ทราบ เพราะผมเองก็ยังไม่ได้รับ
    3. ผมถามคนที่ทำงาน  2-3 คน ที่ขับฮอนด้า รุ่น/ปี ตามที่ระบุ เขาก็ไม่ทราบเรื่องนี้สักคน เพราะอย่างที่่บอก ถ้าไม่มีเอสการหรือการแจ้งเป็นทางการ เขาเหล่านั้นไม่ได้เล่นเว็บบอร์ด คงไม่ทราบเรื่อง
  5. Like
    dikiboyz got a reaction from ppopp in honda รับเคลมถุงลมนิรภัย?   
    ผมแค่สงสัยอะครับ ว่าฮอนด้าประเทศไทยทำแบบนี้ เหมือนไม่ค่อยจริงใจหรือเอาใจใส่ลูกค้าสักเท่าไหร่นัก เพราะการ recall ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ต่างประเทศเขาประกาศเป็นทางการพร้อมส่งเอกสารแจ้งลูกค้าทีมีรถในกลุ่ม recall นั้นโดยตรง ไม่ใช่การประกาศผ่านเว็ป หรือให้โทรไปถามเองครับ (ขนาดประกันรถใกล้จะหมดยังโทรมาหายิ๊กๆ ได้เลย อันนี้ถ้าเทียบกันน่าจะเรื่องซีเรียสกว่าอีก)
     
    ถ้า คนซื้ออยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้เล่น net ไม่มี Line ไม่ได้อยู่ใน board หรือไม่ได้ติดตามข่าวเหมือนเราๆ ท่านๆ ถือว่า ช่างหัวมัน ผมว่าน่าเกียจไปหน่อยนะ (ความเห็นส่วนตัวนะ)
     
     
     
    ความเห็นส่วนตัว เหมือนกันกับที่ผมอธิบายไปกับคุณ ae2929 
     
     
    อ้อ ครับ คงเหมือนกันกรณีของรถยี่ห้อหนึ่งก่อนหน้านี้ ว่าตัวสร้างแรงดันหรือระเบิด แรงเกินไป ทำให้เป็นอันตรายกับผู้โดยสาร  (แต่คงไม่ใช่กรณี อยู่ๆ แล้วระเบิดเอง ซินะครับ หรือ กรณี sensor ยี่ห้อ B.... ทำงานไวไป ทำให้ถุงลมระเบิด ทั้งๆ ที่แค่โดนกระแทกเบาๆ )
     
     
    รถผมออกปี ธ.ค. 2011 คงไม่เข้าข่าย หรือเครมไม่ได้แล้วซิ เพราะระบุว่า 2003-2009 หวังว่าคงไม่มีปัญหา 
  6. Like
    dikiboyz got a reaction from NaM_pRiG in สอบถามเรื่อง Brake ครับ   
    ลืมแจกแจงราคา
     
    1. ผ้าเบรค MU หน้า 1,750 บาท
    2. ผ้าเบรค MU หลัง 1,550 บาท
    3. ค่าเจียร์จาน ทั้งหน้า-หลัง 700 บาท
    4. ค่าน้ำมันเบรคกระป่องเล็กๆ 120 บาท (เห็นเป็นน้ำมันเบรค Toyota DOT3 แต่ช่างบอกเติมได้ ไม่มีปัญหา)
    5. ค่าแรง+ค่าล้างปั้มหน้า 800 บาท (ที่ลูกยางมันเผยอๆ นั้นละ ช่างบอกมันจะเป็นสนิม เพราะน้ำเข้า)
     
    รวม 4,920 บาท
     
    ปล. เรื่องผ้าเบรค ถ้าสั่งในบอร์ด CCTH น่าจะได้ถูกกว่าประมาณ 200 นะครับ ทั้งหน้าและหลัง เพราะชุดก่อนหน้าคู่หน้า MU ที่เปลี่ยนออก ผมก็ซื้อจากในบอร์ดนี่ละ แล้วเอาไปให้ร้านเล็กๆ ถ้าบ้านเปลี่ยนให้ คิดค่าแรง 200 หรือ 400 บาทนี่ละ(เปลี่ยนอย่างเดียวจริงๆ นะ)
     
