Eksatid Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 วันนี้มีอาการใหม่มารบกวนขอคำปรึกษาพี่ๆในเวปหน่อยครับ ผมขับ civic 1.8 ปี2007 ติดแก๊สตั้งแต่ 6000โล ตอนนี้ 190000แล้ว (แต่เป็นทั้งน้ำมันทั้งแก๊ส) อาการคือตอนกลางวัน รถจะวิ่งอืดเหยียบไม่ค่อยออก จะแซงแต่ละทีใช้รอบสูงมา(3-4พัน) แต่พอฟ้าเริ่มมืดเมื่่อไหร่เหมือนจะกลายเป็นรถอีกคัน เหยียบเป็นพุ่งๆ ไม่ต้องใช้รอบสูงเลย บางครั้งเหมือนรอบจะกระดิกขึ้นมานิดเดียวเอง ลองวัดอุณหภูมิของหม้อน้ำ(ดูจากที่รถบอก) ระหว่างกลางวันกับกลางคืนก็ไม่ได้ต่่างกันนะครับ งงมาก ก็เลยมาขอคำปรึกษาพี่หน่อยครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
gryffindor Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 อุ่ย..มีแบบนี้ด้วยหรอครับ เด่วรอเทพมาตอบละกันนะครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
zarya Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 ผมไม่เทพนะครับ แต่เหมือนเคยอ่านเจอว่า กลางคืนอากาศเย็นกว่ากลางวัน ทำให้อากาศที่ไหลเข้าเครื่องมีความหนาแน่นมากกว่าครับ การเผาไหม้จึงสมบูรณ์กว่า อาการนี้มักเห็นชัดในหน้าหนาวซึ่งอุณหภูมิตอนกลางวันกับกลางคืนต่างกันมากครับ ผิดถูกยังไงคงต้องลองหาข้อมูลเพิ่มดูครับ ponsit, garapgos and l-Ae-l 3 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
nanataro Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 ใช่ครับเป็นอุรหภูมิตอนกลางคืนมันเย็นกว่า ทำให้อากาสไหลเข้าเครื่องยนต์มากกว่า ตอนแรกผมก็คิดๆ อยู่ว่าทำไมเวลาขัยช่วงกลางคืนเหมือนมันเหยียบได้ดีกว่าตอนกลางคืน แถมอัตราการกินน้ำมันก็ดีกว่าด้วยครับ กรรี่ที่ขับความเร็วเท่ากัน Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ponsit Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 จริงครับ ที่ว่าอากาศเย็น อากาศจะหนาแน่นกว่า อากาศร้อน ว่าแต่ มันไม่น่าจะต่างกันแบบรู้สึกได้ขนาดนั้น sense ระดับสุดยอดมากเลยครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
FD2R-K20A Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 จริงครับ อากาศเย็นรถวิ่งดีกว่า จากความรู้สึก Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
stax Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 รู้สึกจริงๆครับถ้ายิ่งมีแอร์ดักอยู่หน้ารถ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Boysicky Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 หน้าหนาว จะวิ่งดีกว่านี้อีกครับ ฮ่ะๆๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Dirty Bit Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 ขออนุญาตเสริมครับ ถ้าพิจารณาให้อากาศเป็น Ideal Gas สามารถใช้ความสัมพันธ์ PV=mRT เมื่อความดัน P (ความดันบรรยากาศ) และปริมาตรของท่อดูด V คงที่ (ไม่เปลี่ยนขนาดท่อ) และ m คือมวลของอากาศ จะได้ความสัมพันธ์ (m1)(T1) = (m2)(T2) ให้1 คืออากาศตอนกลางวัน และ 2 คืออากาศตอนกลางคืน เมื่อจัดรูปใหม่จะได้ (m2)/(m1) = (T1)/(T2) หมายความว่าอัตราส่วนมวลอากาศตอนกลางคืนต่อตอนกลางวัน เท่ากับ อัตราส่วนของอุณหภูมิอากาศตอนกลางวันต่อกลางคืน เช่น ให้อุณหภูมิใต้ฝากระโปรงอตนกลางวันเท่ากับ 50C (323K) และกลางคืนเท่ากับ 40C (313K) ฉะนั้นมวลอากาศตอนกลางคืน (m2) จะเป็น (323/313) = 3.2% ต่อมวลอากาศตอนกลางวัน นั่นคืออากาศตอนกลางคืนมีมวลมากกว่าอากาศตอนกลางวัน 1.032 เท่า เลยส่งผลให้เรารู้สึกว่ารถวิ่งตอนกลางคืนดีกว่ากลางวัน