Jump to content

mnirun

CCTH Member
  • Posts

    192
  • Joined

  • Last visited

Reputation Activity

  1. Like
    mnirun got a reaction from aud in การปรับระดับไฟหน้าพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    อุปกรณ์ที่ใช้
    ไขควงปากแฉกด้ามยาว 10-12 นิ้ว ตลับเมตร เทปกาวย่น ไฟฉาย
     

     

     
    เวลาที่ใช้: ประมาณ 30 นาที
     
    ตำแหน่งที่ใช้ปรับระดับไฟหน้า
     
    ก่อนลงมือปรับ มาดูจุดที่เราจะทำการปรับกันก่อน
     
    เริ่มจากฝั่งคนขับ
     

     
    มองเข้าไปด้านหลังโคมก็จะเจอเฟืองปรับระดับ
     

     
    ดูกันให้ชัดๆ สักรูป จะได้รู้ว่าหน้าตาเฟืองปรับระดับเป็นอย่างไร สังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าเว้นช่องเอาไว้ให้ไขควงเสียบเข้าไปได้
     

     

     
    มาดูฝั่งคนนั่งกันบ้าง
     

     
    เอามือดันถังพักน้ำไปทางด้านหลังรถแล้วส่องไฟดูก็จะเห็น
     

     
    ที่เราต้องใช้ไขควงยาวก็เพราะแบบนี้แหละครับ จะได้ปรับระดับโดยไม่ต้องถอดถังพักน้ำออกมาให้วุ่นวายครับ
     

     
    ขั้นตอนการปรับระดับไฟหน้า
     
    ทำความสะอาดโคมไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง แล้วให้มองหาวงกลมกลางโคมไฟหน้า
     

     
    วัดความสูงจากจุดวงกลมกลางโคมไฟหน้าจนถึงพื้นถนน ซึ่งรถผมวัดได้ 25 นิ้ว เราจะใช้ค่านี้เพื่อคำนวนหาความสูงของ cutoff ไฟหน้า
     

     
    เราสามารถคำนวนหาความสูงของ cutoff ที่ต่ำลงมากจากความสูงของโคมไฟหน้าได้จากสูตรนี้
     
    12 * D * r
     
    D คือ ระยะจากจุดกลางโคมถึงกำแพง หน่วยเป็นฟุต โดยปกติเราใช้ระยะที่ 25 ฟุต
    r คือ มุมบ่ายเบน (Declination) โดยสเป็คของ Civic FD เราอยู่ที่ 1.0 %
     

     
    เมื่อนำค่าต่างๆ มาใส่สูตร ก็ได้ดังนี้
     
    12 * 25 * (1/100) = 3 นิ้ว
     

     
    หมายเหตุ: หากใครเคยเปิดดู service manual ของ Civic ก็จะพบว่าในนั้นระบุให้ใช้ระดับ cutoff ที่ 2.1 นิ้วก็เพราะว่า service manual นี้มาจาก US ที่ใช้มุมบ่ายเบน 0.7% ครับ
     
    และเรายังสามารถคำนวนระยะส่องสว่างของไฟหน้าได้จากสูตรนี้
     
    ความสูงโคมไฟน้า (หน่วย เซนติเมตร) / มุมบ่ายเบน (หน่วย %) = ระยะส่องสว่าง (หน่วย เมตร)
     
    เช่น รถผมวัดความสูงโคมไฟน้าได้ 63.5 (เซนติเมตร) / 1 (%) = 63.5 เมตร นั่นเอง
     
    จบภาคทฤษฎีแล้ว กลับมาภาคปฏิบัติกันต่อ
     
    นำรถไปจอดให้จุดกลางโคมหน้าห่างจากกำแพง 25 ฟุต (7.62 เมตร)
     

     
    ติดเทปกาวย่นเพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงในการปรับระดับ โดยความสูงของเทปกาวคำนวนได้จาก ความสูงโคม - ระยะ cutoff ที่ต่ำลงมา ซึ่งรถผมคำนวนได้ 22 นิ้ว (25-3) รถของแต่ละคนจะคำนวนได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสูงของโคมไฟหน้า
     
    เปิดไฟต่ำแล้วเริ่มปรับระดับไฟหน้าทีละข้าง โดยเริ่มจากฝั่งคนขับก่อน ก็ให้เราหาอะไรมาบังไฟหน้าฝั่งคนนั่งไว้ จะช่วยให้เราสังเกตระดับ cutoff ได้ง่ายขึ้น
     
    หมายเหตุ: รูปด้านล่างนี้ผมปรับระดับเสร็จแล้วครับ
     

     
    สังเกตเส้น cutoff ในแนวนอนว่าต่ำหรือสูงกว่าระดับ cutoff ที่ถูกต้อง หากสูงไปก็ให้ใช้ไขควงหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อปรับระดับโคมให้ต่ำลง หากต่ำไปก็ให้ใช้ไขควงหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อปรับระดับโคมให้สูงขึ้น ปรับจนกระทั่งเส้นด้านบน cutoff ในแนวนอน สูงอยู่ในระดับที่เราติดเทปกาวเอาไว้ครับ
     

     
    เมื่อปรับระดับฝั่งคนขับเสร็จแล้วก็ย้ายไปปรับฝั่งคนนั่งต่อ โดยใช้ขั้นตอนเดียวกัน
     
    ปรับเสร็จแล้วก็นำรถไปวิ่งดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง
     

     

     

     
    มีรถกำลังวิ่งออกจากในซอย ระยะห่างออกไปประมาณ 50 เมตรได้ครับ
     

     
    เห็นไหมครับว่าการปรับระดับไฟหน้านั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ
  2. Like
    mnirun got a reaction from TeNNy in การเปลี่ยนหลอดไฟต่ำพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    อุปกรณ์ที่ใช้
    หลอดไฟต่ำแบบ HB4
    ไขควงปากแบนที่ติดมากับรถ
    ไฟฉาย หากยังไม่มีติดรถหามาไว้สักอันนะครับ

    เวลาที่ใช้: ประมาณ 15 นาที
     
    ขั้นตอนการเปลี่ยนหลอดไฟ
     
    เริ่มแรกก็ไปหยิบไขควงปากแบนมาจากชุดเครื่องมือหลังรถก่อนเลยครับ ใครไม่เคยใช้ หรือไม่เคยเห็นหน้าตาชุดเครื่องมือหลังรถ วันนี้ได้เห็นแล้วครับ
     

     

     
    เราจะเริ่มเปลี่ยนหลอดไฟหน้าขวาก่อน ก็ให้เราสตาร์ทรถยนต์ หักพวงมาลัยไปทางซ้ายให้สุดแล้วดับเครื่อง จากนั้นให้มองหาหมุดยึดซุ้มล้อตรงตำแหน่งที่ลูกศรชี้ไว้ครับ
     

     
    รูปหมุดยึดซุ้มล้อแบบชัดๆ (ผมใช้รูปจากล้อซ้ายนะครับ เพราะรูปจากล้อขวาถ่ายย้อนแสงดูไม่ชัดครับ) เราจะเห็นช่องที่สามารถเสียบไขควงปากแบนเข้าไปได้ หากมองไม่เห็นสามารถหมุนหมุดยึดซุ้มล้อได้ครับ
     

     
    เสียบไขขวงปากแบนเข้าไป
     

     
    บิดไขควงเบาๆ หมุดก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย ไม่ต้องงัดครับ
     

     

     
    ใช้มือง้างพลาสติกซุ้มล้อออกมา แล้วมองเข้าไปข้างใน ก็จะเห็นปลั๊กหลอดไฟหน้า (ปลั๊กรถผมจะเลอะน้ำยากันสนิมสีน้ำตาลหน่อยนึง)
     

     
    ใช้มือบีบปลั๊กแล้วค่อยๆ ดึงหัวปลั๊กลงทางด้านล่าง จากนั้นเอาหัวปลั๊กหลบออกไปจะได้ดึงหลอดไฟออกอย่างสะดวก แล้วจึงบิดฐานหลอดไฟทวนเข็มนาฬิกาประมาณ 90 องศา ดึงหลอดออกมาช้าๆ อย่าเอามือหรือสิ่งอื่นใดไปโดนตัวหลอดอย่างเด็ดขาด ให้จับที่ฐานหลอดเท่านั้น เพราะหากมีคราบน้ำมันหรือเหงื่อติดอยู่ที่หลอด เมื่อเปิดไฟหน้าซึ่งเกิดความร้อนสูง สิ่งสกปรกที่อยู่ที่ผิวหลอดจะทำให้หลอดแตกหรือเสียหายได้ครับ
     

     
    นำหลอดไฟใหม่มาใส่เข้าไปที่โคมไฟ หลอดไฟติดรถจะเป็นหลอด Sylvania ฐานหลอดสีน้ำตาล ส่วนหลอดใหม่ของผมเป็น Philips VisionPlus ฐานหลอดสีขาว
     

