Jump to content

non-hazardous

CCTH Member
  • Posts

    46
  • Joined

  • Last visited

Reputation Activity

  1. Like
    non-hazardous got a reaction from 96.5%XX in กระทู้ลงชื่อ ในจุดรวมย่อยต่างๆ งานกิจกรรมสร้างพระ CCTH   
    ไปด้วยคับพี่
     
    non-hazardous
    ไปที่จุดรวมพลสุดท้าย ค้าบบบ
    รถ 1 คัน
    คนทั้งหมด 5 คน
     
  2. Like
    non-hazardous reacted to Kt Lamaiman in เสียงอื้ดๆ เวลาหักพวงมาลัย และ เสียงแก๊กเวลาเบรก.... หายไปแล้ว!!   
    หลังจากเคยเข้าศูนย์เช็คแสนโล เมื่อเดือนก่อน
    ตอนนั้นก็แจ้งอาการแล้ว แต่ ศูนย์ ไม่ได้ช่วยอะไร
    นอกจากอ้างว่า ผมไปทำโช็คข้างนอกมา!!!
     
    วันนี้มีเวลา เลยเข้าเช็คที่นี่

     
    เลยได้ทราบถึงปัญหา ว่า
     
    1. ที่คอพวงมาลัย ดังอี๊ดๆ หรือ ครื้ดๆ ประมาณนี้ เวลาหักเลี้ยว สาเหตุก็คือ
    หลังจากที่ผมได้เปลี่ยนโช็ค KYB new SR ไปเมื่อหลายเดือนก่อน (สั่งตอนคลับเก่า)
    ใส่กับร้านนอก ช่างน่าจะอัดน๊อตเบ้าโช็คอับด้วยบล๊อกลม เพราะมันแน่นเกินไป จะเบ้าโช๊คเริ่มแตก
     
    ซึ่งช่างที่ ACT ให้ผมจับที่สปริง แล้วหมุนพวงมาลัย ปรากฎว่า มันส่ันกึ๊ก แบบลูกปืนเบ้าโช็คมันเบียดแน่นเกินไป
     

     
    เลยตกลงเปลี่ยนใหม่ ทั้งเป้ายาง และลูกปืน ของโช็คคู่หน้า ราคา 1,872.- ต่อชุดครับ
    ลองหมุนลอยรอบแล้ว เสียงหายสนิท
     
    2. อาการเสียงดังแก๊ก เวลาเบรกจับ มันเกิดจาก สลักเบรก หลังขวาหลวม
     

     
    เคยแจ้งศูนย์ แต่ไม่แก้ ซี่งมันยังทำให้ผ้าเบรกกินไม่เท่ากัน
    ที่ ACT เปลี่ยนไป 2 ตัวๆ ละ 268.- และ ผ้าเบรค BD ultra premium หลัง อีก 2020.-
     
     
    พรุ่งนี้จะเทสทางไกล ไปอัมพวาสักหน่อย
  3. Like
    non-hazardous reacted to tonsena in เหล็กกันโคลง   
    เกิดอะไรขึ้น..ขณะรถเลี้ยว
     
    เป็นคำถามที่ตอบได้อย่างง่ายๆ เมื่อรถเลี้ยวตัวถังก็ต้องเอียง จะเอียงไปทางไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางการเลี้ยว ถ้ารถเข้า "โค้งขวา" ตัวถังข้างซ้ายจะยุบ ขณะที่ตัวถังข้างขวาจะยก ขณะเดียวกันถ้ารถเข้า "โค้งซ้าย" ตัวถังข้างขวาจะยุบและตัวถังด้านซ้ายจะยก อาการที่เกิดขึ้นทั้ง "ยก" และ "ยุบ" จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับรัศมีความโค้งของถนน มุมเอียงขึ้นรับกับโค้งของถนน องศาการหักเลี้ยวของพวงมาลัย และความเร็วในการเข้าโค้ง ซึ่งการ "เอียง" ของตัวถังจะส่งผลต่อเสถียรภาพในการทรงตัวของรถโดยตรง ถ้ารถเอียงมากเกินความพอดีอาจเลยเถิดไปถึงขั้นพลิกคว่ำได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับรถยนต์ในปัจจุบัน เพราะวิศวกรฝรั่งรุ่นคุณปู่ คุณทวด เค้าคิดเรื่องนี้ "จบ" ไปเป็นร้อยปีแล้ว ยุคนี้คิดเพียงแต่ว่าจะนำทฤษฎีเหล่านี้มาประยุกต์ใช้งานต่ออย่างไรให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด
    เมื่อเรามองถึงอาการ "เอียง" ของรถในโค้งก็เริ่มสงสัยว่าเพื่อนร่วมสถาบันช่วงล่างอย่าง "สปริง" และ"โช้คอัพ" ไม่ได้มีส่วนช่วยในเรื่องนี้เลยหรือ? ถ้าจะบอกว่ามีส่วนก็พอมีอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มากอะไร เพราะไม่ใช่หน้าที่หลักของมัน สปริงมีหน้าที่ดูดซับอาการสั่นสะเทือน ส่วนโช้คอัพรับหน้าที่หน่วง หรือหยุดอาการเต้นของสปริง ในรถยนต์โช้คอัพต้องทำงานควบคู่กับสปริงเสมอ เพราะฉะนั้นลำพังภาระที่สปริงและโช้คอัพแบกรับไว้ก็มากโขอยู่แล้ว วิศวกรจึงได้เพิ่ม "เหล็กกันโคลง" หรือ Stabilizer Bar เข้ามาเป็นส่วนประกอบหลักชิ้นสำคัญในระบบกันสะเทือน รับหน้าที่ต่อต้านการเอียงของรถโดยเฉพาะ
     