l-Ae-l, werayutsa, Nause and 3 others 6 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Dirty Bit Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 ถ้าโมดิฟายใส่ Air duct ที่หน้ารถด้วย จะยิ่งส่งผลชัดเจนมากขึ้น เพราะอากาศที่เย็นกว่า (มวลเยอะ) เมื่อเทียบกับอุณหภูมิใต้ฝากระโปรง จากหน้ารถถูกอัดเข้าเครื่อง (ไม่ใช่แค่ดูดอากาศนิ่งที่หลังแบตเตอรรี่แบบชุดกรองอากาศเดิม) เช่น ถ้าให้อากาศหน้ารถมีอุณหภูมิ 25C และอากาศใต้ฝากระโปรงมีอุณหภูมิ 50C อัตราส่วน (m2)/(m1) จเท่ากับ 1.08 เท่า หรือ เพิ่มขึ้น 8% จึงทำให้ส่งผลได้อย่างชัดเจน taton825 and thamezaey 2 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Tommie Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 นั่นไง จัดเต็มกันมาเลย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
clickkupopz Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 เทพแอร์ดัก ตัวจริง เจอมากะตัวแล้ว กรองเดิมสู้ไม่ไหวจริงๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
off_1983 Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 ขออนุญาตเสริมครับ ถ้าพิจารณาให้อากาศเป็น Ideal Gas สามารถใช้ความสัมพันธ์ PV=mRT เมื่อความดัน P (ความดันบรรยากาศ) และปริมาตรของท่อดูด V คงที่ (ไม่เปลี่ยนขนาดท่อ) และ m คือมวลของอากาศ จะได้ความสัมพันธ์ (m1)(T1) = (m2)(T2) ให้1 คืออากาศตอนกลางวัน และ 2 คืออากาศตอนกลางคืน เมื่อจัดรูปใหม่จะได้ (m2)/(m1) = (T1)/(T2) หมายความว่าอัตราส่วนมวลอากาศตอนกลางคืนต่อตอนกลางวัน เท่ากับ อัตราส่วนของอุณหภูมิอากาศตอนกลางวันต่อกลางคืน เช่น ให้อุณหภูมิใต้ฝากระโปรงอตนกลางวันเท่ากับ 50C (323K) และกลางคืนเท่ากับ 40C (313K) ฉะนั้นมวลอากาศตอนกลางคืน (m2) จะเป็น (323/313) = 3.2% ต่อมวลอากาศตอนกลางวัน นั่นคืออากาศตอนกลางคืนมีมวลมากกว่าอากาศตอนกลางวัน 1.032 เท่า เลยส่งผลให้เรารู้สึกว่ารถวิ่งตอนกลางคืนดีกว่ากลางวัน นี่มันเทอร์โมไดนานิกส์ เรียนตอนอยู่ปี1 วศบ.เครื่องกล Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
manulism Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 แปลว่ากลางคืนพร้อมหนีเที่ยวเปล่าครับ ออกตัวอย่างไว (ขำขำนะครับ) Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
juone Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 อ่านแล้วอยากติด air duct ขึ้นมาทันทีครับ อิอิ clickkupopz 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
JATE_FD Posted November 7, 2012 Report Share Posted November 7, 2012 ความรู้เพิ่ม เก็บๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Eksatid Posted November 8, 2012 Author Report Share Posted November 8, 2012 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ มีคนรู้สีึกเหมือนผมเยอะเหมือนกันนะ แต่ว่าของผมนี่มันต่างกันมากเลยอ่ะครับ ขนาดคนที่นั่งมาด้วยยังถามว่า "ทำไมรถไม่อืดเหมือนตอนกลางวันฟ่ะ" ก็เลยจะลองหาวิธีแก้ไขดูนะครับ ว่าเกิดขีึ้นจากตรงไหน และจะเริ่มแก้ไขจากจุดไหนก่อนดี ขอบคุณครับ ^^\ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