     
    ใส่หลอดกลับเข้าไปแล้วก็บิดหลอดตามเข็มนาฬิกาประมาณ 90 องศา เสียบปลั๊กกลับเข้าไปให้แน่น
     

     
    อย่าพึ่งรีบดันพลาสติกซุ้มล้อกลับเข้าไป ให้เราเปิดไฟหน้ารถ (ไม่ต้องสตาร์ทรถก็เปิดไฟหน้าได้) แล้วดูว่าไฟหน้าสว่างหรือไม่ หากไฟหน้าสว่างก็ค่อยดันพลาสติกซุ้มล้อกลับเข้าไปให้เหมือนเดิม อาจใช้วิธีง้างกันชนบ้างนิดหน่อย จะช่วยให้ดันกลับเข้าไปง่ายขึ้นครับ
     

     
    ส่วนไฟหน้าอีกข้างก็ทำตามขั้นตอนเดียวกันเลยครับ
     
    สำหรับหลอดเดิมที่ติดมากับรถก็ให้เราเก็บเอาไว้ในกล่องหลอดไฟที่เราซื้อมาใหม่ ติดสติกเกอร์ให้เรียบร้อย แล้วเก็บเอาไว้ในรถจะได้มีหลอดไฟสำรองเอาไว้ใช้งานยามที่หลอดไฟหน้าขาดลงครับ หากสงสัยว่าทำไมต้องเก็บหลอดไฟหน้าเอาไว้ในรถด้วย ลองอ่านกระทู้นี้ดูแล้วก็จะเข้าใจครับ -> มาคุยกันเรื่องหลอดไฟหน้ากัน
     

     

     

     
    เห็นไหมครับว่าการเปลี่ยนหลอดไฟหน้านั้นไม่ได้ยากเลยครับ
  3. Like
    mnirun got a reaction from vtil in ถามเรื่อง วิธีป้องกันดุมล้อเป็นสนิม   
    ผมซื้อมาจาก Tesco Lotus ครับ หรือไม่ก็เดินหาตาม Home Pro ได้ครับ หลอดเล็กๆ ราคาประมาณร้อยกว่าบาทครับ (น่าจะนะ หลายปีมาแล้ว)
     

  4. Like
    mnirun got a reaction from TeNNy in มาคุยกันเรื่องหลอดไฟหน้ากัน   
    อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า Civic FD 1.8 เรานั้นใช้หลอดไฟหน้าชนิดฮาโลเจน (Halogen) ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ผมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็บอกไปแนวทางเดียวกัน
    ว่าไม่ค่อยสว่างสักเท่าใดนัก ต่างกับรุ่น 2.0 ที่ใช้ไฟหน้าชนิด HID (High Intensity Discharge) ทำให้หลายๆ ท่านที่ใช้รถ 1.8 มองหาช่องทางเพิ่มประสิทธิภาพของไฟหน้ารถกัน ซึ่งก็มีทางเลือกหลากหลายทาง ตั้งแต่ การอัพเกรดหลอดไฟหน้า, การใช้ HID Conversion Kit ซึ่งมีหลากหลายเกรด แตกต่างกันไปตามราคา, การเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟหน้าของรุ่น 2.0 ทั้งชุด, ไปจนถึง Retrofit แต่ทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากทางหนึ่งก็คือ การอัพเกรดหลอดไฟหน้า เพราะไม่ต้องไปยุ่งกับระบบเดิมของรถยนต์ แค่แปลี่ยนหลอดไฟใหม่เท่านั้นก็จะได้ความสว่างที่มากขึ้นได้ และค่าใช้จ่ายก็ยังไม่แพง ราคาเริ่มตั้งตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงเกือบสองพันบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นของหลอดไฟที่เราเลือก
     
    แต่เราทราบกันหรือไม่ว่า ความสว่างและอายุการใช้งานของหลอดไฟอัพเกรดนั้นเป็นอย่างไร ?
     
    ผมได้อ่านข้อมูลของคุณ Daniel Stern จาก Daniel Stern Lighting Consultancy and Supply (http://www.danielsternlighting.com/) ที่ตอบคำถามผู้ที่ได้เขียนอีเมล์ไปถามเขาเกี่ยวกับหลอดไฟ ก็ได้พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ครับ
     
    Daniel Stern ใช้หลอด H1 เป็นตัวอ้างอิง จากนั้นจึงนำข้อมูลจาก 3 ผู้ผลิตหลอดไฟเจ้าใหญ่ในท้องตลาดมาเปรียบเทียบให้ดู (Osram-Sylvania, Philips-Narva, Tungsram-GE) ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปบ้างแต่ก็ไม่มีนัยสำคัญ
     

     

     
    จากข้อมูลข้างต้น เราจะเห็นได้เลยว่า ยิ่งหลอดสว่างมากกว่ามาตรฐานเท่าไหร่ อายุก็ยิ่งสั้นลงเท่านั้น ที่เป็นอย่างนั้นเพราะความสว่างของหลอดไฟส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับไส้หลอด (filament) ถ้าเราเปลี่ยนไส้หลอดเพื่อยืดอายุหลอดให้ยาวนานขึ้น โฟกัสของหลอดไฟก็จะลดลง ทำให้ระยะทางในการส่องสว่างลดลงนั่นเอง แสงที่ได้ก็จะมีสีขาวน้อยลงและมีสีน้ำตาลมากขึ้น
     
    ในทางกลับกัน ถ้าเราเปลี่ยนไส้หลอดให้สว่างมากขึ้น "Plus" (+30, +50, +80, +90) อายุของหลอดก็จะสั้นลง แต่เราก็จะได้ระยะโฟกัสที่ดีขึ้น ระยะทางในการส่องสว่างก็จะมากขึ้นด้วย แสงที่ได้ก็จะออกขาวมากขึ้นและมีสีน้ำตาลน้อยลง
     
    Daniel Stern เองบอกว่าในร้านของเขานั้น สต็อกหลอดไฟ +50 แทนที่จะเป็น +80/+90 ก็เพราะว่าประสิทธิภาพที่ได้เมื่อเทียบกับอายุที่สั้นลงของหลอด +50 นั้น คุ้มค่ากว่า +80/+90 ที่เราได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจาก +50
     
    ผมเองนำข้อมูลมาเสนอ ก็ไม่ได้จะมาบอกว่าหลอดแบบไหนดีที่สุด เพราะวัตถุประสงค์และความต้องการของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน เช่น เพื่อนผมที่เป็นเซลล์ต้องเดินทางต่างจังหวัดตอนกลางคืนค่อยข้างเยอะ บางช่วงในการเดินทางก็ไม่มีแสงไฟจากทางหลวงเลย แน่นอนว่าความสว่างย่อมมาเป็นประเด็นแรกในการตัดสินใจ แต่กลับกันกับผมที่ขับรถในตอนกลางวันเป็นหลักและขับในเส้นทางที่มีแสงไฟจากทางหลวงเกือบตลอดเส้นทาง จึงไม่ได้ต้องการหลอดไฟที่สว่างมากอย่างที่เพื่อนผมที่เป็นเซลล์ต้องการ
     
    หวังว่าบทความสั้น ๆ นี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าอายุของหลอด "Plus" นั้น น้อยกว่าหลอดมาตรฐานเสมอ ยิ่งสว่างมากอายุยิ่งสั้นลง และสิ่งสำคัญสำหรับท่านที่เปลี่ยนหลอด "Plus" ท่านควรเปลี่ยนหลอดไฟด้วยตัวเองเป็นและพกหลอดไฟมาตรฐานที่มากับรถติดเอาไว้ในรถเสมอ เพราะหากหลอด "Plus" ขาดลงเมื่อใด ท่านก็จะมีหลอดสำรองพร้อมที่จะใช้งานได้ทันทีครับ
  5. Like
    mnirun got a reaction from RabbittZ in การปรับระดับไฟหน้าพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    อุปกรณ์ที่ใช้
    ไขควงปากแฉกด้ามยาว 10-12 นิ้ว ตลับเมตร เทปกาวย่น ไฟฉาย
     

     

     
    เวลาที่ใช้: ประมาณ 30 นาที
     
    ตำแหน่งที่ใช้ปรับระดับไฟหน้า
     
    ก่อนลงมือปรับ มาดูจุดที่เราจะทำการปรับกันก่อน
     
    เริ่มจากฝั่งคนขับ
     

     
    มองเข้าไปด้านหลังโคมก็จะเจอเฟืองปรับระดับ
     

     
    ดูกันให้ชัดๆ สักรูป จะได้รู้ว่าหน้าตาเฟืองปรับระดับเป็นอย่างไร สังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าเว้นช่องเอาไว้ให้ไขควงเสียบเข้าไปได้
     