    แต่ถ้าซื้อไปเองให้ร้านเปลี่ยนให้ ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดค่าแรงยังไง
  7. Like
    dikiboyz got a reaction from sorachais in ###กระทู้ประมูลของ รายได้ทั้งหมด มอบให้วัดพระบาทน้ำพุ###   
    รายการที่ 16.สติกเกอร์คลับCCTH แบบใหม่ล่าสุด + พวงกญแจ CCTH  ชุดที่3  = 350 บาทไทย  DiKiBoyZ 087-088-3360   
  8. Like
    dikiboyz got a reaction from bleachoat in มีเสียงวิ้งๆออกมาจากล้อคับ   
    ดังเหมือนกันครับ ไม่แน่ใจว่าดัง วิ๋งๆ หรือ จิ๊ดๆ นี่ละ
    ทีแรกสงสัยว่าผ้าเบรคหมด(เบรคหน้าเพิ่งเปลี่ยนไปหมื่นโล) คิดว่าเบรคหลัง แต่มันไม่ดังตลอด
     
    แต่มันดังๆ หายๆ ขับเร็วหน่อยไม่ได้ยินละ ต้องชลอๆ เปิดกระจกฟัง ได้ยิน กลัวเป็นลูกปืน แต่เหมือนข้างบนบอก ลูกปืนยิ่งขัวเร็วมันต้องยิ่งดัง
  9. Like
    dikiboyz got a reaction from TEKKEN in ต่อประกันปีที่ 5 ต่อแบบไหนดี   
    รถเข้าปีที่ 5 ละ ไม่ทราบว่าท่านอื่นต่อประกันแบบไหนบ้างครับ
    รถผม ปีแรกป้ายแดง ชั้น 1 ไทยเศรษฐกิจ(แถม)
    ปีที่ 2 ชั้น 1 กรุงเทพประกันภัย เบี้ยประมาณ 24,000 บาท
    ปีที่ 3 กับ 4 ชั้น 2+ กรุงเทพปรกันภัย เบี้ยประมาณ 11,000-14,000 (ตัวเลขไม่ชัวร์)
    ปีที่ 5 (ที่กำลังจะต่อ) ผมว่าจะเป็นชั้น 1 ซ่อมห้าง กรุงเทพประกันภัยใหม่ ศูนย์เขาเสนอเบี้ยมา 29,000 บาท แพงไหมครับ และอีกเจ้าเป็นชั้น 1 ซ่องห้าง ธนชาติ เบี้ย 21,000 บาท
     
    ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะต่อ ชั้น 1 หรือ 2+ ดี
  10. Like
    dikiboyz got a reaction from astation in เวลาถอย มีเสียงดังกุ๊กๆ มาจากด้านหลัง   
    ถามหัวเรื่องเลยครับ
     
    เวลาผมถอย(เท่าที่ฟัง ตอนวิ่งเดินหน้าอาจจะไม่ได้ฟัง) หรือถอยจอดจะได้ยินชัดมาก มีเสียงดัง "กุ๊กๆ" (ไม่ติ๊ก ไม่ต๊อก ไม่อะไรทั้ง) ยิ่งถอยจอดแล้วกำลังเบรก(ตอนรถกระตุกๆ) ยิ่งได้ยินชัดมาก
     
    ผมคิดเอาเองว่า เสียงมันเหมือน อะไรกลิ๊งๆ กลิ้งไป กลิ๊งมา อะครับ ดังมาจากข้างหลังรถ(มั่นใจ) แต่ไม่รู้ว่าเสียงอะไร หรือแหล่งกำหนดเสียงมาจากตรงไหน ทีแรกนึกว่าเสียงท่อหลวมหรือป่าวเพราะทำเป็น ท่อซ้าย-ขวา ออกจริงกับกันชนหลัง RR แต่ไปเขย่าดู มันก็แน่นๆ อยู่นะ ไม่น่าจะเกิดเสียงได้
     
