Jump to content

ambre

CCTH Member
  • Posts

    38
  • Joined

  • Last visited

Reputation Activity

  1. Like
    ambre got a reaction from Pilotstreet_FD1 in กรอง K&N แบบแทนกรองกระดาษแบบเดิม ใช้งานดีไหมครับ   
    ข้อดีที่เห็นชัดเจนคือ ประหยัดครับ กรอง 1 ชิ้น + น้ำยา 1 ชุด ใช้กันลืมโลกไปเลย
    ส่วนมีผลกับเครื่องไหม ผมว่าอยู่กับลักษณะถนนที่ขับนะครับ
    ถนนฝุ่นๆ กรอง 0 ยังแนะนำให้เปลี่ยนที่ 5000 กม.ขยันล้างบ่อยๆ ดีกว่าอยู่แล้ว
     
    ส่วนความแรง แค่เปลี่ยนกรองแผ่นอย่างเดียวไม่รู้สึกหรอกครับ ส่วนประกอบมันเยอะ
    อัตราส่วนน้ำมัน ตารางไฟ อากาศ การไหลของไอเสีย
  2. Like
    ambre got a reaction from sk2514 in ตอนนี้หัวฉีดพังต้องเปลี่ยนใหม่ ถือเปนเรื่องปกติหรือป่าว   
    เพิ่งเป็นมาครับ เปลี่ยนมาเรียบร้อย
    สังเกตุอาการตามนี้ครับ
    - ห้องเครื่องร้อนขึ้นกว่าเดิม
    - อัตราเร่งจะไม่ค่อยดี เร่งไม่ค่อยขึ้น ตื้อๆ
    - และถ้ามีหัวฉีดซักหัวลาโลกไปแล้ว เครื่องจะสั่นครับ
    อย่าฝืนขับนะครับ เข้า 0 เข้าอู่ เปลี่ยนเลย
    เปลี่ยนให้หมดทั้ง 4 หัวเลย มันเสียตามๆ กันไป
  3. Like
    ambre got a reaction from M PICCOLO in flushing oil จำเป็นหรือเปล่าครับ สำหรับรถ 3 ปี วิ่ง 8 หมื่นโล   
    ไม่ควรทำครับ เพราะซากอารยธรรมต่างๆ ของเครื่องยนต์ ตั้งแต่ออกป้ายแดงจนถึงปัจจุบัน
    จะถูกตีให้ลอยขึ้นมา ถ้าโชคดีมันไหลออกไปพร้อมน้ำมันหมด ก็ไม่มีอะไร
    แต่ถ้าโชคร้ายเศษชิ้นส่วนโลหะไปติดตามชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวต่างๆ ลองนึกสภาพละกันครับ
    อย่างน้อยก็แค่โดนขูดเป็นรอย แต่ถ้ามากๆ เข้าไปติดขัด เรื่องเล็กๆ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
    แค่เปลี่ยนถ่ายของเหลวตามเวลาก็พอครับ
    - น้ำมันเครื่อง ไม่เกิน 10000 km. (fully syn)
    - น้ำมันเกียร์ A/T ไม่เกิน20000 km. (ของ 0)
    - น้ำมันเกียร์ M/T ไม่เกิน 50000 km. (ของ 0)
  4. Like
    ambre got a reaction from hackcomen in flushing oil จำเป็นหรือเปล่าครับ สำหรับรถ 3 ปี วิ่ง 8 หมื่นโล   
    ไม่ควรทำครับ เพราะซากอารยธรรมต่างๆ ของเครื่องยนต์ ตั้งแต่ออกป้ายแดงจนถึงปัจจุบัน
    จะถูกตีให้ลอยขึ้นมา ถ้าโชคดีมันไหลออกไปพร้อมน้ำมันหมด ก็ไม่มีอะไร
    แต่ถ้าโชคร้ายเศษชิ้นส่วนโลหะไปติดตามชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวต่างๆ ลองนึกสภาพละกันครับ
    อย่างน้อยก็แค่โดนขูดเป็นรอย แต่ถ้ามากๆ เข้าไปติดขัด เรื่องเล็กๆ อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้
    แค่เปลี่ยนถ่ายของเหลวตามเวลาก็พอครับ
    - น้ำมันเครื่อง ไม่เกิน 10000 km. (fully syn)
    - น้ำมันเกียร์ A/T ไม่เกิน20000 km. (ของ 0)
    - น้ำมันเกียร์ M/T ไม่เกิน 50000 km. (ของ 0)
  5. Like
    ambre reacted to Puthapong in 7 วิธี ขับประหยัดกับเกียร์ ออโต้   
    7 วิธี ขับประหยัดกับเกียร์ ออโต้
     