     
    ความเป็น "สปริง" ในเหล็ก
     
    คุณสมบัติความเป็นสปริงในเหล็ก (บางประเภท) จะแสดงออกมาให้เราเห็น ก็ขึ้นอยู่กับว่านำเหล็กชนิดนั้นมาขึ้นรูปเป็นอะไร ถ้านำมาขึ้นรูปเป็นเหล็กเส้น แล้วขดเป็นทรงกระบอก ก็จะเป็นคอยล์สปริง หรือสปริงขดที่เรารู้จักมักคุ้นกันเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมี "เหล็กสปริง" รูปแบบอื่นๆ อีก อย่างเช่น ช่วงล่างด้านหน้าของรถกระบะหลายเจ้าในบ้านเรา จะเป็นแบบ "ทอร์ชั่นบาร์" หรือ "เหล็กบิด" ทำงานร่วมกับปีกนกและโช้คอัพ โดยไม่มีสปริงขดให้เห็น
     
    สำหรับรถเก๋งขนาดเล็กของหลายค่าย ช่วงล่างด้านหลังก็นิยมใช้แบบ "ทอร์ชั่นบีม" (หรือ คานบิด) มีเรียกขานให้เราได้ยินกันบ่อยครั้งจนเริ่มคุ้นหู เพราะพื้นฐานการออกแบบช่วงล่างประเภทนี้ไม่ซับซ้อน ใช้เนื้อที่ในการติดตั้งและทำงานน้อย ลงตัวที่สุดแล้วสำหรับรถขนาดเล็ก สปริงรูปแบบเช่นนี้จึงเรียกได้ทั้งเหล็กบิด หรือคานบิด แล้วแต่รูปร่าง แล้วแต่ขนาด หรือบางทีก็แล้วแต่บริษัทรถยนต์จะตั้งชื่อให้ด้วยล่ะ
     

     
    การทำงานของเหล็กกันโคลง
     
    เหล็กกันโคลง ทำหน้าที่ลดการโอนเอียงของตัวถังในขณะเลี้ยว ทำด้วย "เหล็กกล้าสปริง" รูปทรงคล้ายๆ ตัว "U" ติดตั้งตามขวางกับตัวรถ ส่วนกลางยึดติดกับโครงรถ 2 จุด โดยผ่านบู๊ชยาง สำหรับช่วงล่างแบบปีกนก ปลายทั้งสองของเหล็กกันโคลงจะยึดติดกับปีกนกล่างของล้อหน้า (หรือหลัง) แต่ละข้าง
     
    ส่วนช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ปลายของเหล็กกันโคลงแต่ละข้างก็จะมี "ก้านต่อ" เพื่อไปยึดกับกระบอกโช้คอัพของชุดสตรัทด้วยเช่นกัน
     
    ขณะรถเคลื่อนที่ ถ้าตัวถังต่ำลงหรือยกขึ้นในลักษณะที่อยู่ในระดับเดียวกัน อย่างเช่น ล้อหน้า(หรือล้อหลัง) ยกพร้อมๆ กัน หรือยุบตัวพร้อมๆ กัน ยกตัวอย่าง การขับรถข้ามตัวหนอนตามตรอกซอกซอยต่างๆ เหล็กกันโคลงจะไม่ทำงาน เพราะไม่มีการบิดตัวเกิดขึ้น
     
    แต่ในขณะรถเลี้ยว ระดับของตัวถังจะไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งสูง อีกข้างหนึ่งต่ำ ปีกนกซ้าย-ขวา ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ปลายของเหล็กกันโคลงของตัวถังข้างที่ยุบจะ "บิดขึ้น" ขณะที่ปลายเหล็กกันโคลงของตัวถังข้างที่ยกจะ "บิดลง" ความเป็นสปริงของเหล็กกันโคลงจะ "รั้ง" ดึงรถให้คืนสู่ระดับปกติอย่างรวดเร็วหลังจากรถเคลื่อนที่ออกจากโค้ง เพื่อรักษาระดับปกติของตัวถัง และมีส่วนทำให้ช่วงล่างสามารถรับมือกับสภาพถนนที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
     
