Jump to content

nattakung

CCTH Member
  • Posts

    596
  • Joined

  • Last visited

Reputation Activity

  1. Like
    nattakung reacted to FAIII5TO P in คนไทยหรือเปล่า   
    พลังที่ยั้งยืน เพื่อใคร?
  2. Like
    nattakung reacted to clickkupopz in คนไทยหรือเปล่า   
    เอากำไรมาแชร์ๆชดเชยค่าลดค่าน้ำมันบ้างดิ
  3. Like
    nattakung reacted to NonGToN_FD in คนไทยหรือเปล่า   
    พลังที่ยั่งยืน กำไรที่ยาวนาน (ขำๆ ครับ)
  4. Like
    nattakung reacted to PU MidNight in คนไทยหรือเปล่า   
    เหตุผลที่คนไทยน้ำมันแพงเพราะตกตงเรื่อง ผลประโยชน์ กันไม่ลงตัว ผลเสียมาอยู่กับประชาชนตาดำๆเรานี่ไงครับ
     
     
    อยากให้อ่านครับ http://thaipolitics4all.blogspot.com/2009/08/blog-post_06.html
  5. Like
    nattakung reacted to gryffindor in คนไทยหรือเปล่า   
    คนถือหุ้น รวยข้ึนๆ
    ส่วนคนใช้ก็ป่นกันไปตามๆกัน
    "ทำ กัน ได้"
  6. Like
    nattakung reacted to Nueng7707 in คนไทยหรือเปล่า   
    คนไทยใช้ น้ำมันแพง ลดที 0.30 บาท แต่ ขึ้นที 0.60 บาท
    คนไทยจนลงเรื่อยๆ แต่ ปตท รวย ขึ้น
  7. Like
    nattakung got a reaction from sorachais in Thonburi Zone   
  8. Like
    nattakung got a reaction from ปาป๋องปาป๋อง in Thonburi Zone   
  9. Like
    nattakung reacted to BiG_MAMA in Thonburi Zone   
    . 5555 ตื่นเลยพี่ มีแรงทำงานแล้ววววว
  10. Like
    nattakung reacted to tock in Thonburi Zone   
    จุ๊กกรู้ ๆ ๆ ๆ
     

  11. Like
    nattakung reacted to GTRFD in รับรถ Civic FB   
    เมื่อวานไปรับ FB ของที่บ้านมาครับ เอารูปมาฝาก เพื่อน FD กัน

     

    free image hosting
     

     
    ถ่ายคู่กับ FD ES รุ่นพี่ซะหน่อย(ขออนุญาติเจ้าของรถมา ณ ที่นี้ครับ)
    ใครจะใหญ่กว่ากันมาดู



     
    สรุปจากการมอง ถ้ามองแยกคัน เรียงลำดับความใหญ่ FD > FB สูสี ES
     
    ถ้ามองด้วยสายตาแบบจอดเทียบ มองด้านท้ายตรงๆ FD สูสี FB > ES
    ความยาวด้านข้าง FD > FB สูสี ES
    ความกว้างตัวรถ FD > FB สูสี ES
    ความโฉบเฉี่ยวด้านท้าย FB >FD > ES
    ความโฉบเฉี่ยวด้านหน้า FD > ES
     
     
    ฟิวลิ่งการขับขี่
    ช่วงล่าง การเกาะถนน ผมแยกไม่ออกครับ FD กับ FB ใครเหนือกว่าใคร ถ้าให้คะแนนผมว่าสูสีแยกไม่ออกครับ แม้ FB จะมัลติลิ้งก็ตาม
    ความกระด้างรีวิวคุณจิมมี่บอกว่าช่วงล่างนุ่มนวลขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกกระด้างใกล้เคียงกับ FD นะ
     
    พวงมาลัย
    พวงมาลัย FB เบา กว่า FD ครับ เนื่องจากเป็นไฟฟ้า ผู้หญิงน่าจะชอบ
    แต่คิดว่า FD พวงมาลัยดูมั่นคงกว่า
     