     

     
    มาดูฝั่งคนนั่งกันบ้าง
     

     
    เอามือดันถังพักน้ำไปทางด้านหลังรถแล้วส่องไฟดูก็จะเห็น
     

     
    ที่เราต้องใช้ไขควงยาวก็เพราะแบบนี้แหละครับ จะได้ปรับระดับโดยไม่ต้องถอดถังพักน้ำออกมาให้วุ่นวายครับ
     

     
    ขั้นตอนการปรับระดับไฟหน้า
     
    ทำความสะอาดโคมไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง แล้วให้มองหาวงกลมกลางโคมไฟหน้า
     

     
    วัดความสูงจากจุดวงกลมกลางโคมไฟหน้าจนถึงพื้นถนน ซึ่งรถผมวัดได้ 25 นิ้ว เราจะใช้ค่านี้เพื่อคำนวนหาความสูงของ cutoff ไฟหน้า
     

     
    เราสามารถคำนวนหาความสูงของ cutoff ที่ต่ำลงมากจากความสูงของโคมไฟหน้าได้จากสูตรนี้
     
    12 * D * r
     
    D คือ ระยะจากจุดกลางโคมถึงกำแพง หน่วยเป็นฟุต โดยปกติเราใช้ระยะที่ 25 ฟุต
    r คือ มุมบ่ายเบน (Declination) โดยสเป็คของ Civic FD เราอยู่ที่ 1.0 %
     

     
    เมื่อนำค่าต่างๆ มาใส่สูตร ก็ได้ดังนี้
     
    12 * 25 * (1/100) = 3 นิ้ว
     

     
    หมายเหตุ: หากใครเคยเปิดดู service manual ของ Civic ก็จะพบว่าในนั้นระบุให้ใช้ระดับ cutoff ที่ 2.1 นิ้วก็เพราะว่า service manual นี้มาจาก US ที่ใช้มุมบ่ายเบน 0.7% ครับ
     
    และเรายังสามารถคำนวนระยะส่องสว่างของไฟหน้าได้จากสูตรนี้
     
    ความสูงโคมไฟน้า (หน่วย เซนติเมตร) / มุมบ่ายเบน (หน่วย %) = ระยะส่องสว่าง (หน่วย เมตร)
     
    เช่น รถผมวัดความสูงโคมไฟน้าได้ 63.5 (เซนติเมตร) / 1 (%) = 63.5 เมตร นั่นเอง
     
    จบภาคทฤษฎีแล้ว กลับมาภาคปฏิบัติกันต่อ
     
    นำรถไปจอดให้จุดกลางโคมหน้าห่างจากกำแพง 25 ฟุต (7.62 เมตร)
     

     
    ติดเทปกาวย่นเพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงในการปรับระดับ โดยความสูงของเทปกาวคำนวนได้จาก ความสูงโคม - ระยะ cutoff ที่ต่ำลงมา ซึ่งรถผมคำนวนได้ 22 นิ้ว (25-3) รถของแต่ละคนจะคำนวนได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสูงของโคมไฟหน้า
     
    เปิดไฟต่ำแล้วเริ่มปรับระดับไฟหน้าทีละข้าง โดยเริ่มจากฝั่งคนขับก่อน ก็ให้เราหาอะไรมาบังไฟหน้าฝั่งคนนั่งไว้ จะช่วยให้เราสังเกตระดับ cutoff ได้ง่ายขึ้น
     
    หมายเหตุ: รูปด้านล่างนี้ผมปรับระดับเสร็จแล้วครับ
     

     
    สังเกตเส้น cutoff ในแนวนอนว่าต่ำหรือสูงกว่าระดับ cutoff ที่ถูกต้อง หากสูงไปก็ให้ใช้ไขควงหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อปรับระดับโคมให้ต่ำลง หากต่ำไปก็ให้ใช้ไขควงหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อปรับระดับโคมให้สูงขึ้น ปรับจนกระทั่งเส้นด้านบน cutoff ในแนวนอน สูงอยู่ในระดับที่เราติดเทปกาวเอาไว้ครับ
     

     
    เมื่อปรับระดับฝั่งคนขับเสร็จแล้วก็ย้ายไปปรับฝั่งคนนั่งต่อ โดยใช้ขั้นตอนเดียวกัน
     
    ปรับเสร็จแล้วก็นำรถไปวิ่งดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง
     

     

     

     
    มีรถกำลังวิ่งออกจากในซอย ระยะห่างออกไปประมาณ 50 เมตรได้ครับ
     

     
    เห็นไหมครับว่าการปรับระดับไฟหน้านั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ
  6. Like
    mnirun got a reaction from TeNNy in เรื่องน็อตล้อครับ   
    การเลือกใช้น๊อตล้อให้เหมาะสมกับล้อ เพื่อความปลอดภัยของเราครับ
     
    หลายๆ ครั้งที่ผมเห็นรถที่ไปเปลี่ยนล้อแต่งมา แต่ยังใช้น๊อตล้อเดิมที่มาจากโรงงานกับล้อแต่ง จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆ ให้เปลี่ยนน๊อตล้อที่เหมาะสมด้วยเพื่อความปลอดภัยของเราครับ
     
    น๊อตล้อกับล้อจะมีหน้าสัมผัสกันอยู่หลายแบบ ซึ่งล้อเดิมที่มาจากโรงงานจะเป็นแบบกลม (radius/ball) 45 องศา แต่ล้อแต่งจะเป็นแบบเฉียง (conical/taper) 60 องศา
     

     
    หากเราเอาน๊อตล้อเดิม (45 องศา) ไปใส่กับล้อแต่ง (60 องศา) หรือกลับกัน น๊อตล้อกับล้อก็จะมีหน้าสัมผัสไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดความเค้น (stress) มากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดความเสียหาย หรือน๊อตล้อคลายตัวออกมาได้ครับ
     

     
    ถึงแม้ผมจะใช้ล้อแต่ง แต่ล้ออะไหล่ผมก็ยังเป็นล้อเดิมอยู่ ผมจึงเก็บน๊อตล้อเดิมเอาไว้ในฝากระโปรงหลังเสมอ เพื่อเอาไว้ใช้กับล้อเดิมครับ
     
    ท่านใดยังใช้น๊อตล้อไม่ถูกต้อง รีบไปเปลี่ยนให้ถูกต้องนะครับ
     
    วิดีโอด้านล่าง สาเหตุเกิดจากการเลือกใช้น๊อตล้อที่ไม่ถูกต้องครับ ขันไปคิดว่าแน่นแล้ว เอาลงไปวิ่งก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
     
    [media=]
    [/media] 
    ด้วยความห่วงใยครับ
     
    เต้ย
  7. Like
    mnirun got a reaction from gulfocean in การเปลี่ยนหลอดไฟต่ำพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    อุปกรณ์ที่ใช้
    หลอดไฟต่ำแบบ HB4
    ไขควงปากแบนที่ติดมากับรถ
    ไฟฉาย หากยังไม่มีติดรถหามาไว้สักอันนะครับ

    เวลาที่ใช้: ประมาณ 15 นาที
     
    ขั้นตอนการเปลี่ยนหลอดไฟ
     
    เริ่มแรกก็ไปหยิบไขควงปากแบนมาจากชุดเครื่องมือหลังรถก่อนเลยครับ ใครไม่เคยใช้ หรือไม่เคยเห็นหน้าตาชุดเครื่องมือหลังรถ วันนี้ได้เห็นแล้วครับ
     

     

     
    เราจะเริ่มเปลี่ยนหลอดไฟหน้าขวาก่อน ก็ให้เราสตาร์ทรถยนต์ หักพวงมาลัยไปทางซ้ายให้สุดแล้วดับเครื่อง จากนั้นให้มองหาหมุดยึดซุ้มล้อตรงตำแหน่งที่ลูกศรชี้ไว้ครับ
     

     
    รูปหมุดยึดซุ้มล้อแบบชัดๆ (ผมใช้รูปจากล้อซ้ายนะครับ เพราะรูปจากล้อขวาถ่ายย้อนแสงดูไม่ชัดครับ) เราจะเห็นช่องที่สามารถเสียบไขควงปากแบนเข้าไปได้ หากมองไม่เห็นสามารถหมุนหมุดยึดซุ้มล้อได้ครับ
     

     
    เสียบไขขวงปากแบนเข้าไป
     

     
    บิดไขควงเบาๆ หมุดก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย ไม่ต้องงัดครับ
     

     

     
    ใช้มือง้างพลาสติกซุ้มล้อออกมา แล้วมองเข้าไปข้างใน ก็จะเห็นปลั๊กหลอดไฟหน้า (ปลั๊กรถผมจะเลอะน้ำยากันสนิมสีน้ำตาลหน่อยนึง)
     