    ลองคิดดูแล้วกันครับ ขณะรถเข้าโค้งตัวถังฝั่งนอกโค้งยุบตัวลง สปริงจะถูกกด ไม่สามารถทำงานได้เต็ม 100% อีกต่อไป แล้วถ้าช่วงเวลาสั้นๆ นั้นเอง ล้อข้างนั้นดันต้องตกหลุมหรือขึ้นเนินอีก จะอันตรายเพียงใด..!?! ดังนั้นการเอียงของตัวถังที่เหมาะสม ในช่วงเวลาที่เหมาะสม จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับการทรงตัวของรถ
     
    ในการออกแบบระบบกันสะเทือนของรถแต่ละรุ่น ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน ส่วนประกอบต่างๆ อาทิ แขนยึด (Links) สปริงรูปแบบต่างๆ โช้คอัพ รวมถึงเหล็กกันโคลง ต้องเลือกชุดจับคู่ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวตามวัตถุประสงค์ของรถ ขนาดของเหล็กกันโคลงถูกให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าส่วนอื่นๆ ขนาดที่ว่าหมายถึง "ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง" ของท่อนเหล็กกันโคลง ยิ่งใหญ่ ค่า K ยิ่งมาก แข็งมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไป อย่างที่กล่าวข้างต้นว่าเหล็กกันโคลงต้องทำงานร่วมกับส่วนประกอบอื่นๆ ของช่วงล่างด้วย
     
    ความแข็งของเหล็กกันโคลงที่ล้อหน้าและหลังไม่จำเป็นต้องเท่ากัน ขนาดก็ไม่จำเป็นต้องเท่ากัน ส่วนนี้ต้องอยู่กับการเซ็ตของวิศวกรเพื่อให้ฟิลลิ่งของรถที่ถ่ายทอดออกมาสมดุลมากที่สุด รถยนต์คันหนึ่งๆ ในขั้นตอนการทดสอบก่อนเข้าสู่ไลน์การผลิตจริง จึงมีช่วงล่างออกมาลองวิ่งกันอยู่หลายชุดมาก (บนพื้นฐานเดิม เช่น เป็นแบบปีกนกเหมือนกัน ต่างกันที่ค่าความแข็งของสปริง ขนาดเหล็กกันโคลง ความหนืดของโช้คอัพ เป็นต้น) ช่วงล่างชุดที่ใช้งานได้ดีในเยอรมัน อาจไม่ดีพอกับสภาพถนนในบ้านเราก็เป็นได้ (ก็ถนนมันพังเป็นหลุมเป็นบ่อนี่จ๊ะ)
     
    คงรู้จักกับเหล็กกันโคลงกันมากขึ้นแล้วนะครับ ฉบับหน้าเราคงต่อเรื่อง Dynamic Drive ได้ง่ายขึ้น ระบบนี้ทำงานด้วยหลักการพื้นฐาน ไม่ซับซ้อนมากนัก ความซับซ้อนอยู่ที่ส่วนควบคุมซึ่งแน่นเอี้ยดไปด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งหมดก็เพื่อให้ Dynamic Drive สามารถทำงานได้อย่างละเอียด แม่นยำ ฉลาด ลงตัวกับทุกสภาวะการขับขี่มากที่สุด แล้วพบกันเดือนหน้าครับ
    คัดลอกมาจาก : www.grandprixgroup.com
     
    copy จาก www.civicesgroup.com อีกทีครับ
  4. Like
    non-hazardous reacted to Tamy007 in ขอคำแนะนำเรื่องท่อทีคับ   
    ผมใส่ ปลาย prodrager ตัว extreme เวิคเลย ก่อนหน้านั้นใช้ jic ปลายอย่างเดียว แรงต้นหายสิคับ เพราะใส้ท่อมันใหญ่กว่าของเดิมโรงงาน จำไม่ได้ว่ากี่นิ้ว...
     
    จากนั้นก็ไป ร้านคุณหนั่น และได้ ตัว extreme มา พอใจมากแรงต้นกลับมาปกติ แถมเสียงที่ดุดันกว่าเดิม ไม่ดังเว่อหรอกคับ เปลี่ยนแค่ปลาย ( ถ้าคุณไม่เปลี่ยนพักกลางแต่ง หรือ ยิงสด )
     
    จากตอนนั้นผมก็คิดว่าจะเปลี่ยนแค่ปลาย หลังจากผมใช้ท่อคุณ หนั่น จากตอนนั้น ถึงตอนนี้ บอกตรงๆว่า อยากจะเข้าไปจัด พักกลาง tryp 2 ซะเเล้ว....รอว่างก่อน
     
    ถึงร้านจะไกล ( สำหรับผม ) แต่ผมว่า จบ และ คุ้มมากครับ...
  5. Like
    non-hazardous reacted to DRM-Satan in ขอคำแนะนำเรื่องท่อทีคับ   
    ถ้าแค่ปลายก็ Prodrager ครับ
     