    ระบบเบรค
    บอกได้เลยว่าหยุดได้ดั่งใจกว่า FD หลายเท่า เบรกดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
    ระบบไฟ
    FB ดูหรูหรา อลังการกว่า FD ครับ
     
    คันเร่ง
    มีระยะหน่วงมากกว่า FD ครับ และความสบายในการเหยียบคันเร่ง FD สบายกว่า อาจเป็นเพราะขาคันเร่งไม่เหมือนกัน
     
    อัตราเร่ง
    พอกันครับ
     
    เสียงเครื่อง
    ความดัง FB ดูเหมือนเสียงเครื่องดังน้อยกว่า
    ไพเราะ FD ชัดกว่า อาจเพราะดังกว่า
     
    ความกว้างภายใน
    FB ให้ความรู้สึกที่อึกอัดอย่างเห็นได้ชัดเจนจริงๆ
     
    ถ้าจะเปลี่ยนจาก FD ไปเป็น FB ความต่างที่ชัดเจนคงมีเรื่องฟังก์ชั่น กับระบบเบรค ที่ FB เหนือกว่าครับ นอกนั้นสูสี
     
    ยังไงใครที่ไปลองขับมาแชร์กันนะครับ
  12. Like
    nattakung got a reaction from AmPm in Thonburi Zone   
    GOOD MORNING EVERYBODY
     

  13. Like
    nattakung got a reaction from @Jo in Thonburi Zone   
    GOOD MORNING EVERYBODY
     

  14. Like
    nattakung reacted to riisetian in น้ำยาเคลือสีรถ ใช้ยี่ห้อไหนดีครับ   
    ครับ เครแล้ว ไปร้านก็อย่าลืมเวลาเราจะลงคลีนเนอร์ก็บอกให้เค้าลูบดินน้ำมันด้วยนะครับ
    แล้วก็ถามวิธีลงจากคนขายด้วยนะครับ ผมจะรอดูว่าเงาแค่ไหน
  15. Like
    nattakung reacted to Sam LADDER in flushing oil จำเป็นหรือเปล่าครับ สำหรับรถ 3 ปี วิ่ง 8 หมื่นโล   
    มองในมุมกลับกัน
     
    ทุกครั้งที่เราเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง .. ถ่ายออกหมดไหม
    ถ่ายออกไม่หมดแล้วมันไปค้างอยู่ตรงไหน .. ค้างอยู่นานเท่าใดแล้ว
     
    ค้างสะสมนานๆไปแล้วเกิดอะไรขึ้น .. สิ่งเหล่านี้คิดกันบ้างหรือเปล่า
     
    ลอง flush ดูสักครั้งแล้วน้องๆจะต้องตกตะลึง กับสิ่งที่ได้เห็น โดยเฉพาะตัวของน้ำมันที่ระบายออกมา
     
    ไม่เสียหายอะไรหรอกครับ .. ลองทำดู กล้าพูดแบบนี้เพราะเคยทำ และทำมานานหลายปีแล้ว
     
    ทุกคนสามารถ flush ด้วยตัวเองที่บ้านหรือที่อู่ไหนๆ ไม่ยากครับ (แต่เกียร์อาจจะยากนิดนึง)
  16. Like
    nattakung got a reaction from zensor in น้ำยาเคลือสีรถ ใช้ยี่ห้อไหนดีครับ   
    ที่ร้านประจำทำให้ผมนะครับ
     
    - ใช้ดินน้ำมัน ลูบกับน้ำยา ICE ของ TURTLE
     
    - ลง DIAMOND HARD WAX ของ SIMONIZ
     
    - จบด้วย ZYMOL LIQUID CLEANER WAX ครับ
     
    ลองศึกษาดูนะครับ
  17. Like
    nattakung got a reaction from serzaa in รบกวนช่วยทำแบบสอบถามหน่อยครับ   
    จัดให้เรียบร้อยแล้วครับผม
  18. Like
    nattakung reacted to Tommie in CCTH บนiphone   
    มีมาตั้งนานละคับ ตั้งแต่ลงบอร์ดใหม่ๆ แต่มันพังไปช่วงนึง ฝีมือผมเอง
     