gryffindor Posted November 8, 2012 Report Share Posted November 8, 2012 ได้ความรู้แถมอยากติด air duct เข้าล่ะ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ponsit Posted November 8, 2012 Report Share Posted November 8, 2012 รถเรามี Air duct + Air Chamber อยู่แล้วนะครับ ผมแนะนำว่า หากเกิดน้ำท่วมแล้ว เครื่องยนต์ดับไปเฉยๆ ห้ามสตาร์ทซ้ำเด็ดขาดนะครับ เพราะ Air duct จะทำหน้าที่ เป็นท่อสูบน้ำ เข้าไปห้องเผาไหม้ ผลคือ เครื่องยนต์พัง ก้านสูบคดครับ เป็นกันมาเยอะแล้ว ระวังกันด้วย gryffindor 1 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted November 8, 2012 Report Share Posted November 8, 2012 เืมื่อก่อนเคยรู้สึกว่ากลางคืนรถพุ่งดีกว่ากลางวัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ละ พุ่งตลอดเว Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
zarya Posted November 8, 2012 Report Share Posted November 8, 2012 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ มีคนรู้สีึกเหมือนผมเยอะเหมือนกันนะ แต่ว่าของผมนี่มันต่างกันมากเลยอ่ะครับ ขนาดคนที่นั่งมาด้วยยังถามว่า "ทำไมรถไม่อืดเหมือนตอนกลางวันฟ่ะ" ก็เลยจะลองหาวิธีแก้ไขดูนะครับ ว่าเกิดขีึ้นจากตรงไหน และจะเริ่มแก้ไขจากจุดไหนก่อนดี ขอบคุณครับ ^^\ ผมคิดว่า อาจต้องเริ่มจากการจูนแก๊สให้ใกล้เคียงน้ำมันมากที่สุดก่อนครับ เพราะในความคิดผม ค่าออกเทน LPG มันสูงกว่าน้ำมันประมาณนึงเลย ดังนั้นความหนาแน่นของอากาศที่ต่างกันเล็กน้อยก็น่าจะมี effect ในการเผาไหม้มากกว่าปกติที่ใช้น้ำมันเพียวๆได้ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted November 9, 2012 Report Share Posted November 9, 2012 ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ มีคนรู้สีึกเหมือนผมเยอะเหมือนกันนะ แต่ว่าของผมนี่มันต่างกันมากเลยอ่ะครับ ขนาดคนที่นั่งมาด้วยยังถามว่า "ทำไมรถไม่อืดเหมือนตอนกลางวันฟ่ะ" ก็เลยจะลองหาวิธีแก้ไขดูนะครับ ว่าเกิดขีึ้นจากตรงไหน และจะเริ่มแก้ไขจากจุดไหนก่อนดี ขอบคุณครับ ^^\ ของผมไปเปลี่ยนท่อมาครับ ทั้งพักกลางและปลาย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Eksatid Posted November 13, 2012 Author Report Share Posted November 13, 2012 ผมคิดว่า อาจต้องเริ่มจากการจูนแก๊สให้ใกล้เคียงน้ำมันมากที่สุดก่อนครับ เพราะในความคิดผม ค่าออกเทน LPG มันสูงกว่าน้ำมันประมาณนึงเลย ดังนั้นความหนาแน่นของอากาศที่ต่างกันเล็กน้อยก็น่าจะมี effect ในการเผาไหม้มากกว่าปกติที่ใช้น้ำมันเพียวๆได้ครับ จูนแล้วก็ไม่หายครับ ของผมไปเปลี่ยนท่อมาครับ ทั้งพักกลางและปลาย อันนี้ท่าจะจ่ายเยอะไปนะครับ ชอบเดิมๆมากกว่าด้วย ขอบคุณทุกความเห็นครับ ตอนนี้ผมว่าจะเริ่มจากถ่ายน้ำในหม้อน้ำครับ ถ้าทำได้ก็ว่าาจะใส่คูลแลนท์แทนลงไปเลย แต่กลัวว่าจะมีผลเสียกับเครื่องมั้ย เพราะไม่ได้ใส่คูลแลนท์มาก่อนเลยครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
thamezaey Posted November 13, 2012 Report Share Posted November 13, 2012 ถ้าเจาะช่อง air duct หน้ากันชนแต่ใช้ท่อฟอยลากไปถึงหน้าปากกรอง ได้ผลเหมือนกันมั้ยครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Dirty Bit Posted November 13, 2012 Report Share Posted November 13, 2012 ถ้าเจาะช่อง air duct หน้ากันชนแต่ใช้ท่อฟอยลากไปถึงหน้าปากกรอง ได้ผลเหมือนกันมั้ยครับ ผลที่ดีขึ้นที่ประมาณ 8% หมายถึงการโมดิฟายใส่ Air duct ด้านหน้าน่ะครับ ไม่ใช่ท่อ Air duct ที่มี Silencer ชุดเดิมโรงงาน เพราะผมเอาชุดเดิมโรงงานเป็นตัวเปรียบเทียบน่ะครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Recommended Posts
Join the conversation
You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.