    คนขายคุยง่าย ไม่พอใจอะไรบอกได้เลย
  6. Like
    non-hazardous reacted to BaLL182 in ขอคำแนะนำเรื่องท่อทีคับ   
    ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งเส้นครับ


     

    แ่ต่ส่วนใหญ่ พอเข้าโหมดแต่งรถแล้ว มักจะหยุดไม่อยู่ครับ เห็นหลายคนและ บอกพักปลายใบเดียว เอาดูสวยเข้ากับชุดแต่งพอและ


     

    ไปๆมาๆ สุดท้าย เปลี่ยนทั้งเส้นกันทั้งนั้น


     

    เรื่องท่อไม่ค่อยรู้ เอาเป็นว่า ลองเข้าไปดูที่ร้านดีกว่าครับ ส่วนใหญ่ให้ลองใส่ฟังเสียงได้ทั้งนั้น ชอบเสียงแบบไหนก็จัดเลย


  7. Like
    non-hazardous reacted to เป็นต่อ in สอบถาม rigid collar ครับ กับการตั้งศูนย์   
    ยกตัวอย่าง ของผมนะครับ
     
    ผมไป ตั้งศูนย์+ถ่วงล้อ ที่ B-quik
    2 สัปดาห์ต่อมา ก็มาใส่ Rigid Collar ใส่แล้วก็รู้สึกว่าช่วงล่างฟิต+เฟิร์มดีครับ
     
    ส่วน พวงมาลัยก็ปกติดีครับ ไม่เอียง
     
    ปล. รถผมธรรมดาๆ ไม่ได้ติดค้ำใดๆ ครับ
  8. Like
    non-hazardous reacted to t0ey in สอบถาม rigid collar ครับ กับการตั้งศูนย์   
    รถของท่าน Step คล้ายๆ รถผม โดยมี สารพัดค้ำมันเกือบทุกจุด ปีกนก และในรถ
    มีกันโคลงหน้า-หลัง Cusco และ บูชยูริเทน
    มีโช้ค-สปริง Type R แข็งโครต
     
    และผมก็ไปใส่ Rigid collar ซึ่งของเดิมมันก็หนึบจะแย่แล้ว หลังจากใส่ ยังรู้สึกได้อ่ะครับ ว่ามันแน่นเป็นแผ่นเดียวกันมากขึ้นไปอีก
    ผมจึงจะบอกว่าใส่ไปเหอะครับ ฟิวมันรู้สึกเหมือนตอนคุณใส่กันโคลงนะแหละ โครตคุ้มเงิน ไม่ไร้สารระเหมือนพวก สารพัดค้ำ ที่เน้นอุปทาน
     
    รถจะเป็นแผ่นมากขึ้นไปอีก ตอนโค้ง ถามกระด้างไหม สำหรับผมไม่ครับ กันโคลง กระด้างกว่าเยอะ
  9. Like
    non-hazardous reacted to takkapon in สอบถาม rigid collar ครับ กับการตั้งศูนย์   
    rigid collar ใส่แล้ว subframe จะเข้าที่มากขึ้นครับ แล้วตั้งศูนย์ โดยมากเค้าไม่ยุ่งกับ subframe ครับ
    แต่ถ้าจะยุ่งจริงๆเค้าไม่ค่อยถิดน๊อตออกมาหรอกครับ แค่คลายน๊อต แล้วดึงเอา
  10. Like
    non-hazardous reacted to mnirun in เรื่องน็อตล้อครับ   
    การเลือกใช้น๊อตล้อให้เหมาะสมกับล้อ เพื่อความปลอดภัยของเราครับ
     
    หลายๆ ครั้งที่ผมเห็นรถที่ไปเปลี่ยนล้อแต่งมา แต่ยังใช้น๊อตล้อเดิมที่มาจากโรงงานกับล้อแต่ง จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆ ให้เปลี่ยนน๊อตล้อที่เหมาะสมด้วยเพื่อความปลอดภัยของเราครับ
     
    น๊อตล้อกับล้อจะมีหน้าสัมผัสกันอยู่หลายแบบ ซึ่งล้อเดิมที่มาจากโรงงานจะเป็นแบบกลม (radius/ball) 45 องศา แต่ล้อแต่งจะเป็นแบบเฉียง (conical/taper) 60 องศา
     

     
    หากเราเอาน๊อตล้อเดิม (45 องศา) ไปใส่กับล้อแต่ง (60 องศา) หรือกลับกัน น๊อตล้อกับล้อก็จะมีหน้าสัมผัสไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดความเค้น (stress) มากกว่าปกติ อาจทำให้เกิดความเสียหาย หรือน๊อตล้อคลายตัวออกมาได้ครับ
     

     
    ถึงแม้ผมจะใช้ล้อแต่ง แต่ล้ออะไหล่ผมก็ยังเป็นล้อเดิมอยู่ ผมจึงเก็บน๊อตล้อเดิมเอาไว้ในฝากระโปรงหลังเสมอ เพื่อเอาไว้ใช้กับล้อเดิมครับ
     