    เลยเดิอดร้อนต้องไปให้ทีม support ชาวต่างประเทศ รีโมทมาซ่อม
     
    ตอนนี้ใช้งานได้ปกติละคับ ถ้าบอร์ดจับเจอว่าเปิดด้วยสมาร์ทโฟน
     
    จะอัตโนมัติเข้า โมบายสกินคับ เราสามารถกด Full version ตามที่วีคุงบอกได้คับ
     
    เวอชั่นโมบาย จะตัดลูกเล่นออกบางส่วน เพิ่อให้โหลดได้ไวขึ้นคับ
     
    และเพิ่มลูกเล่นบางส่วนที่สามารถให้ใช้งานบอร์ดได้ขณะถือมือถือมือเดียวคับ
     
    ลองดูจะติดใจคับ มีเฉพาะบอร์ดรุ่นใหม่ๆอย่างเรานะคับ
     
     
  19. Like
    nattakung reacted to Maew-Rx in สอบถามเรื่อง Reset ECU   
    FD ไม่กดคันเร่งสุดนะครับ
     
    ถอดขั้ว batt ออกทิ้งไว้มากกว่า 3นาที
     
    ประกอบขั้วกลับ สตาร์ทรถ โดยที่ไม่เปิดอุปกรณืใดๆเลย ติดเครื่องจนกว่าพัดลมไฟฟ้าจะติด 3ครั้งขึ้นไป
     
    จากนั้น ให้เปิดแอร์สุด ทั้งความเย็นและพัดลม เปิดไฟหน้าทั้งหมด ทั้งไฟสูง เพื่อให้กล่องได้เรียนรู้สภาพ high load ติดเครื่องทิ้งไว้ 5นาทีขึ้นไป
     
    จากนั้นช่วง 1-2วันนี้ขับเรื่อย อย่าพึ่งซิ่งมาก ให้ ecu ได้เก็บข้อมูลพื้นฐานของรถครับ
  20. Like
    nattakung reacted to Nueng7707 in หาคนเฉลยปัญหาข้อนี้   
    หนี้สิน =ทรัพย์สิน
    หนี้สิน พ่อ 500-10 แม่ 500-10
    ทรัพยสิน 970 เงินเหลือ 10
    (500-10)+(500-10)=970+10
    980=980
    ตังไม่ได้หายไปใหนครับ แต่ต้องแยกให้ถูกครับ
  21. Like
    nattakung reacted to zensor in หาคนเฉลยปัญหาข้อนี้   
    คนคิดต้องเป็นนักการเมืองแน่ๆ แอบกินเนียนๆ เย้ยย เผ่นนนนนน
  22. Like
    nattakung reacted to Puthapong in Thonburi Zone   
    ขอบคุณครับน้องต้น จัดมาโดยเร็ว ตอนนี้ไม่อยากเหลืออะไรที่โน้นแล้ว จะเอาออกก็ดูไม่ดี
  23. Like
    nattakung reacted to @Jo in Thonburi Zone   
    เหมาหมด
  24. Like
    nattakung got a reaction from AmPm in Thonburi Zone   
    ได้เลยจ้า แอม
  25. Like
    nattakung reacted to mie in น้ำมันเครื่องสำคัญแค่ไหน ??   
    สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนบ่อยที่สุดในอายุการใช้งานของรถยนต์คันหนึ่ง สิ่งนั้นคือน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ ที่ผมอยากจะกล่าวถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าลูกค้าที่เข้ามาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการของเรามักจะไม่แน่ใจว่าจะเลือกน้ำมันเครื่องอย่างไรดี ส่วนใหญ่นั้นมักจะเลือกจากยี่ห้อเป็นหลัก ซึ่งทำให้น้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์บางยี่ห้อที่มีคุณภาพดีๆถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย โดยเฉพาะยี่ห้อของคนไทยเอง เริ่มด้วยการอธิบายหน้าที่ของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์กันก่อนนะครับ
     