     
    ใช้มือบีบปลั๊กแล้วค่อยๆ ดึงหัวปลั๊กลงทางด้านล่าง จากนั้นเอาหัวปลั๊กหลบออกไปจะได้ดึงหลอดไฟออกอย่างสะดวก แล้วจึงบิดฐานหลอดไฟทวนเข็มนาฬิกาประมาณ 90 องศา ดึงหลอดออกมาช้าๆ อย่าเอามือหรือสิ่งอื่นใดไปโดนตัวหลอดอย่างเด็ดขาด ให้จับที่ฐานหลอดเท่านั้น เพราะหากมีคราบน้ำมันหรือเหงื่อติดอยู่ที่หลอด เมื่อเปิดไฟหน้าซึ่งเกิดความร้อนสูง สิ่งสกปรกที่อยู่ที่ผิวหลอดจะทำให้หลอดแตกหรือเสียหายได้ครับ
     

     
    นำหลอดไฟใหม่มาใส่เข้าไปที่โคมไฟ หลอดไฟติดรถจะเป็นหลอด Sylvania ฐานหลอดสีน้ำตาล ส่วนหลอดใหม่ของผมเป็น Philips VisionPlus ฐานหลอดสีขาว
     

     
    ใส่หลอดกลับเข้าไปแล้วก็บิดหลอดตามเข็มนาฬิกาประมาณ 90 องศา เสียบปลั๊กกลับเข้าไปให้แน่น
     

     
    อย่าพึ่งรีบดันพลาสติกซุ้มล้อกลับเข้าไป ให้เราเปิดไฟหน้ารถ (ไม่ต้องสตาร์ทรถก็เปิดไฟหน้าได้) แล้วดูว่าไฟหน้าสว่างหรือไม่ หากไฟหน้าสว่างก็ค่อยดันพลาสติกซุ้มล้อกลับเข้าไปให้เหมือนเดิม อาจใช้วิธีง้างกันชนบ้างนิดหน่อย จะช่วยให้ดันกลับเข้าไปง่ายขึ้นครับ
     

     
    ส่วนไฟหน้าอีกข้างก็ทำตามขั้นตอนเดียวกันเลยครับ
     
    สำหรับหลอดเดิมที่ติดมากับรถก็ให้เราเก็บเอาไว้ในกล่องหลอดไฟที่เราซื้อมาใหม่ ติดสติกเกอร์ให้เรียบร้อย แล้วเก็บเอาไว้ในรถจะได้มีหลอดไฟสำรองเอาไว้ใช้งานยามที่หลอดไฟหน้าขาดลงครับ หากสงสัยว่าทำไมต้องเก็บหลอดไฟหน้าเอาไว้ในรถด้วย ลองอ่านกระทู้นี้ดูแล้วก็จะเข้าใจครับ -> มาคุยกันเรื่องหลอดไฟหน้ากัน
     

     

     

     
    เห็นไหมครับว่าการเปลี่ยนหลอดไฟหน้านั้นไม่ได้ยากเลยครับ
  8. Like
    mnirun got a reaction from clickkupopz in อุณหภูมิความร้อน รถติด ใน กทม 92 c ถือว่าโอเครไหมครับ   
    รถติดๆ อุณหภูมิ 92c ถือว่าปกตินะครับ
     
    ขอเสริมสักนิด ขนาด Hondata ที่ชำนาญเรื่อง ECU ของรถยนต์ Honda เองยังไม่แนะนำให้ใช้วาล์วน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าเดิมเลยครับ
     
     
     
  9. Like
    mnirun got a reaction from MOMO-SAVAGE in อุณหภูมิความร้อน รถติด ใน กทม 92 c ถือว่าโอเครไหมครับ   
    รถติดๆ อุณหภูมิ 92c ถือว่าปกตินะครับ
     
    ขอเสริมสักนิด ขนาด Hondata ที่ชำนาญเรื่อง ECU ของรถยนต์ Honda เองยังไม่แนะนำให้ใช้วาล์วน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าเดิมเลยครับ
     
     
     
  10. Like
    mnirun got a reaction from societyjunk in อุณหภูมิความร้อน รถติด ใน กทม 92 c ถือว่าโอเครไหมครับ   
    รถติดๆ อุณหภูมิ 92c ถือว่าปกตินะครับ
     
    ขอเสริมสักนิด ขนาด Hondata ที่ชำนาญเรื่อง ECU ของรถยนต์ Honda เองยังไม่แนะนำให้ใช้วาล์วน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าเดิมเลยครับ
     
     
     
  11. Like
    mnirun got a reaction from Endless in อุณหภูมิความร้อน รถติด ใน กทม 92 c ถือว่าโอเครไหมครับ   
    รถติดๆ อุณหภูมิ 92c ถือว่าปกตินะครับ
     
    ขอเสริมสักนิด ขนาด Hondata ที่ชำนาญเรื่อง ECU ของรถยนต์ Honda เองยังไม่แนะนำให้ใช้วาล์วน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าเดิมเลยครับ
     
     
     
  12. Like
    mnirun got a reaction from Mod-X FD1 in อุณหภูมิความร้อน รถติด ใน กทม 92 c ถือว่าโอเครไหมครับ   
    รถติดๆ อุณหภูมิ 92c ถือว่าปกตินะครับ
     
    ขอเสริมสักนิด ขนาด Hondata ที่ชำนาญเรื่อง ECU ของรถยนต์ Honda เองยังไม่แนะนำให้ใช้วาล์วน้ำอุณหภูมิต่ำกว่าเดิมเลยครับ
     
     
     
  13. Like
    mnirun got a reaction from Endless in [Review] เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัตโนมัติ CTEK MXS 5.0   
    ด้วยความยินดีครับ
     
     
    ดีใจด้วยที่ได้ของที่ถูกใจครับ น้องเต้ย
     
    ของแต่งรถอย่างอื่น แพงกว่านี้เยอะครับ
     
     
    ไมจำเป็นครับ แต่ถ้ามีไว้ใช้ก็จะช่วยยืดอายุของแบตเตอรี่ได้ครับ ผมยังตอบไม่ได้ว่าจะใช้ได้นานขึ้นกว่าเดิมมากแค่ไหน เพราะกำลังอยู่ในช่วงเก็บข้อมูลจริงอยู่ครับ ถ้าได้คำตอบแล้วจะมาโพสบอกอีกครั้งครับ (คงอีกหลายๆ ปี)
     
    ลองอ่านด้านล่างนี้ก่อนนะครับ
     
     
    ส่วนนี่เป็น CCA ของรถผมที่ผ่านไป 1 ปี 3 เดือน ก็ยังมี CCA มากกว่าตอนซื้อแบตเตอรี่มาใหม่ๆ เลยครับ
     

     
     
    ถ้างบถึง ก็แนะนำ CTEK ครับ อาจแพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ แต่ผมว่าคุ้มครับ
     
    ด้านล่างนี้ เก็บมาฝากครับ
     

  14. Like
    mnirun got a reaction from Davidtour in การเปลี่ยนหลอดไฟต่ำพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    อุปกรณ์ที่ใช้
    หลอดไฟต่ำแบบ HB4
    ไขควงปากแบนที่ติดมากับรถ
    ไฟฉาย หากยังไม่มีติดรถหามาไว้สักอันนะครับ

    เวลาที่ใช้: ประมาณ 15 นาที
     
    ขั้นตอนการเปลี่ยนหลอดไฟ
     
    เริ่มแรกก็ไปหยิบไขควงปากแบนมาจากชุดเครื่องมือหลังรถก่อนเลยครับ ใครไม่เคยใช้ หรือไม่เคยเห็นหน้าตาชุดเครื่องมือหลังรถ วันนี้ได้เห็นแล้วครับ
     

     

     
    เราจะเริ่มเปลี่ยนหลอดไฟหน้าขวาก่อน ก็ให้เราสตาร์ทรถยนต์ หักพวงมาลัยไปทางซ้ายให้สุดแล้วดับเครื่อง จากนั้นให้มองหาหมุดยึดซุ้มล้อตรงตำแหน่งที่ลูกศรชี้ไว้ครับ
     

     
    รูปหมุดยึดซุ้มล้อแบบชัดๆ (ผมใช้รูปจากล้อซ้ายนะครับ เพราะรูปจากล้อขวาถ่ายย้อนแสงดูไม่ชัดครับ) เราจะเห็นช่องที่สามารถเสียบไขควงปากแบนเข้าไปได้ หากมองไม่เห็นสามารถหมุนหมุดยึดซุ้มล้อได้ครับ
     

     
    เสียบไขขวงปากแบนเข้าไป
     

     
    บิดไขควงเบาๆ หมุดก็จะหลุดออกมาอย่างง่ายดาย ไม่ต้องงัดครับ
     

     