    ท่านใดยังใช้น๊อตล้อไม่ถูกต้อง รีบไปเปลี่ยนให้ถูกต้องนะครับ
     
    วิดีโอด้านล่าง สาเหตุเกิดจากการเลือกใช้น๊อตล้อที่ไม่ถูกต้องครับ ขันไปคิดว่าแน่นแล้ว เอาลงไปวิ่งก็เป็นอย่างที่เห็นครับ
     
    [media=]
    [/media] 
    ด้วยความห่วงใยครับ
     
    เต้ย
  11. Like
    non-hazardous reacted to Endless in Front CCTH ^_^   
    พึ่งทำเสร็จวันนี้ครับ เป็นแนวทางเผื่อใครใช้ JVC ครับ (ไม่แน่ใจว่ารุ่นไหนทำได้บ้างนะครับ)
    ของผมใช้ JVC KW AV70BT วิธีการคือ
    1. นำ File VDO ใส่ใน Flash Dive (Format เป็น FAT32) ดาว์นโหลดได้ที่นี่ครับ http://www.mediafire...d498/CCTH02.mpg
    2. Capture ภาพจาก VDO File (Setting > Display > Display Design > Capture)
    3. จากนั้นก็เลือก Background เป็นรูปที่ Capture มาได้เลยครับ
     
     

     

  12. Like
    non-hazardous reacted to tonnaruto in โชวรูป CIVIC FD ติดแก๊ส   
    ของผมติด ยี่ห้อ Fobos ครับ มีลูกเล่น 3 ฟังชั่น กดปรับได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนขับ คล้ายๆกับปรับลิ้นปีกผีเสื้อ อ่ะครับ
    เป็นเทคโนโลยีใหม่ ถ้าสนใจลอง ก็ OK ครับ
     
    3 โหมดที่ว่า
    -Nomal (ขับปกติ)
    -Eco (รถติด ประหยัดดี)
    -Racing (ขับทางไกล วิ่งยาวๆ ประหยัด กว่า)
    * หม้อต้ม tomasetto
    * ถังโดนัท 43 L.มัลติวาล์ว
     
    โดยรวม พอใจครับ ติดตั้ง เรียบร้อยดี ซ่อนหัวฉีด กับ หัวเติมแก้ส (ลำบากเด็กปั้ม) แทบมองไม่เห็น
    พอดีใกล้บ้านสุดละครับ มีปัญหาอะไร วิ่งไปสะดวก
    กินแก้ส ในเมือง ตก 9.7-10.2 กม./ลิตร (ล้อขอบ 18) แต่ตอนล้อ 16 ก็ไม่หนีกัน
    กินแก้ส นอกเมือง ตก 14-16 กม./ลิตร (แม็คขอบ 16)ตอนนี้เปลี่ยนล้อ ยังไม่เคยลอง
     
    วิ่งเนียนปกติครับ
     
    เอารูปห้องเครื่องมาให้ดูครับ หาหัวฉีดแก้สเจอมั้ย เอ่ย อิอิ
     

  13. Like
    non-hazardous reacted to Tommie in CCTH ทิศทางจะไปทางไหน??? (คนนอกเขาสงสัย)   
    น่าจะตรงมาที่ผมนะ ผมรับหน้าก่อนแล้วกัน
     
    CCTH เปิดมาเพื่อชาว FD ในเบื้องต้นอย่างที่ทราบๆกัน แต่ ก่อนที่จะตั้งชื่อเราได้มองกันแล้วว่า เราจะไม่ปิดกั้นรุ่น
     
    จึงได้ตั้งชื่อ Civic Club เพื่อเปิดให้เพื่อนๆที่อาจเปลี่ยนไปใช้ Civic รุ่นต่อๆไป ได้ใช้งานเวบบอร์ดต่อไปอย่างสะดวกใจ อย่างที่ จขกท ทำอยู่คับ
     
    ไม่มีอะไรมากกว่านี้ คิดง่ายๆ เพื่อนๆกันทั้งนั้น ใครจะใช้อะไรก้อมาโพสท์เถอะ
     
    ผมได้ยินเรื่องแบบนี้มาเยอะพอสมควร ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เดี๋ยวนี้เค้าทำเวบบอร์ดกันเพื่ออะไรไปแล้ว
     
    ผมคงไม่วิเคราะห์ วิจารณ์อะไรนะคับ เดี๋ยวจะเป็นประเด็นบานปลาย
     
     
    เวบ CCTH ไม่มีนโยบายการปิดกั้น URL ใดๆนะครับ สมาชิกจะเยอะหรือจะน้อย สปอนเซอร์จะมีไม่มี ไม่ได้เป็นสาระในการทำเวบของ CCTHครับ
     