    1. หน้าที่ในการหล่อลื่น
    โดยน้ำมันหล่อลื่นจะเคลือบชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์ในลักษณะเป็นฟิล์มเคลือบอยู่ที่ผิวโลหะ เพื่อช่วยลดการสัมผัสกันโดยตรงของชิ้นส่วนโลหะ โดยความหนาของฟิล์มนั้นขึ้นอยู่กับความหนืดของน้ำมันเครื่อง
     
    2. หน้าที่ในการระบายความร้อน
    ในช่วงที่เครื่องยนต์กำลังทำงานนั้นจะเกิดความร้อนขึ้นบริเวณรอบๆฝาสูบ รอบๆกระบอกสูบ ลูกสูบ ข้อเหวี่ยงและ ชิ้นส่วนภายในต่างๆ ปั๊มน้ำมันเครื่องจะส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ เมื่อน้ำมันเครื่องไหลกลับก็จะพาเอา ความร้อนกลับลงไปสู่อ่างน้ำมันเครื่องด้วย จึงเป็นการระบายความร้อนให้ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์อีกทางหนึ่ง
     
    3. หน้าที่ในการป้องกันสนิมและการกัดกร่อน
    การเผาไหม้ในเครื่องยนต์จะทำให้เกิดความชื้นและไอน้ำ เป็นสาเหตุให้เกิดสนิมกับชิ้นส่วนต่างๆ ขณะเดียวกัน การเผาไหม้เชื้อเพลิงก็ทำให้เกิดกรดกำมะถัน ซึ่งสามารถกัดกร่อนชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ให้สึกหรอได้ น้ำมันเครื่องมีหน้าที่ทำให้ไอน้ำและกรดกำมะถันเจือจางลงซึ่งช่วยป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้
     
    4. หน้าที่ในการป้องกันการรั่วของกำลังอัด
    น้ำมันเครื่องที่มีลักษณะเป็นฟิล์มจะช่วยเคลือบผนังกระบอกสูบ เพื่อทำหน้าที่ป้องกันการรั่วของกำลังอัดภายใน
    กระบอกสูบที่จะไหลผ่านระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบลงสู่ห้องแคร้งของเครื่องยนต์
     
    5. หน้าที่ในการทำความสะอาด
    การเผาไหม้ในเครื่องยนต์จะทำให้เกิดเขม่าและผงโลหะ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันภายในชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้
    เพราะฉะนั้นน้ำมันเครื่องมีหน้าที่ชะล้างเขม่าและป้องกันการรวมตัวกันของผงโลหะที่อาจทำให้เกิดการอุดตันได้
     
     

     
     
    ความสำคัญกับการเลือกน้ำมันเครื่อง พอจะแนะวิธีการเลือกใช้น้ำมันเครื่องในเบื้องต้นดังนี้
     
    1. เลือกจากชนิดของน้ำมันเครื่อง คือการเลือกโดยดูจากพื้นฐานของน้ำมันเครื่องว่าเป็นชนิดไหน ซึ่งจะมีผลกับอายุการใช้งานของน้ำมันเครื่อง โดยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 3 ชนิด ดังนี้
    1.1 น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา
    1.2 น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์
    1.3. น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
     
    โดยข้อแตกต่างของน้ำมันเครื่องทั้งสามชนิดนี้ก็คือโครงสร้างของโมเลกุลในตัวน้ำมันเครื่องที่มีการยึดตัวเกาะกัน
    โดยการยึดตัวของอะตอมที่ต่างกันทำให้น้ำมันเครื่องสามารถคงความหนืดและลักษณะการเป็นฟิล์มได้นานต่างกัน สรุปง่ายๆว่าข้อแตกต่างของน้ำมันเครื่องทั้งสามชนิดก็คือระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั่นเอง
     
    โดยระยะเวลาของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนั้นอาจแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้รถยนต์ของแต่ละท่าน เช่น บางท่านอาจวิ่งทางไกลอย่างเดียวซึ่งไม่ค่อยพบกับการจราจรที่ติดขัด ระยะเลขกิโลเมตรที่หน้าปัทม์ของรถท่านก็อาจตรงกับระยะทางที่ท่านวิ่งจริงๆ ท่านสามารถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามที่กำหนดไว้หรือมากกว่าได้ แต่ผู้ที่พบการจราจรที่ติดขัดอยู่เป็นประจำ แม้รถของท่านจะไม่ได้วิ่งแต่เครื่องยนต์ของก็ทำงานตลอดเวลา จึงควรจะเปลี่ยนเร็วกว่าที่กำหนดไว้สักนิด
     