    ข้อมูลทั่วไป
    ช่วงนี้แม้ราคาน้ำมันอาจจะลงไปแล้วหลังนโยบายรัฐบาลตัดสินลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันส่งผลให้ราคาทรุดฮวบไปในทันใด แต่ถึงจะเริ่มวางใจได้แต่นโยบายนี้ก็เปิดมาแล้วว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราว และการประหยัดที่แท้จริงยังอยู่กับเราๆท่านๆเหมือนเดิม
    หลายครั้งที่เราออกมาพูดเรื่องการประหยัดน้ำมันปาวๆ ทำโน่นนี่นั่น แต่ครั้งนี้เราจะต่างออกไปด้วยการพูดถึงเทคนิคการขับเสียส่วนใหญ่ ที่คราวนี้เราขอตามกระแสกับ 7 เทคนิคที่คุณต้องรู้เอาไว้ ถ้าคุณกำลังใช้รถเกียร์อัตโนมัติ

    1.รู้จักรถยิ่งขับยิ่งประหยัด เราหลายคนรู้จักรถดีขับมันทุกวันแต่ไม่คุ้นเคยกับนิสัยของมันเรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงที่น่าแปลก เพราะการขับขี่นั้นจำเป็นต้องรู้จักรถให้ดี สิ่งหนึ่งที่ต้องจดจำคือช่วงที่แรงบิดสูงสุดถูกเรียกออกมา ซึ่งจะมีประโยชน์มากยามเร่งแซง
    2.Walking Speed หลายคนที่ขับรถนั้นไม่ค่อยคุ้นกับคำนี้เท่าไรนักแต่ walking Speed นั้นหมายถึงการที่รถยนต์สามารถเคลื่อนได้ด้วยตัวเองโดยที่เราไม่ต้องแตะคันเร่ง ตามปกติสำหรับเกียร์ออโต้แล้ว Walking speed คือสิ่งที่เราทำกันอยู่ประจำยามที่เราไม่ได้เดินคันเร่ง ซึ่งมีประโยชน์ตอนที่กาจราจรติดขัดหรือตอนเข้าที่จอดรถ เพราะยิ่งเร่งน้อยก็ยิ่งประหยัด
    3 เกียร์ L ขึ้นทางชันรับรองว่าประหยัดกว่า ในการขึ้นทางชันนั้นเราหลายคนมักละเลยในการเปลี่ยนโหมดเกียร์มาใช้เกียร์ L ด้วยความสะดวกเข้าว่า ความจริงแล้วถามว่าผิดหรือคำตอบคือไม่ แต่มันไม่เหมาะสม เพราะเกียร์ D นั้นจะทำการเปลี่ยนเกียร์ แต่ในการขึ้นทางชันที่แรงต้านทานจากเนินสูง โดยเฉพาะการขึ้นที่จอดรถ การใช้เกียร์ L โดยใช้กำลังแรงบิดเครื่องส่งขึ้นนั้นจะทำให้รถไม่ต้องออกแรงสู้กับเนินมากผลคือประหยัดกว่า ชัวร์!
    4.คิกดาวน์อย่าทำบ่อยถ้าไม่จำเป็น การคิกดาวน์ในเกียร์อัตโนมัตินั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสร้างความสะดวกสบายในการเร่งแซง แต่มันก็ต้องแลกมาดัวยอัตรากินน้ำมัน ซึ่งแม้ระบบเกียร์ปัจจุบันจะมีการพัฒนาให้ตอบสนองได้ดีส่งกำลังได้มากยิ่งขึ้น แต่การคิกดาวน์ก็ยังเปรียบได้ดั่งการกระชากเกียร์อยู่ดี
    หลายคนที่ขับเกียร์อัตโนมัติเข้าใจว่าการคิกดาวน์นั้นเป็นหนทางเดียวที่เร่งแซง แต่ความจริงแล้วนอกจากที่ปลายเท้าแล้วยังมีการใช้ระบบ Overdrive หรือ O/d ซึ่งทำให้เกียร์เปลี่ยนอย่างนิ่มนวลมากกว่าการคิกดาวน์หรือบางคันเป็นตำแหน่ง 3/D3 ตามแต่ยี่ห้อรถ