     
    เลยอยากทราบว่า มีใครเคยได้ยิน หรือมีอาการแบบนี้หรือป่าวครับ มันดังมาจากไหน
     
    ขอบคุณล่วงหน้า
  11. Like
    dikiboyz reacted to aae3039 in เรื่องติดไฟ Day Light หน่อยครับ   
    ไฟในเรือนไมล์ สั่งงานด้วย MCU ที่อยู่ในเรือนไมล์ครับ ถ้าจะเอาจุดนั้นมาใช้ ต้องนำมาขยายกำลังขับก่อน เพื่อจ่ายไฟให้ DRL ได้ และต้องมี isolator เพื่อกันไปรบกวนการทำงานของเดิม
     

     

  12. Like
    dikiboyz reacted to aae3039 in เรื่องติดไฟ Day Light หน่อยครับ   
    ถ้าเอาแบบที่คุณต้องการ พอจะเขียนวงจรกับชี้จุดเดินสายให้ได้ครับ แต่ต้องไปหาอุปกรณ์กับหาวิธีติดตั้งเอง
  13. Like
    dikiboyz got a reaction from garapgos in ผ้าเบรค mu spec nsport....   
    ผมก็ใช้อยู่เหมือนกันครับ เพิ่งใช้ยี่ห้อนี้ชุดแรก ตอนคลายเบรคดัง กึ๊กๆ เหมือนกัน ส่วนสภาพผ้าเบรค ยังไม่ทราบ เพิ่งใช้ได้ประมาณ 1 หมื่นโล
  14. Like
    dikiboyz got a reaction from Bestroom in film บานหน้ารถ   
    บานหน้า ผมไม่แนะนำให้ติดถึง 80 นะครับ กลางวันเย็นจริง แต่กลางคืนขับยากครับ มองไม่ค่อยเห็นถนน ยิ่งเจอถนนยางมะตอย มืดๆ ยิ่งไปกันใหญ่
  15. Like
    dikiboyz got a reaction from S_Limited in film บานหน้ารถ   
    บานหน้า ผมไม่แนะนำให้ติดถึง 80 นะครับ กลางวันเย็นจริง แต่กลางคืนขับยากครับ มองไม่ค่อยเห็นถนน ยิ่งเจอถนนยางมะตอย มืดๆ ยิ่งไปกันใหญ่
  16. Like
    dikiboyz got a reaction from Tommie in กระจกประตูข้างซ้ายด้านหลังแตก   
    อัพเดท
     
    ซ่อมเสร็จเรียบร้อย (ซ่อมศูนยฺ์) ค่าใช้จ่าย 3,200 นิดๆ 
    - ค่ากระจก 521 บาท
    - ค่าเปลี่ยนกระจก ดูดกระจก ค่าแรง 1,200 บาท
    - ฟิล์ม 3M เบอร์ FX-20 รวมค่าแรง 1,200 บาท
     
    เผื่อมีคนประสบเหตุการณ์เหมือนกับผมครับ  แชร์ๆ กัน
  17. Like
    dikiboyz got a reaction from pook24 in มาแชร์ข้อดีข้อเสีย ของผ้าเบรกที่ใช้งานจริงกันแต่ละรุ่นกันครับ   
    ส่วนตัวจากการใช้ผ้าเบรค MU Spec เปลี่ยนไปก่อนปีใหม่ วิ่งยังไม่ถึง 2 พันโล รู้สึกว่า
     
    ช่วงความเร็วต่ำ ขับในกรุงเทพฯ รู้สึกว่าเบรคไม่ค่อยอยู่ครับ (แต่ดูดเท้า ดูดจริงครับ) รู้สึกระยะเบรคยังยาวอยู่(หวังไว้ว่าน่าจะดีกว่านี้)
     