    เราแค่อยากทำเวบบอร์ดให้สวยงาม ใช้งานง่าย ผู้ใช้งานมีความสุข ก้อพอแล้ว แค่นั้น
  14. Like
    non-hazardous reacted to Tommie in อยากเห็นไฟโปรเจคเตอร์สวยๆ เอารูปมาอวดหน่อยนะครับ   
    จริงๆ น่าไปดึงกระทู้นี้มาจากบ้านเก่านะ คุณนน แกเอามาลงไว้เยอะโคตร
     
    อันนี้ของผมคับ ทำมา 3 ปีละ CCFL สั่งนอกราคาจัดหนัก ตั้งแต่เมืองไทยยังไม่นำเข้ามากันเลย ตอนนี้โคตรถูก
     
    เป็นแนวๆละกันคับ ตอนนี้เห็นรุ่นใหม่ๆ ออกมาสวยตั้งแต่ OEM ละ
     
    RX330 Clear lenses
     

     

     

     
    ระดับไม่ได้เบี้ยวนะ กระดาษที่ติดมันเบี้ยวน่ะ
  15. Like
    non-hazardous reacted to ZXON in อยากเห็นไฟโปรเจคเตอร์สวยๆ เอารูปมาอวดหน่อยนะครับ   
    ทำเองครับใช้ตัว ProJector ของ Benz C Class W204 ขนาด 3" Bi-xeon ครับ

    เทพเริ่มมาแล้ว ผมไปหล่ะ


  16. Like
  17. Like
    non-hazardous reacted to tonsena in อยากเห็นไฟโปรเจคเตอร์สวยๆ เอารูปมาอวดหน่อยนะครับ   
    ของผมก็ กระโหลกกะลา แต่คงไม่ต้องถึงครูอังคณานะ
     
     
    สเปคมีอยู่ว่า
     
    Projector เป็นของ Acura TL Bixenon Projector
     
    หลอด Philips D2R ขุดปลอทออก
     
    hid ballast บ้านๆ
     
    shroud gatling gun
     
    เคลียเลนส์ ของ TRS ZKW‑R
     
    ก่อนประกอบ
     

     

     
    ประกอบร้างแล้ว
     

     
     
    Cut Off
     

     
    ไฟต่ำ
     

     
    ไฟสูง
     

  18. Like
    non-hazardous reacted to ZXON in อยากเห็นไฟโปรเจคเตอร์สวยๆ เอารูปมาอวดหน่อยนะครับ   
    อายอ่ะ เดี๋ยวเจอของเทพแต่ละท่านไปผมจุกน่ะ

    คัทออฟครับ

  19. Like
    non-hazardous reacted to cjundee in มีเรื่องมาแบ่งปันเล่าให้ฟังครับ   
    พอดีผมได้ติดชุดล็อคเบรก ล็อคคันเร่ง และตัดสตาร์ทของ D-Plus
     
    ไว้ตั้งแต่ปี 2008 เนื่องจากเว็บเก่ามีการนำข้อมูลมาแบ่งปันในช่วงนั้น
     
    พอดีวันนี้เอารถไปซ่อมเรื่องสตาร์ทแล้วเงียบ ช่างบอกว่าเกิดจากสวิทช์
     
    เบรกเสียต้องเปลี่ยนแต่เนื่องจากติดชุดล็อคดังกล่าว เพราะไม่มีประแจ
     
    สำหรับถอดจึงทำให้ผมต้องนำรถไปถอดออกที่ร้านที่ผมติดตั้ง แล้วจาก
     
    นั้นเมื่อซ่อมเสร็จก็ต้องนำไปติดตั้งอีกครั้ง จีงนำมาบอกครับว่าถ้าติดชุด
     
    ล็อคพวกนี้แล้ว เวลาเข้าศูนย์ฮอนด้าช่างจะถอดออกเองไม่ได้นะครับ ...
     
    (ห้วนไปป่ะ เล่าไม่เก่ง 555+)
  20. Like
    non-hazardous reacted to JazZy in 5 ปีผ่านไป ด้วยความที่ไม่อยากเหมือนใคร และ ไม่อยากให้รถตกรุ่น   
    ขอเกริ่นก่อนนิสสสนึงนะครับ
     
    ช่วง 4 ปีแรก ลูกชายคนนี้ ชื่อ "น้องเมียขับ" เพราะผมออกรถแล้วแต่งงาน จากนั้นให้เมียไปขับ ส่วนตัวข้าเจ้าโหนรถเมล์ 555
    และแล้วเมื่อปลายปี 10 โปรเจคที่ผมคิดเองว่าจะนำไฟหน้า Si Coupe (US) มาใส่ และเอา ไฟท้ายตัว Sedan (US) มาใส่ "เนื่องจากท้ายแบบนี้ง่ายสุด"
    เจ้าไฟหน้าเนี่ย สั่งมาตั้งแต่ปี 09 ครับ ไม่มีโอกาสได้ทำรถครับ ส่วนไฟท้าย ผมทำตั้งแต่ปี 08 ครับ
     