    5 คันเร่งเดินให้เนียน หลายคนที่ไม่ได้ฝึกขับรถอย่างจริงจังนั้นมักจะไม่ทราบว่าการเดินคันเร่งนั้น เป็นเรื่องสำคัญยิ่งชีพในการพิชิตความประหยัดที่จะใช้น้ำมันทุกหยดให้คุ้มค่า การใช้คันเร่งนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากในรถเกียร์ออโต้ เพราะเมื่อเรากดคันเร่งลึกไประบบเกียร์ก็จะคิกดาวน์หรือน้อยไป รถก็วิ่งแบบคลานๆ เราต้องหาความพอดี โดยอาจจะใช้วิธีกดเร่งไปถึงระดับความเร็วที่ต้องการก่อนแล้วผ่อนรักษาความเร็ว ซึ่งก็เป็นวิธีหนึ่งที่ให้การประหยัดน้ำมันที่ดีทีเดียว และที่สำคัญไปกว่านั้นพยายามรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดทาง หากรถคุณมีระบบ Cruise Control อย่าลืมที่จะใช้มันในการขับขี่
    6.เบรคให้น้อยชะลอบ่อยๆ เราหลายคนที่ขับรถยนต์เกียร์ออโต้ที่ชินกับการเร่งและเบรคนั้น อาจจะไม่ค่อยมีสไตล์การขับขี่ที่ใช้วิธีชะลอความเร็วเหมือนคนที่ขับรถเกียร์รรมดา ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ามาจากความคุ้นเคย แต่เชื่อหรือไม่การชะลอความเร็วโดยไม่เบรคนั้นเป็นหนึ่งในกระบวนการของวิธีประหยัดน้ำมันด้วย
    เรื่องนี้ฟังดูไม่น่าเกี่ยวกันแต่มันคือข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อเราเบรคลดลมจากท่อไอดีจะถูกดูดมาที่หม้อลมเพื่อลดการทำงานของเครื่องยนต์ซึ่งจะมีอัตราลดลงมากกว่าการที่เราไม่เหยียบคันเร่งหรือชะลอความเร็ว นี่ยังไม่นับการสูญเสียน้ำมันกับการเร่งเมื่อความเร็วลดลงกว่าที่ขับปติ ซึ่งเท่ากับการซดน้ำมัน 2 เท่าตัว




    7.หัดใช้เทคโนโลยีใหม่ ปัจจุบันรถยนต์เกียร์ออโต้หลายรุ่นเริ่มมีการติดตั้งระบบ start/stop function เข้ามาเพื่อหยุดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราว ระบบนี้ช่วยคุณประหยัดได้มาก-มาที่สุดในสภาวะการจราจรที่ติดขัด เพราะเมื่อเครื่องยนต์หยุดทำงานก็หยุดจ่ายน้ำมัน ผลคือประหยัดแน่นอน ดังนั้นจึงควรเรียนรู้ไว้ โดยปกติแล้วระบบดังกล่าวจะทำงานเมื่อเราเหยียบแป้นเบรคเป็นระยะเวลานานๆ ส่วนวิธีการรีสตาร์ทเครื่องนั้นก็เพียงกดคันเร่งก็สามารถขับขี่ต่อได้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายระบบที่สำคัญต้องลองหัดดูครับ
    ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้คุณสามารถเซฟเงินในกระเป๋าได้เมื่อขับรถเกียร์ออโต้ ที่แม้ราคาน้ำมันในชั่วโมงนี้อาจจะยังไม่น่าห่วงแต่ฝึกเอาไว้ให้ชินจะมีประโยชน์มากเมื่อยามน้ำมันกลับมาแพง
     
    ที่มาของข้อมูล http://auto.sanook.com/2877/7-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89/
  6. Like
    ambre reacted to tonsena in project DIY ไฟท้ายเดิม เครดิตคุณเกรซ Zephyr ครับ   
    เจ้าของ DIY อันนี้คือคุณ เกรซ Zephyr ครับ ทั้งไฟหน้า Projector ไฟท้าย LED ของเขาทั้งนั้น
     