    ความเร็วปานกลาง มอเตอร์เวย์-ทางด่วง ถือว่าใช้ได้ครับ รับได้ ถือว่าไม่ด้อยกว่าหวังไว้ แต่ก็ไม่ได้เด่นจนน่าดีใจ
     
    ความเร็วสูงก็ยังพอใจ เพราะเกือบไปกระแทกตูดคันหน้ามา 2 ครั้งตอนกลับจากปีใหม่  แต่เบรคแล้วรู้สึกว่ากดเบรคหนักๆ ABS ทำงานไวขึ้นครับ
     
    หรือว่ายังอยู่ช่วง รันอิน หรือป่าวก็ไม่รู้เหมือนกัน
  18. Like
    dikiboyz got a reaction from garapgos in เสียงมาจากเบรคหน้า   
    ตอนปล่อยเบรค (คลายเบรค) เกียร์ D ครับ แต่รู้สึกว่าจะเป็นเกียร์
    สมมุติว่า ถ้ารถวิ่งมาแล้วเบรค พอรคหยุดสนิทแล้วคลายเบรค จะดัง "กึ๊ก" แทบทุกครั้ง เท่าที่ฟังๆ ทั้งผ้าเบรค เย็นอยู่ หรือร้อนแล้ว
  19. Like
    dikiboyz got a reaction from king in เสียงมาจากเบรคหน้า   
    ใครเป็นบ้างครับ เวลาปล่อยเบรค ย้ำนะครับว่า เวลาปล่อยเบรค(จากรถหยุดนิ่ง) จะมีเสียงดัง "กึ๊ก...กึ๊ก" ทุกครั้งที่ยกเท้าออกจากแป้นเบรค(ตอนปล่อยเบรค) และจะดังเฉพาะเวลาปล่อยเบรคจากจังหวะที่ปล่อยเบรคจากรถหยุดนิ่ง เท่านั้น รู้สึกว่าดังตั้งแต่เปลี่ยนผ้าเบรคมา(ผ้าเบรคยี่ห้อญี่ปุ่น)
  20. Like
    dikiboyz got a reaction from Bestroom in ว่าด้วยเรื่องของเกียร์ ออโต้ ครับ   
    ใช้เกียร์ "อัตโนมัติ" ให้ถูกต้อง!

    ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นนิยมผลิตเฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติหรือออโต้ ออกมาจำหน่าย เพื่อให้สะดวกสบายในการขับขี่ แต่ยังมีผู้ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติไม่ถูกต้อง หลายครั้งก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบเกียร์ หลายครั้งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เกิดเหตุการณ์เศร้าสลด เมื่อผู้ขับควบคุมเกียร์อัตโนมัติไม่ถูกต้อง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

    ดังนั้น เพื่อเป็นการเตือนสติและให้ผู้ขับขี้ทบทวนการใช้งานเกียร์อัตโนมัติที่ถูกต้องอีกครั้ง จึงมีข้อแนะนำดังนี้

    1.การขับรถเกียร์อัตโนมัติหรือออโต้ สำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มขับรถ ต้องเหยียบเบรกทุกครั้งก่อนสตาร์ตรถ เพื่อป้องกันอันตราย แม้ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ตำแหน่ง (P) หรือ (N) ก็ตาม และเหยียบเบรกทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ว่าง (N) หรือเกียร์จอด (P) ไปเป็นเกียร์เดินหน้า (D) หรือเกียร์ถอยหลัง ® เมื่อรถหยุดนิ่ง ต้องเหยียบเบรกก่อนทุกครั้ง ก่อนขยับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์

