Tapex Posted May 17, 2012 Report Share Posted May 17, 2012 ผ้าเบรคยี้ห้อ compact nano infinity กับ ผ้าเบรค N sports Mu spec 2 ตัวนี้ตัวไหนหน้าเล่นกว่ากันครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
eieimetro Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 มีคนเคยใช้ N sports by project U บอกว่าใช้งานได้ดีเหมือนกันครับ ยังไงรอข้อมูลละเอียดๆจากท่านอื่นอีกที Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ponsit Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 ผ้าเบรค จะดูว่าตัวไหนดี ต้องดูจากคุณสมบัติของผ้าเบรค บวกกับ นิสัยของคนขับครับ ถ้าขับเรื่อยๆ ชีลๆ ซื้อผ้าเบรคเทพ ซุปเปอร์ซิ่ง ทนความร้อนสุดๆ มาใช้ อาจจะจูบท้ายคันหน้าตอนเบรคเย็นได้ ดังนั้น ถามหาสเปคจากร้านค้า แล้วเอามาคุยกันดีกว่าครับ... BoY OSK and OxyBIG 2 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 ผ้าเบรคที่หนึบๆ ต้องแลกกับเสียงและกินจานนะครับ ต้องยอมรับเรื่องนี้ด้วย ponsit and OxyBIG 2 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
iampks Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 จากที่ใช้อยู่นะครับ ตอนนี้ใช้หน้า Akebono หลัง Mu Spec ครับ ตอนเปลี่ยนคู่หลังใหม่ๆนี่ เบรคดูดเท้าดีมากเลยครับ ไว้คู่หน้าหมดก็กะจะลอง Mu Spec นี่ละครับ ชอบฟีลลิ่งและราคาไม่แพงด้วย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tumracing Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 ใช้คู่หน้า Mu Spec อยู่ครับ ต่างจากผ้าเบรคศูนย์ราวฟ้ากับเหว ดูดเท้าหนึบดีมากๆ คราวหน้าจะจัดเต็ม ทั้งหน้าหลังเลย เคยเบรคเต็มๆ ตอนไปตจว. รถนิ่งและควบคุมรถได้ดีมากๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
mie Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 จากที่ใช้อยู่นะครับ ตอนนี้ใช้หน้า Akebono หลัง Mu Spec ครับ ตอนเปลี่ยนคู่หลังใหม่ๆนี่ เบรคดูดเท้าดีมากเลยครับ ไว้คู่หน้าหมดก็กะจะลอง Mu Spec นี่ละครับ ชอบฟีลลิ่งและราคาไม่แพงด้วย หน้า+หลัง Akebono เป็นไงบ้างครับขับใน กทม เป็นหลัก Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 akebono เอาผมไม่อยู่ครับ จานหน้าขยายแล้วนะ เปลี่ยนคราวหน้าคง Mu Spec ขึ้นไปแล้วล่ะ ยอมให้มันกินจานแต่ขอหนึบกว่าเดิม Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
tonsena Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 หน้า+หลัง Akebono เป็นไงบ้างครับขับใน กทม เป็นหลัก ขับโหดๆไม่แนะนำครับ ทนร้อนสูงไม่ได้ครับผ้าใหม้เลยของผม ถ้าขับธรรมดาก็ดีครับ เพราะมันนุ่มเงียบไม่มีฝุ่น จานเรียบ ล้อสะอาด Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
poomd555 Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 ผมใช้ Mu Spec อยู่ ระยะเบรคดีขึ้นเยอะจากของศูษย์ ขับเร็วๆก้อเอาอยู่ โอเคน่ะครับ ตัวนี้ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