    http://www.youtube.com/watch?gl=CA&hl=en&v=uAmpnXnpRP8
     
     
    มาแล้วครับรูป พร้อมคำอธิบายคร่าวๆ
    อย่างแรกต้องบอกก่อนนะครับว่า งานนี้จะว่ายากก็ยาก จะว่าไม่ยากก็ไม่ยากครับ
    ความยากของมันไม่ได้อยู่ที่การทำวงจรหรือต่อสายอะไรครับ แต่อยู่ที่
    1. การหาอุปกรณ์ครับ โดยเฉพาะ LED ผมไปเดินบ้านหม้อมาถามคนขายว่า LED นี้มี spec หรือเปล่า คำตอบคือไม่รู้ 55 คนขายของยังไม่รู้เลยครับ ดังนั้นผมจึงต้องใช้วิธีเสี่ยงเอา คืองี้ครับ ผมต้องการ LED ที่เป็นแบบ super flux คือสว่างกว่า LED ทั่วๆไป ตามปรกติ LED แบบ super flux คือแบบที่มี 4 ขา โดยจะกินกระแสที่ประมาณ 70 mA แต่บ้านเราแยกลำบากเพราะว่า LED แบบสี่ขาที่บ้านเราขายกันนั้นทำจากหลายที่มากๆ แล้วก็ไม่ได้มีการคุม spec ส่วนใหญ่จะใช้กระแสปรกติแบบ 3 mm หรือ 5 mm ที่เป็น 2 ขา คือที่ 20 mA
    วิธีการที่ผมทำคือไปทีร้านแถวบ้านหม้อ แล้วผมก็เลือกเอาอันที่มันสว่างที่สุดอ่ะ มั่วๆเอาเลยซะงั้น (แต่สำหรับ LED สีส้มที่ผมซื้อมานั้น บังเอิญผมค่อนข้างมั่นใจระดับนึงว่าสามารถทนกระแสได้ที่อย่างน้อย 50 mA เนื่องจาก packaging มันดูมีมาตรฐานดี คือบรรจุใน หลอดขนาด 60 ดวง และมี part no. และ lot code ครับ)
    2. การแกะโคม เนื่องจากการ seal โคมไฟท้ายนั้นมันไม่เหมือนไฟหน้าที่ใช้ความร้อนในการแกะ แต่การ seal โคมไฟท้ายใช้วิธีการเชื่อมพลาสติก ดังนั้นวิธีการแกะคือต้องตัดอย่างเดียว ผมใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องเจียรมือขนาดจิ๋ว ที่เปลี่ยนหัวได้ครับ เป็นหัวตัด ซึ่งผมซื้อไว้ใช้ตั้งแต่โปรเจ็คโคมไฟหน้าครับ ส่วนการ seal กลับนั้นง่ายมาก ใช้ silicone ใสครับ หลังจาก seal แล้วแกะมาแก้ไขได้ง่ายด้วย
    เอาล่ะครับ เรามาเริ่มขั้นตอนกันเลย

    ภาพแรกเป็นภาพที่ผมทดลองวาง LED บนแผ่นวงจรเอนกประสงค์ครับ เพื่อให้ได้ขนาดตามต้องการ ตกลงใช้ LED 20 ดวงต่อ ไฟท้าย 1 ดวง
    เนื่องจากไฟรถอยู่ที่ประมาณ 12 volt แต่ LED สีแดงมี forward voltage ที่ประมาณ 2.0-2.5 โวลต์ ดังนั้นผมจะใช้ LED 4 ดวงต่อ 1 แถว แล้วต่อกับตัวต้านทานขนาด 82 โอห์ม เพื่อคุม forward current ที่ประมาณ 35 mA (อย่างที่บอกผมไม่แน่ใจสักเท่าไรนะครับ จริงๆผมอยากได้กระแสที่ ประมาณ 50 mA)
    ดังนั้นในไฟท้าย 1 ดวงผมต้องต่อ LED แบบขนาน 5 แถว แถวละ 4 ดวง)


    ภาพที่สองและสาม หลังจากต่อเสร็จแล้วครับ

    ภาพที่สี่ เป็นการทดลองว่าต่อเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร
    สังเกตกล่องสีดำจะเป็น voltage regulator และ Pulse Width Modulation (PWM) หน้าที่ของมันคือ หนึ่ง ควบคุมvoltage ให้คงที่ที่ 12 volt (ไฟรถผมเวลาติดเครื่องจะจ่ายไฟ 13.5 volt และจะ drop ตอนพัดลมทำงานครับ) และสอง ควบคุมความสว่างของไฟท้าย (ความสว่างของไฟท้ายตอนไม่เหยียบเบรก ผมสามารถปรับได้ครับ แต่จะไม่ปรับ max เพราะ ค่า max นั้นสำหรับตอนเหยียบเบรก)

    เอาหละ test ดู เอาไปใส่ในโคม ตอนเหยียบเบรก และไม่เหยียบเบรก


    หน้าตาไม่สวยแฮะ ต้องตบแต่งหน่อย โดยการใช้ แผ่นฝ้าอะคริลิก สำหรับทำฝ้าที่มีไฟอยู่ด้านในน่ะครับ เอามาตัดและเจาะรู

    แต่เนื่องจากมันยังไม่สวยเท่าไร เลยเอา sticker มาแปะซะ ได้เรื่อง!!!