    2.ถ้าเลื่อนคันเกียร์ออกจากตำแหน่งเดินหน้า (D) ไปเป็นตำแหน่งถอยหลัง ® หรือเปลี่ยนจากตำแหน่งถอยหลัง ® ไปเป็นตำแหน่ง (D) ควรให้รถหยุดสนิทให้เรียบร้อยก่อน อย่าใจร้อน เมื่อรถยังเคลื่อนที่อยู่แต่รีบเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จะทำให้เกียร์มีอายุการใช้งานสั้น และค่าซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ใหม่ในรถยนต์ราคาสูงมาก

    3.ขณะที่รถวิ่งอยู่ไม่ควรเข้าเกียร์ตำแหน่ง (N) เช่น เห็นไฟแดงข้างหน้า แต่ยังอีกไกล กลัวจะไม่ประหยัดน้ำมัน จึงเข้าเกียร์ในตำแหน่ง (N) และปล่อยให้รถไหลไปจนถึงไฟแดง รถแทบทุกรุ่นในยุคปัจจุบันใช้ระบบหัวฉีดควบคุด้วยสมองกลทันสมัย การจ่ายเชื้อเพลิงขึ้นตรงกับลิ้นปีกผีเสื้อ ถ้ายกเท้าออกจากคันเร่งลิ้นปีกผีเสื้อก็จะปิดทันที เซ็นเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อจะรายงานกล่องสมองกลควบคุมระบบการจ่ายเชื้อเพลิง ให้หยุดทำการจ่ายน้ำมันทันที ไม่จำเป็นต้องปลดเกียร์ว่าง (N) และยังเป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเกียร์อีกด้วย เนื่องจากรถยนต์ในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว เกียร์ที่อยู่ในตำแหน่ง (D) จะมีปั๊มแรงดันสูง ส่งน้ำมันเกียร์เข้าไปหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา

    แต่ปั๊มน้ำมันของเกียร์อัตโนมัติจะทำงานน้อยลงเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง (N) เมื่อไม่มีแรงดันพอเพียงจะดันน้ำมันไปหล่อลื่นเกียร์อย่างเพียงพอ จะทำให้เกียร์ออโต้ร้อน และเกิดการสึกหรอเสียหายตามมา

    ด้วยสาเหตุนี้เองเวลารถใช้เกียร์ออโต้เสียและต้องลากไปอู่ จึงจำเป็นต้องเติมน้ำมันเกียร์เพิ่มเข้าไปอีก เพื่อช่วยลดความร้อนของเกียร์ขณะลากจูง หรือถ้าหาน้ำมันเกียร์มาเติมไม่ได้ ควรยกให้ล้อที่ใช้ขับเคลื่อนให้ลอยพ้นพื้นถนน เนื่องจากระบบปั๊มน้ำมันเพาเวอร์ของระบบเกียร์อัตโนมัติหยุดทำงาน ไม่แนะนำให้ถอดเพลาสำหรับรถขับเคลื่อนล้อหลัง เพระยุ่งยากและเสียเวลามาก ปัจจุบันนี้มีรถยก 6 ล้อ แบบสไลด์ออน สามารถนำรถทั้งคันขึ้นไปไว้บนกระบะหลัง สะดวกสบายและปลอดภัยต่อเกียร์อัตโนมัติและรถยนต์

    4.การเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ 2 ต้องระมัดระวังเนื่องจากตำแหน่ง 2 จะมีอัตราทดเฉพาะเกียร์ 1 และ 2 บริษัทผู้ผลิตต้องการทำให้รถใช้งานในกรณีที่ต้องการแรงบิดมากๆ เช่น ทางขึ้นเนินค่อนข้างชัน หรือต้องการการหน่วงความเร็วของรถเอาไว้ เช่น ในขณะที่ขับรถลงเนินเขา (ENGINE BRAKE) หรือวิ่งบนเส้นทางที่คดเคี้ยว ลาดชันมากๆ ห้ามใช้ตำแหน่งเกียร์ 2 ในขณะที่ท่านขับรถด้วยความเร็วสูง เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ใช้รอบเครื่องสูงตามไปด้วย จนเกินขีดจำกัดและก่อให้เกิดความเสียหาย และอาจลื่นไถลเนื่องจากเกิดแรงบิดมหาศาลมากระทำที่ล้อ ทำให้รถเสียการทรงตัวได้