     
    ใช้มือง้างพลาสติกซุ้มล้อออกมา แล้วมองเข้าไปข้างใน ก็จะเห็นปลั๊กหลอดไฟหน้า (ปลั๊กรถผมจะเลอะน้ำยากันสนิมสีน้ำตาลหน่อยนึง)
     

     
    ใช้มือบีบปลั๊กแล้วค่อยๆ ดึงหัวปลั๊กลงทางด้านล่าง จากนั้นเอาหัวปลั๊กหลบออกไปจะได้ดึงหลอดไฟออกอย่างสะดวก แล้วจึงบิดฐานหลอดไฟทวนเข็มนาฬิกาประมาณ 90 องศา ดึงหลอดออกมาช้าๆ อย่าเอามือหรือสิ่งอื่นใดไปโดนตัวหลอดอย่างเด็ดขาด ให้จับที่ฐานหลอดเท่านั้น เพราะหากมีคราบน้ำมันหรือเหงื่อติดอยู่ที่หลอด เมื่อเปิดไฟหน้าซึ่งเกิดความร้อนสูง สิ่งสกปรกที่อยู่ที่ผิวหลอดจะทำให้หลอดแตกหรือเสียหายได้ครับ
     

     
    นำหลอดไฟใหม่มาใส่เข้าไปที่โคมไฟ หลอดไฟติดรถจะเป็นหลอด Sylvania ฐานหลอดสีน้ำตาล ส่วนหลอดใหม่ของผมเป็น Philips VisionPlus ฐานหลอดสีขาว
     

     
    ใส่หลอดกลับเข้าไปแล้วก็บิดหลอดตามเข็มนาฬิกาประมาณ 90 องศา เสียบปลั๊กกลับเข้าไปให้แน่น
     

     
    อย่าพึ่งรีบดันพลาสติกซุ้มล้อกลับเข้าไป ให้เราเปิดไฟหน้ารถ (ไม่ต้องสตาร์ทรถก็เปิดไฟหน้าได้) แล้วดูว่าไฟหน้าสว่างหรือไม่ หากไฟหน้าสว่างก็ค่อยดันพลาสติกซุ้มล้อกลับเข้าไปให้เหมือนเดิม อาจใช้วิธีง้างกันชนบ้างนิดหน่อย จะช่วยให้ดันกลับเข้าไปง่ายขึ้นครับ
     

     
    ส่วนไฟหน้าอีกข้างก็ทำตามขั้นตอนเดียวกันเลยครับ
     
    สำหรับหลอดเดิมที่ติดมากับรถก็ให้เราเก็บเอาไว้ในกล่องหลอดไฟที่เราซื้อมาใหม่ ติดสติกเกอร์ให้เรียบร้อย แล้วเก็บเอาไว้ในรถจะได้มีหลอดไฟสำรองเอาไว้ใช้งานยามที่หลอดไฟหน้าขาดลงครับ หากสงสัยว่าทำไมต้องเก็บหลอดไฟหน้าเอาไว้ในรถด้วย ลองอ่านกระทู้นี้ดูแล้วก็จะเข้าใจครับ -> มาคุยกันเรื่องหลอดไฟหน้ากัน
     

     

     

     
    เห็นไหมครับว่าการเปลี่ยนหลอดไฟหน้านั้นไม่ได้ยากเลยครับ
  15. Like
    mnirun got a reaction from nan-aun in การปรับระดับไฟหน้าพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    อุปกรณ์ที่ใช้
    ไขควงปากแฉกด้ามยาว 10-12 นิ้ว ตลับเมตร เทปกาวย่น ไฟฉาย
     

     

     
    เวลาที่ใช้: ประมาณ 30 นาที
     
    ตำแหน่งที่ใช้ปรับระดับไฟหน้า
     
    ก่อนลงมือปรับ มาดูจุดที่เราจะทำการปรับกันก่อน
     
    เริ่มจากฝั่งคนขับ
     

     
    มองเข้าไปด้านหลังโคมก็จะเจอเฟืองปรับระดับ
     

     
    ดูกันให้ชัดๆ สักรูป จะได้รู้ว่าหน้าตาเฟืองปรับระดับเป็นอย่างไร สังเกตให้ดีก็จะเห็นว่าเว้นช่องเอาไว้ให้ไขควงเสียบเข้าไปได้
     

     

     
    มาดูฝั่งคนนั่งกันบ้าง
     

     
    เอามือดันถังพักน้ำไปทางด้านหลังรถแล้วส่องไฟดูก็จะเห็น
     

     
    ที่เราต้องใช้ไขควงยาวก็เพราะแบบนี้แหละครับ จะได้ปรับระดับโดยไม่ต้องถอดถังพักน้ำออกมาให้วุ่นวายครับ
     

     
    ขั้นตอนการปรับระดับไฟหน้า
     
    ทำความสะอาดโคมไฟหน้าทั้ง 2 ข้าง แล้วให้มองหาวงกลมกลางโคมไฟหน้า
     

     
    วัดความสูงจากจุดวงกลมกลางโคมไฟหน้าจนถึงพื้นถนน ซึ่งรถผมวัดได้ 25 นิ้ว เราจะใช้ค่านี้เพื่อคำนวนหาความสูงของ cutoff ไฟหน้า
     

     
    เราสามารถคำนวนหาความสูงของ cutoff ที่ต่ำลงมากจากความสูงของโคมไฟหน้าได้จากสูตรนี้
     
    12 * D * r
     
    D คือ ระยะจากจุดกลางโคมถึงกำแพง หน่วยเป็นฟุต โดยปกติเราใช้ระยะที่ 25 ฟุต
    r คือ มุมบ่ายเบน (Declination) โดยสเป็คของ Civic FD เราอยู่ที่ 1.0 %
     

     
    เมื่อนำค่าต่างๆ มาใส่สูตร ก็ได้ดังนี้
     
    12 * 25 * (1/100) = 3 นิ้ว
     

     
    หมายเหตุ: หากใครเคยเปิดดู service manual ของ Civic ก็จะพบว่าในนั้นระบุให้ใช้ระดับ cutoff ที่ 2.1 นิ้วก็เพราะว่า service manual นี้มาจาก US ที่ใช้มุมบ่ายเบน 0.7% ครับ
     
    และเรายังสามารถคำนวนระยะส่องสว่างของไฟหน้าได้จากสูตรนี้
     
    ความสูงโคมไฟน้า (หน่วย เซนติเมตร) / มุมบ่ายเบน (หน่วย %) = ระยะส่องสว่าง (หน่วย เมตร)
     
    เช่น รถผมวัดความสูงโคมไฟน้าได้ 63.5 (เซนติเมตร) / 1 (%) = 63.5 เมตร นั่นเอง
     
    จบภาคทฤษฎีแล้ว กลับมาภาคปฏิบัติกันต่อ
     
    นำรถไปจอดให้จุดกลางโคมหน้าห่างจากกำแพง 25 ฟุต (7.62 เมตร)
     

     
    ติดเทปกาวย่นเพื่อใช้เป็นจุดอ้างอิงในการปรับระดับ โดยความสูงของเทปกาวคำนวนได้จาก ความสูงโคม - ระยะ cutoff ที่ต่ำลงมา ซึ่งรถผมคำนวนได้ 22 นิ้ว (25-3) รถของแต่ละคนจะคำนวนได้แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความสูงของโคมไฟหน้า
     
    เปิดไฟต่ำแล้วเริ่มปรับระดับไฟหน้าทีละข้าง โดยเริ่มจากฝั่งคนขับก่อน ก็ให้เราหาอะไรมาบังไฟหน้าฝั่งคนนั่งไว้ จะช่วยให้เราสังเกตระดับ cutoff ได้ง่ายขึ้น
     
    หมายเหตุ: รูปด้านล่างนี้ผมปรับระดับเสร็จแล้วครับ
     

     
    สังเกตเส้น cutoff ในแนวนอนว่าต่ำหรือสูงกว่าระดับ cutoff ที่ถูกต้อง หากสูงไปก็ให้ใช้ไขควงหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อปรับระดับโคมให้ต่ำลง หากต่ำไปก็ให้ใช้ไขควงหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อปรับระดับโคมให้สูงขึ้น ปรับจนกระทั่งเส้นด้านบน cutoff ในแนวนอน สูงอยู่ในระดับที่เราติดเทปกาวเอาไว้ครับ
     

     
    เมื่อปรับระดับฝั่งคนขับเสร็จแล้วก็ย้ายไปปรับฝั่งคนนั่งต่อ โดยใช้ขั้นตอนเดียวกัน
     
    ปรับเสร็จแล้วก็นำรถไปวิ่งดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง
     

     

     