    เสร็จแล้วสำหรับไฟท้าย ต่อไปเป็นไฟเลี้ยว
    ไฟเลี้ยวนี่วุ่นวายเล็กน้อยตอนผมทำ เหมือนเดิมผมต่อ LED สี่ดวงต่อ 1 แถว แต่คราวนี้ผมใช้กระแสมากหน่อย คือที่ 45 mA ด้วยเหตุผลที่ผมบอกข้างต้น ดังนั้นเลยต่อตัวต้านทานที่ 56 โอห์มต่อแถวครับ
    ที่นี้ เนื่องจากว่าผมต้องการให้มันเป็นแบบ sequential ผมก็ต้องวางแผนหน่อย อย่างแรกก็ต้องตัดแผ่นวงจรให้ได้ขนาดใกล้เคียงกับช่องที่เป็นไฟเลี้ยว แล้วก็ดูว่าจะแบบเป็นกี่ segment ดี โดยวงจรที่ผมเอามาทำนั้นประกอบด้วย IC 4017 ซึ่งเป็น decade counter คือแบ่งได้มากสุด 10 ช่อง

    สรุปแล้วผมแบ่งเป็น 7 segment ครับ (โดยบาง segment จะประกอบด้วย LED 2 แถว บาง segment จะประกอบด้วย LED 1 แถว เพื่อให้สอดคล้องกับรูปร่างของแผ่นวงจรครับ) คือไฟจะสว่างไล่จาก segment ที่ 1 ไล่ไปจนถึง segment ที่ 7 โดยความเร็วของการไล่จะสามารถปรับได้จากตัว variable resistant (จำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับจังหวะของไฟเลี้ยวของรถ)

    ระหว่างทำมันก็มีปัญหาเล็กๆน้อยๆหลายอย่าง แต่ผมคงไม่สาธยายนะครับ เพราะมันเป็นรายละเอียด เอาเป็นว่าถ้าใครจะทำแล้วเจอปัญหาก็ค่อยถามมาละกัน


    เอาหละเสร็จแล้ว จริงๆผมมีการตัด อะคริลิก เพื่อตีกล่องในช่องไฟเลี้ยวด้วยนะครับแต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา ตอนนั้นรีบทำไปหน่อย คือผมตีกล่องเพื่อวางแผ่น LED ให้อยู่ตื้นขึ้นมาหน่อยโดยหลัง LED นั้นผมสามารถใส่วงจร sequential ซ่อนไว้ได้ และยังใส่หลอดไฟเลี้ยวเดิมไว้ได้ด้วย
    หลายคนอาจจะงงว่าทำไมผมต้องใส่หลอดไฟเลี้ยวเดิมไว้ด้วย อันนี้เป็น technique ครับ สำหรับคนที่ไม่ทราบก็รับไว้เป็นความรู้ละกันครับว่าถ้าเราเอาหลอดไฟเลี้ยวออก คือไม่ต่อไว้ ไฟเลี้ยวจะกระพริบด้วยควาถี่ที่สูงขึ้นเพราะว่าระบบมันจะคิดว่าหลอดไฟขาดครับ พูดง่ายๆคือ relay หน่วงเวลาไฟเลี้ยวมันพบว่า load ไม่พอ ดังนั้นมันจึงไม่หน่วงเวลา
    การแก้ไขตรงนี้สำหรับรถรุ่นอื่นอาจจะไปซื้อ electronics relay มาเปลี่ยนแทน relay ไฟเลี้ยวเดิมได้ แต่สำหรับ FD ไม่ได้คับ เพราะตัว relay ไฟเลี้ยวของ FD นั้นมัน integrate อยู่ที่แผงควบคุมด้านหน้า (ที่ หน้าปัด) ผมเลยต้องต่อหลอดไฟเลี้ยวเดิมขนานไว้ด้วยเพื่อให้ระบบมี load พอที่จะหน่วงเวลาครับ (แต่คนอื่นมองไม่เห็นเพราะมันซ่อนอยู่หลังแผง LED)
    อิอิ ตอนประกอบไม่ได้ถ่ายอ้ะครับ
    ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
  7. Like
    ambre reacted to mnirun in มาคุยกันเรื่องหลอดไฟหน้ากัน   
    อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่า Civic FD 1.8 เรานั้นใช้หลอดไฟหน้าชนิดฮาโลเจน (Halogen) ซึ่งผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ผมได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็บอกไปแนวทางเดียวกัน
    ว่าไม่ค่อยสว่างสักเท่าใดนัก ต่างกับรุ่น 2.0 ที่ใช้ไฟหน้าชนิด HID (High Intensity Discharge) ทำให้หลายๆ ท่านที่ใช้รถ 1.8 มองหาช่องทางเพิ่มประสิทธิภาพของไฟหน้ารถกัน ซึ่งก็มีทางเลือกหลากหลายทาง ตั้งแต่ การอัพเกรดหลอดไฟหน้า, การใช้ HID Conversion Kit ซึ่งมีหลากหลายเกรด แตกต่างกันไปตามราคา, การเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟหน้าของรุ่น 2.0 ทั้งชุด, ไปจนถึง Retrofit แต่ทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากทางหนึ่งก็คือ การอัพเกรดหลอดไฟหน้า เพราะไม่ต้องไปยุ่งกับระบบเดิมของรถยนต์ แค่แปลี่ยนหลอดไฟใหม่เท่านั้นก็จะได้ความสว่างที่มากขึ้นได้ และค่าใช้จ่ายก็ยังไม่แพง ราคาเริ่มตั้งตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงเกือบสองพันบาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่นของหลอดไฟที่เราเลือก
     
    แต่เราทราบกันหรือไม่ว่า ความสว่างและอายุการใช้งานของหลอดไฟอัพเกรดนั้นเป็นอย่างไร ?
     