    5.ไม่ควรขับลากเกียร์ โดยทั่วไปการขับรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ตำแหน่งเกียร์จะอยู่ที่ (D) ระบบสมองกลควบคุมเกียร์จะสั่งงานให้ปรับเปลี่ยนเกียรให้ขึ้นลงตามความเหมาะสมและความเร็วของรถอยู่ตลอดเวลาบางคนรู้มากใช้วิธีเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยการเลื่อนคันเกียร์ขึ้นลงเองในขณะที่รอบเครื่องทำงานสูงสุด เพื่อหวังผลทางด้านอัตราเร่ง แต่จะมีผลทำให้ผ้าคลัตช์ และระบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์สึกหรอเสียหาย และทำให้อายุการใช้งานของเกียร์อัตโนมัติสั้นลง

    6.ไม่ขับแบบเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำเอง (คิกดาวน์) บ่อยๆ การขับในตำแหน่ง (D) ระบบสมองกลควบคุมเกียร์จะคำนวณค่าของแรงต่างๆ และปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ตามความเร็วของรถในขณะนั้นตลอดเวลาอยู่แล้ว การกดคันเร่งเพื่อเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ หรือที่เรียกว่าคิกดาวน์ ไม่ควรทำบ่อยครั้ง หรือทำเท่าที่จำเป็นในการเร่งแซงให้พ้นเท่านั้น ถ้าทำบ่อยผ้าคลัตช์ของเกียร์จะทำงานหนักและสึกหรอเร็วมากขึ้น

    7.ควรมีสายพ่วงแบตเตอรี่ติดท้ายรถไว้ตลอดเวลาเนื่องจากรถยนต์เกียร์อัตโนมัติไม่สามารถเข็นด้วยความเร็วต่ำแล้วกระตุกสตาร์ตให้ติดเครื่องยนต์ได้เหมือนรถยนต์เกียร์ธรรมดาการเข็นรถเกียร์อัตโนมัติแล้วใช้วิธีกระตุกสตาร์ตต้องใช้ความเร็วอย่างน้อย 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข็นด้วยแรงคนเป็นไปได้ยาก และยังเสี่ยงกับความเสียหายต่อเกียร์ในขณะที่เข็นหรือลากอีกด้วย ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ให้มีไฟพอเพียงต่อการสตาร์ตทุกครั้ง

    8.น้ำมันเกียร์อัตโนมัติหัวใจของการหล่อลื่นและยืดอายุการใช้งานของเกียร์รถให้ยาวนาน จึงควรเอาใจใส่ตรวจสอบบ่อยๆ การตรวจเช็กระดับน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าขีดที่ก้านวัด กำหนดหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะทางที่แนะนำ

    9.ตำแหน่งในเกียร์อัตโนมัติ

    P)PARKING-เป็นตำแหน่งเกียร์ ใช้จอดในลักษณะไม่จอดขวางทางรถคันอื่น แล้วใส่ตำแหน่งเกียร์นี้ไว้ หรือจอดในทางที่มีลักษณะลาดชัน และใช้ในตำแหน่งสตาร์ตเครื่องยนต์

    R) REVERSE-เป็นตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง เหยียบเบรกทุกครั้งที่จะเข้าเกียร์ในตำแหน่งนี้

    N) NEUTRAL-เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้ในการตัดกำลังของเครื่องยนต์ที่ส่งลงมาสู่เกียร์ และใช้เป็นตำแหน่งสตาร์ตเครื่องยนต์