     
    มีรถกำลังวิ่งออกจากในซอย ระยะห่างออกไปประมาณ 50 เมตรได้ครับ
     

     
    เห็นไหมครับว่าการปรับระดับไฟหน้านั้น ไม่ได้ยากอย่างที่คิดครับ
  16. Like
    mnirun got a reaction from Top_up in กรอง K&N แบบแทนกรองกระดาษแบบเดิม ใช้งานดีไหมครับ   
    ขอเอาข้อมูลเก่า มาเล่าใหม่นะครับ
     
    ประเภทของกรองอากาศหลักๆ ก็มี
     
    1. กรองกระดาษ (กรองแห้ง)
     
    กรองเดิมติดรถเป็นแบบแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากกระดาษ (dry, paper filter) แลัวพับเป็นจีบ (pleated) เพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสในการกรองอากาศให้มากขึ้น กรองฝุ่นผงได้ดีที่สุด แต่อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ทำได้เพียงเป่ากรองเพื่อลดฝุ่นที่เกาะอยู่บนผิวกระดาษ อายุการใช้งาน 20,000 กิโลเมตร
     

     
    2. กรองแผ่นโฟม (กรองแห้ง)
     
    เช่นกรอง HKS เป็นกรองแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากโฟม (dry, foam filter) อากาศผ่านได้ดี HKS ใช้โฟมความละเอียดต่างกัน 3 ชั้นเพื่อเพิ่มความสามารถให้การกรองฝุ่นให้ดีีขึ้น สามาทำความสะอาดโดยล้างน้ำตัวแผ่นกรองได้ อายุการใช้งาน 30,000 กิโลเมตร
     

     
    3. กรองผ้ากอซ (กรองเปียก)
     
    ส่วนกรอง K&N เป็นกรองเปียก ตัวกรองเป็นผ้ากอซ (wet, gauze filter) นำมาทำเป็บจีบอยู่ในโครงตาข่าย อากาศผ่านได้ดี แต่ความสามารถในการกรองผุ่นต่ำ จึงจำเป็นต้องอาศัยน้ำยามาฉีดที่ตัวกรองเพื่อเพิ่มดักฝุ่นให้เกาะอยู่ที่ผิวตัวกรอง เมื่อใช้ไปถึงระยะเวลาหนึ่ง ฝุ่นก็จะเกาะอยู่บนผิวของตัวกรองทำให้อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี จึงต้องนำมาล้างแล้วฉีดน้ำยาใหม่ ข้อดีคือสามารถล้างน้ำและนำมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ
     
    ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรฉีดน้ำยามากเกินไป เพราะน้ำยาอาจไปเกาะที่ตัว Mass Airflow Sensor ทีอยู่ในกล่องกรองอากาศได้ครับ
     

     

     

  17. Like
    mnirun got a reaction from RabbittZ in การเปลี่ยนหลอดไฟต่ำพร้อมรูปประกอบแบบ Step-by-Step   
    ด้วยความยินดีครับ
     
    จะทยอยเอาข้อมูลมาลงเรื่อยๆ ครับ
     
    นั่งทำรูปใหม่ทุกรูป ใช้เวลาเหมือนกันครับ พี่ Tommie แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ เพราะหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ สมาชิกครับ
  18. Like
    mnirun got a reaction from RabbittZ in [Review] กล้องติดรถยนต์ Provia P200 Season2   
    เกริ่นนำ
     
    ตัวผมเองอยากได้กล้องติดรถยนต์ที่ขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องมีหน้าจอแสดงผล และราคาไม่แพงมากนัก เอาไว้บันทึกเหตุการณ์เผื่อต้องใช้ในยามจำเป็น แต่เอาเข้าจริงๆ นี่ก็เป็นตัวที่ 3 แล้ว เอาเงินมารวมกันซื้อยี่ห้อดีๆ ได้ 1 ตัวเลย เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่ายจริงๆ
     
    2 ตัวก่อนไม่น่าประทับใจเพียงพอต่อการรีวิวและการใช้งานสักเท่าใดนัก จนมาถึงตัวนี้ที่คิดว่าดีเพียงพอที่จะให้เพื่อนๆ อ่านกันในวันนี้ครับ
     
    แนะนำตัว
     
    ผมเลือกใช้กล้อง Provia รุ่น P200 Season2 จากเกาหลี มีคุณสมบัติคร่าวๆ ดังนี้
     
    - 2.0M pixels, 1/3" CMOS
    - เลนส์มุมกว้าง 120 องศา
    - บันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 720x480 (D1), MPEG4
    - บันทึกเสียง AAC
    - 13 เฟรม/วินาที
    - G Sensor
    - Seamless recording (มารู้ตอนใช้งานจริง)
     
    แกะกล่อง
     
    กล่องของ Provia P200 Season2 มีขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านบนระบุยี่ห้อและรุ่น มุมล่างระบุเอาชัดเจนว่า Made in Korea
     

     
    ของทั้งหมดในกล่อง ประกอบด้วย
     
    - ตัวกล้อง
    - ที่จ่ายไฟ
    - เทปกาวสำรอง 1 ชิ้น
    - ที่จัดระเบียบสายไฟ 3 ชิ้น
    - คู่มือใช้งานภาษาเกาหลี อ่านไม่ออก ก็ไม่ต้องไปอ่านมันครับ ฮา
     

     
    มาดูพระเอกของเรากันหน่อย ตัวกล้องสามารถปรับเอียงซ้าย-ขวา หน้า-หลังได้ มุมล่างจะเป็นช่องไมโครโฟน
     

     

     
    ซูมดูใกล้ๆ กันสักหน่อย
     

     
    ทางด้านขวาจะมีช่อง Video Out (ไม่มีสายมาให้), ช่องใส่ microSD ได้ตั้งแต่ 4-16GB (แนะนำให้ใช้ class 10) ผมลองเอา microSD 2GB มาใส่ดูว่าจะได้ไหม ปรากฎว่าใช้ไม่ได้ เครื่องไม่ยอมอัดวิดีโอครับ, ช่องเสียบไฟ 12V DC
     

     
    ส่วนด้านซ้ายและด้านล่างจะเป็นแบบนี้ครับ
     

     
    ด้านบนจะมีเทปกาวติดมาให้ กล้องตัวนี้ใช้ติดเทปกาว ไม่ได้ใช้ตัวดูดกระจกแบบกล้องทั่วไป ข้อดีคือติดแน่น ไม่มีเสียงขากล้องสั่น ภาพไม่สั่นไหว แต่ข้อเสียก็คือไม่สามารถถอดไปใช้กับรถคันอื่นได้ครับ
     

     
    ด้านหลังมีสวิทช์ เปิด-ปิด เราสามารถเปิดค้างเอาไว้ได้เลย เมื่อเราติดเครื่องรถกล้องก็จะเปิดขึ้นมาเองและเริ่มบันทึกวิดีโอโดยอัตโนมัติ และเมื่อดับรถกล้องก็จะปิดลงไปโดยอัตโนมัติเช่นกัน, ไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน เมื่อเปิดเครื่องมาไฟจะกระพริบ 10-15 วินาที จากนั้นก็จะติดค้างเป็นการบอกว่าบันทึกวิดีโออยู่ครับ หลอดไฟ LED ไม่แยงตาแต่อย่างใด
     

     
    ส่วนที่จ่ายไฟก็มีสายยาว สามารถเดินสายอ้อมมาทางเสา A หน้ารถ แล้วเดินผ่านมาด้านใต้พวงมาลัยได้สบายๆ ครับ
     

     

     
    การติดตั้ง
     
    การติดตั้งก็ไม่ยากครับ ใช้เวลา 10-15 นาทีก็เสร็จแล้วครับ ก่อนอื่นให้เล็งว่าเราต้องการจะติดตั้งไว้ตรงไหน ซึ่งจุดที่แนะนำก็คือด้านหลังกระจกมองหลัง เพราะเป็นจุดกึ่งกลางและไม่มีอะไรบดบังครับ แต่ของผมขยับออกมาทางด้านขวาก็เพราะว่าภาพวิดีีโอที่ได้ติดรูปสติกเกอร์หลวงพ่อมาในวิดีโอเยอะครับ แต่ถึงผมจะขยับออกมาเวลาเอาที่บังแดดลงจนสุดก็ไม่ชนกับตัวกล้องแต่อย่างใดครับ
     

     

     

     
    สายไฟก็เก็บไม่ยาก ใช้นิ้วดันสายไฟให้เข้าไปในฝ้าหลังคา ส่วนเสา A เราก็ดึงขอบยางประตูออกมาก่อน แล้วเอามือค่อยๆ ดึงเสา A ออก จากนั้นก็เอาสายไฟหลบเอาไว้ข้างในครับ
     

     