    ผมได้อ่านข้อมูลของคุณ Daniel Stern จาก Daniel Stern Lighting Consultancy and Supply (http://www.danielsternlighting.com/) ที่ตอบคำถามผู้ที่ได้เขียนอีเมล์ไปถามเขาเกี่ยวกับหลอดไฟ ก็ได้พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้ครับ
     
    Daniel Stern ใช้หลอด H1 เป็นตัวอ้างอิง จากนั้นจึงนำข้อมูลจาก 3 ผู้ผลิตหลอดไฟเจ้าใหญ่ในท้องตลาดมาเปรียบเทียบให้ดู (Osram-Sylvania, Philips-Narva, Tungsram-GE) ตัวเลขจริงอาจแตกต่างกันไปบ้างแต่ก็ไม่มีนัยสำคัญ
     

     

     
    จากข้อมูลข้างต้น เราจะเห็นได้เลยว่า ยิ่งหลอดสว่างมากกว่ามาตรฐานเท่าไหร่ อายุก็ยิ่งสั้นลงเท่านั้น ที่เป็นอย่างนั้นเพราะความสว่างของหลอดไฟส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับไส้หลอด (filament) ถ้าเราเปลี่ยนไส้หลอดเพื่อยืดอายุหลอดให้ยาวนานขึ้น โฟกัสของหลอดไฟก็จะลดลง ทำให้ระยะทางในการส่องสว่างลดลงนั่นเอง แสงที่ได้ก็จะมีสีขาวน้อยลงและมีสีน้ำตาลมากขึ้น
     
    ในทางกลับกัน ถ้าเราเปลี่ยนไส้หลอดให้สว่างมากขึ้น "Plus" (+30, +50, +80, +90) อายุของหลอดก็จะสั้นลง แต่เราก็จะได้ระยะโฟกัสที่ดีขึ้น ระยะทางในการส่องสว่างก็จะมากขึ้นด้วย แสงที่ได้ก็จะออกขาวมากขึ้นและมีสีน้ำตาลน้อยลง
     
    Daniel Stern เองบอกว่าในร้านของเขานั้น สต็อกหลอดไฟ +50 แทนที่จะเป็น +80/+90 ก็เพราะว่าประสิทธิภาพที่ได้เมื่อเทียบกับอายุที่สั้นลงของหลอด +50 นั้น คุ้มค่ากว่า +80/+90 ที่เราได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นจาก +50
     
    ผมเองนำข้อมูลมาเสนอ ก็ไม่ได้จะมาบอกว่าหลอดแบบไหนดีที่สุด เพราะวัตถุประสงค์และความต้องการของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน เช่น เพื่อนผมที่เป็นเซลล์ต้องเดินทางต่างจังหวัดตอนกลางคืนค่อยข้างเยอะ บางช่วงในการเดินทางก็ไม่มีแสงไฟจากทางหลวงเลย แน่นอนว่าความสว่างย่อมมาเป็นประเด็นแรกในการตัดสินใจ แต่กลับกันกับผมที่ขับรถในตอนกลางวันเป็นหลักและขับในเส้นทางที่มีแสงไฟจากทางหลวงเกือบตลอดเส้นทาง จึงไม่ได้ต้องการหลอดไฟที่สว่างมากอย่างที่เพื่อนผมที่เป็นเซลล์ต้องการ
     
    หวังว่าบทความสั้น ๆ นี้จะช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจว่าอายุของหลอด "Plus" นั้น น้อยกว่าหลอดมาตรฐานเสมอ ยิ่งสว่างมากอายุยิ่งสั้นลง และสิ่งสำคัญสำหรับท่านที่เปลี่ยนหลอด "Plus" ท่านควรเปลี่ยนหลอดไฟด้วยตัวเองเป็นและพกหลอดไฟมาตรฐานที่มากับรถติดเอาไว้ในรถเสมอ เพราะหากหลอด "Plus" ขาดลงเมื่อใด ท่านก็จะมีหลอดสำรองพร้อมที่จะใช้งานได้ทันทีครับ
  8. Like
    ambre got a reaction from +KoRn Stock Photo+ in นำรถเข้า 0 เช็คระยะ พวกช่างเติมน้ำมันเครื่องเกินขีด Max ไปสัก 1 ซม.ครับ   
    เอาฟ๊อกกี้ต่อด้วยสายยางตู้ปลาสิครับง่ายดี
    ดูดออกแค่ไหนก็บีบฟ๊อกกี้เอา ฉีดใส่ลงในขวดฟ๊อกกี้เลยครับ
    ถ้าเป็นขวดแบบวัดปริมาตรได้ยิ่งดี จะได้รู้ว่าดูดออกมาแล้วเท่าไหร่
  9. Like
    ambre reacted to ZXON in มาเพิ่มช่องเสียบที่จุดบุหรี่กันเถอะ   
    สืบเนื่องจาก อุปกรณ์ในรถ มีมากขึ้น ช่องเสียบบุหรี่เดิมมีช่องเดียว ไม่พอ จึงจำเป็นต้อง ขยาย เพิ่ม ซึ่งอุปกรณ์ที่เพิ่มมาในรถคือ
    1. ระบบ GPS
    2. ตัวกระจายสัญญาณ GPS ในรถ
    3.กล้อง DVR และ USB สำหรับชาร์จ โทรศัพท์มือถือ
     