    เมื่อช่วงนี้ เมื่อปีที่แล้ว โปรเจคผมเสร็จสิ้น รถจอดอู่ตั้งแต่เดือน ต.ค 10 กว่าจะหาล้อ และปั้นแบบใหม่ 3 รอบ + ทำสี ร่วม 8 เดือน
    ณ วันนี้ จาก "น้องเมียขับ" จึงกลายเป็น "น้องหนึ่งเดียว" เพราะผมมั่นใจว่า มีคันเดียวในโลก แม้ไปขับใน อเมริกา ก็เชื่อว่า ชาวมะกันมีเหลียวหลังอ่ะ
     
     
    เรามาเริ่มกันตั้งแต่ขั้นตอนการทำครับ หากเปรียบกับคน มัน "ไม่ต่างกับคุณบินไปเกาหลีให้หมอ ทุบหน้า สักเท่าไหร่ครับ"
     
    รูปที่ 1 - ให้สังเกตุรอยต่อแก้มนะครับ การจะเอาไฟหน้า Si มาใส่ "โดยไม่สั่งแก้มและฝาหน้า" ต้องต่อเนื้อเหล็ก และดัดแก้มเข้ามาอีก เพื่อให้รับกับไฟ
     
     

     
    รูปที่ 2 - หน้าต่อลงมาเยอะอยู่นะครับ จะเห็นได้ว่ามุมล่างของกันชนหน้า เว้าเข้า เนื่องจากผมและเฮียปอเจ้าของอู่ UDS ต้องการให้เห็นล้อทะลักออกมาครับ

     
    รูปที่ 3 - จุดบอดของรถผมเลย ใจจริงตั้งใจจะทำให้คิ้วขอบประตูหายไปเลยครับ แต่ไม่เป็นไร หล่อไฟเบอร์ปิด มันก็แปลกไปอีกแบบ รับได้ครับ
     

     
    รูปที่ 4 - ต่อจากรูที่ 3 ครับ
     

     
    รูปที่ 5 - เสร็จแล้วครับ โชว์ตัวก่อนรอทำสีครับ (อู่ไฟเบอร์ไม่รับทำสี ต้องแปลงหน้าที่อู่สี และกลับมาอู่ไฟเบอร์ และกลับไปอู่สีอีกครั้ง)
     

     
    รูปที่ 6 - สเกิร์ต หลังครั้งแรกครับ นน.เยอะครับ ปั้นถึง 2 รอบ สุดท้ายโยนทิ้ง "สั่งปั้นท้ายใหม่ยกชิ้นครับ" (คราวนี้เบาหวิวเลยยย)
    ปล. ตอนทำท้าย ไม่ได้ถ่ายไว้ครับ แต่ขอบอก ท้ายผม ถ้าดูดีๆ ไม่เหมือนใคร เพราะแปลงเองเช่นกัน ไม่ได้สั่งเข้ามาครับ
     

     
    รูปที่ 7 - อันเชิญล้อ ชุดที่ 3 W-Work T1S ขอบ 19" เพราะ Spec. เป๊ะกว่าล้อเก่าที่มันหุบและไม่โหดพอ Spec. หน้า,หลัง 9" ออฟ +38
    ปล. ล้อเดิม F2S 19" เหมือนกัน +42 หน้า,หลัง กว้าง 8"
     

     
    รูปที่ 8 - เนื่องด้วย T1S มันติ๋มไป และผมเองก็ไม่ชอบแนว VIP จ๋านัก ชอบแนว Hybid เพราะผมชัดเจน
    จึงเป็นที่มาของ ล้อมหากาพย์ W-Work SC2 Black Limited เป็นล้อที่หลุดมาไทยโดยบังเอิญ และบังเอิญเป็นล้อที่ผมชอบมากที่สุด
    ชุดนี้บอกตามตรง Advance มาเลยครับ เพราะถ้าพลาดไป ไม่รู้จะหามันได้อีกไหม
    (เหมือน อั้มพัชราภา มาขอคุณดินเนอร์อ่ะ มีโอกาสครั้งเดียว จะไปไหม)
    Spec. ความโหด 20" Step Rim หน้า 9.5" +33 (A Disc หรือ หน้าตื้น ไว้ใส่ Big Brake) หลัง 10.5" +32 (O Disc ลึกอีกหน่อย)
     

     
    รูปที่ 9 - จอดอยู่อู่สี ท่ามกลางน้ำขัง เอาล้อใส่เลยกลัวหาย ปรากฎว่าติด เพราะรถเดิมเตี้ยมาก ผลคือ "ปาดซุ้มแล้วทำโป่งครับ"
     

     
    รูปที่ 10 - พวงมาลัย ตัวนอก แม้จะดูย้อนยุค เพราะมีแค่ 2 ก้าน แต่เพื่อความเป็น Limited แบบ US ผมยอมแลกครับ
     

     
    รูปที่ 11 - เสร็จแล้วครับ เอาไฟหน้า ไปดูก่อนครับ
     

     