    D) DRIVE-เป็นตำแหน่งเกียร์เดินหน้าและใช้ในการขับขี่ตามปกติ

    ตำแหน่งเกียร์อัตโนมัติจะปรับเปลี่ยนเองตามคำสั่งของสมองกลที่ควบคุม สำหรับรถยนต์บางรุ่นที่มีอุปกรณ์เพิ่มเติมบางค่ายเรียก ทริปทรอนิก หรือสเต็ปทรอนิก เป็นสวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบเกียร์ให้เป็นเกียร์สูงหรือต้ำลง ผู้ใช้เข้าระบบเพื่อใช้งานในการปรับตำแหน่งเกียร์ด้วยตัวเอง ช่วยสำหรับการเร่งแซง

    นอกจากนี้เกียร์ออโต้รถยนต์หลายรุ่น นอกจากเกียร์ (D) แล้ว ยังมีตำแหน่งเกียร์เดินหน้า แต่รอบต่ำลงมามีเลข 2 หรือเลข 3 กำกับ หมายถึงทดเกียร์ลงมา หรืออาจจะมี ( L) LOW เกียร์ในตำแหน่งนี้ มีเพียงเกียร์ 1 เท่านั้น ใช้สำหรับงานหนักที่ต้องการกำลัง หรือรถติดหล่ม หรือทางขึ้น ลงเขาที่ชันมาก

    ที่มา :คอลัมน์ คาร์ทิปส์ นสพ.มติชน
  21. Like
    dikiboyz got a reaction from mie in ถามเรื่อง แบตเตอรี่ GS หน่อยครับ   
    ซื้อร้านแถวบ้านครับ เขามาเปลี่ยนให้ที่บ้านรวมเทิร์นลูกเดิม (35Amp MF โรงงาน) 2,200 บาทครับ
     
     
     
    ทีแรกว่าจะเอาตัวนี้เหมือนกันครับ เห็นสีฟ้าๆ สวยดี แต่ไปเห็นตัวนี้ เป็นตัว japan import เลยเอาตัวนี้เลย
  22. Like
    dikiboyz got a reaction from l-Ae-l in รถเดิมเติม E85   
    ก็อย่างที่ท่าน l-Ae-l บอกอะครับ
     
    - E85 เต็มถัง วิ่งทางไกลได้ประมาณ 400 กิโล ( 400 โล / เต็มถังคิด 45 ลิตร = 8.89 กิโล/ลิตร  , ราคาลิตรละ 24.58 x 45 ลิตรเต็มถัง  = 1106 บาท )
     
    - โซฮอล91 เต็มถัง วิ่งทางไกลได้ประมาณ 600 กิโล ( 600 โล / เต็มถังคิด 45 ลิตร = 13.33 กิโล/ลิตร  , ราคาลิตรละ 35.98 x 45 ลิตรเต็มถัง  = 1619 บาท )
     
    ตามที่เห็นครับ ราคาต่อลิตรถูกกว่า เติมเต็มถังมันถูกกว่าจริงๆ  ต่างกัน 513 บาท ครับ แต่ที่หายไปคือ "ระยะทางที่วิ่งได้" ครับ
     
    คิดต่อ ว่า ระยะ 200 กิโลหายไปของการเติม E85 (1 ใน 3 ของโซฮอล91) ต้องเติม E85 เพิ่มอีก 550 บาท (ประมาณครึ่งถัง) ถึงจะวิ่งได้ 600 กิโล
     
    ปล.ผมไม่ได้แย้งอะไรคุณ l-Ae-l นะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่กำลังจะทำเป็น E85 เหมือนกัน ดูในกระทู้ผมได้ แต่พอคิดโน่น คำนวนเงินค่าน้ำมัน  ค่าเปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่ เหมือนกับว่าไม่ได้ต่างกันเลย ลังเลอยู่เหมือนกันครับ
     
       
  23. Like
    dikiboyz got a reaction from เป็นต่อ in รถเดิมเติม E85   
    ขอถามคุณ เป็นต่อ นิดนึงนะครับ
     
    ว่า ส่วนต่าง 20-30% ที่จ่ายน้ำมันมากขึ้น(กินน้ำมันมากขึ้น)
     