    จึงนำวิธีการทำ มาเป็นแนวทางให้สมาชิกลองดูน่ะครับ
    อุปกรณ์ที่ต้องใช้คือ
    1.อุปกรณ์ช่องเสียบเพิ่มที่จุดบุหรี่ และ USB ราคา ตั้งแต่ 250 -500 บาท เลือกที่เกรดดีๆหน่อยครับ ช่อง USB จะได้ใช้ได้

     
    2. หางปลาทองแดง ขั้ว + 1 อัน หางปลาลงกราวน์ 1 อัน ตะกั่ว หัวแร้ง cable tie ไขควง และสายไฟเส้นใหญ่หน่อยเพราะสายเดิมที่ติดมา เส้นเล็ก กลัวว่าจะร้อนทำให้สายละลาย เลยเผื่อไว้หน่อย ในรูปเป็นหางปลา ขั้ว + และ ชั้ว - น่ะครับ

     
    เริ่มต้น แกะ ตัวกล่องเพิ่มช่องเสียบบุหรี่ออกมาเพื่อบัดกรีเอาสายไฟเดิมออกและ ใส่สายไฟใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมเพื่อให้เพียงพอต่อการใช้กระแสไฟ สายเดิมเส้นดูเล็กไปหน่อย ตามรูป ใส่คืนให้ถูกน่ะครับ ขั้ว + ขั้ว -

     
    วงจรตัวชาร์จ USB แบบนี้พอได้ พี่เอ๋ aae3039 ประธานสโมสร คอนเฟิร์มมา ถ้าเปิดไปเจอแบบกิกก๊อก พี่เอ๋บอกอย่าเสี่ยงเดี๋ยวเวลาใช้งานจริงอาจทำให้อุปกรณ์ที่มาใช้เกิดความเสียหายได้

     
    บัดกรีเสร็จแล้วครับ ขั้ว + ขั้ว - ขนาดสายไฟใหญ่กว่าเดิม ครับ เตรียมประกอบ กลับ

     
    และก็มาถึงส่วนของปลายสาย เส้นสีแดง ขั้ว + ใส่กะหางปลาทองแดงครับ สายเส้นสีดำ ลงกราวน์ ครับ

     
    เสร็จแล้วครับ รอ ภาพก่อนนำไปติดตั้งในรถ

     
    ต่อไปเป็นชุดที่จะต้องเอาสายที่จากตัวขยายช่องจุดบุหรี่ มาเสียบครับ บริเวณ ซ็อคเก็ทฟิวส์ ในห้องโดยสารฝั่งคนขับครับ สายขั้วบวก + หางปลาทองแดง เข้าเส้นสีแดงตรงกลางครับ กดตัวล็อกด้านบนแล้วดึงออกมาแกะเทปพันสายออกอย่าให้ขาดน่ะครับเพราะต้องปิดกลับเข้าไปใหม่ให้เหมือนเดิมเป็นการเก็บสายไฟไปในตัว ต่อไปก็เสียบหางปลาทองแดงขั้วบวก + เข้าไปในสายเส้นสีแดงตรงกลางระหว่างสายสีเหลือง และ สีส้ม ให้แน่นๆ เสียบให้มิดเลยน่ะครับ แล้วเอา cable tie รัดไว้กันหลุดอีกทีครับ แล้วเสียบกลับที่เดิม ตามภาพลูกศรชี้น่ะครับ

     
    จากภาพที่เสียบสาย ขั้วบวก + เข้ากับ ชุดจ่ายไฟสายเส้นสีแดงตรงกลางครับ และ พันสายเก็บกลับเหมือนเดิม