    2. เลือกจากเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่อง คือการเลือกโดยดูจากเกรดคุณภาพที่เกิดจากการทดสอบคุณสมบัติด้านต่างๆของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณภาพและประสิทธิภาพเกือบทุกด้านของน้ำมันเครื่อง โดยสถาบันที่ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกให้เป็นผู้ทดสอบคือสถาบัน API ที่ย่อมาจาก AMERICAN PETROLEUM INSTITUTE โดยAPI จะแบ่งเกรดคุณภาพเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
     
    กลุ่มที่ 1 คือเกรดคุณภาพสำหรับเครื่องยนต์เบนซินซึ่งตามหลังอักษรย่อ API โดยจะใช้ตัวอักษร S
    (STATION SERVICE-SPARK IGNITION) นำหน้าตัวอักษรย่อที่บ่งบอกเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่องซึ่งเริ่มจากตัวอักษร A ซึ่งเป็นเกรดคุณภาพต่ำสุดจากนั้นจึงไล่ตามตัวอักษรไปเรื่อยๆ คือ B, C, D, E, F, G, H,J และ Lเช่น API SG, API SJ, API SL และ API SM ซึ่งเป็นเกรดคุณภาพสูงสุดในปัจจุบัน เราสามารถดูเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่องที่แสดงไว้บนฉลากข้างแกลลอน
     
    กลุ่มที่ 2 คือเกรดคุณภาพสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งตามหลังอักษรย่อ API โดยจะใช้ตัวอักษร C (COMMERCIAL SERVICE-COMPRESSION IGNITION) นำหน้าตัวอักษรย่อ ที่บ่งบอกเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่องซึ่งเริ่มจากตัวอักษร A ซึ่งเป็นเกรดคุณภาพต่ำสุดจากนั้นจึงไล่ตามตัว อักษรไปเรื่อยๆคือ B, C,D, E, F, G, Hและ I เช่น API CF, API CG-4, API CH-4และ API CI-4 (เลข 4 ที่ตามหลังหมายถึง เน้นใช้สำหรับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ)
     
    ตามความเป็นจริงแล้วทั้งน้ำมันเครื่องของเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลนั้น สามารถใช้ได้กับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลได้ แต่จะมีความเหมาะสมกับเครื่องยนต์แต่ละชนิดต่างกัน หากน้ำมันเครื่องชนิดไหนที่เหมาะกับเครื่องยนต์เบนซิน ทางสถาบัน API จะนำเกรดคุณภาพที่เหมาะสมมา ไว้ข้างหน้าเช่น น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์เบนซินจะมีเกรดคุณภาพดังนี้ API SL/CF หรือน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ดีเซลก็จะมีเกรดคุณภาพดังนี้ API CH-4/SJ ซึ่งหมายความว่าเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่องดีเซลชนิดนี้เทียบเท่ากับเกรดคุณภาพของน้ำมันเครื่องเบนซินในเกรดคุณภาพ SJ นั่นเอง ส่วนที่แตกต่างกันของน้ำมันเครื่องทั้ง 2 เกรดคุณภาพคือ ส่วนประกอบอื่นๆของน้ำมันเครื่องเช่นสารเพิ่มคุณภาพ (ADDITIVES) ซึ่งเหมาะกับเครื่องยนต์ที่ต่างชนิดกัน ในปัจจุบันผมแนะนำให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพสูงสุดหรือใกล้เคียงเกรดคุณภาพสูงสุดอยู่เสมอ ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าเกรดที่ต่ำกว่าแต่ก็คุ้มค่ากว่าเช่นกัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบราคาของน้ำมันเครื่องเกรดคุณภาพ ต่ำกับเกรดคุณภาพสูงสุดนั้นราคาก็ต่างกันไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้นเอง
     