    แสดงว่า
     
    จาก 30% ต้องจ่ายมากขึ้น มันต้องคำนวณจาก น้ำมันที่เติมไป (384 ลิตร 30%=115.2 ลิตร ต้องเติมเพิ่ม) หรือ คิดจาก จำนวนเงินทั้งหมดของที่เติม โซฮอล91 (13,440 บาท 30%= 4,032 บาท ลดลง เพราะระยะวิ่งของโซฮอล91 ได้มากกว่า) ไม่ใช่เหรอครับ
     
    ทำไมมาคิดจากส่วนต่าง (A) ละครับ เพราะรถมันกินน้ำมันมากกว่าเดิม มันก็ต้อง คิดจากทั้งหมดสิครับ ไม่น่าจะมาคิด 30% จากส่วนต่าง(A) จริงไหมครับ
     
    เพราะถ้าความหมายตามที่เราเข้าใจตรงกันคือ  20-30% ที่จ่ายน้ำมันมากขึ้น(กินน้ำมันมากขึ้น) นั้นหมายความว่า E85 จำนวน 384 ลิตร (130% ของโซฮอล91) ที่วิ่งไปได้ นั้นหมายความว่า โซฺฮอล91 ต้องใช้น้ำมันลดลงเหลือแค่ 268.8 ลิตร(เพราะ E85 กินกว่า โซฮอล91 ต้องเติมน้อยกว่าซิ) คือคุณ เป็นต่อ ต้องเติมซิครับ
     
    แล้วค่อยมาคิดเป็นเงิน คือ 268.8 x 35 = 9,408 บาท คือเงินที่ต้องเติม โซฮอล91 จริงไหมครับ
     
    ถ้าผมเข้าใจผิดเอง ต้องขออภัยด้วยครับ ขอให้มองเป็นการแชร์ข้อมูลกันนะครับ 
     
    ปล.ทฤษฎีทั้งหมดเราเข้าใจตรงกันว่าอัตราบริโภคประมาณนี้นะครับ ส่วนวิ่งไกล้ วิ่งไกล ทางโล่ง รถติด อันนั้นมันแปรผันได้ตลอดครับ
     
     
     
     
     
    ตอนนี้ผมก็เติม โซฮอล91 ฟิวเซฟ ของ shell กับ E20 ปตท./บางจาก สลับกันอยู่ครับ เก็บข้อมูลเรื่อง E85 มาตั้งแต่ก่อนปีใหม่ละ ขอดูไปเรื่อยๆ ก่อน
  24. Like
    dikiboyz got a reaction from werayutsa in เบรคหน้าซ้ายมีเสียงดังแปลกๆ (มีคลิปเสียงVDO) !!!   
    คิดเหมือนกันเลยครับ
     
    เสียงดังตอนเหยียบเบรค ทั้งขับและจอด แสดงว่าน่าจะเป็นที่ตัว ปั้มเบรค และก็สลักตัวที่ยืดเข้า-ออก ระหว่างผ้าเบรคอะครับ  ลองถอดเช็คดีกว่า ทิ้งไว้นานๆ ไม่ดีครับ เพราะระบบเบรคมันสำคัญกว่า กระจกเด้ง แอร์เหม็นอีกครับ
     
    อีกอย่างลองดูตัวเตือนผ้าเบรคหมดด้วยนะครับ อาจจะกดลงไปโดนจานเบรคแล้ว เพราะบางทีผ้าเบรคอาจจะหมดไม่พร้อมกัน ขวา-ซ้าย 
  25. Like
    dikiboyz got a reaction from Sebastain in รบกวนแนะนำร้านทำสีแม็กซ์ หน่อยครับ   
    ซ่อมรอย เบียด ครูด ทำสีใหม่ ราคาวงละประมาณเท่าไหร่ครับ
×
×
  • Create New...