     
    รูปที่ 12 - เคลือบตัวซะหน่อย ด้วย Chemical Guy All in one, EZ Creme graze, Black Light, 5050 (4 ตัวอยู่ครับ ไม่ต้องไปขัดสีเพิ่ม)
     

     
    รูปที่ 13 - อยากประหยัด แต่อยากใหญ่ ต้อง Aristo ครับ จับคู่กับจาน 2 ชิ้น ขนาด 355 มม.ครับ
     

     
    รูปที่ 14 - เดิมทีมันคือ E-Spec ของล้อหน้า ขนาด 330 มม. แต่ผมจับโมฯ ย้ายมาหลัง แล้วทำให้เป็นจาน 2 ชิ้น จับคู่กับปั๊มของ R32 ครับ
     

     
    รูปที่ 15 - มุมทะลัก จากเบื้องหน้าครับ (บางส่วนมีหายไปครับ 555 ผ่านศึกมาเยอะครับ)
     

     
    รูปที่ 16 - บอกตามตรงครับ ว่าใจไม่ถึง ไม่กล้าดึงยางมาก เพราะมองว่าขอบ 20" แต่ตอนนี้กำลังจะเตรียมดึงแล้วครับ
     

     
    รูปที่ 17 - ด้วยความชอบส่วนตัว จึงข้ามค่ายไปฝั่ง BME,AUDI ครับ จัดไปครับ eisenmann 555
     

     
    รูปที่ 18 - เบื้องหลังกับความมืด
     

     
    รูปที่ 19 - มือใหม่หัดถ่ายครับ ทำได้แค่นี้ครับ ขออภัย
     

     
    รูปที่ 20 - สุดท้ายแล้วครับ น้องหนึ่งเดียว ยามวิกาลครับ
     

     
     
    ขอ ขอบคุณทุกท่าน ที่ทนเข้ามาชมจนจบครับ ติชมกันได้เต็มที่ครับ จะได้นำไปปรับปรุงครับ
  21. Like
    non-hazardous reacted to tonsena in รถที่แก็สมาจะเจอปัญหาท้ายห้อย แต่ของผมทำไมหน้ามันเชิดด้วยไม่รู้   
    ถูกครับ ปริงเดิมมันย้วยครับ เปลี่ยนสปริงแข็งขึ้นจะทำให้รถทรงตัวดีขึ้นครับ
     
    แต่
     
    ถ้าสปริงแข็งขึ้นแล้วโช๊คเดิม จับสปริงไม่อยู่ จะทำให้ยางเสียเร็วครับเป็นบั้งๆ ต้องหาโช๊คที่หนึบกว่าของเดิมมาจับสปริงให้อยู่ ทำไปทำมา บาน
  22. Like
    non-hazardous reacted to fd_crazy in ช่วยแนะนำโช็คอัพหน่อยครับ   
    เรื่องโช๊คนี่..ขึ้นอยู่กับความรู้สึกส่วนตัวจริงๆครับ..
    ไม่มีอะไรดีที่สุด...มีแต่เหมาะกับเราที่สุดเท่านั้นครับ...
  23. Like
    non-hazardous reacted to kosin_012 in มีเรื่องจะเสนอ Staff เรื่องการจัดทำสติกเกอร์คลับ ด้วยครับ   
    สงสัยจะต้องอยู่ที่จิตสำนึกอย่างเดียวแล้วมั้งครับ
  24. Like
    non-hazardous reacted to modernm69 in นำเสนอ เปลี่ยนเครื่อง R18A ==> K20A4 i-Vtec DOHC 155HP(honda stream)   
    เพิ่มเติม
     
    K20Z4 ของ Stream ผมได้มา 30,000 บาท (เครื่อง+กล่อง+เกียร์+เพลา) รวมค่าส่งจากวังน้อย มาที่อู่ ด้วยครับ
     
    แต่ส่วนใหญ่เช็คทั่วๆไป ราคา 35,000-45,000 บาท
  25. Like
    non-hazardous reacted to Tuimmr in นำเสนอ เปลี่ยนเครื่อง R18A ==> K20A4 i-Vtec DOHC 155HP(honda stream)   
    เมื่อนานมาแล้ว กระผมเองก็เคยนำ k24 a3 มาสลับใส่ในรถผมเอง ตอนแรกรถผมเป้น 2.0 แค่ยกท่อนตรงใส่ รื้อมาทำใส้เพราะเครื่องที่ได้มามีปัญหา ชนเกียรออโต้เดิม พ่วงกล่องใบนึง
     
    ขับสนุกครับ ถึงตอนนี้รถจะได้ขายไปแล้วร่วม2ปี แต่ทุกวันนี้ รถก็ยังอยู่กะเพื่อนผม วิ่งดี กินน้ำมันเท่า2.0เดิม toque เยอะ ที่สำคัญราคาประหยัด
×
×
  • Create New...