     
    รถผมฟิลม์หน้ามืดพอสมควร ถ้ามองจากด้านนอกก็จะเห็นประมาณนี้ครับ ขออภัยที่ถ่ายมาแล้วเป็นภาพสะท้อนหลังคาติดมาด้วย พยายามหาเหลี่ยมถ่ายแล้วแต่ยังไงก็หาไม่ได้ครับ
     

     
    ทดสอบการใช้งาน
     
    ผมทดสอบการใช้งานจริงทั้งกลางวันและกลางคืน โดยกล้องจะแยกบันทึกไฟล์ออกเป็น 3 โฟลเดอร์ตามเหตุการณ์ต่างๆ (ภาษาเกาหลีอีกเช่นเคย แต่อย่าได้แคร์ครับ) ได้แก่
     

     
    - Motion recording
     
    บันทึก "ความเคลื่อนไหว" เมื่อกล้องตรวจพบความคลื่นไหวในขณะที่เราจอดรถทิ้งเอาไว้ได้ โดยต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อใช้ไฟโดยตรงจากแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งผมจะไม่สามารถทดสอบความสามารถนี้ได้ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์เสริมครับ
     
    - Normal recording
     
    บันทึกเหตุการณ์ทั่วไป โดยกล้องจะสร้างโฟลเดอร์ตามปีเดือนวันและเวลา โดยในหนึ่งโฟลเดอร์จะมีไฟล์ได้ 100 ไฟล์ เมื่อครบ 100 ไฟล์แล้วกล้องจะสร้างโฟลเดอร์ให้ใหม่ครับ
     

     

     

     
    - Event recording
     
    แยกบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้ G Sensor ที่อยู่ในตัวกล้องเมื่อเกิดแรง G ขึ้น เช่น เบรคกระทันหัน เกิดการชนขึ้น โดยจะตัดเวลาก่อนเกิดแรง G 10 วินาที และหลังเกิดแรง G 10 วินาที (แต่ละไฟล์จึงยาวแค่ 20 วินาที) ไปเก็บเอาไว้ในโฟลเดอร์นี้ เพื่อให้สะดวกในการย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ในภายหลัง โดยกล้องจะเก็บไฟล์เหตุการณ์ได้สูงสุด 100 ไฟล์ครับ ซึ่งข้อเสียของกล้องรุ่นนี้จุดหนึ่งก็คือ G Sensor มันไวไปหน่อย ขับรถเร็วหน่อยแล้วโยกหลบหลุม, โดดคอสะพาน, เบรคแรงหน่อยก็ตัดมา Event แล้ว
     

     
    โดยไฟล์ที่ได้จะเป็นนามสกุล (container) .avi เข้ารหัส (encoding) วิดีโอด้วย MPEG4 เข้ารหัสเสียงด้วย AAC ไฟล์นึงยาวไม่เกิน 2 นาที ใช้พื่นที่ประมาณ 30MB
     
    อ่านกันมาเยอะแล้ว มาดูของจริงกันบ้าง
     
    เริ่มจากตอนเช้าๆ บนทางด่วนวงแหวนรอบนอก
     


     
    ตอนสายๆ ในวันเมฆครึ้ม แดดไม่ค่อยมี กับ Civic Type R ขาวๆ
     


     
    ต่อด้วยลอดอุโมค์แยกอุดมสุขสักหน่อย
     


     
    มาดูตอนกลางคืนรถติดๆ หน้าด่านกันบ้าง
     


     
    ใช้ความเร็วบนทางด่วน ในยามค่ำคืน
     


     
    Seamless recording
     
    สิ่งหนึ่งที่ผมพึ่งมารู้ภายหลังจากที่ได้ใช้งานแล้วก็คือ P200 มี Seamless recording ด้วย!
     
    กล้องโดยทั่วไปจะเกิดการ "รั่ว" (leak) ของเหตุการ์ในระหว่างไฟล์ มากน้อยต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวกล้องและความเร็วของหน่วยความจำที่เราเลือกใช้ ซึ่งกล้องตัวก่อนหน้าที่ผมใช้กับ SanDisk Mobile Ultra microSD class 6 16GB ราคา 799 บาท (เมื่อเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา) จะ leak ไป 3 วินาที เมื่อนำไฟล์มาเปิดดูต่อกับไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นว่าเวลาหายไป 3 วินาที ถ้าหากเกิดเห็นการณ์ในระหว่างที่ leak แล้วละก็ เราก็จะไม่มีหลักฐานในช่วงเวลานั้นนั่นเอง
     

     
    ส่วนกล้อง P200 ผมใ้ช้ SanDisk Mobile Ultra microSD class 10 16GB ราคา 600 บาท (เมื่อต้นเดือนนี้) ซึ่งจากการใช้งานจริงพบว่าเป็น Seamless recording หากเราเอาไฟล์มาเปิดต่อกันก็จะไม่เห็นว่ามีวินาทีไหนหายไปเลย ไม่เว้นแม้กระทั่ง Event recording ผมทดลองเอาไฟล์จาก Normal กับ Event มาต่อกันก็ยังเป็น Seamless recoding ด้วย!
     
    มาลองดูของจริงกัน จบไฟล์ Normal แรกที่ 14:35:37
     

     
    เริ่มไฟล์ Event ที่ 14:35:37 หากดูภาพจะเหมือนไม่ต่อกัน แต่ถ้าเล่นไฟล์วิดีโอจะเห็นว่ามันต่อกัน ไม่มีส่วนไหนหายไปเลย กล้องตัดเข้า Event เพราะโยกซ้ายหลบถนนที่มันไม่เรียบครับ
     

     
    จบไฟล์ Event ที่ 14:36:17
     

     
    เริ่มไฟล์ Event ที่ 14:36:17 กล้องตัดเข้า Event เำพราะเบรคระหว่างทำความเร็ว เนื่องจากมีรถเข้ามาในเลนครับ
     

     
    จบไฟล์ Event ที่ 14:36:37
     

     
    เริ่มไฟล์ Normal ที่ 14:36:38 วินาทีเปลี่ยนพอดี แต่นั่งดูแล้วก็็ไม่มีส่วนไหนหายไปครับ
     

     
    จริงๆ แล้วผมใช้โปรแกรม Avidemux ต่อไฟล์แล้วเปิดดูว่าเป็น Seamless recording หรือไม่ครับ หากเปิดด้วยโปรแกรมดูหนังทั่วไปมันจะกระตุกตอนเปิดไฟล์ใหม่นิดนึง แต่ที่ผมใช้หน้าจอจากโปรแกรมดูหนังก็เพราะว่ามันเห็นชัดเจนว่าเริ่มไฟล์ไหนเมื่อไหร่ จบไฟล์ไหนเมื่อไร่ครับ
     

     
    สรุป
     
    ภาพที่ได้อาจไม่ชัดมากมายนัก แต่อย่างน้อยก็สามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ใช้ในยามเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งนั่นก็เพียงพอต่อความต้องการของผมแล้วครับ
     
    ข้อดี
     
    - ขนาดเล็ก กระทัดรัด
    - ไฟล์มีขนาดเล็ก microSD 16GB อัดวิดีโอได้ประมาณ 16 ชม.
    - Seamless recording ไม่มีหล่นหายไปไหน
     
    ข้อเสีย
     
    - G Sensor ไวไปหน่อย เบรคแรงหน่อยก็ตัดเข้า Event แล้ว
    - ภาพชัดในระดับกลางๆ เห็นป้ายทะเบียนชัดในระยะใกล้ๆ เท่านั้น
    - ใ้ช้งานในตอนกลางคืนต้องอาศัยแสงไฟจากไฟหน้าและถนน หากติดฟิลม์หน้ามืด ภาพอาจออกมามืดไปนิด
     
    ผมได้สร้าง playlist ไว้ใน YouTube ซึ่งมีไฟล์วิดีโอมากกว่าที่ลงเอาไว้ในรีวิวนี้ สามารถดูได้จาก link ด้านล่างครับ
     



    &list=PL02266F0993AF1D1D&feature=plpp_play_all 
    Provia P200 Season2 Seamless Recording


    &list=PL6C7948213F56CBF6&feature=plpp_play_all
  19. Like
    mnirun got a reaction from l-Ae-l in เรื่องน็อตล้อครับ   
    การเลือกใช้น๊อตล้อให้เหมาะสมกับล้อ เพื่อความปลอดภัยของเราครับ
     
    หลายๆ ครั้งที่ผมเห็นรถที่ไปเปลี่ยนล้อแต่งมา แต่ยังใช้น๊อตล้อเดิมที่มาจากโรงงานกับล้อแต่ง จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆ ให้เปลี่ยนน๊อตล้อที่เหมาะสมด้วยเพื่อความปลอดภัยของเราครับ
     