     
    ต่อไปเป็นขั้ว - จุดที่ลงกราวน์ครับ หาน็อตสักที่หนึ่งที่ติดกับเหล็กตัวถึงรถ

     
    ทดสอบครับ ไฟจะจ่ายต่อเมื่อบิดกุญแจ ที่ Key ON II อั๊ยยะ ไฟมาแล้ว ช่องที่เสียบบุหรี่เดิมก็ยังใช้ได้

     
    ต่อไปก็หาจุดที่เหมาะสม ล็อกช่องเสียบที่จุดบุหรี่นี้ให้แน่นไม่ไปเกี่ยวกะสายอะไร หรือ แกนพวงมาลัย แล้วก็ลากเอาAdeptorมาเสียบและเก็บสายให้เรียบร้อยก็ใช้งานได้หล่ะครับ อ่อ มัดให้แน่นนะครับ เผื่อขับๆไปจะได้ไม่มีเสียงอะไรก็อกๆแก็กๆ ตามมา

  10. Like
    ambre got a reaction from pipekub in จริงหรือเปล่าครับที่ว่าทำท่อยิงตรงแล้ว แหวนจะไปเร็ว. . .   
    ไม่เกี่ยวครับ แต่เกียร์ไรครับ
    ถ้า A/T ก็อืดครับ แถวดังขนาดเรือหางยาว
  11. Like
    ambre got a reaction from tonnaruto in ขอ Sticker แบบด่วนหน่อยครับ   
    ลอกสติ๊กเกอร์แบบง่ายๆ เอาน้ำส้มสายชูทาบนสติ๊กเกอร์ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วลอกออก
    น้ำส้มสายชูไม่ทำอันตรายสีรถครับ
     
    http://www.youtube.com/watch?v=udmus2vn3iw&feature=player_embedded
  12. Like
    ambre got a reaction from takukina in FD หัวฉีดเสีย   
    ก่อนจะรู้ รถมีอาการเร่งไม่ค่อยขึ้น ห้องเครื่องร้อนผิดปกติ
    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาการเครื่องสั่นมาก รีบเอาเข้าอู่ (อู่นอก)
    ช่างเชคหัวเทียน คอยล์ ปกติหมดแต่สูบที่ 1 ไม่มีการจุดระเบิด
    ผู้ต้องสงสัยรายต่อไปคือหัวฉีด ตอนนี้รอสั่งอะไหล่อยู่ครับ ได้ผลยังไงจะมาอัพเดทครับ
    รถเกินแสน กม. แล้ว ใช้น้ำมันอย่างเดียว ไม่ได้ติดแก็ส
    ช่างบอกว่ารุ่นใหม่ๆ หัวฉีดเสียง่ายมาก แอคคอร์ดปลาวาฬเป็นกันเยอะ เปลี่ยนกันยกชุด
  13. Like
    ambre reacted to aae3039 in ห้องชมรมช้างน้อย DIY   
    ง่ะ ไม่ขึ้น ลองใหม่
    [media=]http://www.youtube.com/watch?v=tFz6Vbz3f3U[/media]
  14. Like
    ambre reacted to tonsena in ห้องชมรมช้างน้อย DIY   
    ไม่ใช่ละ อันนั้นนะของเรานะครับ ไม่ใช่ของเขา เราแค่เอาของเราคืน
  15. Like
    ambre reacted to Tommie in ห้องชมรมช้างน้อย DIY   
    ใช้กันเปลืองดี บอกแล้วว่าอย่าใช้ยาแรง มันเหนื่อย
     
    นักรบออนไลน์แม่มตายไม่เป็น ไม่เชื่อ
     
    ไม่ต้องหลับต้องนอนละ แอดมินน้อยเอ๋ย
  16. Like
    ambre reacted to Tommie in ห้องชมรมช้างน้อย DIY   
    เมื่อคืนนอนหลับสบายใจเป็นคืนแรกหลังจากเครียดกับสถานการณ์มานาน
     
    อยากขอบคุณกลุ่มมช้างน้อย DIY วันอาทิตย์ของเรา
     
    ที่ได้มองลู่ทางไว้กันก่อน จากการสนทนาระหว่างมื้่อเย็นที่คุโรคะ
     
    ความสามารถส่วนตัวของนํ้าพริกที่สร้างบอร์ดได้อย่างรวดเร็ว
     
    เสี่ยเอ๋ที่ไม่ลังเลที่จะจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อลิขสิทธิ์โปรแกรมบอร์ดรุ่นล่าสุด
     
    เกรียนสยามทุกตัวที่พลีชีพเพื่ออุดมการณ์โดยไม่สนใจอนาคต
     
    ช้างน้อยจิตอิสระทุกตัว ที่ร่วมต่อต้านความไม่ถูกต้องของการใช้อํานาจ
     
    ผมขอบคุณจริงๆนะ ผมรักทุกท่านโคตรๆ ได้นอนหลับเต็มตาซะที
×
×
  • Create New...