adino Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 N-sport อีก1เสียงคับ By Pro.U Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
zensor Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 Mu spec ครับ ถ้าเป็นรุ่นอื่นอาจจะจูบท้ายคันอื่นไปหลายรอบแล้ว ใช้หน้าหลัง ประทับใจมาก เปลี่ยนครั้งต่อไปก็ จะใช้อันเดิม Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ausasua Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 Mu spec อีกหนึ่งเสียงครับ street use ไม่ต้องรอเบรคร้อน Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Jeep_Marlboro Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 n-sport ก็ดี Mu spec ก็ดี อยู่ที่คนขับ ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Tapex Posted May 18, 2012 Author Report Share Posted May 18, 2012 ผมเป็นคนขับเร็วครับ นานๆจะขับช้าๆสะที อันนี้ยอมรับว่าขับเร็ว เรื่องกินจานกับเสียงผมไม่ซีเรียครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Tapex Posted May 18, 2012 Author Report Share Posted May 18, 2012 Compact Nano Infinity มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.387 ทนทานมากที่สุดโดยมีอัตราการสึกหรอต่ำที่สุดคือ 0.861 mm การเกิดเสียงต่ำที่สุดคือ 0.35 อุณหภูมิปกติ Nano Underlayer มี ค่าความยืดหยุ่นที่ 1.75% และที่อุณหภูมิ 400 ํc ค่าความยืดหยุ่น อยู่ที่ 2.29 % ส่วนตัว mu spec หาข้อมูลไม่เจอ แล้วถ้าผมไปเล่น Na-p ตัวสีชมพู เห็นเค้าบอกหมดเร็วฝุ่นเยอะ แต่ขับเร็วๆเบรคหยุดได้ดั่งใจ เห็นราคาพอๆกันหมดเลย แนะนำที่ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
non_FD Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 n-sport เชียตัวนี้ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
manulism Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 Mu Spec ไม่กินจานนะครับ เบรคดีกว่าของ 0 เยอะด้วยครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
ausasua Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 ในเวบ n-sport เค้าบอกว่า Mu spec ค่าสัมประสิทธิ๋แรงเสียดทานอยู่ที่ 0.43 - 0.48 ครับ ขับเร็วเบรคโหดลอง n500 มั้ยครับ ผมเอาใส่ล้อหลังอยู่(เบรคหน้าเบรคใหญ่) โอเคเลย หน้าไม่ทิ่ม มีฝุ่นนิดหน่อย มีเสียงบางทีตอนเย็นๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