    น๊อตล้อกับล้อจะมีหน้าสัมผัสกันอยู่หลายแบบ ซึ่งล้อเดิมที่มาจากโรงงานจะเป็นแบบกลม (radius/ball) 45 องศา แต่ล้อแต่งจะเป็นแบบเฉียง (conical/taper) 60 องศา
     

     
    หากเราเอาน๊อตล้อเดิม (45 องศา) ไปใส่กับล้อแต่ง (60 องศา) หรือกลับกัน น๊อตล้อกับล้อก็จะมีหน้าสัมผัสไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดความเค้น (stress) มากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดความเสียหาย หรือน๊อตล้อคลายตัวออกมาได้ครับ
     

     
    ถึงแม้ผมจะใช้ล้อแต่ง แต่ล้ออะไหล่ผมก็ยังเป็นล้อเดิมอยู่ ผมจึงเก็บน๊อตล้อเดิมเอาไว้ในฝากระโปรงหลังเสมอ เพื่อเอาไว้ใช้กับล้อเดิมครับ
     
    ท่านใดยังใช้น๊อตล้อไม่ถูกต้อง รีบไปเปลี่ยนให้ถูกต้องนะครับ
     
    วิดีโอด้านล่าง สาเหตุเกิดจากการเลือกใช้น๊อตล้อที่ไม่ถูกต้องครับ ขันไปคิดว่าแน่นแล้ว เอาลงไปวิ่งก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
     
    [media=]
    [/media] 
    ด้วยความห่วงใยครับ
     
    เต้ย
  20. Like
    mnirun got a reaction from SUWATTHNA in แจก CIVIC Shop Manual เอาไว้งัดแงะรถเล่น   
    เห็นว่าบ้านนี้ยังไม่มีใครแจกผมเลย upload ให้ครับ ไฟล์ผมบีบอัดให้ขนาดเล็กมากๆ เหลือเพียง 34.6 MB (Solid WinRAR) จะได้โหลดกันสบายๆ แต่เวลาแตกไฟล์อาจจะนานนิดนึงนะครับ
     
    CIVIC Shop Manual
     
    หาก link เสีย ไม่สามารถ download ได้ PM มาหาแล้วผมจะ re-upload ให้ใหม่ครับ
     

     
    หรือหากอยากดูแบบ Online ผมก็มี link ให้ครับ
     
    Honda Civic Sedan 2006 R18A Searchable Online Service and Repair Manual
     

  21. Like
    mnirun got a reaction from Ohm in กรอง K&N แบบแทนกรองกระดาษแบบเดิม ใช้งานดีไหมครับ   
    ขอเอาข้อมูลเก่า มาเล่าใหม่นะครับ
     
    ประเภทของกรองอากาศหลักๆ ก็มี
     
    1. กรองกระดาษ (กรองแห้ง)
     
    กรองเดิมติดรถเป็นแบบแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากกระดาษ (dry, paper filter) แลัวพับเป็นจีบ (pleated) เพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสในการกรองอากาศให้มากขึ้น กรองฝุ่นผงได้ดีที่สุด แต่อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ทำได้เพียงเป่ากรองเพื่อลดฝุ่นที่เกาะอยู่บนผิวกระดาษ อายุการใช้งาน 20,000 กิโลเมตร
     

     
    2. กรองแผ่นโฟม (กรองแห้ง)
     
    เช่นกรอง HKS เป็นกรองแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากโฟม (dry, foam filter) อากาศผ่านได้ดี HKS ใช้โฟมความละเอียดต่างกัน 3 ชั้นเพื่อเพิ่มความสามารถให้การกรองฝุ่นให้ดีีขึ้น สามาทำความสะอาดโดยล้างน้ำตัวแผ่นกรองได้ อายุการใช้งาน 30,000 กิโลเมตร
     

     
    3. กรองผ้ากอซ (กรองเปียก)
     
    ส่วนกรอง K&N เป็นกรองเปียก ตัวกรองเป็นผ้ากอซ (wet, gauze filter) นำมาทำเป็บจีบอยู่ในโครงตาข่าย อากาศผ่านได้ดี แต่ความสามารถในการกรองผุ่นต่ำ จึงจำเป็นต้องอาศัยน้ำยามาฉีดที่ตัวกรองเพื่อเพิ่มดักฝุ่นให้เกาะอยู่ที่ผิวตัวกรอง เมื่อใช้ไปถึงระยะเวลาหนึ่ง ฝุ่นก็จะเกาะอยู่บนผิวของตัวกรองทำให้อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี จึงต้องนำมาล้างแล้วฉีดน้ำยาใหม่ ข้อดีคือสามารถล้างน้ำและนำมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ
     
    ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรฉีดน้ำยามากเกินไป เพราะน้ำยาอาจไปเกาะที่ตัว Mass Airflow Sensor ทีอยู่ในกล่องกรองอากาศได้ครับ
     

     

     

  22. Like
    mnirun got a reaction from werayutsa in กรอง K&N แบบแทนกรองกระดาษแบบเดิม ใช้งานดีไหมครับ   
    ขอเอาข้อมูลเก่า มาเล่าใหม่นะครับ
     
    ประเภทของกรองอากาศหลักๆ ก็มี
     
    1. กรองกระดาษ (กรองแห้ง)
     
    กรองเดิมติดรถเป็นแบบแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากกระดาษ (dry, paper filter) แลัวพับเป็นจีบ (pleated) เพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสในการกรองอากาศให้มากขึ้น กรองฝุ่นผงได้ดีที่สุด แต่อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี ไม่สามารถทำความสะอาดได้ ทำได้เพียงเป่ากรองเพื่อลดฝุ่นที่เกาะอยู่บนผิวกระดาษ อายุการใช้งาน 20,000 กิโลเมตร
     

     
    2. กรองแผ่นโฟม (กรองแห้ง)
     
    เช่นกรอง HKS เป็นกรองแห้ง ตัวแผ่นกรองทำจากโฟม (dry, foam filter) อากาศผ่านได้ดี HKS ใช้โฟมความละเอียดต่างกัน 3 ชั้นเพื่อเพิ่มความสามารถให้การกรองฝุ่นให้ดีีขึ้น สามาทำความสะอาดโดยล้างน้ำตัวแผ่นกรองได้ อายุการใช้งาน 30,000 กิโลเมตร
     

     
    3. กรองผ้ากอซ (กรองเปียก)
     
    ส่วนกรอง K&N เป็นกรองเปียก ตัวกรองเป็นผ้ากอซ (wet, gauze filter) นำมาทำเป็บจีบอยู่ในโครงตาข่าย อากาศผ่านได้ดี แต่ความสามารถในการกรองผุ่นต่ำ จึงจำเป็นต้องอาศัยน้ำยามาฉีดที่ตัวกรองเพื่อเพิ่มดักฝุ่นให้เกาะอยู่ที่ผิวตัวกรอง เมื่อใช้ไปถึงระยะเวลาหนึ่ง ฝุ่นก็จะเกาะอยู่บนผิวของตัวกรองทำให้อากาศไหลผ่านได้ไม่ดี จึงต้องนำมาล้างแล้วฉีดน้ำยาใหม่ ข้อดีคือสามารถล้างน้ำและนำมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ
     
    ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรฉีดน้ำยามากเกินไป เพราะน้ำยาอาจไปเกาะที่ตัว Mass Airflow Sensor ทีอยู่ในกล่องกรองอากาศได้ครับ
     

     

     

  23. Like
    mnirun got a reaction from เป็นต่อ in ถามเรื่อง วิธีป้องกันดุมล้อเป็นสนิม   
    ผมซื้อมาจาก Tesco Lotus ครับ หรือไม่ก็เดินหาตาม Home Pro ได้ครับ หลอดเล็กๆ ราคาประมาณร้อยกว่าบาทครับ (น่าจะนะ หลายปีมาแล้ว)
     

  24. Like
    mnirun got a reaction from garapgos in ประกาศจับ 3792   
    ประกาศจับ 3792
     
    เจอกันที่สวนหลวงร.๙ ตอนเช้าๆ หลายครั้งแล้ว วันนี้โอกาสดี เจ้าของไม่อยู่ เดินไปถ่ายรูปมาจับเสียหน่อย
     

     
    ถ่้าเจอคันนี้แวะมาทักทายได้ครับ ผมไปวิ่งทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ครับ
     

  25. Like
    mnirun got a reaction from l-Ae-l in ประกาศจับ 3792   
    ประกาศจับ 3792
     
    เจอกันที่สวนหลวงร.๙ ตอนเช้าๆ หลายครั้งแล้ว วันนี้โอกาสดี เจ้าของไม่อยู่ เดินไปถ่ายรูปมาจับเสียหน่อย
     

     
    ถ่้าเจอคันนี้แวะมาทักทายได้ครับ ผมไปวิ่งทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ครับ
     

×
×
  • Create New...