    3. เลือกจากเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่อง ความหนืดของน้ำมันเครื่องจะเกี่ยวข้องกับการสร้างชั้นเคลือบและการไหลเวียนของน้ำมันเครื่อง ซึ่งเกรดความหนืด คืออัตราการไหลของปริมาณต่อขนาดและความยาวของรู ต่อหน่วยเวลา ณ อุณหภูมิหนึ่ง เช่น น้ำมัน 60 ซี.ซี ไหลผ่านรูขนาด 12.25 มิลลิเมตร ณ อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ส่วนหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในการวัดเกรดความหนืดก็คือสมาคมวิศวกรรมยานยนต์หรือ SAE (SOCIETY OF AUTOMOTIVE ENGINEERS) โดยเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องจะแสดงเป็นอักษรย่อ SAE แล้วตามด้วยเกรดความหนืดเป็นตัวเลข เช่น 5,10,15,30,40 และ 50 เป็นต้น โดยตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดก็จะสูงตามไปด้วยเช่น SAE 10W-50 จะมีความหนืดมากกว่า SAE 5W-40 ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็นการวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน
     
    1. วัดที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะตามด้วยอักษร W (WINTER) เช่น 5W, 10W
     
    2. วัดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งตัวเลขเกรดความหนืดจะเป็นตัวเลขอย่างเดียวเช่น 30, 40, 50
     
    การเลือกน้ำมันในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศร้อนให้ดูที่ตัวเลขตัวหลังสุดที่ไม่มีตัวอักษรนำหน้าอย่างเดียวก็พอ
    เพราะประเทศไทยไม่มีอุณหภูมิติดลบจึงไม่มีความจำเป็นต้องดูตัวเลขที่มีตัวอักษร W ตามหลัง
     
    ส่วนการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องนั้น ให้ดูจากคู่มือประจำรถยนต์ หากไม่ทราบเกรดความหนืดที่แน่นอนให้ใช้เกรดความหนืด 40 หากเครื่องยนต์มีอาการกินน้ำมันเครื่องให้เปลี่ยนเป็นเกรดความหนืด 50
     
    ปัจจัยอื่นๆในการเลือกเกรดความหนืดของน้ำมันเครื่องก็คืออุณหภูมิของอากาศและสภาพความหลวมของชิ้นส่วน ในเครื่องยนต์ หากอากาศภายนอกเย็นหรือเครื่องยนต์เย็น น้ำมันเครื่องควรใสและไหลง่าย เพื่อหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยต์ขณะสตาร์ทและใช้งาน หากเครื่องยนต์ร้อนแล้วน้ำมันเครื่องใสเกินไป ชั้นเคลือบหรือฟิล์มจะบางเกินไปและไม่สามารถปกป้องชิ้นส่วนเครื่องยนต์จากการสึกหรอได้ หากเครื่องยนต์ผ่านการใช้งานมามาก และเครื่องยนต์เริ่มหลวมก็ควรเลือกน้ำมันที่มีเกรดความหนืดมากขึ้น จากมาตรฐานที่กำหนดในคู่มือรถยนต์ สักหน่อยเช่นจาก 40 เป็น 50 เพราะชั้นเคลือบหรือฟิล์มที่หนาขึ้น สามารถเข้าไปอุดช่องว่างที่เกิดจากการ สึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วย ในส่วนนี้สามารถช่วยป้องกันกำลังอัดรั่วไหลของ เครื่องยนต์ที่เกิดจากช่องว่างระหว่างแหวนลูกสูบและกระบอกสูบได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย ส่วนท่านที่ใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้อของผู้ผลิตรถยนต์มาตลอดแล้วอยากเปลี่ยนก็สามารถทำได้ โดยเลือกน้ำมันที่มีเกรดคุณภาพและเกรดความหนืดเท่ากัน ก็สามารถใช้ทดแทนกันได้แล้วครับ บางทีท่านอาจได้ใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูงกว่าเดิมอีกด้วย
     
    ขอขอบคุณ http://www.auto-thailand.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539509776&Ntype=16
×
×
  • Create New...