BoY OSK Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 พอดีกำลังนั่งหาความรู้ว่ารถบ้านๆไม่ได้ซิ่ง หรือว่าซิ่งนิดหน่อย ตามแบบฉบับ street use เนี่ยมันควรใช้ผ้าเบรคที่ทนความร้อนเท่าไหร่ เพราะเห็นว่ามีผ้าเบรคหลายเกรค ทนความร้อนต่างกัน เลยไม่รู้ว่าความจริงแล้วตัวไหนเหมาะกับรถเราที่สุด ผมก็เลยไป google มาครับ เจอเว็บนี้ เขียนมาสาระเลยเอามาฝากเพื่อนๆครับ ที่มา http://www.worldwheelsweb.com/automotive/a...ails.aspx?ID=11 ขอบคุณเจ้าของบทความด้วยครับ เรื่องของผ้าเบรกหลายคนยังไม่รู้ และคนขายมักจะไม่ค่อยบอกเราเท่าไหร่ แนะนำแค่เพียงว่ายี่ห้อนี้ดี ยี่ห้อนั้นห่วย หลักๆ มักจะบอกว่ามี 3 เกรด ธรรมดา กลางๆ และพรีเมี่ยม แต่รายละเอียดจริงๆ มักไม่ค่อยบอกว่าผ้าเบรกแต่ละแบบทำงานดีที่ระดับความร้อนกี่องศา เลยทำให้เข้าใจผิดๆ ถูกๆ กันไปว่า ยิ่งแพงยิ่งมีคุณภาพ หากใช้เกรดเดียวกันรถสนาม เบรกต้องดีขึ้นแน่นอน แน่นอนว่าผู้ใช้รถยนต์หลายคนคงไม่ต้องมาวุ่นวายกับการเลือกซื้ออะไล่รถ แค่เข้าศูนย์บริการ ทำเสร็จ จ่ายเงิน แล้วก็ขับรถกลับบ้าน แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังมีผู้ที่ชื่นชอบเลือกซื้ออะไหล่เอง หรือให้ตามอู่ทั่วไปเปลี่ยน เพื่อเป็นการประหยัด ผ้าเบรกไม่ใช่ของที่ซื้อยากแต่อย่างใด แต่สำคัญที่ต้องเข้าใจการทำงาน คนขายมักไม่บอกรายละเอียด อย่างดีก็ถามแค่ว่าขับรถรุ่นอะไร ถ้าหากมีความรู้ลึกขึ้นมาอีกหน่อยก็อาจจะถามโต้ตอบกันได้ หรือไม่..ก็สังเกตรายละเอียดต่างๆ ที่ข้างกล่อง แต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น ค่าความเสียดทานของผ้าเบรกที่อุณหภูมิเท่าไหร่ ถ้าเราไปเอาค่าความเสียดทานที่ 0.6 แต่เกิดขึ้นที่ความร้อน 400 องศา ถ้าอยู่ในรถบ้านจะได้ใช้มั๊ยเนี่ย ไม่ได้ใช้แน่! ในรถบ้านหากเราอยากได้ผ้าเบรกที่มีประสิทธิภาพดีๆ ควรจะเลือกผ้าเบรกที่อุณหภูมิต่ำๆหน่อย เช่น 150, 200 องศา เพราะจานเบรกปกติมีความร้อนแถวๆ 100 องศา เวลาเบรกทำงานก็จะมีความร้อนไล่ระดับไป 150-200-250 องศา ในความร้อนช่วงนี้ คือสิ่งที่เราอยากได้มาใช้บนถนน แต่ถ้าใช้แข่งก็ควรต้องมีผ้าเบรกที่จับดีๆ ที่ 300-350-400 องศา แถวๆ นั้น หรืออาจจะต้องมากกว่านี้ด้วยซ้ำ การเลือกซื้อผ้าเบรกนั้น หากเราจะเอาผ้าเบรกที่มีแรงเสียดทานสูงขึ้น มาใส่ก็จะช่วยให้เบรกดีขึ้นได้เช่นกัน แต่จานเบรกจะร้อนจี๋เลย เพราะผ้าเบรกที่ดีขึ้น ส่งผลถึงอุณหภูมิที่จานเบรกสูงขึ้นตามไปด้วย ตัวคาลิเปอร์ก็ร้อน ดังนั้นอย่าลืมใช้ของดีด้วย และจารบีล้อก็ต้องเลือกใช้ของดีที่ทนอุณหภูมิสูงๆ ได้ เพราะถ้าใช้ผ้าเบรกที่มีแรงเสียดดี เบรกดีแน่ แต่ต้องเป็นอุณหภูมิที่เราใช้ เพราะบางทีจับดีแต่อุณหภูมิสูงเกินที่เราใช้ เพราะฉะนั้นต้องเลือกที่เราใช้บนถนนและได้แรงเสียดทานที่ดี อีกอย่างที่ต้องระวังให้ดี น้ำมันเบรกอย่าเดือด ต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกด้วยให้ดีกว่าที่เคยใช้ ถ้าดีอยู่แล้วก็ต้องเลือกให้ดีที่สุด และจารบีที่ล้อต้องระวังอย่าให้เล็ดออกมา เตรียมเปลี่ยนบ่อยๆ ถ้าจารบีนั้นอยู่ในลูกปืนชนิดที่อัดไม่ได้ เราก็เปลี่ยนจารบีไม่ได้ ต้องซื้อลูกปืนใหม่หรือดุมล้อที่มีลูกปืนติดอยู่บ่อยๆ เพราะรถบางรุ่นจะมีดุมล้อกับลูกปืนอัดติดมาด้วยกัน เปลี่ยนแต่ลูกปืนตลับละ พันกว่าบาทไม่ได้ ต้องซื้อยกดุม ราคา 2 ข้างแพงเอาการทีเดียว ผ้าเบรกทั้ง 2 แบบ มีทั้งข้อดี-ข้อด้อย ทำงานได้ดีที่ต่างอุณหภูมิกัน และต่างจุดประสงค์ อย่าคิดว่าผ้าเบรกแบบสนามต้องดีที่สุด ถ้ายังขับรถบนถนน ฉะนั้นอย่าเอาผ้าเบรกรถแข่งมาใส่ในรถบ้าน แล้วก็อย่าเอาผ้าเบรกรถบ้านไปใส่ในรถแข่ง มันไม่ค่อยเข้ากันนัก เพราะถ้าเอาผ้าเบรกรถแข่งมาใส่รถบ้านเหยียบเบรกลงไปมันจะไหลไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะร้อน พอร้อนแล้วมันถึงจะจับดี เพราะฉะนั้นเวลาเอามาใช้บนถนน ผ้าเบรกรถแข่งเนี่ยแรกๆ จะเบรกไม่อยู่ อาจจะขนหัวลุกนิดหน่อย พออุณหภูมิมันได้เดี๋ยวมันจะจับหัวทิ่มเลย รถก็กระดกไปกระดกมาอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่สนุกแน่... eieimetro, OOD and Dn-mind 3 Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
BoY OSK Posted May 18, 2012 Report Share Posted May 18, 2012 ผมใช้ Mu spec อยู่สำหรับคู่หลังครับ เบรคดี ไม่กินจาน ไม่มีเสียง ไม่มีฝุ่นครับ รักเลย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Khinx Posted May 19, 2012 Report Share Posted May 19, 2012 ขอบคุณมากครับ สำหรับสาระดีๆ เรื่องเบรค ผมน่าจะใช้ผิดประเภทแล้วล่ะเนี่ยยย Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Tapex Posted May 19, 2012 Author Report Share Posted May 19, 2012 ตอบได้คำเดียวว่ากระจ่างเลย ขอบคุณที่แนะนำนะครับ ตกลงผมคงใช้Mu spec ครับ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
clickkupopz Posted May 21, 2012 Report Share Posted May 21, 2012 เชีย mu spec ด้วยคนครับ หยุดแบบเนียนๆ Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
l-Ae-l Posted May 21, 2012 Report Share Posted May 21, 2012 ขับโหดๆไม่แนะนำครับ ทนร้อนสูงไม่ได้ครับผ้าใหม้เลยของผม ถ้าขับธรรมดาก็ดีครับ เพราะมันนุ่มเงียบไม่มีฝุ่น จานเรียบ ล้อสะอาด ตามนี้เลยครับ ผมเคยใช้ Akebono หน้าหลัง(จายเดิม1.8ครับ) ขับปกติดีมากๆนุ่มเท้าฝุ่นน้อย แต่หลังFadeมา (ใช้เบรคหนักตอนไปที่ยวเขา) อาการเบรคตามความรู้สึกของผมคิดว่ามันเปลี่ยนไปมาก เหมือนกดแล้วมันไม่มุ่มไม่ดูดเท้าเหมือนเดิม ที่สำคัญเบรคแล้วเรารู้สึกเสียวว่าจะไปจูบท้ายคันหน้าเลย ก็เลยไปเปลี่ยนเป็น N500หน้า,หลัง+จานหน้า E'Spce320mm บอกได้ว่าคนละเรื่องกันเลยครับ กดแล้วอยู่เลย กลายเป็นคนขับรถจี้ท้ายขึ้นมาทันใด (ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี) เนื่องจากคิดว่ารถเบรคอยู่แน่ๆน่ะครับ ขอบคุณครับ ________________ ไปล่ะครับ.... Quote Link to comment Share on other sites More sharing options...
Recommended Posts
Join the conversation
You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.